จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 16
[ ตัวละครของท่านกลายเป็นเลเวล 1 ]
[ บทลงโทษจากเลเวลที่ติดลบถูกยกเลิก ค่าสถานะทั้งหมดของท่านจะกลับคืนเป็นปรกติอีกครั้ง ]
[ ค่าสถานะพื้นฐานของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าถูกเปิดใช้งาน ]
...
ข้อความเหล่านี้ได้ทำให้หัวใจของเราพองโต...
ตึกตัก...ตึกตัก!
เสียงหัวใจที่เต้นระรัวดังขึ้นอย่างก้องกังวาล หัวใจของเรากำลังสั่นระริกไม่เป็นจังหวะ เราตื่นเต้นดีใจจนต้องรีบเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู
...
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 1 ( ค่าประสบการณ์: 45/100 )
...
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
พลังชีวิต : 280/280, มานา 75/75
พละกำลัง: 20 + 5, ความอดทน: 18, ความว่องไว: 12
สติปัญญา: 25, ความชำนาญ: 50, ความพากเพียร: 16
ความเยือกเย็น: 10, ความทรหด: 11, ความหยิ่งทระนง: 10
วิสัยทัศน์: 10
ค่าสถานะคงเหลือ : 40 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 3,035/820
* น้ำหนักสัมภาระเกินกว่า 200% ส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 100%
ร่างกายของท่านหนักอึ้งจนไม่สามารถออกแรงได้อย่างเต็มที่
โอกาสที่จะตกอยู่ในสถานะ 'อ่อนแอ' เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
...
"เราฝันไปรึเปล่าเนี่ย?"
เราเริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริง ถ้าหากที่นี่คือโลกภายนอก เราคงทดสอบโดยการใช้นิ้วหยิกแก้มไปแล้ว
เราสงบสติลงได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบล็อคเอ้าท์ออกจากเกม
"ล็อคเอ้าท์"
...
ร่างของเราค่อยๆ ลุกขึ้นจากแคปซูลในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไม่รีบร้อน เมื่อตั้งสติได้ เราจึงกวาดสายตามองไปรอบห้องนอนด้วยความใจเย็น
"หรือว่าเราจะหลับจนฝันไปโดยไม่รู้ตัว?"
เป็นไปได้มากทีเดียว...เพราะเราไม่ได้ตั้งให้แคปซูลสลับโหมดการนอนเอาไว้ เรารึบเดินตรงไปที่ห้องน้ำพร้อมจัดการตัวเองจนเสร็จสรรพ น้ำก็อกเย็นฉ่ำถูกเปิดราดหัวจนสาแก่ใจ หลังจากนั้นเราก็พาตัวเองกลับมาที่แคปซูลอีกครั้ง
"ล็อคอิน"
...
ภาพตรงหน้าเหมือนกับที่ฝันเมื่อครู่ไม่มีผิด...เรากำลังยืนอยู่ที่ใจกลางโรงตีเหล็กของสมิท
"ไม่ใช่ความฝันหรอกหรอ? ไม่ได้...คนอย่างเราห้ามคาดหวังมากไปเด็ดขาด"
คนที่โดนเทพธิดาแห่งโชคสาปแช่งอย่างเรา หากตั้งความหวังอะไรไปล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ออกมาคงได้ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้วแน่นอน
เราตัดสินใจเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาอีกครั้งโดยพยายามไม่หวังอะไรมาก
...แต่สิ่งที่เห็น...ส่งผลให้ร่างกายของเรารู้สึกเย็นเฉียบในพริบตา
"ขะ...ของจริง"
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากในฝันเลยซักนิด ค่าสถานะและข้อความยังคงเหมือนเดิมทุกประการ หัวใจของเราเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง
"นี่มัน..."
ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วไปที่สร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ ค่าสถานะพื้นฐานจะถูกกำหนดไว้ตายตัวดังนี้ : พละกำลัง 6 , ความอดทน 7 , ความว่องไว 4 , สติปัญญา 5 โดยรวมแล้วจะมีค่าสถานะทั้งหมดเพียงแค่ 22 แต้มเท่านั้น
แต่คลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าของเรากลับมีค่าสถานะรวมที่สูงถึง 165 แต้ม นั่นยังไม่นับรวมไปถึงค่าความพากเพียรที่เราหามาเองอีก 16 แต้ม และ 1 แต้มที่เป็นโบนัสแถมให้กับค่าความทรหด หากนำไปรวมด้วย ค่าสถานะรวมของเราจะสูงถึง 182 แต้มเลยทีเดียว
ถ้าคำนวนออกมาอย่างคร่าวๆ...ค่าสถานะรวมของเราจะเทียบเท่ากับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 15 การที่มีค่าสถานะรวมถึง 182 แต้มในเลเวล 1 ได้ส่งผลให้เราอยู่เหนือกว่าผู้เล่นใหม่หลายเท่าตัว นี่ถือเป็นความสุดยอดของคลาสเลเจนดารี่อีกประการหนึ่ง
แถมยัง...
'นอกเหนือจากค่าสถานะที่เรามีติดตัวแล้ว...'
เราค่อยๆ พิจารณาดูค่าสถานะคงเหลือจำนวน 40 แต้มอย่างใจเย็น
'ทำไมเราถึงมีค่าสถานะคงเหลือได้?'
ค่าสถานะคงเหลือจะเพิ่มขึ้นทุก 10 แต้มต่อการเพิ่มเลเวล 1 ครั้ง ดังนั้น...ตัวเราทีมีเลเวล 1 ก็ควรจะมีค่าสถานะคงเหลือเป็น 0...แล้วทำไมถึงมี 40 แต้มได้นะ?
เราพยายามคิดหาเหตุผลอยู่หลายอย่าง แต่สิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดในหัวคงหนีไม่พ้น...
'หรือว่าเลเวลที่เพิ่มขึ้นในตอนติดลบ...จะเพิ่มค่าสถานะคงเหลือมาด้วยงั้นหรอ?'
ก่อนหน้านี้เลเวลของเราคือ -3 หมายความว่าเลเวลของเราจะต้องเพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 4 ครั้ง ถึงได้มีเลเวล 1 อย่างในปัจจุบัน
ถ้าคิดแบบนี้ก็ลงตัว...เลเวลเพิ่ม 4 ครั้ง...40 แต้มค่าสถานะคงเหลือ...
เราลองขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด แต่ไม่ว่าจะขยี้ไปซักกี่ครั้ง ค่าสถานะคงเหลือ 40 แต้มนี้ก็ยังไม่หายไป เรารู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นขึ้นมาทันที
'ความยากลำบากในตอนที่เลเวลติดลบ...ดูเหมือนจะไม่ได้สูญเปล่าซะทีเดียวนะ'
ทุกความดิ้นรนของเราส่งผลมาจนถึงทุกวันนี้ บางที...เราอาจจะไม่ได้ดวงกุดอย่างที่คิดก็เป็นได้
"คิกคิก...คุคุคุ!"
จะมีคำศัพท์ใดบ้างในโลกที่สามารถอธิบายความดีใจของเราออกมาเป็นคำพูดได้?
เราทำได้เพียงแค่หัวเราะออกมาอย่างสะใจเท่านั้น...
"วะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!"
เสียงหัวเราะอันกึกก้องได้สะท้อนถึงความยินดีปรีดาภายในตัวเรา ผู้คนที่อยู่ภายในโรงตีเหล็กทยอยเดินออกไปหลังจากที่เราเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนปวดท้อง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถหยุดหัวเราะได้เลยจริงๆ...จนกระทั่ง...
"ฮะฮะฮ่า...อั่ก!..."
สมิทกำลังยืนมองเราหัวเราะอย่างสุดเสียง เขายกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับพูดว่า "ยอดเยี่ยมมาก! นี่คือเสียงหัวเราะอันแสนอิ่มเอมใจของผู้ยิ่งใหญ่! ทั้งที่ท่านเป็นถึงตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเมื่อวานกระผมถึงกล้าเสียมารยาทต่อท่านได้ ได้โปรดอภัยให้กับความโง่เขลาของกระผมด้วย"
ขนาดเราหัวเราะราวกับคนบ้าเช่นนี้...สมิทกลับยังมองเราเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้อีกงั้นหรอ? ดูเหมือนค่าความสัมพันธ์ของเรากับสมิทจะเพิ่มถึงจุดสูงสุดแล้วสินะ ไม่สิ...ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ค่าความสัมพันธ์ของเรากับสมิทเพิ่มขึ้นจากภารกิจสองครั้งก็จริง รวมไปถึงค่าชื่อเสียงในหมู่บ้านไบรันที่เพิ่มขึ้น 200 หน่วยก็อาจมีผลด้วย แต่นั่นก็ยังอธิบายท่าทีที่แสนประจบประแจงเกินควรของสมิทในตอนนี้ไม่ได้
'ถึงสมญานามของเราจะทำให้เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้นก็เถอะ...แต่มีบางอย่างไม่ปรกติ...'
เราหันไปจ้องหน้าสมิทอย่างสงสัย ทว่า...ทันทีที่สมิทสบตากับเรา เขาก็รีบเบือนสายตาหนีไปทางอื่นทันที ราวกับสมิทเป็นเพียงลูกศิษย์คนหนึ่งที่รู้สึกหวาดกลัวเมื่อต้องสบตากับอาจารย์ของตน
'หรือว่านี่จะเป็นความสามารถของค่าสถานะ 'ความหยิ่งทระนง' กันนะ? แม้ตอนนี้จะมีเพียงแค่ 10 แต้ม...แต่มันกลับส่งผลชัดเจนขนาดนี้เชียวหรือ?'
เป็นไปได้...เพราะระดับช่างตีเหล็กของสมิทก็ไม่ได้สูงส่งอะไร
'มันอาจจะยังไม่มีผลกับเอ็นพีซีระดับสูงก็จริง แต่ถ้าเป็นเอ็นพีซีทั่วไป...ค่าความหยิ่งทระนงจะต้องส่งผลอย่างมากแน่ ถึงแต้มในตอนนี้จะยังไม่เยอะก็เถอะ'
เราไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือขนาดนี้ ความตื่นเต้นดีใจของเรายิ่งเพิ่มมากขึ้นไปจากเดิมอีกหลายเท่า
'...ต้องใจเย็นไว้...ตั้งสติ...อย่ารีบร้อน...ค่อยๆ คิดว่าจะนำค่าสถานะทั้ง 40 แต้มนี้ไปใช้กับอะไร'
เราเริ่มกังวลเล็กน้อย เพราะหลายวันที่ผ่านมานี้ เราหุนหันพลันแล่นทำสิ่งที่โง่เขลาลงไปมากมายนับไม่ถ้วน ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะดีขึ้น เราก็ไม่ควรรีบร้อนจนทำให้มันพังทลายลงไปอีก
ราวกับว่า...อนาคตอันสดใสที่รออยู่อาจพังลงได้ทุกเมื่อ ถ้าหากเราตัดสินใจทำอะไรผิดพลาดไปเพียงครั้งเดียว
'ค่าสถานะของเราตอนนี้มีมากพอแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรรีบร้อนใช้มันโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา'
เราคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่สำคัญกับตัวเราในตอนนี้มากที่สุด...
"เงิน..."
ใช่แล้ว เราต้องการเงินที่มากพอเพื่อเดินโดยสารรถม้าออกไปจากหมู่บ้านไบรันแห่งนี้
"ไม่ใช่ว่าข้าเคยถามไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วหรอ? ว่าไอเท็มชิ้นไหนที่สามารถผลิตและขายทำกำไรได้สูงที่สุด?"
เราตะโกนออกไปเสียงดังจนทำให้สมิทมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย...
สมิทค่อยๆ ชี้นิ้วไปยังแผงลูกศรที่วางเรียงรายกันอยู่
"สิ่งนี้ขอรับ"
ลูกธนูงั้นหรอ?
แตกต่างจากไอเท็มชนิดอื่น ลูกธนูจัดเป็นไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นราคาของมันจึงถูกแสนถูก โดยไม่ว่าจะทำกำไรได้มากแค่ไหน แต่ด้วยราคาขายที่ต่ำมาก ย่อมหมายถึงการที่ต้องผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อทำเงิน
สีหน้าของเราแย่ลงเล็กน้อย
ทันทีที่สมิทเห็นว่าท่าทีของเราเปลี่ยนไป เขาก็อธิบายต่อทันที
"นี่ไม่ใช่ลูกธนูธรรมดาทั่วไป หัวลูกศรของมันทำมาจากการหลอมรวมระหว่าง 'แร่ยัฟฟ่า' กับเหล็กกล้า ทำให้มันมีคุณสมบัติในการเจาะทะลวงผ่านพลังป้องกันของศัตรู"
ทะลวงการป้องกันงั้นหรอ?
สำหรับนักธนูที่เข้าร่วมปาร์ตี้ล่าบอสผู้พิทักษ์แห่งพงไพรแล้ว หัวลูกศรชนิดนี้นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลยทีเดียว ไม่สิ ต่อให้ไม่ต้องไปล่าผู้พิทักษ์แห่งพงไพร แต่เหล่ามอนสเตอร์โกเล็มที่อยู่รอบนอกก็ล้วนมีพลังป้องกันที่สูงทั้งสิ้น ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็จำเป็นจะต้องใช้ลูกธนูชนิดนี้ในการล่า
"แร่ยัฟฟ่า...?"
เมื่อสมิทเห็นว่าเราเริ่มสนใจ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องเก็บของพร้อมกับหยิบแร่สีม่วงออกมาก้อนหนึ่ง
"แร่ยัฟฟ่าคือสินแร่ที่มีส่วนประกอบของออกซิเจนต่ำ ทำให้นำไปถลุงได้ง่าย เป็นที่รู้กันว่ายอดเยี่ยมกว่าเหล็กทั่วไปหลายเท่า จุดอ่อนเพียงข้อเดียวคือค่าความคงทนที่ต่ำ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการนำไปสร้างเป็นอาวุธหรือชุดเกราะ ทว่า...ถ้าหากนำไปหลอมรวมกับเหล็กกล้าล่ะก็ ความคงทนและพลังในการเจาะทะลุของมันจะสูงขึ้นหลายเท่าตัว มีกองทหารม้าจำนวนไม่น้อยที่ใช้ปลายหอกซึ่งหลอมรวมมาจากแร่ยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า"
"งั้นก็ต้นทุนสูงน่ะสิ?"
"แร่ยัฟฟ่านั้นมีมูลค่า 2 เหรียญทองต่อ 1 กิโลกรัม ถึงจะเป็นเหล็กชั้นเลิศก็ตาม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายัฟฟ่าก็เป็นได้เพียงแค่หินราคาถูกเท่านั้น"
"ถ้าต้นทุนสูงขนาดนี้แล้วทำไมถึงสามารถผลิตหัวลูกศรออกมาได้หลายชิ้นล่ะ?"
"ไม่เลยขอรับ ต้นทุนของมันไม่สูงมาก หัวลูกศรหนึ่งอันใช้แร่ยัฟฟ่าเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ต้นทุนในการผลิตลูกธนูยัฟฟ่า 1 ดอกอยู่ที่ 3 เหรียญเงิน ส่วนราคาขายของมันจะอยู่ที่ 6 เหรียญเงิน ทำให้ได้กำไรมากเป็นเท่าตัว อีกทั้งหมู่บ้านไบรันแห่งนี้นับว่ามีความต้องการในลูกธนูยัฟฟ่าที่สูงมาก..."
"ท่านคิดว่ายังไงบ้าง? อยากจะเรียนวิธีการผลิตของมันรึไม่ขอรับ?"
ถ้าเป็นเมื่อวานเราคงพยักหน้าตอบตกลงในทันที แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่สมิทเสนอไอเท็มที่น่าสนใจมาให้ เราจึงตัดสินใจที่จะลองหาสูตรผลิตด้วยตัวเราเองก่อน
"ขอดูลูกธนูนั่นหน่อย"
ทันทีที่สมิทยืนลูกธนูมา เรารีบคว้ามันไว้พร้อมกับใช้ทักษะตรวจสอบทันที
...
[ ลูกธนูยัฟฟ่า ]
ระดับความหายาก : ทั่วไป
พลังโจมตี : 20~26
หัวลูกศรถูกสร้างขึ้นด้วยการหลอมแร่ยัฟฟ่ากับเหล็กกล้าเข้าด้วยกัน
ด้วยลักษณะพิเศษของแร่ยัฟฟ่า ทำให้ลูกธนูชนิดนี้มีคุณสมบัติในการเจาะทะลวงที่สูงมากจนมองข้ามพลังป้องกันบางส่วนของศัตรูไป
น้ำหนัก : 0.1 หน่วย
[ ไม่พบคุณสมบัติพิเศษของไอเท็ม ]
[ ช่างตีเหล็กในตำนานเช่นท่านสามารถรับรู้ถึงวัสดุที่ใช้สร้าง 'ลูกธนูยัฟฟ่า' ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งท่านยังรู้ไปถึงวิธีการผลิตและเจตนารมณ์ของผู้สร้างอีกด้วย ]
[ ความเข้าใจในไอเท็ม 'ลูกธนูยัฟฟ่า' เพิ่มขึ้นถึง 89% ท่านสามารถใช้ 'ลูกธนูยัฟฟ่า' ได้อย่างชำนาญมากขึ้น ]
...
"ชิ..."
น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเลื่อนระดับความเข้าใจให้ถึงได้ 100% ได้ด้วยการตรวจสอบเพียงลำพัง ในตอนนี้เราจึงยังไม่ได้สูตรการผลิตของมันมาครอบครอง
'ลูกธนูชนิดนี้...'
สมิทมองมายังเราที่กำลังยืนจ้องลูกธนูยัฟฟ่าในมือ
"ท่านต้องการจะเรียนวิธีผลิตลูกธนูยัฟฟ่ารึไม่ขอรับ?"
'หากเราใช้ทักษะ 'แยกส่วน' ล่ะก็ ค่าความเข้าใจอีก 11% ที่เหลือคงไม่ใช่เรื่องยากก็จริง...แต่มันคุ้มกับเงิน 6 เหรียญเงินที่ต้องเสียไปงั้นหรอ?'
ถ้าเราต้องการจะแยกส่วนมัน ก็มีแต่ต้องจ่ายค่าลูกธนูให้กับสมิทเท่านั้น แต่ 6 เหรียญเงินมันออกจะแพงเกินไปซักหน่อยสำหรับตัวเราในตอนนี้
'แย่หน่อยนะที่เราไม่สามารถเรียนรู้สูตรผลิตได้ด้วยตัวเอง'
เราตัดสินใจพยักหน้าให้กับสมิทเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า "ข้าจะเรียนมัน"
สมิทตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก "กระผมคิดเอาไว้อยู่แล้วเชียว! ถ้าอย่างนั้น...เรามาเริ่มจากเรียนรู้วิธีการถลุงแร่ก่อนดีไหม?"
สมิทเริ่มอธิบายตั้งแต่โครงสร้างของเตาหลอมที่ช่างตีเหล็กในซาทิสฟายนิยมใช้กัน เขาอธิบายทุกอย่างโดยละเอียดและใจเย็นไปทีละขั้นตอน หลักการและเทคนิคที่สำคัญค่อยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาจนหมด
นานๆ ครั้งจะมีคำศัพท์เฉพาะของช่างตีเหล็กรวมไปถึงสารเคมีที่เข้าใจได้ยากโผล่ออกมาบ้าง แต่นั่นก็ไม่ทำให้เราสับสนมากนัก เพราะโลกแห่งนี้เป็นเพียงแค่เกมเท่านั้น ถ้าหากมันยากเกินไป ผู้เล่นคงไม่สามารถซึมซับความสนุกเข้าไปได้มากเท่าที่ควร คลาสช่างตีเหล็กในซาทิสฟายจึงมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนให้ปวดหัว
แล้วอีกอย่าง ตัวเราก็เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ในระหว่างที่ถูกห้ามเข้าเกมนานถึง 12 ชั่วโมง เราได้ศึกษาคลาสของช่างตีเหล็กมาอย่างละเอียด คำอธิบายจากสมิทก็ไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่เราอ่านมานัก เราจึงสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในเวลาอันสั้น
เราเพิ่งจะเห็นผลของการ 'เตรียมตัวและทบทวน' เป็นครั้งแรกก็วันนี้นี่แหละ โชคดีที่เพื่อนของเราตอนมัธยมต้นเคยสอนเทคนิคเกี่ยวกับการ 'เตรียมตัวและทบทวน' เอาไว้
'แต่รู้สึกสงสารหมอนั่นชะมัด...ทั้งที่ตั้งใจเรียนมากขนาดนั้น แต่กลับมีชะตากรรมต้องสอบได้ที่ 2 ตลอดกาล'
ชะตาชีวิตอันน่าสมเพชของหมอนั่นยังคงต่อเนื่องไปจนถึงมัธยมปลาย ชายผู้ไม่เคยสอบได้อันดับที่ 1 เลยซักครั้งในชีวิต เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับกำแพงอันแข็งแกร่งของนักเรียนคนหนึ่งที่อ้างตัวว่า 'ไม่เคยเรียนกวดวิชาเลยซักนิด' อยู่ร่ำไป
เมื่อผลสอบเทอมที่ 2 ของภาคเรียนสุดท้ายในชีวิตมัธยมปลายถูกประกาศออกมา ไอบ้านั่นก็เดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของโรงเรียนพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงว่า 'ทำไมไอ้พวกอัจฉริยะถึงต้องมาเกิดพร้อมตูด้วยฟะ!!'
...เราเองก็พอจะเข้าใจหัวอกของมันอยู่บ้าง
เหล่าอัจฉริยะคือพวกที่คนธรรมดาไม่มีวันเอื้อมถึง...ไม่ว่าจะใช้ความพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
'แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว'
ถ้าเป็นในซาทิสฟายล่ะก็...
เรามีคลาสเลเจนดารีอยู่กับตัว การจะกลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นได้เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น แล้วเราก็จะกอบโกยผลประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 16
[ บทลงโทษจากเลเวลที่ติดลบถูกยกเลิก ค่าสถานะทั้งหมดของท่านจะกลับคืนเป็นปรกติอีกครั้ง ]
[ ค่าสถานะพื้นฐานของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าถูกเปิดใช้งาน ]
...
ข้อความเหล่านี้ได้ทำให้หัวใจของเราพองโต...
ตึกตัก...ตึกตัก!
เสียงหัวใจที่เต้นระรัวดังขึ้นอย่างก้องกังวาล หัวใจของเรากำลังสั่นระริกไม่เป็นจังหวะ เราตื่นเต้นดีใจจนต้องรีบเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู
...
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 1 ( ค่าประสบการณ์: 45/100 )
...
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
พลังชีวิต : 280/280, มานา 75/75
พละกำลัง: 20 + 5, ความอดทน: 18, ความว่องไว: 12
สติปัญญา: 25, ความชำนาญ: 50, ความพากเพียร: 16
ความเยือกเย็น: 10, ความทรหด: 11, ความหยิ่งทระนง: 10
วิสัยทัศน์: 10
ค่าสถานะคงเหลือ : 40 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 3,035/820
* น้ำหนักสัมภาระเกินกว่า 200% ส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 100%
ร่างกายของท่านหนักอึ้งจนไม่สามารถออกแรงได้อย่างเต็มที่
โอกาสที่จะตกอยู่ในสถานะ 'อ่อนแอ' เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
...
"เราฝันไปรึเปล่าเนี่ย?"
เราเริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริง ถ้าหากที่นี่คือโลกภายนอก เราคงทดสอบโดยการใช้นิ้วหยิกแก้มไปแล้ว
เราสงบสติลงได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบล็อคเอ้าท์ออกจากเกม
"ล็อคเอ้าท์"
...
ร่างของเราค่อยๆ ลุกขึ้นจากแคปซูลในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไม่รีบร้อน เมื่อตั้งสติได้ เราจึงกวาดสายตามองไปรอบห้องนอนด้วยความใจเย็น
"หรือว่าเราจะหลับจนฝันไปโดยไม่รู้ตัว?"
เป็นไปได้มากทีเดียว...เพราะเราไม่ได้ตั้งให้แคปซูลสลับโหมดการนอนเอาไว้ เรารึบเดินตรงไปที่ห้องน้ำพร้อมจัดการตัวเองจนเสร็จสรรพ น้ำก็อกเย็นฉ่ำถูกเปิดราดหัวจนสาแก่ใจ หลังจากนั้นเราก็พาตัวเองกลับมาที่แคปซูลอีกครั้ง
"ล็อคอิน"
...
ภาพตรงหน้าเหมือนกับที่ฝันเมื่อครู่ไม่มีผิด...เรากำลังยืนอยู่ที่ใจกลางโรงตีเหล็กของสมิท
"ไม่ใช่ความฝันหรอกหรอ? ไม่ได้...คนอย่างเราห้ามคาดหวังมากไปเด็ดขาด"
คนที่โดนเทพธิดาแห่งโชคสาปแช่งอย่างเรา หากตั้งความหวังอะไรไปล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ออกมาคงได้ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้วแน่นอน
เราตัดสินใจเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาอีกครั้งโดยพยายามไม่หวังอะไรมาก
...แต่สิ่งที่เห็น...ส่งผลให้ร่างกายของเรารู้สึกเย็นเฉียบในพริบตา
"ขะ...ของจริง"
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากในฝันเลยซักนิด ค่าสถานะและข้อความยังคงเหมือนเดิมทุกประการ หัวใจของเราเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง
"นี่มัน..."
ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วไปที่สร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ ค่าสถานะพื้นฐานจะถูกกำหนดไว้ตายตัวดังนี้ : พละกำลัง 6 , ความอดทน 7 , ความว่องไว 4 , สติปัญญา 5 โดยรวมแล้วจะมีค่าสถานะทั้งหมดเพียงแค่ 22 แต้มเท่านั้น
แต่คลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าของเรากลับมีค่าสถานะรวมที่สูงถึง 165 แต้ม นั่นยังไม่นับรวมไปถึงค่าความพากเพียรที่เราหามาเองอีก 16 แต้ม และ 1 แต้มที่เป็นโบนัสแถมให้กับค่าความทรหด หากนำไปรวมด้วย ค่าสถานะรวมของเราจะสูงถึง 182 แต้มเลยทีเดียว
ถ้าคำนวนออกมาอย่างคร่าวๆ...ค่าสถานะรวมของเราจะเทียบเท่ากับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 15 การที่มีค่าสถานะรวมถึง 182 แต้มในเลเวล 1 ได้ส่งผลให้เราอยู่เหนือกว่าผู้เล่นใหม่หลายเท่าตัว นี่ถือเป็นความสุดยอดของคลาสเลเจนดารี่อีกประการหนึ่ง
แถมยัง...
'นอกเหนือจากค่าสถานะที่เรามีติดตัวแล้ว...'
เราค่อยๆ พิจารณาดูค่าสถานะคงเหลือจำนวน 40 แต้มอย่างใจเย็น
'ทำไมเราถึงมีค่าสถานะคงเหลือได้?'
ค่าสถานะคงเหลือจะเพิ่มขึ้นทุก 10 แต้มต่อการเพิ่มเลเวล 1 ครั้ง ดังนั้น...ตัวเราทีมีเลเวล 1 ก็ควรจะมีค่าสถานะคงเหลือเป็น 0...แล้วทำไมถึงมี 40 แต้มได้นะ?
เราพยายามคิดหาเหตุผลอยู่หลายอย่าง แต่สิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดในหัวคงหนีไม่พ้น...
'หรือว่าเลเวลที่เพิ่มขึ้นในตอนติดลบ...จะเพิ่มค่าสถานะคงเหลือมาด้วยงั้นหรอ?'
ก่อนหน้านี้เลเวลของเราคือ -3 หมายความว่าเลเวลของเราจะต้องเพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 4 ครั้ง ถึงได้มีเลเวล 1 อย่างในปัจจุบัน
ถ้าคิดแบบนี้ก็ลงตัว...เลเวลเพิ่ม 4 ครั้ง...40 แต้มค่าสถานะคงเหลือ...
เราลองขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด แต่ไม่ว่าจะขยี้ไปซักกี่ครั้ง ค่าสถานะคงเหลือ 40 แต้มนี้ก็ยังไม่หายไป เรารู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นขึ้นมาทันที
'ความยากลำบากในตอนที่เลเวลติดลบ...ดูเหมือนจะไม่ได้สูญเปล่าซะทีเดียวนะ'
ทุกความดิ้นรนของเราส่งผลมาจนถึงทุกวันนี้ บางที...เราอาจจะไม่ได้ดวงกุดอย่างที่คิดก็เป็นได้
"คิกคิก...คุคุคุ!"
จะมีคำศัพท์ใดบ้างในโลกที่สามารถอธิบายความดีใจของเราออกมาเป็นคำพูดได้?
เราทำได้เพียงแค่หัวเราะออกมาอย่างสะใจเท่านั้น...
"วะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!"
เสียงหัวเราะอันกึกก้องได้สะท้อนถึงความยินดีปรีดาภายในตัวเรา ผู้คนที่อยู่ภายในโรงตีเหล็กทยอยเดินออกไปหลังจากที่เราเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนปวดท้อง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถหยุดหัวเราะได้เลยจริงๆ...จนกระทั่ง...
"ฮะฮะฮ่า...อั่ก!..."
สมิทกำลังยืนมองเราหัวเราะอย่างสุดเสียง เขายกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับพูดว่า "ยอดเยี่ยมมาก! นี่คือเสียงหัวเราะอันแสนอิ่มเอมใจของผู้ยิ่งใหญ่! ทั้งที่ท่านเป็นถึงตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเมื่อวานกระผมถึงกล้าเสียมารยาทต่อท่านได้ ได้โปรดอภัยให้กับความโง่เขลาของกระผมด้วย"
ขนาดเราหัวเราะราวกับคนบ้าเช่นนี้...สมิทกลับยังมองเราเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้อีกงั้นหรอ? ดูเหมือนค่าความสัมพันธ์ของเรากับสมิทจะเพิ่มถึงจุดสูงสุดแล้วสินะ ไม่สิ...ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ค่าความสัมพันธ์ของเรากับสมิทเพิ่มขึ้นจากภารกิจสองครั้งก็จริง รวมไปถึงค่าชื่อเสียงในหมู่บ้านไบรันที่เพิ่มขึ้น 200 หน่วยก็อาจมีผลด้วย แต่นั่นก็ยังอธิบายท่าทีที่แสนประจบประแจงเกินควรของสมิทในตอนนี้ไม่ได้
'ถึงสมญานามของเราจะทำให้เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้นก็เถอะ...แต่มีบางอย่างไม่ปรกติ...'
เราหันไปจ้องหน้าสมิทอย่างสงสัย ทว่า...ทันทีที่สมิทสบตากับเรา เขาก็รีบเบือนสายตาหนีไปทางอื่นทันที ราวกับสมิทเป็นเพียงลูกศิษย์คนหนึ่งที่รู้สึกหวาดกลัวเมื่อต้องสบตากับอาจารย์ของตน
'หรือว่านี่จะเป็นความสามารถของค่าสถานะ 'ความหยิ่งทระนง' กันนะ? แม้ตอนนี้จะมีเพียงแค่ 10 แต้ม...แต่มันกลับส่งผลชัดเจนขนาดนี้เชียวหรือ?'
เป็นไปได้...เพราะระดับช่างตีเหล็กของสมิทก็ไม่ได้สูงส่งอะไร
'มันอาจจะยังไม่มีผลกับเอ็นพีซีระดับสูงก็จริง แต่ถ้าเป็นเอ็นพีซีทั่วไป...ค่าความหยิ่งทระนงจะต้องส่งผลอย่างมากแน่ ถึงแต้มในตอนนี้จะยังไม่เยอะก็เถอะ'
เราไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือขนาดนี้ ความตื่นเต้นดีใจของเรายิ่งเพิ่มมากขึ้นไปจากเดิมอีกหลายเท่า
'...ต้องใจเย็นไว้...ตั้งสติ...อย่ารีบร้อน...ค่อยๆ คิดว่าจะนำค่าสถานะทั้ง 40 แต้มนี้ไปใช้กับอะไร'
เราเริ่มกังวลเล็กน้อย เพราะหลายวันที่ผ่านมานี้ เราหุนหันพลันแล่นทำสิ่งที่โง่เขลาลงไปมากมายนับไม่ถ้วน ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะดีขึ้น เราก็ไม่ควรรีบร้อนจนทำให้มันพังทลายลงไปอีก
ราวกับว่า...อนาคตอันสดใสที่รออยู่อาจพังลงได้ทุกเมื่อ ถ้าหากเราตัดสินใจทำอะไรผิดพลาดไปเพียงครั้งเดียว
'ค่าสถานะของเราตอนนี้มีมากพอแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรรีบร้อนใช้มันโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา'
เราคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่สำคัญกับตัวเราในตอนนี้มากที่สุด...
"เงิน..."
ใช่แล้ว เราต้องการเงินที่มากพอเพื่อเดินโดยสารรถม้าออกไปจากหมู่บ้านไบรันแห่งนี้
"ไม่ใช่ว่าข้าเคยถามไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วหรอ? ว่าไอเท็มชิ้นไหนที่สามารถผลิตและขายทำกำไรได้สูงที่สุด?"
เราตะโกนออกไปเสียงดังจนทำให้สมิทมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย...
สมิทค่อยๆ ชี้นิ้วไปยังแผงลูกศรที่วางเรียงรายกันอยู่
"สิ่งนี้ขอรับ"
ลูกธนูงั้นหรอ?
แตกต่างจากไอเท็มชนิดอื่น ลูกธนูจัดเป็นไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นราคาของมันจึงถูกแสนถูก โดยไม่ว่าจะทำกำไรได้มากแค่ไหน แต่ด้วยราคาขายที่ต่ำมาก ย่อมหมายถึงการที่ต้องผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อทำเงิน
สีหน้าของเราแย่ลงเล็กน้อย
ทันทีที่สมิทเห็นว่าท่าทีของเราเปลี่ยนไป เขาก็อธิบายต่อทันที
"นี่ไม่ใช่ลูกธนูธรรมดาทั่วไป หัวลูกศรของมันทำมาจากการหลอมรวมระหว่าง 'แร่ยัฟฟ่า' กับเหล็กกล้า ทำให้มันมีคุณสมบัติในการเจาะทะลวงผ่านพลังป้องกันของศัตรู"
ทะลวงการป้องกันงั้นหรอ?
สำหรับนักธนูที่เข้าร่วมปาร์ตี้ล่าบอสผู้พิทักษ์แห่งพงไพรแล้ว หัวลูกศรชนิดนี้นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลยทีเดียว ไม่สิ ต่อให้ไม่ต้องไปล่าผู้พิทักษ์แห่งพงไพร แต่เหล่ามอนสเตอร์โกเล็มที่อยู่รอบนอกก็ล้วนมีพลังป้องกันที่สูงทั้งสิ้น ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็จำเป็นจะต้องใช้ลูกธนูชนิดนี้ในการล่า
"แร่ยัฟฟ่า...?"
เมื่อสมิทเห็นว่าเราเริ่มสนใจ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องเก็บของพร้อมกับหยิบแร่สีม่วงออกมาก้อนหนึ่ง
"แร่ยัฟฟ่าคือสินแร่ที่มีส่วนประกอบของออกซิเจนต่ำ ทำให้นำไปถลุงได้ง่าย เป็นที่รู้กันว่ายอดเยี่ยมกว่าเหล็กทั่วไปหลายเท่า จุดอ่อนเพียงข้อเดียวคือค่าความคงทนที่ต่ำ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการนำไปสร้างเป็นอาวุธหรือชุดเกราะ ทว่า...ถ้าหากนำไปหลอมรวมกับเหล็กกล้าล่ะก็ ความคงทนและพลังในการเจาะทะลุของมันจะสูงขึ้นหลายเท่าตัว มีกองทหารม้าจำนวนไม่น้อยที่ใช้ปลายหอกซึ่งหลอมรวมมาจากแร่ยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า"
"งั้นก็ต้นทุนสูงน่ะสิ?"
"แร่ยัฟฟ่านั้นมีมูลค่า 2 เหรียญทองต่อ 1 กิโลกรัม ถึงจะเป็นเหล็กชั้นเลิศก็ตาม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายัฟฟ่าก็เป็นได้เพียงแค่หินราคาถูกเท่านั้น"
"ถ้าต้นทุนสูงขนาดนี้แล้วทำไมถึงสามารถผลิตหัวลูกศรออกมาได้หลายชิ้นล่ะ?"
"ไม่เลยขอรับ ต้นทุนของมันไม่สูงมาก หัวลูกศรหนึ่งอันใช้แร่ยัฟฟ่าเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ต้นทุนในการผลิตลูกธนูยัฟฟ่า 1 ดอกอยู่ที่ 3 เหรียญเงิน ส่วนราคาขายของมันจะอยู่ที่ 6 เหรียญเงิน ทำให้ได้กำไรมากเป็นเท่าตัว อีกทั้งหมู่บ้านไบรันแห่งนี้นับว่ามีความต้องการในลูกธนูยัฟฟ่าที่สูงมาก..."
"ท่านคิดว่ายังไงบ้าง? อยากจะเรียนวิธีการผลิตของมันรึไม่ขอรับ?"
ถ้าเป็นเมื่อวานเราคงพยักหน้าตอบตกลงในทันที แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่สมิทเสนอไอเท็มที่น่าสนใจมาให้ เราจึงตัดสินใจที่จะลองหาสูตรผลิตด้วยตัวเราเองก่อน
"ขอดูลูกธนูนั่นหน่อย"
ทันทีที่สมิทยืนลูกธนูมา เรารีบคว้ามันไว้พร้อมกับใช้ทักษะตรวจสอบทันที
...
[ ลูกธนูยัฟฟ่า ]
ระดับความหายาก : ทั่วไป
พลังโจมตี : 20~26
หัวลูกศรถูกสร้างขึ้นด้วยการหลอมแร่ยัฟฟ่ากับเหล็กกล้าเข้าด้วยกัน
ด้วยลักษณะพิเศษของแร่ยัฟฟ่า ทำให้ลูกธนูชนิดนี้มีคุณสมบัติในการเจาะทะลวงที่สูงมากจนมองข้ามพลังป้องกันบางส่วนของศัตรูไป
น้ำหนัก : 0.1 หน่วย
[ ไม่พบคุณสมบัติพิเศษของไอเท็ม ]
[ ช่างตีเหล็กในตำนานเช่นท่านสามารถรับรู้ถึงวัสดุที่ใช้สร้าง 'ลูกธนูยัฟฟ่า' ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งท่านยังรู้ไปถึงวิธีการผลิตและเจตนารมณ์ของผู้สร้างอีกด้วย ]
[ ความเข้าใจในไอเท็ม 'ลูกธนูยัฟฟ่า' เพิ่มขึ้นถึง 89% ท่านสามารถใช้ 'ลูกธนูยัฟฟ่า' ได้อย่างชำนาญมากขึ้น ]
...
"ชิ..."
น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเลื่อนระดับความเข้าใจให้ถึงได้ 100% ได้ด้วยการตรวจสอบเพียงลำพัง ในตอนนี้เราจึงยังไม่ได้สูตรการผลิตของมันมาครอบครอง
'ลูกธนูชนิดนี้...'
สมิทมองมายังเราที่กำลังยืนจ้องลูกธนูยัฟฟ่าในมือ
"ท่านต้องการจะเรียนวิธีผลิตลูกธนูยัฟฟ่ารึไม่ขอรับ?"
'หากเราใช้ทักษะ 'แยกส่วน' ล่ะก็ ค่าความเข้าใจอีก 11% ที่เหลือคงไม่ใช่เรื่องยากก็จริง...แต่มันคุ้มกับเงิน 6 เหรียญเงินที่ต้องเสียไปงั้นหรอ?'
ถ้าเราต้องการจะแยกส่วนมัน ก็มีแต่ต้องจ่ายค่าลูกธนูให้กับสมิทเท่านั้น แต่ 6 เหรียญเงินมันออกจะแพงเกินไปซักหน่อยสำหรับตัวเราในตอนนี้
'แย่หน่อยนะที่เราไม่สามารถเรียนรู้สูตรผลิตได้ด้วยตัวเอง'
เราตัดสินใจพยักหน้าให้กับสมิทเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า "ข้าจะเรียนมัน"
สมิทตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก "กระผมคิดเอาไว้อยู่แล้วเชียว! ถ้าอย่างนั้น...เรามาเริ่มจากเรียนรู้วิธีการถลุงแร่ก่อนดีไหม?"
สมิทเริ่มอธิบายตั้งแต่โครงสร้างของเตาหลอมที่ช่างตีเหล็กในซาทิสฟายนิยมใช้กัน เขาอธิบายทุกอย่างโดยละเอียดและใจเย็นไปทีละขั้นตอน หลักการและเทคนิคที่สำคัญค่อยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาจนหมด
นานๆ ครั้งจะมีคำศัพท์เฉพาะของช่างตีเหล็กรวมไปถึงสารเคมีที่เข้าใจได้ยากโผล่ออกมาบ้าง แต่นั่นก็ไม่ทำให้เราสับสนมากนัก เพราะโลกแห่งนี้เป็นเพียงแค่เกมเท่านั้น ถ้าหากมันยากเกินไป ผู้เล่นคงไม่สามารถซึมซับความสนุกเข้าไปได้มากเท่าที่ควร คลาสช่างตีเหล็กในซาทิสฟายจึงมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนให้ปวดหัว
แล้วอีกอย่าง ตัวเราก็เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ในระหว่างที่ถูกห้ามเข้าเกมนานถึง 12 ชั่วโมง เราได้ศึกษาคลาสของช่างตีเหล็กมาอย่างละเอียด คำอธิบายจากสมิทก็ไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่เราอ่านมานัก เราจึงสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในเวลาอันสั้น
เราเพิ่งจะเห็นผลของการ 'เตรียมตัวและทบทวน' เป็นครั้งแรกก็วันนี้นี่แหละ โชคดีที่เพื่อนของเราตอนมัธยมต้นเคยสอนเทคนิคเกี่ยวกับการ 'เตรียมตัวและทบทวน' เอาไว้
'แต่รู้สึกสงสารหมอนั่นชะมัด...ทั้งที่ตั้งใจเรียนมากขนาดนั้น แต่กลับมีชะตากรรมต้องสอบได้ที่ 2 ตลอดกาล'
ชะตาชีวิตอันน่าสมเพชของหมอนั่นยังคงต่อเนื่องไปจนถึงมัธยมปลาย ชายผู้ไม่เคยสอบได้อันดับที่ 1 เลยซักครั้งในชีวิต เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับกำแพงอันแข็งแกร่งของนักเรียนคนหนึ่งที่อ้างตัวว่า 'ไม่เคยเรียนกวดวิชาเลยซักนิด' อยู่ร่ำไป
เมื่อผลสอบเทอมที่ 2 ของภาคเรียนสุดท้ายในชีวิตมัธยมปลายถูกประกาศออกมา ไอบ้านั่นก็เดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของโรงเรียนพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงว่า 'ทำไมไอ้พวกอัจฉริยะถึงต้องมาเกิดพร้อมตูด้วยฟะ!!'
...เราเองก็พอจะเข้าใจหัวอกของมันอยู่บ้าง
เหล่าอัจฉริยะคือพวกที่คนธรรมดาไม่มีวันเอื้อมถึง...ไม่ว่าจะใช้ความพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
'แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว'
ถ้าเป็นในซาทิสฟายล่ะก็...
เรามีคลาสเลเจนดารีอยู่กับตัว การจะกลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นได้เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น แล้วเราก็จะกอบโกยผลประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 16
มาเลี้ยวๆ ขอบคุณมากคับ
ReplyDeleteเงินกำลังจะมาแล้ว....มั้ง
ReplyDeleteได้เวลารับผลตอบแทนบ้างแล้วล่ะ รันทดอยู่นาน
ReplyDeleteขอบคุณมากเลยนะคับ
ReplyDeleteโชคกำลังจะดีขึ้นแล้ววว มั้งง
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDelete