จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 33
'ช่างเขาเถอะ...รีบทำภารกิจของเราดีกว่า'
นี่คือภารกิจลับครั้งแรกที่ฮิวรอยได้รับ แม้ว่าชายคนนี้จะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เล่นซาทิสฟายมาตั้งแต่สมัยเกมเปิดใหม่ๆ แต่ก่อนหน้านี้กลับไม่เคยมีโอกาสได้ทำภารกิจลับเลยซักครั้งเดียว
'เรื่องของทักษะ [ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย] นั้นเราไม่มีข้อมูลมาก่อนก็จริง แต่ค่าสถานะ [ความกล้าหาญ] นับว่ายังเคยผ่านตามาอยู่บ้าง มีคนเล่าไว้ว่า ทุกๆ ค่าสถานะความกล้าหาญ 10 แต้มจะส่งผลให้ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นการถาวร'
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ร่างกายของฮิวรอยก็อดสั่นระริกไม่ได้
'ถ้าหากเราทำภารกิจนี้สำเร็จจนได้รับสมญานาม [สาวกแห่งความเที่ยงธรรม] มาล่ะก็...บางทีเราอาจจะกลายเป็นผู้เล่นติดอันดับในอีกไม่ช้าก็เป็นได้'
ปัจจุบันฮิวรอยมีเลเวล 127 ถ้าเทียบกับผู้เล่นทั่วไปจะถือเป็นเลเวลที่สูงมาก เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะมีคนคอยให้ความยำเกรงอยู่เสมอ แต่ถ้าเทียบกับในบรรดาผู้เล่นกลุ่มแรกด้วยกัน เลเวล 127 เป็นอะไรที่ยังห่างไกลกับคำว่าผู้เล่นติดอันดับอยู่มาก
ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมนี้ทุกวัน โดยใช้เวลามากถึง 18 ชั่วโมงต่อวันเลยก็ตาม แต่การที่เลเวลของเขาขึ้นช้ากว่าผู้อื่นนั้นเป็นเพราะมีอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงอยู่หนึ่งข้อ...คลาสของเขานั่นเอง ฮิวรอยไม่ใช่คลาสสายต่อสู้หรือสายการผลิต แต่คลาสของเขาคือ...นักพูด
นักพูดที่มีอาวุธหลักเป็น...คำพูด!
คลาสสายต่อสู้กับคลาสสายผลิตนั้นสามารถเก็บเลเวลได้รวดเร็วกว่าด้วยการออกล่าหรือการผลิตไอเท็ม แต่คลาสนักพูดนั้นแตกต่างออกไป ทักษะของคลาสนี้มีเพียงแค่ทักษะที่เกี่ยวกับการสนทนาเท่านั้น จึงอ่อนแอในด้านการต่อสู้ และไม่สามารถผลิตไอเท็มต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
การที่ฮิวรอยมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะความฉลาดส่วนตัวล้วนๆ เขาใช้ทักษะในการพูดเหล่านั้นไปกับเอ็นพีซีเพื่อให้ตนเองรับภารกิจให้ได้มากกว่าผู้เล่นอื่นหลายเท่า แต่วิธีการนี้ก็มีขีดจำกัดของมันอยู่ ยิ่งมีเลเวลสูงขึ้น ภารกิจก็จะยิ่งยากขึ้นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับกลับน้อยลง ในขณะที่คลาสอื่นออกล่ามอนสเตอร์หรือนั่งผลิตไอเท็ม แต่ฮิวรอยกลับต้องเลือกทำภารกิจระดับต่ำจำนวนมากๆ แทน เพราะไม่สามารถทำภารกิจในระดับเลเวลของตัวเองไหว
แต่ไม่ว่ายังไง เกมนี้คุณก็ต้องออกล่ามอนสเตอร์...
ด้วยความที่เป็นคลาสนักพูด อาวุธที่สามารถใช้ได้จึงถูกจำกัดไว้เพียงวงแคบๆ เท่านั้น แถมพลังชีวิตก็ยังต่ำเตี้ยสุดกู่ ค่าสถานะสำหรับการต่อสู้นั้นแทบไม่มีเลย การวิ่งทำภารกิจระดับต่ำจึงเป็นวัฏจักรที่ฮิวรอยไม่สามารถหนีพ้นได้ ตัวเขาในยามนี้ แม้จะต้องสู้กับมอนสเตอร์ที่มีระดับต่ำกว่าเขามากถึง 15 เลเวล แต่ฮิวรอยก็ยังมิอาจสู้พวกมันได้
แม้คลาสนักพูดจะมีทักษะทีเด็ดที่ถือเป็นไม้ตายอย่าง 'วาจาอาฆาต' ซึ่งจะทำให้ค่าสถานะของศัตรูลดลงอย่างมหาศาล แต่นั่นก็ไม่เหมาะที่จะใช้ในการต่อสู้ในระดับสูง แถมจำนวนครั้งที่ใช้ได้ก็ยังมีขีดจำกัดอีกด้วย
'จุดอ่อนอย่างใหญ่หลวงของคลาสเราคือความสามารถในการต่อสู้...ถ้าหากได้ค่าสถานะ [ความกล้าหาญ] มาครอบครองล่ะก็ มันจะต้องกลบจุดด้อยนั้นไปได้อย่างแน่นอน'
การจะได้ค่าความกล้าหาญมาครอบครองนั้นต้องทำภารกิจลับนี้ให้สำเร็จ หลังจากที่จุดไฟความกระหายในตัวให้ลุกโชนขึ้นได้ ฮิวรอยก็เดินมาถึงประตูทางออกหมู่บ้านฝั่งตะวันตก
เป็นประตูทางเข้าออกที่ค่อนข้างเงียบสงบมากทีเดียว นั่นเพราะว่าลอร์ดแห่งวินสตันไม่อนุญาตให้ชาวบ้านออกไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ มีเพียงนักเดินทางเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าออกได้
"ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยนะครับ"
ฮิวรอยเดินเข้าไปหาทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัวผู้เล่นให้ดู เขาเป็นเพียงนักเดินทางแปลกหน้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับชาวบ้านวินสตัน การเข้าออกจากที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก
ทว่า...ทหารยามกับไม่ยอมให้ฮิวรอยผ่านออกไปแต่โดยดี พวกมันที่เหลือกลับค่อยๆ เดินมาขวางทางออกไว้อย่างเงียบๆ
'บริษัทเมโร่รู้เรื่องการทรยศของเราแล้วงั้นหรือ?'
ท่าไม่ดีแล้วสิ...ถ้าหากฮิวรอยไม่รีบออกไปจากหมู่บ้าน เขาอาจถูกจับตัวได้โดยคนของบริษัทเมโร่จนภารกิจต้องล้มเหลวก็เป็นได้ นี่คือโอกาสทองหนึ่งในล้านที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ฮิวรอยจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
"พวกคุณมาขวางผมด้วยเหตุใดรึ? ไม่ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดรึเปล่าครับ?"
"......"
ฮิวรอยพยายามชวนทหารยามคุยด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้ มีความจำเป็นอย่างมากที่เขาจะต้องงัดอาวุธไม้ตายออกมาใช้...'คำพูด' นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นพวกทหารยามก็เอาแต่นิ่งเงียบโดยเลี่ยงที่จะพูดกับฮิวรอยอย่างเห็นได้ชัด
'กลิ่นไม่ค่อยดีแฮะ...'
ในขณะที่ฮิวรอยกำลังกระวนกระวายใจต้องการออกจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุด ทันใดนั้น น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร แต่ทหารยามพวกนั้นก็จะไม่มีวันตอบโต้กลับมาอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นคือคำสั่งที่ผมกำชับเอาไว้ว่าห้ามพูดคุยกับคุณอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับสัญญานจากผม"
ฮิวรอยตกตะลึงจนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ชายที่มีนามว่าแร็บบิทได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันจากด้านหลัง ชายคนนี้คือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเมโร่ที่มอบภารกิจการเกลี้ยกล่อมชาวบ้านมาให้
ฮิวรอยพยายามข่มท่าทีและสีหน้าอันสับสนเอาไว้ หลังจากนั้นก็หันกลับไปพูดทักทายกับแร็บบิทว่า "อ้าว...นั่นคุณแร็บบิทไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าต้องจัดการกับเอกสารกองโตอยู่ในสำนักงานหรอกหรอ?"
"ปวดหัวนิดหน่อยก็เลยออกมาเดินสูดอากาศน่ะ"
"ฮ่าฮ่า การผ่อนคลายเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คนเราคงทำงานได้ไม่ดีแน่ถ้าหากขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ว่าแต่คุณแร็บบิทครับ...ทำไมคุณถึงต้องสั่งห้ามไม่ให้พวกทหารคุยกับผมงั้นหรือ? ทำไมถึงต้องนำความสุขที่ได้จากการสนทนากับผู้คนของผมไปด้วย?"
แร็บบิทแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า
"คุณฮิวรอย ไม่ใช่ว่าคุณมีภารกิจที่ต้องไปเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้ผมรึไง? จากสัญญาที่คุณได้ให้ไว้กับผม ทันทีที่ทำภารกิจสำเร็จ คุณก็ต้องรีบมาแจ้งให้ผมรู้เพื่อรับรางวัลมิใช่หรือ? แล้วทำไมถึงได้ทำเหมือนกำลังจะหนีออกจากหมู่บ้านวินสตันอย่างนี้ล่ะ?"
ฮิวรอยค่อยๆ อธิบายกลับไปอย่างใจเย็น "ในการจะใช้อาวุธของผมซึ่งเป็นคำพูดกับผู้คนได้นั้น จำเป็นอย่างมากที่เหยื่อจะต้องมีช่องว่างเล็กน้อยในหัวสมองให้คำพูดของผมสอดแทรกเข้าไปได้ ดังนั้นจังหวะที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น นี่ไม่ใช่ภารกิจที่จะรีบร้อนทำให้เสร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น ก่อนจะถึงเวลานั้นผมจึงทำได้แค่รอ โดยในระหว่างที่รอ ผมก็ได้ทราบมาว่าภายนอกรอบๆ หมู่บ้านวินสตันนั้นมีบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยสดงดงาม จึงเกิดความรู้สึกอยากออกไปดูให้เห็นเป็นขวัญตาสักหน่อย คุณไปเอามาจากไหนว่าผมกำลังจะหนีไป? นั่นต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่"
แร็บบิทแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาว่า
"หืม...เป็นเช่นนั้นเองหรือ? แปลว่าผมเข้าใจในตัวคุณผิดไปอย่างนั้นสินะ?"
ด้วยความที่เป็นคลาสนักพูด ฮิวรอยจึงมีทักษะติดตัวที่ชื่อว่า 'การโน้มน้าว' และมีค่าสถานะ 'พลังโน้มน้าว' อยู่กับตัว ในตอนนี้ฮิวรอยที่ทั้งสองสิ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก เขาสามารถทำให้เอ็นพีซีเคลื่อนไหวได้ตามใจนึก ถ้าหากว่าใช้อย่างถูกวิธี
"ใช่แล้วล่ะ มันเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด ดังนั้นนะครับคุณแร็บบิท...ช่วยบอกให้ทหารยามเหล่านี้เลิกขัดขวางผมซักทีจะได้รึเปล่า?"
เมื่อดูจากท่าทีของแร็บบิท ฮิวรอยจึงคิดว่าเขาสามารถโน้มน้าวได้สำเร็จแล้ว ทว่าความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น แร็บบิทถือเป็นหนึ่งในเอ็นพีซีที่ค่าความฉลาดสูงที่สุดคนหนึ่ง แถมยังมีประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วนในการบริหารบริษัทเมโร่ให้เติบใหญ่ในดินแดนตอนเหนือได้ หมายความว่าฮิวรอยยังมีทักษะไม่มากพอที่จะโน้มน้าวจิตใจของแร็บบิทได้ในตอนนี้
แร็บบิทแสดงสีหน้าเศร้าใจเล็กน้อยออกมาให้เห็น "ผมคิดว่าคุณฮิวรอยจะมีทักษะการโน้มน้าวที่เป็นเลิศเสียอีก ผมเคยคิดว่ากับพวกชาวบ้านที่แสนโข่เขลาพวกนั้น คุณคงสามารถจัดการภารกิจให้เสร็จสิ้นได้ในพริบตา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นสินะ คุณไร้ความสามารถกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก ดูเหมือนผมจะตั้งความหวังสูงเกินไปสินะ"
"...อึก!"
"ในเช้าวันนี้ คนของบริษัทเมโร่ได้ทำการเดินแจกจ่ายใบปลิวไปจนทั่วหมู่บ้าน นั่นจะเป็นปัจจัยที่ดีในการสร้างช่องว่างขึ้นในหัวสมองของชาวบ้านตามที่คุณพูด ทันทีที่พวกเขาอ่านใบปลิวเหล่านั้นก็จะเกิดความสับสนขึ้นภายในจิตใจ ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่ดีที่สุดให้คุณเข้าไปโน้มน้าวพวกเขาจนยอมเป็นมิตรกับบริษัทเมโร่ แต่คุณกลับไร้ความสามารถจนมองไม่เห็นถึงโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ หรือไม่ก็...คุณกำลังคิดที่จะทรยศผมอยู่"
"อึก!"
แร็บบิทนั้นมีสายตาที่เฉียบแหลมดุจดั่งพญาเหยี่ยว แววตาของเขาที่จ้องมองมายังฮิวรอยสามารถสร้างแรงกดดันได้อย่างมหาศาล
ฮิวรอยรู้ตัวได้ในทันทีว่าโกหกต่อไปก็ไร้ผล "แร็บบิท...คุณรู้อยู่แล้วงั้นหรือว่าผมจะทรยศ? ก็เลยสั่งให้ทหารพวกนี้เตรียมตัวรับมือเอาไว้ล่วงหน้าโดยไม่ยอมให้พูดกับผม!"
แร็บบิทส่ายศีรษะเบาๆ
"ผมได้พบเจอผู้คนมามากมายหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะไม่เชื่อใจใครมาตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้คิดว่าคุณอาจจะทรยศ ผมเพียงแค่จำลองสถานการณ์ที่คุณหักหลังเอาไว้ในหัว แล้วสั่งให้ทหารเตรียมรับมือกับเรื่องนั้นเผื่อเอาไว้"
"เอาล่ะ คุยกันพอแค่นี้ดีกว่า คุณจะถูกขังอยู่ที่นี่สักพักล่ะนะ ผมล่ะผิดหวังจริงๆ...แทนที่คุณจะเกลี้ยกล่อมชาวบ้าน แต่กลับเข้าร่วมกับพวกเขาเสียได้ ขอโทษด้วยที่ผมคงปล่อยให้คุณไปพบกับเอิร์ลสไตม์ไม่ได้เด็ดขาด"
แร็บบิทส่งสัญญานให้ทหารยามเข้ามาควบคุมตัวฮิวรอยไว้
'จะจบแล้วงั้นหรอ...ตัวเราในตอนนี้ไม่มีทางสู้กับพวกทหารยามได้แน่ คงต้องถูกจับไปขังจนภารกิจล้มเหลวในที่สุด...'
'ไม่ได้...เราจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!'
ชั่วชีวิตนี้ของฮิวรอยอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำภารกิจลับอีกเลยก็เป็นได้ ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปง่ายๆ เด็ดขาด
'ลืมเรื่องการต่อสู้ไปก่อน เราคงต้องล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปตั้งสติมาใหม่ ว่ามีอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำบ้าง'
ฮิวรอยตัดสินใจออกจากเกมอย่างรวดเร็วฉับไว ในบางภารกิจและบางพื้นที่อาจจะไม่สามารถออกจากเกมได้ในทันทีก็จริง แต่ที่นี่เป็นหมู่บ้านซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากกำลังจับตามองอยู่
เขามั่นใจอย่างมากว่าการล็อคเอ้าท์คงจะไม่มีปัญหาใดๆ มาขัดขวางได้
"ล็อคเอ้าท์!"
[ ท่านไม่สามารถออกจากเกมได้ในตอนนี้ ]
"อะ...อะไรกัน?"
ฮิวรอยเผยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมากออกมา เป็นข้อความระบบที่เขาไม่คิดว่าจะมาเด้งขึ้นได้ในเวลาแบบนี้
"เลิกคิดต่อต้านอย่างสูญเปล่าเสียเถอะ!"
"อึก!"
หลังจากที่การล็อคเอ้าท์ไม่สำเร็จ ฮิวรอยก็ถูกทหารยามล้อมจับตัวเอาไว้ได้
แร็บบิ้ทพูดขึ้นอย่างเย้ยยันด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ "ล็อกเอ้าท์งั้นหรือ?...เวทย์มนต์ของพวกนักเดินทางที่ใช้หายตัวไปยังสถานที่ห่างไกลออกไปสินะ แต่คุณคงไม่รู้ว่าพวกเราเองก็มีวิธีจัดการกับเรื่องนั้นแล้วเหมือนกัน"
พวกเอ็นพีซีนั้นมีจิตใต้สำนึกที่สามารถแยกแยะระหว่างผู้เล่นกับตนเองได้ ดังนั้นแร็บบิทจึงไม่คิดที่จะฆ่าฮิวรอย ไม่อย่างนั้นฮิวรอยจะไปเกิดยังจุดเซฟใกล้ๆ และอาจหลบหนีไปได้ วิธีการที่แร็บบิทเลือกก็คือการนำตัวเขาไปขังเอาไว้
แร็บบิทออกคำสั่งกับพวกทหารยามอย่างเสียงดังฟังชัด
"คุมตัวไปขังไว้ที่คุกใต้ดินของปราสาทท่านลอร์ดซะ! แล้วอย่าลืมกำชับให้ท่านลอร์ดคอยจับตาดูไว้ให้ดีล่ะ"
"นะ...นี่มัน..."
ภารกิจลับครั้งแรกตั้งแต่เล่นเกมมากำลังจะล้มเหลวไม่เป็นท่าต่อหน้าต่อตา ฮิวรอยรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังถึงขีดสุด แต่ทันใดนั้นเอง หน้าต่างข้อความระบบก็เด้งขึ้นมาที่ตรงหน้าอีกครั้ง
ข้อความภารกิจซึ่งเต็มไปด้วยข้อความอันไม่คุ้นเคยได้เด้งขึ้น ส่งผลให้ฮิวรอยรู้สึกทั้งสับสนและตึงเครียดในเวลาเดียวกัน
'ห้ามล็อคเอ้าท์ออกจากเป็นเวลา 50 ชั่วโมงในชีวิตจริง...ไม่ใช่เวลาในเกมงั้นหรอ? ภารกิจบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย?'
ฮิวรอยนั้นมีร่างกายในชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรง เขาจึงสามารถนอนเล่นเกมในแคปซูลได้ติดต่อกันเกิน 18 ชั่วโมงต่อวันอย่างสบายๆ โดยระยะเวลาที่เขาเคยอยู่ในเกมนานที่สุดคือ 20 ชั่วโมง
นั่นเป็นเพราะแคปซูลของซาทิสฟายมีระบบรักษาความปลอดภัยของผู้เล่นอยู่ ถ้าหากผู้เล่นออนไลน์ติดต่อกันนานถึง 20 ชั่วโมงเมื่อใด แคปซูลจะทำการตัดการเชื่อมต่อจากเกมในทันที และผู้เล่นคนดังกล่าวก็จะไม่สามารถเข้าเกมได้อีกเป็นเวลา 6 ชั่วโมง
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เอส. เอ. กรุ๊ป ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแคปซูลได้เป็นกังวลถึงสุขภาพของผู้เล่นและไม่ยอมให้ออนไลน์ในเกมเกิดกว่า 20 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด
แล้วนี่มันอะไรกัน? ภารกิจออนไลน์ต่อเนื่อง 50 ชั่วโมงติดต่อกัน? แถมยังต้องรออยู่เฉยๆ ภายในคุกใต้ดินที่มีสภาพแวดล้อมห่วยแตกสุดๆ อีก
'50 ชั่วโมงในชีวิตจริงเท่ากับ 8 วัน 8 ชั่วโมงในซาทิสฟาย พลังใจของเราจะแข็งแกร่งมากพอจะอดทนถึงขนาดนั้นโดยไม่ทำอะไรเลยได้มั้ยนะ?'
เป็นภารกิจที่อันตรายเป็นอย่างมาก มันอาจจะส่งผลให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นบ้าไปได้เลยถ้าหากไม่มีการเตรียมจิตใจที่ดีพอ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจไม่น้อย
'จากภารกิจลับระดับ A กลายเป็นมาภารกิจระดับ S งั้นหรอ...โอกาสแบบนี้เราคงพลาดไม่ได้เด็ดขาด'
ก่อนที่ฮิวรอยจะตัดสินใจรับภารกิจนี้ เขาต้องลองนึกดูก่อนว่า ในชีวิตจริงมีธุระสำคัญอะไรในอีกวันสองวันข้างหน้ารึไม่?...ไม่มี ฮิวรอยไม่มีนัดหมายหรือธุระใดในเร็วๆ นี้ทั้งนั้น เขามีครอบครัวที่คอยห่วงใยหรือคนที่จะมาปิดเครื่องแคปซูลในชีวิตจริงเพราะเป็นห่วงรึเปล่า?...ก็ไม่มีอีกเช่นกัน ฮิวรอยคือชายโสดที่อาศัยอยู่ตามลำพัง
ประตูบ้านปิดเรียบร้อยดีไหม? เขาอยู่บ้านโดยไม่ออกไปไหนมาติดต่อกัน 4 วันแล้ว แน่นอนว่าในช่วงนี้เขาได้ล็อคประตูบ้านเอาไว้อย่างแน่นหนา ฮิวรอยเข้าห้องน้ำครั้งล่าสุดเมื่อไรกัน?...สามชั่วโมงก่อนหน้านี้ ถ้าอย่างนั้น ฮิวรอยก็แค่ไปสลับโหมดของแคปซูลให้เป็นโหมดนอนหลับ ร่างกายของเขาก็จะสามารถนอนอยู่ในแคปซูลได้ 3 วันสบายๆ โดยไม่ต้องกินข้าวหรือดื่มน้ำ
เขาเคยมีประวัติการออนไลน์นานๆ แล้วร่างกายผิดปรกติรึเปล่า?...ก็ไม่ สภาพร่างกายของฮิวรอยไม่เป็นสองรองใคร
'งั้นก็เยี่ยมเลย ร่างกายของเรากำลังฟิตสมบูรณ์ ลองทำภารกิจนี้ดูซักหน่อยจะเป็นไรไป บริษัท เอส. เอ. กรุ๊ปที่ออกแบบภารกิจนี้มาคงไม่อยากให้คนเล่นตายไปจริงๆ หรอกมั้ง...'
ฮิวรอยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก่อนจะกดปุ่มตกลง
'เราจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด'
"ยืนยัน"
"รู้สึกเหมือนได้เป็นผู้เล่นระดับวีไอพีเลยแฮะ"
นั่นคือความรู้สึกแรกหลังจากที่ฮิวรอยอ่านหน้าต่างข้อความระบบครบจนหมด
'ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว พลังใจของเราต้องอยู่ได้นานกว่า 200 ชั่วโมงแน่นอน'
ความกังวลจางๆ ของฮิวรอยที่เหลืออยู่ได้สลายไปจนหมด ระบบการจัดการของ เอส. เอ. กรุ๊ปนั้นเชื่อใจได้ยิ่งกว่าอะไร ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยมในทันที
'แล้วข้าจะรอนะ...สาวกแห่งความเที่ยมธรรม'
ถ้าหากเขามาช่วยเราออกไปจากที่นี่ได้จนสำเร็จภารกิจจริง เราขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเขาตลอดไป แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เอ็นพีซีคนหนึ่งก็ตาม
ในระหว่างที่ตัวละครของเขากำลังถูกขังอยู่ภายในคุกใต้ดินปราสาทวินสตัน ฮิวรอยก็ได้ลั่นสัตย์สาบานว่าจะจงรักตลอดไปต่อสาวกแห่งความเที่ยงธรรมผู้ที่ยังเป็นเพียงปริศนา
นี่คือภารกิจลับครั้งแรกที่ฮิวรอยได้รับ แม้ว่าชายคนนี้จะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เล่นซาทิสฟายมาตั้งแต่สมัยเกมเปิดใหม่ๆ แต่ก่อนหน้านี้กลับไม่เคยมีโอกาสได้ทำภารกิจลับเลยซักครั้งเดียว
'เรื่องของทักษะ [ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย] นั้นเราไม่มีข้อมูลมาก่อนก็จริง แต่ค่าสถานะ [ความกล้าหาญ] นับว่ายังเคยผ่านตามาอยู่บ้าง มีคนเล่าไว้ว่า ทุกๆ ค่าสถานะความกล้าหาญ 10 แต้มจะส่งผลให้ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นการถาวร'
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ร่างกายของฮิวรอยก็อดสั่นระริกไม่ได้
'ถ้าหากเราทำภารกิจนี้สำเร็จจนได้รับสมญานาม [สาวกแห่งความเที่ยงธรรม] มาล่ะก็...บางทีเราอาจจะกลายเป็นผู้เล่นติดอันดับในอีกไม่ช้าก็เป็นได้'
ปัจจุบันฮิวรอยมีเลเวล 127 ถ้าเทียบกับผู้เล่นทั่วไปจะถือเป็นเลเวลที่สูงมาก เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะมีคนคอยให้ความยำเกรงอยู่เสมอ แต่ถ้าเทียบกับในบรรดาผู้เล่นกลุ่มแรกด้วยกัน เลเวล 127 เป็นอะไรที่ยังห่างไกลกับคำว่าผู้เล่นติดอันดับอยู่มาก
ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมนี้ทุกวัน โดยใช้เวลามากถึง 18 ชั่วโมงต่อวันเลยก็ตาม แต่การที่เลเวลของเขาขึ้นช้ากว่าผู้อื่นนั้นเป็นเพราะมีอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงอยู่หนึ่งข้อ...คลาสของเขานั่นเอง ฮิวรอยไม่ใช่คลาสสายต่อสู้หรือสายการผลิต แต่คลาสของเขาคือ...นักพูด
นักพูดที่มีอาวุธหลักเป็น...คำพูด!
คลาสสายต่อสู้กับคลาสสายผลิตนั้นสามารถเก็บเลเวลได้รวดเร็วกว่าด้วยการออกล่าหรือการผลิตไอเท็ม แต่คลาสนักพูดนั้นแตกต่างออกไป ทักษะของคลาสนี้มีเพียงแค่ทักษะที่เกี่ยวกับการสนทนาเท่านั้น จึงอ่อนแอในด้านการต่อสู้ และไม่สามารถผลิตไอเท็มต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
การที่ฮิวรอยมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะความฉลาดส่วนตัวล้วนๆ เขาใช้ทักษะในการพูดเหล่านั้นไปกับเอ็นพีซีเพื่อให้ตนเองรับภารกิจให้ได้มากกว่าผู้เล่นอื่นหลายเท่า แต่วิธีการนี้ก็มีขีดจำกัดของมันอยู่ ยิ่งมีเลเวลสูงขึ้น ภารกิจก็จะยิ่งยากขึ้นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับกลับน้อยลง ในขณะที่คลาสอื่นออกล่ามอนสเตอร์หรือนั่งผลิตไอเท็ม แต่ฮิวรอยกลับต้องเลือกทำภารกิจระดับต่ำจำนวนมากๆ แทน เพราะไม่สามารถทำภารกิจในระดับเลเวลของตัวเองไหว
แต่ไม่ว่ายังไง เกมนี้คุณก็ต้องออกล่ามอนสเตอร์...
ด้วยความที่เป็นคลาสนักพูด อาวุธที่สามารถใช้ได้จึงถูกจำกัดไว้เพียงวงแคบๆ เท่านั้น แถมพลังชีวิตก็ยังต่ำเตี้ยสุดกู่ ค่าสถานะสำหรับการต่อสู้นั้นแทบไม่มีเลย การวิ่งทำภารกิจระดับต่ำจึงเป็นวัฏจักรที่ฮิวรอยไม่สามารถหนีพ้นได้ ตัวเขาในยามนี้ แม้จะต้องสู้กับมอนสเตอร์ที่มีระดับต่ำกว่าเขามากถึง 15 เลเวล แต่ฮิวรอยก็ยังมิอาจสู้พวกมันได้
แม้คลาสนักพูดจะมีทักษะทีเด็ดที่ถือเป็นไม้ตายอย่าง 'วาจาอาฆาต' ซึ่งจะทำให้ค่าสถานะของศัตรูลดลงอย่างมหาศาล แต่นั่นก็ไม่เหมาะที่จะใช้ในการต่อสู้ในระดับสูง แถมจำนวนครั้งที่ใช้ได้ก็ยังมีขีดจำกัดอีกด้วย
'จุดอ่อนอย่างใหญ่หลวงของคลาสเราคือความสามารถในการต่อสู้...ถ้าหากได้ค่าสถานะ [ความกล้าหาญ] มาครอบครองล่ะก็ มันจะต้องกลบจุดด้อยนั้นไปได้อย่างแน่นอน'
การจะได้ค่าความกล้าหาญมาครอบครองนั้นต้องทำภารกิจลับนี้ให้สำเร็จ หลังจากที่จุดไฟความกระหายในตัวให้ลุกโชนขึ้นได้ ฮิวรอยก็เดินมาถึงประตูทางออกหมู่บ้านฝั่งตะวันตก
เป็นประตูทางเข้าออกที่ค่อนข้างเงียบสงบมากทีเดียว นั่นเพราะว่าลอร์ดแห่งวินสตันไม่อนุญาตให้ชาวบ้านออกไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ มีเพียงนักเดินทางเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าออกได้
"ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยนะครับ"
ฮิวรอยเดินเข้าไปหาทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัวผู้เล่นให้ดู เขาเป็นเพียงนักเดินทางแปลกหน้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับชาวบ้านวินสตัน การเข้าออกจากที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก
ทว่า...ทหารยามกับไม่ยอมให้ฮิวรอยผ่านออกไปแต่โดยดี พวกมันที่เหลือกลับค่อยๆ เดินมาขวางทางออกไว้อย่างเงียบๆ
'บริษัทเมโร่รู้เรื่องการทรยศของเราแล้วงั้นหรือ?'
ท่าไม่ดีแล้วสิ...ถ้าหากฮิวรอยไม่รีบออกไปจากหมู่บ้าน เขาอาจถูกจับตัวได้โดยคนของบริษัทเมโร่จนภารกิจต้องล้มเหลวก็เป็นได้ นี่คือโอกาสทองหนึ่งในล้านที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ฮิวรอยจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
"พวกคุณมาขวางผมด้วยเหตุใดรึ? ไม่ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดรึเปล่าครับ?"
"......"
ฮิวรอยพยายามชวนทหารยามคุยด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้ มีความจำเป็นอย่างมากที่เขาจะต้องงัดอาวุธไม้ตายออกมาใช้...'คำพูด' นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นพวกทหารยามก็เอาแต่นิ่งเงียบโดยเลี่ยงที่จะพูดกับฮิวรอยอย่างเห็นได้ชัด
'กลิ่นไม่ค่อยดีแฮะ...'
ในขณะที่ฮิวรอยกำลังกระวนกระวายใจต้องการออกจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุด ทันใดนั้น น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร แต่ทหารยามพวกนั้นก็จะไม่มีวันตอบโต้กลับมาอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นคือคำสั่งที่ผมกำชับเอาไว้ว่าห้ามพูดคุยกับคุณอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับสัญญานจากผม"
ฮิวรอยตกตะลึงจนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ชายที่มีนามว่าแร็บบิทได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันจากด้านหลัง ชายคนนี้คือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเมโร่ที่มอบภารกิจการเกลี้ยกล่อมชาวบ้านมาให้
ฮิวรอยพยายามข่มท่าทีและสีหน้าอันสับสนเอาไว้ หลังจากนั้นก็หันกลับไปพูดทักทายกับแร็บบิทว่า "อ้าว...นั่นคุณแร็บบิทไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าต้องจัดการกับเอกสารกองโตอยู่ในสำนักงานหรอกหรอ?"
"ปวดหัวนิดหน่อยก็เลยออกมาเดินสูดอากาศน่ะ"
"ฮ่าฮ่า การผ่อนคลายเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คนเราคงทำงานได้ไม่ดีแน่ถ้าหากขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ว่าแต่คุณแร็บบิทครับ...ทำไมคุณถึงต้องสั่งห้ามไม่ให้พวกทหารคุยกับผมงั้นหรือ? ทำไมถึงต้องนำความสุขที่ได้จากการสนทนากับผู้คนของผมไปด้วย?"
แร็บบิทแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า
"คุณฮิวรอย ไม่ใช่ว่าคุณมีภารกิจที่ต้องไปเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้ผมรึไง? จากสัญญาที่คุณได้ให้ไว้กับผม ทันทีที่ทำภารกิจสำเร็จ คุณก็ต้องรีบมาแจ้งให้ผมรู้เพื่อรับรางวัลมิใช่หรือ? แล้วทำไมถึงได้ทำเหมือนกำลังจะหนีออกจากหมู่บ้านวินสตันอย่างนี้ล่ะ?"
ฮิวรอยค่อยๆ อธิบายกลับไปอย่างใจเย็น "ในการจะใช้อาวุธของผมซึ่งเป็นคำพูดกับผู้คนได้นั้น จำเป็นอย่างมากที่เหยื่อจะต้องมีช่องว่างเล็กน้อยในหัวสมองให้คำพูดของผมสอดแทรกเข้าไปได้ ดังนั้นจังหวะที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น นี่ไม่ใช่ภารกิจที่จะรีบร้อนทำให้เสร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น ก่อนจะถึงเวลานั้นผมจึงทำได้แค่รอ โดยในระหว่างที่รอ ผมก็ได้ทราบมาว่าภายนอกรอบๆ หมู่บ้านวินสตันนั้นมีบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยสดงดงาม จึงเกิดความรู้สึกอยากออกไปดูให้เห็นเป็นขวัญตาสักหน่อย คุณไปเอามาจากไหนว่าผมกำลังจะหนีไป? นั่นต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่"
แร็บบิทแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาว่า
"หืม...เป็นเช่นนั้นเองหรือ? แปลว่าผมเข้าใจในตัวคุณผิดไปอย่างนั้นสินะ?"
ด้วยความที่เป็นคลาสนักพูด ฮิวรอยจึงมีทักษะติดตัวที่ชื่อว่า 'การโน้มน้าว' และมีค่าสถานะ 'พลังโน้มน้าว' อยู่กับตัว ในตอนนี้ฮิวรอยที่ทั้งสองสิ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก เขาสามารถทำให้เอ็นพีซีเคลื่อนไหวได้ตามใจนึก ถ้าหากว่าใช้อย่างถูกวิธี
"ใช่แล้วล่ะ มันเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด ดังนั้นนะครับคุณแร็บบิท...ช่วยบอกให้ทหารยามเหล่านี้เลิกขัดขวางผมซักทีจะได้รึเปล่า?"
เมื่อดูจากท่าทีของแร็บบิท ฮิวรอยจึงคิดว่าเขาสามารถโน้มน้าวได้สำเร็จแล้ว ทว่าความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น แร็บบิทถือเป็นหนึ่งในเอ็นพีซีที่ค่าความฉลาดสูงที่สุดคนหนึ่ง แถมยังมีประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วนในการบริหารบริษัทเมโร่ให้เติบใหญ่ในดินแดนตอนเหนือได้ หมายความว่าฮิวรอยยังมีทักษะไม่มากพอที่จะโน้มน้าวจิตใจของแร็บบิทได้ในตอนนี้
แร็บบิทแสดงสีหน้าเศร้าใจเล็กน้อยออกมาให้เห็น "ผมคิดว่าคุณฮิวรอยจะมีทักษะการโน้มน้าวที่เป็นเลิศเสียอีก ผมเคยคิดว่ากับพวกชาวบ้านที่แสนโข่เขลาพวกนั้น คุณคงสามารถจัดการภารกิจให้เสร็จสิ้นได้ในพริบตา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นสินะ คุณไร้ความสามารถกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก ดูเหมือนผมจะตั้งความหวังสูงเกินไปสินะ"
"...อึก!"
"ในเช้าวันนี้ คนของบริษัทเมโร่ได้ทำการเดินแจกจ่ายใบปลิวไปจนทั่วหมู่บ้าน นั่นจะเป็นปัจจัยที่ดีในการสร้างช่องว่างขึ้นในหัวสมองของชาวบ้านตามที่คุณพูด ทันทีที่พวกเขาอ่านใบปลิวเหล่านั้นก็จะเกิดความสับสนขึ้นภายในจิตใจ ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่ดีที่สุดให้คุณเข้าไปโน้มน้าวพวกเขาจนยอมเป็นมิตรกับบริษัทเมโร่ แต่คุณกลับไร้ความสามารถจนมองไม่เห็นถึงโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ หรือไม่ก็...คุณกำลังคิดที่จะทรยศผมอยู่"
"อึก!"
แร็บบิทนั้นมีสายตาที่เฉียบแหลมดุจดั่งพญาเหยี่ยว แววตาของเขาที่จ้องมองมายังฮิวรอยสามารถสร้างแรงกดดันได้อย่างมหาศาล
ฮิวรอยรู้ตัวได้ในทันทีว่าโกหกต่อไปก็ไร้ผล "แร็บบิท...คุณรู้อยู่แล้วงั้นหรือว่าผมจะทรยศ? ก็เลยสั่งให้ทหารพวกนี้เตรียมตัวรับมือเอาไว้ล่วงหน้าโดยไม่ยอมให้พูดกับผม!"
แร็บบิทส่ายศีรษะเบาๆ
"ผมได้พบเจอผู้คนมามากมายหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะไม่เชื่อใจใครมาตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้คิดว่าคุณอาจจะทรยศ ผมเพียงแค่จำลองสถานการณ์ที่คุณหักหลังเอาไว้ในหัว แล้วสั่งให้ทหารเตรียมรับมือกับเรื่องนั้นเผื่อเอาไว้"
"เอาล่ะ คุยกันพอแค่นี้ดีกว่า คุณจะถูกขังอยู่ที่นี่สักพักล่ะนะ ผมล่ะผิดหวังจริงๆ...แทนที่คุณจะเกลี้ยกล่อมชาวบ้าน แต่กลับเข้าร่วมกับพวกเขาเสียได้ ขอโทษด้วยที่ผมคงปล่อยให้คุณไปพบกับเอิร์ลสไตม์ไม่ได้เด็ดขาด"
แร็บบิทส่งสัญญานให้ทหารยามเข้ามาควบคุมตัวฮิวรอยไว้
'จะจบแล้วงั้นหรอ...ตัวเราในตอนนี้ไม่มีทางสู้กับพวกทหารยามได้แน่ คงต้องถูกจับไปขังจนภารกิจล้มเหลวในที่สุด...'
'ไม่ได้...เราจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!'
ชั่วชีวิตนี้ของฮิวรอยอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำภารกิจลับอีกเลยก็เป็นได้ ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปง่ายๆ เด็ดขาด
'ลืมเรื่องการต่อสู้ไปก่อน เราคงต้องล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปตั้งสติมาใหม่ ว่ามีอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำบ้าง'
ฮิวรอยตัดสินใจออกจากเกมอย่างรวดเร็วฉับไว ในบางภารกิจและบางพื้นที่อาจจะไม่สามารถออกจากเกมได้ในทันทีก็จริง แต่ที่นี่เป็นหมู่บ้านซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากกำลังจับตามองอยู่
เขามั่นใจอย่างมากว่าการล็อคเอ้าท์คงจะไม่มีปัญหาใดๆ มาขัดขวางได้
"ล็อคเอ้าท์!"
[ ท่านไม่สามารถออกจากเกมได้ในตอนนี้ ]
"อะ...อะไรกัน?"
ฮิวรอยเผยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมากออกมา เป็นข้อความระบบที่เขาไม่คิดว่าจะมาเด้งขึ้นได้ในเวลาแบบนี้
"เลิกคิดต่อต้านอย่างสูญเปล่าเสียเถอะ!"
"อึก!"
หลังจากที่การล็อคเอ้าท์ไม่สำเร็จ ฮิวรอยก็ถูกทหารยามล้อมจับตัวเอาไว้ได้
แร็บบิ้ทพูดขึ้นอย่างเย้ยยันด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ "ล็อกเอ้าท์งั้นหรือ?...เวทย์มนต์ของพวกนักเดินทางที่ใช้หายตัวไปยังสถานที่ห่างไกลออกไปสินะ แต่คุณคงไม่รู้ว่าพวกเราเองก็มีวิธีจัดการกับเรื่องนั้นแล้วเหมือนกัน"
พวกเอ็นพีซีนั้นมีจิตใต้สำนึกที่สามารถแยกแยะระหว่างผู้เล่นกับตนเองได้ ดังนั้นแร็บบิทจึงไม่คิดที่จะฆ่าฮิวรอย ไม่อย่างนั้นฮิวรอยจะไปเกิดยังจุดเซฟใกล้ๆ และอาจหลบหนีไปได้ วิธีการที่แร็บบิทเลือกก็คือการนำตัวเขาไปขังเอาไว้
แร็บบิทออกคำสั่งกับพวกทหารยามอย่างเสียงดังฟังชัด
"คุมตัวไปขังไว้ที่คุกใต้ดินของปราสาทท่านลอร์ดซะ! แล้วอย่าลืมกำชับให้ท่านลอร์ดคอยจับตาดูไว้ให้ดีล่ะ"
"นะ...นี่มัน..."
ภารกิจลับครั้งแรกตั้งแต่เล่นเกมมากำลังจะล้มเหลวไม่เป็นท่าต่อหน้าต่อตา ฮิวรอยรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังถึงขีดสุด แต่ทันใดนั้นเอง หน้าต่างข้อความระบบก็เด้งขึ้นมาที่ตรงหน้าอีกครั้ง
[ ภารกิจ 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน ( A ) ' ถูกเปลี่ยนเป็น 'รอคอย ( S ) ' ]
[ ภารกิจ 'รอคอย' ]
ระดับความยาก : S
ด้วยความฉลาดเป็นกรดของแร็บบิท ภารกิจแจ้งข่าวของลอร์ดชั่วให้เอิร์ลสไตม์ได้รับรู้จึงล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่โชคดีที่ท่านยังคงเหลือโอกาสสุดท้ายอยู่
คุกใต้ดินของปราสาทวินสตันนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด ไม่เคยมีผู้ใดหลบหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียว! ท่ามกลางความมืดมิด ความหนาวเหน็บ และความไม่สะอาดของคุกใต้ดิน ท่านจะต้องเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ ถ้าหากท่านสามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายแห่งนี้ได้เป็นเวลานานมากพอ สาวกแห่งความเที่ยงธรรมจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ไม่ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมเป็นเวลา 50 ชั่วโมงติดต่อกัน (เวลาในชีวิตจริง)
* ภารกิจนี้อันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ผู้เล่นสูงอายุและผู้เล่นที่มีร่างกายไม่แข็งแรงควรยกเลิกภารกิจในทันที
[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่? ]
ข้อความภารกิจซึ่งเต็มไปด้วยข้อความอันไม่คุ้นเคยได้เด้งขึ้น ส่งผลให้ฮิวรอยรู้สึกทั้งสับสนและตึงเครียดในเวลาเดียวกัน
'ห้ามล็อคเอ้าท์ออกจากเป็นเวลา 50 ชั่วโมงในชีวิตจริง...ไม่ใช่เวลาในเกมงั้นหรอ? ภารกิจบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย?'
ฮิวรอยนั้นมีร่างกายในชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรง เขาจึงสามารถนอนเล่นเกมในแคปซูลได้ติดต่อกันเกิน 18 ชั่วโมงต่อวันอย่างสบายๆ โดยระยะเวลาที่เขาเคยอยู่ในเกมนานที่สุดคือ 20 ชั่วโมง
นั่นเป็นเพราะแคปซูลของซาทิสฟายมีระบบรักษาความปลอดภัยของผู้เล่นอยู่ ถ้าหากผู้เล่นออนไลน์ติดต่อกันนานถึง 20 ชั่วโมงเมื่อใด แคปซูลจะทำการตัดการเชื่อมต่อจากเกมในทันที และผู้เล่นคนดังกล่าวก็จะไม่สามารถเข้าเกมได้อีกเป็นเวลา 6 ชั่วโมง
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เอส. เอ. กรุ๊ป ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแคปซูลได้เป็นกังวลถึงสุขภาพของผู้เล่นและไม่ยอมให้ออนไลน์ในเกมเกิดกว่า 20 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด
แล้วนี่มันอะไรกัน? ภารกิจออนไลน์ต่อเนื่อง 50 ชั่วโมงติดต่อกัน? แถมยังต้องรออยู่เฉยๆ ภายในคุกใต้ดินที่มีสภาพแวดล้อมห่วยแตกสุดๆ อีก
'50 ชั่วโมงในชีวิตจริงเท่ากับ 8 วัน 8 ชั่วโมงในซาทิสฟาย พลังใจของเราจะแข็งแกร่งมากพอจะอดทนถึงขนาดนั้นโดยไม่ทำอะไรเลยได้มั้ยนะ?'
เป็นภารกิจที่อันตรายเป็นอย่างมาก มันอาจจะส่งผลให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นบ้าไปได้เลยถ้าหากไม่มีการเตรียมจิตใจที่ดีพอ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจไม่น้อย
'จากภารกิจลับระดับ A กลายเป็นมาภารกิจระดับ S งั้นหรอ...โอกาสแบบนี้เราคงพลาดไม่ได้เด็ดขาด'
ก่อนที่ฮิวรอยจะตัดสินใจรับภารกิจนี้ เขาต้องลองนึกดูก่อนว่า ในชีวิตจริงมีธุระสำคัญอะไรในอีกวันสองวันข้างหน้ารึไม่?...ไม่มี ฮิวรอยไม่มีนัดหมายหรือธุระใดในเร็วๆ นี้ทั้งนั้น เขามีครอบครัวที่คอยห่วงใยหรือคนที่จะมาปิดเครื่องแคปซูลในชีวิตจริงเพราะเป็นห่วงรึเปล่า?...ก็ไม่มีอีกเช่นกัน ฮิวรอยคือชายโสดที่อาศัยอยู่ตามลำพัง
ประตูบ้านปิดเรียบร้อยดีไหม? เขาอยู่บ้านโดยไม่ออกไปไหนมาติดต่อกัน 4 วันแล้ว แน่นอนว่าในช่วงนี้เขาได้ล็อคประตูบ้านเอาไว้อย่างแน่นหนา ฮิวรอยเข้าห้องน้ำครั้งล่าสุดเมื่อไรกัน?...สามชั่วโมงก่อนหน้านี้ ถ้าอย่างนั้น ฮิวรอยก็แค่ไปสลับโหมดของแคปซูลให้เป็นโหมดนอนหลับ ร่างกายของเขาก็จะสามารถนอนอยู่ในแคปซูลได้ 3 วันสบายๆ โดยไม่ต้องกินข้าวหรือดื่มน้ำ
เขาเคยมีประวัติการออนไลน์นานๆ แล้วร่างกายผิดปรกติรึเปล่า?...ก็ไม่ สภาพร่างกายของฮิวรอยไม่เป็นสองรองใคร
'งั้นก็เยี่ยมเลย ร่างกายของเรากำลังฟิตสมบูรณ์ ลองทำภารกิจนี้ดูซักหน่อยจะเป็นไรไป บริษัท เอส. เอ. กรุ๊ปที่ออกแบบภารกิจนี้มาคงไม่อยากให้คนเล่นตายไปจริงๆ หรอกมั้ง...'
ฮิวรอยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก่อนจะกดปุ่มตกลง
'เราจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด'
[ นี่คือคำเตือนครั้งสุดท้าย ท่านต้องการจะทำการกิจนี้จริงๆ ใช่ไหม? ]
"ยืนยัน"
[ รับภารกิจเรียบร้อย ]
[ ภารกิจ 'รอคอย' ]
ระดับความยาก : S
ด้วยความฉลาดเป็นกรดของแร็บบิท ภารกิจแจ้งข่าวของลอร์ดชั่วให้เอิร์ลสไตม์ได้รับรู้จึงล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่โชคดีที่ท่านยังคงเหลือโอกาสสุดท้ายอยู่
คุกใต้ดินของปราสาทวินสตันนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด ไม่เคยมีผู้ใดหลบหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียว! ท่ามกลางความมืดมิด ความหนาวเหน็บ และความไม่สะอาดของคุกใต้ดิน ท่านจะต้องเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ ถ้าหากท่านสามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายแห่งนี้ได้เป็นเวลานานมากพอ สาวกแห่งความเที่ยงธรรมจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ไม่ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมเป็นเวลา 50 ชั่วโมงติดต่อกัน (เวลาในชีวิตจริง)
* ภารกิจนี้อันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรงควรยกเลิกภารกิจในทันที
* นับตั้งแต่ที่ท่านรับภารกิจนี้ ระบบแคปซูลจะทำการตรวจสอบสภาพร่างกายของท่านอย่างละเอียดอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากพบความผิดปรกติแม้เพียงเล็กน้อย ท่านจะถูกบังคับให้ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมโดยอัตโนมัติ
* ถ้าหากท่านถูกแคปซูลบังคับให้ล็อคเอ้าท์ด้วยเหตุฉุกเฉินทางร่างกาย ทีมแพทย์ชั้นยอดของ เอส. เอ. กรุ๊ปจะตรงดิ่งไปที่บ้านของท่านในทันทีเพื่อรับมือกับเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
* แม้ว่าท่านจะทำภารกิจนี้จนสำเร็จและสามารถล็อคเอ้าท์ออกจากเกมได้ด้วยตัวเอง แต่ทีมแพทย์ของ เอส. เอ. กรุ๊ปก็จะยังคงไปทำการตรวจสภาพร่างกายของท่านอย่างละเอียดอีกครั้ง
* ท่านจำเป็นจะต้องอยู่ในเกมซาทิสฟายนานถึง 200 ชั่วโมงเพื่อทำภารกิจนี้ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการเชื่อมต่อออนไลน์เป็นเวลานาน ท่านอาจเกิดความสับสนระหว่างเวลาของโลกจริงกับในเกม ดังนั้นอย่าปล่อยให้ความตึงเครียดครอบงำจิตใจเป็นเวลานานเกินไป
ของรางวัลภารกิจ : ได้รับโอกาสในการเปลี่ยนเป็นคลาสขั้นที่ 2 ซึ่งมีชื่อว่า 'สหายของสาวกแห่งความเที่ยงธรรม', ได้รับสมญานาม 'ผู้ที่เอาชนะความยากลำบาก'
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : ไม่มี
[ คลาสสหายของสาวกแห่งความเที่ยงธรรม : ค่าสถานะ 'ความกล้าหาญ' จะถูกเปิดใช้งาน, ถ้าหากท่านอยู่ใกล้กับสาวกแห่งความเที่ยงธรรม ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 20%, ได้รับทักษะ 'ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย', ได้รับทักษะ 'พลีกายเพื่อความยุติธรรม' ]
[ สมญานาม 'ผู้ที่เอาชนะความยากลำบาก' : ค่าสถานะ 'ความทรหด' จะถูกเปิดใช้งาน, ค่าสถานะ 'จิตใจเข้มแข็ง' จะถูกเปิดใช้งาน ]
[ นับแต่นี้เป็นต้นไป แคปซูลของท่านจะถูกสลับเป็นโหมดนอนหลับ ]
[ นับแต่นี้เป็นต้นไป แคปซูลของท่านจะไม่สามารถถูกปิดการทำงานจากด้านนอกได้ ]
[ ถ้าหากแคปซูลถูกกระแทกหรือได้รับความเสียหายจากภายนอก ทาง เอส. เอ. กรุ๊ปจะทำการส่งคนไปคุ้มกันแคปซูลของท่านในทันที ]
[ พวกเราขอชื่นชมในความกล้าหาญของท่าน ขอให้โชคดี ]
"รู้สึกเหมือนได้เป็นผู้เล่นระดับวีไอพีเลยแฮะ"
นั่นคือความรู้สึกแรกหลังจากที่ฮิวรอยอ่านหน้าต่างข้อความระบบครบจนหมด
'ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว พลังใจของเราต้องอยู่ได้นานกว่า 200 ชั่วโมงแน่นอน'
ความกังวลจางๆ ของฮิวรอยที่เหลืออยู่ได้สลายไปจนหมด ระบบการจัดการของ เอส. เอ. กรุ๊ปนั้นเชื่อใจได้ยิ่งกว่าอะไร ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยมในทันที
'แล้วข้าจะรอนะ...สาวกแห่งความเที่ยมธรรม'
ถ้าหากเขามาช่วยเราออกไปจากที่นี่ได้จนสำเร็จภารกิจจริง เราขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเขาตลอดไป แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เอ็นพีซีคนหนึ่งก็ตาม
ในระหว่างที่ตัวละครของเขากำลังถูกขังอยู่ภายในคุกใต้ดินปราสาทวินสตัน ฮิวรอยก็ได้ลั่นสัตย์สาบานว่าจะจงรักตลอดไปต่อสาวกแห่งความเที่ยงธรรมผู้ที่ยังเป็นเพียงปริศนา
คนๆนั้นคือกริดไงละ หึหึหึ
ReplyDeleteถ้ามีจริงคงได้นอนตายคาแคปซูลล่ะ ภารกิจโคตรจะประหลาด
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDelete