จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 34
บนหน้าปัดนาฬิกาดิจิตัลกำลังแสดงตัวเลข '23:33'
ลิมชอลโฮผู้เป็นถึงหัวหน้าทีมพัฒนาของ เอส. เอ. กรุ๊ป กำลังทำนั่งทำอย่างอย่างขะมักเขม้นตั้งใจ ซาทิสฟายนั้นมีผู้เล่นกว่า 2 พันล้านคน ดังนั้นตัวแปรในโค้ดจึงมีจำนวนมากมายศาลอย่างที่ไม่มีวันจินตนาการออก ทุกๆ การกระทำของผู้เล่นทุกคนในเกม ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ล้วนถูกเก็บอยู่ในระบบฐานข้อมูลของเกมทั้งสิ้น ดังนั้นระบบที่ใหญ่โตขนาดนี้คงทนไม่ไหวแน่ถ้าหากมีข้อผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยเกิดขึ้น
ชายคนนี้มีความกระตืนรือร้นที่จะสร้างระบบเกมอันสมบูรณ์แบบให้ได้อยู่เสมอ
'จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด'
สมาธิและความจดจ่อของเขาอยู่เหนือผู้คนทั่วไปหลายเท่า ดังนั้นเวลาที่มีใครโทรศัพท์เข้ามา กว่าที่ลิมชอลโฮจะได้ยินก็ปาเข้าไป 40 กว่าวินาทีแล้ว ครั้งนี้เองก็เช่นกัน เป็นสายโทรศัพท์จากทีมปฏิบัติการของเขาเอง
"เกิดอะไรขึ้น?"
( มีผู้เล่นรับภารกิจ B408 แล้วครับ กรุณาอนุญาตให้มีการประชุมวางแผนรับมือเหตุร้ายด้วย )
ลิมชอลโฮประมวลผลสมองอันสุดแสนอัจฉริยะของเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ B408 ทั้งหมดออกมา
B408 เป็นรหัสของภารกิจลับระดับ S ที่เกิดขึ้นได้จากการที่ผู้เล่นเคลียเงื่อนไขอันซับซ้อนหลายปัจจัยได้สำเร็จ
'ถ้าจำไม่ผิด...รางวัลตอบแทนภารกิจ B408 คือคลาสรองใช่ไหม?'
ผู้เล่นที่สำเร็จภารกิจ B408 จะได้รับคลาสรองเป็นรางวัล บางทีว่า จากบรรดาผู้เล่นทั้งหมดในเกมซาทิสฟาย คนๆ นี้อาจได้เป็นผู้เล่นคนแรกที่มี 2 คลาสภายในตัวละครเดียว แต่ในทางตรงข้าม ยิ่งภารกิจที่รางวัลตอบแทนดี ระดับความยากก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
โดยเฉพาะภารกิจ B408 เนื้อหาของภารกิจนี้ค่อนข้างแตกต่างจากภารกิจอื่นๆ มาก ผู้เล่นจะต้องถูกขังอยู่ภายในห้องปิดตายเป็นเวลาในเกมนานถึง 200 ชั่วโมง แน่นอนว่าจะต้องส่งผลไปถึงสภาพจิตใจของผู้เล่นโดยตรง ด้วยความที่ภารกิจนี้มีโอกาสสูงที่ผู้เล่นจะเกิดการกระทบกระทั่งทางจิตใจ จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมกลุ่มบริษัท เอส. เอ. กรุ๊ปถึงต้องให้ผู้เล่นยินยอม 'การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว' โดยทีมพัฒนาได้ นั่นก็เพราะการมีตัวตนของภารกิจที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่าง B408 อยู่นั่นเอง
"ตกลง ผมอนุญาต ตัวผมเองก็จะไปร่วมการประชุมด้วย"
ลิมชอลโฮวางงานที่ทำอยู่ทั้งหมดลงทันที เขารีบมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมตามที่ได้รับแจ้งเอาไว้ ทันทีที่มาถึง เขาก็นั่งลงและอ่านเอกสารของภารกิจโดยละเอียด รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ของผู้เล่นที่เป็นคนรับภารกิจนี้ด้วย
"หืม...ยอดเลยแฮะ! ชาวมองโกเลียงั้นหรอ"
แต่เดิมนั้น มองโกเลียถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีทรัพยากรมั่งคั่งมากที่สุดของโลก แต่ด้วยความที่พวกเขามีเทคโนโลยีที่ล้าหลัง ทำให้ไม่สามารถจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก ทว่า หลังจากที่หลุดพ้นจากการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์มาได้ มองโกเลียก็กลายเป็นประเทศที่มีชั้นเชิงการทูตยอดเยี่ยมในทันที พวกเขาสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อหลายประเทศ จนกระทั่งกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ( เอฟดีไอ ) ยื่นมือเข้าไปลงทุนภายในมองโกเลีย
นับแต่นั้นเป็นต้นมา บรรดารัฐบาลและบริษัทใหญ่ทั่วโลกต่างหอบเงินไปลงทุนภายในมองโกเลียอย่างไม่หยุดหย่อน รวมไปถึงรัฐบาลและบริษัทของเกาหลีใต้เองด้วย ผู้คนต่างเรียกมองโกเลียว่าเป็น 'ดินแดนแห่งโอกาส' และทำการเทเม็ดเงินเข้าไปลงทุนจำนวนมหาศาล มองโกเลียจึงมีเงินหมุนเวียนภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ทว่า ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน หลังจากนั้นมองโกเลียก็เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งใหญ่ในปี 2010 ทำให้กลุ่มทุนเอฟดีไอทำการชะงักเงินที่จะเข้าไปลงทุนให้น้อยลง และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีถัดมา มองโกเลียก็ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองอีกครั้งเพื่อหวังจะซื้อใจนักลงทุนกลุ่มเอฟดีไอ แต่ความเชื่อมั่นที่สูญเสียไปแล้วนั้นไม่มีวันเอากลับมาได้อีก เอฟดีไอเลิกให้ความสนใจกับมองโกเลียในที่สุด เมื่อแผนไม่ได้เป็นไปดังหวัง มองโกเลียจึงยังคงเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาจนถึงปี 2030
แต่ในปัจจุบัน ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทั่วโลกเข้าสู่ยุคสมัยของเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและการทุ่มลงทุนในปัจจัยหลายด้าน ในปี 2040 เทคโนโลยีทั่วโลกก้าวล้ำถึงขีดสุด ประกอบกับรัฐบาลมองโกเลียได้ให้ความร่วมมือกับกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างดี จนในที่สุด ชนชาติของพวกเขาก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาจนได้
แต่ถึงอย่างนั้น การอพยบเร่ร่อนก็ดูเหมือนว่าจะฝังรากลึกอยู่ในสายเลือดและวัฒนธรรมของประชากรประเทศนี้ไปเสียแล้ว ผู้คนชาวมองโกเลียจำนวนมากยังคงเห็นว่าการอพยพเร่ร่อนไปตามผืนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่เป็นวิถีชีวิตที่น่าพิศมัยกว่า ส่งผลให้มองโกเลียกลายเป็นประเทศซึ่งมีประชากรที่เล่นซาทิสฟายน้อยที่สุดของโลก
จากสถิติในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากรที่เล่นซาทิสฟายจะอยู่ที่ 60% หรือสูงกว่า แถมงานที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟายในประเทศเหล่านั้นยังสามารถสร้างรายได้ก้อนโตได้อีกด้วย แต่ในมองโกเลียนั่นไม่ใช่ มีประชากรเพียง 3% เท่านั้นที่เล่มเกมนี้ สำหรับชนชาติที่มีวิถีชีวิตพเนจรไปตามที่ต่างๆ แล้ว คงจะไม่เหมาะเท่าใดนัก ถ้าหากพวกเขาต้องถูกขังอยู่ภายในแคปซูลแคบๆ เป็นเวลานาน
'3% ของประชากรงั้นหรอ...น้อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยแฮะ'
ผู้เล่นอายุ 25 ปีคนนี้มีนามว่า 'อัลลุนบาธ่าห์'...เป็นชื่อที่ค่อนข้างจะอ่านออกเสียงลำบากทีเดียว ชายคนนี้เป็นคลาสนักพูดที่มีเลเวลสูงถึง 127 การได้เห็นนักพูดเลเวล 127 ก็มากพอจะทำให้ลิมชอลโฮตกตะลึงได้แล้ว เพราะนักพูดเป็นคลาสที่อ่อนแอในด้านการต่อสู้อย่างมาก แต่สิ่งที่กลับทำให้ลิมชอลโฮตกใจยิ่งกว่า ก็คือการที่เขาเป็นชาวมองโกเลีย
'การเก็บเลเวลแบบเน้นทำแต่ภารกิจงั้นหรอ น่าสนใจดีนี่ ด้วยลักษณะพิเศษของนักพูด เขาได้ใช้ความสามารถนั้นในการมองหาภารกิจดีๆ ได้ตลอดเวลา เป็นรูปแบบการเล่นที่ไม่เลวเลย'
ในขณะที่ลิมชอลโฮกำลังอ่านเอกสารรายละเอียดอยู่ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บ้านก็ล้วนถูกเรียกตัวมาประชุมอย่างเร่งด่วนทั้งหมด บางรายมีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยหึ่ง ลิมชอลโฮให้ความสนใจกับ 'ยุนซังมิน' เป็นพิเศษ ในเวลาปรกติ ผู้อำนวยการยุนซังมินคนนี้มักจะรักความสะอาดและระเบียบจัดยิ่งกว่าใคร แต่สภาพของเขาในตอนนี้กลับกำลังมีผมเผ้าที่รุงรังยุ่งเหยิง
"ในบรรดาคนทั้งหมด ผมคิดว่าคุณจะเป็นคนที่จู้จี้เรื่องการหวีผมให้เรียบร้อยยิ่งกว่าใครเสียอีก ผมเคยคิดว่า แม้กระทั่งในยามสงคราม ถ้าเป็นคุณก็คงจะหวีผมให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปทำอย่างอื่น หรือว่าจุดอ่อนของคุณคือการที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกงั้นหรอ? ผอ. ยุน"
คณะกรรมการคนอื่นๆ ที่คิดเหมือนกันได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างดัง
"ในที่สุดก็ได้รู้จุดอ่อนของ ผอ. ยุนซักที"
"ฮ่าฮ่า ใช่แล้วล่ะ ผมเองก็เคยสงสัยว่า ผอ. ยุน เป็นหุ่นยนต์รึเปล่านะ? บางทีถ้าเขามีบาดแผล อาจจะไม่มีเลือดไหลออกมาก็ได้ โชคยังดีที่คุณเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรา"
บรรยากาศภายในห้องประชุมดูดีขึ้นถนัดตา มุกตลกของลิมชอลโฮได้ทำให้บรรดาคณะกรรมการตื่นจากอาการง่วงเหงาหาวนอนขึ้นมาทันที
'ถึงคิวที่ผมต้องกลายเป็นตัวตลกบ้างแล้วสินะ'
ยุนซังมินที่กำลังหน้าแดงได้กวักมือเรียกยุนนาฮีให้เข้ามาหา
"ดูเหมือนบรรดาผู้บริหารจะมากันครบแล้ว ตอนนี้ประธานสาขามองโกลเลียกับทีมงานพร้อมรึยัง?"
"จะต่อสายให้ทันทีเลยค่ะ"
ทันใดนั้น ที่ด้านบนโต๊ะกลมขนาดใหญ่กลางห้องประชุมได้ปรากฏภาพโฮโลแกรม 3 มิติขึ้น มันคือภาพของประธานและคณะผู้บริหาร เอส. เอ. กรุ๊ป สาขามองโกเลีย พวกเขากล่าวทักทายกับลิมชอลโฮอย่างเป็นมิตร
ลิมชอลโฮกล่าวเริ่มประชุมในทันที
"วาระการประชุมในวันนี้จะพูดถึงการให้ความปลอดภัยกับผู้เล่นชาวมองโกเลียที่ทำภารกิจ B408 เขามีชื่อว่าอัลลุนบาธ่าห์ ผมจะมอบหมายเรื่องนี้ให้ผู้จัดการสาขา 'พัค' เป็นคนดูแล"
ผู้จัดการ เอส. เอ. กรุ๊ปสาขามองโกเลียมีชื่อว่า 'พัคอึนฮยอก' เขาได้เตรียมการความปลอดภัยเอาไว้อย่างเรียบร้อยตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งถึงการปรากฏตัวของภารกิจ B408 แล้ว
"ผมได้ตรวจสอบ ไอพี แอดเดรส ที่อัลลุนบาธ่าห์ใช้เชื่อมต่อกับซาทิสฟายแล้ว ได้รับการยืนยันว่าเป็นข้อมูลซึ่งตรงกับที่พักอาศัยจริงของตัวเขา ดังนั้น ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ทีมแพทย์และตำรวจสามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีแน่นอนครับ ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างที่เขากำลังภารกิจอยู่ ทางเราจะส่งคนคอยจับตาดูความปลอดภัยจากด้านนอกอยู่ตลอดเวลาด้วย"
เป็นการทำงานที่รวดเร็วและฉับไว สีหน้าของลิมชอลโฮพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ผู้จัดการสาขาอย่างพัคอึนฮยอกได้แสดงความเห็นส่วนตัวออกมา
"สาขามองโกเลียของพวกเราได้เล็งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการจะสร้างความตื่นตัวขึ้น ผมคิดว่าเราควรปล่อยข่าวบางส่วนให้หลุดไปถึงหูสื่อมวลชน ให้พวกเขาไปกระพือข่าวว่า นี่คือผู้เล่นคนแรกที่สามารถครอบครองคลาสรองได้สำเร็จ หลังจากนั้น ข้อมูลของผู้เล่นคนดังกล่าวที่เป็นชาวมองโกเลียก็จะปรากฏสู่สายตาของคนทั้งโลก มันถือเป็นการประชาสัมพันธ์ทางอ้อมอย่างหนึ่ง ในไม่ช้า ชาวมองโกเลียก็จะมองอัลลุนบาธ่าห์เป็นดั่งฮีโร่ของพวกเขา นั่นจะทำให้ความสนใจในเกมซาทิสฟายภายในมองโกเลียเพิ่มมากขึ้น"
"อา...เป็นความคิดที่ไม่เลว หากหากพวกเขามีไอดอลที่จะเอาเป็นแบบอย่าง ไม่แน่ว่าจำนวนผู้เล่นอาจเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็เป็นได้"
"สื่อมวลชนนั้นมีอิทธิพลอย่างมากกับทุกประเทศอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชนของมองโกเลีย นี่จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ แล้วถ้าหากพวกเขาปั้นให้อัลลุนบาธ่าห์กลายเป็นคนดังได้สำเร็จ การประชาสัมพันธ์ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด"
มีผู้บริหารระดับสูงจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ก็ยังมีบางส่วนยังคงมีข้อโต้แย้งออกมา
"ถ้าเกิดว่าอัลลุนบาธ่าห์ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราประโคมข่าวให้คนทั้งโลกรอคอย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขากลับทำภารกิจล้มเหลว?"
ยุนซังมิน ผอ. ผู้ที่เพิ่งจะหวีผมเผ้าจนเรียบร้อยส่ายศีรษะเบาๆ พร้อมกับพูดว่า
"มันไม่สำคัญว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต่อให้ล้มเหลว แต่ความจริงที่ว่าอัลลุนบาธ่าห์เคลียเงื่อนไขอันซับซ้อนจนสามารถรับภารกิจลับระดับ S ได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป ก็จริงที่มันคงดีกว่าถ้าหากเขาทำภารกิจสำเร็จ แต่จากที่ผมดู ถ้าอัลลุนบาธ่าห์ไม่ได้มีปัญหาทางจิตใจจนกดล็อคเอ้าท์ออกมาเอง ด้วยสภาพร่างกายของเขาคงทำภารกิจ B408 ให้สำเร็จได้ไม่ยากนัก หัวหน้าทีมพัฒนายุนนาฮี คุณได้คำนวนโอกาสที่เขาจะทำภารกิจสำเร็จเอาไว้รึยัง?"
"ค่ะ"
ทันทีที่ยุนนาฮีพขานรับ คนในทีมของเธอก็นำเอกสารหลายชุดมอบให้กับบรรดาคณะผู้บริหารระดับสูง ส่วนเอกสารของสาขามองโกเลีย ทั้งหมดได้ถูกส่งเข้าไปในอีเมลอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก เมื่อคณะผู้บริหารอ่านเอกสารจบ ทุกคนล้วนเผยสีหน้าอันตึงเครียดพร้อมกับขมวดคิ้วทันที
"นี่หมายความว่ายังไง? ทำไมโอกาสสำเร็จถึงได้มีเพียง 9% กัน?"
ผอ. ยุนซังมินเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน "บ้าน่า..."
เขารู้สึกขัดแย่งกับผลจากเอกสารผลการวิเคราะห์ที่แจกจ่ายมาให้เป็นอย่างมาก
"ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ต้องทำในภารกิจ B408 มีเพียงแค่รอคอยให้เอ็นพีซีปริศนาปรากฏตัวออกมาช่วยรึไง? สภาพร่างกายของอัลลุนบาธ่าห์นั้นฟิตสมบูรณ์พร้อมเป็นอย่างมาก ถ้าหากเราคอยปกป้องเขาจากภายนอก และถ้าหากอัลลุนบาธ่าห์ไม่ได้ล็อคเอ้าท์ออกมาด้วยตนเอง เมื่อครบกำหนด เอ็นพีซีลึกลับก็จะมาช่วยและทำให้ภารกิจเสร็จสิ้น ภารกิจง่ายๆ เช่นนี้ ทำไมโอกาสสำเร็จถึงต่ำนัก? ที่ผมคาดไว้มันไม่ควรจะน้อยกว่า 80% เลยด้วยซ้ำ"
"เอ่อ..." ในขณะที่ยุนนาฮีกำลังจะอธิบาย
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เหตุใดจู่ๆ ลิมชอลโฮถึงได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาท่ามกลางห้องประชุมที่เงียบสงัดกันนะ? ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนพร้อมใจกันหันมามองเขาโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
จุ๊จุ๊จุ๊ ลิมชอลโฮจุ๊ปากเบาๆ ก่อนจะอธิบายออกไป "ยังคงเป็นคนเถรตรงเหมือนเดิมเลยนะ ผมว่าคุณควรอ่านเอกสารให้ละเอียดก่อนจะดีกว่า"
"......"
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนรวมไปถึง ผอ. ยุนซังมินก็ก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่ง ผ่านไปเพียงไม่นาน สีหน้าของทุกคนก็ดูแย่ลงถนัดตา โฉยเฉพาะยุนซังมินที่ถึงกับคลุ้มคลั่งจนฉีกแผ่นกระดาษเอกสารออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ไอ้หมอนี่...อีกแล้วหรอ..."
เดิมที่แล้ว เนื้อเรื่องของภารกิจ B408 จะเป็นดังนี้ :
ผู้เล่นที่มีค่าความสัมพันธ์กับชาวบ้านสูง จะตระหนักได้ถึงความชั่วร้ายของบริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตัน เมื่อนั้น ผู้เล่นก็จะมีเจตนารมณ์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไว้ใจและมอบภารกิจที่ชื่อว่า 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' มาให้
ทันทีที่รับภารกิจดังกล่าวมา เรื่องราวก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ผู้เล่นที่ได้รับภารกิจจะพยายามไปพบกับเอิร์ลสไตม์ให้ได้ แต่ผู้เล่นจะไม่มีวันทำสำเร็จ เพราะอำนาจของบริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตันนั้นแผ่ขยายปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ผลลัพธ์จะลงเอยด้วยการที่ผู้เล่นถูกจับไปขังไว้ในคุกใต้ดินของปราสาทวินสตัน
มาถึงจุดนี้ ภารกิจจะถูกเปลี่ยนจาก 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ไปเป็น 'รอคอย'
และทันทีที่ผู้เล่นรับภารกิจ 'รอคอย' เอ็นพีซีที่ชื่อว่า 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' ที่ซ่อนอยู่ในหมู่บ้านก็จะปรากฏตัวออกมาช่วยผู้เล่นหลังจากที่ผ่านไปแล้ว 200 ชั่วโมงในซาทิสฟาย
หลังจากนั้นก็จะมีภารกิจต่อเนื่องให้ผู้เล่นได้ทำร่วมกับ 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' อีกมากมายหลายภารกิจ ซึ่งหากทำทั้งหมดจนสำเร็จ ผู้เล่นก็จะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นไอเท็มล้ำค่าจำนวนมากเกินกว่าจะจินตนาการได้
ทว่า กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ด้วยความอิสระของซาทิสฟาย จึงมีปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอยู่บ่อยครั้ง และปัจจัยที่ว่านั้นก็คือ...
'การแบ่งปันข้อมูลภารกิจให้กับผู้เล่นอื่น'
ทันทีที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอ็นพีซีที่ชื่อว่า 'สาวกแห่งความเทียงธรรมลึกลับ' ก็จะหายตัวไปจากหมู่บ้านในทันที และภารกิจต่อเนื่องหลังจากนี้ทั้งหมดก็ถูกลบออกไปจากเกมอย่างถาวรเช่นกัน
โดยเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นที่อัลลุนบาธ่าห์ทำการแบ่งปันข้อมูลภารกิจด้วยจะทราบข่าวคราวการถูกจับตัวไปขังคุกของเขา ในภายหลัง ผู้เล่นคนดังกล่าวจะได้รับภารกิจให้มาช่วยเหลืออัลลุนบาธ่าห์ แทนที่จะเป็นเอ็นพีซี 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' ตามเดิม
และผู้เล่นคนที่ว่าก็คือ...
'กริด...'
เป็นผู้เล่นคนเดียวกับที่เมื่อ 12 วันก่อนที่ได้รับคลาสระดับเลเจนดารีอย่างโชคช่วย เขาคือผู้เล่นชาวเกาหลีที่มีนามว่า...ชินยองวู
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 34 - จบตอน
ลิมชอลโฮผู้เป็นถึงหัวหน้าทีมพัฒนาของ เอส. เอ. กรุ๊ป กำลังทำนั่งทำอย่างอย่างขะมักเขม้นตั้งใจ ซาทิสฟายนั้นมีผู้เล่นกว่า 2 พันล้านคน ดังนั้นตัวแปรในโค้ดจึงมีจำนวนมากมายศาลอย่างที่ไม่มีวันจินตนาการออก ทุกๆ การกระทำของผู้เล่นทุกคนในเกม ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ล้วนถูกเก็บอยู่ในระบบฐานข้อมูลของเกมทั้งสิ้น ดังนั้นระบบที่ใหญ่โตขนาดนี้คงทนไม่ไหวแน่ถ้าหากมีข้อผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยเกิดขึ้น
ชายคนนี้มีความกระตืนรือร้นที่จะสร้างระบบเกมอันสมบูรณ์แบบให้ได้อยู่เสมอ
'จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด'
สมาธิและความจดจ่อของเขาอยู่เหนือผู้คนทั่วไปหลายเท่า ดังนั้นเวลาที่มีใครโทรศัพท์เข้ามา กว่าที่ลิมชอลโฮจะได้ยินก็ปาเข้าไป 40 กว่าวินาทีแล้ว ครั้งนี้เองก็เช่นกัน เป็นสายโทรศัพท์จากทีมปฏิบัติการของเขาเอง
"เกิดอะไรขึ้น?"
( มีผู้เล่นรับภารกิจ B408 แล้วครับ กรุณาอนุญาตให้มีการประชุมวางแผนรับมือเหตุร้ายด้วย )
ลิมชอลโฮประมวลผลสมองอันสุดแสนอัจฉริยะของเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ B408 ทั้งหมดออกมา
B408 เป็นรหัสของภารกิจลับระดับ S ที่เกิดขึ้นได้จากการที่ผู้เล่นเคลียเงื่อนไขอันซับซ้อนหลายปัจจัยได้สำเร็จ
'ถ้าจำไม่ผิด...รางวัลตอบแทนภารกิจ B408 คือคลาสรองใช่ไหม?'
( ผู้แปล : ขอแก้ไขความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ด้วย ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Second Class ในตอนแรกผมคิดว่าหมายถึง คลาสขั้นที่ 2 เช่นจาก Novice > Swordman > Knight อะไรแบบนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ Second Class หมายถึงคลาสรอง เช่น ถ้าฮิวรอยทำภารกิจนี้สำเร็จ เขาจะมีคลาส'หลัก'เป็นนักพูด และคลาส'รอง'เป็นสหายของสาวกแห่งความเที่ยงธรรม )
ผู้เล่นที่สำเร็จภารกิจ B408 จะได้รับคลาสรองเป็นรางวัล บางทีว่า จากบรรดาผู้เล่นทั้งหมดในเกมซาทิสฟาย คนๆ นี้อาจได้เป็นผู้เล่นคนแรกที่มี 2 คลาสภายในตัวละครเดียว แต่ในทางตรงข้าม ยิ่งภารกิจที่รางวัลตอบแทนดี ระดับความยากก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
โดยเฉพาะภารกิจ B408 เนื้อหาของภารกิจนี้ค่อนข้างแตกต่างจากภารกิจอื่นๆ มาก ผู้เล่นจะต้องถูกขังอยู่ภายในห้องปิดตายเป็นเวลาในเกมนานถึง 200 ชั่วโมง แน่นอนว่าจะต้องส่งผลไปถึงสภาพจิตใจของผู้เล่นโดยตรง ด้วยความที่ภารกิจนี้มีโอกาสสูงที่ผู้เล่นจะเกิดการกระทบกระทั่งทางจิตใจ จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมกลุ่มบริษัท เอส. เอ. กรุ๊ปถึงต้องให้ผู้เล่นยินยอม 'การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว' โดยทีมพัฒนาได้ นั่นก็เพราะการมีตัวตนของภารกิจที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่าง B408 อยู่นั่นเอง
"ตกลง ผมอนุญาต ตัวผมเองก็จะไปร่วมการประชุมด้วย"
ลิมชอลโฮวางงานที่ทำอยู่ทั้งหมดลงทันที เขารีบมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมตามที่ได้รับแจ้งเอาไว้ ทันทีที่มาถึง เขาก็นั่งลงและอ่านเอกสารของภารกิจโดยละเอียด รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ของผู้เล่นที่เป็นคนรับภารกิจนี้ด้วย
"หืม...ยอดเลยแฮะ! ชาวมองโกเลียงั้นหรอ"
แต่เดิมนั้น มองโกเลียถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีทรัพยากรมั่งคั่งมากที่สุดของโลก แต่ด้วยความที่พวกเขามีเทคโนโลยีที่ล้าหลัง ทำให้ไม่สามารถจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก ทว่า หลังจากที่หลุดพ้นจากการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์มาได้ มองโกเลียก็กลายเป็นประเทศที่มีชั้นเชิงการทูตยอดเยี่ยมในทันที พวกเขาสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อหลายประเทศ จนกระทั่งกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ( เอฟดีไอ ) ยื่นมือเข้าไปลงทุนภายในมองโกเลีย
นับแต่นั้นเป็นต้นมา บรรดารัฐบาลและบริษัทใหญ่ทั่วโลกต่างหอบเงินไปลงทุนภายในมองโกเลียอย่างไม่หยุดหย่อน รวมไปถึงรัฐบาลและบริษัทของเกาหลีใต้เองด้วย ผู้คนต่างเรียกมองโกเลียว่าเป็น 'ดินแดนแห่งโอกาส' และทำการเทเม็ดเงินเข้าไปลงทุนจำนวนมหาศาล มองโกเลียจึงมีเงินหมุนเวียนภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ทว่า ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน หลังจากนั้นมองโกเลียก็เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งใหญ่ในปี 2010 ทำให้กลุ่มทุนเอฟดีไอทำการชะงักเงินที่จะเข้าไปลงทุนให้น้อยลง และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีถัดมา มองโกเลียก็ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองอีกครั้งเพื่อหวังจะซื้อใจนักลงทุนกลุ่มเอฟดีไอ แต่ความเชื่อมั่นที่สูญเสียไปแล้วนั้นไม่มีวันเอากลับมาได้อีก เอฟดีไอเลิกให้ความสนใจกับมองโกเลียในที่สุด เมื่อแผนไม่ได้เป็นไปดังหวัง มองโกเลียจึงยังคงเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาจนถึงปี 2030
แต่ในปัจจุบัน ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทั่วโลกเข้าสู่ยุคสมัยของเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและการทุ่มลงทุนในปัจจัยหลายด้าน ในปี 2040 เทคโนโลยีทั่วโลกก้าวล้ำถึงขีดสุด ประกอบกับรัฐบาลมองโกเลียได้ให้ความร่วมมือกับกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างดี จนในที่สุด ชนชาติของพวกเขาก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาจนได้
แต่ถึงอย่างนั้น การอพยบเร่ร่อนก็ดูเหมือนว่าจะฝังรากลึกอยู่ในสายเลือดและวัฒนธรรมของประชากรประเทศนี้ไปเสียแล้ว ผู้คนชาวมองโกเลียจำนวนมากยังคงเห็นว่าการอพยพเร่ร่อนไปตามผืนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่เป็นวิถีชีวิตที่น่าพิศมัยกว่า ส่งผลให้มองโกเลียกลายเป็นประเทศซึ่งมีประชากรที่เล่นซาทิสฟายน้อยที่สุดของโลก
จากสถิติในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากรที่เล่นซาทิสฟายจะอยู่ที่ 60% หรือสูงกว่า แถมงานที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟายในประเทศเหล่านั้นยังสามารถสร้างรายได้ก้อนโตได้อีกด้วย แต่ในมองโกเลียนั่นไม่ใช่ มีประชากรเพียง 3% เท่านั้นที่เล่มเกมนี้ สำหรับชนชาติที่มีวิถีชีวิตพเนจรไปตามที่ต่างๆ แล้ว คงจะไม่เหมาะเท่าใดนัก ถ้าหากพวกเขาต้องถูกขังอยู่ภายในแคปซูลแคบๆ เป็นเวลานาน
'3% ของประชากรงั้นหรอ...น้อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยแฮะ'
ผู้เล่นอายุ 25 ปีคนนี้มีนามว่า 'อัลลุนบาธ่าห์'...เป็นชื่อที่ค่อนข้างจะอ่านออกเสียงลำบากทีเดียว ชายคนนี้เป็นคลาสนักพูดที่มีเลเวลสูงถึง 127 การได้เห็นนักพูดเลเวล 127 ก็มากพอจะทำให้ลิมชอลโฮตกตะลึงได้แล้ว เพราะนักพูดเป็นคลาสที่อ่อนแอในด้านการต่อสู้อย่างมาก แต่สิ่งที่กลับทำให้ลิมชอลโฮตกใจยิ่งกว่า ก็คือการที่เขาเป็นชาวมองโกเลีย
'การเก็บเลเวลแบบเน้นทำแต่ภารกิจงั้นหรอ น่าสนใจดีนี่ ด้วยลักษณะพิเศษของนักพูด เขาได้ใช้ความสามารถนั้นในการมองหาภารกิจดีๆ ได้ตลอดเวลา เป็นรูปแบบการเล่นที่ไม่เลวเลย'
ในขณะที่ลิมชอลโฮกำลังอ่านเอกสารรายละเอียดอยู่ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บ้านก็ล้วนถูกเรียกตัวมาประชุมอย่างเร่งด่วนทั้งหมด บางรายมีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยหึ่ง ลิมชอลโฮให้ความสนใจกับ 'ยุนซังมิน' เป็นพิเศษ ในเวลาปรกติ ผู้อำนวยการยุนซังมินคนนี้มักจะรักความสะอาดและระเบียบจัดยิ่งกว่าใคร แต่สภาพของเขาในตอนนี้กลับกำลังมีผมเผ้าที่รุงรังยุ่งเหยิง
"ในบรรดาคนทั้งหมด ผมคิดว่าคุณจะเป็นคนที่จู้จี้เรื่องการหวีผมให้เรียบร้อยยิ่งกว่าใครเสียอีก ผมเคยคิดว่า แม้กระทั่งในยามสงคราม ถ้าเป็นคุณก็คงจะหวีผมให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปทำอย่างอื่น หรือว่าจุดอ่อนของคุณคือการที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกงั้นหรอ? ผอ. ยุน"
คณะกรรมการคนอื่นๆ ที่คิดเหมือนกันได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างดัง
"ในที่สุดก็ได้รู้จุดอ่อนของ ผอ. ยุนซักที"
"ฮ่าฮ่า ใช่แล้วล่ะ ผมเองก็เคยสงสัยว่า ผอ. ยุน เป็นหุ่นยนต์รึเปล่านะ? บางทีถ้าเขามีบาดแผล อาจจะไม่มีเลือดไหลออกมาก็ได้ โชคยังดีที่คุณเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรา"
บรรยากาศภายในห้องประชุมดูดีขึ้นถนัดตา มุกตลกของลิมชอลโฮได้ทำให้บรรดาคณะกรรมการตื่นจากอาการง่วงเหงาหาวนอนขึ้นมาทันที
'ถึงคิวที่ผมต้องกลายเป็นตัวตลกบ้างแล้วสินะ'
ยุนซังมินที่กำลังหน้าแดงได้กวักมือเรียกยุนนาฮีให้เข้ามาหา
"ดูเหมือนบรรดาผู้บริหารจะมากันครบแล้ว ตอนนี้ประธานสาขามองโกลเลียกับทีมงานพร้อมรึยัง?"
"จะต่อสายให้ทันทีเลยค่ะ"
ทันใดนั้น ที่ด้านบนโต๊ะกลมขนาดใหญ่กลางห้องประชุมได้ปรากฏภาพโฮโลแกรม 3 มิติขึ้น มันคือภาพของประธานและคณะผู้บริหาร เอส. เอ. กรุ๊ป สาขามองโกเลีย พวกเขากล่าวทักทายกับลิมชอลโฮอย่างเป็นมิตร
ลิมชอลโฮกล่าวเริ่มประชุมในทันที
"วาระการประชุมในวันนี้จะพูดถึงการให้ความปลอดภัยกับผู้เล่นชาวมองโกเลียที่ทำภารกิจ B408 เขามีชื่อว่าอัลลุนบาธ่าห์ ผมจะมอบหมายเรื่องนี้ให้ผู้จัดการสาขา 'พัค' เป็นคนดูแล"
ผู้จัดการ เอส. เอ. กรุ๊ปสาขามองโกเลียมีชื่อว่า 'พัคอึนฮยอก' เขาได้เตรียมการความปลอดภัยเอาไว้อย่างเรียบร้อยตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งถึงการปรากฏตัวของภารกิจ B408 แล้ว
"ผมได้ตรวจสอบ ไอพี แอดเดรส ที่อัลลุนบาธ่าห์ใช้เชื่อมต่อกับซาทิสฟายแล้ว ได้รับการยืนยันว่าเป็นข้อมูลซึ่งตรงกับที่พักอาศัยจริงของตัวเขา ดังนั้น ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ทีมแพทย์และตำรวจสามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีแน่นอนครับ ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างที่เขากำลังภารกิจอยู่ ทางเราจะส่งคนคอยจับตาดูความปลอดภัยจากด้านนอกอยู่ตลอดเวลาด้วย"
เป็นการทำงานที่รวดเร็วและฉับไว สีหน้าของลิมชอลโฮพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ผู้จัดการสาขาอย่างพัคอึนฮยอกได้แสดงความเห็นส่วนตัวออกมา
"สาขามองโกเลียของพวกเราได้เล็งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการจะสร้างความตื่นตัวขึ้น ผมคิดว่าเราควรปล่อยข่าวบางส่วนให้หลุดไปถึงหูสื่อมวลชน ให้พวกเขาไปกระพือข่าวว่า นี่คือผู้เล่นคนแรกที่สามารถครอบครองคลาสรองได้สำเร็จ หลังจากนั้น ข้อมูลของผู้เล่นคนดังกล่าวที่เป็นชาวมองโกเลียก็จะปรากฏสู่สายตาของคนทั้งโลก มันถือเป็นการประชาสัมพันธ์ทางอ้อมอย่างหนึ่ง ในไม่ช้า ชาวมองโกเลียก็จะมองอัลลุนบาธ่าห์เป็นดั่งฮีโร่ของพวกเขา นั่นจะทำให้ความสนใจในเกมซาทิสฟายภายในมองโกเลียเพิ่มมากขึ้น"
"อา...เป็นความคิดที่ไม่เลว หากหากพวกเขามีไอดอลที่จะเอาเป็นแบบอย่าง ไม่แน่ว่าจำนวนผู้เล่นอาจเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็เป็นได้"
"สื่อมวลชนนั้นมีอิทธิพลอย่างมากกับทุกประเทศอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชนของมองโกเลีย นี่จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ แล้วถ้าหากพวกเขาปั้นให้อัลลุนบาธ่าห์กลายเป็นคนดังได้สำเร็จ การประชาสัมพันธ์ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด"
มีผู้บริหารระดับสูงจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ก็ยังมีบางส่วนยังคงมีข้อโต้แย้งออกมา
"ถ้าเกิดว่าอัลลุนบาธ่าห์ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราประโคมข่าวให้คนทั้งโลกรอคอย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขากลับทำภารกิจล้มเหลว?"
ยุนซังมิน ผอ. ผู้ที่เพิ่งจะหวีผมเผ้าจนเรียบร้อยส่ายศีรษะเบาๆ พร้อมกับพูดว่า
"มันไม่สำคัญว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต่อให้ล้มเหลว แต่ความจริงที่ว่าอัลลุนบาธ่าห์เคลียเงื่อนไขอันซับซ้อนจนสามารถรับภารกิจลับระดับ S ได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป ก็จริงที่มันคงดีกว่าถ้าหากเขาทำภารกิจสำเร็จ แต่จากที่ผมดู ถ้าอัลลุนบาธ่าห์ไม่ได้มีปัญหาทางจิตใจจนกดล็อคเอ้าท์ออกมาเอง ด้วยสภาพร่างกายของเขาคงทำภารกิจ B408 ให้สำเร็จได้ไม่ยากนัก หัวหน้าทีมพัฒนายุนนาฮี คุณได้คำนวนโอกาสที่เขาจะทำภารกิจสำเร็จเอาไว้รึยัง?"
"ค่ะ"
ทันทีที่ยุนนาฮีพขานรับ คนในทีมของเธอก็นำเอกสารหลายชุดมอบให้กับบรรดาคณะผู้บริหารระดับสูง ส่วนเอกสารของสาขามองโกเลีย ทั้งหมดได้ถูกส่งเข้าไปในอีเมลอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก เมื่อคณะผู้บริหารอ่านเอกสารจบ ทุกคนล้วนเผยสีหน้าอันตึงเครียดพร้อมกับขมวดคิ้วทันที
"นี่หมายความว่ายังไง? ทำไมโอกาสสำเร็จถึงได้มีเพียง 9% กัน?"
ผอ. ยุนซังมินเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน "บ้าน่า..."
เขารู้สึกขัดแย่งกับผลจากเอกสารผลการวิเคราะห์ที่แจกจ่ายมาให้เป็นอย่างมาก
"ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ต้องทำในภารกิจ B408 มีเพียงแค่รอคอยให้เอ็นพีซีปริศนาปรากฏตัวออกมาช่วยรึไง? สภาพร่างกายของอัลลุนบาธ่าห์นั้นฟิตสมบูรณ์พร้อมเป็นอย่างมาก ถ้าหากเราคอยปกป้องเขาจากภายนอก และถ้าหากอัลลุนบาธ่าห์ไม่ได้ล็อคเอ้าท์ออกมาด้วยตนเอง เมื่อครบกำหนด เอ็นพีซีลึกลับก็จะมาช่วยและทำให้ภารกิจเสร็จสิ้น ภารกิจง่ายๆ เช่นนี้ ทำไมโอกาสสำเร็จถึงต่ำนัก? ที่ผมคาดไว้มันไม่ควรจะน้อยกว่า 80% เลยด้วยซ้ำ"
"เอ่อ..." ในขณะที่ยุนนาฮีกำลังจะอธิบาย
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เหตุใดจู่ๆ ลิมชอลโฮถึงได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาท่ามกลางห้องประชุมที่เงียบสงัดกันนะ? ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนพร้อมใจกันหันมามองเขาโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
จุ๊จุ๊จุ๊ ลิมชอลโฮจุ๊ปากเบาๆ ก่อนจะอธิบายออกไป "ยังคงเป็นคนเถรตรงเหมือนเดิมเลยนะ ผมว่าคุณควรอ่านเอกสารให้ละเอียดก่อนจะดีกว่า"
"......"
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนรวมไปถึง ผอ. ยุนซังมินก็ก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่ง ผ่านไปเพียงไม่นาน สีหน้าของทุกคนก็ดูแย่ลงถนัดตา โฉยเฉพาะยุนซังมินที่ถึงกับคลุ้มคลั่งจนฉีกแผ่นกระดาษเอกสารออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ไอ้หมอนี่...อีกแล้วหรอ..."
เดิมที่แล้ว เนื้อเรื่องของภารกิจ B408 จะเป็นดังนี้ :
ผู้เล่นที่มีค่าความสัมพันธ์กับชาวบ้านสูง จะตระหนักได้ถึงความชั่วร้ายของบริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตัน เมื่อนั้น ผู้เล่นก็จะมีเจตนารมณ์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไว้ใจและมอบภารกิจที่ชื่อว่า 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' มาให้
ทันทีที่รับภารกิจดังกล่าวมา เรื่องราวก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ผู้เล่นที่ได้รับภารกิจจะพยายามไปพบกับเอิร์ลสไตม์ให้ได้ แต่ผู้เล่นจะไม่มีวันทำสำเร็จ เพราะอำนาจของบริษัทเมโร่และลอร์ดวินสตันนั้นแผ่ขยายปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ผลลัพธ์จะลงเอยด้วยการที่ผู้เล่นถูกจับไปขังไว้ในคุกใต้ดินของปราสาทวินสตัน
มาถึงจุดนี้ ภารกิจจะถูกเปลี่ยนจาก 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ไปเป็น 'รอคอย'
และทันทีที่ผู้เล่นรับภารกิจ 'รอคอย' เอ็นพีซีที่ชื่อว่า 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' ที่ซ่อนอยู่ในหมู่บ้านก็จะปรากฏตัวออกมาช่วยผู้เล่นหลังจากที่ผ่านไปแล้ว 200 ชั่วโมงในซาทิสฟาย
หลังจากนั้นก็จะมีภารกิจต่อเนื่องให้ผู้เล่นได้ทำร่วมกับ 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' อีกมากมายหลายภารกิจ ซึ่งหากทำทั้งหมดจนสำเร็จ ผู้เล่นก็จะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นไอเท็มล้ำค่าจำนวนมากเกินกว่าจะจินตนาการได้
ทว่า กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ด้วยความอิสระของซาทิสฟาย จึงมีปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอยู่บ่อยครั้ง และปัจจัยที่ว่านั้นก็คือ...
'การแบ่งปันข้อมูลภารกิจให้กับผู้เล่นอื่น'
ทันทีที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอ็นพีซีที่ชื่อว่า 'สาวกแห่งความเทียงธรรมลึกลับ' ก็จะหายตัวไปจากหมู่บ้านในทันที และภารกิจต่อเนื่องหลังจากนี้ทั้งหมดก็ถูกลบออกไปจากเกมอย่างถาวรเช่นกัน
โดยเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นที่อัลลุนบาธ่าห์ทำการแบ่งปันข้อมูลภารกิจด้วยจะทราบข่าวคราวการถูกจับตัวไปขังคุกของเขา ในภายหลัง ผู้เล่นคนดังกล่าวจะได้รับภารกิจให้มาช่วยเหลืออัลลุนบาธ่าห์ แทนที่จะเป็นเอ็นพีซี 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรมลึกลับ' ตามเดิม
และผู้เล่นคนที่ว่าก็คือ...
'กริด...'
เป็นผู้เล่นคนเดียวกับที่เมื่อ 12 วันก่อนที่ได้รับคลาสระดับเลเจนดารีอย่างโชคช่วย เขาคือผู้เล่นชาวเกาหลีที่มีนามว่า...ชินยองวู
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 34 - จบตอน
555กรรมๆๆๆ
ReplyDeleteนึกอยู่แล้วต้องให้พระเอกไปช่วย
ReplyDeleteซวยไปกริดงายย
ReplyDeleteผมชอบ กริดงาย 5555
Deleteสกิลเพราะเอกเริ่มมา
ReplyDeleteให้กริดงายพาชนะสินะหวังที่นารอสชัดๆ...ผิดๆๆๆเกมส์
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteซวยอีกแล้วสินะ
ReplyDeleteทำคนเดียวก็ดีอยู่แล้วโอกาสสำเร็จตั้ง80เปอร์ ดันแชร์ภาระกิจให้ใครไม่แชร์แชร์ให้ตัวซวยเลยเหลือ9เปอร์ อ่ะหรือจะโชคดี55555555
ReplyDeleteซวยจนโดนจับขังทั้งคู่อะดิ 555
ReplyDeleteถึงช่วยได้ก็มีกระอักเลือดกันบ้างล่ะเอ็ง
ReplyDeleteอ่านแล้วฮ่าจริงๆตอนนี้
ReplyDeleteไม่น่าเลยยยยยยย555
ReplyDelete