จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 32
"เฮ้!...แกน่ะ"
ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดขัดคอฮิวรอย ข่านกลับเบรกเราเอาไว้ซะก่อน
"กริด...ตรงนี้ให้ข้าจัดการเอง"
ข่านหันมามองเราด้วยสายตาขอบคุณพร้อมกับเดินเข้าไปหาฮิวรอย
"คำพูดของแกก็ไม่ผิดนักหรอก เป็นเรื่องดีที่พวกเราควรจะเป็นมิตรกับบริษัทใหญ่เอาไว้"
ข่านคิดจะทำอะไรกันแน่?
ผู้คนต่างตกตะลึงในทันทีที่ได้ยินข่านพูดแบบนั้น เขาเป็นถึงตัวตั้งตัวตีหลักในการต่อต้านบริษัทเมโร่มาโดยตลอด แต่ยามนี้กลับเห็นด้วยกับคำพูดของฮิวรอยชายหนุ่มปริศนา จึงไม่แปลกที่ฝูงชนจะเริ่มให้ความสนใจว่าข่านคิดจะพูดอะไรต่อไป
ข่านกล่าวต่อไปว่า "ถ้าหากวินสตันไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของเอิร์ลสไตม์ล่ะก็...พวกเราคงเข้าร่วมกับบริษัทเมโร่ไปนานแล้ว"
เป็นคำกล่าวที่แฝงไว้ด้วยถ้อยคำให้ขบคิดมากมาย ฮิวรอยเองก็มีสีหน้าครุ่นคริดอยู่ครู่หนึ่ง
"ถ้าหากไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของเอิร์ลสไตม์งั้นหรอ?"
"ใช่แล้วล่ะ...ใจความสำคัญก็คือ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในเขตปกครองของเอิร์ลสไตม์ ข้าก็ไม่รู้ว่าแกมาจากไหนหรอกนะ แต่ที่นี่มีกฏหมายที่ชื่อว่า 'สิทธิของประชาชน' อยู่ มันคือกฏหมายที่เอิร์ลสไตม์บัญญัติขึ้นเพื่อปกป้องประชาชนอันเป็นที่รัก และใจความสำคัญส่วนหนึ่งของกฏหมายดังกล่าวก็คือ 'ประชาชนที่อยู่ภายในเขตปกครองของเอิร์ลสไตม์จะได้รับสิทธิพิเศษในการร้องทุกข์ก่อนใคร'"
ข่านเริ่มอธิบายถึงข้อกฏหมาย
"แกรู้รึเปล่าว่านี่เป็นยุคสมัยแห่งการสำรวจดินแดนตอนเหนือ? ดินแดนตอนเหนือนั้นมีทั้งสภาพอากาศที่เลวร้ายและฝูงมอนสเตอร์ที่เกรี้ยวกราด คณะสำรวจจำนวนมากต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้จนปวดหัวไม่น้อย แล้วแกรู้รึเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีดินแดนใหม่ถูกค้นพบขึ้นมา?"
ฮิวรอยรีบตอบกลับไปในทันที "...ตามปรกติแล้ว หมู่บ้านและเมืองที่อยู่โดยรอบดินแดนดังกล่าวก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างมาก"
ข่านพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับคำตอบของฮิวรอย
"ถูกต้อง นั่นสามารถอธิบายถึงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของหมู่บ้านวินสตันในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องที่ถนนหนทางถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและการขนส่งที่สะดวกสบาย เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่ามีดินแดนใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านแห่งนี้ยังไงล่ะ วันสตันจึงกำลังกลายเป็นตัวกลางที่คอยเชื่อมระหว่างดินแดนใหม่นั้นกับเมืองหลวง"
"แกเข้าใจรึเปล่าว่าดินแดนตอนเหนือแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันอยู่ตลอดเวลา? หายนะอันใหญ่หลวงหรือแม้กระทั่งลาภก้อนโตสามารถเกิดกับชาวบ้านได้ทุกเมื่อ!"
ข่านรีบสรุปเข้าประเด็นในทันที
"นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเอิร์ลสไตม์ถึงได้ระบุเอาไว้ในกฏหมายให้ชาวบ้านในเขตการของครองของท่านได้มีสิทธิ์ร้องทุกข์ก่อนใคร เพื่อที่พวกเขาจะได้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันได้อย่างถูกวิธียังไงล่ะ ทั้งการประสบหายนะอันเลวร้ายสุดขีด...รวมไปถึงโชคลาภมหาศาลที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา"
ฮิวรอยเข้าใจถึงสิ่งที่ข่านต้องการจะสื่อได้ในทันที "เข้าใจแล้ว...การค้นพบดินแดนใหม่จนวินสตันเจริญรุ่งเรืองนั้น หากมองจากเจตจำนงที่เห็นแก่คนหมู่มากของเอิร์ลสไตม์ ผู้ที่ควรได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงก็คือชาวบ้านวินสตัน...หาใช่บริษัทเมโร่อย่างนั้นสินะ การกระทำของบริษัทเมโร่และลอร์ดชั่วได้ขัดต่อความตั้งใจของเอิร์ลสไตม์ คุณถึงได้พยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องในสิ่งนั้น...ผมเข้าใจถูกรึเปล่า?"
"ไม่ผิดแม้แต่คำเดียว เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเราจึงไม่มีวันอ่อนข้อให้กับบริษัทเมโร่อย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อการสานต่อความตั้งใจอันดีงามของเอิร์ลสไตม์ให้คงอยู่ต่อไปด้วย! พวกเราจะต้องร้องเรียนเรื่องของลอร์ดชั่วกับบริษัทเมโร่ให้เอิร์ลสไตม์ได้รับรู้"
อา...คำพูดของข่านคือสิ่งที่ชอบธรรมอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้คนต่างโห่ร้องยินดีและตื่นเต้นในคำพูดของข่าน ไฟแค้นในตัวชาวบ้านที่มีต่อบริษัทเมโร่ยิ่งทวีความลุกโชนขึ้นจากเดิมหลายเท่า
หลังจากนั้นฮิวรอยก็พูดขึ้นอย่างเสียงดังฟังชัด
"ลอร์ดชั่วแห่งวินสตันและบริษัทเมโร่ต้องได้รับการลงโทษ! แต่ด้วยอำนาจที่มีมากเกินไปของลอร์ดวินสตัน ทำให้พวกคุณไม่สามารถออกไปแจ้งข่าวร้องทุกข์ให้เอิร์ลสไตม์รับรู้ได้อย่างนั้นสินะ"
"ถ้าอย่างนั้น...เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง! ผมจะเดินทางไปแจ้งเอิร์ลสไตม์ด้วยตัวเองว่าภายในหมู่บ้านวินสตันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่จะไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่!"
"ขอบใจมาก...แล้วข้าจะรอ"
เอ๋? เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าฮิวรอยเพิ่งจะรับภารกิจจากข่าน แต่นี่มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง? ตามปรกติผู้เช่นจะต้องรออยู่เฉยๆ ให้ฝ่ายเอ็นพีซีเป็นผู้มอบภารกิจมาให้ แต่ในกรณีของข่านกับฮิวรอยดูจะไม่ใช่แบบนั้น ราวกับว่าฮิวรอยเป็นฝ่ายพูดจาชักนำให้ข่านยอมมอบภารกิจมาให้เขาทำยังไงยังงั้น
'บ้าน่า...'
เรารีบวิ่งไปหาฮิวรอยที่เดินออกไปไกลจากโรงตีเหล็กแล้ว "เฮ้!"
เมื่อฮิวรอยได้ยินเสียงเรียกของเรา เขาก็หันกลับมาจ้องมองด้วยสายตาที่เหยียดหยามอย่างที่สุด เป็นท่าทีที่ตรงข้ามกับเมื่อตอนอยู่หน้าโรงตีเหล็กโดยสิ้นเชิง เราจึงเกิดความลังเลไปชั่วขณะว่าได้ทักคนผิดไปรึเปล่านะ?
"อ่านวิธีเล่นเกมเบื้องต้นได้ที่มุมบนของหน้าจอนะ...แล้วยังต้องการอะไรจากข้าอีกรึเปล่า? เร็วๆ เข้า...ข้ากำลังยุ่ง"
วิธีเล่นเกมเบื้องต้น? มุมบนหน้าจอ?
'เข้าใจแล้ว...เขาคิดว่าเราเป็นผู้เล่นใหม่สินะ'
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะต่อให้เป็นผู้เล่นที่นิสัยดีหรือเลวยังไง การต้องรับมือกับผู้เล่นใหม่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครชอบนัก นอกจากคนเหล่านี้จะถามเซ้าซี้แล้ว บางรายยังถึงกับทำตัวเป็นขอทานที่แสนน่ารำคานอีกด้วย
เราตัดสินใจรีบถามเข้าเรื่องเพื่อไม่ให้ฮิวรอยเดินหนีไปซะก่อน
"ไม่ใช่ว่าแกได้รับภารกิจมาจากบริษัทเมโร่ให้เกลี้ยกล่อมชาวบ้านหรอกหรอ? แล้วสิ่งที่แกพูดกับข่านหลังจากนั้นมันคืออะไรกัน?"
"หืม?" ฮิวรอยเริ่มแสดงสีหน้าให้ความสนใจ "แค่มองดูก็รู้ได้เลยหรอว่าข้าได้รับภารกิจ? แกไม่ใช่ผู้เล่นใหม่งั้นสินะ...ก็ตามนั้นแหละ ข้าก็แค่เห็นว่าภารกิจของตาลุงนั่นได้รับค่าตอบแทนมากกว่าบริษัทเมโร่ ก็เท่านั้นเอง"
"แบ่งปันรายละเอียดภารกิจ"
เรารีบกดตกลงในทันที หลังจากนั้นรายละเอียดภารกิจของฮิวรอยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
"รางวัลตอบแทนมหาศาลนี่มันอะไรกัน?"
การได้รับค่าชื่อเสียงสูงสุดก็หมายความว่าผู้เล่นจะสามารถซื้อสินค้าทุกชนิดในหมู่บ้านได้ในราคาต่ำสุด และภารกิจลับก็จะเผยออกมาให้ทำได้ง่ายขึ้น แถมยังมีของกำนัลพิเศษจากขุนนางระดับสูงนั่นอีก ระดับไอเท็มอย่างน้อยๆ ก็ต้องแรร์ขึ้นไปแน่นอน
และค่าสถานะใหม่ที่เปิดใช้งานรวมไปถึงทักษะใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถตีมูลค่าเป็นเงินทองได้ นี่คือภารกิจลับอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังเป็นภารกิจลับที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าภารกิจการแข่งผลิตไอเท็มของเราเสียอีก
'รู้สึกมวนที่ท้องน้อยแปลกๆ แฮะ...'
เราเกิดความอิจฉาจนเริ่มปวดหัว ภายในใจร้อนรุ่นราวกับถูกเผาทั้งเป็น ในระหว่างที่เรากำลังแสดงท่าทีผิดหวัง ฮิวรอยก็แสยะยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา
"ยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ? นี่คือภารกิจลับยังไงล่ะ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกของข้าอีกด้วย"
ชิ...โชคดีฉิบ! แต่เนื่องด้วยค่าสถานะหยิ่งทระนงของเรา ถึงหมอนี่จะน่าหงุดหงิดขนาดไหนเราก็ยังไม่แสดงอาการออกไป
"หืม? แค่นี้ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วงั้นหรือ? ก็แค่ภารกิจลับล่ะนะ ไม่ใช่เรื่องที่พิเศษอะไรนักหรอก ไม่เลย...ข้าไม่ได้รู้สึกอิจฉาเลยซักนิดเดียว!"
"...เอ๋? เป็นแบบนั้นหรอกหรอ?"
"ใช่! ข้าไม่ได้อิจฉาเลยซักนิด! เลิกคุยโวโอ้อวดได้แล้ว! จริงสิ...ถ้าหากดูไม่ผิด แกเป็นคนพูดชักนำเพื่อให้เอ็นพีซีมอบภารกิจใช่มั้ย?"
ฮิวรอยยักไหล่เล็กน้อย
"สายตาดีนี่ ในตอนนี้เริ่มมีคนไม่น้อยที่รู้เทคนิคนี้แล้ว อีกไม่นานก็คงจะรู้กันจนทั่ว เก็บเงียบไว้คนเดียวคงไม่มีประโยชน์อะไร ไหนๆ ข้าก็ได้ภารกิจลับมาแล้ว บอกแกซักคนจะเป็นไรไป"
หลังจากนั้นเราก็ต้องได้ยินเรื่องราวอันน่าตื่นตะลึงอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากไหนมาก่อนในชีวิต
"เกมซาทิสฟายนั้นมอบความอิสระให้กับผู้เล่นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยไม่ต้องรอให้เอ็นพีซีเป็นฝ่ายมอบภารกิจให้ ข้าสามารถพูดเพื่อชักจูงให้เอ็นพีซีมอบภารกิจได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยความอิสระในจุดนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าหากข้าไปยืนตะโกนที่หน้าร้านอาหารว่า 'ผมสามารถนำอาหารไปส่งให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งกว่าผู้ใด' มันก็มีโอกาสสูงที่เจ้าของร้านจะเดินออกมาและมอบภารกิจส่งอาหารให้ทำ"
"ยะ...ยอดเลย ข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนจนกระทั่งเมื่อครู่ หรือว่าผู้เล่นคนอื่นก็ใช้วิธีนี้ในการรับภารกิจจากเอ็นพีซีเหมือนกัน? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง หมายความว่าผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้วิธีการนี้ก็ถูกเอาเปรียบมาโดยตลอดงั้นหรอ?"
"เฮ้...ไม่ต้องเศร้าไปนักหรอก นอกจากผู้เล่นกลุ่มแรกที่เริ่มเล่นซาทิสฟายมาเกินหนี่งปีแล้ว ผู้เล่นกลุ่มอื่นๆ นั้นยังไม่ค่อยมีรู้ถึงวิธีนี้มากนัก คนที่รู้มีเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น มันจึงแทบไม่สงผลกระทบต่อเกมเลย เพราะคนส่วนใหญ่ก็รับภารกิจแบบปรกติเหมือนกับที่แกทำอยู่นั่นแหละ แต่ช่วงนี้เริ่มมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางออกมาภายในเว็บบอร์ดใหญ่ๆ แล้ว อีกไม่นานผู้เล่นชุดอื่นๆ เองก็คงจะเริ่มใช้วิธีนี้บ้างแล้วเหมือนกัน"
"..."
"เฮ้...แกเป็นอะไรไปน่ะ? ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หน้าซีดขึ้นมาได้?"
"ข้าเองก็เป็น..."
"เป็น...?"
"เป็นผู้เล่นกลุ่มแรก...ข้าเล่นซาทิสฟายมาเกิน 1 ปีแล้ว...เริ่มเล่นตั้งแต่วันแรกที่เกมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยด้วย"
"เอ๋!? อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!" ฮิวรอยถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันที เขาใช้มือกุมลงไปที่ท้องน้อยพร้อมกับก้มตัวลงไปขำอย่างหยุดไม่ได้ ฮิวรอยหัวเราะจนมีน้ำตาเล็ดออกมาบนในหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็พยายามฝืนยกแขนขึ้นพร้อมกับชูนิ้วโป้งออกมา "นี่เป็นมุกตลกที่โคตรเจ๋งเลย! ฮะฮ่าฮ่า! มันเยี่ยมมาก บางทีในชีวิตจริงแกคงเป็นพวกคณะตลกสินะ? อยากเป็นเพื่อนกันหน่อยมั้ย? เพื่อนน่ะ...สนไหม?"
"...ไปให้พ้นซะ"
นั่นไม่ใช่มุกตลก...แต่เป็นเรื่องจริง เราคือหนึ่งในผู้เล่มกลุ่มแรกที่เล่นเกมนี้ และเล่นติดต่อกันมาตลอดเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว เราถึงกับยอมโดดเรียนในบางคาบเพื่อมาเล่นเกมนี้โดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยได้ยินเรื่องของการพูดชักนำให้เอ็นพีซียอมมอบภารกิจให้มาก่อน
จะว่าไป...ตลอดระยะหนึ่งปีที่ผ่านมา...เราเคยเรียนรู้อะไรได้ด้วยตัวเองบ้างนะ?
ไม่มีเลย...ความรู้ทั้งหมดได้มาจากอินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น เราแทบไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับซาทิสฟายเลยซักนิด แม้จะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกของเกมก็ตาม
'น่าสมเพชชะมัด...เรานี่มันไอ้งั่งของแท้เลย'
หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาทีละนิด
"บ้าฉิบ! แม่งเอ้ย! โธ่โว้ยยยย!!!"
ล็อกเอ้าท์!"
"ฮะ...เฮ้! เดี่ยวก่อน! แกเป็นอะไรไป? เสียสติไปแล้วหรอ? นั่นจะไปไหน?"
ฮิวรอยงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้เห็นเราออกจากเกมอย่างกระทันหัน
...
...
...
"หมอนั่นเป็นอะไรไปนะ?"
ฮิวรอยตกตะลึงไม่น้อยที่ผู้เล่นนามว่ากริดจู่ๆ ก็ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปต่อหน้าต่อตา ตัวละครของกริดมีรูปร่างของเด็กหนุ่มชาวเอเชีย เขานับว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ขันสูงมากเลยทีเดียว ฮิวรอยต้องการจะเป็นเพื่อนด้วยซักหน่อยแท้ๆ
"อุวะฮะฮะ!"
ฮิวรอยต้องกลั้นขำจนตัวสั่นเมื่อหวนนึกถึงเรื่องนั้นอีกครั้ง...กริดซึ่งประกาศตัวว่าเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกแต่กลับไม่รู้ถึงการพูดชักนำเอ็นพีซีเพื่อให้มอบภารกิจ
"ทำไมถึงต้องแอบอ้างตัวเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกด้วยนะ? แถมหมอนั่นยังมีนิสัยแปลกๆ อีก จริงสิ...แล้วเราไปได้รึยังเนี่ย?"
ฮิวรอยคิดว่ากริดคงเป็นเพียงผู้เล่นคนหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็คงผ่านไป หลังจากที่ได้พบเขา ฮิวรอยไม่ได้รู้สึกถึงอะไรเป็นพิเศษนัก นอกเสียจากมุกตลกสุดฮาที่เขาเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง
แต่จะมีใครรู้บ้างว่า...สายลมแห่งโชคชะตากำลังจะพัดพาให้คนทั้งสองได้พานพบกันอีกครั้งในไม่ช้า
ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดขัดคอฮิวรอย ข่านกลับเบรกเราเอาไว้ซะก่อน
"กริด...ตรงนี้ให้ข้าจัดการเอง"
ข่านหันมามองเราด้วยสายตาขอบคุณพร้อมกับเดินเข้าไปหาฮิวรอย
"คำพูดของแกก็ไม่ผิดนักหรอก เป็นเรื่องดีที่พวกเราควรจะเป็นมิตรกับบริษัทใหญ่เอาไว้"
ข่านคิดจะทำอะไรกันแน่?
ผู้คนต่างตกตะลึงในทันทีที่ได้ยินข่านพูดแบบนั้น เขาเป็นถึงตัวตั้งตัวตีหลักในการต่อต้านบริษัทเมโร่มาโดยตลอด แต่ยามนี้กลับเห็นด้วยกับคำพูดของฮิวรอยชายหนุ่มปริศนา จึงไม่แปลกที่ฝูงชนจะเริ่มให้ความสนใจว่าข่านคิดจะพูดอะไรต่อไป
ข่านกล่าวต่อไปว่า "ถ้าหากวินสตันไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของเอิร์ลสไตม์ล่ะก็...พวกเราคงเข้าร่วมกับบริษัทเมโร่ไปนานแล้ว"
เป็นคำกล่าวที่แฝงไว้ด้วยถ้อยคำให้ขบคิดมากมาย ฮิวรอยเองก็มีสีหน้าครุ่นคริดอยู่ครู่หนึ่ง
"ถ้าหากไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของเอิร์ลสไตม์งั้นหรอ?"
"ใช่แล้วล่ะ...ใจความสำคัญก็คือ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในเขตปกครองของเอิร์ลสไตม์ ข้าก็ไม่รู้ว่าแกมาจากไหนหรอกนะ แต่ที่นี่มีกฏหมายที่ชื่อว่า 'สิทธิของประชาชน' อยู่ มันคือกฏหมายที่เอิร์ลสไตม์บัญญัติขึ้นเพื่อปกป้องประชาชนอันเป็นที่รัก และใจความสำคัญส่วนหนึ่งของกฏหมายดังกล่าวก็คือ 'ประชาชนที่อยู่ภายในเขตปกครองของเอิร์ลสไตม์จะได้รับสิทธิพิเศษในการร้องทุกข์ก่อนใคร'"
ข่านเริ่มอธิบายถึงข้อกฏหมาย
"แกรู้รึเปล่าว่านี่เป็นยุคสมัยแห่งการสำรวจดินแดนตอนเหนือ? ดินแดนตอนเหนือนั้นมีทั้งสภาพอากาศที่เลวร้ายและฝูงมอนสเตอร์ที่เกรี้ยวกราด คณะสำรวจจำนวนมากต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้จนปวดหัวไม่น้อย แล้วแกรู้รึเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีดินแดนใหม่ถูกค้นพบขึ้นมา?"
ฮิวรอยรีบตอบกลับไปในทันที "...ตามปรกติแล้ว หมู่บ้านและเมืองที่อยู่โดยรอบดินแดนดังกล่าวก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างมาก"
ข่านพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับคำตอบของฮิวรอย
"ถูกต้อง นั่นสามารถอธิบายถึงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของหมู่บ้านวินสตันในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องที่ถนนหนทางถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและการขนส่งที่สะดวกสบาย เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่ามีดินแดนใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านแห่งนี้ยังไงล่ะ วันสตันจึงกำลังกลายเป็นตัวกลางที่คอยเชื่อมระหว่างดินแดนใหม่นั้นกับเมืองหลวง"
"แกเข้าใจรึเปล่าว่าดินแดนตอนเหนือแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันอยู่ตลอดเวลา? หายนะอันใหญ่หลวงหรือแม้กระทั่งลาภก้อนโตสามารถเกิดกับชาวบ้านได้ทุกเมื่อ!"
ข่านรีบสรุปเข้าประเด็นในทันที
"นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเอิร์ลสไตม์ถึงได้ระบุเอาไว้ในกฏหมายให้ชาวบ้านในเขตการของครองของท่านได้มีสิทธิ์ร้องทุกข์ก่อนใคร เพื่อที่พวกเขาจะได้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันได้อย่างถูกวิธียังไงล่ะ ทั้งการประสบหายนะอันเลวร้ายสุดขีด...รวมไปถึงโชคลาภมหาศาลที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา"
ฮิวรอยเข้าใจถึงสิ่งที่ข่านต้องการจะสื่อได้ในทันที "เข้าใจแล้ว...การค้นพบดินแดนใหม่จนวินสตันเจริญรุ่งเรืองนั้น หากมองจากเจตจำนงที่เห็นแก่คนหมู่มากของเอิร์ลสไตม์ ผู้ที่ควรได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงก็คือชาวบ้านวินสตัน...หาใช่บริษัทเมโร่อย่างนั้นสินะ การกระทำของบริษัทเมโร่และลอร์ดชั่วได้ขัดต่อความตั้งใจของเอิร์ลสไตม์ คุณถึงได้พยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องในสิ่งนั้น...ผมเข้าใจถูกรึเปล่า?"
"ไม่ผิดแม้แต่คำเดียว เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเราจึงไม่มีวันอ่อนข้อให้กับบริษัทเมโร่อย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อการสานต่อความตั้งใจอันดีงามของเอิร์ลสไตม์ให้คงอยู่ต่อไปด้วย! พวกเราจะต้องร้องเรียนเรื่องของลอร์ดชั่วกับบริษัทเมโร่ให้เอิร์ลสไตม์ได้รับรู้"
อา...คำพูดของข่านคือสิ่งที่ชอบธรรมอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้คนต่างโห่ร้องยินดีและตื่นเต้นในคำพูดของข่าน ไฟแค้นในตัวชาวบ้านที่มีต่อบริษัทเมโร่ยิ่งทวีความลุกโชนขึ้นจากเดิมหลายเท่า
หลังจากนั้นฮิวรอยก็พูดขึ้นอย่างเสียงดังฟังชัด
"ลอร์ดชั่วแห่งวินสตันและบริษัทเมโร่ต้องได้รับการลงโทษ! แต่ด้วยอำนาจที่มีมากเกินไปของลอร์ดวินสตัน ทำให้พวกคุณไม่สามารถออกไปแจ้งข่าวร้องทุกข์ให้เอิร์ลสไตม์รับรู้ได้อย่างนั้นสินะ"
"ถ้าอย่างนั้น...เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง! ผมจะเดินทางไปแจ้งเอิร์ลสไตม์ด้วยตัวเองว่าภายในหมู่บ้านวินสตันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่จะไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่!"
"ขอบใจมาก...แล้วข้าจะรอ"
เอ๋? เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าฮิวรอยเพิ่งจะรับภารกิจจากข่าน แต่นี่มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง? ตามปรกติผู้เช่นจะต้องรออยู่เฉยๆ ให้ฝ่ายเอ็นพีซีเป็นผู้มอบภารกิจมาให้ แต่ในกรณีของข่านกับฮิวรอยดูจะไม่ใช่แบบนั้น ราวกับว่าฮิวรอยเป็นฝ่ายพูดจาชักนำให้ข่านยอมมอบภารกิจมาให้เขาทำยังไงยังงั้น
'บ้าน่า...'
เรารีบวิ่งไปหาฮิวรอยที่เดินออกไปไกลจากโรงตีเหล็กแล้ว "เฮ้!"
เมื่อฮิวรอยได้ยินเสียงเรียกของเรา เขาก็หันกลับมาจ้องมองด้วยสายตาที่เหยียดหยามอย่างที่สุด เป็นท่าทีที่ตรงข้ามกับเมื่อตอนอยู่หน้าโรงตีเหล็กโดยสิ้นเชิง เราจึงเกิดความลังเลไปชั่วขณะว่าได้ทักคนผิดไปรึเปล่านะ?
"อ่านวิธีเล่นเกมเบื้องต้นได้ที่มุมบนของหน้าจอนะ...แล้วยังต้องการอะไรจากข้าอีกรึเปล่า? เร็วๆ เข้า...ข้ากำลังยุ่ง"
วิธีเล่นเกมเบื้องต้น? มุมบนหน้าจอ?
'เข้าใจแล้ว...เขาคิดว่าเราเป็นผู้เล่นใหม่สินะ'
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะต่อให้เป็นผู้เล่นที่นิสัยดีหรือเลวยังไง การต้องรับมือกับผู้เล่นใหม่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครชอบนัก นอกจากคนเหล่านี้จะถามเซ้าซี้แล้ว บางรายยังถึงกับทำตัวเป็นขอทานที่แสนน่ารำคานอีกด้วย
เราตัดสินใจรีบถามเข้าเรื่องเพื่อไม่ให้ฮิวรอยเดินหนีไปซะก่อน
"ไม่ใช่ว่าแกได้รับภารกิจมาจากบริษัทเมโร่ให้เกลี้ยกล่อมชาวบ้านหรอกหรอ? แล้วสิ่งที่แกพูดกับข่านหลังจากนั้นมันคืออะไรกัน?"
"หืม?" ฮิวรอยเริ่มแสดงสีหน้าให้ความสนใจ "แค่มองดูก็รู้ได้เลยหรอว่าข้าได้รับภารกิจ? แกไม่ใช่ผู้เล่นใหม่งั้นสินะ...ก็ตามนั้นแหละ ข้าก็แค่เห็นว่าภารกิจของตาลุงนั่นได้รับค่าตอบแทนมากกว่าบริษัทเมโร่ ก็เท่านั้นเอง"
"แบ่งปันรายละเอียดภารกิจ"
[ ผู้เล่นฮิวรอยต้องการจะแบ่งปันรายละเอียดภารกิจ ท่านต้องการจะอ่านรึไม่? ]
เรารีบกดตกลงในทันที หลังจากนั้นรายละเอียดภารกิจของฮิวรอยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
[ ภารกิจ 'เพื่อชาวบ้านวินสตัน' ]
ระดับความยาก : A
ชาวบ้านวินสตันได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากลอร์ดชั่วและบริษัทเมโร่
ในตอนแรก ท่านได้รับมอบหมายภารกิจมาจากบริษัทเมโร่ให้เกลี้ยกล่อมชาวบ้าน แต่ท่านก็ไม่สามารถทอดทิ้งชาวบ้านตาดำๆ ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ได้ จึงตัดสินใจหักหลังบริษัทเมโร่
ส่งผลให้ท่านกลายเป็นศัตรูกับบริษัทเมโร่และต้องคอยหลบหนีจากการตามล่าของพวกมัน ภารกิจของท่านคือการเดินทางไปให้ถึงยังเมืองฟรอนเทียร์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเอิร์ลสไตม์อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นท่านก็จะต้องเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวินสตันเพื่อให้คนชั่วถูกลงโทษ
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : เข้าพบเอิร์ลสไตม์
รางวัลตอบแทนภารกิจ : ได้รับสมญานาม 'สาวกแห่งความเที่ยงธรรม', ค่าความสัมพันธ์กับชาวบ้านวินสตันเพิ่มขึ้นสูงสุด, ค่าชื่อเสียงภายในหมู่บ้านวินสตันเพิ่มขึ้นสูงสุด, ของกำนัลพิเศษจากเอิร์ลสไตม์
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : เลเวลลดลง 1 ระดับ, ค่าความสัมพันธ์กับชาวบ้านวินสตันลดลง, ท่านจะไม่สามารถเดินทางไปยังวินสตันได้อีกจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงลอร์ดของหมู่บ้าน
[ สาวกแห่งความเที่ยงธรรม : ค่าสถานะ 'กล้าหาญ' จะถูกเปิดใช้งาน, ค่าสถานะทั้งหมด +10, ได้รับทักษะ 'ความยุติธรรมที่ไม่เสื่อมคลาย' ]
"รางวัลตอบแทนมหาศาลนี่มันอะไรกัน?"
การได้รับค่าชื่อเสียงสูงสุดก็หมายความว่าผู้เล่นจะสามารถซื้อสินค้าทุกชนิดในหมู่บ้านได้ในราคาต่ำสุด และภารกิจลับก็จะเผยออกมาให้ทำได้ง่ายขึ้น แถมยังมีของกำนัลพิเศษจากขุนนางระดับสูงนั่นอีก ระดับไอเท็มอย่างน้อยๆ ก็ต้องแรร์ขึ้นไปแน่นอน
และค่าสถานะใหม่ที่เปิดใช้งานรวมไปถึงทักษะใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถตีมูลค่าเป็นเงินทองได้ นี่คือภารกิจลับอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังเป็นภารกิจลับที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าภารกิจการแข่งผลิตไอเท็มของเราเสียอีก
'รู้สึกมวนที่ท้องน้อยแปลกๆ แฮะ...'
เราเกิดความอิจฉาจนเริ่มปวดหัว ภายในใจร้อนรุ่นราวกับถูกเผาทั้งเป็น ในระหว่างที่เรากำลังแสดงท่าทีผิดหวัง ฮิวรอยก็แสยะยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา
"ยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ? นี่คือภารกิจลับยังไงล่ะ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกของข้าอีกด้วย"
ชิ...โชคดีฉิบ! แต่เนื่องด้วยค่าสถานะหยิ่งทระนงของเรา ถึงหมอนี่จะน่าหงุดหงิดขนาดไหนเราก็ยังไม่แสดงอาการออกไป
"หืม? แค่นี้ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วงั้นหรือ? ก็แค่ภารกิจลับล่ะนะ ไม่ใช่เรื่องที่พิเศษอะไรนักหรอก ไม่เลย...ข้าไม่ได้รู้สึกอิจฉาเลยซักนิดเดียว!"
"...เอ๋? เป็นแบบนั้นหรอกหรอ?"
"ใช่! ข้าไม่ได้อิจฉาเลยซักนิด! เลิกคุยโวโอ้อวดได้แล้ว! จริงสิ...ถ้าหากดูไม่ผิด แกเป็นคนพูดชักนำเพื่อให้เอ็นพีซีมอบภารกิจใช่มั้ย?"
ฮิวรอยยักไหล่เล็กน้อย
"สายตาดีนี่ ในตอนนี้เริ่มมีคนไม่น้อยที่รู้เทคนิคนี้แล้ว อีกไม่นานก็คงจะรู้กันจนทั่ว เก็บเงียบไว้คนเดียวคงไม่มีประโยชน์อะไร ไหนๆ ข้าก็ได้ภารกิจลับมาแล้ว บอกแกซักคนจะเป็นไรไป"
หลังจากนั้นเราก็ต้องได้ยินเรื่องราวอันน่าตื่นตะลึงอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากไหนมาก่อนในชีวิต
"เกมซาทิสฟายนั้นมอบความอิสระให้กับผู้เล่นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยไม่ต้องรอให้เอ็นพีซีเป็นฝ่ายมอบภารกิจให้ ข้าสามารถพูดเพื่อชักจูงให้เอ็นพีซีมอบภารกิจได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยความอิสระในจุดนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าหากข้าไปยืนตะโกนที่หน้าร้านอาหารว่า 'ผมสามารถนำอาหารไปส่งให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งกว่าผู้ใด' มันก็มีโอกาสสูงที่เจ้าของร้านจะเดินออกมาและมอบภารกิจส่งอาหารให้ทำ"
"ยะ...ยอดเลย ข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนจนกระทั่งเมื่อครู่ หรือว่าผู้เล่นคนอื่นก็ใช้วิธีนี้ในการรับภารกิจจากเอ็นพีซีเหมือนกัน? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง หมายความว่าผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้วิธีการนี้ก็ถูกเอาเปรียบมาโดยตลอดงั้นหรอ?"
"เฮ้...ไม่ต้องเศร้าไปนักหรอก นอกจากผู้เล่นกลุ่มแรกที่เริ่มเล่นซาทิสฟายมาเกินหนี่งปีแล้ว ผู้เล่นกลุ่มอื่นๆ นั้นยังไม่ค่อยมีรู้ถึงวิธีนี้มากนัก คนที่รู้มีเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น มันจึงแทบไม่สงผลกระทบต่อเกมเลย เพราะคนส่วนใหญ่ก็รับภารกิจแบบปรกติเหมือนกับที่แกทำอยู่นั่นแหละ แต่ช่วงนี้เริ่มมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางออกมาภายในเว็บบอร์ดใหญ่ๆ แล้ว อีกไม่นานผู้เล่นชุดอื่นๆ เองก็คงจะเริ่มใช้วิธีนี้บ้างแล้วเหมือนกัน"
"..."
"เฮ้...แกเป็นอะไรไปน่ะ? ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หน้าซีดขึ้นมาได้?"
"ข้าเองก็เป็น..."
"เป็น...?"
"เป็นผู้เล่นกลุ่มแรก...ข้าเล่นซาทิสฟายมาเกิน 1 ปีแล้ว...เริ่มเล่นตั้งแต่วันแรกที่เกมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยด้วย"
"เอ๋!? อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!" ฮิวรอยถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันที เขาใช้มือกุมลงไปที่ท้องน้อยพร้อมกับก้มตัวลงไปขำอย่างหยุดไม่ได้ ฮิวรอยหัวเราะจนมีน้ำตาเล็ดออกมาบนในหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็พยายามฝืนยกแขนขึ้นพร้อมกับชูนิ้วโป้งออกมา "นี่เป็นมุกตลกที่โคตรเจ๋งเลย! ฮะฮ่าฮ่า! มันเยี่ยมมาก บางทีในชีวิตจริงแกคงเป็นพวกคณะตลกสินะ? อยากเป็นเพื่อนกันหน่อยมั้ย? เพื่อนน่ะ...สนไหม?"
"...ไปให้พ้นซะ"
นั่นไม่ใช่มุกตลก...แต่เป็นเรื่องจริง เราคือหนึ่งในผู้เล่มกลุ่มแรกที่เล่นเกมนี้ และเล่นติดต่อกันมาตลอดเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว เราถึงกับยอมโดดเรียนในบางคาบเพื่อมาเล่นเกมนี้โดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยได้ยินเรื่องของการพูดชักนำให้เอ็นพีซียอมมอบภารกิจให้มาก่อน
จะว่าไป...ตลอดระยะหนึ่งปีที่ผ่านมา...เราเคยเรียนรู้อะไรได้ด้วยตัวเองบ้างนะ?
ไม่มีเลย...ความรู้ทั้งหมดได้มาจากอินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น เราแทบไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับซาทิสฟายเลยซักนิด แม้จะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกของเกมก็ตาม
'น่าสมเพชชะมัด...เรานี่มันไอ้งั่งของแท้เลย'
หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาทีละนิด
"บ้าฉิบ! แม่งเอ้ย! โธ่โว้ยยยย!!!"
ล็อกเอ้าท์!"
"ฮะ...เฮ้! เดี่ยวก่อน! แกเป็นอะไรไป? เสียสติไปแล้วหรอ? นั่นจะไปไหน?"
ฮิวรอยงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้เห็นเราออกจากเกมอย่างกระทันหัน
...
...
...
"หมอนั่นเป็นอะไรไปนะ?"
ฮิวรอยตกตะลึงไม่น้อยที่ผู้เล่นนามว่ากริดจู่ๆ ก็ล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปต่อหน้าต่อตา ตัวละครของกริดมีรูปร่างของเด็กหนุ่มชาวเอเชีย เขานับว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ขันสูงมากเลยทีเดียว ฮิวรอยต้องการจะเป็นเพื่อนด้วยซักหน่อยแท้ๆ
"อุวะฮะฮะ!"
ฮิวรอยต้องกลั้นขำจนตัวสั่นเมื่อหวนนึกถึงเรื่องนั้นอีกครั้ง...กริดซึ่งประกาศตัวว่าเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกแต่กลับไม่รู้ถึงการพูดชักนำเอ็นพีซีเพื่อให้มอบภารกิจ
"ทำไมถึงต้องแอบอ้างตัวเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกด้วยนะ? แถมหมอนั่นยังมีนิสัยแปลกๆ อีก จริงสิ...แล้วเราไปได้รึยังเนี่ย?"
ฮิวรอยคิดว่ากริดคงเป็นเพียงผู้เล่นคนหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็คงผ่านไป หลังจากที่ได้พบเขา ฮิวรอยไม่ได้รู้สึกถึงอะไรเป็นพิเศษนัก นอกเสียจากมุกตลกสุดฮาที่เขาเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง
แต่จะมีใครรู้บ้างว่า...สายลมแห่งโชคชะตากำลังจะพัดพาให้คนทั้งสองได้พานพบกันอีกครั้งในไม่ช้า
หืม...... กริดได้โปรดทำ........ให้ข้าทีเถอะ อะไรประมาณนี้สิน่ะ
ReplyDeleteน่าฉงฉานพระเอกแท้ฉากนี้
ReplyDeleteเอิ่มมพระเอกตรู
ReplyDeleteโชคชะตานำพาให้เป็นคู่กัน เพื่อนรักเหมืองทอง ฮ่าๆ
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteหมั่นไส้แปลกๆ
ReplyDeleteฮิวรอยจะเป็นอีกตัวละครสำคัญที่ทำให้กริดเกิดการเปลี่ยนแปลงครับ และคิดว่าอาจจะมีผลทั้งเรื่องเลยก็ได้
ReplyDeleteจะว่าน่าสงสาร หรืออนาจดีละ แต่คงเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้ อาชีพเทพๆดูเหมาะสม ไม่อวยจนเกินไป
ReplyDeleteสรรพนามแทนตัวเองมันแปลกๆง่า อ่านมา30กว่าตอนละ อ่านยังไงมันก็แปลกอยู่ดี ขอโทษด้วยครับมันไม่เข้าจริงๆเลย พวกข้าๆ เจ้าๆ เนี่ย สรรพนามแทนตัวมันดูเหมือนกำลังภายในไปหน่อย
ReplyDelete