จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 24
[ ภารกิจโทสะแห่งช่างตีเหล็ก ]
ระดับความยาก : B
ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ท่านได้รับเจตนารมย์แห่งแพ็กม่ามาพร้อมกับเทคนิคลับสุดยอดของเขา
หลักการสำคัญของเจตจำนงแห่งแพ็กม่าก็คือ 'การตีเหล็กเพื่อมวลมนุษย์'
ท่านจะไม่มีวันให้อภัยกับการกระทำที่ชั่วช้าของบริษัทโม่โร่และลูกสมุน
จงช่วยช่างตีเหล็กที่มีนามว่าข่าน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของลูกไม้ต่ำทราบจากบริษัทเมโร่จนต้องเสียลูกค้าประจำไป
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ขับไล่ลูกสมุนของบริษัทเมโร่และทำลายสัญญาขายตึกทิ้ง
รางวัลตอบแทนเมื่อสำเร็จภารกิจ : อาการติดสุราของช่างตีเหล็กข่านจะดีขึ้น ความสัมพันธ์กับท่านและช่างตีเหล็กข่านจะเพิ่มเป็นระดับสูงสุด
* เดิมทีแล้ว ข่านคือช่างตีเหล็กที่มีฝีมือยอดเยี่ยมหาตัวจับยาก ทว่า นับตั้งแต่ถูกบริษัทเมโร่ทำลายกิจการไป ข่านก็เกิดความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน จนในที่สุดก็ต้องตกอยู่ในสภาวะติดสุราเรื้อรัง แม้ในตอนนี้เขาเป็นเพียงชายแก่ที่ไม่ได้ความก็จริง แต่เมื่อใดที่อาการพิษสุราเรื้อรังหายขาด ข่านจะกลับมาเป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะจดจำท่านได้ และเคารพชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของท่าน...
รางวัลที่จะได้หากยอมรับภารกิจ : ทักษะ 'โทสะแห่งช่างตีเหล็ก'
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : ข่านจะเสียชีวิตลงหลังจากนี้ในอีกไม่กี่วัน และภารกิจทั้งหมดเกี่ยวกับข่านก็จะหายไปอย่างถาวร
...
"เอ๋?"
เจตจำนงแห่งช่างตีเหล็ก?
"การกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม?"
คำคมของช่างตีเหล็กในตำนานงั้นหรอเนี่ย?
"...ถ้าเกิดว่าเรากินแต่กะเทียมอย่างเดียวติดต่อกันเป็นเวลา 100 วัน มันจะปรากฏคลาสลับใหม่ขึ้นมารึเปล่านะ?"
บ้าฉิบ...นี่ไม่ใช่เวลามามัวติดตลกอยู่แท้ๆ
"ภารกิจอีกแล้วงั้นหรอ..."
เป็นอย่างที่คิด โรงตีเหล็กซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากและการราวีของกลุ่มนักเลงได้ทำให้เกิดภารกิจใหม่ขึ้น
[ ท่านจะยอมรับภารกิจรึไม่? ]
ศัตรูมี 5 คน ทั้งหมดมีเลเวลอย่างน้อย 35 ซึ่งกลับกัน ฝั่งเรานั้นมีเพียงตัวเราแค่คนเดียว และยังมีเลเวลแค่ 3 เท่านั้น แถมที่แย่ยิ่งกว่า คือการที่เราได้ฝากดาบใหญ่แห่งมาม่อนกับเกราะหนักแห่งเมนเกลเอาไว้ในคลังสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
หรือเราควรปฏิเสธดี? ไม่ได้...
"รับภารกิจ..."
ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องปฏิเสธภารกิจนี้
ถึงเราจะเลเวลเพียงแค่3 แต่ค่าสถานะโดยรวมก็เทียบเท่ากับตัวละครทั่วไปที่มีเลเวล 20 แถมยังมีทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' อยู่อีก มันคือทักษะที่เยี่ยมยอดซึ่งจะเพิ่มสมาธิ, ความอดทน, และพลังป้องกันอย่างมหาศาลเป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมงเต็ม แต่เท่านั้นยังไม่หมด ทันทีที่พลังชีวิตเหลือน้อย เราก็จะกลายเป็นอมตะอีก 5 วินาที
"ตอนนี้เราก็ไม่ได้ไร้อาวุธซะทีเดียว"
เราเปิดกระเป๋าสัมภาระพร้อมกับหยิบลูกธนูหนึ่งดอกที่เหลือเป็นของต่างหน้าออกมา
...
[ ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ ]
ระดับไอเท็ม : อีปิก
พลังโจมตี : 35~42
ลูกธนูที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
การหลอมรวมกันระหว่างยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า ได้ทำให้เกิดโลหะที่มีอานุภาพในการเจาะทะลวงสูง ลูกธนูชนิดนี้สามารถมองข้ามพลังป้องกันของศัตรูได้ในบางครั้ง
* มีโอกาสปานกลางที่จะไม่สนใจพลังป้องกันของศัตรู
น้ำหนัก : 0.1 หน่วย
...
โดยปรติแล้วลูกธนูจะเป็นไอเท็มที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่นั่นก็ต่อเมื่อมันถูกใช้กับคันศรเท่านั้น
"ถ้าเราถือมันเอาไว้ในมือเพื่อแทงแบบมีดสั้น มันก็จะไม่ใช่ไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป"
ในความเป็นจริง เราเคยได้ยินมาว่ามีบางคลาสที่สามารถนำลูกธนูกลับมาใช้ใหม่ได้ ยกเว้นว่ามันจะถูกทำลายไปจนไม่เหลือสภาพเดิมอีก แต่เราก็ไม่มีข้อมูลมากนัก เพราะไม่เคยเล่นคลาสเกี่ยวข้องกับธนูเลยซักครั้ง
'เราคิดว่ามันแปลกที่ลูกธนูจะมีมูลค่าสูง จึงตัดสินใจถามคนเดินทางที่ผ่านไปมาดู ต้องขอบคุณในเรื่องนั้นที่ทำให้รู้ว่า ลูกธนูไม่จำเป็นต้องใช้แล้วทิ้งเสมอไป...ฮุฮุ ในโลกใบนี้ ข้อมูลคือทุกสิ่งอย่างแท้จริง ในอนาคต เราจะมองข้ามการหาข้อมูลข่าวสารไม่ได้เด็ดขาด'
เราแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมกับสำรวจกลุ่มนักเลงอย่างละเอียด พวกมันทุกคนล้วนถืออาวุธอันตรายอยู่ในมือ เช่นขวาน, ดาบ, และไม้กระบอง ส่วนชุดที่สวมใส่ก็เป็นเกราะหนังหนาๆ
'สวรรค์ยังเข้าข้างอยู่บ้างแฮะ'
ถ้ามันพวกใส่เกราะเหล็ก โอกาสชนะของเราคงจบเห่ แต่โชคดีที่เป็นเกราะหนัง หัวโลหะของลูกธนูยัฟฟ่าคงสามารถเสียงทะลุพจนเกิดบาดแผลร้ายแรงได้อยู่
'ลูกธนูดอกนี้เราสร้างมันขึ้นมาด้วยใจชนิดที่ลูกธนูธรรมดาไม่มีทางเทียบได้ เราอาจจะมีพลังโจมตีเทียบเท่าตัวละครเลเวล 20 ก็จริง แต่ด้วยคุณสมบัติพิเศษของลูกศรที่มีโอกาสมองข้ามพลังป้องกัน สิ่งนี้อาจชดเชยความอ่อนแอของพลังโจมตีเราได้ ยังไม่รวมถึงประสบการณ์ต่อสู้อันโชกโชนสมัยที่ยังเป็นคลาสนักรบอีก'
ด้วยค่าสถานะที่พิเศษกว่าตัวละครทั่วไป ด้วยอาวุธที่เหมาะสม ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ในอดีตและทักษะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ปัจจัยทั้ง 4 อย่างนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะสำเร็จภารกิจได้
'ถึงโอกาสจะต่ำไปซักหน่อยก็เถอะ'
แต่ทำไมเราถึงได้รับภารกิจที่โอกาสสำเร็จต่ำมางั้นหรอ? แน่นอนอยู่แล้ว
ประการแรก บทลงโทษนั้นไม่มีผลอะไรกับเราเลย ถึงเอ็นพีซีที่ชื่อข่านจะตายไปและภารกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะหายไป แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีกว่าภารกิจเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
ประการที่สอง มันมีรางวัลมอบให้ถ้าหากเรากดยอมรับภารกิจนี้
[ ท่านรับภารกิจเรียบร้อย ]
[ ของรางวัลตอบแทนสำหรับการรับภารกิจ ท่านเรียนรู้ทักษะ 'โทสะแห่งช่างตีเหล็ก' ]
ของรางวัลที่ได้เมื่อรับภารกิจนั้นจะแตกต่างจากของรางวัลตอบแทนภารกิจอยู่เล็กน้อย มันจะได้ทันทีที่เรากดยอมรับทำโดยไม่สนว่าภารกิจจะสำเร็จรึไม่ แล้วใครจะปฏิเสธลงได้? เรารีบเปิดหน้าต่างตัวละครเพื่อตรวจสอบทักษะที่ได้รับมาทันที
...
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็ก ]
เลเวล : 1
เพิ่มพลังโจมตี 10% และความเร็วโจมตี 30% เป็นระยะเวลา 20 วินาที
มานาที่ต้องใช้ : 50 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 60 วินาที
...
'เจ๋งโคตร!'
ตามปรกติแล้ว คลาสเกี่ยวกับช่างตีเหล็กจะไม่ค่อยมีทักษะสายต่อสู้ให้เรียนมากนัก แต่เรากลับได้เรียนมันจากภารกิจอย่างน่าเหลือเชื่อ แถมคุณภาพก็จัดว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว
'เจ๋งกว่าทักษะคลาสนักรบที่เราเคยเรียนอีกไม่ใช่รึไงกัน?'
ทักษะเสริมพลังของคลาสนักรบที่เราเคยเรียนนั้นจะเพิ่มพลังโจมตี 20% เพียงครู่เดียว แถมมีระยะหน่วงหลังใช้นานถึง 3 นาที แต่ทักษะเสริมพลังของช่างตีเหล็กอันนี้กลับเพิ่มทั้งพลังโจมตีและความเร็วโจมตี โดยที่มีระยะหน่วงหลังใช้เพียง 1 นาทีเท่านั้น
'ลาภก้อนโตของแท้เลย...คิกคิก หรือว่านี่จะเป็นภารกิจลับที่เขาพูดถึงกันนะ? แต่มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอที่ภารกิจลับจะมีความยากแค่ระดับ B เท่านั้น บางที...มันอาจจะเป็นภารกิจต่อเนื่องมากกว่า เอ็นพีซีข่านอาจจะมีภารกิจต่อเนื่องที่คุ้มค่าต่อการทำก็ได้...โชคดีชะมัด'
ทันทีที่เรารู้ถึงความเจ๋งของข่าน ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้
'ต้องขอบคุณทักษะใหม่ โอกาสที่ภารกิจจะสำเร็จเพิ่มขึ้นมากทีเดียว'
เราตัดสินใจเดินกลับเข้าไปหากลุ่มนักเลงอีกครั้ง
"อะไรของมัน...ไอ้หมอนี่?" กลุ่มนักเลงเอียงคออย่างสงสัยทันทีที่เห็นเราเดินกลับมาแทนที่จะหนีไป
เรากำลูกธนูในมือแน่นพร้อมกับชี้ไปที่หน้าของพวกมัน หลังจากนั้นก็อธิบายถึงเหตุผลที่เราย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้ง
"พวกแกทำเกินไปแล้ว! แม้ข้าจะไม่ได้เคารพผู้ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่เคยกระทำต่ำทรามขนาดนี้! พวกแกจะไม่เคารพคนแก่ก็ไม่เป็นไร แต่พวกแกก็ควรจะมีความละอายบ้าง น่าจะกลับไปเรียนมารยาทมาให้เยอะกว่านี้นะเจ้าพวกโง่!...ข้าไม่มีวันให้อภัยแน่!"
เราไม่ได้อยากจะทำตัวเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมหรอก เราแค่ไม่ชอบขี้หน้านักเลงพวกนี้เท่านั้น
"จงโทษตัวเองซะ...ที่ดันไปคล้ายกับคนทวงหนี้ของบริษัทมาร์เธอร์อีสแฮปปี้น่ะ!"
ทันทีที่เราก้าวเท้าเข้าไป กลุ่มพวกมันก็เริ่มกำอาวุธในมือแน่น
"ไอ้งั่งเอ้ย! เด็กอย่างแกกล้าพูดแบบนี้กับพวกข้าเชียวรึ? ฮ่าฮ่า เดี๋ยวก่อนนะ...เมื่อกี้ไปโดนอะไรกระแทกหัวมารึไง? หรือว่าอยู่ดีๆ ก็อยากตายขึ้นมา? หืม?"
"ดูเหมือนจะไม่ได้รักษาความหวังดีที่พวกเรายอมปล่อยตัวแกไปเลยนะ..."
เป็นอย่างที่คิด พวกเอ็นพีซีนอกกฏหมายนี่น่ากลัวฉิบ...พวกมันเปลี่ยนท่าทีหวังจะฆ่าเราทันทีโดยไม่สนสิ่งใจใด ความชั่วช้าเลวทรามนี้มันอะไรกัน?
'มันอาจจะเก่งเกินไปสำหรับเราก็จริง...'
แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราต้องกลัวมัน ในตอนนี้เราไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พวกมันเป็นเพียงแค่เป้าหมายของภารกิจ กำจัดทิ้งซะ...แล้วภารกิจก็จะสำเร็จ เลือดนักรบในตัวเราเดือดพล่านขึ้นมาทันที
เราพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย้ยหยันพร้อมกับชูมือขึ้น "เลิกพล่ามไร้สาระได้แล้ว รีบเข้ามาซักที!!"
ได้ผล...พวกมันคลุ้มคลั่งอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เด็กบ้านี่!!"
"จับมันไว้! ข้าจะอัดมันเอง! ไม่สิ ฆ่ามันเลย! รีบฆ่ามันซะ!"
กลุ่มนักเลงหน้าแดงก่ำกรูเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็ว พวกมันมีกัน 5 คน ถ้าต้องสู้กันในพื้นที่เปิดโลง เราคงจะโดนล้อมและเสียบเปรียบในทันที เรารีบกวาดสายตามองไปรอบโรงตีเหล็กอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งขึ้นไปบนบันไดชั้นสอง บันไดนี้กว้างพอจะให้ชายฉกรรจ์เดินเบียดพร้อมกันได้ทีละสองคนเท่านั้น
เรายืนอยู่บนกึ่งกลางบันไดโดยที่ในมือกำลูกธนูไว้แน่น
"ใครอยากตายก่อนก็รีบขึ้นมาเร็ว!!"
กลุ่มนักเลงชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นเราหนีไปยังพื้นที่แคบ แต่พอพวกมันเห็นอาวุธในมือเราอย่างเต็มสองตาก็พากันหัวเราะออกมาทันที
"อะไรกันวะนั่น? ลูกธนูงั้นหรอ?"
"อุวะฮ่าฮ่า! แกจะจัดการกับเราด้วยลูกธนูโง่ๆ นั่นน่ะรึ? แล้วคันธนูของแกไปไหนซะล่ะ? หรือว่าลืมอยู่ใต้กระโปงของแม่แกกัน?"
"ไม่แปลกนักหรอก ตามปรกติช่างตีเหล็กไม่สามารถใช้อาวุธประเภทธนูได้ มันจึงได้แต่กวัดแกว่งลูกธนูไปมาเท่านั้น ไอ้หมอนี่ยังเด็กอยู่จริงๆ ด้วย!"
พวกมันกำลังหัวเราะเยาะเรา!
ในกลุ่มคนพวกนี้ จอห์นสันคือคนที่หุนหันพลันแล่นมากที่สุด มันรีบพุ่งมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนว่า "ข้าจะฉีกไอ้ช่างตีเหล็กหน้าโง่นี่เป็นชิ้นๆ เอง!"
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอห์นสันที่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งราวกับหมูป่า เราตัดสินใจใช้ทักษะใหม่แกะกล่องที่เพิ่งจะได้ร่ำเรียนมาทันที
"โทสะแห่งช่างตีเหล็ก"
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็กถูกเปิดใช้งาน พลังโจมตีและความเร็วการโจมตีของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 20 วินาที ]
ตัวเลข 20 ปรากฏขึ้นพร้อมกับนับถอยหลังที่ด้านบนหน้าจอ มันคือตัวเลขของระยะเวลาทักษะเสริมพลังที่เราได้ใช้ไปเมื่อครู่ เมื่อยืนยันได้ว่าทักษะกำลังทำงานอยู่ เราจึงเหยียดแขนแทงลูกธนูในมือออกไปอย่างสุดกำลัง
ฉึก! ฉีก!
ยังไม่ทันที่จอห์นสันจะได้เหวี่ยงขวาน เราสามารถทิ่มมันไปได้ถึง 2 แผลในพริบตา อาวุธหนักนั้นมีจุดเด่นที่ความทนทานและความรุนแรงก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเชื่องช้า แล้วยิ่งเราร่ายทักษะเพิ่มความเร็วเข้าไป จอห์นสันจึงไม่มีทางรับมือกับความไวของเราได้ทัน
[ คริติคอล! ]
[ เอฟเฟคของลูกธนูยัฟฟ่าทำงาน การโจมตีที่เกิดขึ้นจะไม่สนใจพลังป้องกันทั้งหมดของศัตรู ]
"อะ...เอ๋!? อั่ก!!"
แม้จะเป็นการโจมตีแค่สองครั้ง แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับรุนแรงอย่างน่าเหลือเชื่อ หนึ่งครั้งเป็นการโจมตีแบบคริติคอล ส่วนอีกหนึ่งครั้งเป็นการโจมตีที่ไม่สนใจพลังป้องกัน นับว่าโชคเข้าข้างเราอยู่มากทีเดียว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกธนูจะสามารถโจมตีได้รุนแรงขนาดนี้
"ดะ...ได้ไงกัน...?"
จอห์นสันมีสีหน้าบิดเบี้ยวและแววตาที่กำลังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลูกธนูแทงทะลุเกราะหนังของมันจนเกิดบาดแผลลึก 2 แห่ง มันกระอักเลือดอย่างเจ็บปวดพร้อมกับกลิ้งตกบันไดไปถึงชั้นล่าง ร่างของจอห์นสันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแสงสีเทาและหายไปในที่สุด มีข้อความระบบเด้งขึ้นตรงหน้าในทันที
[ ท่านจัดการกับนักเลงแห่งหมู่บ้านวินสตันที่มีนามว่าจอห์นสัน ]
[ ค่าชื่อเสียงภายในหมู่บ้านวินสตันเพิ่มขึ้น 60 หน่วย ]
[ ท่านกลายเป็นศัตรูกับนักเลงทุกคนภายในหมู่บ้านวินสตัน ]
[ นักเลงทุกคนภายในหมู่บ้านวินสตันจะไล่ฆ่าท่านในทันทีที่พบตัว ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 4,300 หน่วย ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
...
"...สุดยอด"
ดูเหมือนสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้จะถูกต้อง นักเลงกลุ่มนี้มีเลเวลประมาน 35 อย่างที่คิด ทันทีที่เราฆ่าจอห์นสัน เลเวลของเราก็เพิ่มขึ้นถึง 5 ระดับในคราวเดียว
'แต่เราฆ่าเอ็นพีซีเลเวล 35 ได้ด้วยการโจมตีแค่ 2 ครั้งงั้นหรอ?'
เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แม้จะโชคช่วยโดยการโจมตีแบบคริติคอลและทะลุเกราะ แต่การฆ่าได้หลังจากแทงไปแค่ 2 ครั้งมันก็...
'หรือว่าพลังชีวิตของพวกมันจะน้อยกว่าที่คิดไว้?'
น่าจะใช่...ดูจากท่าทีอันก้าวร้าวของพวกมัน เป็นไปได้ว่าเอ็นพีซีเหล่านี้จะเน้นหนักไปที่ค่าพละกำลังมากกว่าการป้องกันตัว
'งั้นก็สวยสิ'
เรามีหวังในการสำเร็จภารกิจมากขึ้น
"เปิดหน้าต่างสถานะ"
...
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 8, ค่าประสบการณ์ : 125 / 1,400
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
พลังชีวิต : 316/316, มานา 87/87
พละกำลัง: 24 + 5, ความอดทน: 22, ความว่องไว: 16
สติปัญญา: 29, ความชำนาญ: 55, ความพากเพียร: 21
ความเยือกเย็น: 14, ความทรหด: 16, ความหยิ่งทระนง: 14
วิสัยทัศน์: 14
ค่าสถานะคงเหลือ : 110 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 842 / 1,000
...
เลเวลที่เพิ่มขึ้นมาอีก 5 ทำให้สถานะคงเหลือเพิ่มเป็น 110 แต้ม
'ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะสมกับการใช้ค่าสถานะไปมากกว่าตอนนี้อีกแล้ว'
เราเพิ่มแต้มทั้งหมดไปกับค่าพละกำลังและความว่องไว
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 50 แต้มไปเพิ่มให้กับพละกำลัง กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ เมื่อค่าสถานะถูกเพิ่มเข้าไป ท่านจะไม่สามารถยกเลิกได้ กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 60 แต้มไปเพิ่มให้กับความว่องไว กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
...
มีข้อความยืนยันเด้งขึ้นพร้อมกับพละกำลังและความว่องไวที่เพิ่มขึ้นมหาศาล นักเลงอีก 4 คนที่เหลือเมื่อได้เห็นเพื่อนพวกมันตายไปต่อหน้าก็ไม่กล้าขึ้นบันไดมาอีก
"หมอนี่เป็นใครกัน? ทำไมจอห์นสันถึงถูกจัดการง่ายดายแบบนี้?"
"จอห์นสันมันไม่ระวังเอง ก็เลยถูกแทงไปที่หัวใจสองครั้งติดๆ"
"แต่ไม่ใช่ว่ามันมีแค่ลูกธนูหรอกหรอ? ถ้าไม่ได้ถูกยิงจากคันธนู ลำพังลูกธนูจะแทงทะลุเกราะหนังได้ยังไง? นี่มันแปลกเกินไปแล้ว"
"...ช่างตีเหล็กคนนี้อาจจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพึงพาอาวุธ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ช่างตีเหล็กด้วยซ้ำ น่าจะเป็นคลาสนักรบมากกว่า ข้าค่อนข้างมั่นใจ"
"เป็นไปไม่ได้...ก็ท่าทางของมันอ่อนแอซะขนาดนี้"
"อย่าตัดสินคนจากภายนอก"
กลุ่มนักเลงจ้องมองเราอย่างไม่ผลีผลาม ในตอนนี้ทักษะโทสะแห่งช่างตีเหล็กของเราเหลือเวลาแสดงผลเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น เราจึงตัดสินใจยั่วยุพวกมันอีกครั้ง
"พวกแกรออะไรอยู่? ไม่โจมตีเข้ามารึไง? ความเก่งในตอนแรกไปไหนหมดแล้วล่ะ? ไอ้พวกนักเลงกระจอกชั้นสามทั้งหลาย"
"ชั้นสาม? มันจะมากเกินไปแล้ว!"
"ปราก้า หยุดก่อน!!"
แม้เพื่อนของพวกมันจะพูดห้ามเอาไว้ แต่นักเลงที่ชื่อปราก้าก็ดูเหมือนจะไม่สนใจฟัง มันพุ่งใส่เราตามคำยั่วยุอย่างง่ายดาย ในมือของปราก้ากำลังถือกระบองยักษ์เอาไว้ ความเร็วจึงจัดว่าเชื่องช้าไม่ต่างอะไรกับขวานของจอห์นสัน
ย๊ากกก!
มันวิ่งขึ้นบันไดมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเหวี่ยงกระบองในมือมาที่ใบหน้าของเรา แต่ด้วยความเชื่องช้าทำให้เราเอี้ยวตัวหลบได้อย่างง่ายดายและแทงลูกธนูในมือสวนกลับไป
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
การเพิ่มขึ้นของค่าสถานะว่องไว่ส่งผลอย่างชัดเจน หนนี้เราสามารถโจมตีได้ทั้งหมด 3 ครั้งในคราวเดียว
"อ๊ากกก!!"
ปราก้าถูกแทงเข้าไปที่หน้าอกจนเกิดแผลใหญ่ถึง 3 แผล
'ชิ!'
คราวนี้โชคไม่เข้าข้างเท่าไร นอกจากจะไม่ติดคริติคอล เอฟเฟคพิเศษของลูกธนูยัฟฟ่าก็ไม่ทำงานด้วย ยังดีที่เราเพิ่มค่าพละกำลังไปถึง 50 แต้ม ทำให้ปราก้าบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน แต่การที่มันยังไม่ตายในทันทีก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
"เฮ้ย! เป็นอะไรมั้ย?"
"อั่ก!...มะ...ไม่เป็นไร ยังไม่ถึงตาย"
"หืม...ดูเหมือนที่จัดการกับจอห์นสันได้จะแค่ฟลุคเท่านั้นสินะ พลังโจมตีของมันน้อยกว่าที่คิดเอาไว้มากทีเดียว"
พวกมันค่อยๆ สำรวจเราทีละนิด หลังจากนั้นวีลก็อธิบายให้คนที่เหลือฟังว่า "สิ่งที่น่ากลัวคือความเร็วของมัน ถ้าเทียบกับอาวุธอันเชื่องช้า ความเร็วของหมอนี่จัดอยู่ในระดับที่สูงมาก ดังนั้นการสู้ตัวต่อตัวจะทำให้พวกเราเสียเปรียบ"
"แล้วต้องทำยังไง?"
"ทำไงน่ะหรอ? ง่ายมาก"
วีลขยิบตาเล็กน้อยพร้อมกับเดินมาที่ตีนบันได มันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเราที่ยืนอยู่ลำพังด้านบนว่า "พวกเราจะอยู่ข้างล่างเฉยๆ โดยไม่ขึ้นไปทำอะไรกับแกก็แล้วกัน แต่แกเองก็อยู่ข้างบนนั่นตลอดไปไม่ได้เหมือนกันใช่รึเปล่า? เมื่อใดก็ตามที่แกคิดจะลงมาข้างล่าง เมื่อนั้นก็จะเป็นเวลาตายของแกแน่นอน!!"
อึก!...พวกมันก็ไม่ได้โง่เท่าไหร่นี่หว่า
'ถ้าเป็นแค่นักเลงกระจอก คงรีบขึ้นมาจู่โจมอย่างไม่คิดชีวิตไปแล้ว'
แผนการอาศัยความได้เปรียบของพื้นก็จบลงแค่เท่านี้
'เหลืออีก 4 คน หนึ่งในนั้นแม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังโจมตีได้อยู่ ชิ...ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็เสี่ยงเกินไป การสู้กับพวกมันทั้งหมดในคราวเดียวแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แล้วเราจะเคลียภารกิจนี้ได้ยังไงกัน?'
ที่จริงเราจะพอใจกับทักษะใหม่แล้วยอมทิ้งภารกิจไปแต่โดยดีก็ได้ แต่อีกใจหนึ่งเราก็นึกอยากรู้ว่าภารกิจต่อเนื่องของข่านนั้นจะให้รางวัลตอบแทนงดงามขนาดไหน หรือว่าเราควรลองเสี่ยงดูซักตั้งกันนะ?
'ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือการยกเลิกภารกิจแล้วรีบหนีไป เท่านี้เราก็ไม่ต้องตาย'
'แต่ว่า...'
ตัวเราที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ กลับต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้สบตากับข่าน สายตาของลุงแก่จ้องมองเราด้วยความหวังและความซาบซึ้ง
เป็นสายตาเดียวกับที่ผู้คนมองมายังฮีโร่ของตน...
'อย่ามองแบบนั้นนะลุง...ผมไม่ได้เป็นฮีโร่อะไรอย่างที่คิดหรอก'
เราพยายามเพิกเฉยต่อสายตาที่อ้อนวอนคู่นั้น ก่อนตัดสินใจกำลังจะล็อคเอ้าท์ออกจากเกม...
'แค่รับภารกิจก็ได้ทักษะใหม่อันยอดเยี่ยมมาแล้ว เรามั่นใจมากว่านี่จะต้องเป็นภารกิจลับที่หายากแน่นอน ภารกิจต่อเนื่องหลังจากนี้จะต้องให้รางวัลมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้แน่ มันไม่โง่ไปหน่อยรึไงที่เราจะยอมทิ้งภารกิจที่เหลือหมดไป?'
ใช่แล้ว...ลองหน่อยซักตั้งเป็นไง เราเดินลงบันไดไปพร้อมกันกับกลุ่มนักเลงที่เข้ามารุมล้อม
'พลังป้องกันของเราแทบไม่มีเลยซักนิด ส่วนพลังชีวิตก็น้อยมาก ถ้าหากถูกเจ้าพวกนี้โจมตีเข้าคงได้ตายภายใน 2-3 ครั้งแน่ ดังนั้นห้ามใจร้อนเด็ดขาด...เย็นเข้าไว้'
เราพยายามตั้งสมาธิให้ได้มากที่สุด เมื่อยืนยันได้ว่าโทสะแห่งช่างตีเหล็กพร้อมใช้งานแล้วจึงรีบลงมือทันที
"โทสะแห่งช่างตีเหล็ก"
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็กถูกเปิดใช้งาน พลังโจมตีและความเร็วการโจมตีของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 20 วินาที ]
โอเค...ถัดไปก็
"ความอดทนแห่งช่างตีเหล็กในตำนาน"
[ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ]
"เอ๋?"
ทำไมทักษะถึงไม่ทำงานล่ะ? เรารู้สึกสับสนจนต้องรีบเปิดอ่านรายละเอียดของทักษะในทันที
...
[ ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
ความอึด พลังป้องกัน และความชำนาญจะเพิ่มขึ้น 200% เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
* ทักษะนี้ไม่ใช้มานา
* ทักษะนี้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามใจนึกได้ ทักษะจะแสดงผลอัตโนมัติยามที่ท่านแสดงออกถึงความอดทนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
...
"บัดซบ..."
ชิ!...ทักษะนี้จะเปิดใช้งานตามเงื่อนไขเฉพาะเท่านั้น
'เราควรอ่านคำอธิบายตั้งแต่แรก...นี่ไม่ต่างอะไรกับคนที่ลงมือทำโดยไม่อ่านคู่มือการใช้งานเลยซักนิด'
ในขณะที่ปัจจัยสู่ชัยชนะหายไป 1 อย่าง กลุ่มนักเลงที่ล้อมอยู่ก็ได้บีบวงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
"เฮ้ย! แกน่ะ...พร้อมจะลงนรกรึยัง?"
"แล้วแกจะต้องชดใช้กับการตายของสหายข้า"
...
เรากำลังตกที่นั่งลำบากอย่างแท้จริง...
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 24 - จบตอน
ระดับความยาก : B
ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ท่านได้รับเจตนารมย์แห่งแพ็กม่ามาพร้อมกับเทคนิคลับสุดยอดของเขา
หลักการสำคัญของเจตจำนงแห่งแพ็กม่าก็คือ 'การตีเหล็กเพื่อมวลมนุษย์'
ท่านจะไม่มีวันให้อภัยกับการกระทำที่ชั่วช้าของบริษัทโม่โร่และลูกสมุน
จงช่วยช่างตีเหล็กที่มีนามว่าข่าน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของลูกไม้ต่ำทราบจากบริษัทเมโร่จนต้องเสียลูกค้าประจำไป
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ขับไล่ลูกสมุนของบริษัทเมโร่และทำลายสัญญาขายตึกทิ้ง
รางวัลตอบแทนเมื่อสำเร็จภารกิจ : อาการติดสุราของช่างตีเหล็กข่านจะดีขึ้น ความสัมพันธ์กับท่านและช่างตีเหล็กข่านจะเพิ่มเป็นระดับสูงสุด
* เดิมทีแล้ว ข่านคือช่างตีเหล็กที่มีฝีมือยอดเยี่ยมหาตัวจับยาก ทว่า นับตั้งแต่ถูกบริษัทเมโร่ทำลายกิจการไป ข่านก็เกิดความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน จนในที่สุดก็ต้องตกอยู่ในสภาวะติดสุราเรื้อรัง แม้ในตอนนี้เขาเป็นเพียงชายแก่ที่ไม่ได้ความก็จริง แต่เมื่อใดที่อาการพิษสุราเรื้อรังหายขาด ข่านจะกลับมาเป็นช่างตีเหล็กที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะจดจำท่านได้ และเคารพชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของท่าน...
รางวัลที่จะได้หากยอมรับภารกิจ : ทักษะ 'โทสะแห่งช่างตีเหล็ก'
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : ข่านจะเสียชีวิตลงหลังจากนี้ในอีกไม่กี่วัน และภารกิจทั้งหมดเกี่ยวกับข่านก็จะหายไปอย่างถาวร
...
"เอ๋?"
เจตจำนงแห่งช่างตีเหล็ก?
"การกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม?"
คำคมของช่างตีเหล็กในตำนานงั้นหรอเนี่ย?
"...ถ้าเกิดว่าเรากินแต่กะเทียมอย่างเดียวติดต่อกันเป็นเวลา 100 วัน มันจะปรากฏคลาสลับใหม่ขึ้นมารึเปล่านะ?"
บ้าฉิบ...นี่ไม่ใช่เวลามามัวติดตลกอยู่แท้ๆ
"ภารกิจอีกแล้วงั้นหรอ..."
เป็นอย่างที่คิด โรงตีเหล็กซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากและการราวีของกลุ่มนักเลงได้ทำให้เกิดภารกิจใหม่ขึ้น
[ ท่านจะยอมรับภารกิจรึไม่? ]
ศัตรูมี 5 คน ทั้งหมดมีเลเวลอย่างน้อย 35 ซึ่งกลับกัน ฝั่งเรานั้นมีเพียงตัวเราแค่คนเดียว และยังมีเลเวลแค่ 3 เท่านั้น แถมที่แย่ยิ่งกว่า คือการที่เราได้ฝากดาบใหญ่แห่งมาม่อนกับเกราะหนักแห่งเมนเกลเอาไว้ในคลังสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
หรือเราควรปฏิเสธดี? ไม่ได้...
"รับภารกิจ..."
ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องปฏิเสธภารกิจนี้
ถึงเราจะเลเวลเพียงแค่3 แต่ค่าสถานะโดยรวมก็เทียบเท่ากับตัวละครทั่วไปที่มีเลเวล 20 แถมยังมีทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' อยู่อีก มันคือทักษะที่เยี่ยมยอดซึ่งจะเพิ่มสมาธิ, ความอดทน, และพลังป้องกันอย่างมหาศาลเป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมงเต็ม แต่เท่านั้นยังไม่หมด ทันทีที่พลังชีวิตเหลือน้อย เราก็จะกลายเป็นอมตะอีก 5 วินาที
"ตอนนี้เราก็ไม่ได้ไร้อาวุธซะทีเดียว"
เราเปิดกระเป๋าสัมภาระพร้อมกับหยิบลูกธนูหนึ่งดอกที่เหลือเป็นของต่างหน้าออกมา
...
[ ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ ]
ระดับไอเท็ม : อีปิก
พลังโจมตี : 35~42
ลูกธนูที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
การหลอมรวมกันระหว่างยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า ได้ทำให้เกิดโลหะที่มีอานุภาพในการเจาะทะลวงสูง ลูกธนูชนิดนี้สามารถมองข้ามพลังป้องกันของศัตรูได้ในบางครั้ง
* มีโอกาสปานกลางที่จะไม่สนใจพลังป้องกันของศัตรู
น้ำหนัก : 0.1 หน่วย
...
โดยปรติแล้วลูกธนูจะเป็นไอเท็มที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่นั่นก็ต่อเมื่อมันถูกใช้กับคันศรเท่านั้น
"ถ้าเราถือมันเอาไว้ในมือเพื่อแทงแบบมีดสั้น มันก็จะไม่ใช่ไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป"
ในความเป็นจริง เราเคยได้ยินมาว่ามีบางคลาสที่สามารถนำลูกธนูกลับมาใช้ใหม่ได้ ยกเว้นว่ามันจะถูกทำลายไปจนไม่เหลือสภาพเดิมอีก แต่เราก็ไม่มีข้อมูลมากนัก เพราะไม่เคยเล่นคลาสเกี่ยวข้องกับธนูเลยซักครั้ง
'เราคิดว่ามันแปลกที่ลูกธนูจะมีมูลค่าสูง จึงตัดสินใจถามคนเดินทางที่ผ่านไปมาดู ต้องขอบคุณในเรื่องนั้นที่ทำให้รู้ว่า ลูกธนูไม่จำเป็นต้องใช้แล้วทิ้งเสมอไป...ฮุฮุ ในโลกใบนี้ ข้อมูลคือทุกสิ่งอย่างแท้จริง ในอนาคต เราจะมองข้ามการหาข้อมูลข่าวสารไม่ได้เด็ดขาด'
เราแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมกับสำรวจกลุ่มนักเลงอย่างละเอียด พวกมันทุกคนล้วนถืออาวุธอันตรายอยู่ในมือ เช่นขวาน, ดาบ, และไม้กระบอง ส่วนชุดที่สวมใส่ก็เป็นเกราะหนังหนาๆ
'สวรรค์ยังเข้าข้างอยู่บ้างแฮะ'
ถ้ามันพวกใส่เกราะเหล็ก โอกาสชนะของเราคงจบเห่ แต่โชคดีที่เป็นเกราะหนัง หัวโลหะของลูกธนูยัฟฟ่าคงสามารถเสียงทะลุพจนเกิดบาดแผลร้ายแรงได้อยู่
'ลูกธนูดอกนี้เราสร้างมันขึ้นมาด้วยใจชนิดที่ลูกธนูธรรมดาไม่มีทางเทียบได้ เราอาจจะมีพลังโจมตีเทียบเท่าตัวละครเลเวล 20 ก็จริง แต่ด้วยคุณสมบัติพิเศษของลูกศรที่มีโอกาสมองข้ามพลังป้องกัน สิ่งนี้อาจชดเชยความอ่อนแอของพลังโจมตีเราได้ ยังไม่รวมถึงประสบการณ์ต่อสู้อันโชกโชนสมัยที่ยังเป็นคลาสนักรบอีก'
ด้วยค่าสถานะที่พิเศษกว่าตัวละครทั่วไป ด้วยอาวุธที่เหมาะสม ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ในอดีตและทักษะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ปัจจัยทั้ง 4 อย่างนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะสำเร็จภารกิจได้
'ถึงโอกาสจะต่ำไปซักหน่อยก็เถอะ'
แต่ทำไมเราถึงได้รับภารกิจที่โอกาสสำเร็จต่ำมางั้นหรอ? แน่นอนอยู่แล้ว
ประการแรก บทลงโทษนั้นไม่มีผลอะไรกับเราเลย ถึงเอ็นพีซีที่ชื่อข่านจะตายไปและภารกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะหายไป แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีกว่าภารกิจเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
ประการที่สอง มันมีรางวัลมอบให้ถ้าหากเรากดยอมรับภารกิจนี้
[ ท่านรับภารกิจเรียบร้อย ]
[ ของรางวัลตอบแทนสำหรับการรับภารกิจ ท่านเรียนรู้ทักษะ 'โทสะแห่งช่างตีเหล็ก' ]
ของรางวัลที่ได้เมื่อรับภารกิจนั้นจะแตกต่างจากของรางวัลตอบแทนภารกิจอยู่เล็กน้อย มันจะได้ทันทีที่เรากดยอมรับทำโดยไม่สนว่าภารกิจจะสำเร็จรึไม่ แล้วใครจะปฏิเสธลงได้? เรารีบเปิดหน้าต่างตัวละครเพื่อตรวจสอบทักษะที่ได้รับมาทันที
...
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็ก ]
เลเวล : 1
เพิ่มพลังโจมตี 10% และความเร็วโจมตี 30% เป็นระยะเวลา 20 วินาที
มานาที่ต้องใช้ : 50 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 60 วินาที
...
'เจ๋งโคตร!'
ตามปรกติแล้ว คลาสเกี่ยวกับช่างตีเหล็กจะไม่ค่อยมีทักษะสายต่อสู้ให้เรียนมากนัก แต่เรากลับได้เรียนมันจากภารกิจอย่างน่าเหลือเชื่อ แถมคุณภาพก็จัดว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว
'เจ๋งกว่าทักษะคลาสนักรบที่เราเคยเรียนอีกไม่ใช่รึไงกัน?'
ทักษะเสริมพลังของคลาสนักรบที่เราเคยเรียนนั้นจะเพิ่มพลังโจมตี 20% เพียงครู่เดียว แถมมีระยะหน่วงหลังใช้นานถึง 3 นาที แต่ทักษะเสริมพลังของช่างตีเหล็กอันนี้กลับเพิ่มทั้งพลังโจมตีและความเร็วโจมตี โดยที่มีระยะหน่วงหลังใช้เพียง 1 นาทีเท่านั้น
'ลาภก้อนโตของแท้เลย...คิกคิก หรือว่านี่จะเป็นภารกิจลับที่เขาพูดถึงกันนะ? แต่มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอที่ภารกิจลับจะมีความยากแค่ระดับ B เท่านั้น บางที...มันอาจจะเป็นภารกิจต่อเนื่องมากกว่า เอ็นพีซีข่านอาจจะมีภารกิจต่อเนื่องที่คุ้มค่าต่อการทำก็ได้...โชคดีชะมัด'
ทันทีที่เรารู้ถึงความเจ๋งของข่าน ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้
'ต้องขอบคุณทักษะใหม่ โอกาสที่ภารกิจจะสำเร็จเพิ่มขึ้นมากทีเดียว'
เราตัดสินใจเดินกลับเข้าไปหากลุ่มนักเลงอีกครั้ง
"อะไรของมัน...ไอ้หมอนี่?" กลุ่มนักเลงเอียงคออย่างสงสัยทันทีที่เห็นเราเดินกลับมาแทนที่จะหนีไป
เรากำลูกธนูในมือแน่นพร้อมกับชี้ไปที่หน้าของพวกมัน หลังจากนั้นก็อธิบายถึงเหตุผลที่เราย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้ง
"พวกแกทำเกินไปแล้ว! แม้ข้าจะไม่ได้เคารพผู้ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่เคยกระทำต่ำทรามขนาดนี้! พวกแกจะไม่เคารพคนแก่ก็ไม่เป็นไร แต่พวกแกก็ควรจะมีความละอายบ้าง น่าจะกลับไปเรียนมารยาทมาให้เยอะกว่านี้นะเจ้าพวกโง่!...ข้าไม่มีวันให้อภัยแน่!"
เราไม่ได้อยากจะทำตัวเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมหรอก เราแค่ไม่ชอบขี้หน้านักเลงพวกนี้เท่านั้น
"จงโทษตัวเองซะ...ที่ดันไปคล้ายกับคนทวงหนี้ของบริษัทมาร์เธอร์อีสแฮปปี้น่ะ!"
ทันทีที่เราก้าวเท้าเข้าไป กลุ่มพวกมันก็เริ่มกำอาวุธในมือแน่น
"ไอ้งั่งเอ้ย! เด็กอย่างแกกล้าพูดแบบนี้กับพวกข้าเชียวรึ? ฮ่าฮ่า เดี๋ยวก่อนนะ...เมื่อกี้ไปโดนอะไรกระแทกหัวมารึไง? หรือว่าอยู่ดีๆ ก็อยากตายขึ้นมา? หืม?"
"ดูเหมือนจะไม่ได้รักษาความหวังดีที่พวกเรายอมปล่อยตัวแกไปเลยนะ..."
เป็นอย่างที่คิด พวกเอ็นพีซีนอกกฏหมายนี่น่ากลัวฉิบ...พวกมันเปลี่ยนท่าทีหวังจะฆ่าเราทันทีโดยไม่สนสิ่งใจใด ความชั่วช้าเลวทรามนี้มันอะไรกัน?
'มันอาจจะเก่งเกินไปสำหรับเราก็จริง...'
แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราต้องกลัวมัน ในตอนนี้เราไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พวกมันเป็นเพียงแค่เป้าหมายของภารกิจ กำจัดทิ้งซะ...แล้วภารกิจก็จะสำเร็จ เลือดนักรบในตัวเราเดือดพล่านขึ้นมาทันที
เราพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย้ยหยันพร้อมกับชูมือขึ้น "เลิกพล่ามไร้สาระได้แล้ว รีบเข้ามาซักที!!"
ได้ผล...พวกมันคลุ้มคลั่งอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เด็กบ้านี่!!"
"จับมันไว้! ข้าจะอัดมันเอง! ไม่สิ ฆ่ามันเลย! รีบฆ่ามันซะ!"
กลุ่มนักเลงหน้าแดงก่ำกรูเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็ว พวกมันมีกัน 5 คน ถ้าต้องสู้กันในพื้นที่เปิดโลง เราคงจะโดนล้อมและเสียบเปรียบในทันที เรารีบกวาดสายตามองไปรอบโรงตีเหล็กอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งขึ้นไปบนบันไดชั้นสอง บันไดนี้กว้างพอจะให้ชายฉกรรจ์เดินเบียดพร้อมกันได้ทีละสองคนเท่านั้น
เรายืนอยู่บนกึ่งกลางบันไดโดยที่ในมือกำลูกธนูไว้แน่น
"ใครอยากตายก่อนก็รีบขึ้นมาเร็ว!!"
กลุ่มนักเลงชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นเราหนีไปยังพื้นที่แคบ แต่พอพวกมันเห็นอาวุธในมือเราอย่างเต็มสองตาก็พากันหัวเราะออกมาทันที
"อะไรกันวะนั่น? ลูกธนูงั้นหรอ?"
"อุวะฮ่าฮ่า! แกจะจัดการกับเราด้วยลูกธนูโง่ๆ นั่นน่ะรึ? แล้วคันธนูของแกไปไหนซะล่ะ? หรือว่าลืมอยู่ใต้กระโปงของแม่แกกัน?"
"ไม่แปลกนักหรอก ตามปรกติช่างตีเหล็กไม่สามารถใช้อาวุธประเภทธนูได้ มันจึงได้แต่กวัดแกว่งลูกธนูไปมาเท่านั้น ไอ้หมอนี่ยังเด็กอยู่จริงๆ ด้วย!"
พวกมันกำลังหัวเราะเยาะเรา!
ในกลุ่มคนพวกนี้ จอห์นสันคือคนที่หุนหันพลันแล่นมากที่สุด มันรีบพุ่งมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนว่า "ข้าจะฉีกไอ้ช่างตีเหล็กหน้าโง่นี่เป็นชิ้นๆ เอง!"
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอห์นสันที่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งราวกับหมูป่า เราตัดสินใจใช้ทักษะใหม่แกะกล่องที่เพิ่งจะได้ร่ำเรียนมาทันที
"โทสะแห่งช่างตีเหล็ก"
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็กถูกเปิดใช้งาน พลังโจมตีและความเร็วการโจมตีของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 20 วินาที ]
ตัวเลข 20 ปรากฏขึ้นพร้อมกับนับถอยหลังที่ด้านบนหน้าจอ มันคือตัวเลขของระยะเวลาทักษะเสริมพลังที่เราได้ใช้ไปเมื่อครู่ เมื่อยืนยันได้ว่าทักษะกำลังทำงานอยู่ เราจึงเหยียดแขนแทงลูกธนูในมือออกไปอย่างสุดกำลัง
ฉึก! ฉีก!
ยังไม่ทันที่จอห์นสันจะได้เหวี่ยงขวาน เราสามารถทิ่มมันไปได้ถึง 2 แผลในพริบตา อาวุธหนักนั้นมีจุดเด่นที่ความทนทานและความรุนแรงก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเชื่องช้า แล้วยิ่งเราร่ายทักษะเพิ่มความเร็วเข้าไป จอห์นสันจึงไม่มีทางรับมือกับความไวของเราได้ทัน
[ คริติคอล! ]
[ เอฟเฟคของลูกธนูยัฟฟ่าทำงาน การโจมตีที่เกิดขึ้นจะไม่สนใจพลังป้องกันทั้งหมดของศัตรู ]
"อะ...เอ๋!? อั่ก!!"
แม้จะเป็นการโจมตีแค่สองครั้ง แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับรุนแรงอย่างน่าเหลือเชื่อ หนึ่งครั้งเป็นการโจมตีแบบคริติคอล ส่วนอีกหนึ่งครั้งเป็นการโจมตีที่ไม่สนใจพลังป้องกัน นับว่าโชคเข้าข้างเราอยู่มากทีเดียว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกธนูจะสามารถโจมตีได้รุนแรงขนาดนี้
"ดะ...ได้ไงกัน...?"
จอห์นสันมีสีหน้าบิดเบี้ยวและแววตาที่กำลังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลูกธนูแทงทะลุเกราะหนังของมันจนเกิดบาดแผลลึก 2 แห่ง มันกระอักเลือดอย่างเจ็บปวดพร้อมกับกลิ้งตกบันไดไปถึงชั้นล่าง ร่างของจอห์นสันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแสงสีเทาและหายไปในที่สุด มีข้อความระบบเด้งขึ้นตรงหน้าในทันที
[ ท่านจัดการกับนักเลงแห่งหมู่บ้านวินสตันที่มีนามว่าจอห์นสัน ]
[ ค่าชื่อเสียงภายในหมู่บ้านวินสตันเพิ่มขึ้น 60 หน่วย ]
[ ท่านกลายเป็นศัตรูกับนักเลงทุกคนภายในหมู่บ้านวินสตัน ]
[ นักเลงทุกคนภายในหมู่บ้านวินสตันจะไล่ฆ่าท่านในทันทีที่พบตัว ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 4,300 หน่วย ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
...
"...สุดยอด"
ดูเหมือนสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้จะถูกต้อง นักเลงกลุ่มนี้มีเลเวลประมาน 35 อย่างที่คิด ทันทีที่เราฆ่าจอห์นสัน เลเวลของเราก็เพิ่มขึ้นถึง 5 ระดับในคราวเดียว
'แต่เราฆ่าเอ็นพีซีเลเวล 35 ได้ด้วยการโจมตีแค่ 2 ครั้งงั้นหรอ?'
เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แม้จะโชคช่วยโดยการโจมตีแบบคริติคอลและทะลุเกราะ แต่การฆ่าได้หลังจากแทงไปแค่ 2 ครั้งมันก็...
'หรือว่าพลังชีวิตของพวกมันจะน้อยกว่าที่คิดไว้?'
น่าจะใช่...ดูจากท่าทีอันก้าวร้าวของพวกมัน เป็นไปได้ว่าเอ็นพีซีเหล่านี้จะเน้นหนักไปที่ค่าพละกำลังมากกว่าการป้องกันตัว
'งั้นก็สวยสิ'
เรามีหวังในการสำเร็จภารกิจมากขึ้น
"เปิดหน้าต่างสถานะ"
...
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 8, ค่าประสบการณ์ : 125 / 1,400
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
พลังชีวิต : 316/316, มานา 87/87
พละกำลัง: 24 + 5, ความอดทน: 22, ความว่องไว: 16
สติปัญญา: 29, ความชำนาญ: 55, ความพากเพียร: 21
ความเยือกเย็น: 14, ความทรหด: 16, ความหยิ่งทระนง: 14
วิสัยทัศน์: 14
ค่าสถานะคงเหลือ : 110 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 842 / 1,000
...
เลเวลที่เพิ่มขึ้นมาอีก 5 ทำให้สถานะคงเหลือเพิ่มเป็น 110 แต้ม
'ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะสมกับการใช้ค่าสถานะไปมากกว่าตอนนี้อีกแล้ว'
เราเพิ่มแต้มทั้งหมดไปกับค่าพละกำลังและความว่องไว
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 50 แต้มไปเพิ่มให้กับพละกำลัง กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ เมื่อค่าสถานะถูกเพิ่มเข้าไป ท่านจะไม่สามารถยกเลิกได้ กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 60 แต้มไปเพิ่มให้กับความว่องไว กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
...
มีข้อความยืนยันเด้งขึ้นพร้อมกับพละกำลังและความว่องไวที่เพิ่มขึ้นมหาศาล นักเลงอีก 4 คนที่เหลือเมื่อได้เห็นเพื่อนพวกมันตายไปต่อหน้าก็ไม่กล้าขึ้นบันไดมาอีก
"หมอนี่เป็นใครกัน? ทำไมจอห์นสันถึงถูกจัดการง่ายดายแบบนี้?"
"จอห์นสันมันไม่ระวังเอง ก็เลยถูกแทงไปที่หัวใจสองครั้งติดๆ"
"แต่ไม่ใช่ว่ามันมีแค่ลูกธนูหรอกหรอ? ถ้าไม่ได้ถูกยิงจากคันธนู ลำพังลูกธนูจะแทงทะลุเกราะหนังได้ยังไง? นี่มันแปลกเกินไปแล้ว"
"...ช่างตีเหล็กคนนี้อาจจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพึงพาอาวุธ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ช่างตีเหล็กด้วยซ้ำ น่าจะเป็นคลาสนักรบมากกว่า ข้าค่อนข้างมั่นใจ"
"เป็นไปไม่ได้...ก็ท่าทางของมันอ่อนแอซะขนาดนี้"
"อย่าตัดสินคนจากภายนอก"
กลุ่มนักเลงจ้องมองเราอย่างไม่ผลีผลาม ในตอนนี้ทักษะโทสะแห่งช่างตีเหล็กของเราเหลือเวลาแสดงผลเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น เราจึงตัดสินใจยั่วยุพวกมันอีกครั้ง
"พวกแกรออะไรอยู่? ไม่โจมตีเข้ามารึไง? ความเก่งในตอนแรกไปไหนหมดแล้วล่ะ? ไอ้พวกนักเลงกระจอกชั้นสามทั้งหลาย"
"ชั้นสาม? มันจะมากเกินไปแล้ว!"
"ปราก้า หยุดก่อน!!"
แม้เพื่อนของพวกมันจะพูดห้ามเอาไว้ แต่นักเลงที่ชื่อปราก้าก็ดูเหมือนจะไม่สนใจฟัง มันพุ่งใส่เราตามคำยั่วยุอย่างง่ายดาย ในมือของปราก้ากำลังถือกระบองยักษ์เอาไว้ ความเร็วจึงจัดว่าเชื่องช้าไม่ต่างอะไรกับขวานของจอห์นสัน
ย๊ากกก!
มันวิ่งขึ้นบันไดมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเหวี่ยงกระบองในมือมาที่ใบหน้าของเรา แต่ด้วยความเชื่องช้าทำให้เราเอี้ยวตัวหลบได้อย่างง่ายดายและแทงลูกธนูในมือสวนกลับไป
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
การเพิ่มขึ้นของค่าสถานะว่องไว่ส่งผลอย่างชัดเจน หนนี้เราสามารถโจมตีได้ทั้งหมด 3 ครั้งในคราวเดียว
"อ๊ากกก!!"
ปราก้าถูกแทงเข้าไปที่หน้าอกจนเกิดแผลใหญ่ถึง 3 แผล
'ชิ!'
คราวนี้โชคไม่เข้าข้างเท่าไร นอกจากจะไม่ติดคริติคอล เอฟเฟคพิเศษของลูกธนูยัฟฟ่าก็ไม่ทำงานด้วย ยังดีที่เราเพิ่มค่าพละกำลังไปถึง 50 แต้ม ทำให้ปราก้าบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน แต่การที่มันยังไม่ตายในทันทีก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
"เฮ้ย! เป็นอะไรมั้ย?"
"อั่ก!...มะ...ไม่เป็นไร ยังไม่ถึงตาย"
"หืม...ดูเหมือนที่จัดการกับจอห์นสันได้จะแค่ฟลุคเท่านั้นสินะ พลังโจมตีของมันน้อยกว่าที่คิดเอาไว้มากทีเดียว"
พวกมันค่อยๆ สำรวจเราทีละนิด หลังจากนั้นวีลก็อธิบายให้คนที่เหลือฟังว่า "สิ่งที่น่ากลัวคือความเร็วของมัน ถ้าเทียบกับอาวุธอันเชื่องช้า ความเร็วของหมอนี่จัดอยู่ในระดับที่สูงมาก ดังนั้นการสู้ตัวต่อตัวจะทำให้พวกเราเสียเปรียบ"
"แล้วต้องทำยังไง?"
"ทำไงน่ะหรอ? ง่ายมาก"
วีลขยิบตาเล็กน้อยพร้อมกับเดินมาที่ตีนบันได มันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเราที่ยืนอยู่ลำพังด้านบนว่า "พวกเราจะอยู่ข้างล่างเฉยๆ โดยไม่ขึ้นไปทำอะไรกับแกก็แล้วกัน แต่แกเองก็อยู่ข้างบนนั่นตลอดไปไม่ได้เหมือนกันใช่รึเปล่า? เมื่อใดก็ตามที่แกคิดจะลงมาข้างล่าง เมื่อนั้นก็จะเป็นเวลาตายของแกแน่นอน!!"
อึก!...พวกมันก็ไม่ได้โง่เท่าไหร่นี่หว่า
'ถ้าเป็นแค่นักเลงกระจอก คงรีบขึ้นมาจู่โจมอย่างไม่คิดชีวิตไปแล้ว'
แผนการอาศัยความได้เปรียบของพื้นก็จบลงแค่เท่านี้
'เหลืออีก 4 คน หนึ่งในนั้นแม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังโจมตีได้อยู่ ชิ...ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็เสี่ยงเกินไป การสู้กับพวกมันทั้งหมดในคราวเดียวแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แล้วเราจะเคลียภารกิจนี้ได้ยังไงกัน?'
ที่จริงเราจะพอใจกับทักษะใหม่แล้วยอมทิ้งภารกิจไปแต่โดยดีก็ได้ แต่อีกใจหนึ่งเราก็นึกอยากรู้ว่าภารกิจต่อเนื่องของข่านนั้นจะให้รางวัลตอบแทนงดงามขนาดไหน หรือว่าเราควรลองเสี่ยงดูซักตั้งกันนะ?
'ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือการยกเลิกภารกิจแล้วรีบหนีไป เท่านี้เราก็ไม่ต้องตาย'
'แต่ว่า...'
ตัวเราที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ กลับต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้สบตากับข่าน สายตาของลุงแก่จ้องมองเราด้วยความหวังและความซาบซึ้ง
เป็นสายตาเดียวกับที่ผู้คนมองมายังฮีโร่ของตน...
'อย่ามองแบบนั้นนะลุง...ผมไม่ได้เป็นฮีโร่อะไรอย่างที่คิดหรอก'
เราพยายามเพิกเฉยต่อสายตาที่อ้อนวอนคู่นั้น ก่อนตัดสินใจกำลังจะล็อคเอ้าท์ออกจากเกม...
'แค่รับภารกิจก็ได้ทักษะใหม่อันยอดเยี่ยมมาแล้ว เรามั่นใจมากว่านี่จะต้องเป็นภารกิจลับที่หายากแน่นอน ภารกิจต่อเนื่องหลังจากนี้จะต้องให้รางวัลมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้แน่ มันไม่โง่ไปหน่อยรึไงที่เราจะยอมทิ้งภารกิจที่เหลือหมดไป?'
ใช่แล้ว...ลองหน่อยซักตั้งเป็นไง เราเดินลงบันไดไปพร้อมกันกับกลุ่มนักเลงที่เข้ามารุมล้อม
'พลังป้องกันของเราแทบไม่มีเลยซักนิด ส่วนพลังชีวิตก็น้อยมาก ถ้าหากถูกเจ้าพวกนี้โจมตีเข้าคงได้ตายภายใน 2-3 ครั้งแน่ ดังนั้นห้ามใจร้อนเด็ดขาด...เย็นเข้าไว้'
เราพยายามตั้งสมาธิให้ได้มากที่สุด เมื่อยืนยันได้ว่าโทสะแห่งช่างตีเหล็กพร้อมใช้งานแล้วจึงรีบลงมือทันที
"โทสะแห่งช่างตีเหล็ก"
[ โทสะแห่งช่างตีเหล็กถูกเปิดใช้งาน พลังโจมตีและความเร็วการโจมตีของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 20 วินาที ]
โอเค...ถัดไปก็
"ความอดทนแห่งช่างตีเหล็กในตำนาน"
[ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ]
"เอ๋?"
ทำไมทักษะถึงไม่ทำงานล่ะ? เรารู้สึกสับสนจนต้องรีบเปิดอ่านรายละเอียดของทักษะในทันที
...
[ ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
ความอึด พลังป้องกัน และความชำนาญจะเพิ่มขึ้น 200% เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
* ทักษะนี้ไม่ใช้มานา
* ทักษะนี้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามใจนึกได้ ทักษะจะแสดงผลอัตโนมัติยามที่ท่านแสดงออกถึงความอดทนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
...
"บัดซบ..."
ชิ!...ทักษะนี้จะเปิดใช้งานตามเงื่อนไขเฉพาะเท่านั้น
'เราควรอ่านคำอธิบายตั้งแต่แรก...นี่ไม่ต่างอะไรกับคนที่ลงมือทำโดยไม่อ่านคู่มือการใช้งานเลยซักนิด'
ในขณะที่ปัจจัยสู่ชัยชนะหายไป 1 อย่าง กลุ่มนักเลงที่ล้อมอยู่ก็ได้บีบวงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
"เฮ้ย! แกน่ะ...พร้อมจะลงนรกรึยัง?"
"แล้วแกจะต้องชดใช้กับการตายของสหายข้า"
...
เรากำลังตกที่นั่งลำบากอย่างแท้จริง...
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 24 - จบตอน
เอ้าสู้ๆๆ
ReplyDeleteสู้ๆเว้ยกริดเควสต่อเนื่องกำลังรอแกอยู่
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteมีกลถ่มลับมั้ยคนับ
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteพลังชีวิตน่าจะเป็น 336 ครับ
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteผมอ่านแต่โทรศัพท์ผมมีแปลภาษาขอไปดำน้ำก่อนนะ
ReplyDeleteฆ่ามัน เวลจะได้ขึ้นรัวๆ
ReplyDeleteชอบการไฮไลท์คำมาก ทำให้อ่านง่ายไม่ งง love love เลย
ReplyDelete