จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 36
ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาในยามเช้าของอีกวัน เราก็รีบล็อคอินเข้าไปในเกมพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังโรงตีเหล็กของข่าน เมื่อเห็นว่าข่านกำลังยืนรอเราอยู่ เราจึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดอยู่ออกไปทันที
"ทำไมลุงต้องมอบภารกิจดีๆ ให้กับคนแปลกหน้าอย่างฮิวรอยด้วย? ตัวผมไม่มีความสำคัญพอให้ทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นงั้นหรอ?"
ข่านจ้องมองเราด้วยใบหน้าที่งุนงงราวกับเขาไม่เข้าใจว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่ แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะนึกออก ข่านจึงถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเคร่งเครียดเล็กน้อย "เจ้าหมายถึงภารกิจที่ต้องเดินทางไปแจ้งข่าวกับเอิร์ลสไตมนั่นน่ะหรือ?"
"ใช่!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า!" ข่านหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียง
"เจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมาก ด้วยวัยเพียงเท่านี้กลับเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอย่างไม่น่าเชื่อ..."
"เห...?"
ข่านกำลังหมายถึงอะไร?
"เจ้าต้องการจะไปทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน...อย่างนั้นสินะ?"
"เอ่อ...ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น..."
"อย่าถ่อมตัวไปเลย เจ้าน่ะสุดยอดมาก"
"......"
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ข่านเข้าใจเราผิดไป ภาพที่ข่านวาดฝันเอาไว้คงไม่พ้นเด็กหนุ่มผู้แสนประเสริฐที่มีแต่ในนิยายเท่านั้น! เราได้แต่ยืนอ้ำอึ้งเงอะงะโดยไม่พูดอะไรออกไป ข่านเห็นดังนั้นจึงวางมือมาบนหัวไหล่ของเราเบาๆ และพูดว่า
"ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงชาวบ้านวินสตันยิ่งกว่าใคร แต่ข้าไม่อาจส่งเจ้าออกไปเสี่ยงอันตรายข้างนอกได้จริงๆ...เจ้าสำคัญกับข้ามาก เหมือนกับเป็น...ลูกชายอีกคนหนึ่งของข้าเลยทีเดียว ข้าไม่อาจส่งเจ้าไปพบเจอหายนะได้หรอก"
ดวงตาของข่านจ้องมองมาที่เราอย่างอบอุ่น
"บริษัทเมโร่รู้ดีว่าเจ้านั้นใกล้ชิดกับข้ายิ่งกว่าใคร การถูกเฝ้าจับตามองทุกฝีเก้าจึงเป็นสิ่งที่หลึกเลี่ยงไม่ได้ พวกมันคงไม่อยู่เฉยแน่ถ้าหากว่าเจ้ามีทีท่าว่าจะออกไปจากหมู่บ้าน และข้าก็คงทนไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเจ้าต้องถูกพวกมันจับกุมตัวไป"
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของข่านได้ทำให้หัวใจของเราพองโต เรานี่มันแย่จริงๆ ที่ดันไปเข้าใจข่านผิดซะได้
"ลุงข่าน...ผมเคยคิดว่าลุงจะไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว ผมขอโทษ"
"จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงเล่า? ข้าน่ะเชื่อเจ้ายิ่งกว่าใครทั้งหมด นั่นเป็นสาเหตุที่ข้ากล้าเอาอนาคตของโรงตีเหล็กแห่งนี้เดิมพันไว้กับเจ้าแต่เพียงผู้เดียว"
เมื่อลองมาคิดดูอีกที เราไม่ควรจะโง่ไปสงสัยข่านตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในขณะที่เรากำลังรู้สึกหดหู่ ข่านก็พูดให้กำลังใจเราขึ้นมาอีกครั้ง "เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าจงคิดแต่แข่งกับบริษัทเมโร่ก็พอ แสดงให้พวกมันเห็นซะ!"
"กำหนดวันแข่งได้แล้วหรอ?"
"ถูกต้อง การแข่งขันจะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า ก่อนจะถึงเวลานั้น พวกเราต้องขัดเกลาทักษะการตีเหล็กของเจ้าให้ได้มากที่สุด แสดงให้พวกมันเห็นถึงทักษะช่างตีเหล็กในตำนานที่เจ้าได้สืบทอดมาซะ!"
เยี่ยม! ไฟการต่อสู้ในตัวเราลุกโชนขึ้นอย่างพุ่งพล่าน
"เข้าใจแล้ว ผมจะเอาชัยชนะกลับมาให้ได้"
"ต้องอย่างนั้นสิ! แม้ทักษะของข้าจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ประสบการณ์ของข้านั้นมีอย่างเต็มเปื่ยม! หวังว่าสิ่งนั้นจะช่วยเจ้าได้ไม่มากก็น้อยละนะ"
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ข่านก็ฝึกฝนเราอย่างเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ขั้นตลอดการผลิตไอเท็มต่างๆ ถูกวนทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปมาหลายรอบ เทคนิคการตีเหล็กของเราถูกขัดเกลาจนเฉียบแหลม เราได้เรียนรู้ว่า ท่าทางแบบใดเป็นการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า และท่าทางแบบใดเป็นการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพ
อัตราการผลิตไอเท็มระดับแรร์และอีปิกของเราได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
มันเป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นค่าสถานะต่างๆ เพิ่มขึ้นมา เราสนุกกับการเพิ่มค่าความพากเพียรและความชำนาญไปพร้อมๆ กับการตีเหล็ก แต่ติดอยู่เรื่องเดียวก็คือวัสดุที่ใช้ผลิตไอเท็มนั้นมีขีดจำกัด
ข่านนั้นถังแตกอย่างสุดขีด ส่วนเราเองก็กำลังเก็บเงินใช้หนี้อยู่ การหาวัสดุระดับสูงๆ มาสร้างไอเท็มจึงเป็นไปไม่ได้เลย การผลิตไอเท็มของเรามีเพียงการนำเศษเหลือๆ ที่อยู่ในคลังเก็บของมาใช้เท่านั้น ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นวัสดุระดับต่ำที่ผลิตได้แต่ไอเท็มเกรดทั่วไป ซึ่งการที่ข่านไม่สามารถหาวัสดุเกรดดีมาใช้ได้ ก็เป็นเพราะถูกบีบจากบริษัทเมโร่ด้วยกลยุทธในการตั้งราคาสินค้าให้ต่ำลง ดังนั้น ทุกวันนี้เราจึงต้องฝึกซ้อมด้วยวัสดุเกรดต่ำจนไม่สามารถผลิตไอเท็มชั้นยอดขึ้นมาได้
ยิ่งไอเท็มที่เราผลิตขึ้นมีระดับสูงมากเท่าใด ค่าประสบการณ์ของทักษะการผลิตก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ไอเท็มเลเวลต่ำที่สร้างขึ้นมาถึงแม้จะมีระดับแรร์ก็ตาม แต่ความสามารถของมันก็ยังนับว่าด้อยคุณภาพอยู่มาก แถมยังมีราคาขายที่ไม่แพง และค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็น้อย
'ไอเท็มระดับแรร์คงต้องขายให้กับร้านเอ็นพีซี แต่กับไอเท็มระดับอีปิก บางทีเราอาจขายให้พวกผู้เล่นด้วยกันได้'
"เป็นชื่อที่โหดร้ายชะมัด..."
แต่ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เลวเลยสำหรับผู้เล่นใหม่ช่วงเลเวล 12-13 ใครก็ตามที่ได้สวมใส่มันจะต้องล่ามอนสเตอร์ง่ายขึ้นแน่นอน มั่นใจได้เลยว่าผู้เล่นใหม่จะต้องซื้อมันแน่ ถ้าหากว่าพวกเขามีเงินมากพอ
'ในตอนนั้นที่สร้างลูกธนูยัฟฟ่าขึ้นมาได้ ค่าประสบการณ์ของเราเพิ่มขึ้นมากถึง 3.7% และ 2% ในทันทีเลยแท้ๆ'
ที่จริงก็ผิดหวังนิดหน่อยที่ค่าประสบการณ์ของทักษะการผลิตเพิ่มขึ้นน้อยขนาดนี้ แต่แค่เพิ่มมาให้เห็นเราก็ดีใจมากแล้ว
ยังมีอีกเรื่องที่เราคงไม่ได้คิดไปเองแน่
'ทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนานนั้นยังคงเลเวล 1 อยู่เหมือนเดิม ทว่า...เรากลับสามารถผลิตไอเท็มได้เป็นจำนวนมากขึ้น'
ในตอนนี้เราสามารถผลิตไอเท็มต่างๆ ได้รวดเร็วและสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ยิ่งถ้าหากทักษะการผลิตและค่าความชำนาญเพิ่มขึ้น มันก็คงจะดีกว่านี้แน่นอน
'แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายเลยที่จะหาโอกาสเพิ่มระดับของทักษะการผลิต เพราะมันต้องใช้ทั้งเวลาและวัสดุจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับค่าความชำนาญที่เราสามารถเพิ่มมันได้ทุกที่ทุกเวลา'
ยิ่งค่าความชำนาญสูง ความสมบูรณ์แบบของไอเท็มก็ยิ่งมีมาก เราตัดสินใจจะนำค่าสถานะที่เหลือทั้งหมดไปลงกับค่าความชำนาญเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะให้สูงขึ้น
"หน้าต่างสถานะ"
ต้องขอบคุณเรื่องที่เราสามารถผลิตไอเท็มระดับแรร์และอีปิกออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าสถานะโดยรวมของเราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แถมยังเหลือค่าสถานะที่ยังไม่ได้ใช้อีกมากถึง 130 แต้ม เราลังเลไม่น้อยว่าจะนำแต้มที่เหลือไปใช้ลงกับอะไรดี
'ถ้าหากเรานำแต้มทั้งหมดไปลงกับค่าความชำนาญ มันจะส่งผลมากน้อยยังไงกับการผลิตกันนะ? บางทีมันอาจช่วยให้การผลิตของเราดีขึ้นก็จริง แต่จะคุ้มค่ารึเปล่า? แล้วถ้าเกิดให้ความสำคัญกับค่าสถานะไหนมากเกินไป กลัวว่าเราจะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเนี่ยสิ...'
เราค่อยๆ ครุ่นคิดไปทีละนิดอย่างรอบคอบ
'เราเคยใช้แต้มจำนวนมากไปกับพละกำลังและความว่องไวแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นอีก ในปัจจุบันตัวเรามีค่าความอดทนที่ต่ำมาก มันคงจะดีกว่านี้รึเปล่านะ...ถ้าหากเราเพิ่มมันซักเล็กน้อย? เผื่อวันไหนได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างพวกนักเลงนั่นอีก พลังป้องกันและความอดทนถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว'
ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เราเริ่มแบ่งแต้มที่เหลือไปลงกับค่าสถานะต่างๆ ตามที่คิดไว้
"ยืนยัน"
"ยืนยัน"
"เออ!"
"เลิกถามได้แล้วโว้ย!"
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า"
ตัวเรายืนสั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ คงไม่มีใครเชื่อแน่ว่านี่คือสถานะของตัวละครเลเวล 21 ลองคำนวนอย่างหยาบๆ ออกมาดูโดยการนำแต้มสถานะทั้งหมดมารวมกัน ค่าสถานะของเราจะถือว่าสูงกว่าผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 75 เสียอีก
ค่าพละกำลัง, ค่าความอดทน, ค่าความว่องไว, ค่าสติปัญญา ถ้าหากนำแค่ 4 สถานะหลักนี้มาคิด ตัวเรานั้นจะใกล้เคียงกับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 40 เลยทีเดียว
'เข้าใจแล้ว...คลาสสายผลิตจะมีจุดเด่นในเรื่องค่าสถานะสินะ'
ความสามารถในการเพิ่มค่าสถานะโดยรวมนั้นมีในคลาสสายผลิตทุกคลาส ไม่ใช่เฉพาะช่างตีเหล็กเท่านั้น ใครก็ตามที่สามารถจับจุดนี้ได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะสามารถกลบจุดอ่อนในการต่อสู้ที่เคยมีไป แต่นั่นก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว
"ก็ได้...เรายอมรับก็ได้ว่าตัวเรานั้นเกิดมาเพื่อใช้แรงงาน! เดี๋ยวเราจะแสดงให้โลกนี้ได้เห็นถึงพลังแห่งชนชั้นแรงงานเอง!"
เรารีบยัดขนมปังลงคอและตรงดิ่งไปยังเตาหลอมอีกครั้ง จนกว่าจะถึงวันแข่ง เราจะเสียสมาธิไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งตัวละครของเราพัฒนามากขึ้นเท่าไร สภาพจิตใจของเราก็ยิ่งพัฒนาตามไปด้วยมากเท่านั้น
...
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เป็นความรู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตอนสมัยเป็นคลาสนักรบ
"นะ...นี่มันอะไรกัน? ข้าไม่ได้ฝันไปหรอกใช่มั้ย? ทำไมเจ้าถึงได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียงนี้?"
ข่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่จะให้เราตอบไปตามตรงว่า 'เพราะทุ่มแต้มไปกับค่าความชำนาญมากถึง 70 แต้มน่ะสิ' ก็คงจะไม่ได้
"ผมแตกต่างจากอัจฉริยะทั่วไปที่คุณเคยเจอมายังไงล่ะ"
ข่านได้แต่ยืนสั่นระริกอยู่ด้านหลัง
"ชะ...ใช่แล้ว! ข้าเกือบลืมไปเลยว่าเจ้าคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ฮุฮ่าฮ่า! ข้ามีวาสนาได้พบกับตำนานบทใหม่ของโลกงั้นหรือเนี่ย? หากตายไปก็คงไม่มีอะไรให้ค้างคาใจอีกแล้ว! เยี่ยม! ถ้าอย่างนั้นมาเพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตรกันหน่อยมั้ย?"
ในโลกความเป็นจริง สายฝนกำลังโหมกระหน่ำสาดเทลงมาจากท้องฟ้าอย่างไม่หยุดหย่อน ดังนั้นตัวเราจึงตัดสินใจที่จะออนไลน์อยู่ในเกมตลอดเวลาจนกระทั่งวันแข่ง นอกเสียจากถึงเวลาที่ต้องเข้านอน
...
...
...
ในตอนนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เกมซาทิสฟายได้มีหนังสือเปลี่ยนคลาสระดับอีปิกปรากฏตัวขึ้นมาเป็นจำนวน 3 เล่มแล้ว หากไม่นับ 'นักรบโลหิต' ของแค็ทซ์ที่เพิ่งจะเป็นข่าวดังไป อีกสองคลาสอีปิกที่เหลือนั้นแทบไม่มีข้อมูลหลุดออกมาสู่ภายนอกเลย ผู้เล่นเจ้าของคลาสอีปิกแรกนั้นเป็นไม่ที่ทราบแน่ชัด ส่วนคลาสอีปิกที่สองตกไปอยู่ในมือของแอ็กนัส ผู้เล่นอันดับที่ 7 ของโลก
ผู้เล่นทั่วโลกต่างให้ความสนใจอย่างมากกับคลาสทั้งสองที่ถูกเก็บเงียบเป็นความลับ บรรดาเว็บบอร์ดใหญ่หลายแห่งต่างถกเถียงกันในหัวข้อนี้แทบทุกวัน แต่ถ้าหากไม่ใช่ข้อมูลที่ออกมาจากปากของผู้เล่นเจ้าของคลาสโดยตรง การโต้แย้งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นเพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น
คลาสระดับอิปิก 2 คนแรกนั้นจะเป็นคลาสแบบไหนกันนะ? จะยอดเยี่ยมเหมือนกับนักรบโลหิตของแค็ทซ์รีเปล่า? หรือบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่านั้นก็เป็นได้
...
...
...
ณ อาณาจักรอีเทอนัล, ดันเจี้ยนอาเคโร่, ใกล้กับเมืองฟรอนเทียร์ เมืองหลวงของเอิร์ลสไตม์
"แถวนี้มีมอนสเตอร์เต็มไปหมด แทบแย่แน่ะกว่าจะมาถึงที่นี่ได้"
หญิงสาวผมบลอนด์คนหนึ่งตะโกนขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกของเธองดงามราวกับเจ้าหญิงในนิทาน ทำให้ผู้เล่นชายต่างพยายามเข้ามาตีสนิทด้วยในทันที
"ดันเจี้ยนอาเคโร่นั้นเป็นสถานที่อันตราย แม้แต่ผู้เล่นระดับสูงเองก็ยังไม่สามารถออกล่าคนเดียวได้ คุณผู้หญิงอยากจะมาร่วมปาร์ตี้ของผมไหม? พวกเราก็มีฝีมือพอตัวนะ"
"ไม่ได้! คุณผู้หญิงต้องเข้าปาร์ตี้ของผมเท่านั้น! พวกเราคุ้นเคยกับดันเจี้ยนนี้เป็นอย่างมาก ความเร็วในการล่านั้นไม่มีเป็นสองรองใคร คุณจะต้องรู้สึกพึงพอใจอย่างมากแน่นอน ผมรับประกัน"
"ไม่! คุณต้องเข้าปาร์ตี้ผม! แล้วผมจะแบ่งไอเท็มให้คุณเป็นจำนวนมาก!"
รูปลักษณ์ตัวละครในเกมซาทิสฟายนั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ในตอนที่สร้างตัวละคร แคปซูลจะทำการแสกนใบหน้าและรูปร่างที่แท้จริงของผู้เล่นมาเป็นต้นแบบ สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้มีเพียงสีผิว, ทรงผม, รอยสัก, แผลเป็น, และส่วนสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในอีกความหมายถึง ผู้หญิงที่มีตัวละครในเกมงดงาม ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตัวจริงก็จะสวยเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจผู้เล่นชายมักจะเข้าหาผู้เล่นหญิงที่มีตัวละครสวยๆ อยู่เสมอ
'สวยจังโว้ย!'
'ตรงสเปคเลย!'
แววตาของผู้เล่นชายลุกวาวเป็นประกาย ดูเหมือนพวกเขาจะคุ้นเคยกับยื้อแย่งกันจีบหญิงสาวเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
"อยากให้ชั้นเข้าปาร์ตี้งั้นหรอ? งั้นก็ลองกำจัดมอนสเตอร์ข้างหน้าให้ดูซักตัวหน่อยเป็นไง ชั้นต้องการจะเข้าปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แล้วชั้นจะเป็นคนตัดสินเองว่าปาร์ตี้ไหนที่คู่ควร"
"อะไรล่ะนั่น? เธอก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรนักหรอกนะ"
"เห็นด้วย จะเป็นพระคุณมากถ้าหากพวกนายไม่รับตัวถ่วงเข้าปาร์ตี้ล่ะนะ"
ผู้เล่นหญิงในปาร์ตี้ต่างพากันนินทาว่าร้ายสาวปริศนาดังกล่าวทันที แต่กลับกัน ฝ่ายผู้เล่นชายกลับยิ่งมีไฟการต่อสู้ลุกโชนขึ้นอย่างดุเดือด
"ได้เลย แล้วอย่าผิดคำพูดนะแม่หนู! คลื่นความร้อน! ดาบอัคคี!"
"เจ้าหญิงงามของผม แล้วผมจะแสดงให้คุณได้เห็นเอง วายุสลาตัน!"
"ฮะฮะ เจ้าพวกงั่ง! พวกแกไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่ กายาเหล็กไหล! ดรรชนีทำลายล้าง!"
"ทักษะของพวกแกกระจอกไม่สมกับที่คุยโวโอ้อวดไว้เลยนะ อัสนีบาต!"
กลุ่มผู้เล่นต่างสาดทักษะใส่มอนสเตอร์ใกล้ๆ อย่างบ้าคลั่งรุนแรง
ทักษะเวทย์มนต์จำพวกวายุสลาตัน, อัสนีบาต, และคลื่นความร้อนนั้น เมื่อรวมตัวกันมักจะเกิดพลังทำลายที่รุนแรงจนส่งผลให้กำแพงดันเจี้ยนถึงกับสั่นสะเทือน มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ จึงต่างพากันหวาดกลัวและหนีไปในทันที
หญิงสาวผมบลอนด์ที่เป็นต้นเหตุของความวุนวายในครั้งนี้เอาแต่ยืนจ้องมองเวทย์มนต์ทั้งหมดอย่างไม่กระพริบตา
'เวทย์มนต์พายุของหมอนั่นไม่เลวเลย ไม่ด้อยกว่าของใครที่เคยเจอมาซักคนเดียว คุ้มค่าจริงๆ ที่ลงทุนถ่อมาไกลถึงที่นี่'
เธอใช้ค่าสถานะวิสัยทัศน์และทักษะ 'จับตามอง' เพื่อคอยสังเกตุเวทย์มนต์วายุสลาตันโดยละเอียด ไม่นานนักสาวผมบลอนด์คนนี้ก็กระซิบกระซาบออกมาเบาๆ กับตัวเองว่า
"คัดลอกทักษะ!"
หญิงสาวผมบลอนด์คนนี้มีชื่อว่า 'ยูเฟอมิน่า' ซึ่งคลาสของเธอก็คือ...นักคัดลอก
ในฐานะนักคัดลอก เธอใช้ทักษะจับตามองและทักษะคัดลอกในการวิเคราะห์และคัดลอกทัษะมาเป็นของตนอย่างรวดเร็ว ทันทีที่คัดลอกมาได้สำเร็จ เธอสามารถใช้ทักษะที่คัดลอกมาได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงของทักษะคัดลอก คือการที่มันสามารถใช้ได้เพียงแค่วันละ 3 ครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนับว่าเป็นทักษะที่สุดยอดอยู่ดี แม้จะนับรวมข้อเสียไปด้วยแล้วก็ตาม
'หากมีเจ้านี่...เราจัดการกับ 'ปิอาโร่' ได้แน่'
...
ยูเฟอมิน่าเดินจากมาโดยทิ้งพวกผู้เล่นชายซึ่งกำลังพยายามสำแดงทักษะอย่างเต็มที่เอาไว้ หลังจากนั้นเธอก็รีบตรงดิ่งไปยัง 'หุบเขาเคซาน' ทันที
"เจอแล้ว"
หลังจากได้ที่พบกับถ้ำเล็กๆ ในส่วนลึกสุดของหุบเขา ยูเฟอมิน่าก็ตัดสินใจอ่านทบทวนรายละเอียดของภารกิจอีกครั้งก่อนจะเข้าไปในถ้ำ
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 36 - จบตอน
"ทำไมลุงต้องมอบภารกิจดีๆ ให้กับคนแปลกหน้าอย่างฮิวรอยด้วย? ตัวผมไม่มีความสำคัญพอให้ทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นงั้นหรอ?"
ข่านจ้องมองเราด้วยใบหน้าที่งุนงงราวกับเขาไม่เข้าใจว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่ แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะนึกออก ข่านจึงถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเคร่งเครียดเล็กน้อย "เจ้าหมายถึงภารกิจที่ต้องเดินทางไปแจ้งข่าวกับเอิร์ลสไตมนั่นน่ะหรือ?"
"ใช่!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า!" ข่านหัวเราะออกมาอย่างสุดเสียง
"เจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมาก ด้วยวัยเพียงเท่านี้กลับเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอย่างไม่น่าเชื่อ..."
"เห...?"
ข่านกำลังหมายถึงอะไร?
"เจ้าต้องการจะไปทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน...อย่างนั้นสินะ?"
"เอ่อ...ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น..."
"อย่าถ่อมตัวไปเลย เจ้าน่ะสุดยอดมาก"
"......"
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ข่านเข้าใจเราผิดไป ภาพที่ข่านวาดฝันเอาไว้คงไม่พ้นเด็กหนุ่มผู้แสนประเสริฐที่มีแต่ในนิยายเท่านั้น! เราได้แต่ยืนอ้ำอึ้งเงอะงะโดยไม่พูดอะไรออกไป ข่านเห็นดังนั้นจึงวางมือมาบนหัวไหล่ของเราเบาๆ และพูดว่า
"ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงชาวบ้านวินสตันยิ่งกว่าใคร แต่ข้าไม่อาจส่งเจ้าออกไปเสี่ยงอันตรายข้างนอกได้จริงๆ...เจ้าสำคัญกับข้ามาก เหมือนกับเป็น...ลูกชายอีกคนหนึ่งของข้าเลยทีเดียว ข้าไม่อาจส่งเจ้าไปพบเจอหายนะได้หรอก"
ดวงตาของข่านจ้องมองมาที่เราอย่างอบอุ่น
"บริษัทเมโร่รู้ดีว่าเจ้านั้นใกล้ชิดกับข้ายิ่งกว่าใคร การถูกเฝ้าจับตามองทุกฝีเก้าจึงเป็นสิ่งที่หลึกเลี่ยงไม่ได้ พวกมันคงไม่อยู่เฉยแน่ถ้าหากว่าเจ้ามีทีท่าว่าจะออกไปจากหมู่บ้าน และข้าก็คงทนไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเจ้าต้องถูกพวกมันจับกุมตัวไป"
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของข่านได้ทำให้หัวใจของเราพองโต เรานี่มันแย่จริงๆ ที่ดันไปเข้าใจข่านผิดซะได้
"ลุงข่าน...ผมเคยคิดว่าลุงจะไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว ผมขอโทษ"
"จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงเล่า? ข้าน่ะเชื่อเจ้ายิ่งกว่าใครทั้งหมด นั่นเป็นสาเหตุที่ข้ากล้าเอาอนาคตของโรงตีเหล็กแห่งนี้เดิมพันไว้กับเจ้าแต่เพียงผู้เดียว"
เมื่อลองมาคิดดูอีกที เราไม่ควรจะโง่ไปสงสัยข่านตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในขณะที่เรากำลังรู้สึกหดหู่ ข่านก็พูดให้กำลังใจเราขึ้นมาอีกครั้ง "เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าจงคิดแต่แข่งกับบริษัทเมโร่ก็พอ แสดงให้พวกมันเห็นซะ!"
"กำหนดวันแข่งได้แล้วหรอ?"
"ถูกต้อง การแข่งขันจะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า ก่อนจะถึงเวลานั้น พวกเราต้องขัดเกลาทักษะการตีเหล็กของเจ้าให้ได้มากที่สุด แสดงให้พวกมันเห็นถึงทักษะช่างตีเหล็กในตำนานที่เจ้าได้สืบทอดมาซะ!"
เยี่ยม! ไฟการต่อสู้ในตัวเราลุกโชนขึ้นอย่างพุ่งพล่าน
"เข้าใจแล้ว ผมจะเอาชัยชนะกลับมาให้ได้"
"ต้องอย่างนั้นสิ! แม้ทักษะของข้าจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ประสบการณ์ของข้านั้นมีอย่างเต็มเปื่ยม! หวังว่าสิ่งนั้นจะช่วยเจ้าได้ไม่มากก็น้อยละนะ"
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ข่านก็ฝึกฝนเราอย่างเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ขั้นตลอดการผลิตไอเท็มต่างๆ ถูกวนทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปมาหลายรอบ เทคนิคการตีเหล็กของเราถูกขัดเกลาจนเฉียบแหลม เราได้เรียนรู้ว่า ท่าทางแบบใดเป็นการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า และท่าทางแบบใดเป็นการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพ
อัตราการผลิตไอเท็มระดับแรร์และอีปิกของเราได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
[ ไอเท็มระดับแรร์ถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 2 แต้มเป็นการถาวร ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 30 หน่วย ]
[ ไอเท็มระดับแรร์ถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 4 แต้มเป็นการถาวร ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 80 หน่วย ]
[ ค่าความพากเพียรเพิ่มขึ้น ]
[ ค่าความชำนาญเพิ่มขึ้น ]
มันเป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นค่าสถานะต่างๆ เพิ่มขึ้นมา เราสนุกกับการเพิ่มค่าความพากเพียรและความชำนาญไปพร้อมๆ กับการตีเหล็ก แต่ติดอยู่เรื่องเดียวก็คือวัสดุที่ใช้ผลิตไอเท็มนั้นมีขีดจำกัด
ข่านนั้นถังแตกอย่างสุดขีด ส่วนเราเองก็กำลังเก็บเงินใช้หนี้อยู่ การหาวัสดุระดับสูงๆ มาสร้างไอเท็มจึงเป็นไปไม่ได้เลย การผลิตไอเท็มของเรามีเพียงการนำเศษเหลือๆ ที่อยู่ในคลังเก็บของมาใช้เท่านั้น ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นวัสดุระดับต่ำที่ผลิตได้แต่ไอเท็มเกรดทั่วไป ซึ่งการที่ข่านไม่สามารถหาวัสดุเกรดดีมาใช้ได้ ก็เป็นเพราะถูกบีบจากบริษัทเมโร่ด้วยกลยุทธในการตั้งราคาสินค้าให้ต่ำลง ดังนั้น ทุกวันนี้เราจึงต้องฝึกซ้อมด้วยวัสดุเกรดต่ำจนไม่สามารถผลิตไอเท็มชั้นยอดขึ้นมาได้
ยิ่งไอเท็มที่เราผลิตขึ้นมีระดับสูงมากเท่าใด ค่าประสบการณ์ของทักษะการผลิตก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ไอเท็มเลเวลต่ำที่สร้างขึ้นมาถึงแม้จะมีระดับแรร์ก็ตาม แต่ความสามารถของมันก็ยังนับว่าด้อยคุณภาพอยู่มาก แถมยังมีราคาขายที่ไม่แพง และค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็น้อย
'ไอเท็มระดับแรร์คงต้องขายให้กับร้านเอ็นพีซี แต่กับไอเท็มระดับอีปิก บางทีเราอาจขายให้พวกผู้เล่นด้วยกันได้'
[ ดาบเหล็กที่พอใช้จะงานได้อยู่บ้าง ]
ระดับไอเท็ม : อีปิก
ความคงทน : 19/19, พลังโจมตี : 35~40 หน่วย, ความเร็วในการโจมตี +2%
ดาบเหล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
ด้วยน้ำหนักที่เบาและความยาวใบดาบที่พอเหมาะ ดาบเล่มนี้จึงง่ายต่อการใช้งานเพราะมีสมดุลย์ที่ยอดเยี่ยม ผู้ใช้งานจะสามารถโจมตีได้เร็วขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
คงไม่มีใครคาดคิดแน่ ว่าดาบเล่มนี้จะถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุระดับต่ำ
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 12 หรือสูงกว่า, ค่าพละกำลัง 30 แต้มหรือสูงกว่า, ทักษะความชำนาญดาบขั้นต้น
[ เกราะหนังหนูที่เบาสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ]
ระดับไอเท็ม : อีปิก
ความคงทน : 24/24, พลังป้องกัน: 22, ความเร็วในการเคลื่อนที่: +3%
ชุดเกราะหนังหนูที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
มันถูกออกแบบมาให้ผู้สวมใส่ไม่อึดอัดในขณะที่ขยับร่างกาย ส่งผลให้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่เล็กน้อย
คงไม่มีใครคาดคิดแน่ ว่าชุดเกราะนี้จะถูกสร้างขึ้นมากจากวัสดุระดับต่ำ
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 13 หรือสูงกว่า, ทักษะความชำนาญเกราะหนังขั้นต้น
"เป็นชื่อที่โหดร้ายชะมัด..."
แต่ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เลวเลยสำหรับผู้เล่นใหม่ช่วงเลเวล 12-13 ใครก็ตามที่ได้สวมใส่มันจะต้องล่ามอนสเตอร์ง่ายขึ้นแน่นอน มั่นใจได้เลยว่าผู้เล่นใหม่จะต้องซื้อมันแน่ ถ้าหากว่าพวกเขามีเงินมากพอ
[ ทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน ] เลเวล 1 (12.7%)
[ ทักษะลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน ] เลเวล 1 (8.9%)
'ในตอนนั้นที่สร้างลูกธนูยัฟฟ่าขึ้นมาได้ ค่าประสบการณ์ของเราเพิ่มขึ้นมากถึง 3.7% และ 2% ในทันทีเลยแท้ๆ'
ที่จริงก็ผิดหวังนิดหน่อยที่ค่าประสบการณ์ของทักษะการผลิตเพิ่มขึ้นน้อยขนาดนี้ แต่แค่เพิ่มมาให้เห็นเราก็ดีใจมากแล้ว
ยังมีอีกเรื่องที่เราคงไม่ได้คิดไปเองแน่
'ทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนานนั้นยังคงเลเวล 1 อยู่เหมือนเดิม ทว่า...เรากลับสามารถผลิตไอเท็มได้เป็นจำนวนมากขึ้น'
ในตอนนี้เราสามารถผลิตไอเท็มต่างๆ ได้รวดเร็วและสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ยิ่งถ้าหากทักษะการผลิตและค่าความชำนาญเพิ่มขึ้น มันก็คงจะดีกว่านี้แน่นอน
'แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายเลยที่จะหาโอกาสเพิ่มระดับของทักษะการผลิต เพราะมันต้องใช้ทั้งเวลาและวัสดุจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับค่าความชำนาญที่เราสามารถเพิ่มมันได้ทุกที่ทุกเวลา'
ยิ่งค่าความชำนาญสูง ความสมบูรณ์แบบของไอเท็มก็ยิ่งมีมาก เราตัดสินใจจะนำค่าสถานะที่เหลือทั้งหมดไปลงกับค่าความชำนาญเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะให้สูงขึ้น
"หน้าต่างสถานะ"
ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 21, ค่าประสบการณ์ : 5,350 / 16,700
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
...
สมญานาม : ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
...
พลังชีวิต : 936/936, มานา 177/177
พละกำลัง: 104, ความอดทน: 52, ความว่องไว: 96
สติปัญญา: 59, ความชำนาญ: 99, ความพากเพียร: 60
ความเยือกเย็น: 44, ความทรหด: 50, ความหยิ่งทระนง: 44
วิสัยทัศน์: 44
ค่าสถานะคงเหลือ : 130 แต้ม
น้ำหนักสัมภาระ: 842 / 3,080
ต้องขอบคุณเรื่องที่เราสามารถผลิตไอเท็มระดับแรร์และอีปิกออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าสถานะโดยรวมของเราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แถมยังเหลือค่าสถานะที่ยังไม่ได้ใช้อีกมากถึง 130 แต้ม เราลังเลไม่น้อยว่าจะนำแต้มที่เหลือไปใช้ลงกับอะไรดี
'ถ้าหากเรานำแต้มทั้งหมดไปลงกับค่าความชำนาญ มันจะส่งผลมากน้อยยังไงกับการผลิตกันนะ? บางทีมันอาจช่วยให้การผลิตของเราดีขึ้นก็จริง แต่จะคุ้มค่ารึเปล่า? แล้วถ้าเกิดให้ความสำคัญกับค่าสถานะไหนมากเกินไป กลัวว่าเราจะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเนี่ยสิ...'
เราค่อยๆ ครุ่นคิดไปทีละนิดอย่างรอบคอบ
'เราเคยใช้แต้มจำนวนมากไปกับพละกำลังและความว่องไวแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นอีก ในปัจจุบันตัวเรามีค่าความอดทนที่ต่ำมาก มันคงจะดีกว่านี้รึเปล่านะ...ถ้าหากเราเพิ่มมันซักเล็กน้อย? เผื่อวันไหนได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างพวกนักเลงนั่นอีก พลังป้องกันและความอดทนถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว'
ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เราเริ่มแบ่งแต้มที่เหลือไปลงกับค่าสถานะต่างๆ ตามที่คิดไว้
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 60 แต้มไปเพิ่มให้กับค่าความอดทน กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ เมื่อค่าสถานะถูกเพิ่มเข้าไป ท่านจะไม่สามารถยกเลิกได้อีก กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ ท่านจะนำค่าสถานะ 70 แต้มไปเพิ่มให้กับค่าความชำนาญ กรุณายืนยัน ]
"เออ!"
[ เมื่อค่าสถานะถูกเพิ่มเข้าไป ท่านจะไม่สามารถยกเลิกได้อีก กรุณายืนยัน ]
"เลิกถามได้แล้วโว้ย!"
พละกำลัง: 104, ความอดทน: 112, ความว่องไว: 96
สติปัญญา: 59, ความชำนาญ: 169, ความพากเพียร: 60
ความเยือกเย็น: 44, ความทรหด: 50, ความหยิ่งทระนง: 44
วิสัยทัศน์: 44
แต้มสถานะคงเหลือ : 0
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า"
ตัวเรายืนสั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ คงไม่มีใครเชื่อแน่ว่านี่คือสถานะของตัวละครเลเวล 21 ลองคำนวนอย่างหยาบๆ ออกมาดูโดยการนำแต้มสถานะทั้งหมดมารวมกัน ค่าสถานะของเราจะถือว่าสูงกว่าผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 75 เสียอีก
ค่าพละกำลัง, ค่าความอดทน, ค่าความว่องไว, ค่าสติปัญญา ถ้าหากนำแค่ 4 สถานะหลักนี้มาคิด ตัวเรานั้นจะใกล้เคียงกับผู้เล่นทั่วไปที่มีเลเวล 40 เลยทีเดียว
'เข้าใจแล้ว...คลาสสายผลิตจะมีจุดเด่นในเรื่องค่าสถานะสินะ'
ความสามารถในการเพิ่มค่าสถานะโดยรวมนั้นมีในคลาสสายผลิตทุกคลาส ไม่ใช่เฉพาะช่างตีเหล็กเท่านั้น ใครก็ตามที่สามารถจับจุดนี้ได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะสามารถกลบจุดอ่อนในการต่อสู้ที่เคยมีไป แต่นั่นก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว
"ก็ได้...เรายอมรับก็ได้ว่าตัวเรานั้นเกิดมาเพื่อใช้แรงงาน! เดี๋ยวเราจะแสดงให้โลกนี้ได้เห็นถึงพลังแห่งชนชั้นแรงงานเอง!"
เรารีบยัดขนมปังลงคอและตรงดิ่งไปยังเตาหลอมอีกครั้ง จนกว่าจะถึงวันแข่ง เราจะเสียสมาธิไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งตัวละครของเราพัฒนามากขึ้นเท่าไร สภาพจิตใจของเราก็ยิ่งพัฒนาตามไปด้วยมากเท่านั้น
...
[ ไอเท็มระดับแรร์ถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 2 แต้มเป็นการถาวร ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 30 หน่วย ]
"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เป็นความรู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตอนสมัยเป็นคลาสนักรบ
"นะ...นี่มันอะไรกัน? ข้าไม่ได้ฝันไปหรอกใช่มั้ย? ทำไมเจ้าถึงได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียงนี้?"
ข่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่จะให้เราตอบไปตามตรงว่า 'เพราะทุ่มแต้มไปกับค่าความชำนาญมากถึง 70 แต้มน่ะสิ' ก็คงจะไม่ได้
"ผมแตกต่างจากอัจฉริยะทั่วไปที่คุณเคยเจอมายังไงล่ะ"
ข่านได้แต่ยืนสั่นระริกอยู่ด้านหลัง
"ชะ...ใช่แล้ว! ข้าเกือบลืมไปเลยว่าเจ้าคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ฮุฮ่าฮ่า! ข้ามีวาสนาได้พบกับตำนานบทใหม่ของโลกงั้นหรือเนี่ย? หากตายไปก็คงไม่มีอะไรให้ค้างคาใจอีกแล้ว! เยี่ยม! ถ้าอย่างนั้นมาเพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตรกันหน่อยมั้ย?"
ในโลกความเป็นจริง สายฝนกำลังโหมกระหน่ำสาดเทลงมาจากท้องฟ้าอย่างไม่หยุดหย่อน ดังนั้นตัวเราจึงตัดสินใจที่จะออนไลน์อยู่ในเกมตลอดเวลาจนกระทั่งวันแข่ง นอกเสียจากถึงเวลาที่ต้องเข้านอน
...
...
...
ในตอนนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เกมซาทิสฟายได้มีหนังสือเปลี่ยนคลาสระดับอีปิกปรากฏตัวขึ้นมาเป็นจำนวน 3 เล่มแล้ว หากไม่นับ 'นักรบโลหิต' ของแค็ทซ์ที่เพิ่งจะเป็นข่าวดังไป อีกสองคลาสอีปิกที่เหลือนั้นแทบไม่มีข้อมูลหลุดออกมาสู่ภายนอกเลย ผู้เล่นเจ้าของคลาสอีปิกแรกนั้นเป็นไม่ที่ทราบแน่ชัด ส่วนคลาสอีปิกที่สองตกไปอยู่ในมือของแอ็กนัส ผู้เล่นอันดับที่ 7 ของโลก
ผู้เล่นทั่วโลกต่างให้ความสนใจอย่างมากกับคลาสทั้งสองที่ถูกเก็บเงียบเป็นความลับ บรรดาเว็บบอร์ดใหญ่หลายแห่งต่างถกเถียงกันในหัวข้อนี้แทบทุกวัน แต่ถ้าหากไม่ใช่ข้อมูลที่ออกมาจากปากของผู้เล่นเจ้าของคลาสโดยตรง การโต้แย้งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นเพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น
คลาสระดับอิปิก 2 คนแรกนั้นจะเป็นคลาสแบบไหนกันนะ? จะยอดเยี่ยมเหมือนกับนักรบโลหิตของแค็ทซ์รีเปล่า? หรือบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่านั้นก็เป็นได้
...
...
...
ณ อาณาจักรอีเทอนัล, ดันเจี้ยนอาเคโร่, ใกล้กับเมืองฟรอนเทียร์ เมืองหลวงของเอิร์ลสไตม์
"แถวนี้มีมอนสเตอร์เต็มไปหมด แทบแย่แน่ะกว่าจะมาถึงที่นี่ได้"
หญิงสาวผมบลอนด์คนหนึ่งตะโกนขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกของเธองดงามราวกับเจ้าหญิงในนิทาน ทำให้ผู้เล่นชายต่างพยายามเข้ามาตีสนิทด้วยในทันที
"ดันเจี้ยนอาเคโร่นั้นเป็นสถานที่อันตราย แม้แต่ผู้เล่นระดับสูงเองก็ยังไม่สามารถออกล่าคนเดียวได้ คุณผู้หญิงอยากจะมาร่วมปาร์ตี้ของผมไหม? พวกเราก็มีฝีมือพอตัวนะ"
"ไม่ได้! คุณผู้หญิงต้องเข้าปาร์ตี้ของผมเท่านั้น! พวกเราคุ้นเคยกับดันเจี้ยนนี้เป็นอย่างมาก ความเร็วในการล่านั้นไม่มีเป็นสองรองใคร คุณจะต้องรู้สึกพึงพอใจอย่างมากแน่นอน ผมรับประกัน"
"ไม่! คุณต้องเข้าปาร์ตี้ผม! แล้วผมจะแบ่งไอเท็มให้คุณเป็นจำนวนมาก!"
รูปลักษณ์ตัวละครในเกมซาทิสฟายนั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ในตอนที่สร้างตัวละคร แคปซูลจะทำการแสกนใบหน้าและรูปร่างที่แท้จริงของผู้เล่นมาเป็นต้นแบบ สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้มีเพียงสีผิว, ทรงผม, รอยสัก, แผลเป็น, และส่วนสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในอีกความหมายถึง ผู้หญิงที่มีตัวละครในเกมงดงาม ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตัวจริงก็จะสวยเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจผู้เล่นชายมักจะเข้าหาผู้เล่นหญิงที่มีตัวละครสวยๆ อยู่เสมอ
'สวยจังโว้ย!'
'ตรงสเปคเลย!'
แววตาของผู้เล่นชายลุกวาวเป็นประกาย ดูเหมือนพวกเขาจะคุ้นเคยกับยื้อแย่งกันจีบหญิงสาวเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
"อยากให้ชั้นเข้าปาร์ตี้งั้นหรอ? งั้นก็ลองกำจัดมอนสเตอร์ข้างหน้าให้ดูซักตัวหน่อยเป็นไง ชั้นต้องการจะเข้าปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แล้วชั้นจะเป็นคนตัดสินเองว่าปาร์ตี้ไหนที่คู่ควร"
"อะไรล่ะนั่น? เธอก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรนักหรอกนะ"
"เห็นด้วย จะเป็นพระคุณมากถ้าหากพวกนายไม่รับตัวถ่วงเข้าปาร์ตี้ล่ะนะ"
ผู้เล่นหญิงในปาร์ตี้ต่างพากันนินทาว่าร้ายสาวปริศนาดังกล่าวทันที แต่กลับกัน ฝ่ายผู้เล่นชายกลับยิ่งมีไฟการต่อสู้ลุกโชนขึ้นอย่างดุเดือด
"ได้เลย แล้วอย่าผิดคำพูดนะแม่หนู! คลื่นความร้อน! ดาบอัคคี!"
"เจ้าหญิงงามของผม แล้วผมจะแสดงให้คุณได้เห็นเอง วายุสลาตัน!"
"ฮะฮะ เจ้าพวกงั่ง! พวกแกไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่ กายาเหล็กไหล! ดรรชนีทำลายล้าง!"
"ทักษะของพวกแกกระจอกไม่สมกับที่คุยโวโอ้อวดไว้เลยนะ อัสนีบาต!"
กลุ่มผู้เล่นต่างสาดทักษะใส่มอนสเตอร์ใกล้ๆ อย่างบ้าคลั่งรุนแรง
ทักษะเวทย์มนต์จำพวกวายุสลาตัน, อัสนีบาต, และคลื่นความร้อนนั้น เมื่อรวมตัวกันมักจะเกิดพลังทำลายที่รุนแรงจนส่งผลให้กำแพงดันเจี้ยนถึงกับสั่นสะเทือน มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ จึงต่างพากันหวาดกลัวและหนีไปในทันที
หญิงสาวผมบลอนด์ที่เป็นต้นเหตุของความวุนวายในครั้งนี้เอาแต่ยืนจ้องมองเวทย์มนต์ทั้งหมดอย่างไม่กระพริบตา
'เวทย์มนต์พายุของหมอนั่นไม่เลวเลย ไม่ด้อยกว่าของใครที่เคยเจอมาซักคนเดียว คุ้มค่าจริงๆ ที่ลงทุนถ่อมาไกลถึงที่นี่'
เธอใช้ค่าสถานะวิสัยทัศน์และทักษะ 'จับตามอง' เพื่อคอยสังเกตุเวทย์มนต์วายุสลาตันโดยละเอียด ไม่นานนักสาวผมบลอนด์คนนี้ก็กระซิบกระซาบออกมาเบาๆ กับตัวเองว่า
"คัดลอกทักษะ!"
[ ท่านคัดลอกทักษะ 'วายุสลาตัน' เลเวล 3 ได้สำเร็จ ]
[ ทักษะ 'วายุสลาตัน' เลเวล 3 สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ท่านสามารถเก็บทักษะนี้เอาไว้ได้ตลอดจนกระทั่งใช้งานออกไป ]
[ วายุสลาตัน ]
เลเวล : 3
สร้างเกลียวลมพายุขึ้นอย่างรุนแรง เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง 1,530~2,380 ทุกๆ วินาที เป็นเวลาทั้งสิ้น 5 วินาที ความว่องไวของเป้าหมายที่ถูกขังอยู่ภายในวายุสลาตันจะลดลง 80%
ใช้มานา : 700 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 300 วินาที
หญิงสาวผมบลอนด์คนนี้มีชื่อว่า 'ยูเฟอมิน่า' ซึ่งคลาสของเธอก็คือ...นักคัดลอก
ในฐานะนักคัดลอก เธอใช้ทักษะจับตามองและทักษะคัดลอกในการวิเคราะห์และคัดลอกทัษะมาเป็นของตนอย่างรวดเร็ว ทันทีที่คัดลอกมาได้สำเร็จ เธอสามารถใช้ทักษะที่คัดลอกมาได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงของทักษะคัดลอก คือการที่มันสามารถใช้ได้เพียงแค่วันละ 3 ครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนับว่าเป็นทักษะที่สุดยอดอยู่ดี แม้จะนับรวมข้อเสียไปด้วยแล้วก็ตาม
'หากมีเจ้านี่...เราจัดการกับ 'ปิอาโร่' ได้แน่'
...
ยูเฟอมิน่าเดินจากมาโดยทิ้งพวกผู้เล่นชายซึ่งกำลังพยายามสำแดงทักษะอย่างเต็มที่เอาไว้ หลังจากนั้นเธอก็รีบตรงดิ่งไปยัง 'หุบเขาเคซาน' ทันที
"เจอแล้ว"
หลังจากได้ที่พบกับถ้ำเล็กๆ ในส่วนลึกสุดของหุบเขา ยูเฟอมิน่าก็ตัดสินใจอ่านทบทวนรายละเอียดของภารกิจอีกครั้งก่อนจะเข้าไปในถ้ำ
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 36 - จบตอน
คัดลอกกริด งาย สิจะได้ใช้นารอสเทพ ผิดเกมส์ฮ่าๆ
ReplyDeleteต่อไปคงมีโอกาสได้ร่วมมือกันแหละ รอพี่ท่านแข่งเสร็จ แถมไปช่วยคนด้วย... ท่าทางคงอีกนาน
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteควรใช้ 130แต้มอัพสติปัญญาอย่างแรง
ReplyDeleteโครตโหดร้ายกริดไม่ได้โง่สักหน่อยเเค่สมองยังไม่โต
Delete