จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 18

       เราแบ่งอัตราส่วนระหว่างเหล็กและยัฟฟ่าที่ถลุงแล้วได้อย่างสมบูรณ์แบบ  หลังจากนั้นก็เทโลหะผสมลงไปบนแม่พิมพ์แล้วทิ้งไว้ 40 นาที   เมื่อโลหะเริ่มเย็นตัวลงเราก็ใช้ค้อนทุบจนมีรูปทรงคล้ายกับเหล็กเส้น  ต่อจากนั้นจึงราดด้วยน้ำเย็นเข้าไปอีกทีหนึ่ง

       ฉ่า~~! 

       เสียงน้ำระเหยดังขึ้นเมื่อพวกมันโดนความร้อนจากเหล็ก   ขั้นตอนนี้มีชื่อว่า 'การชุบแข็ง'  (การทำให้โลหะเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว)    เป็นขั้นตอนที่ใช้ในการเสริมความแข็งให้กับโลหะ

       ทันทีที่สมิทเห็นเราชุบแข็ง  สีหน้าของเขาก็ดูจะผิดหวังเป็นครั้งแรก

       "ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับการชุบแข็งด้วยรึ?"

       "อืม...ผมศึกษาเกี่ยวกับการตีเหล็กมาบ้าง   นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น"

       "อ่า...กระผมไม่รู้หรอกนะว่าท่านไปศึกษามาจากไหน  แต่ดูเหมือนท่านจะเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?   ทำไมถึงได้ใช้การชุบแข็งกับหัวลูกศรล่ะ?   กระผมไม่แน่ในว่าท่านรู้รึไม่   แต่การชุบแข็งโลหะ  แม้มันจะทำให้โลหะแข็งขึ้นก็จริง  แต่โลหะชนิดนั้นก็จะเปราะขึ้นตามไปด้วย    หัวลูกศรจะถูกทำลายทันทีที่กระทบเข้ากับเกราะศัตรู   แทนที่มันจะเจาะทะลุเข้าไปตามปรกติ"

       นั่นก็ใช่...แต่ขั้นตอนของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้

       "ผมจะใช้  'การอบคืนตัว' ควบคู่ไปด้วย"

       ...

       ( ผู้แปล : การอบคืนตัว 

       เมื่อชิ้นงานเหล็กกล้าผ่านการชุบแข็งมาแล้ว จะเกิดความแข็ง แต่ก็เกิดความเปราะ และเกิดความเครียดภายในเนื้อเหล็กกล้า การนำไปใช้งานในบางประเภทจะยังไม่เหมาะสมตอนนี้ เพราะถ้าชิ้นงานถูกนำไปในใช้งานประเภทที่ต้องผ่านการกระแทกแรง ๆ เหล็กอาจเกิดการแตกร้าวได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับสภาพชิ้นงานนั้นเสียใหม่หลังการชุบแข็ง วิธีที่ว่านั่นก็คือ การอบคืนตัว หรือการเทมเปอร์ริ่ง (Tempering) ซึ่งวิธีการนี้จะเพิ่มคุณสมบัติทางด้านความเหนียวขึ้น เหล็กกล้าจะมีอัตราการยืดตัวที่เพิ่มขึ้น จะสูญเสียความแข็งลงเล็กน้อย 

       ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thummech.com )

       ...

       แต่ถึงอย่างนั้น  มันก็จะกินเวลานานกว่าการทำหัวลูกศรแบบปรกติหลายเท่า  ดูเหมือนเราจะได้ทำงานที่ต้องใช้แรงกายอีกครั้ง   ซึ่งเราก็ไม่ค่อยจะชื่นชอบมันซักเท่าไหร่นัก

       สมิทขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย  ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่

       "ท่านคิดจะทำหัวลูกศรทั้งคืนเลยหรือ?   กระผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านถึงต้องทุ่มเทเวลาให้กับการผลิตลูกธนูมากขนาดนี้   มันเป็นเพียงแค่ไอเท็มที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง  คนซื้อเขาไม่รู้หรอกว่าท่านผลิตด้วยวิธีการที่ยากลำบากแค่ไหน  เหตุใดต้องไปเสียเวลากับมันด้วย?"     

       ทำไมน่ะหรอ?   เหตุผลที่เราต้องเพิ่มขั้นตอนให้มันซับซ้อนนั้นง่ายมาก   เราตอบสมิทไปขณะที่มือก็กำลังกำค้อนทุบเหล็กเส้น

       "ถ้าผมสร้างมันให้ดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย...ผมก็จะขายมันได้แพงกว่าคนอื่นเล็กน้อยเช่นกัน"     

       "......"     

       สมิทเข้าใจจุดประสงค์ของเราได้ในทันที  หลังจากนั้นเขาก็ไม่คิดพูดแทรกอะไรขึ้นมาอีก   เราสร้างหัวลูกศรจำนวนมากโดยทำซ้ำไปมาระหว่างการขึ้นรูป,  การชุบแข็ง,  และการอบคืนตัว   

       เวลาผ่านไปเนิ่นนานโดยไม่รู้ตัว  เราเริ่มออกอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย   แต่ที่แย่ที่สุดก็คือความร้อนจากเตาหลอม 

       ท่าทางการใช้ค้อนที่เงอะงะของเราในตอนแรก  ได้พัฒนาความชำนาญขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็ว

       [ ค่าสถานะความพากเพียรเพิ่มขึ้น 1 แต้ม ]

       [ ค่าสถานะความชำนาญเพิ่มขึ้น 1 แต้ม ]

       ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง   ในโลกนี้  เรายอมทำทุกทางโดยไม่เกี่ยง  เพื่อให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นจากเดิม

        "...เดี๋ยวก่อนนะ"

       ชิ!  นี่มันงานใช้แรงงานที่เราเกลียดนี่หว่า!  แต่ทำไมถึงได้สนุกขนาดนี้?  หรือเพราะว่ามันเป็นเกม?

       "ซักวันเราคงได้เสพย์ติดการใช้แรงงานแน่!"

       แต่จะมีวันที่เราสามารถสนุกไปกับงานกรรมกรในโลกจริงได้งั้นหรือ?   เป็นเรื่องที่น่ากังวลไม่น้อย   เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น   ชั่วชีวิตเหลืออยู่คงได้นอนบนเตียงเพราะโรคกระดูกพรุนแน่

       แคร้ง!  แคร้ง!

       ถึงจะบ่น  แต่เราก็ยังคงไม่หยุดมือที่ทุบลงไปบนเหล็กเส้นตรงหน้า   หัวลูกศรถูกขึ้นรูปอย่างง่ายดาย  ด้วยทักษะการใช้ค้อนที่ชำนาญและซับซ้อนของเรา 

       "แฮ่ก...แฮ่ก..."

       เราหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง   แขนของเราออกอาการชาจนเริ่มไร้ความรู้สึก    ผิวหนังร้อนผ่าว  เหงื่อไคลไหลย้อยทุกซอกมุมร่างกาย 

       แต่เราก็ยังฝืนร่างกายไว้ได้   สมาธิของเรายังมั่นคงอยู่  แม้ว่าความอดทนของร่างกายใกล้จะหมดลงเต็มที

       [ ทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล  ]

       [ สมาธิ,  ความอดทน,  และพลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ]

       ความรู้สึกเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับร่างกายเมื่อครู่  ได้อันตรธานหายเป็นปลิดทิ้งในทันที  เรารู้สึกเหมือนกับได้เกิดใหม่   เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ได้กินซีเรียลคู่กับนมสดซักแก้วในยามเช้า

       "โอ้ว!"

       เราสลับไปมาระหว่างการขึ้นรูปและการหลอมแร่อย่างตั้งใจ   สมาธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล   ได้ส่งผลอย่างชัดเจนกับรูปทรงของหัวลูกศร    บางทีเราอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองมากไป  แต่หัวลูกศรที่เราทำขึ้นมา   มันช่างมีรูปร่างที่งดงามจนบรรยายไม่ถูก

       ในสภาพที่เหงื่อไคลไหลย้อยต่อหน้าเตาหลอมเช่นนี้  เรากลับรู้สึกมีความสุขได้อย่างแท้จริง

       'นี่ไม่ใช่แค่งานกรรมกรทั่วไป...แต่มันคืองานศิลปะ'

       ในชีวิตจริง  เราไม่เคยมีพรสวรรค์ในเรื่องไหนเลย  จึงไม่เคยรู้สึกพึงพอใจในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงมาก่อน   เราแค่เพียงอาศัยความอดทนที่มีมากกว่าคนอื่น  รีบทำให้งานมันเสร็จๆ ไปเท่านั้น   

       แต่ตอนนี้เรามีพรสวรรค์แล้ว  แม้จะเป็นแค่เกม  แม้จะแค่ในโลกซาทิสฟาย  แต่เราก็หาพรสวรรค์ตัวเองจนพบ...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

       แคร้ง!  แคร้ง!     

       จังหวะการลงค้อนอย่างสม่ำเสมอได้ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก

       ...

       [ ทักษะ 'ลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล ]

       [ ไอเท็มที่ท่านผลิตขึ้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่าไอเท็มทั่วไป ] 

...

       [ ทักษะลมหายใจของช่างตีเหล็กในตำนาน ]

       เลเวลทักษะ : 1

       เมื่อใดก็ตามที่ท่านสร้างไอเท็มขึ้นมาด้วยความตั้งใจ   เจตจำนงของแพ็กม่าก็จะถูกใส่ลงไปในไอเท็มนั้นด้วย     

       ค่าสถานะทั้งหมดของไอเท็มเพิ่มขึ้นจากเดิม 5%

       มีโอกาสน้อยมากที่จะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษลงไปในไอเท็ม

...

       ลูกธนูยัฟฟ่าทั้ง 100 ดอกเสร็จสมบูรณ์แล้ว!

...

       [ ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษ ]

       ระดับไอเท็ม : อีปิก

       พลังโจมตี : 35~42

       ลูกธนูที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม   แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

       การหลอมรวมกันระหว่างยัฟฟ่ากับเหล็กกล้า  ได้ทำให้เกิดโลหะที่มีอานุภาพในการเจาะทะลวงสูง        ลูกธนูชนิดนี้สามารถมองข้ามพลังป้องกันของศัตรูได้ในบางครั้ง

       * มีโอกาสปานกลางที่จะไม่สนใจพลังป้องกันของศัตรู

       น้ำหนัก : 0.1 หน่วย

...

       [ เมื่อไอเท็มระดับอีปิกถูกผลิตขึ้น  ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4 แต้มอย่างถาวร   ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 80 หน่วย ]

       [ ภารกิจสำเร็จ ]

       [ ความสัมพันธ์กับสมิทเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุด ]

       [ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 300 หน่วย ]

       [ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]

       แม้ภารกิจจะสำเร็จจนเลเวลอัพ  แต่เราก็ไม่มีเวลามามัวดีใจในเรื่องนั้น

       "...ลูกธนูระดับอีปิกงั้นหรอ?"

       เดี๋ยวนะ...ไม่ใช่ว่าลูกธนูทุกชนิดควรจะอยู่ในระดับทั่วไปรึ?"     

       'ไม่เคยเห็นลูกธนูระดับอีปิกมาก่อนเลยแฮะ...'

       เรารู้สึกตัวเบาโหวงอย่างบอกไม่ถูก

       "บ้าฉิบ...ไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไป...ระดับอีปิกเนี่ยนะ..."

       "ทำไมไอเท็มระดับอีปิกถึงดันโผล่มาตอนที่เราผลิตลูกธนูกันเนี่ย?"

       ถ้าหากเป็นอาวุธหรือชุดเกราะล่ะก็   การสร้างไอเท็มระดับอีปิกขึ้นมาได้  จะถือเป็นกำไรอย่างสุดขีด    แต่กับลูกธนูนั้นแตกต่างออกไป   ลูกธนูคือของที่ใช้แล้วหมดไป   ดังนั้น  ถึงลูกธนูจะมีคุณภาพดีขนาดไหน  แต่ราคาของมันก็ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้สูงมากนัก 

       เรารู้สึกแย่ขึ้นมาในทันที...

       'ชิ!  ไอ้สมิทบ้านั่น...มันน่าจะสอนให้เราสร้างอาวุธหรือไม่ก็ชุดเกราะมากกว่า!'

       เราเริ่มเกลียดชังสมิทขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล   เพราะเขาดันสอนให้เราผลิตลูกธนูแทนที่จะเป็นสิ่งของมูลค่าสูง

       ทุกครั้งที่เรามองไปยังลูกธนูทั้ง 100 ดอกที่สร้างขึ้น   ความโมโหก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด 

       "ยังไม่ท่านที่ท่านจะจบหลักสูตรแรก  แต่กลับสามารถผลิตไอเท็มระดับสุดยอดออกมาได้แล้วรึเนี่ย?   นี่มันลูกธนูในฝันชัดๆ!   เป็นครั้งแรกที่ข้ามองเห็นถึงความงดงามของลูกธนู!   ไม่ผิดแน่  ท่านจะต้องเป็นแพ็กม่ากลับชาติมาเกิดแน่นอน!"

       "ท่านอาจจะเริ่มเบื่อในความตื่นเต้นดีใจของข้า...แต่เชื่อเถอะ...ว่าท่านน่ะสุดยอดมาก!"

       เรารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยจากคำพูดเหล่านั้น

       ...

       ก็นับว่ายังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง...อย่างน้อยเราก็สามารถสร้างไอเท็มระดับอีปิกขึ้นมาได้   โดยที่มันไม่ล้มเหลวไปซะก่อน   สงสัยคราวนี้เทพธิดาแห่งโชคจะรู้สึกเห็นใจเราไม่มากก็น้อย

       ผลจากการผลิตไอเท็มระดับอีปิก  ทำให้ค่าสถานะทั้งหมดของเราเพิ่มขึ้น 4 แต้มอย่างถาวร   และชื่อเสียงระดับทวีปก็เช่นกัน

       แถมลูกธนูก็นับว่ามีความสุดยอดมากในตัว  แทบไม่มีลูกธนูชนิดใดในเกมเลยที่มีพลังโจมตีสูงกว่า 40 หน่วยแบบของเรา   รวมไปถึงคุณสมบัติพิเศษในการเจาะเกราะนั่นอีกด้วย

       'ลำพังแค่ลูกธนูดอกเดียว...กลับมีพลังโจมตีสูงกว่าอาวุธเลเวล 20 อีกงั้นหรอ?'     

       หากคิดในแง่ดี  แม้ไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไปจะมีราคาทีต่ำก็จริงอยู่  แต่ถ้าเกิดว่ามันยอดเยี่ยมจนเข้าตาคนซื้อล่ะก็  บางทีเราก็อาจทำกำไรได้ไม่น้อยเหมือนกัน

       'เราไม่ควรใจร้อนด่วนได้...ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป...ก้าวไปทีละขั้น'     

       ยังไงซะเราก็มีทักษะการผลิตของช่างตีเหล็กในตำนานอยู่กับตัว  ไม่ว่าเราจะสร้างอะไรขึ้นมา  ความสามารถของมันก็จะเพิ่มขึ้นจากเดิมทันที 10%     ดังนั้น  ถึงแม้เราจะผลิตลูกธนูยัฟฟ่าเหมือนกับคนอื่น   แต่พลังโจมตีของลูกธนูยัฟฟ่าที่เราผลิตขึ้นจะสูงกว่า 

       ในมุมมองของคนซื้อแล้ว  ยังไงพวกนั้นก็ต้องเลือกซื้อลูกธนูของเรามากกว่าลูกธนูยัฟฟ่าทั่วไปแน่นอน

       แต่พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นแค่ 10% จะมากพอให้คนยอมควักเงินจ่ายเพิ่มเชียวหรือ?   ก็จริงอยู่   การที่พลังโจมตีเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่ 10% คงไม่อาจทำให้คนซื้อยอมจ่ายเพิ่มได้ 

       ดังนั้น  เราจึงต้องเพิ่มขั้นตอนในการผลิตเข้าไป   เราเลือกใช้การชุบแข็ง  การขึ้นรูป  และการอบคืนตัวเพื่อทำให้ทักษะของเราแสดงผลกับลูกธนูอย่างเต็มที่   

       เราหวังให้ลูกธนูยัฟฟ่าที่ผลิตขึ้นมีคุณสมบัติสูงกว่าลูกธนูทั่วไปเกินกว่า 10%   เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นตอนการผลิตเข้าไปให้ซับซ้อนที่สุด

       แต่ทันทีที่เราผลิตสำเร็จ   ความสามารถของมันกลับดีกว่าที่เราคาดไว้มาก   ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษของเรามีพลังโจมตีที่สูงกว่าลูกธนูยัฟฟ่าทั่วไปถึง 15 หน่วย   แถมยังมีความสามารถในการมองข้ามเกราะป้องกันทั้งหมดของศัตรูอีกด้วย

       ดังนั้น  ไม่ว่าลูกธนูของเราจะมีราคาสูงแค่ไหน  แต่ผู้เล่นชั้นแนวหน้าก็จำเป็นจะต้องเลือกซื้อจากเราอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน...

       "อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!!"

       สุดยอดทักษะที่ได้จากคลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า...

       ค่าสถานะ 40 แต้มที่ได้มาจากตอนเลเวลติดลบ...

       ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นจากการผลิตไอเท็มระดับอีปิก...

       และสุดท้าย  ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษที่สามารถขายได้ในราคาสูงลิบ...

       วันนี้คือวันที่ดีที่สุดในชีวิตเราอย่างไม่ต้องสงสัย...

       "รู้สึกดีกว่าวันเกิดตัวเองซะอีก..."     

       ที่จริง...วันเกิดของเรา   คนที่จำได้คงมีเพียงแค่เซฮีน้องสาวเราเท่านั้น   แถมทุกปียังต้องมานั่งฟังเธอบ่นตลอดทั้งวันว่า  'พี่คิดจะนั่งอยู่เฉยๆ ที่บ้านงั้นหรอ?'  หรือ 'พี่ไม่มีเพื่อนบ้างรึไง?'   แต่ในปีนี้  เราจะเอาคำพูดเหล่านั้นไปพูดกับเซฮีในวันเกิดของเธอบ้าง

       จึงไม่ใช่เรื่องแปลก  ที่วันนี้เราจะมีความสุขมากกว่าวันเกิดอันแสนเดียวดายในปีก่อนๆ

       สมิทยืนจ้องมองเราที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับคนเสียสติ  หลังจากนั้นเขาก็ยื่นลูกธนูยัฟฟ่าทั้ง 100 ดอกนั้นกลับคืนมาให้เรา

       "ตอนแรกกระผมคิดว่าจะให้รางวัลตอบแทนแค่ครึ่งหนึ่ง...แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว   ตัวกระผมไม่คู่ควรกับลูกธนูอันงดงามทั้ง 100 ดอกนี้เลยซักนิด   ท่านเก็บพวกมันไว้เถอะ"

       เห...หรือนี่จะเป็นเพราะว่าค่าความสัมพันธ์ที่ถึงขีดจำกัดกันนะ? 

       แต่ช่างเถอะ  ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร  มันก็นับว่ายอดเยี่ยมทั้งนั้น     

       หัวใจของเราเต้นไม่เป็นจังหวะ   เราเข้าโผกอดสมิทผู้ซึ่งเป็นเหมือนกับปู่แท้ๆ ของเราอย่างไม่อาย

       "คุณใจดีกับผมมาก...ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ...แต่ผมก็จะไม่มีวันลืมคุณเลย"

       สมิทสวมกอดเรากลับพร้อมด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา  "ท่านจะไปแล้วหรือ?  น่าเสียดายนัก..."

       "ถ้าหากมีวาสนาต่อกัน  เราคงได้พบกันอีกแน่"

       "กระผมไม่อยากให้ท่านไปเลย..."  สมิทจ้องมองเราด้วยใบหน้าแดงก่ำ

       ประหนึ่งเป็นนกยูงตัวผู้ที่กำลังสยายแพนหางในฤดูผสมพันธ์  สมิทพยายามเหนี่ยวรั้งเราไว้ด้วยค้อนเหล็ก,  แหนบเหล็ก,  และกล้ามอันสมส่วนของลำตัวท่อนบน

       ดูเหมือนว่าหมอนี่จะเป็นพ่อหม้ายมานาน...คงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่น้อยเลย 

       บางที  อาจเป็นเพราะค่าความสัมพันธ์ที่ถึงขีดจำกัดกับเรา  ก็เลยเปลี่ยนให้สมิทกลายเป็นพวกรักร่วมเพศมาชอบเรางั้นหรอ?...ไม่สิ  บางทีหมอนี่อาจจะเป็นพวกรักร่วมเพศมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ได้!

       ภาพลักษณ์ที่สมิทสั่งสมมาทั้งหมดพังทะลายลงทันที  เราพยายามรีบออกจากโรงตีเหล็กให้เร็วที่สุด

       "งั้นผมไปก่อนนะ"

       เราคว้าลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษทั้ง 100 ดอกเอาไว้และเดินออกมา   ทว่า...ด้วยความเร็วการเคลื่อนที่ -100%     เราจึงทำได้เพียงก้าวเท้าออกมาอย่างเชื่องช้าดั่งเต่าคลาน   เมื่อสมิทเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาโผกอดเราไว้จากด้านหลังในทันที

       "กระผมรู้ว่าท่านเองก็ไม่อยากจากกระผมไปใช่ไหม!   ท่านเองก็รับรู้ได้ถึงความหลงใหลที่กระผมมีต่อท่านใช่ไหม!   ท่านคือช่างตีเหล็กผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และหัวใจอันแข็งแกร่ง!"

       "แต่สุดท้ายกระผมก็จำต้องละทิ้งความเห็นแก่ตัวไป...อย่างห่วงเลย  กระผมจะไม่มีวันลืมท่านจนถึงวันที่นอนในโลง...ไม่สิ...ต่อให้กระผมลงไปนอนในโลง  ก็จะไม่มีวันลืมท่านอย่างเด็ดขาด!"

       "เจ้าบ้านี่...เลิกพูดจาชวนขนหัวลุกได้แล้วโว้ย!!"     

       สมิทเหมือนกับโดรันทุกประการ   เราต้องถูกเอ็นพีซีเข้าใจผิดเพียงเพราะความเร็วในการเดินที่เชื่องช้าอีกครั้ง

       เราพยายามสลัดสมิทให้หลุดอย่างยากลำบาก   หลังจากนี้  เราต้องรีบนำลูกธนูไปขาย   รีบหาคลังเก็บของ  และรีบย้ายไปหมู่บ้านอื่นให้เร็วที่สุด     



จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์  ตอนที่ 18 - จบตอน

Comments

  1. เอิ่มเิริ่มความเสื่อมของพระเอกอีกแล้วว เหนื่อยใจจัง 555

    ReplyDelete
  2. เอ็งเอาของไปฝากเถอะแล้วมีเงินค่อยไปถอนคืน...

    ปล.ขอบคุณผู้แปลครับ

    ReplyDelete
  3. ไม่ได้รั่งรอ แต่เพราะหนักเลยเดินช้า

    ReplyDelete
  4. ตำนานรักเหมืองทอง ฮ่าๆ
    เกือบไปแล้วเอ็ง

    ReplyDelete
  5. Npc ชาย มันจะแสดงอาการชวนขนลุกแบบนี้ทุกครั้งเลยหรือไง
    #ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  6. อ่านนี้จบไป หวดอิ้งต่อ นิยายอิ้งมีไม่กี่ตอนเอง เซ็งงงงงงงงงงงงงงง

    ReplyDelete
  7. 55555555555. เกือบได้สร้างตำนานรักช่างตีเหล็กแล้วมั้ยล่ะ สมกับเป็นช่างในตำนานจริงๆ

    ReplyDelete
  8. นี้คือเสน่ห์ ของช่างตีเหล็กสินะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00