จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 60
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เอิร์ลสไตมได้ส่งคนออกตามล่าและทำลายวิหารยาธานเกือบทั้งหมดในแดนเหนือไป
เดิมทีวิหารยาธานก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกชั่วช้าที่ลักพาตัวหญิงสาวพรมจรรย์ไปบูชายัญ แต่เอิร์ลสไตมกลับยิ่งขยะแขยงหวาดกลัวขึ้นไปอีก เมื่อบุตรสาวสุดที่รัก ไอรีน ถึงคราวถูกลักพาตัวไปบ้าง เคราะห์ดีที่ไอรีนรอดออกมาได้ แต่เอิร์ลสไตมก็ต้องสูญเสียโดรัน ผู้ซึ่งเป็น 'เงา' ที่แข็งแกร่งที่สุดไปในระหว่างนั้น
ความเคียดแค้นในครั้งนี้นำมาพาซึ่งหายนะของวิหารยาธานทุกสารทิศ แต่วิหารยาธานก็ยังมีอาวุโสผู้แข็งแกร่งที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำจัดพวกมันให้หมด พวกนี้ฆ่ายากตายยากราวฝูงแมลงสาป แถมยังแพร่ขยายโตเร็วอีกด้วย แม้กระทั่งเขตชายแดนของวินสตันเองก็ยังมีวิหารยาธานอยู่หนึ่งแห่ง
"อย่างน้อยที่สุด ในดินแดนตอนเหนือจะต้องไม่เหลือวิหารยาธานอีกต่อไป..."
ความเจ็บแค้นใจของไอรีนไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เป็นพ่อ เธอไม่มีทางยอมรับได้ถ้าหากต้องมีวิหารยาธานอยู่ใกล้ๆ ความหวาดกลัวในครั้งที่ถูกผู้ศรัทธาแห่งยาธานลักพาตัวไปยังคงไม่ลืมเลือน แค่เพียงคิดว่าอาจต้องโดนเช่นนั้นอีกครั้ง ร่างกายก็สั่นระริกไปทุกส่วนแล้ว
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า เธอได้ส่งกองทัพส่วนตัวเข้าไปทำลายวิหารยาธานที่ชายแดนวินสตัน แต่ด้วยการต่อต้านที่แข็งแกร่ง กองทัพอันเกรียงไกรจึงต้องกลับมามือเปล่า นอกจากจะเสียไพร่พลทหารเลวไปกว่าร้อยคนแล้ว อัศวินของเธอยังได้รับบาดเจ็บหนักอีกถึงสามคน
ไอรีนประกาศกร้าว "รีบจัดขบวนทัพใหม่อีกครั้ง คราวนี้พวกเราจะต้องถล่มวิหารชั่วให้ราบเป็นหน้ากลอง!"
ในครั้งนี้เธอได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นโดยการเกณฑ์คนมาเพิ่ม ในขณะที่สายตาจดจ้องไปยังกองทหารอันยิ่งใหญ่ ไอรีนก็บรรจงลูบไล้ไปยังแหวนสีเขียวที่ห้อยอยู่กับสร้อยคออย่างเบามือ
"โดรัน… ฉันจะต้องแก้แค้นแทนนายให้จงได้… การสละชีวิตของนายจะต้องไม่สูญเปล่า"
***
ความแข็งแกร่งของกองทหารแดนเหนือเป็นที่ลือลั่นไปทั่วอาณาจักร แน่นอนว่านี่จะต้องเป็นการต่อสู้อันยากลำบาก แต่ยูร่าก็หาได้คิดลังเลไม่ เธอรีบตรงดิ่งไปยังวินสตันด้วยความเร็วสูงสุด
'เราจะต้องแข็งแกร่งขึ้น'
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ยูร่าได้เผชิญหน้ากับผู้เล่นอับดับ 7 ของโลกอย่างแอ็กนัส ทำเธอให้ได้ประจักษ์ชัดถึงความยอดเยี่ยมของคลาสเกรดอีปิก เธอจึงทำได้เพียงรู้สึกสิ้นหวัง เฉกเช่นเดียวกับตอนที่ได้เผชิญหน้ากับชายปริศนานามว่ากริดในคราวก่อน
และครั้งนี้โอกาสทองก็มาถึง ภารกิจระดับ SS ที่แม้แต่เธอก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ยูร่าคาดหวังว่ามันจะเป็นตัวผลักดันให้เธอก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 ได้สำเร็จ
***
ในที่สุดเราก็เรียนรู้สูตรการผลิตดาบเลเวล 160 จากข่าน แต่นับว่าเป็นไอเท็มที่มีกรรมวิธีซับซ้อน แถมวัสดุที่ต้องใช้ยังยุ่งยาก ทำให้ต้นทุนของดาบเล่มนี้มากถึง 950 เหรียญทอง
"ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ"
ตอนนี้ในตัวเรามีเงินทั้งสิ้น 6,710 เหรียญทอง จึงเพียงพอต่อวัสดุสำหรับการผลิตดาบ 7 ชุดเท่านั้น แต่ในหนึ่งอาทิตย์เราก็ผลิตดาบได้แค่ 7 เล่มอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
"เจ็ดเล่ม เลขเจ็ดถือเป็นเลขมงคลสินะ"
ตามความเชื่อของชาวเกาหลีใต้ เลขเจ็ดหมายถึงสัญลักษณ์แห่งโชค! และเราก็เชื่อในเรื่องนั้น
"ทำรวดเดียวให้เสร็จไปเลยแล้วกัน~! ไอเท็มเกรดอีปิก รอฉันก่อนนะ! ฮี่ฮี่ฮี่"
ตัวเรากำลังมีความสุขสุดขีด วันนั้นทั้งวันได้ใช้เวลามากถึง 20 ชั่วโมงไปกับการผลิตดาบหนึ่งเล่ม และในที่สุดมันก็สำเร็จจนได้...
"...เชี่ย ใครบอกว่าเลขเจ็ดเป็นเลขแห่งโชคกันนะ? บ้าฉิบ..."
โอกาสหนึ่งในเจ็ดครั้งปลิวไปกับสายลม ถ้อยคำก่นด่าสาปแช่งถูกพ่นออกมาจากปาก แต่ถึงจะบ่นไปวัตถุดิบมันก็ไม่กลับคืนมาให้ เราจึงเดินไปหาข่านด้วยอารมณ์หงุดหงิดพร้อมกับถามว่า
"อันนี้ขายได้เท่าไร?"
ข่านจ้องมองดาบยาวเล่มนั้นเป็นเวลานานก่อนจะตอบกลับมาอย่างใจเย็น "ประมาน 800 เหรียญทอง"
"อะ--อะไรกัน?"
เราอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อข่านให้รู้แล้วรู้รอด ดาบเล่มนี้มีต้นทุนมากถึง 950 เหรียญทอง แต่กลับขายได้แค่ 800 เหรียญทองเนี่ยนะ? แล้วจะเสียเวลาทำไปเพื่ออะไร?
"ไอเท็มธรรมดาที่ไม่มีเอฟเฟคพิเศษอะไร แถมยังเป็นเกรดทั่วไป ก็ราคาราวนี้ล่ะนะ..."
ข่านบรรจงอธิบายอย่างละเอียดชัดถ้อยชัดคำ
สรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้:
ไอเท็มเลเวล 160 นั้นมีคุณภาพพื้นฐานสูงกว่าไอเท็มเลเวล 120 ก็จริง แต่ไอเท็มเกรดแรร์ก็จะมีเอฟเฟคเล็กน้อย ส่วนเกรดทั่วไปนั้นไม่มี โดยมากแล้ว ไอเท็มเลเวล 120 เกรดแรร์มักมีคุณภาพใกล้เคียงกับไอเท็มเลเวล 160 เกรดทั่วไป ดังนั้นราคาของพวกมันจึงใกล้เคียงกัน
คนที่มีเงินก็มักจะเลือกซื้อไอเท็มเลเวล 120 เกรดแรร์มากกว่า 160 เกรดทั่วไป
"อีกความหมายหนึ่งก็คือ… ไอเท็มเกรดทั่วไปควรนำไปโยนทิ้งทั้งขยะได้เลยสินะ..."
ข่านค่อยๆ พูดปลอบใจเรา "แม้จะเป็นเกรดทั่วไป แต่ไอเท็มของแกก็นับว่ามีคุณภาพยอดเยี่ยมแล้ว คงขาดทุนไม่มากนักหรอก สบายใจได้"
'สบายใจได้งั้นหรอ… ฮะฮะ นี่มันแย่สุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง '
เหลือโอกาสอีกหกครั้งเท่านั้น ด้วยการผลิตไอเท็มเกรดอีปิกในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งของเรา ยังมีโอกาสที่จำทำภารกิจนี้สำเร็จอยู่บ้าง
"เอาล่ะ ครั้งนี้ทำได้แน่!"
เรารีดเร้นเค้นสมาธิออกมาอย่างสุดขีด ดาบที่เราสร้างขึ้นจะต้องสุดยอดเท่านั้น
20 ชั่วโมงถัดมา
ดาบเล่มที่สองเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
"ไอ้#@!$%~เอ้ย! ไอพวกเจ้าหน้าที่เกมส้น#$@!#! พวกแกกำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่ใช่มั้ย? $!@#เอ้ย! ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?"
ข่านเดินไปชงชาอุ่นๆ มาให้ "ใจเย็น จงแข็งแกร่งเข้าไว้ ทุกคนมักได้เผชิญหน้ากับบททดสอบอยู่เสมอ คนที่ก้าวข้ามมันไปได้ต่างหากคือผู้ชนะที่แท้จริง..."
"อย่างเพิ่งพูดอะไรกับผม! ตอนนี้กำลังโมโหสุดๆ"
"......"
เรารีบวิ่งออกไปจากโรงตีเหล็กข่านและตะโกนโหวกแหวกขึ้นฟ้า "ไอ้พวกเจ้าหน้าที่เกมหัว#$@!#! ถ้าพวกแกกล้ากลั่นแกล้งฉันล่ะก็ เตรียมรับอีเมลสาปแช่งอีกฉบับได้เลยโว้ยยย! เชี่ย! ไอ้พวกหน้า#$@!#!"
เราใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่สุด กระบวนการผลิตที่ดีที่สุด ถ้าหากพวกเจ้าหน้าที่เกมยังมีศีลธรรมอยู่บ้าง ไอเท็มเกรดทั่วไปมันไม่ควรจะโผล่ออกมาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ตัวเราที่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกจึงกลับเข้าร้านไปผลิตดาบเล่มที่สาม
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
หลายวันมานี้เราแทบไม่ได้นอน ค้อนเหล็กถูกกระหน่ำทุบลงไปยังโลหะในทุกๆ วัน หัวไหล่เริ่มล้าจากการที่เหวี่ยงค้อนมากไป แต่นั่นไม่มีทางทำให้เราหยุดมือ เรามีศักดิ์ศรีของช่างตีเหล็กในตำนานอยู่ ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะออกมาเป็นเกรดทั่วไปทุกชิ้นไม่ได้ เราจำเป็นต้องหลุดพ้นจากการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่เกมด้วยการผลิตไอเท็มเกรดอีปิดขึ้นมา
...เมื่อไม่กี่วันก่อน เป้าหมายของเราคือการสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารี ทว่าตอนนี้ ของเพียงเป็นอีปิกก็ดีใจมากแล้ว ก็นั่นล่ะนะ โลกนี้มันโหดร้าย เราจึงมีความหวังได้เท่านี้
***
เป็นเวลามื้อเย็นของที่บ้าน แต่ขณะนี้เรากลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เรานั่งกินข้าวโดยที่ไม่รู้ว่าเมล็ดข้าวเข้าไปทางปากหรือจมูกกันแน่
แม่ที่สังเกตเห็นเราแปลกไปได้ถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง "นี่ ยองวู เกิดอะไรแย่ๆ ขึ้นกับลูกงั้นหรอ? แม่ใช้เวลาทำซี่โครงตุ๋นนี่นานมากเลยนะ แล้วทำไมลูกถึงได้เอาแต่แทะกระดูกเปล่าๆ มาห้านาทีแล้ว?"
"คนไร้ความสามารถอย่างผมไม่คู่ควรกับเนื้อพวกนี้หรอก..."
หนึ่งวันครึ่งในชีวิตจริงผ่านไป เทียบได้กับหกวันในซาทิสฟาย ในช่วงนี้ ผลการผลิตของเราคือเกรดทั่วไปจำนวนสามเล่ม เกรดแรร์หนึ่งเล่ม และเกรดอีปิกสองเล่ม เราเหลือโอกาสเพียงครั้งเดียวโดยที่ของส่งมอบภารกิจยังไม่ครบ
'จบแล้ว… จบสิ้นแล้ว...'
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าเราใช้เวลา 20 ชั่วโมงในการสร้างดาบชนิดนี้ขึ้น มันจะมีโอกาสราวหนึ่งในสามที่จะกลายเป็นเกรดอีปิก ดังนั้นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่เหลืออยู่จึงหวังอะไรมากไม่ได้
ภารกิจ 'ทำธุรกิจกับเทศมนตรีวินสตัน' คงจบลงแต่เพียงเท่านี้
'ตัวเราที่เป็นถึงคลาสเกรดเลเจนดารี แต่กลับไม่สามารถสร้างได้แม้แต่ไอเท็มเกรดอีปิก… น่าสมเพช คนอย่างเรามันน่าสมเพช ไม่สมควรจะได้กินเนื้อเหมือนคนอื่นเค้า'
ในระหว่างที่กำลังเซื่องซึม เซฮีก็คีบซี่โครงตุ๋นมาวางไว้บนชามข้าวเรา
"แล้วมันมีอะไรใหม่งั้นหรอ? พี่ก็เป็นคนไร้ความสามารถมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงต้องเศร้าเป็นหมาหงอยขนาดนี้ด้วย? หนูก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปเจออะไรมา แต่คนที่ไม่มีอะไรดีเลยอย่างพี่ จุดแข็งเพียงอย่างเดียวก็คือการไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ หนูพูดถูกไหม? อ้อ พี่ยังมีความสามารถอีกอย่าง ตอนพี่อยู่ ป.6 พี่สามารถจดจำคนในห้องทุกคนได้ตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.6 เลยนะ คราวนี้เองก็เหมือนกัน อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ สิ พี่ต้องผ่านมันไปได้อยู่แล้ว"
"ซะ--เซฮี… เธอกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปงั้นหรอ?" เรารู้สึกขนลุกซู่กับคำพูดให้กำลังใจของเซฮี เป็นคำพูดที่ไม่มีทางจะออกมาจากปากหล่อนในชีวิตประจำวันได้แน่ หลังจากนั้นเราก็หันไปพูดกับแม่ "แม่ ผมว่าซี่โครงตุ๋นที่เซฮีกินเข้าไปจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เนื้อพวกนี้ทำมาจากวัวที่ป่วยเป็นโรควัวบ้ารึเปล่า?"
"นี่มันเนื้อหมู!"
ป้าบ!
เซฮีคีบซี่โครงหมูตุ๋นบนชามข้าวเราขึ้น และบรรจงขว้างมาใส่หน้าเราเต็มแรง เนื้อซี่โครงชิ้นดังกล่าวค่อยๆ ไถลจากใบหน้าไปลงบนร่างกาย เราเริ่มที่จะคิดขึ้นมาได้ ทำไมทุกครั้งในมื้ออาหารจะต้องเป็นเราที่โดนแบบนี้อยู่เรื่อย ทำไมต้องมีอะไรสักอย่างบินมากระแทกหน้าอยู่ร่ำไป
เดิมทีวิหารยาธานก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกชั่วช้าที่ลักพาตัวหญิงสาวพรมจรรย์ไปบูชายัญ แต่เอิร์ลสไตมกลับยิ่งขยะแขยงหวาดกลัวขึ้นไปอีก เมื่อบุตรสาวสุดที่รัก ไอรีน ถึงคราวถูกลักพาตัวไปบ้าง เคราะห์ดีที่ไอรีนรอดออกมาได้ แต่เอิร์ลสไตมก็ต้องสูญเสียโดรัน ผู้ซึ่งเป็น 'เงา' ที่แข็งแกร่งที่สุดไปในระหว่างนั้น
ความเคียดแค้นในครั้งนี้นำมาพาซึ่งหายนะของวิหารยาธานทุกสารทิศ แต่วิหารยาธานก็ยังมีอาวุโสผู้แข็งแกร่งที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำจัดพวกมันให้หมด พวกนี้ฆ่ายากตายยากราวฝูงแมลงสาป แถมยังแพร่ขยายโตเร็วอีกด้วย แม้กระทั่งเขตชายแดนของวินสตันเองก็ยังมีวิหารยาธานอยู่หนึ่งแห่ง
"อย่างน้อยที่สุด ในดินแดนตอนเหนือจะต้องไม่เหลือวิหารยาธานอีกต่อไป..."
ความเจ็บแค้นใจของไอรีนไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เป็นพ่อ เธอไม่มีทางยอมรับได้ถ้าหากต้องมีวิหารยาธานอยู่ใกล้ๆ ความหวาดกลัวในครั้งที่ถูกผู้ศรัทธาแห่งยาธานลักพาตัวไปยังคงไม่ลืมเลือน แค่เพียงคิดว่าอาจต้องโดนเช่นนั้นอีกครั้ง ร่างกายก็สั่นระริกไปทุกส่วนแล้ว
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า เธอได้ส่งกองทัพส่วนตัวเข้าไปทำลายวิหารยาธานที่ชายแดนวินสตัน แต่ด้วยการต่อต้านที่แข็งแกร่ง กองทัพอันเกรียงไกรจึงต้องกลับมามือเปล่า นอกจากจะเสียไพร่พลทหารเลวไปกว่าร้อยคนแล้ว อัศวินของเธอยังได้รับบาดเจ็บหนักอีกถึงสามคน
ไอรีนประกาศกร้าว "รีบจัดขบวนทัพใหม่อีกครั้ง คราวนี้พวกเราจะต้องถล่มวิหารชั่วให้ราบเป็นหน้ากลอง!"
ในครั้งนี้เธอได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นโดยการเกณฑ์คนมาเพิ่ม ในขณะที่สายตาจดจ้องไปยังกองทหารอันยิ่งใหญ่ ไอรีนก็บรรจงลูบไล้ไปยังแหวนสีเขียวที่ห้อยอยู่กับสร้อยคออย่างเบามือ
"โดรัน… ฉันจะต้องแก้แค้นแทนนายให้จงได้… การสละชีวิตของนายจะต้องไม่สูญเปล่า"
***
[ ภารกิจ 'ข้ารับใช้ลำดับแปด' ]
ระดับความยาก: SS
ท่านกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเทพยาธานอวยพรมากที่สุด รีบตรงไปยังดินแดนตอนเหนือของอาณาจักรอีเทอนัลเพื่อช่วยเหล่าผู้ศรัทธาที่กำลังตกที่นั่งลำบากด้วย
ถ้าท่านสามารถแสดงให้ผู้คนในแดนเหนือเห็นถึงความยอดเยี่ยมขององค์ศาสดายาธาน ตำแหน่งข้ารับใช้ลำดับแปดแห่งเทพยาธานก็จะตกเป็นของท่าน
* เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : กองทัพของเอิร์ลสไตมกำลังกระหนำโจมตีวิหารยาธานในแดนเหนืออย่างไม่หยุดหย่อน จงเข้าไปช่วยผู้ศรัทธาที่ยังเหลือออกมาเป็นจำนวน 300 คน
* จำนวนผู้ศรัทธาที่ช่วยออกมาแล้ว: 0/300
* รางวัลภารกิจ: ตำแหน่ง 'ผู้รับใช้คนที่แปด'
* บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว :
เลเวลลดลง 5 ระดับ
ค่าความศรัทธาลดลง 1,000 หน่วย
[ ข้ารับใช้ลำดับแปด :
ได้รับทักษะ 'ความศรัทธาไร้ขีดจำกัด'
ได้รับทักษะ 'เผยแพร่หลักคำสอน'
ได้รับทักษะ 'การลงทัณฑ์จากทวยเทพ' ]
ความแข็งแกร่งของกองทหารแดนเหนือเป็นที่ลือลั่นไปทั่วอาณาจักร แน่นอนว่านี่จะต้องเป็นการต่อสู้อันยากลำบาก แต่ยูร่าก็หาได้คิดลังเลไม่ เธอรีบตรงดิ่งไปยังวินสตันด้วยความเร็วสูงสุด
'เราจะต้องแข็งแกร่งขึ้น'
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ยูร่าได้เผชิญหน้ากับผู้เล่นอับดับ 7 ของโลกอย่างแอ็กนัส ทำเธอให้ได้ประจักษ์ชัดถึงความยอดเยี่ยมของคลาสเกรดอีปิก เธอจึงทำได้เพียงรู้สึกสิ้นหวัง เฉกเช่นเดียวกับตอนที่ได้เผชิญหน้ากับชายปริศนานามว่ากริดในคราวก่อน
และครั้งนี้โอกาสทองก็มาถึง ภารกิจระดับ SS ที่แม้แต่เธอก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ยูร่าคาดหวังว่ามันจะเป็นตัวผลักดันให้เธอก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 ได้สำเร็จ
***
ในที่สุดเราก็เรียนรู้สูตรการผลิตดาบเลเวล 160 จากข่าน แต่นับว่าเป็นไอเท็มที่มีกรรมวิธีซับซ้อน แถมวัสดุที่ต้องใช้ยังยุ่งยาก ทำให้ต้นทุนของดาบเล่มนี้มากถึง 950 เหรียญทอง
"ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ"
ตอนนี้ในตัวเรามีเงินทั้งสิ้น 6,710 เหรียญทอง จึงเพียงพอต่อวัสดุสำหรับการผลิตดาบ 7 ชุดเท่านั้น แต่ในหนึ่งอาทิตย์เราก็ผลิตดาบได้แค่ 7 เล่มอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
"เจ็ดเล่ม เลขเจ็ดถือเป็นเลขมงคลสินะ"
ตามความเชื่อของชาวเกาหลีใต้ เลขเจ็ดหมายถึงสัญลักษณ์แห่งโชค! และเราก็เชื่อในเรื่องนั้น
"ทำรวดเดียวให้เสร็จไปเลยแล้วกัน~! ไอเท็มเกรดอีปิก รอฉันก่อนนะ! ฮี่ฮี่ฮี่"
ตัวเรากำลังมีความสุขสุดขีด วันนั้นทั้งวันได้ใช้เวลามากถึง 20 ชั่วโมงไปกับการผลิตดาบหนึ่งเล่ม และในที่สุดมันก็สำเร็จจนได้...
[ ดาบยาวทนทาน ]
เกรด: ทั่วไป
ความคงทน: 250/250 พลังโจมตี: 200
ดาบที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือทักษะเยี่ยมผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่ยังขาดประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
ถือเป็นดาบที่มีค่าความคงทนสูงมาก เนื่องมาจากช่างตีเหล็กใช้กระบวนการอันซับซ้อนและเวลาที่ยาวนานสร้างขึ้น
* เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 160 หรือสูงกว่า ค่าพละกำลัง 950 หรือสูงกว่า ทักษะความชำนาญดาบขั้นกลางหรือสูงกว่า
น้ำหนัก: 600 หน่วย
"...เชี่ย ใครบอกว่าเลขเจ็ดเป็นเลขแห่งโชคกันนะ? บ้าฉิบ..."
โอกาสหนึ่งในเจ็ดครั้งปลิวไปกับสายลม ถ้อยคำก่นด่าสาปแช่งถูกพ่นออกมาจากปาก แต่ถึงจะบ่นไปวัตถุดิบมันก็ไม่กลับคืนมาให้ เราจึงเดินไปหาข่านด้วยอารมณ์หงุดหงิดพร้อมกับถามว่า
"อันนี้ขายได้เท่าไร?"
ข่านจ้องมองดาบยาวเล่มนั้นเป็นเวลานานก่อนจะตอบกลับมาอย่างใจเย็น "ประมาน 800 เหรียญทอง"
"อะ--อะไรกัน?"
เราอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อข่านให้รู้แล้วรู้รอด ดาบเล่มนี้มีต้นทุนมากถึง 950 เหรียญทอง แต่กลับขายได้แค่ 800 เหรียญทองเนี่ยนะ? แล้วจะเสียเวลาทำไปเพื่ออะไร?
"ไอเท็มธรรมดาที่ไม่มีเอฟเฟคพิเศษอะไร แถมยังเป็นเกรดทั่วไป ก็ราคาราวนี้ล่ะนะ..."
ข่านบรรจงอธิบายอย่างละเอียดชัดถ้อยชัดคำ
สรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้:
ไอเท็มเลเวล 160 นั้นมีคุณภาพพื้นฐานสูงกว่าไอเท็มเลเวล 120 ก็จริง แต่ไอเท็มเกรดแรร์ก็จะมีเอฟเฟคเล็กน้อย ส่วนเกรดทั่วไปนั้นไม่มี โดยมากแล้ว ไอเท็มเลเวล 120 เกรดแรร์มักมีคุณภาพใกล้เคียงกับไอเท็มเลเวล 160 เกรดทั่วไป ดังนั้นราคาของพวกมันจึงใกล้เคียงกัน
คนที่มีเงินก็มักจะเลือกซื้อไอเท็มเลเวล 120 เกรดแรร์มากกว่า 160 เกรดทั่วไป
"อีกความหมายหนึ่งก็คือ… ไอเท็มเกรดทั่วไปควรนำไปโยนทิ้งทั้งขยะได้เลยสินะ..."
ข่านค่อยๆ พูดปลอบใจเรา "แม้จะเป็นเกรดทั่วไป แต่ไอเท็มของแกก็นับว่ามีคุณภาพยอดเยี่ยมแล้ว คงขาดทุนไม่มากนักหรอก สบายใจได้"
'สบายใจได้งั้นหรอ… ฮะฮะ นี่มันแย่สุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง '
เหลือโอกาสอีกหกครั้งเท่านั้น ด้วยการผลิตไอเท็มเกรดอีปิกในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งของเรา ยังมีโอกาสที่จำทำภารกิจนี้สำเร็จอยู่บ้าง
"เอาล่ะ ครั้งนี้ทำได้แน่!"
เรารีดเร้นเค้นสมาธิออกมาอย่างสุดขีด ดาบที่เราสร้างขึ้นจะต้องสุดยอดเท่านั้น
20 ชั่วโมงถัดมา
ดาบเล่มที่สองเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
[ ดาบยาวทนทาน ]
เกรด: ทั่วไป
ความคงทน...
"ไอ้#@!$%~เอ้ย! ไอพวกเจ้าหน้าที่เกมส้น#$@!#! พวกแกกำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่ใช่มั้ย? $!@#เอ้ย! ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?"
ข่านเดินไปชงชาอุ่นๆ มาให้ "ใจเย็น จงแข็งแกร่งเข้าไว้ ทุกคนมักได้เผชิญหน้ากับบททดสอบอยู่เสมอ คนที่ก้าวข้ามมันไปได้ต่างหากคือผู้ชนะที่แท้จริง..."
"อย่างเพิ่งพูดอะไรกับผม! ตอนนี้กำลังโมโหสุดๆ"
"......"
เรารีบวิ่งออกไปจากโรงตีเหล็กข่านและตะโกนโหวกแหวกขึ้นฟ้า "ไอ้พวกเจ้าหน้าที่เกมหัว#$@!#! ถ้าพวกแกกล้ากลั่นแกล้งฉันล่ะก็ เตรียมรับอีเมลสาปแช่งอีกฉบับได้เลยโว้ยยย! เชี่ย! ไอ้พวกหน้า#$@!#!"
เราใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่สุด กระบวนการผลิตที่ดีที่สุด ถ้าหากพวกเจ้าหน้าที่เกมยังมีศีลธรรมอยู่บ้าง ไอเท็มเกรดทั่วไปมันไม่ควรจะโผล่ออกมาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ตัวเราที่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกจึงกลับเข้าร้านไปผลิตดาบเล่มที่สาม
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
หลายวันมานี้เราแทบไม่ได้นอน ค้อนเหล็กถูกกระหน่ำทุบลงไปยังโลหะในทุกๆ วัน หัวไหล่เริ่มล้าจากการที่เหวี่ยงค้อนมากไป แต่นั่นไม่มีทางทำให้เราหยุดมือ เรามีศักดิ์ศรีของช่างตีเหล็กในตำนานอยู่ ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะออกมาเป็นเกรดทั่วไปทุกชิ้นไม่ได้ เราจำเป็นต้องหลุดพ้นจากการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่เกมด้วยการผลิตไอเท็มเกรดอีปิดขึ้นมา
...เมื่อไม่กี่วันก่อน เป้าหมายของเราคือการสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารี ทว่าตอนนี้ ของเพียงเป็นอีปิกก็ดีใจมากแล้ว ก็นั่นล่ะนะ โลกนี้มันโหดร้าย เราจึงมีความหวังได้เท่านี้
***
เป็นเวลามื้อเย็นของที่บ้าน แต่ขณะนี้เรากลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เรานั่งกินข้าวโดยที่ไม่รู้ว่าเมล็ดข้าวเข้าไปทางปากหรือจมูกกันแน่
แม่ที่สังเกตเห็นเราแปลกไปได้ถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง "นี่ ยองวู เกิดอะไรแย่ๆ ขึ้นกับลูกงั้นหรอ? แม่ใช้เวลาทำซี่โครงตุ๋นนี่นานมากเลยนะ แล้วทำไมลูกถึงได้เอาแต่แทะกระดูกเปล่าๆ มาห้านาทีแล้ว?"
"คนไร้ความสามารถอย่างผมไม่คู่ควรกับเนื้อพวกนี้หรอก..."
หนึ่งวันครึ่งในชีวิตจริงผ่านไป เทียบได้กับหกวันในซาทิสฟาย ในช่วงนี้ ผลการผลิตของเราคือเกรดทั่วไปจำนวนสามเล่ม เกรดแรร์หนึ่งเล่ม และเกรดอีปิกสองเล่ม เราเหลือโอกาสเพียงครั้งเดียวโดยที่ของส่งมอบภารกิจยังไม่ครบ
'จบแล้ว… จบสิ้นแล้ว...'
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าเราใช้เวลา 20 ชั่วโมงในการสร้างดาบชนิดนี้ขึ้น มันจะมีโอกาสราวหนึ่งในสามที่จะกลายเป็นเกรดอีปิก ดังนั้นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่เหลืออยู่จึงหวังอะไรมากไม่ได้
ภารกิจ 'ทำธุรกิจกับเทศมนตรีวินสตัน' คงจบลงแต่เพียงเท่านี้
'ตัวเราที่เป็นถึงคลาสเกรดเลเจนดารี แต่กลับไม่สามารถสร้างได้แม้แต่ไอเท็มเกรดอีปิก… น่าสมเพช คนอย่างเรามันน่าสมเพช ไม่สมควรจะได้กินเนื้อเหมือนคนอื่นเค้า'
ในระหว่างที่กำลังเซื่องซึม เซฮีก็คีบซี่โครงตุ๋นมาวางไว้บนชามข้าวเรา
"แล้วมันมีอะไรใหม่งั้นหรอ? พี่ก็เป็นคนไร้ความสามารถมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงต้องเศร้าเป็นหมาหงอยขนาดนี้ด้วย? หนูก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปเจออะไรมา แต่คนที่ไม่มีอะไรดีเลยอย่างพี่ จุดแข็งเพียงอย่างเดียวก็คือการไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ หนูพูดถูกไหม? อ้อ พี่ยังมีความสามารถอีกอย่าง ตอนพี่อยู่ ป.6 พี่สามารถจดจำคนในห้องทุกคนได้ตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.6 เลยนะ คราวนี้เองก็เหมือนกัน อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ สิ พี่ต้องผ่านมันไปได้อยู่แล้ว"
"ซะ--เซฮี… เธอกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปงั้นหรอ?" เรารู้สึกขนลุกซู่กับคำพูดให้กำลังใจของเซฮี เป็นคำพูดที่ไม่มีทางจะออกมาจากปากหล่อนในชีวิตประจำวันได้แน่ หลังจากนั้นเราก็หันไปพูดกับแม่ "แม่ ผมว่าซี่โครงตุ๋นที่เซฮีกินเข้าไปจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เนื้อพวกนี้ทำมาจากวัวที่ป่วยเป็นโรควัวบ้ารึเปล่า?"
"นี่มันเนื้อหมู!"
ป้าบ!
เซฮีคีบซี่โครงหมูตุ๋นบนชามข้าวเราขึ้น และบรรจงขว้างมาใส่หน้าเราเต็มแรง เนื้อซี่โครงชิ้นดังกล่าวค่อยๆ ไถลจากใบหน้าไปลงบนร่างกาย เราเริ่มที่จะคิดขึ้นมาได้ ทำไมทุกครั้งในมื้ออาหารจะต้องเป็นเราที่โดนแบบนี้อยู่เรื่อย ทำไมต้องมีอะไรสักอย่างบินมากระแทกหน้าอยู่ร่ำไป
ปากเนอะกริด
ReplyDeleteเมื่อ ไหร่ กริด มันจะหายโง่อะคับ เวลไม่เก็บ สัส แล้วมันจะผลิด ได้โอกาศ % สูงได้ไงวะ พูดแล้วขึ้น อ่านแล้วหงิดเลย ขอบคุณคับ อ่านแล้ว มีอาลม เลย แปลได้กีมาก
ReplyDeleteมันยังไม่รู้ว่าเก็บเวลแล้วโอกาศเพิ่ม
Deleteเทียบกับวีดนี่คนละขั้วเลย... กริดแม่มโง่ดักดาน
ReplyDelete5555คิดเหมือนกัน
Deleteจริง555+
Deleteอ่านแล้วรู้สึกหดหู่เข้าทุกที ต่อไปเรื่องนี้มันจะสนุกมั้ยเนี่ย?ชักจะหวั่นๆล่ะ
ReplyDeleteอ่านละหงุดหงิดชิบ พระเอกโง่ๆแบบนี่
ReplyDeleteทนได้ไงเนี่ยทนอ่านมาได้ไง 90+ ใช่ไหมพระเอกจะดีขึ้นอ่ะ
ReplyDeleteทนทนทนทน😤😤😤