จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 45

       ณ  คุกใต้ดินปราสาทวินสตัน.

       เดิมทีนั้น,  ตัวเราถูกขังเดี่ยวอยู่ในคุกอันมืดมิดของปราสาท.  แต่ด้วยความช่วยเหลือจากยูเฟอมิน่า,  จึงสามารถหลบหนีออกมาจากห้องขังได้สำเร็จ.  หลังจากนั้นจึงรีบตามหาตัวฮิวรอยทันที.

       "ชิ!   หาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอแฮะ.  เจ้าโง่นั่นถูกจับไปขังไว้ที่ไหนกัน?"

       "ชั้น 3 ไม่น่าจะมีแล้วมั้ง.  ถูกขังอยู่ลึกลงไปกว่านี้อีกรึเปล่า?"

       "เดี๋ยวนะ,  มันยังมีชั้นที่ลึกกว่านี้อีกเรอะ?"
     
       "ใช่,  จากข้อมูลที่รับได้มา,  คุกใต้ดินแห่งนี้มีความลึกทั้งหมด 4 ชั้น."

       "งั้นก็ต้องรีบลงไป..."

       เวลาในการช่วยฮิวรอยออกมาเหลือเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 10 นาทีเท่านั้น.  เราเริ่มลนลานและตื่นตระหนกมากขึ้นทุกขณะ.  การล้มเหลวภารกิจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย.  เราจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องช่วยฮิวรอยออกมาให้เร็วที่สุด. 

       ทว่า,  คุกใต้ดินแห่งนี้จัดว่ามีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก,  แถมโถงยาวก็ยังมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร,   โดยรวมแล้วมันจึงเหมือนกับเขาวงกตที่ยากจะสำรวจให้ครบ.   เราเชื่อคำพูดของยูเฟอมิน่า,  จึงพยายามหาทางลงไปยังชั้นที่ลึกกว่านี้.    แต่ไม่ว่ายังไงเราก็หาบันไดที่ว่าไม่พบ.

       "เฮ้,  เธอแน่ใจรึเปล่าว่าชั้น 4 มีอยู่จริง?  ไม่ใช่ว่ามันสุดแค่ชั้น 3 รึไง?  ฮิวรอยอาจจะอยู่ที่ชั้น 2 ก็ได้."

       "ชั้นไล่ดูจนทั่วชั้น 1 กับชั้น 2 หมดแล้วตอนที่ตามหานาย.  แต่ก็ไม่พบนักโทษคนไหนที่มีที่ชื่อว่าฮิวรอยเลย.  และชั้น 4 ก็มีอยู่จริงแน่นอน.  เป็นข้อมูลที่ชั้นได้รับมาจากคนที่เชื่อถือได้."

       "อืม...  แต่เราก็หาทางลงไม่เจอจริงๆ นี่นา..."

       "เลิกบ่นเป็นเด็กยังไม่โตสักที.  ชั้นชักจะรำคาญแล้วนะ"

       "...ก็ได้,  ขอโทษ."

       เวลาของภารกิจยังคงนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราทำได้เพียงเดินวนไปมา.   กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเวลาเพียง 50 นาทีแล้ว.   แถมพวกกลุ่มทหารก็ยังคงตามหาตัวให้ควั่ก.  ยิ่งกว่านั้น, บนโถงยาวยังเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่ถูกติดตั้งไว้จัดการกับผู้บุกรุก.

       'แต่โชคดีไป.  กับดักพวกนี้มองเห็นได้ง่าย,  จึงไม่มีทางที่จะมีใครโง่ไปเหยียบโดนเข้าแน่.'

       คุกใต้ดินแห่งนี้สร้างขึ้นจากหิน.  ทั้งเพดาน,  พื้น,  กำแพง,  ทั้งหมดล้วนทำจากก้อนหิน.   แถมยังอยู่ใต้ดินลึก,  แสงสว่างจึงส่องเข้ามาไม่ถึง.   ดังนั้น,  จึงไม่มีทางที่พืชพรรณธรรมชาติจะเติบโตขึ้นตามร่องก้อนหินได้แน่นอน.

       สิ่งที่ชวนให้ขบขันก็คือ,  ตามพื้นหินในบางจุดกลับมีดอกไม้สีสันนานาชนิดขึ้นอยู่.   บางจุดมีหญ้าและวัชพีช.  บางจุดมีผลไม้รวมไปถึงขนมปังห้อยแกว่งอยู่บนเพดาน.  ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มราคาสูงที่ไม่เหมาะจะอยู่ในคุกใต้ดินเลยซักนิด.

       เป็นสิ่งที่ไม่เข้าพวกอย่างแรง!

       'ทั้งหมดคือกับดัก.'

       ต่อให้เป็นคนที่มีสมองระดับเด็กอนุบาลก็ตาม,  ยังไงก็ต้องมองออกว่าทั้งหมดนี่คือกับดัก.

       "ชั้นว่านายควรก้มหัวลงหน่อยนะ.  ถ้าไม่อยากตายน่ะ."

       "เอ๋?"

       ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น,  ปฏิกิริยาตอบโต้ของเราก็สั่งให้ร่างกายก้มลงทันที.   ในเวลาเดียวกัน,  ลูกธนูแหลมๆ จำนวนมากได้พุ่งผ่านศีรษะเราไปอย่างรวดเร็ว.  ลูกธนูเหล่านั้นปักเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดังสนั่น,  เป็นเวลาเดียวกับที่เราร้องเสียงหลงออกมา.

       "เหวอ...!  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?   เกือบตายแล้วเชียว."

       ทว่า,  ในขณะที่เรากำลังยืนถอนหายใจอย่างโล่งอก.  ยูเฟอมิน่าได้ผลักเราจนกระเด็นถอยไปด้านหลัง.  หลังจากนั้นเพียงพริบตาเดียว,  หอกแหลมๆ ได้เสียบขึ้นมาจากก้อนหินในจุดที่เรายืนเมื่อครู่.   ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอผลักเราออกมา,  ป่านนี้ร่างของเราคงถูกเสียบจนพรุนไปแล้ว.

       ขนลุกซู่ชูชันไปทั้งร่าง...

       "เหวอ!  บ้าฉิบ!  นี่มันอะไรกัน?"

       "ขอโทษที,  ชั้นเผลอไปโดนกับดักเข้าน่ะ."

       ยูเฟอมิน่าเดินต่อไปพร้อมกับหัวเราะคิกคัก.  ในมือของเธอกำลังถือดอกไม้ที่ดูงดงามอยู่หนึ่งดอก.

       ...แม่มดชัดๆ

       "ดอกไม้ประหลาดนั่นจะต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?  ทำไมถึงหยิบมันขึ้นมา?  หืม?   กับดักง่ายๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือ?  เธอนี่โง่ชะมัด.  ชั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดเชียวนะ!   ไม่สิ,  แล้วทำไมถึงคิดเด็ดดอกไม้ในเวลาแบบนี้?   บ้าฉิบ!   ตัวถ่วงชัดๆ.   ถ้าชั้นต้องตายเพราะเธอล่ะก็,  ชั้นจะให้เธอชดใช้มาอย่างสาสม!   ชิ!  ไม่ต้องทำอย่างอื่นนอกจากหาทางลงไปชั้นล่างจะได้มั้ย?"

       ...ทั้งหมดทั้งมวลนั่นคือคำที่เราต้องการจะด่าเธอ,   แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป.

       'ทนไว้,  ต้องใจเย็น.'

       เราเกือบจะข่มอาการโกรธไว้ไม่อยู่.   ยูเฟอมิน่าแข็งแกร่งตรงข้ามกับภาพลักษณ์อันแสนน่ารักนั่น.   ทักษะการต่อสู้ของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่มดโลหิตยูร่าเลยสักนิด.   ยิ่งไปกว่านั้น,  คลาสของเธอยังเป็นระดับอีปิกที่มีเพียง 3 คนเท่านั้นในโลก.   เราจะทำให้เธอโมโหไม่ได้เด็ดขาด.
     
       เหนือสิ่งอื่นใด,  พลังของเธอจำเป็นในการช่วยฮิวรอยออกมา.  ลำพังเราคงไม่สามารถทำภารกิจนี้สำเร็จแน่.   ดังนั้น,  ต่อให้เธอจะทำตัวแย่ขนาดไหน,  แต่เราก็ต้องยิ้มเข้าไว้อยู่ดี.

       "ระ--ระวังหน่อยก็แล้วกัน.  ชั้นไม่มีทักษะป้องกันตัวแบบเธอนะ."

       "จ้า~ จ้า~ ชั้นขอโทษน้า~"

       เป็นคำขอโทษที่สุดแสนจะไม่จริงใจ.  เราเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง.

       "นังนี่!  เธอกล้าดียังไงมาทำหน้าระรื่นหลังจากที่เกือบจะฆ่าคนตายกันห๊ะ?   คุกเข่าลงแล้วขอโทษชั้นเดี๋ยวนี้!!"
     
       ...อยากตะโกนออกไปแบบนี้จังแฮะ.

       "อดทนไว้...  เห...  ไม่นะ..."

       ความรู้สึกประหลาดได้แล่นไปทั่วร่างอย่างฉับพลัน.  เพราะตอนนี้,  ยูเฟอมิน่ากำลังแหงนหน้าขึ้นไปจ้องมองกล้วยใบใหญ่ที่แขวนอยู่บนเพดาน.

       'คงไม่คิดจะดึงลงมากินหรอกใช่มั้ย?   ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า...  ก็เธอไม่ใช่ลิงซะหน่อย...'

       หมับ!
     
       ยูเฟอมิน่ากระโดดขึ้นไปคว้ากล้วยลูกดังกล่าวมาไว้ในมือ.

       บ้าฉิบ!

       เปรี้ยะ!

       ทันทีที่กล้วยถูกเด็ดออกมา,   พื้นหินในจุดที่เราเหยียบอยู่ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา.

       "เหวอออ!"
     
       เราเกือบเอาชีวิตไม่รอด.  โชคยังดีที่สามารถกลิ้งตัวหลบมาทางด้านข้างได้ทันเวลา.   ในที่สุดความอดทนของเราก็หมดลง.

       "คิดจะทำอะไรกันแน่?  ทำไมถึงได้อยากจะกินกล้วยในเวลาแบบนี้?"

       ยูเฟอมิน่าตอบกลับมาทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวกล้วยในปาก.
     
       "งั่ม! งั่ม! งั่ม!  อึก!  เพราะมันมีกล้วยแขวนอยู่ตรงหน้า,  ชั้นก็เลยอยากกินยังไงล่ะ."
     
       "มันต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?  จะมีกล้วยดีๆ ที่ไหนถูกแขวนไว้ในชั้นใต้ดินแบบนี้?"

       "มันก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้นสักหน่อย,  บางทีอาจจะแขวนไว้ให้พวกทหารตรวจตรากินยามว่างก็ได้นี่นา."
     
       ยูเฟอมิน่าถอนหายใจออกมาเบาๆ.  "นายนี่แย่มากเลยนะ.  โตมาแบบไหนกัน,  ถึงได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนี้.  เดาได้เลยว่าคงยังไม่มีเพื่อนสนิทซักคนแน่นอน."

       "..."

       เราเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ,  ว่ายูเฟอมิน่ายังคงไม่หายโกรธเรื่องที่เราเคยปากเสียใส่เธอไว้.   การแกล้งไปโดนกับดักแบบนี้,  จะต้องเป็นเรื่องจงใจทำแน่นอน.

       'ช่างเถอะ,  ก็เข้าใจได้ละนะ.'

       ภารกิจของยูเฟอมิน่าคือการมาช่วยเราเท่านั้น.   ส่วนการช่วยฮิวรอยเป็นสิ่งที่เราต้องการ,  ไม่ใช่เธอ.  ดังนั้นการกระทำเหล่านี้จึงเป็นการแสดงออกกลายๆ ว่าเธอไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก.   เธอไม่ต้องการเสียเวลาไปกับช่วยคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง.

       'นิสัยเด็กน้อยชัดๆ...'

       แน่ล่ะ,  ไม่มีทางที่หญิงสาวหน้าตาดีจะมีนิสัยที่ดีตามไปด้วยแน่.   คนแบบเธอคงเติบโตมาราวกับเจ้าหญิง,  ถึงได้มีนิสัยเอาแต่ใจแบบนี้.

       'ไม่สิ,  อาฮยองยังน่ารักและนิสัยดีพร้อมกันได้เลยนี่นา.'

       จิตใจของเรารู้ลึกปลอดโปร่งอีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของรักแรก,  อาฮยอง.

       "อาฮยอง...  อยากเจอจังเลย..."

       "ทางนี้!  พวกมันอยู่ทางนี้!"
     
       "...พวกแกกล้าดับฝันกลางวันของข้าเชียวรึ?"
     
       ในขณะที่เรากำลังวาดภาพใบหน้าของอาฮยองรักแรก,  เสียงของกลุ่มทหารก็ดังขึ้นจากทั้งสองฟากฝั่งโถงทางเดินใหญ่.   พวกมันมีกันราวๆ 50 คน.

       เราถอยหายใจเล็กน้อย.
     
       "ทำไมพวกมันถึงเอาแต่โผล่ออกมาไม่ยอมหยุดเลยล่ะ?  มันจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว."

       ยูเฟอมิน่าพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกเบาๆ.

       "เฮ่อ,  มันโผล่มาแล้วเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ?  ในเมื่อคนจัดการพวกมันคือชั้นคนเดียวอยู่ดี.   ไม่ใช่ว่านายเอาแต่หนีกับยืนดูมาตลอดเลยรึไง?   ไม่ละอายบ้างหรอ?   ทั้งที่ชั้นสู้แทบตาย,  แต่นายกลับเอาแต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ.   ไม่เข้าใจเลยจริงๆ,  อาวุธก็มีแล้ว,  ถืออยู่ในมือด้วย.   แต่ทำไมถึงไม่ยอมสู้."

       "สู้?  ชั้นเนี่ยนะ?  ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก."

       แม้ว่าเราจะมีมีดสั้นระดับยูนีคที่ยูเฟอมิน่าเอามาคืนให้.  แถมพลังโจมตีของมันยังสามารถจัดการกับทหารพวกนี้ได้โดยง่าย.  แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้อยู่ดี,   ทำไมน่ะหรือ?

       ง่ายมาก.

       "ชั้นไม่มีชุดเกราะ."

       "..."

       ชุดที่เราสวมอยู่นั้นไม่มีพลังป้องกันแม้แต่น้อย.   เราไม่สามารถรับมือกับทหารด้วยพลังป้องกันที่เป็น 0 แบบนี้ได้!   โชคดีว่าตลอดทางที่ผ่านมา,  ยูเฟอมิน่าเป็นคนจัดการกับทหารทั้งหมดให้.  เราจึงตั้งสมาธิไปกับการหาฮิวรอยโดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลย.
     
       "ถึงนายจะไม่มีชุดเกราะ,  แต่ทหารพวกนี้มันก็ของกล้วยๆ ไม่ใช่รึไง?"

       "ไม่,  ชั้นไม่ได้เก่งอย่างที่เธอคิด.  ถ้างั้นก็...  ฝากจัดการทางนี้ด้วยนะ."

       "หือ?  นายหมายความว่าไง...?"

       เราตบไปที่บ่าของยูเฟอมิน่าเบาๆ ก่อนจะถอยหลังมาหยุดลงตรงหน้าหลุมขนาดใหญ่บนพื้น,  เป็นหลุมที่เกิดจากกับดักกล้วยที่เธอดึงมากินเมื่อครู่.   "ชั้นจะไปตามหาฮิวรอยก่อน.  ช่วยดึงความสนใจพวกมันไว้หน่อยก็แล้วกัน."

       "ฮะ--เฮ้!!"

       ยูเฟอมิน่าที่กำลังสับสนได้พยายามจะคว้าตัวเราไว้,  แต่ก็สายไปเสียแล้ว.  เรารีบกระโดดลงหลุมอย่างรวดเร็วโดยทิ้งเธอไว้ทั้งอย่างนั้น.

       ตุ้บ! ขลุก ขลุก ขลุก...

       "โอ้ย!"

[ ท่านตกจากที่สูงจนได้รับความเสียหาย 200 หน่วย. ]     

       เราตัดสินใจทิ้งยูเฟอมิน่าเอาไว้กับกลุ่มทหารจำนวนมาก,  และออกตามหาฮิวรอยตามลำพัง.

       "แค่ก! แค่ก!  อึก...  โชคยังดี,  ที่มันไม่ค่อยเจ็บอย่างที่คิด."

       เราพยุงร่างที่คลุกฝุ่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก.  เมื่อแหงนขึ้นไปด้านบน,  เพดานของชั้นนี้เองก็เขรอะไปด้วยฝุ่นไม่ต่างกัน.   ที่ชั้นบน,  การต่อสู้ระหว่างยูเฟอมิน่ากับกลุ่มทหารได้เริ่มขึ้นแล้ว.  เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนเรารู้สึกแสบตา,  พร้อมกันกับเสียงร้องอันโหยหวนของพวกทหารวินสตัน.

       "เยี่ยมมาก,  ยูเฟอมิน่า.  เธอต้องทำได้แน่~~"

       ถ้าหากว่าเธอต่อสู้ให้เกิดเสียงดังมากที่สุดได้ล่ะก็,  พวกทหารจะต้องคิดว่าทั้งเราและยูเฟอมิน่าอยู่ที่ชั้น 3 แน่.  แล้วกองกำลังทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 3.  การเฝ้าระวังในชั้นที่ 4 ก็จะอ่อนลง.

       "ฮุฮุ,  แล้วเราสามารถแอบย่องไปช่วยฮิวรอยออกมาได้ไม่ยาก.  ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย."

       เรารู้สึกผิดไหมน่ะหรือ,  ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง?   แน่นอน,  ไม่มีทาง!  เราไม่ใช่คนมีศีลธรรมอันดีงามอยู่แล้ว.  ถ้าหากมีโอกาสใช้ผู้อื่นให้เป็นประโยชน์ได้, เราก็จะทำ.

       เรากังวลไหมน่ะหรือ,  ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง?  คำตอบก็คือ 'ไม่' อีกเช่นกัน.   เธอเป็นถึงคลาสอีปิกสุดแสนจะโกงที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ทุกชนิดโดยไม่ต้องร่ายคาถา.  ต่อให้มีกองทหารสัก 100 คน,  รวมไปถึงอัศวินอีกนับสิบ,  พวกมันก็ไม่มีทางทำอะไรเธอได้แน่.

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์  45 - จบตอน


Comments

  1. รอจนเป็นมัมมี่แล้วมั้ง ออกจากเกมได้เข้ารพ.แหง

    ReplyDelete
  2. เอิ่ม เอ็งตกจากที่สูงน่าจะเจ็บกว่ายูมิเฟอน่านะกริดเอ๊ย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00