จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 45
ณ คุกใต้ดินปราสาทวินสตัน.
เดิมทีนั้น, ตัวเราถูกขังเดี่ยวอยู่ในคุกอันมืดมิดของปราสาท. แต่ด้วยความช่วยเหลือจากยูเฟอมิน่า, จึงสามารถหลบหนีออกมาจากห้องขังได้สำเร็จ. หลังจากนั้นจึงรีบตามหาตัวฮิวรอยทันที.
"ชิ! หาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอแฮะ. เจ้าโง่นั่นถูกจับไปขังไว้ที่ไหนกัน?"
"ชั้น 3 ไม่น่าจะมีแล้วมั้ง. ถูกขังอยู่ลึกลงไปกว่านี้อีกรึเปล่า?"
"เดี๋ยวนะ, มันยังมีชั้นที่ลึกกว่านี้อีกเรอะ?"
"ใช่, จากข้อมูลที่รับได้มา, คุกใต้ดินแห่งนี้มีความลึกทั้งหมด 4 ชั้น."
"งั้นก็ต้องรีบลงไป..."
เวลาในการช่วยฮิวรอยออกมาเหลือเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 10 นาทีเท่านั้น. เราเริ่มลนลานและตื่นตระหนกมากขึ้นทุกขณะ. การล้มเหลวภารกิจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย. เราจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องช่วยฮิวรอยออกมาให้เร็วที่สุด.
ทว่า, คุกใต้ดินแห่งนี้จัดว่ามีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก, แถมโถงยาวก็ยังมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร, โดยรวมแล้วมันจึงเหมือนกับเขาวงกตที่ยากจะสำรวจให้ครบ. เราเชื่อคำพูดของยูเฟอมิน่า, จึงพยายามหาทางลงไปยังชั้นที่ลึกกว่านี้. แต่ไม่ว่ายังไงเราก็หาบันไดที่ว่าไม่พบ.
"เฮ้, เธอแน่ใจรึเปล่าว่าชั้น 4 มีอยู่จริง? ไม่ใช่ว่ามันสุดแค่ชั้น 3 รึไง? ฮิวรอยอาจจะอยู่ที่ชั้น 2 ก็ได้."
"ชั้นไล่ดูจนทั่วชั้น 1 กับชั้น 2 หมดแล้วตอนที่ตามหานาย. แต่ก็ไม่พบนักโทษคนไหนที่มีที่ชื่อว่าฮิวรอยเลย. และชั้น 4 ก็มีอยู่จริงแน่นอน. เป็นข้อมูลที่ชั้นได้รับมาจากคนที่เชื่อถือได้."
"อืม... แต่เราก็หาทางลงไม่เจอจริงๆ นี่นา..."
"เลิกบ่นเป็นเด็กยังไม่โตสักที. ชั้นชักจะรำคาญแล้วนะ"
"...ก็ได้, ขอโทษ."
เวลาของภารกิจยังคงนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราทำได้เพียงเดินวนไปมา. กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเวลาเพียง 50 นาทีแล้ว. แถมพวกกลุ่มทหารก็ยังคงตามหาตัวให้ควั่ก. ยิ่งกว่านั้น, บนโถงยาวยังเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่ถูกติดตั้งไว้จัดการกับผู้บุกรุก.
'แต่โชคดีไป. กับดักพวกนี้มองเห็นได้ง่าย, จึงไม่มีทางที่จะมีใครโง่ไปเหยียบโดนเข้าแน่.'
คุกใต้ดินแห่งนี้สร้างขึ้นจากหิน. ทั้งเพดาน, พื้น, กำแพง, ทั้งหมดล้วนทำจากก้อนหิน. แถมยังอยู่ใต้ดินลึก, แสงสว่างจึงส่องเข้ามาไม่ถึง. ดังนั้น, จึงไม่มีทางที่พืชพรรณธรรมชาติจะเติบโตขึ้นตามร่องก้อนหินได้แน่นอน.
สิ่งที่ชวนให้ขบขันก็คือ, ตามพื้นหินในบางจุดกลับมีดอกไม้สีสันนานาชนิดขึ้นอยู่. บางจุดมีหญ้าและวัชพีช. บางจุดมีผลไม้รวมไปถึงขนมปังห้อยแกว่งอยู่บนเพดาน. ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มราคาสูงที่ไม่เหมาะจะอยู่ในคุกใต้ดินเลยซักนิด.
เป็นสิ่งที่ไม่เข้าพวกอย่างแรง!
'ทั้งหมดคือกับดัก.'
ต่อให้เป็นคนที่มีสมองระดับเด็กอนุบาลก็ตาม, ยังไงก็ต้องมองออกว่าทั้งหมดนี่คือกับดัก.
"ชั้นว่านายควรก้มหัวลงหน่อยนะ. ถ้าไม่อยากตายน่ะ."
"เอ๋?"
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น, ปฏิกิริยาตอบโต้ของเราก็สั่งให้ร่างกายก้มลงทันที. ในเวลาเดียวกัน, ลูกธนูแหลมๆ จำนวนมากได้พุ่งผ่านศีรษะเราไปอย่างรวดเร็ว. ลูกธนูเหล่านั้นปักเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดังสนั่น, เป็นเวลาเดียวกับที่เราร้องเสียงหลงออกมา.
"เหวอ...! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เกือบตายแล้วเชียว."
ทว่า, ในขณะที่เรากำลังยืนถอนหายใจอย่างโล่งอก. ยูเฟอมิน่าได้ผลักเราจนกระเด็นถอยไปด้านหลัง. หลังจากนั้นเพียงพริบตาเดียว, หอกแหลมๆ ได้เสียบขึ้นมาจากก้อนหินในจุดที่เรายืนเมื่อครู่. ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอผลักเราออกมา, ป่านนี้ร่างของเราคงถูกเสียบจนพรุนไปแล้ว.
ขนลุกซู่ชูชันไปทั้งร่าง...
"เหวอ! บ้าฉิบ! นี่มันอะไรกัน?"
"ขอโทษที, ชั้นเผลอไปโดนกับดักเข้าน่ะ."
ยูเฟอมิน่าเดินต่อไปพร้อมกับหัวเราะคิกคัก. ในมือของเธอกำลังถือดอกไม้ที่ดูงดงามอยู่หนึ่งดอก.
...แม่มดชัดๆ
"ดอกไม้ประหลาดนั่นจะต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงหยิบมันขึ้นมา? หืม? กับดักง่ายๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือ? เธอนี่โง่ชะมัด. ชั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดเชียวนะ! ไม่สิ, แล้วทำไมถึงคิดเด็ดดอกไม้ในเวลาแบบนี้? บ้าฉิบ! ตัวถ่วงชัดๆ. ถ้าชั้นต้องตายเพราะเธอล่ะก็, ชั้นจะให้เธอชดใช้มาอย่างสาสม! ชิ! ไม่ต้องทำอย่างอื่นนอกจากหาทางลงไปชั้นล่างจะได้มั้ย?"
...ทั้งหมดทั้งมวลนั่นคือคำที่เราต้องการจะด่าเธอ, แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป.
'ทนไว้, ต้องใจเย็น.'
เราเกือบจะข่มอาการโกรธไว้ไม่อยู่. ยูเฟอมิน่าแข็งแกร่งตรงข้ามกับภาพลักษณ์อันแสนน่ารักนั่น. ทักษะการต่อสู้ของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่มดโลหิตยูร่าเลยสักนิด. ยิ่งไปกว่านั้น, คลาสของเธอยังเป็นระดับอีปิกที่มีเพียง 3 คนเท่านั้นในโลก. เราจะทำให้เธอโมโหไม่ได้เด็ดขาด.
เหนือสิ่งอื่นใด, พลังของเธอจำเป็นในการช่วยฮิวรอยออกมา. ลำพังเราคงไม่สามารถทำภารกิจนี้สำเร็จแน่. ดังนั้น, ต่อให้เธอจะทำตัวแย่ขนาดไหน, แต่เราก็ต้องยิ้มเข้าไว้อยู่ดี.
"ระ--ระวังหน่อยก็แล้วกัน. ชั้นไม่มีทักษะป้องกันตัวแบบเธอนะ."
"จ้า~ จ้า~ ชั้นขอโทษน้า~"
เป็นคำขอโทษที่สุดแสนจะไม่จริงใจ. เราเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง.
"นังนี่! เธอกล้าดียังไงมาทำหน้าระรื่นหลังจากที่เกือบจะฆ่าคนตายกันห๊ะ? คุกเข่าลงแล้วขอโทษชั้นเดี๋ยวนี้!!"
...อยากตะโกนออกไปแบบนี้จังแฮะ.
"อดทนไว้... เห... ไม่นะ..."
ความรู้สึกประหลาดได้แล่นไปทั่วร่างอย่างฉับพลัน. เพราะตอนนี้, ยูเฟอมิน่ากำลังแหงนหน้าขึ้นไปจ้องมองกล้วยใบใหญ่ที่แขวนอยู่บนเพดาน.
'คงไม่คิดจะดึงลงมากินหรอกใช่มั้ย? ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า... ก็เธอไม่ใช่ลิงซะหน่อย...'
หมับ!
ยูเฟอมิน่ากระโดดขึ้นไปคว้ากล้วยลูกดังกล่าวมาไว้ในมือ.
บ้าฉิบ!
เปรี้ยะ!
ทันทีที่กล้วยถูกเด็ดออกมา, พื้นหินในจุดที่เราเหยียบอยู่ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา.
"เหวอออ!"
เราเกือบเอาชีวิตไม่รอด. โชคยังดีที่สามารถกลิ้งตัวหลบมาทางด้านข้างได้ทันเวลา. ในที่สุดความอดทนของเราก็หมดลง.
"คิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมถึงได้อยากจะกินกล้วยในเวลาแบบนี้?"
ยูเฟอมิน่าตอบกลับมาทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวกล้วยในปาก.
"งั่ม! งั่ม! งั่ม! อึก! เพราะมันมีกล้วยแขวนอยู่ตรงหน้า, ชั้นก็เลยอยากกินยังไงล่ะ."
"มันต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? จะมีกล้วยดีๆ ที่ไหนถูกแขวนไว้ในชั้นใต้ดินแบบนี้?"
"มันก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้นสักหน่อย, บางทีอาจจะแขวนไว้ให้พวกทหารตรวจตรากินยามว่างก็ได้นี่นา."
ยูเฟอมิน่าถอนหายใจออกมาเบาๆ. "นายนี่แย่มากเลยนะ. โตมาแบบไหนกัน, ถึงได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนี้. เดาได้เลยว่าคงยังไม่มีเพื่อนสนิทซักคนแน่นอน."
"..."
เราเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ, ว่ายูเฟอมิน่ายังคงไม่หายโกรธเรื่องที่เราเคยปากเสียใส่เธอไว้. การแกล้งไปโดนกับดักแบบนี้, จะต้องเป็นเรื่องจงใจทำแน่นอน.
'ช่างเถอะ, ก็เข้าใจได้ละนะ.'
ภารกิจของยูเฟอมิน่าคือการมาช่วยเราเท่านั้น. ส่วนการช่วยฮิวรอยเป็นสิ่งที่เราต้องการ, ไม่ใช่เธอ. ดังนั้นการกระทำเหล่านี้จึงเป็นการแสดงออกกลายๆ ว่าเธอไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก. เธอไม่ต้องการเสียเวลาไปกับช่วยคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง.
'นิสัยเด็กน้อยชัดๆ...'
แน่ล่ะ, ไม่มีทางที่หญิงสาวหน้าตาดีจะมีนิสัยที่ดีตามไปด้วยแน่. คนแบบเธอคงเติบโตมาราวกับเจ้าหญิง, ถึงได้มีนิสัยเอาแต่ใจแบบนี้.
'ไม่สิ, อาฮยองยังน่ารักและนิสัยดีพร้อมกันได้เลยนี่นา.'
จิตใจของเรารู้ลึกปลอดโปร่งอีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของรักแรก, อาฮยอง.
"อาฮยอง... อยากเจอจังเลย..."
"ทางนี้! พวกมันอยู่ทางนี้!"
"...พวกแกกล้าดับฝันกลางวันของข้าเชียวรึ?"
ในขณะที่เรากำลังวาดภาพใบหน้าของอาฮยองรักแรก, เสียงของกลุ่มทหารก็ดังขึ้นจากทั้งสองฟากฝั่งโถงทางเดินใหญ่. พวกมันมีกันราวๆ 50 คน.
เราถอยหายใจเล็กน้อย.
"ทำไมพวกมันถึงเอาแต่โผล่ออกมาไม่ยอมหยุดเลยล่ะ? มันจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว."
ยูเฟอมิน่าพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกเบาๆ.
"เฮ่อ, มันโผล่มาแล้วเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ? ในเมื่อคนจัดการพวกมันคือชั้นคนเดียวอยู่ดี. ไม่ใช่ว่านายเอาแต่หนีกับยืนดูมาตลอดเลยรึไง? ไม่ละอายบ้างหรอ? ทั้งที่ชั้นสู้แทบตาย, แต่นายกลับเอาแต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ. ไม่เข้าใจเลยจริงๆ, อาวุธก็มีแล้ว, ถืออยู่ในมือด้วย. แต่ทำไมถึงไม่ยอมสู้."
"สู้? ชั้นเนี่ยนะ? ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก."
แม้ว่าเราจะมีมีดสั้นระดับยูนีคที่ยูเฟอมิน่าเอามาคืนให้. แถมพลังโจมตีของมันยังสามารถจัดการกับทหารพวกนี้ได้โดยง่าย. แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้อยู่ดี, ทำไมน่ะหรือ?
ง่ายมาก.
"ชั้นไม่มีชุดเกราะ."
"..."
ชุดที่เราสวมอยู่นั้นไม่มีพลังป้องกันแม้แต่น้อย. เราไม่สามารถรับมือกับทหารด้วยพลังป้องกันที่เป็น 0 แบบนี้ได้! โชคดีว่าตลอดทางที่ผ่านมา, ยูเฟอมิน่าเป็นคนจัดการกับทหารทั้งหมดให้. เราจึงตั้งสมาธิไปกับการหาฮิวรอยโดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลย.
"ถึงนายจะไม่มีชุดเกราะ, แต่ทหารพวกนี้มันก็ของกล้วยๆ ไม่ใช่รึไง?"
"ไม่, ชั้นไม่ได้เก่งอย่างที่เธอคิด. ถ้างั้นก็... ฝากจัดการทางนี้ด้วยนะ."
"หือ? นายหมายความว่าไง...?"
เราตบไปที่บ่าของยูเฟอมิน่าเบาๆ ก่อนจะถอยหลังมาหยุดลงตรงหน้าหลุมขนาดใหญ่บนพื้น, เป็นหลุมที่เกิดจากกับดักกล้วยที่เธอดึงมากินเมื่อครู่. "ชั้นจะไปตามหาฮิวรอยก่อน. ช่วยดึงความสนใจพวกมันไว้หน่อยก็แล้วกัน."
"ฮะ--เฮ้!!"
ยูเฟอมิน่าที่กำลังสับสนได้พยายามจะคว้าตัวเราไว้, แต่ก็สายไปเสียแล้ว. เรารีบกระโดดลงหลุมอย่างรวดเร็วโดยทิ้งเธอไว้ทั้งอย่างนั้น.
ตุ้บ! ขลุก ขลุก ขลุก...
"โอ้ย!"
เราตัดสินใจทิ้งยูเฟอมิน่าเอาไว้กับกลุ่มทหารจำนวนมาก, และออกตามหาฮิวรอยตามลำพัง.
"แค่ก! แค่ก! อึก... โชคยังดี, ที่มันไม่ค่อยเจ็บอย่างที่คิด."
เราพยุงร่างที่คลุกฝุ่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก. เมื่อแหงนขึ้นไปด้านบน, เพดานของชั้นนี้เองก็เขรอะไปด้วยฝุ่นไม่ต่างกัน. ที่ชั้นบน, การต่อสู้ระหว่างยูเฟอมิน่ากับกลุ่มทหารได้เริ่มขึ้นแล้ว. เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนเรารู้สึกแสบตา, พร้อมกันกับเสียงร้องอันโหยหวนของพวกทหารวินสตัน.
"เยี่ยมมาก, ยูเฟอมิน่า. เธอต้องทำได้แน่~~"
ถ้าหากว่าเธอต่อสู้ให้เกิดเสียงดังมากที่สุดได้ล่ะก็, พวกทหารจะต้องคิดว่าทั้งเราและยูเฟอมิน่าอยู่ที่ชั้น 3 แน่. แล้วกองกำลังทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 3. การเฝ้าระวังในชั้นที่ 4 ก็จะอ่อนลง.
"ฮุฮุ, แล้วเราสามารถแอบย่องไปช่วยฮิวรอยออกมาได้ไม่ยาก. ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย."
เรารู้สึกผิดไหมน่ะหรือ, ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง? แน่นอน, ไม่มีทาง! เราไม่ใช่คนมีศีลธรรมอันดีงามอยู่แล้ว. ถ้าหากมีโอกาสใช้ผู้อื่นให้เป็นประโยชน์ได้, เราก็จะทำ.
เรากังวลไหมน่ะหรือ, ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง? คำตอบก็คือ 'ไม่' อีกเช่นกัน. เธอเป็นถึงคลาสอีปิกสุดแสนจะโกงที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ทุกชนิดโดยไม่ต้องร่ายคาถา. ต่อให้มีกองทหารสัก 100 คน, รวมไปถึงอัศวินอีกนับสิบ, พวกมันก็ไม่มีทางทำอะไรเธอได้แน่.
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 45 - จบตอน
เดิมทีนั้น, ตัวเราถูกขังเดี่ยวอยู่ในคุกอันมืดมิดของปราสาท. แต่ด้วยความช่วยเหลือจากยูเฟอมิน่า, จึงสามารถหลบหนีออกมาจากห้องขังได้สำเร็จ. หลังจากนั้นจึงรีบตามหาตัวฮิวรอยทันที.
"ชิ! หาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอแฮะ. เจ้าโง่นั่นถูกจับไปขังไว้ที่ไหนกัน?"
"ชั้น 3 ไม่น่าจะมีแล้วมั้ง. ถูกขังอยู่ลึกลงไปกว่านี้อีกรึเปล่า?"
"เดี๋ยวนะ, มันยังมีชั้นที่ลึกกว่านี้อีกเรอะ?"
"ใช่, จากข้อมูลที่รับได้มา, คุกใต้ดินแห่งนี้มีความลึกทั้งหมด 4 ชั้น."
"งั้นก็ต้องรีบลงไป..."
เวลาในการช่วยฮิวรอยออกมาเหลือเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 10 นาทีเท่านั้น. เราเริ่มลนลานและตื่นตระหนกมากขึ้นทุกขณะ. การล้มเหลวภารกิจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย. เราจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องช่วยฮิวรอยออกมาให้เร็วที่สุด.
ทว่า, คุกใต้ดินแห่งนี้จัดว่ามีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก, แถมโถงยาวก็ยังมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร, โดยรวมแล้วมันจึงเหมือนกับเขาวงกตที่ยากจะสำรวจให้ครบ. เราเชื่อคำพูดของยูเฟอมิน่า, จึงพยายามหาทางลงไปยังชั้นที่ลึกกว่านี้. แต่ไม่ว่ายังไงเราก็หาบันไดที่ว่าไม่พบ.
"เฮ้, เธอแน่ใจรึเปล่าว่าชั้น 4 มีอยู่จริง? ไม่ใช่ว่ามันสุดแค่ชั้น 3 รึไง? ฮิวรอยอาจจะอยู่ที่ชั้น 2 ก็ได้."
"ชั้นไล่ดูจนทั่วชั้น 1 กับชั้น 2 หมดแล้วตอนที่ตามหานาย. แต่ก็ไม่พบนักโทษคนไหนที่มีที่ชื่อว่าฮิวรอยเลย. และชั้น 4 ก็มีอยู่จริงแน่นอน. เป็นข้อมูลที่ชั้นได้รับมาจากคนที่เชื่อถือได้."
"อืม... แต่เราก็หาทางลงไม่เจอจริงๆ นี่นา..."
"เลิกบ่นเป็นเด็กยังไม่โตสักที. ชั้นชักจะรำคาญแล้วนะ"
"...ก็ได้, ขอโทษ."
เวลาของภารกิจยังคงนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราทำได้เพียงเดินวนไปมา. กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเวลาเพียง 50 นาทีแล้ว. แถมพวกกลุ่มทหารก็ยังคงตามหาตัวให้ควั่ก. ยิ่งกว่านั้น, บนโถงยาวยังเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่ถูกติดตั้งไว้จัดการกับผู้บุกรุก.
'แต่โชคดีไป. กับดักพวกนี้มองเห็นได้ง่าย, จึงไม่มีทางที่จะมีใครโง่ไปเหยียบโดนเข้าแน่.'
คุกใต้ดินแห่งนี้สร้างขึ้นจากหิน. ทั้งเพดาน, พื้น, กำแพง, ทั้งหมดล้วนทำจากก้อนหิน. แถมยังอยู่ใต้ดินลึก, แสงสว่างจึงส่องเข้ามาไม่ถึง. ดังนั้น, จึงไม่มีทางที่พืชพรรณธรรมชาติจะเติบโตขึ้นตามร่องก้อนหินได้แน่นอน.
สิ่งที่ชวนให้ขบขันก็คือ, ตามพื้นหินในบางจุดกลับมีดอกไม้สีสันนานาชนิดขึ้นอยู่. บางจุดมีหญ้าและวัชพีช. บางจุดมีผลไม้รวมไปถึงขนมปังห้อยแกว่งอยู่บนเพดาน. ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มราคาสูงที่ไม่เหมาะจะอยู่ในคุกใต้ดินเลยซักนิด.
เป็นสิ่งที่ไม่เข้าพวกอย่างแรง!
'ทั้งหมดคือกับดัก.'
ต่อให้เป็นคนที่มีสมองระดับเด็กอนุบาลก็ตาม, ยังไงก็ต้องมองออกว่าทั้งหมดนี่คือกับดัก.
"ชั้นว่านายควรก้มหัวลงหน่อยนะ. ถ้าไม่อยากตายน่ะ."
"เอ๋?"
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น, ปฏิกิริยาตอบโต้ของเราก็สั่งให้ร่างกายก้มลงทันที. ในเวลาเดียวกัน, ลูกธนูแหลมๆ จำนวนมากได้พุ่งผ่านศีรษะเราไปอย่างรวดเร็ว. ลูกธนูเหล่านั้นปักเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดังสนั่น, เป็นเวลาเดียวกับที่เราร้องเสียงหลงออกมา.
"เหวอ...! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เกือบตายแล้วเชียว."
ทว่า, ในขณะที่เรากำลังยืนถอนหายใจอย่างโล่งอก. ยูเฟอมิน่าได้ผลักเราจนกระเด็นถอยไปด้านหลัง. หลังจากนั้นเพียงพริบตาเดียว, หอกแหลมๆ ได้เสียบขึ้นมาจากก้อนหินในจุดที่เรายืนเมื่อครู่. ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอผลักเราออกมา, ป่านนี้ร่างของเราคงถูกเสียบจนพรุนไปแล้ว.
ขนลุกซู่ชูชันไปทั้งร่าง...
"เหวอ! บ้าฉิบ! นี่มันอะไรกัน?"
"ขอโทษที, ชั้นเผลอไปโดนกับดักเข้าน่ะ."
ยูเฟอมิน่าเดินต่อไปพร้อมกับหัวเราะคิกคัก. ในมือของเธอกำลังถือดอกไม้ที่ดูงดงามอยู่หนึ่งดอก.
...แม่มดชัดๆ
"ดอกไม้ประหลาดนั่นจะต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงหยิบมันขึ้นมา? หืม? กับดักง่ายๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือ? เธอนี่โง่ชะมัด. ชั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดเชียวนะ! ไม่สิ, แล้วทำไมถึงคิดเด็ดดอกไม้ในเวลาแบบนี้? บ้าฉิบ! ตัวถ่วงชัดๆ. ถ้าชั้นต้องตายเพราะเธอล่ะก็, ชั้นจะให้เธอชดใช้มาอย่างสาสม! ชิ! ไม่ต้องทำอย่างอื่นนอกจากหาทางลงไปชั้นล่างจะได้มั้ย?"
...ทั้งหมดทั้งมวลนั่นคือคำที่เราต้องการจะด่าเธอ, แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป.
'ทนไว้, ต้องใจเย็น.'
เราเกือบจะข่มอาการโกรธไว้ไม่อยู่. ยูเฟอมิน่าแข็งแกร่งตรงข้ามกับภาพลักษณ์อันแสนน่ารักนั่น. ทักษะการต่อสู้ของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่มดโลหิตยูร่าเลยสักนิด. ยิ่งไปกว่านั้น, คลาสของเธอยังเป็นระดับอีปิกที่มีเพียง 3 คนเท่านั้นในโลก. เราจะทำให้เธอโมโหไม่ได้เด็ดขาด.
เหนือสิ่งอื่นใด, พลังของเธอจำเป็นในการช่วยฮิวรอยออกมา. ลำพังเราคงไม่สามารถทำภารกิจนี้สำเร็จแน่. ดังนั้น, ต่อให้เธอจะทำตัวแย่ขนาดไหน, แต่เราก็ต้องยิ้มเข้าไว้อยู่ดี.
"ระ--ระวังหน่อยก็แล้วกัน. ชั้นไม่มีทักษะป้องกันตัวแบบเธอนะ."
"จ้า~ จ้า~ ชั้นขอโทษน้า~"
เป็นคำขอโทษที่สุดแสนจะไม่จริงใจ. เราเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง.
"นังนี่! เธอกล้าดียังไงมาทำหน้าระรื่นหลังจากที่เกือบจะฆ่าคนตายกันห๊ะ? คุกเข่าลงแล้วขอโทษชั้นเดี๋ยวนี้!!"
...อยากตะโกนออกไปแบบนี้จังแฮะ.
"อดทนไว้... เห... ไม่นะ..."
ความรู้สึกประหลาดได้แล่นไปทั่วร่างอย่างฉับพลัน. เพราะตอนนี้, ยูเฟอมิน่ากำลังแหงนหน้าขึ้นไปจ้องมองกล้วยใบใหญ่ที่แขวนอยู่บนเพดาน.
'คงไม่คิดจะดึงลงมากินหรอกใช่มั้ย? ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า... ก็เธอไม่ใช่ลิงซะหน่อย...'
หมับ!
ยูเฟอมิน่ากระโดดขึ้นไปคว้ากล้วยลูกดังกล่าวมาไว้ในมือ.
บ้าฉิบ!
เปรี้ยะ!
ทันทีที่กล้วยถูกเด็ดออกมา, พื้นหินในจุดที่เราเหยียบอยู่ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา.
"เหวอออ!"
เราเกือบเอาชีวิตไม่รอด. โชคยังดีที่สามารถกลิ้งตัวหลบมาทางด้านข้างได้ทันเวลา. ในที่สุดความอดทนของเราก็หมดลง.
"คิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมถึงได้อยากจะกินกล้วยในเวลาแบบนี้?"
ยูเฟอมิน่าตอบกลับมาทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวกล้วยในปาก.
"งั่ม! งั่ม! งั่ม! อึก! เพราะมันมีกล้วยแขวนอยู่ตรงหน้า, ชั้นก็เลยอยากกินยังไงล่ะ."
"มันต้องเป็นกับดักอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? จะมีกล้วยดีๆ ที่ไหนถูกแขวนไว้ในชั้นใต้ดินแบบนี้?"
"มันก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้นสักหน่อย, บางทีอาจจะแขวนไว้ให้พวกทหารตรวจตรากินยามว่างก็ได้นี่นา."
ยูเฟอมิน่าถอนหายใจออกมาเบาๆ. "นายนี่แย่มากเลยนะ. โตมาแบบไหนกัน, ถึงได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนี้. เดาได้เลยว่าคงยังไม่มีเพื่อนสนิทซักคนแน่นอน."
"..."
เราเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ, ว่ายูเฟอมิน่ายังคงไม่หายโกรธเรื่องที่เราเคยปากเสียใส่เธอไว้. การแกล้งไปโดนกับดักแบบนี้, จะต้องเป็นเรื่องจงใจทำแน่นอน.
'ช่างเถอะ, ก็เข้าใจได้ละนะ.'
ภารกิจของยูเฟอมิน่าคือการมาช่วยเราเท่านั้น. ส่วนการช่วยฮิวรอยเป็นสิ่งที่เราต้องการ, ไม่ใช่เธอ. ดังนั้นการกระทำเหล่านี้จึงเป็นการแสดงออกกลายๆ ว่าเธอไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก. เธอไม่ต้องการเสียเวลาไปกับช่วยคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง.
'นิสัยเด็กน้อยชัดๆ...'
แน่ล่ะ, ไม่มีทางที่หญิงสาวหน้าตาดีจะมีนิสัยที่ดีตามไปด้วยแน่. คนแบบเธอคงเติบโตมาราวกับเจ้าหญิง, ถึงได้มีนิสัยเอาแต่ใจแบบนี้.
'ไม่สิ, อาฮยองยังน่ารักและนิสัยดีพร้อมกันได้เลยนี่นา.'
จิตใจของเรารู้ลึกปลอดโปร่งอีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของรักแรก, อาฮยอง.
"อาฮยอง... อยากเจอจังเลย..."
"ทางนี้! พวกมันอยู่ทางนี้!"
"...พวกแกกล้าดับฝันกลางวันของข้าเชียวรึ?"
ในขณะที่เรากำลังวาดภาพใบหน้าของอาฮยองรักแรก, เสียงของกลุ่มทหารก็ดังขึ้นจากทั้งสองฟากฝั่งโถงทางเดินใหญ่. พวกมันมีกันราวๆ 50 คน.
เราถอยหายใจเล็กน้อย.
"ทำไมพวกมันถึงเอาแต่โผล่ออกมาไม่ยอมหยุดเลยล่ะ? มันจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว."
ยูเฟอมิน่าพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกเบาๆ.
"เฮ่อ, มันโผล่มาแล้วเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ? ในเมื่อคนจัดการพวกมันคือชั้นคนเดียวอยู่ดี. ไม่ใช่ว่านายเอาแต่หนีกับยืนดูมาตลอดเลยรึไง? ไม่ละอายบ้างหรอ? ทั้งที่ชั้นสู้แทบตาย, แต่นายกลับเอาแต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ. ไม่เข้าใจเลยจริงๆ, อาวุธก็มีแล้ว, ถืออยู่ในมือด้วย. แต่ทำไมถึงไม่ยอมสู้."
"สู้? ชั้นเนี่ยนะ? ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก."
แม้ว่าเราจะมีมีดสั้นระดับยูนีคที่ยูเฟอมิน่าเอามาคืนให้. แถมพลังโจมตีของมันยังสามารถจัดการกับทหารพวกนี้ได้โดยง่าย. แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้อยู่ดี, ทำไมน่ะหรือ?
ง่ายมาก.
"ชั้นไม่มีชุดเกราะ."
"..."
ชุดที่เราสวมอยู่นั้นไม่มีพลังป้องกันแม้แต่น้อย. เราไม่สามารถรับมือกับทหารด้วยพลังป้องกันที่เป็น 0 แบบนี้ได้! โชคดีว่าตลอดทางที่ผ่านมา, ยูเฟอมิน่าเป็นคนจัดการกับทหารทั้งหมดให้. เราจึงตั้งสมาธิไปกับการหาฮิวรอยโดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลย.
"ถึงนายจะไม่มีชุดเกราะ, แต่ทหารพวกนี้มันก็ของกล้วยๆ ไม่ใช่รึไง?"
"ไม่, ชั้นไม่ได้เก่งอย่างที่เธอคิด. ถ้างั้นก็... ฝากจัดการทางนี้ด้วยนะ."
"หือ? นายหมายความว่าไง...?"
เราตบไปที่บ่าของยูเฟอมิน่าเบาๆ ก่อนจะถอยหลังมาหยุดลงตรงหน้าหลุมขนาดใหญ่บนพื้น, เป็นหลุมที่เกิดจากกับดักกล้วยที่เธอดึงมากินเมื่อครู่. "ชั้นจะไปตามหาฮิวรอยก่อน. ช่วยดึงความสนใจพวกมันไว้หน่อยก็แล้วกัน."
"ฮะ--เฮ้!!"
ยูเฟอมิน่าที่กำลังสับสนได้พยายามจะคว้าตัวเราไว้, แต่ก็สายไปเสียแล้ว. เรารีบกระโดดลงหลุมอย่างรวดเร็วโดยทิ้งเธอไว้ทั้งอย่างนั้น.
ตุ้บ! ขลุก ขลุก ขลุก...
"โอ้ย!"
[ ท่านตกจากที่สูงจนได้รับความเสียหาย 200 หน่วย. ]
เราตัดสินใจทิ้งยูเฟอมิน่าเอาไว้กับกลุ่มทหารจำนวนมาก, และออกตามหาฮิวรอยตามลำพัง.
"แค่ก! แค่ก! อึก... โชคยังดี, ที่มันไม่ค่อยเจ็บอย่างที่คิด."
เราพยุงร่างที่คลุกฝุ่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก. เมื่อแหงนขึ้นไปด้านบน, เพดานของชั้นนี้เองก็เขรอะไปด้วยฝุ่นไม่ต่างกัน. ที่ชั้นบน, การต่อสู้ระหว่างยูเฟอมิน่ากับกลุ่มทหารได้เริ่มขึ้นแล้ว. เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนเรารู้สึกแสบตา, พร้อมกันกับเสียงร้องอันโหยหวนของพวกทหารวินสตัน.
"เยี่ยมมาก, ยูเฟอมิน่า. เธอต้องทำได้แน่~~"
ถ้าหากว่าเธอต่อสู้ให้เกิดเสียงดังมากที่สุดได้ล่ะก็, พวกทหารจะต้องคิดว่าทั้งเราและยูเฟอมิน่าอยู่ที่ชั้น 3 แน่. แล้วกองกำลังทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 3. การเฝ้าระวังในชั้นที่ 4 ก็จะอ่อนลง.
"ฮุฮุ, แล้วเราสามารถแอบย่องไปช่วยฮิวรอยออกมาได้ไม่ยาก. ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย."
เรารู้สึกผิดไหมน่ะหรือ, ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง? แน่นอน, ไม่มีทาง! เราไม่ใช่คนมีศีลธรรมอันดีงามอยู่แล้ว. ถ้าหากมีโอกาสใช้ผู้อื่นให้เป็นประโยชน์ได้, เราก็จะทำ.
เรากังวลไหมน่ะหรือ, ที่ปล่อยให้ยูเฟอมิน่าต้องสู้ตามลำพัง? คำตอบก็คือ 'ไม่' อีกเช่นกัน. เธอเป็นถึงคลาสอีปิกสุดแสนจะโกงที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ทุกชนิดโดยไม่ต้องร่ายคาถา. ต่อให้มีกองทหารสัก 100 คน, รวมไปถึงอัศวินอีกนับสิบ, พวกมันก็ไม่มีทางทำอะไรเธอได้แน่.
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 45 - จบตอน
รอจนเป็นมัมมี่แล้วมั้ง ออกจากเกมได้เข้ารพ.แหง
ReplyDeleteเอิ่ม เอ็งตกจากที่สูงน่าจะเจ็บกว่ายูมิเฟอน่านะกริดเอ๊ย
ReplyDelete