จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 44

       เดิมที,  เอริน่าก็มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนนางฟ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว.

       'เป็นผู้หญิงที่สุดยอดไปเลย.'

       ในระหว่างที่เรากำลังขนลุกซู่ไปด้วยความตื้นตันใจ,  เธอได้พูดขึ้นว่า.  "แต่ชั้นมีข้อแม้."

       นั่นปะไร,  เราคิดไว้แล้ว,  ว่าผู้หญิงที่มีหน้าตาดีขนาดนี้จะไปมีนิสัยดีที่ได้อย่างไรกัน.

       "อัดอ๊บ!" (บัดซบ)

       นังนี่,  มาตั้งเงื่อนไขในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ?   ถ้าตั้งใจจะมาช่วย,  ก็รีบช่วยออกไปสิฟะ.   เอริน่าอ่านสีหน้าของเราพร้อมกับหัวเราะขึ้นเสียงดัง.

       "ยังไงนายก็ต้องยอมรับทุกเงื่อนไขอยู่แล้วสินะ,  งั้นชั้นจะรีบพูดให้จบเลยก็แล้วกัน.   ประการแรก,  นายจะต้องสร้างลูกแก้วที่บรรจุพลังเวทย์มนต์ให้ชั้น.  เป็นลูกแก้วที่บรรจุพลังเวทย์และมานาเอาไว้เป็นจำนวนมหาศาล,  เข้าใจมั้ย?    คุณภาพขั้นต่ำของมันต้องไม่ด้อยไปกว่ามีดเล่มนี้.   นายสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยทักษะช่างตีเหล็กที่มีใช่รึเปล่า?   ทำได้ใช่ไหม?"

       ลูกแก้วงั้นหรอ?  เราไม่เคยสร้างของแบบนั้นมาก่อนเลยสักครั้ง.   ไม่ใช่ว่าลูกแก้วคือไอเท็มประเภทเวทย์มนต์รึไง?  แล้วทำไมถึงไม่ให้พวกจอมเวทย์จัดการเรื่องนี้แทน?   ไม่สิ,  ตอนนี้ไม่ใช่เวลามัวคิดแบบนั้น.

       เราพยักหน้าหงึกหงักออกไป.

       เอริน่าแสดงสีหน้าพึงพอใจสุดขีดออกมาทันที.   "เยี่ยม.  ส่วนประการที่สอง,  นายห้ามเรียกชั้นว่า 'แม่หนูน้อย' อีกเป็นอันขาด!   ชั้นชื่อยูเฟอมิน่า.   เข้าใจรึเปล่า?"

       เธอเมาอยู่รึเปล่าเนี่ย?  ก่อนหน้านี้ยังชื่อเอริน่าอยู่เลย,   แล้วตอนนี้กลับมาบอกว่าตัวเองชื่อยูเฟอมิน่า.   ลืมชื่อตัวเองไปแล้วรึไง? ...   บางที,  นั่นอาจเป็นนามแฝงก็ได้.

       ช่างเถอะ,  ไม่ว่าจะอะไรก็ได้ทั้งนั้นในตอนนี้.   เราพยักหน้าออกไปอีกครั้ง.   เอริน่า,  ไม่สิ,   ยูเฟอมิน่าควักกุญแจห้องขังออกจากกระเป๋าอย่างรวดเร็ว.   เมื่อไขประตูลูกกรงเสร็จ,  หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้ามาแก้ผ้ามัดปากให้เรา.

       "แค่ก!"

       ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง.  เราเช็ดคราบน้ำลายที่ติดอยู่รอบปาก,  และส่งสัญญานให้ยูเฟอมิน่าแก้มัดเชือกให้ด้วย.

       "เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมเธอถึงได้ลงมาช่วยชั้น?"

       ยูเฟอมิน่าโยนมีดสั้นมาให้เราพร้อมกับพูดว่า.

       "ไว้ค่อยเล่าตอนที่หนีพ้นแล้วดีมั้ย?"

       ทันทีที่เธอพูดจบ,  เสียงฝีเท้าของทหารนับสิบได้ดังขึ้น.  พวกมันกำลังกรูกันลงมาที่ชั้นล่าง.  ทำให้เราต้องตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก.
       
       "เฮ้,  แม้หนูน้...,  ยูเฟอมิน่า,  เสียงนั่นมันอะไรกัน?   ไม่ใช่ว่าเธอลงมาที่นี่ได้เพราะจัดการพวกทหารไปหมดแล้วรึไง?"

       "พวกมันมีมากเกินไป.  ชั้นจัดการไปได้ร้อยกว่าคนแล้ว,  แต่พวกมันกลับยังกรูเข้ามาไม่หยุดหย่อน.  คงจะหนียากหน่อยล่ะนะทีนี้."

       พรวด!

       เราเผลอหลุดขำออกไปทันทีที่ยูเฟอมิน่าพูดจาไร้สาระออกมา.   เธอรีบหันมาจ้องเราทันที.

       "ขำอะไร?"

       "ชั้นขำที่เธอบอกว่าจัดการทหารไปแล้วเกิน 100 คน.   ช่างตีเหล็กจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า?   จะโม้ก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย..."

       "ชั้นไม่ใช่ช่างตีเหล็ก."

       "เห?"

       ยูเฟอมิน่าจ้องเราเขม็ง.  นัยน์ตาสีฟ้านั่นงดงามยิ่งกว่าอัญมณีใดในโลกนี้ทั้งหมด.  แม้จะเป็นเพียงแค่เด็ก.  แต่ถ้าเธอหมั่นกินข้าวให้มาก,  บางทีอาจโตมามีหน้าอกในอุดมคติของเราก็เป็นได้.

       "นายคิดจะมองไปทางไหนกัน?"   ยูเฟอมิน่าขมวดคิ้วพร้อมกับใช้มือปิดหน้าอกไว้.

       "เธอไม่ต้องห่วง,  ชั้นไม่สนหน้าอกแบนราบนั่นหรอกนะ.   เข้าเรื่องกันดีกว่า,  เธอไม่ใช่ช่างตีเหล็ก,   หมายความว่ายังไง?"

       "ชั้นเกลียดคนแบบนายที่สุด!"  ยูเฟอมิน่าบ่นอุบอิบ,  แต่ถึงกระนั้นก็ยังอธิบายต่อไปแต่โดยดี.  "คลาสชองชั้นพิเศษกว่าคนอื่น.   ชั้นคือนักคัดลอก.   ก็เลยสามารถเลียนแบบทักษะการตีเหล็กได้จากข่าน.  นายเองก็เหมือนชั้นใช่มั้ยล่ะ?   ไม่มีทางที่จะเป็นแค่ช่างตีเหล็กธรรมดาแน่."

       นักคัดลอก?  นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินชื่อของคลาสนี้.  บางทีว่า...

       "คลาสระดับแรร์รึ?"

       เธอมีสีหน้าหงุดหงิดในทันที.  "ไม่ใช่!  มันคือคลาสระดับอิปิก!"

       "อึก!"

       หนึ่งในสามคลาสอีปิกของซาทิสฟายอยู่กับแม่หนูนี่งั้นหรือ?  ในสถานการณ์เช่นนี้,  ไม่มีเหตุจำเป็นใดให้เธอต้องโกหก.  ดังนั้นสิ่งที่เธอพูดก็น่าจะเป็นความจริง...

       "น่าแปลก,  เธอพยายามปิดบังตัวตนมาตลอดไม่ใช่รึไง?  แล้วทำไมถึงได้ยอมบอกกับชั้น?   แล้วทำไมต้องในสถานการณ์แบบนี้ด้วย?"

       "ที่ชั้นเล่าก็เพราะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไง.   นายเองก็เป็นคลาสลับใช่ไหมล่ะ?   ชั้นรู้ดีน่า.   ดังนั้นอย่าแสร้งทำเป็นช่างตีเหล็กธรรมดาไปเลย.   รีบร่วมมือกับชั้นจัดการพวกทหารนั่นซะ.   ไม่อย่างนั้นได้ติดอยู่ที่นี่ไปจนตายแน่."

       "ก็คิดไว้แบบนั้นอยู่."

       เราพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับหยิบมีดสั้นขึ้นมากำแน่น.

[ ท่านสวมใส่ 'มีดสั้นในอุดมคติ',  คลาสของท่านได้รับการยกเว้นเงื่อนไข. ]
[ นี่คือไอเท็มที่ท่านสร้างขึ้นมากับมือ.  ความเข้าใจในมีดสั้นในอุดมคติจึงมี 100% เต็ม. ]
[ แต่ถึงไอเท็มนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยท่าน.  ผลข้างเคียงของการสวมใส่เงื่อนไขไม่ตรงจะยังคงทำงานตามเดิม.  แม้จะมีค่าความเข้าใจ 100% ก็ตาม. ]
[ พลังโจมตีของมีดสั้นในอุดมคติลดลง 20%.  เอฟเฟคทั้งหมดจะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว. ]

[ มีดสั้นในอุดมคติ ]
ระดับไอเท็ม : ยูนีค
ความคงทน : 168/168,   พลังโจมตี : 242~264,   ความเร็วในการโจมตี : +11%
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะเกิดเอฟเฟคสังหารศัตรูในพริบตา.
* ความว่องไว +20.
* ได้รับทักษะ 'วายุกัมปนาท'.
* ได้รับทักษะ 'พริ้วไหว'.
มีดสั้นที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือพรสวรรค์สูงซึ่งมีทักษะอันยอดเยี่ยม.   แต่เขายังอ่อนประสบการณ์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก.
วัสดุที่ใช้นั้นไม่มีสิ่งใดล้ำค่าเป็นพิเศษ,  รวมไปถึงขั้นตอนการทำก็แสนจะธรรมดา.  ทว่า,  ทักษะของช่างฝีมือผู้นี้เมื่อรวมกับเข้าความช่วยเหลือจากข่าน,  มีดสั้นในอุดมคติจึงถือกำเนิดขึ้น.
เงื่อนไขการสวมใส่ :  เลเวล 180 หรือสูงกว่า,  ความว่องไว 450 แต้มหรือสูงกว่า,  ทักษะชำนาญมีดสั้นขั้นสูง.

       ยังมีผลข้างเคียงทั้งที่ค่าความเข้าใจไอเท็มเต็ม 100% เนี่ยนะ?  น่าอนาถฉิบ!

       'แต่เป็นถึงระดับยูนีค,  ผลข้างเคียงกลับมีแค่ 20% เองรึ?   ไม่เลว.'

       ยูเฟอมิน่าตกตะลึงทันทีที่เห็นเราหยิบมืดออกมาใช้ได้.

       "คลาสลับของนายเป็นพวกมือสังหารรึไง?   มีดนั่นต้องการความว่องไวมากถึง 450 แต้ม.  แถมยังมีความชำนาญมีดขั้นสูงนั่นอีก...   เดี๋ยวนะ,  มันไม่แปลกไปหน่อยหรือ?  แล้วทำไมนายถึงมีทักษะการตีเหล็กได้?"

       เราเพิ่งจะฉุกคิดได้ว่า,  ถ้าหากยูเฟอมิน่าต้องการให้เราสร้างลูกแก้วขึ้นมา.   หมายความว่าเธอจะต้องรู้ถึงรายละเอียดของมีดเล่มนี้เป็นอย่างดีแล้ว.   แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคืนมันมาให้เรา.  เมื่อมาลองคิดเรื่องนั้นดู,  เธอก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนัก.

       'ถ้าเป็นเรา,  คงไม่มีทางคืนให้เจ้าของแน่นอน...   หล่อนโง่ชะมัด.   เป็นเด็กที่ไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้เอาซะเลย.  ไม่สิ,  เธอต้องการให้เราสร้างลูกแก้วที่เจ๋งระดับเดียวกับมีดเล่มนี้ขึ้นมาสินะ?   เดี๋ยวก่อน...  แล้วค่าใช้จ่ายล่ะ?   อย่าบอกนะว่าเราต้องทำให้เธอฟรีโดยไม่ได้เงิน?   นะ--นั่งแม่มดชั่ว...'

       ไม่ได้,  อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้.   ไว้มีเวลาค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที.

       "วายุกัมปนาท."

       เราลองใช้ทักษะใหม่ออกไปทันที,  โดยเล็งไปยังกลุ่มของทหารที่กำลังวิ่งกรูเข้ามาใกล้.  คมเขี้ยวสายลมอันเกรี้ยวกราดพุ่งออกไปจากปลายมีดอย่างรวดเร็ว.  ทหารนับสิบคนถูกสายลมที่แหลมคมเชือดเฉือนเข้าจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว.   ยูเฟอมิน่ายืนยันว่ามีทหารจำนวน 10 คนที่ปางตายในทันที. 

       "ทักษะจากไอเท็มมีความรุนแรงขนาดนี้ได้เชียวรึ?  ยอดเลยแฮะ."

       แต่ของจริงยิ่งกว่านี้อีก,  นั่นเป็นเพราะเราสวมใส่โดยที่เงื่อนไขไม่ตรง.   เอฟเฟคทั้งหมดของไอเท็มจึงถูกลดทอนความสามารถลงไปครึ่งหนึ่ง.

       'น่าเสียดาย,  อยากเห็นพลังที่แท้จริงจังแฮะ.'

       เราอาลัยอาวรณ์เล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับยูเฟอมิน่า.
       
       "เฮ้,  ยูเฟอมิน่า,  ชั้นต้องไปช่วยคนๆ นึงออกมาก่อน."

       "เอ๋?  ใครกัน?   หมายถึงข่านรึเปล่า?  ถ้าข่าน,  ชั้นช่วยออกไปแล้วก่อนที่จะลงมาหานาย."

       "ข่านก็ถูกจับเหมือนกันหรือ?  โชคดีที่เขาปลอดภัย.   แต่คนที่จะช่วยไม่ใช่ข่าน,  เชาชื่อฮิวรอย."

       "...เขาคือใคร?"

       เราพยายามอธิบายเรื่องของฮิวรอยให้ยูเฟอมิน่าฟังอย่างละเอียด.  แต่สีหน้าของเธอก็ดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก.

       "ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี."

       "..."

       เราเข้าใจความรู้สึกของยูเฟอมิน่าเป็นอย่างมาก.  สีหน้าของเธอในตอนนี้เหมือนกับคนที่พลาดท่าไปเหยียบกองขี้หมาเข้า.   ช่างเถอะ,  แต่ใครจะสนล่ะว่าเธอคิดยังไง.  เราเหลือเวลาแค่ 1 ชั่วโมงกับอีก 50 นาทีเท่านั้น.  จะต้องช่วยฮิวรอยออกมาก่อนเวลาจะหมดให้ได้.

       'หลังจากที่ช่วยฮิวรอยได้,   หมอนั่นเตรียมรองรับอารมณ์เราได้เลย.'

       เขาคือต้นตอความซวยทั้งหมดของเราในวันนี้.   เราจึงรู้สึกโกรธแค้นชายคนนี้เป็นอย่างมาก.

       "ย๊ากก!"

       กองทหารกรูเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง.  ดูเผินๆ น่าจะมีราวๆ 30 คนได้.   เรารู้สึกเครียดและกังวลไม่น้อย,   แต่ทางยูเฟอมิน่าเหมือนจะไม่ได้คิดเช่นนั้น.   เธอเหยียดแขนออกไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย.

       "หอกแห่งหายนะ."

       ซู่วว!
       
       ประกายแสงสีแดงผสมดำค่อยๆ รวมตัวกันที่ปลายนิ้วของยูเฟอมิน่า.   มันก่อตัวกันเป็นรูปร่างหอกขนาดยักษ์,  และยิงออกไปใส่กลุ่มทหารที่วิ่งเข้ามา.

       บึ้ม~!!!  
       
       หอกเวทย์มนต์ยักษ์พุ่งเข้าใส่กองทหารพร้อมกับระเบิดออก.   ทหารกว่า 30 นายกลายเป็นแสงสีเทาในพริบตา.   เป็นเวทย์มนต์ที่รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ,  แต่เธอกลับสามารถร่ายออกมาใช้อย่างง่ายดาย.   นี่มันระดับเดียวกับนังแม่มดยูร่านั่นเลยไม่ใช่รึไง?   ทว่า,  ทำไมเวทย์มนต์ที่รุนแรงเช่นนี้ถึงแทบไม่ต้องร่ายคาถาเลยล่ะ?

       "อึก!..."

       เราตกใจจนสะอึกออกมา.

       'ก่อนหน้านี้เราเคยทำอะไรให้เธอไม่พอใจบ้างนะ?   ก็พูดไปเยอะเลยไม่ใช่รึไง?   หล่อนยังโกรธเราอยู่รึเปล่าเนี่ย?'

       ในขณะที่เราหวาดกลัวจนก้าวขาไม่ออก,  ยูเฟอมิน่าก็พูดขึ้น.

       "ทำอะไรอยู่?   ไม่ไปช่วยคนที่ชื่อฮิวรอยรึไง?"

       "...ปะ--ไป...ครับ"

       ใจเราคิดจะพูดออกไปห้วนๆ ตามปรกติ,  แต่จู่ๆ สัญชาตญานมันกลับบอกให้พูดจาไพเราะกับเธอ.

       'เลิกเรียกว่าแม่หนูน้อยดีกว่าแฮะ.  เราตัดสินใจแล้ว,  เราจะสร้างลูกแก้วเวทย์ให้เธอ.   และจะไม่มีวันปากเสียใส่เธออีกเป็นอันขาด.'

       หลังจากที่คิดได้,  เราก็รีบวิ่งลงไปยังชั้นใต้ดินที่ลึกลงไปกว่าเดิม.

Comments

  1. เริ่มรวบรวมพรรคพวก และเลิกกากแล้วใช่ไหม

    ReplyDelete
  2. ภารกิจช่วยฮิวรอย9%ถ้ากริดคนเดียวแต่ยูมิเฟอน่าก็อีก90%(1%ที่จะล้มเหลวก็เพราะไอ่กริดซวย)

    ReplyDelete
  3. นิสัยกลับกลอกจนน่ากลัวไอทิดเอ๊ย นอบนี้คงเคลียร์ภารกิจได้สักที

    ReplyDelete
  4. โคตรแย่เลย อยู่เฉยๆก็มีแต่ของดีมากองตรงหน้า ทั้งของทั้งภารกิจ ชิบหายคนเขียนแม่งอำเลียงไปป่าวว่ะ พระเอกแม่งไม่ได้เห้ยไรเลยควยเถถอะ

    ReplyDelete
  5. ไม่เคยเจอนิยายเรื่องไหนเลยที่อ่านไปเเล้วหงุดหงิดไปขนาดนี้ ตัวละครเอกที่กากและโง่ที่สุดที่เคยมีมา

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00