จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 66

[ ภารกิจสำเร็จ! ]
[ ท่านได้รับตำแหน่ง 'ข้ารับใช้ลำดับที่แปด']
[ ท่านได้รับทักษะ 'ความศรัทธาไร้ขีดจำกัด' ]
[ ท่านได้รับทักษะ 'เผยแพร่หลักคำสอน' ]
[ ท่านได้รับทักษะ 'การลงทัณฑ์จากทวยเทพ' ]

       หลังจากที่ตระเวนไปทั่วทั้งแดนเหนือ ในที่สุด ยูร่าก็ช่วยผู้ศรัทธาแห่งยาธาน ออกมาจนครบ 300 คน ผลของภารกิจนี้ ทำให้ข้ารับใช้แห่งยาธาน จากเดิมที่เคยมีเจ็ดคน ตอนนี้ได้กลายเป็นแปดแล้ว แถมพลังอำนาจของวิหารยาธาน ก็ยิ่งกล้าแกร่งขึ้นด้วย

       ยูร่าตรวจสอบรายละเอียดทักษะใหม่ทันที

[ ศรัทธาไร้ขีดจำกัด]
       ท่านจะได้รับค่าความศรัทธาเป็น 2 เท่าจากปรกติ
รูปแบบทักษะ : ติดตัว

[ แผ่แพร่หลักคำสอน ]
เลเวล : 1
       ทำการเผยแพร่หลักคำสอน ของวิหารยาธานใส่เป้าหมายด้วยธาตุมืด ธาตุมืดจะส่งผลให้ เป้าหมายมิอาจใช้ทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ได้ เป็นเวลา 4 วินาที และจะทำให้เป้าหมาย ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่า ระยะเวลา 2 วินาที
มานาที่ใช้ : 800 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 100 วินาที

[ การลงทัณฑ์จากทวยเทพ ]
       สร้างฟ้าผ่าใส่ศัตรูทุกคนในระยะ 10 เมตร เกิดเป็นความเสียหายเป้าหมายละ 15,000~23,000 หน่วย
* ขอบเขตความเสียหาย : 3 เมตรรอบเป้าหมาย
* ถ้าหากสังหารศัตรูสำเร็จด้วยทักษะนี้ ท่านจะได้รับค่าชื่อเสียง 50 หน่วยต่อศัตรู 1 คนที่สังหารได้
มานาที่ใช้ : 400 หน่อย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 1,200 วินาที ( 20 นาที)

       ผลเสียร้ายแรงที่สุดของจอมเวทย์มืด คือการที่พวกเขามีพลังโจมตี และจำนวนทักษะในการโจมตี ที่น้อยกว่าจอมเวทย์คลาสอื่นชัดเจน แต่หลังจากที่ยูร่า กลายมาเป็นข้ารับใช้คนที่แปด เธอก็ก้าวข้ามขีดจำกัดจุดอ่อนเดิม ด้วยทักษะใหม่

       หน้าต่างข้อความระบบ พลันปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ของผู้เล่นทุกคนที่กำลังออนไลน์ซาทิสฟายอยู่

[ ข้ารับใช้แห่งยาธานคนที่ 8 ถือกำเนิดขึ้น ผู้ศรัทธาแห่งยาธานจะได้รับการอวยพรที่แข็งกล้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม ]
[ อิทธิพลของวิหารยาธานทั่วทั้งทวีปเพิ่มขึ้นอย่างมาก ]
[ เลเวลต่ำสุดของผู้ศรัทธาแห่งยาธาน เพิ่มจาก 160 เป็น 170 ]
[ ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในสังกัดวิหารยาธาน จะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 20% เป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง ]
[ ถ้าหากวิหารยาธานยังคงเติบโตต่อไปเช่นนี้ ในอนาคตอันใกล้ จะต้องได้สถาปนาเป็นประเทศใหม่แน่นอน ]

        นี่คือเหตุด่วนอย่างแท้จริง หลายประเทศในซาทิสฟาย ต่างประกาศว่าจะปราบปรามวิหารยาธานให้สิ้นซาก เพราะพวกเขามิอาจทนต่อความชั่วร้าย และธรรมเนียมที่ต้องบูชายันเหยื่อต่อองค์เทพ ของวิหารยาธาน

       ผู้เล่นจำนวนมาก ได้รับภารกิจเกี่ยวกับการกวาดล้างวิหารยาธานทันที อาณาจักรอีเทอนัลก็เช่นกัน โดยเฉพาะดินแดนตอนเหนือของเอิร์ลสไตม ภารกิจจำนวนมหาศาล ถูกแจกจ่ายให้ผู้เล่นเพื่อกวาดล้างศาสนาชั่วร้าย

       "คราวนี้ ฉันจะต้องกำจัดเมล็ดพันธ์ปีศาจ ที่ชื่อว่าวิหารยาธาน ให้สิ้นซากจากแดนเหนือซะ!"

       ทั่วทั้งแดนเหนือ ภารกิจที่มีรางวัลตอบแทนสูง ถูกแจกจ่ายไปยังบรรดาผู้เล่นจำนวนมาก ทั้งหมดจึงร่วมมือกันค้นหาวิหารโดยเร็ว

       ทางฝั่งวิหารเองก็ไม่ยอมอยู่เฉย "นี่คือโอกาส! แสดงพลังให้พวกนอกรีตเห็น ถึงความสุดยอดขององค์เทพยาธานซะ! จงชะโลมทวีปนี้ด้วยแสนยานุภาพแห่งองค์เทพยาธาน!"

       ข้ารับใช้ลำดับที่หนึ่ง และบิชอปแห่งวิหารยาธาน จอมเวทย์มืดอันดับหนึ่งของทวีป คนผู้นี้มีนามว่า 'ทัลลอส'

       หลังจากทัลลอสประกาศสงครามออกไป ทางฝั่งผู้เล่นที่สังกัดวิหารยาธาน ก็ได้รับภารกิจเข้าร่วมสงครามเช่นกัน
     
       ศึกพันธมิตรปะทะวิหารยาธาน! ศักราชใหม่ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วทั้งทวีป นี่คือเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่สูงสุด นับตั้งแต่เกมซาทิสฟายเปิดตัวมา

       ทั่วโลกกำลังจับตามองทุกฝีก้าว

       『ฝ่ายพันธมิตรจะสามารถเอาชนะวิหารยาธานได้รึไม่』

       『 ถ้าหากฝั่งวิหารยาธานชนะศึกนี้ และตั้งตนเป็นประเทศได้ ฉันเองก็อยากจะรู้ว่า ซาทิสฟายจะเดินหน้าไปทางไหนต่อ... 』

       『 วิหารยาธานเป็นพวกชั่วร้าย! พวกปีศาจ! เหล่าผู้เล่นจะต้องร่วมมือกัน กำจัดพวกมันออกไปให้หมด! 』

       『อยากที่ทุกคนทราบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะ ข้ารับใช้คนที่แปดปรากฏตัวขึ้น มีข่าวลือหนาหูว่า ข้ารับใช้คนใหม่นี้เป็นผู้เล่น มิใช่เอ็นพีซีเหมือนกับเจ็ดคนแรก ดังนั้น ถ้าหากเป็นผู้เล่นจริง คนเดียวที่เข้าข่ายนี้ก็คือ... 』

       『ผู้เล่นอันดับที่ห้าของโลก แม่มดโลหิต ยูร่า! ทั่วโลกจะต้องจับตาดูเธอให้ดี』

       สื่อทั่วโลกประโคมข่าวอีกครั้ง พวกเขาให้ความสนใจยิ่งกว่าเมื่อครั้งข่าวคลาสรองแรกของฮิวรอยเสียอีก เบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ของวิหารยาธาน ถูกขุดคุ้ยเผยแพร่ทางหน้าสื่อมากมาย ทว่า มีเพียงกริดเท่านั้น ที่ดูเหมือนกับไม่ได้อยู่ร่วมโลกใบเดียวกับทุกคน

       "เราต้องรีบทำภารกิจประจำคลาส..."

       สิบวันมานี้ กริดสร้างเซ็ตชุดเกราะขึ้นมากมาย ทำให้ทั้งตัวเต็มไปด้วยอุปกรณ์เกรดแรร์และอีปิก ทว่า...

       "ด้วยระดับความยากของหุบเขาเคซาน…ชุดเกราะแค่นี้มันยังไม่พอ..."

       หุบเขาเคซาน ถูกจัดให้เป็นดินแดนอันตรายสูงสุดของตอนเหนือ

       ภูมิประเทศคดเคี้ยวยากจะเดินทาง สองข้างฝั่งเป็นผาสูงชัน ราวกับจะปิดกั้นท้องฟ้าเอาไว้ ก่อให้เกิดเป็นบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว

       ปัญหาหลักก็คือ ถ้ำน้อยใหญ่หลายร้อยหลายพันแห่งที่อยู่รายรอบหุบเขา สถานที่แห่งนี้ มอนสเตอร์และสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด จะมีเลเวลขั้นต่ำสุดอยู่ที่ 160 และจะโผล่ออกมาทันที เมื่อเห็นตัวนักเดินทาง หากกริดไม่ระวังตัว ก็ไม่ต่างอะไรกับหนูที่วิ่งเข้าหากับดัก มันจะต้องโหดร้ายขนาดไหนกัน ถึงกลายเป็นหนึ่งในห้าสถานที่สุดอันตราย ของอาณาจักรอีเทอนัลได้

       ครั้งก่อนที่มาทำภารกิจให้เอิร์ลอัชเชอร์ การมาเยือนหุบเขาเคซาน ทำให้กริดต้องตายไปหลายสิบครั้ง

       "แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว…ค่าสถานะสูงกว่าสมัยเป็นนักรบหลายเท่า แถมยังมีสุดยอดไอเท็มอยู่กับตัว แค่นี้ไม่ทำให้เรากลัวได้หรอก..."

       อันที่จริง กริดยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไปในหุบเขาเคซาน เขากลัวว่าตนเองอาจจะตายภายในเสี้ยววินาที สุดท้ายจึงระบายความหวาดกลัว และโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของบรรพบุรุษข่าน

       "ทำไมไอ้ผีบ้านั่น ต้องลำบากไปวาดภาพสลักถึงหุบเขาเคซานด้วยฟะ..."

       แต่การโกรธแค้นสาปแช่ง ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ไม่ว่ายังไง ก็เลี่ยงหุบเขาเคซานไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเขาอยากสำเร็จภารกิจประจำคลาส

       "ก่อนหน้านั้น เราควรหยุดผลิตไอเท็มสักพัก แล้วมุ่งมั่นกับการล่ามอนสเตอร์เพื่ออัพเลเวล จะดีรึเปล่านะ ถ้าหากเพิ่มเลเวลได้สัก 150 มอสเตอร์ในหุบเขาเคซานคงไม่ใช่เรื่องยากนัก…ไม่สิ เลเวลจะเพิ่มเมื่อไรก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องรีบใช้หนี้ให้ที่บ้านก่อน…ทว่า ถ้าเรารีบทำภารกิจให้เสร็จ ดาบอินเสลฟก็จะตกอยู่ในมือเร็วขึ้น บ้าฉิบ! จะทำยังไงดีเนี่ย เฮ่อ..."

       ทันใดนั้น กริดพลันเกิดไอเดีย

       "ออกแบบไอเท็ม!"

[ ทักษะการออกแบบไอเท็มของช่างตีเหล็ก ]
       ท่านสามารถสร้างสูตรการผลิตเพิ่มขึ้น 3 ชิ้น ได้ทุกครั้งทีทักษะ 'การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน' เลเวลอัพ
* จำนวนครั้งที่สามารถสร้างสูตรได้ : 5/6   
* เมื่อไอเท็มถูกสร้าง ด้วยสูตรการผลิตจากทักษะนี้ ชื่อของผู้สร้าง จะถูกใส่ลงไปในชื่อของไอเท็มทันที

       ในกรณีของ 'ความผิดพลาด' เขาไม่สามารถผลิตมันขึ้นมาได้ เพราะไม่มีโอริชาลคั่มสีน้ำเงินที่มากพอ กริดได้รับบทเรียนจาก 'ความผิดพลาด' มาแล้ว ครั้งนี้จึงมั่นใจว่า จะไม่มีทางทำพลาดซ้ำสองอีก

       "ใช่แล้ว ต้องสร้างไอเท็มขึ้นมา! ไอเท็มที่สามารถต่อกรกับมอนสเตอร์ในหุบเขาเคซานได้โดยเฉพาะ"

       ครั้งก่อน กริดตายไปนับสิบ ดังนั้น รายละเอียดมอนสเตอร์เกือบทั้งหมด เขาจำได้อย่างขึ้นใจ

       "ตัดสินใจได้แล้ว ออกแบบไอเท็มขึ้นมาสักชิ้นก่อน"

       ไอเท็มชนิดใหม่ถูกออกแบบขึ้น ตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของกริด

       ***

       "เหลืออีก 29 วันสินะ รอไปงานรวมรุ่นไม่ไหวแล้ว~"
     
       "นึกขึ้นได้เลย ยองวูเป็นไงบ้างนะ ปีนี้มันจะมางานไหม เปลี่ยนไปบ้างรึยัง"

       กลุ่มเพื่อนซี้ที่สนิทกันมานานกว่าสิบปี ตั้งแต่สมัยมัธยม กำลังเดินทางผจญภัยไปยังดินแดนตอนเหนือ พวกเขาเหล่านี้คือเพื่อนร่วมห้องชินยองวู และกำลังให้ความสนใจกับงานรวมรุ่นที่ใกล้เข้ามา

       "ต้องสงสัยด้วยหรอ คิดว่าคนอย่างหมอนั่นจะมาร่วมงานรึไง เพื่อนรุ่นพวกเราตอนนี้ ถ้าไม่ทำงานที่มั่นคง ก็ไปเรียนต่อเมืองนอกกันหมด แต่หมอนั่นกลับยังเป็นเด็กติดเกม และหนี้ท่วมหัว การมาร่วมงาน รังแต่จะทำให้ขายขี้หน้าเปล่าๆ"

       "จริงด้วย…ถึงยังไงก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วนี่"

       "ถ้าฉันเป็นยองวู คงคิดฆ่าตัวตายไปนานแล้ว พวกนายไม่คิดบ้างหรอ ว่าหมอนั่นควรดับชีวิตตัวเองให้พ้นทุกข์ไปสักที"

       เป็นอีกครั้ง ที่กลุ่มเพื่อนชิงยองวู จับกลุ่มรวมตัวนินทาเขา

       สมัยก่อน ทั้งผลการเรียน และวิชาพละ ยองวูมักอยู่ในระดับปานกลาง เข้าเรียนมหาวิทยาลัยระดับปานกลาง ในตอนนั้น ยังไม่มีใครที่หัวเราะเยาะชินยองวูมากนัก

       จนมาถึงตอนนี้ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อนร่วมรุ่นเริ่มนินทายองวูบ่อยครั้งขึ้น ให้พูดตามตรง เพื่อนคนอื่นเองก็ใช่ว่าจะทำได้ดีนัก พวกเขาต่างเข้าทำงานในบริษัทหรือไม่ก็เรียนต่อ แต่สภาพแวดล้อมก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร หลายคนถึงกับเครียด เพราะบรรยากาศที่ทำงาน ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น เป็นความกังวลที่เกิดขึ้นในใจทุกคน

       ดังนั้น ชินยองวูจึงเป็นเป้าหมายการสนทนาที่ดี

       'อย่างน้อย ฉันก็ยังดีกว่าหมอนั่น'

       ทุกคนต่างรู้สึกดีขึ้น เมื่อได้เห็นความอเนจอนาจของชินยองวู ในเมื่อมีคนที่แย่กว่าอยู่ คนนั้นจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือบรรเทาความเครียด ในจุดนี้ คงไม่สามารถเรียกคนกลุ่มนี้ ว่าเพื่อนได้อีกแล้ว

       "พูดก็พูดเถอะ ยองวูมันเล่นซาทิสฟายตั้งแต่เกมเปิดตัวเลยใช่มั้ย กลับกัน พวกเราเริ่มเล่นช้ากว่า แถมยังต้องทำงานทุกวัน เวลาเล่นมีเพียงสุดสัปดาห์ แต่กลับมีเลเวลเกิน 80 แล้ว ยองวูมันไปมุดหัวอยู่ไหนนะ"

       "เห็นด้วย ถ้าหากเรามีเวลาเล่นเท่ายองวู คงได้เป็นผู้เล่นติดอันดับไปแล้ว น่าสมเพช น่าสมเพชเสียจริง แม้กระทั่งเกม หมอนั่นก็ยังไม่มีพรสววรค์"

       ในขณะที่กำลังหัวเราะอย่างขบชัน เพราะได้เหยียดหยามผู้อื่น บรรยากาศรอบข้างก็พลันแปลกไป โดยไม่รู้ตัว

       "ที่นี่คือที่ไหน"

       "เดี๋ยวนะ…เราออกนอกเส้นทาง…ได้ไงกัน"

       พวกเขาไม่ใช่คนแดนเหนือตั้งแต่แรก จึงไม่รู้ว่าดินแดนตอนเหนือโหดร้ายมากเพียงใด ไม่มีทางรู้เลยว่า กับดักจะโผล่มาเมื่อไร มอนสเตอร์ระดับสูงจะปรากฏตัวตอนไหน ใช่แล้ว นักเดินทางมักจะถูกก็อบลินวางกับดัก ให้ต้องเดินออกนอกเส้นทางอยู่บ่อยครั้ง

       "แฮ่ก…แฮ่ก..."

       พวกเขาเดินมานานเท่าไรแล้วนะ ไม่ว่าจะเดินไกลแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นออกจากลานหิมะสุดลูกหูลูกตานี่ได้สักที

[ ท่านเกิดอาการหิว ]
[ ท่านเริ่มเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ]
[ พลังชีวิตของท่านกำลังลงลดอย่างต่อเนื่อง ]

       ข้อความระบบเด้งแจ้งเตือนถึงอันตราย

       "พวกเราจะทำไงกันดี…ตั้งแต่มายังดินแดนตอนเหนือ ก็ยังไม่เคยบันทึกจุดเกิดไว้เลยสักครั้งใช่ไหม"

       "ใช่แล้ว ปัญหาใหญ่เลยล่ะ ถ้าหากตายตอนนี้ คงได้ไปเกิดที่ 'แอมส์แลนด์' แน่นอน ระยะเวลาสามวันที่เดินทางมา ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า"

       "ฉันห่วงค่าประสบการณ์ที่จะลดลงมากกว่า บ้าฉิบ! อย่าบอกนะว่าจะต้องหนาวตายที่นี่ ยังไม่ทันจะได้ออกล่าเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ"

       พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปวินสตัน โดยเป็นการรับภารกิจต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทันไร ก็ต้องหลงอยู่กลางทุ่งหิมะอันหนาวเหน็บเสียแล้ว

       "เอ๋..."

       ในขณะที่กำลังเจ็บปวด สิ้นหวัง และโกรธแค้น ทันใดนั้น แสงสว่างจากปลายอุโมงค์พลันปรากฏขึ้น ทุ่งหิมะที่เคยกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา บัดนี้ปลายทางของมัน คือหุบเขารูปทรงแปลกประหลาด ที่พวกเขาไม่คุ้นชิน

       "รีบไปกันเถอะ!"

       ทั้งหมดออกจากทุ่งหิมะด้วยความรีบร้อน เบื้องหน้าคือหุบเขาขนาดใหญ่ ที่งดงามกว่าหุบเขาเลื่องชื่อของโลก อย่างแกรนแคนย่อนเสียอีก

       "ว้าว! เป็นครั้งแรกเลย ที่ได้เห็นทิวทัศน์งดงามแบบนี้ แม้แต่ในหนังก็ยังไม่เคย!"
     
       "สมัยนี้ คงไม่มีใครเดินทางรอบโลกแล้วมั้ง เพราะธรรมชาติในซาทิสฟายก็มีความงดงามไม่แพ้กัน"

       "เฮ้ พวกนายไม่คิดบ้างหรอ บางที ยองวูอาจทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวในเกมนี้ก็ได้ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หมอนั่นเอาแต่เที่ยวอย่างเดียวเลยรึเปล่านะ"

       "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เป็นไปได้ การเดินทางอันแสนมีความสุขรอบโลกซาทิสฟาย~! ยองวูเป็นคนโรแมนติกขนาดนั้นเลยหรือ"

       กลุ่มคนพวกนี้ลืมไปเสียสนิท ว่าเมื่อครู่ พวกเขาเพิ่งจะรอดพ้นจากความตายอย่างฉิวเฉียด ยามนี้ ทั้งหมดกลับถูกธรรมชาติอันงดงามของหุบเขา ดึงดูดความสนใจเข้าอย่างจัง

       "แต่ที่นี่คือที่ไหนกันนะ ในแผนที่มีรึเปล่า"

       "ที่นี่น่ะหรือ...เจอแล้ว นี่ไง มันเขียนว่า หุบเขาเคซาน"

       "เคซาน...ฉันเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"

       "บรรยากาศสวยงามขนาดนี้ ย่อมต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่ออยู่แล้ว จะเคยได้ยินก็ไม่แปลก"

       "หืม...แต่ยังเร็วไป ที่จะสรุปว่า ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยว"

       "นั่นไง ได้ยินอะไรรึเปล่า"

       สีหน้าทุกคนแย่ลงทันที ไม่ว่าจะดูยังไง แต่ที่แห่งนี้ก็ไม่มีผู้เล่นคนอื่นอีกแล้ว ในหุบเขาอันกว้างใหญ่ กลับมีแค่พวกเขาตามลำพัง ไม่มีแม้แต่มอนสเตอร์สักตัว มีเพียงเสียงสายลมพัดผ่าน

       บางสิ่งไม่ชอบมาพากล

       "รู้สึกไม่ค่อยดีแฮะ รีบหาทางออกกันเถอะ"
     
       "ช--ใช่"

       ฝีเท้าถูกย่ำด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น ไม่มีใครสนใจชมวิวข้างทางอีก มีเพียงจ้ำไปด้านหน้าให้เร็วที่สุด ไม่นานก็พบว่า ณ หุบเขาแห่งนี้ ล้วนเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่มากมายสองข้างทาง

       "พวกนี้คืออะไร"

       "ฉันไม่รู้...อาจจะมีมอนสเตอร์อยู่ก็ได้"

       ทันใดนั้น...

       โฮกกกก!

       แฮร่~~!

       จิ้บ จิ้บ จิ้บ

       เสียงประหลาดดังออกมาจากปากถ้ำ ฟังดูคล้ายกับเสียงสัตว์ หรือไม่ก็เสียงหัวเราะของใครบางคน ทันใดนั้น เงาตะคุ่มขนาดยักษ์ก็โผล่ออกมาจากถ้ำ

       ซวบ...ซวบ...

       เงายักษ์ดังกล่าวมีทั้งหมดแปดขา มันค่อยๆ ไต่ลงมาจากกำแพงที่โค้งเว้า ลักษณะแบบนี้ จะต้องเป็นแมงมุมไม่ผิดแน่ แต่ขนาดของมันจะไม่ใหญ่เกินไปหน่อยหรือ หากเทียบกันแล้ว รถบรรทุกขนาด 15 ตัน จะดูเล็กลงไปทันตา

       "อึ๋ย!"

       คนในปาร์ตี้ต่างล้มก้นจ้ำเบ้า ด้วยความหวาดกลัวที่มีต่อแม่งมุมยักษ์ จึงไม่มีใครทำตัวขาแข็งยืนขึ้นได้ แมงมุมยักษ์ส่งเสียงร้องประหลาดออกมาเล็กน้อย ราวกับมันกำลังเล่นสนุกอยู่ ใยแมงมุมถูกพ่นออกมาทางก้น ขนาดของเส้นใยมีความหนายิ่งกว่าเชือก เหนียวและแข็งแรงยิ่งกว่าสลิง คนในปาร์ตี้แหกปากโวยวายเสียงดัง เมื่อต้องถูกใยแมงมุมพันเข้ากับตัว

       ในเวลาเดียวกัน กริดกำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าหุบเขาเคซาน ความทรงจำเก่าๆ พลันย้อนกลับมาฉายวนซ้ำในสมอง

       "คราวก่อน ฉันมากที่นี่ก็เพื่อตาย ตาย ตาย แล้วก็ตาย..."

       ความหวาดกลัวที่มีต่อหุบเขาเคซาน ทำให้กริดเก็บไปฝันอยู่หลายคืน ที่แห่งนี้ทำให้เขาหลอนไม่น้อย การจะข่มตาหลับลง มีแต่ต้องสังหารมอนสเตอร์อย่างบ้าคลั่ง ให้สาแก่ใจตนเท่านั้น

       "มอนสเตอร์ที่นี่แปลกฉิบ..."

       ทุกตัวล้วนมีหน้าตาพิลึกกึกกือ ทั้งรูปลักษณ์และความสมดุลย์ โดยหนึ่งในนั้น 'แมงมุมหุบเขา' คือตัวที่กริดไม่มีวันลืมลง

       'แมงมุมยักษ์...ที่กินคนทั้งเป็น...'

       ความสยองขวัญเมื่อถูกใยเหนียว รัดพันร่างกาย เท่านั้นยังไม่พอ ปากกว้างๆ ของมันยังค่อยๆ อ้า และคลืบคลานเข้ามากลืนกินจากบริเวณหัว อย่างช้าๆ

       'โชคยังดี ที่ผู้เล่นไม่ต้องสัมผัสกับประสบการณ์ถูกเคี้ยวทั้งเป็น ตัวละครจะเสียชีวิต และไร้ความรู้สึกทันทีที่เข้าไปในปาก...'

       กริดย้อนนึกกลับไปยังช่วงเวลานั้นอีกครั้ง ก่อนจะตั้งสติกลับมา

       "เลิกคิดไร้สาระ รีบตามหาภาพวาดวิถีดาบแห่งแพ็กม่าดีกว่า"

       ความตายที่นี่เป็นเพียงอดีตไปแล้ว

       "เราไม่ใช่คนเดิมอีก! เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นถึงพลังของไอเท็มเอง ไอ้พวกมอนสเตอร์!  ตายซะ! ตายซะ!"

       กริดตะโกนปลุกใจ และเดินเข้าไปในหุบเขา  ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด ขาของกริดกำลังสั่นระริกพึบพับเป็นไก่ตีปีก

Comments

  1. สั่นสู้สินะ

    ReplyDelete
  2. ยืมคำพูด ฮิรุม่าแปป "ฆ่ามันซ้าาาาา!!!!!!!"

    ReplyDelete
  3. ตีได้ก็ตี ตีไม่ได้ก็หนี
    เวลได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง

    ReplyDelete
  4. โคตรเพื่อนเลว ไม่ต้องไปเสวนากับพวกนั้นอีกแล้วเน่อกริด แต่กรรมตามทันชะมัด โดนแมงมุมหุบขำแดกไปซะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00