จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 53
"บ้าฉิบ! โธ่เว่ยยย!!"
แค็ซท์ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคลาสระดับอีปิก กำลังอยู่ในภาวะหงุดหงิดสุดขีด
ย๊ากก!!
[ ท่านสังหารนักสำรวจที่ถูกจองจำ ]
[ ท่านได้รับเงินจำนวน 5 เหรียญทอง ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม เสื้อที่ชุ่มไปด้วยพิษ ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 543,500 หน่วย ]
"อึก...!"
[ ท่านสังหาร นักสำรวจผู้โดดเดี่ยว ]"ตายซะเถอะ!!"
[ ท่านได้รับเงินจำนวน 2 เหรียญทอง ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 617,000 หน่วย ]
เมื่อราวเดือนก่อน แค็ทซ์สามารถไต่ขึ้นไปเป็นผู้เล่นอันดับที่ 39 ได้สำเร็จ เป็นผลพวงอันแสนพึงพอใจจากคลาสระดับอีปิกที่ได้ครอบครอง แค็ทซ์รู้สึกปลื้มปิติเป็นที่สุด เขาใช้เวลาเพียงเดือนเดียวในการก้าวขึ้นจากอันดับ 53 กลายมาเป็นอันดับ 39 ได้อย่างน่าตกตะลึง ในใจจึงกระหยิ่มยิ้มย่องว่าเป้าหมายคงอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น
แต่จู่ๆ ก็พลันเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลขึ้น โดยแม้เขาจะอยู่ในเกมตลอดทั้งวันทั้งคืนยกเว้นเวลานอน แต่ถึงกระนั้นแค็ทซ์กลับยังติดแหง่กอยู่อันดับ 39 ไม่ยอมขยับไปไหน จนกระทั่งวันนี้ อันดับของเขาหล่นลงไปอยู่ 40 เข้าจนได้ ความภูมิใจที่สั่งสมขึ้นมาจึงต้องแตกกระจายเป็นเสียงๆ ในพริบตา
"บ้าฉิบ! ทำไมเราถึงได้ติดแหง่กอยู่อันดับ 40 มาเป็นเดือนแล้วนะ?"
เขาผู้ซึ่งได้รับคลาสอีปิกมาครอบครอง ได้ประกาศให้โลกรู้ว่าจะแย่งชิงอันดับ 1 มาให้ได้ แล้วนี่คืออะไรกัน? ผู้คนทั่วโลกคงได้หัวเราะเยาะจนฟันหักเอาแน่ถ้าหากมาเห็นลำดับของผู้เล่นล่าสุดในตอนนี้ บุตรชายคนที่สองของประธานกลุ่มบริษัท 'เจไอเอ็น' ซึ่งเป็นกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น กำลังถูกผู้คนทั่วโลกตราหน้าว่าเป็น 'คนโม้เหม็น'
'ไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่ว่าจะเค้นสมองคิดมากเท่าใด เราก็ไม่เข้าใจเลยให้ตายสิ'
แค็ทซ์คิดไปพลาง ทุบมอนสเตอร์ไปพลาง
'ทั้งพลังโจมตีและความเร็วในการโจมตีของนักรบโลหิตนั้นไม่มีใครทัดเทียม ไม่มีคลาสใดจะเก่งฉกาจในการล่ามอนสเตอร์เทียบเท่าเราได้อีก ถ้าอย่างนั้นเหตุใดอันดับของเราถึงไม่เพิ่มขึ้นเลยล่ะ? คนพวกนั้นมันเก็บเลเวลไวกว่าเราด้วยวิธีไหน?'
แค็ทซ์มีเลเวล 215 ในปัจจุบัน นับตั้งแต่เลเวล 210 ขึ้นมา ค่าประสบการณ์ที่ใช้ในแต่ละเลเวลจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลก้าวกระโดด บรรดาผู้เล่นต่างเรียกช่วงเลเวลนี้ว่า 'ขุมนรก' และแค็ทซ์ก็พยายามไต่ขุมนรกนี้ด้วยการออกล่าตามลำพัง
แต่ถึงกระนั้นอันดับของแค็ทซ์ก็ยังคงที่ ทุกอย่างที่ทำไปราวกับไร้ค่า ถ้าไม่นับว่าเลเวลยังไต่ขึ้นมาอยู่บ้าง เขาใช้พลังอำนาจแห่งเงินของธุรกิจครอบครัวเพื่อซื้อไอเท็มที่ดีที่สุดมาสวมใส่ ทว่าอันดับของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น...
"จะบอกว่า... ทักษะการเล่นเกมของเราด้อยกว่าพวกมันรึ?"
แค็ทซ์ไม่เข้าใจเลย
"ตัวเราที่ไม่เคยพลาดการเป็นผู้เล่นหัวกะทิเลยสักเกมเนี่ยนะ?"
เมื่อแค็ทซ์ถูกนำไปเปรียบกับพี่น้องทั้งสองคนที่ถูกขนานนามว่า 'อัจฉริยะ' ดูเหมือนสติปัญญาของแค็ทซ์จะด้อยกว่าสองคนนั้นเล็กน้อย แถมการควบคุมอารมณ์ก็เป็นอีกปัจจับสำคัญที่ทำให้แค็ทซ์ถูกตัดออกจากการเป็นผู้สืบทอดกิจการ ทว่าการเล่นเกมนับเป็นพรสวรรค์สูงสุดของแค็ทซ์ตั้งแต่เด็ก ที่ไม่ว่าจะพี่หรือน้องคนไหนก็มิอาจเทียบเคียงได้ แม้กระทั่งถึงขั้นที่ทระนงตนว่าเป็นนักเล่นเกมอันดับหนึ่งบนโลกนี้ไปแล้ว
แต่ในวินาทีนี้ ความโอหังเหล่านั้นกำลังถูกขดขยี้เป็นผุยผง
"ยอมรับไม่ได้... เราไม่มีวันยอมรับเรื่องนี้ได้เด็ดขาด!"
แค็ทซ์ถูกเปรียบเปรยเป็นไอ้ขี้แพ้ในชีวิตจริงที่มิอาจก้าวข้าวกำแพงอันสูงตระหง่านของพี่น้องไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดจะเป็นไอ้ขี้แพ้ในซาทิสฟายอีก เขาจึงตัดสินใจทำบางอย่าง
'เราจะย้ายสถานที่ล่า ต้องเป็นที่ๆ ยากยิ่งกว่านี้ขึ้นไปอีก!'
ในปัจจุบันแค็ทซ์ออกล่าในดงมอนสเตอร์เลเวล 230 ซึ่งมอนสเตอร์เหล่านี้จะโผล่ออกมาครั้งละ 3 ตัวและมีทักษะที่ต่างกัน ทำให้ถึงแม้จะเป็นผู้เล่นติดอันดับก็ตาม แต่คนอื่นมักเลือกออกล่าเป็นปาร์ตี้มากกว่า
และถึงจะเป็นแค็ทซ์ นักรบโลหิตผู้สามารถดูดพลังชีวิตของศัตรูมาเป็นของตนได้ การออกล่าที่นี่เขาก็ต้องพึ่งพาโพชั่นพลังชีวิตขั้นสูงช่วยด้วย แล้วคนอย่างเขาคิดจะเปลี่ยนที่ล่าไปยังสถานที่ซึ่งโหดร้ายกว่านี้อีกรึ? ไม่ว่าคลาสจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่การพลาดแม้เพียงวินาทีเดียวก็มากพอจะส่งให้เขาไปสู่ความตายได้ในพริบตา
แต่แค็ทซ์มีเงิน
'เราจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ โพชั่นก็ด้วย'
อาวุธและชุดเกราะของแค็ทซ์ในตอนนี้ล้วนเป็นระดับยูนีคทุกชิ้น แต่นั่นก็ยังไม่พอจะสนองกิเลสของเขาได้ โดยเฉพาะชุดเกราะและถุงมือ สองส่วนนี้ยังไม่เป็นที่พอใจของแค็ทซ์เท่าใดนัก
[ ชุดเกราะแห่งความเศร้าโศก ]
ระดับไอเท็ม: ยูนีค
ความคงทน: 38/310 พลังป้องกัน: 459 ความเร็วในการโจมตี: -11%
* สะท้อนความเสียหาย 10% คืนให้กับผู้โจมตี
* เมื่อค่าความคงทนต่ำกว่า 100 ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 5%
เป็นชุดเกราะของ ‘เดย์โหมด’ อดีตอัศวินผู้แข็งแกร่ง ที่สวมในตอนสู้กับปิอาโร่เมื่อต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทรยศ
ชุดเกราะของเดย์โหมดนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเจ็บปวด
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 180 หรือสูงกว่า ค่าพละกำลัง 750 หรือสูงกว่า ค่าความอดทน 600 หรือสูงกว่า ทักษะความชำนาญชุดเกราะหนักขั้นกลางเลเวล 4 ขึ้นไป
น้ำหนัก : 2,300 หน่วย
[ ถุงมือวายุทมิฬ ]
ระดับไอเท็ม: ยูนีค
ความคงทน: 110/170 พลังป้องกัน: 57 ความเร็วในการโจมตี:+5% ความแม่นยำ:+10%
ถุงมือที่สวมใส่โดยนักฆ่าแห่งวายุทมิฬ
เป็นถุงมือที่เบาสบายง่ายต่อการสวมใส่ ท่านจึงสามารถโจมตีศัตรูได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
เงื่อนไขการใช้งาน: เลเวล 200 หรือสูงกว่า ค่าความว่องไว 220 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก: 200 หน่วย
ชุดเกราะแห่งความเศร้าโศกจัดว่ามีเอฟเฟคที่ยอดเยี่ยม แต่พลังป้องกันของมันถือว่าน้อยกว่าเกราะหนักในระดับใกล้เคียงกัน ในขณะที่ถุงมือวายุทมิฬนั้นมีพลังป้องกันพื้นฐานที่ดี แต่ก็ไร้ซึ่งเอฟเฟคที่หวือหวา ไอเท็มทั้งสองชิ้นค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพต่ำ ถ้าหากนำไปเทียบกับไอเท็มระดับยูนีคชิ้นอื่น
"เราต้องการชุดเกราะกับถุงมืออันใหม่"
แค็ทซ์ตัดสินใจล็อคเอ้าท์ออกจากเกมและเข้าไปยังเว็ปไซต์สำหรับประมูลไอเท็มทันที โดยสิ่งที่มองหาคือชุดเกราะกับถุงมือ รายชื่อไอเท็มนับหมื่นชนิดได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แต่ก็ไม่มีอันใดเลยที่จะยอดเยี่ยมไปกว่าชุดเกราะแห่งความเศร้าโศกและถุงมือวายุทมิฬของเขา ดูเหมือนทั้งสองจะเป็นไอเท็มที่ดีที่สุดในเวลานี้แล้ว
"...บ้าชะมัด"
แม้ว่าเขาต้องการจ่ายเงินซื้อไอเท็มในเกมมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีไอเท็มใดให้ซื้อแม้แต่ชิ้นเดียว แค็ทซ์ก่นด่าสาปแช่งเหล่าผู้เล่นคลาสช่างตีเหล็กไม่หยุดปาก
"พวกช่างตีเหล็กมัวไปทำอะไรกันอยู่วะ? ทำไมไม่คิดจะสร้างไอเท็มที่มันเจ๋งกว่าที่ดรอปจากดันเจี้ยนบ้าง? คนพวกนี้ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเอาซะเลย"
ในซาทิสฟายมีผู้เล่นรวมกันกว่าสองพันล้านคน ความต้องการไอเท็มจึงอยู่ในระดับมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้ ทว่าการเติบโตของคลาสสายผลิตกลับเป็นไปโดยเชื่องช้า ทำให้ผลผลิตที่ออกมาไม่สอดคล้องกับความต้องการ พวกเขาได้แต่หวังว่าสักวันจะมีช่างตีเหล็กชั้นยอดปรากฏตัวขึ้น
ยูเฟอมิน่าคือคนที่มีวาสนาได้พบกับช่างตีเหล็กนามว่ากริด เธอได้ขอร้องให้เขาสร้างไอเท็มขึ้นมาให้ ทว่าในตอนนี้ ยูเฟอมิน่ากำลังรู้สึกตึงเครียดสุดขีด
ณ เมืองฟรอนเทียร์ เมืองหลวงแห่งเอิร์ลสไตม
ที่แห่งนี้คราคร่ำไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมหาศาลในทุกวัน ยูเฟอมิน่ามาถึงที่นี่ได้ราวหนึ่งอาทิตย์แล้ว เธอกำลังพยายามรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด และเอาแต่เฝ้ามองตลาดอยู่ตลอดเวลา เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไปตรวจดูรายชื่อไอเท็มตามเว็บไซต์และโรงประมูลทุกชั่วโมง
แต่ถึงกระนั้นก็ยังหาสูตรการผลิตลูกแก้วเวทย์มนต์ไม่ได้เลยสักชิ้น ไม่สิ ราวกับสูตรการผลิตลูกแก้วทั้งหมดได้อันตรธานหายไปจากเกมในพริบตายังไงยังงั้น เดิมทียูเฟอมิน่าไม่ได้สนใจกับการสร้างไอเท็มนัก เรื่องในคราวนี้จึงทำให้เธอได้รับรู้เป็นอย่างดี ว่าการผลิตไอเท็มขึ้นแต่ละครั้งยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน โดยเฉพาะสูตรการผลิตไอเท็มเลเวลสูง พวกมันหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
"อา… บ้าฉิบ นี่เราคว้าน้ำเหลวอีกแล้ว การสร้างไอเท็มมันยากเย็นขนาดนั้นเลยรึไงกัน?"
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ยูเฟอมิน่าได้ตระเวนไปทุกเมืองใหญ่ในอาณาจักรอีเทอนัลจนทั่ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจสักที เธอนึกอยากร้องไห้ขึ้นมาจับใจ แม้จะมีเงินจำนวนมากถึง 6,500 เหรียญทองจากรางวัลภารกิจของแร็บบิทอยู่กับตัวก็ตาม เดิมทีเธอคิดว่าคงจะหาซื้อสูตรการผลิตลูกแก้วได้ไม่ยากถ้ามีมีเงินมากพอ แต่เธอคิดผิด จนแล้วจนรอดเธอก็ยังหามันไม่พบ
'คนพวกนี้น่ารำคาญจังแฮะ...'
สีหน้าของยูเฟอมิน่าถมึงทึงตึงเครียด เธอกำลังยืนอยู่ที่หน้าโรงประมูลประจำเมือง ด้วยทักษะการตรวจจับระดับสูงที่มี เธอจึงรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังแอบซุ่มจ้องมองอยู่ เป็นเช่นนี้มาสองวันแล้ว มีคนบางกลุ่มกำลังจับตาเธออยู่ทุกฝีก้าว
'พวกไหนกันนะ?'
ยูเฟอมิน่าคือผู้เล่นติดอันดับปริศนา เธอยอมเสียผลประโยชน์หลายอย่าง เช่นชื่อเสียง เงินทองที่อาจได้รับจากการออกสื่อ โดยการไม่ยอมเผยชื่อของตนในรายชื่อจัดอันดับ แถมเธอยังสร้างชื่อปลอมขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วนเพื่อปิดบังตัวตน มันจึงเป็นการยากที่จะมีใครตามรอยมาได้ นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีเธอถูกติดตามใกล้ชิดขนาดนี้
"ไม่สบอารมณ์เลยแฮะ..."
ใคร? ทำไม? และทำได้ยังไง?
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจเดินมายังซอยเปลี่ยวไร้ผู้คน หลังจากนั้นก็พูดขึ้นกับอากาศ "ออกมาซะ ฉันรู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้น..."
***
"ออกมาซะ ฉันรู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้น"
"...!!!"
คำพูดของเป้าหมายได้ทำให้ 'เฟคเกอร์' ใจเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะ
'บ่าน่า… นี่เธอเห็นการพรางตัวของเรางั้นรึ?'
ไม่ เป็นไปไม่ได้แน่ เฟคเกอร์ผู้นี้คืออัจฉริยะที่สามารถไต่ขึ้นไปอยู่อับดับหนึ่งของคลาสนักฆ่าด้วยระยะเวลาเพียงแปดเดือนหลังจากที่เริ่มซาทิสฟาย แม้กระทั่ง 'โอล์ดซอร์ดดีม่อน' อดีตนักฆ่าอันดับหนึ่งผู้ครองบัลลังก์มายาวนานก็ยังต้องเสียท่าให้เขา
'ไม่มีทางที่ช่างตีเหล็กจะตรวจจับเราพบแน่'
เฟคเกอร์ผู้มั่นใจในตนเองได้พิมพ์ข้อความสนทนาไปยังปาร์ตี้ทันที
(หล่อนไม่น่าจะหมายถึงฉันนะ น่าจะเป็นพวกนายมากกว่า)
อีกฝ่ายรีบสวนกลับมาทันที
(อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย! พวกเราอยู่ห่างจากหล่อนไกลโข! ไม่มีทางที่หล่อนจะรู้ตัวได้แน่!)
(เฮ้ เฮ้ ลองดูดีๆ สิ ไม่ใช่ว่าหล่อนจ้องมาที่นายตั้งแต่แรกแล้วรึไง?)
(ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ น่าฆ่าอันดับหนึ่งกลับถูกช่างตีเหล็กธรรมดาพบตัวอย่างง่ายดาย)
(ทำไมต้องเข้าไปใกล้ขนาดนั้นด้วยล่ะ? หรือศักดิ์ศรีนักฆ่าอันดับหนึ่งมันค้ำคอกัน?)
เฟคเกอร์และสมาชิกปาร์ตี้ที่เหลือทุกคนต่างเป็นสมาชิกของกิลด์เซดาก้าห์ทั้งสิ้น
ทุกอย่างมันเริ่มมาจากหนึ่งเดือนก่อน
กิลด์เซดาก้าได้รับข้อมูลว่ามีการแข่งขันผลิตไอเท็มในวินสตัน พวกเขาจึงไปรวมตัวกันที่นั่นด้วยความไวสูงสุด หลังจากนั้นก็สืบหาถึงช่างตีเหล็กผู้ที่ผลิตมีดสั้นระดับอีปิกขึ้นมา ในการแข่งวันนั้นมีผู้ชมจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่กิลด์เซดาก้าห์จะได้ข้อมูล
ชื่อตัวละครของช่างตีเหล็กคนนั้นคือ 'เอริน่า' เพศหญิง ส่วนสูงราว 160 เซนติเมตร อายุราว 17-19 ปี เธอมีผมสีบลอนด์ที่ยาวถึงสะโพก และยังมีใบหน้าที่งดงามหมดจดยากจะลืมเลือน
กิลด์เซดาก้าห์ได้ร่างภาพของเอริน่าขึ้นจากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันออกไปตามหาในทุกทิศทาง จนกระทั่งสองวันก่อน เฟคเกอร์ได้พบเธอกำลังเตร็ดเตร่อยู่ที่เมืองฟรอนเทียร์
เมื่อจิสีกะได้รับรายงานจากเฟคเกอร์ เธอจึงรีบออกคำสั่ง
{ ฉันจะไปพบเธอด้วยตัวเอง ก่อนหน้านั้นจับตาดูไว้อย่างให้คลาดสายตาเด็ดขาด }
และในตอนนี้
งานเฝ้าสะกดรอยของเฟคเกอร์ได้อยู่ระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะถูกเอริน่าพบตัวเข้า
ผิดคนแล้วฮ่าๆ
ReplyDeleteลงเอยอีหรอบนี้จนได้สิน่า...
ReplyDelete