จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 464



       "นายมีเรื่องอะไรจะพูดงั้นหรือ"

       หลังจากเสร็จพิธีปิด

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังรวมตัวที่ภัตตาคารหรูใกล้กลับหอคอยไอเฟล  ด้วยความที่เป็นกิลด์นานาชาติ  ทำให้รูปลักษณ์ของแต่ละคนดูแปลกตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด  สีผมสีตาและสีผิวแตกต่างโดยสิ้นเชิง  แต่ก็ไม่มีใครที่รู้สึกผิดแผกแปลกพวก  ทั้งหมดกลมเกลียวและเชื่อใจซึ่งกันและกันประหนึ่งครอบครัวในสายเลือด

       "ไอ้หัวล้าน"

       "หุบปาก!  ฉันไม่ได้หัวล้าน!  ฉันแค่โกนหัว!"

       แน่นอนว่าต้องยกเว้นกรณีของป็อนและแวนเนอร์ไว้

       "ฉันพาครอเกลเข้ากิลด์ได้แล้ว"

       ท่ามกลางความวุ่นวายเล็กๆ  คำพูดของลอเอลทำให้ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึงจนพากันเงียบสงัด

       "ฟ้าเหนือฟ้าคนนั้นน่ะหรือ…"

       "ได้ยังไง"

       ป็อนและเรกัสรีบเปิดปากถาม  ไม่เหมือนกับสมาชิกส่วนใหญ่ที่รู้เรื่องนี้  ลอเอลเลือกที่จะปิดบังความจริงจากเรกัส  ป็อน  และกริดไว้  เขาเริ่มอธิบายเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้กับคนที่ยังไม่รับรู้

       "...เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้  ดังนั้นพวกเราสามารถชวนครอเกลเข้ากิลด์ได้ทุกเมื่อ"

       "..."

       ลอเอลเล่าทุกสิ่งโดยมิได้แต่งเติม  สีหน้าของเขากำลังมั่นใจสุดขีด  ลอเอลเชื่อว่ากริดและคนที่เหลือจะต้องพึงพอใจกับแผนการชักชวนครอเกลครั้งนี้แน่  แต่เปล่าเลย  สีหน้าของกริดกลับตึงเครียดโดยพลัน  กริดรีบกระดกเบียร์จนหมดแก้วและตอบกลับด้วยคำพูดที่น่าตกตะลึง

       "อย่าชวนครอเกลเข้ากิลด์เด็ดขาด"

       "...เอ๋"

       เป็นคำตอบที่เหนือความคาดหมาย  เหตุใดกริดถึงไม่ต้องการขุมกำลังที่เก่งกาจที่สุดของโลกคนนี้  ลอเอลและสมาชิกส่วนใหญ่พลันเกิดคำถามในใจ

       "พวกเราต้องการตัวครอเกล!  เขามีชะตากรรมที่ต้องร่วมสายเลือดเดียวกับพวกเรา!  เขาต้องกลายเป็นโอเวอร์เกียร์!  กิลด์ของพวกเราจะยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...!"

       ลอเอลพยายามโน้มน้าวให้กริดเห็นถึงคุณค่าของครอเกล  แต่กริดก็พูดขัดไว้

       "นายฝืนใจให้ผู้อื่นมาเป็นพวกพ้องไม่ได้หรอกนะ"

       ป็อนกล่าวเสริม

       "ครอเกลคือคนที่ชอบลุยเดี่ยวเสมอ  ฉันได้ยินมาว่า  เขาไม่ชอบรวมกลุ่มกับใคร  พวกเราไม่มีทางกุมหัวใจเขาได้ด้วยการบีบบังคับแน่  มันอาจเกิดรอยร้าวขึ้นในอนาคต  และนั่นจะเป็นอันตรายอย่างมาก"

       ลอเอลพยายามโต้แย้ง

       "ทุกคนเปลี่ยนกันได้!  ดูอย่างพวกเราสิ!  เหตุผลที่พวกเรามารวมตัวกันในตอนแรกนั้นไม่บริสุทธิ์!  พวกเราร่วมมือกันเพราะมีบางสิ่งที่ตนเองต้องการ  แต่ระหว่างทางที่พวกเราพยายามทำมันให้สำเร็จ  หัวใจของทุกคนค่อยๆ หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวจากความสามัคคี  ครอเกลเองก็เช่นกัน  เขาอาจชอบลุยเดี่ยวในตอนนี้ก็จริง  แต่สักวัน..."

       "พอเถอะ"  กริดยังคงยืนกราน
       "ครอเกลไม่ใช่คนที่เราจะจับเขามาใส่กรงขังไว้ได้  แถมพวกเราก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดต้องยึดติดกับครอเกลมากเกินไป"

       นับตั้งแต่ซาทิสฟายเริ่มเปิดตัว  ครอเกลเป็นผู้เล่นโซโล่และรั้งอันดับหนึ่งของโลกมาโดยตลอด  แสดงให้เห็นว่านี่คือรูปแบบการเล่นที่เขาพึงพอใจและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด  หากถูกจับเขามาขังไว้เป็นกลุ่มก้อนจนต้องเปลี่ยนสไลต์การเล่น  ครอเกลก็จะไม่ใช่ครอเกลอีกต่อไป  ดังเช่นที่พบเห็นมากมายในเกมสร้างฐาน  ศัตรูที่จับมาได้มักอ่อนแอลงเสมอ

       "นั่นก็แค่ในความคิดของนาย!"

       เป็นลอเอลที่พยายามยืนกรานเสียงแข็งจนหยดสุดท้าย  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครต่อว่าลอเอล  ทุกคนในกิลด์ล้วนเข้าใจหัวอก  ลอเอลต้องยอมสละเหรียญทองอันมีค่าของตนเพื่อแลกมากับการชักชวนครอเกล  ในเมื่ออันดับหนึ่งของโลกกำลังอยู่ตรงหน้ารอให้ไปคว้าตัวมา  แต่กริดกลับปฏิเสธความหวังดีและทุกสิ่งที่ผ่านมากำลังจะสูญเปล่า  ตอนนี้ลอเอลหงุดหงิดใจและผิดหวังขนาดไหน  มีใครในกิลด์บ้างไม่รู้  แต่พวกเขาก็ต้องคำนึงถึงปัญหาภายในที่อาจเกิดขึ้นด้วย

       เมื่อกริดเห็นถึงความปวดใจของลอเอล  เขาจึงพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

       "ลอเอล… ฉันเพิ่งจะแพ้ครอเกลมานะ"

       ครอเกลเป็นเป้าหมายกริดอยู่เสมอ  เขาคือท้องฟ้าที่กริดหวังเอื้อมไปถึง  เพียงแต่คราวนี้ยังทำไม่สำเร็จ  

       "มันอาจฟังดูตลก  แต่ฉันคิดเสมอว่า  ตนเองคือคู่ปรับตลอดกาลของครอเกล  ฉันอยากแข่งกับเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะก้าวข้ามได้ในสักวัน"

       "..."

       ในที่สุดลอเอลก็ตระหนักได้

       'เรา… ไม่เคยเข้าใจความคิดของกริดเลยสักครั้ง!'       

       มันคงอึดอัดใจและเสียศักดิ์ศรีอย่างน่าประหลาด  หากต้องมีลูกน้องที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ใต้บังคับบัญชา  ในที่สุดลอเอลก็ยอมเข้าใจกริด  เขาพยักหน้าเบาๆ และตอบกลับไปว่า

       "เข้าใจแล้ว… ฉันจะฉีกสัญญากับครอเกลทิ้ง"

       กริดถามอย่างซื่อตรงราวกับเขาไม่เข้าใจมันจริงๆ

       "ทำไมล่ะ"

       "...นายบอกเองไม่ใช่หรือว่าจะไม่ชวนครอเกลเข้ากิลด์"

       กริดแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย

       "ไม่ชวนเข้ากิลด์  ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำข้อตกลงต่อกัน"

       ***

       หลังจากเสร็จพิธีปิด  ความสนใจในการแข่งนานาชาติก็เริ่มลดลง  แต่มีหัวข้อหนึ่งที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงแทรกขึ้นมาแทน  ชื่อของครอเกลได้สูญหายไปจากตารางอันดับเลเวลรวม  ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก  ทำให้ครอเกลที่ถูกนักข่าวตามล่าตัวต้องรีบขึ้นเครื่องเจ็ทของนักกีฬารัสเซียโดยพลัน

       'ลอเอลบอกว่าจะติดต่อกลับมาใน 30 นาที'

       เขาตัดสินใจล็อกอินเข้าซาทิสฟายระหว่างรอ  ครอเกลเชื่อมต่อโดยใช้แคปซูลบนเครื่อง  หลังจากนั้นก็รีบเปิดหน้าต่างสถานะออกมาดู

ชื่อ : ครอเกล
เลเวล : 1
คลาส : อริยะดาบ
* สามารถสวมใส่ไอเท็มประเภทดาบได้ทุกชิ้นโดยไม่สนใจเงื่อนไข
* ดาบทุกเล่มจะมีฟังก์ชั่นลับเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อท่านทำการสวมใส่
* ท่านสามารถสร้างทักษะดาบขึ้นเองได้  จำนวนครั้งที่สร้างได้จะเพิ่มขึ้นเมื่อทักษะ 'ความชำนาญดาบขั้นสมบูรณ์' เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
สมญานาม : ผู้ที่กลายเป็นตำนาน
สมญานาม : นักสำรวจทวีปตะวันออก
สมญานาม : คำสาปโทรลล์จ่าฝูง...
สมญานาม : ...
...
...
พลังชีวิต : 1,485/1,485
มานา : 100/100
พละกำลัง : 50 (+120)
ความอดทน : 15 (+50)
ความว่องไว : 30 (+60)
สติปัญญา : 10 (+10)
ความเยือกเย็น : 10
ความทรหด : 10
ความน่าเกรงขาม : 10
วิสัยทัศน์ : 10 (+40)
การฟื้นฟูตามธรรมชาติ : 30
อ่านใจ : 0.1

       'เหนือกว่าที่คาดไว้มาก...'

       ครอเกลตกตะลึงกับคลาสอริยะดาบในหลายเรื่อง  ก่อนอื่นเลยก็เรื่องเลเวลที่ลดลงเหลือเพียงหนึ่ง  ทักษะและค่าสถานะที่สั่งสมมานานพลันมลายหายไปหมดสิ้น  แต่โชคยังดีที่สมญานามต่างๆ ยังคงอยู่  และค่าสถานะพื้นฐานของอริยะดาบก็ยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มาก  แถมด้วยความที่รัสเซียคว้าอันดับหนึ่ง  จึงได้รับบัฟค่าประสบการณ์ 30% เป็นเวลาสองสัปดาห์  จึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะรีบเก็บเลเวลชดเชยคืนมา  

       แต่สิ่งสำคัญก็คือ  ทักษะติดตัว 'หยั่งรู้' นั้นหายไปแล้ว  และทักษะ 'อ่านใจ' กลายมาเป็นค่าสถานะชนิดหนึ่งแทน

       'มีอ่านใจเป็นทักษะติดตัว...'

       และเมื่ออยู่ในรูปค่าสถานะ  มันจึงเป็นทักษะติดตัวที่สามารถเพิ่มระดับได้ไม่รู้จบ  ในอีกความหมายหนึ่ง  ประสิทธิภาพแรกเริ่มของมันจะด้อยกว่า 'อ่านใจ' ที่ต้องกดใช้แบบเก่า  แต่ในอนาคตนั้นไม่ใช่แน่  หากเขาหาทางเพิ่มตัวเลขค่าสถานะอ่านใจได้เรื่อยๆ  ครอเกลจะกลายเป็นปีศาจที่มีผลทักษะ 'อ่านใจ' ติดตัวตลอดเวลา  บางทีมันอาจพัฒนาขึ้นไปไม่เท่าของเก่า  ถึงกระนั้นก็ไม่มีทางด้อยกว่าเก่ามากแน่นอน  

       >> ครอเกล  นายออกมาสักครู่ได้ไหม

       เสียงคนผู้หนึ่งดังขึ้นจากระบบเรียกขานนอกแคปซูล  เป็นเสียงของอเล็กซานเดอร์  สกินเฮดอเล็กซานเดอร์  อเล็กซานเดอร์ผู้คลั่งชาติ  ในยามนี้เขากลายมาเป็นเบ๊ของครอเกลเต็มตัวแล้ว  เขารู้สึกเสียใจที่เคยดูหมิ่นครอเกลไว้  และความรู้สึกนั้นพัฒนาขึ้นไปเป็นความศรัทธาอย่างแรงกล้าเมื่อครอเกลสามารถนำพารัสเซียกลายเป็นอันดับหนึ่งของโลกสำเร็จ

       >>  มีอะไรงั้นหรือ

       อเล็กซานเดอร์อธิบาย

       >>  ไอ้ลิงนั่น… เอ้ย… มีชาวเกาหลีคนหนึ่งบอกว่าต้องการพบนาย  

       >>  ใครกัน

       >>  ก--กริด… ทำไมหมอนั่นถึงอยากพบนายหลังจากที่เพิ่งแพ้มากันนะ  หรือฉันควรส่งมันกลับไปดี 

       >>  ไม่  ไม่ต้อง

       ครอเกลรีบล็อกเอาต์  เขารู้ดีว่ากริดมาหาตนทำไม

       'ลอเอลคงเล่าทั้งหมดให้ฟังแล้วสินะ'

       เมื่อกริดรู้ความจริงแล้ว  ตอนนี้คงเดินทางมาเพื่อให้ตนลั่นสัตย์สาบานเป็นลูกน้อง  กลุ่มก้อนองค์กรณ์ใหญ่ย่อมมีการปกครองเป็นลำดับชั้นเช่นนี้อยู่แล้ว  ครอเกลอมยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะลุกออกจากแคปซูล  แต่ภาพที่เห็นทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อย

       "อ๊า..."

       "อร๊าง~"

       ที่ประตูเครื่องบิน  นักกีฬาทีมรัสเซียซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ต่างพากันล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง  สาเหตุยังไม่แน่ชัด  ไม่มีใครทราบความจริงได้  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายนิ้วของกริดสัมผัสเข้ากับร่างกายพวกเขา  

       "อ--อุฮ๊า~!"

       เหยื่ออีกรายส่งเสียงพิสดารหลังจากถูกกริดสัมผัสร่าง  ในเวลาเดียวกัน  กริดก็กำลังก้มหน้าจ้องกลุ่มคนที่ล้มลงด้วยใบหน้าเขินอาย...

       "ม--หมอนั่นทำอะไร!"       

       อเล็กซานเดอร์พลันหวาดกลัวสุดขีดและรีบวิ่งไปหลบหลังครอเกล  เขากลัวว่ากริดจะใช้ยาแปลกๆ เพื่อทำให้พวกพ้องตนเป็นเช่นนี้

       "สวัสดี"

       เมื่อกริดเห็นครอเกลจึงกล่าวทักทาย  ทางด้านครอเกลก็ถอดเครื่องแปลภาษาออกและทักทายกริดด้วยภาษาเกาหลี

       "ยินดีที่ได้พบนายอีกครั้ง  แม้จะเพิ่งผ่านมาแค่สองชั่วโมงก็ตาม"

       "นายพูดเกาหลีได้ไม่เลว"

       "ไม่มีทางที่ฉันจะพูดภาษาบ้านเกิดตัวเองได้แย่หรอกนะ"

       "หืม..."

       กริดถอดเครื่องแปลภาษาไร้ประโยชน์ออก  เขาสำรวจร่ายกายครอเกลด้วยสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย  แม้รูปร่างจะดูคล้ายคลึงกับในเกม  แต่ครอเกลตัวจริงกลับดูคล้ายผู้หญิงมากกว่า  แถมยังเป็นหญิงสาวที่งดงาม  กริดชื่นชมขนตาอันยาวงอนในใจก่อนจะพูดว่า

       "มาเป็นเพื่อนกัน"

       "...อะไรนะ"

       ครอเกลคิดว่ากริดจะบอกให้ตนเข้ากิลด์  ดังนั้นคำพูดแปลกประหลาดจากกริดจึงทำให้เขาผิดคาด  กริดเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับยื่นแขนออกมาขอจับมือ

       "ในวันข้างหน้า  หากใครมีปัญหา  พวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  นายไม่ต้องต่อสู้ตามลำพังอีกแล้ว"

       กริดรู้ถึงขีดจำกัดของการอยู่คนเดียวเป็นอย่างดี  เขาคาดว่าสักวัน  พลังของตนจะเป็นประโยชน์ให้ครอเกลได้

       "ฉันจะไม่ชวนนายเข้ากิลด์  พวกเราแค่ช่วยเหลือกันในยามที่เดือดร้อนก็พอ"

       "...ทำไมกัน"  ครอเกลไม่เชื่อหู
       "ทำไมนายถึงดีกับฉันขนาดนี้"

       เหตุใดกริดถึงไม่บีบบังคับให้ตนเข้ากิลด์  ทั้งที่เขามีสิทธิ์เด็ดขาดในการทำเช่นนั้นอยู่กับตัว  ทำไมถึงได้ให้อิสระตนเช่นนี้

       กริดตอบกลับเรียบง่าย

       "ฉันต้องการคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ  ฉันอยากให้นายพัฒนา  เพราะทุกครั้งที่สู้กับนาย  ฉันจะเติบโตขึ้นและบรรลุสัจธรรมหลายสิ่ง  แถมฉันก็พอใจแล้วที่มีปิอาโร่อยู่ในกิลด์"

       "..."

       กริดตอนนี้แตกต่างจากที่ครอเกลเคยพบในเรย์ดันโดยสิ้นเชิง  สีหน้าแววตาองอาจและพึ่งพาได้  ชายคนนี้มีความเป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม  แตกต่างจากสีหน้าแฝงความริษยาเล็กๆ เมื่อครั้งท้าดวลตนอย่างลิบลับ  ครอเกลขนลุกซู่  เขาเอื้อมแขนออกไปจับมือกริด

       "ขอบคุณมาก"

       'ฉันจะรีบไปหาทันทีเมื่อนายมีปัญหา  ไม่ว่าจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไกลสักเพียงใด  และขอบคุณสำหรับทุกอย่าง'

       ครอเกลเพียงคิดในใจ  เขาไม่ได้พูดคำเหล่านี้ออกไป  เพราะเขาคิดว่ากริดน่าจะเข้าใจได้โดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวเป็นทางการ  

       แต่ดูเหมือนว่า...

       "แค่ขอบคุณงั้นหรือ  สัญญากับฉันด้วยสิ  ไม่สนว่าจะนายจะกำลังทำอะไรอยู่  แต่ถ้าฉันเรียกล่ะก็  นายต้องรีบแจ้นมาหาโดยไว  อย่าลืมว่าแม่ของนายหายดีได้เพราะลอเอล  นายควรจะสำนึกบุญคุญบ้าง  เข้าใจรึเปล่า"

       "...เข้าใจแล้ว"

       ความสัมพันธ์รูปแบบเพื่อนในความหมายของกริดเป็นแบบไหนกันแน่  ครอเกลชักเกิดความลังเลใจ  ในขณะที่เขากำลังมีสีหน้าตึงเครียด  กริดก็ตบบ่าเล็กน้อย

       "เมื่อไรที่แม่นายหายดี  มาหาฉันที่เกาหลีใต้สิ  ฉันจะพาไปเที่ยวเล่น"

       "...ได้เลย"

       ขอบคุณมาก...  ครอเกลเผยรอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงออกมานานแสนนาน  มันทั้งงดงามและอบอุ่น  สุขภาพมารดาของเขาสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในโลก

       หลังจากวันนี้ไป  นักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมแข่งซาทิสฟายนานาชาติต่างก็ทยอยกลับประเทศบ้านเกิด  

       การผจญภัยครั้งใหม่กำลังรอคอยทุกคนอยู่

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00