จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 436
โฮกกกกก!
เดรกคำรามกึกก้องหลังจากที่ถูกกริดโจมตีเข้าไปชุดใหญ่ ในเวลาเดียวกัน หางของมันก็เริ่มกวัดแกว่งอย่างมั่วซั่ว
เปรี้ยงงงง!
"อั่ก!"
ร่างของชายหนุ่มถูกหางที่แหลมและเร็วฟาดเข้าอย่างจัง กริดพลันเกิดอาการตัวสั่นเล็กน้อยพร้อมกับหยดเลือดไหลซิบที่มุมปาก
'ไม่ใช่ว่ามังกรถนัดด้านเวทย์มนต์รึไง...'
ในทางสามัญสำนึก กระบวนท่าที่ร้ายกาจที่สุดของมังกรควรจะเป็นการพ่นลมหายใจ กริดคิดว่าเดรกเองก็น่าจะเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาจะเดาผิดไป เดรกตัวนี้มีลมหายใจที่เบามาก แต่การโจมตีกายภาพกับรุนแรงเกรี้ยวกราด ซึ่งตรงข้ามกับไวเวิร์นโดยสิ้นเชิง
'บัดซบ! เราคิดว่ามันอ่อนเพราะลมหายใจของมันเบามาก!'
เดรกตนนี้เก่งกาจกว่าที่กริดคาดไว้ การฟาดหางของเดรกมีความรุนแรงมากถึง 6,000 หน่วย แม้กริดจะมีพลังป้องกันทางกายภาพในระดับมหาศาลแล้วก็ตาม... ความเสียหายระดับนี้สามารถสร้างอาการ <มึนงง> และ <ชะงัก> ให้กับทุกคนที่โดนเข้าไป กริดเริ่มมั่นใจแล้วว่า ไม่มีใครสามารถล่าเดรกตนนี้ตามลำพังได้แน่นอน
เพราะต่อให้มีฝือการล่าบอสสูงส่งมาจากไหน แต่หากโดนหางเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็อาจถึงแก่ความตายได้เลย…
ทว่า… ตัวเขาไม่เหมือนกับคนอื่น
[ ท่านต้านทาน ]
ทันทีที่ถูกหางฟาด กริดก็ลบล้างอาการชะงักหรือมึนงงออกแทบจะทันที ในขณะที่เดรกกำลังชักหางกลับ กริดก็แทงดาบในมือเข้าใส่หน้าผากของมันอย่างจัง
"สังหาร!"
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 635,900 หน่วย ]
ผลจากดาบนักล่าชั้นเลิศนั้นยอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่กริดใช้ทักษะจะต้องได้เห็นข้อความคริติคอลอยู่เสมอ ความเสียหายที่สร้างขึ้นจึงเป็นตัวเลขจำนวนมหาศาล ภาพตรงหน้าทำให้กริดรู้สึกดีมาก เพราะก่อนหน้านี้หลายวัน เขาต้องถูกระบบลดทอนความเสียหาย 50% จนรู้สึกอึดอัดมานาน การปลดปล่อยในคราวนี้เหมือนกับโซ่ที่เคยพันธนาการแขนขาไว้ถูกคลายออก
ฟู่วววว!
เหตุใดมันจึงถูกมนุษย์ต่ำต้อยโจมตีใส่ครั้งแล้วครั้งเล่ากันนะ… เดรกที่เริ่มหงุดหงิดตัดสินใจพ่นลมหายใจใส่กริดโดยตรง ท่าทีของมันกำลังผ่อนคลายลงเมื่อเสาเปลวเพิ่งพวยพุ่งเข้าใส่ร่างมนุษย์ตัวเล็กอย่างร้อนแรง เป็นความมั่นใจว่ากริดจะต้องถูกเผาไหม้จนเกรียมแน่นอน แต่กริดกลับไร้รอยขีดข่วน เขากำลังสวมผ้าคลุมลันเทียร์ที่เพิ่มค่าต้านทานตามสภาพแวดล้อม กริดนำผ้าคลุมลันเทียร์มาพันห่อหุ้มร่างกายและพุ่งทะลวงผ่านลมหายใจเดรกเพื่อเข้าโจมตีในตอนที่มันไม่ทันตั้งตัว
"ทำลายล้าง"
กรี๊~!
เป็นการโจมตีแบบคริติคอลอีกครั้ง ส่งผลให้เดรกออกอาการดิ้นทุรนทุรายประหนึ่งเด็กทารก มันดูไม่น่ากลัวเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
"สุดยอด… เอาเรื่องเลยแฮะ"
"กริดเล็งโจมตีในจุดเดิมตลอด… เขาเป็นปีศาจชัดๆ"
นักกีฬาทีมเกาหลีใต้ต่างกำลังพึมพำในความป่าเถื่อนของกริด แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนรู้ดีว่า การโจมตีซ้ำจุดเดิมเรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งทำกระทำได้ง่ายเลย ทุกคนกำลังชื่มชมกริด
'ก็จริงอยู่ ที่หลักการโจมตีพื้นฐานคือต้องเน้นโจมตีซ้ำไปยังจุดเดิม ความเสียหายจะได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ...'
'เป้าหมายเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาแบบนี้ การทำเช่นนั้นย่อมไม่ง่าย'
แต่กริดก็ทำได้สำเร็จ เป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นอย่างดีว่า เขาไม่ใช่ <กริดผู้ไร้ฝีมือควบคุม> อย่างในอดีตอีกแล้ว
"พวกนายเข้าใจแล้วสินะ! นี่แหละคือความสุดยอดของก็อดกริด!"
พีคซอร์ดกล่าวอย่างตื่นเต้นยินดีในขณะจ้องมองการต่อสู้ของกริด
"ก็อดกริดมักสู้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองอยู่เสมอ!!"
ไม่มีใครเคยรู้นอกจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์ กริดนั้นปะทะฝีมือกับปีศาจที่ชื่อปิอาโร่และอันดับหนึ่งจากสองพันล้านอย่างครอเกลมาแล้ว ดังนั้นไม่ว่าฝีมือควบคุมจะเคยอ่อนหัดขนาดไหน แต่มันก็ต้องมีการพัฒนาขึ้นบ้างแน่นอน น่าเสียดายที่ฝีมือการควบคุมของกริดยังไม่เป็นที่ประจักษ์ชัดสักเท่าไรในงานแข่งนานาชาติ เพราะเขามักเอาชนะศัตรูอย่างราบคาบด้วยไอเท็มเสียก่อน ยังไม่มีโอกาสให้แสดงฝีมือที่แท้จริงเลยสักครั้ง
แต่กับเดรกตัวนี้ มันแข็งแกร่งมากจนกริดต้องเอาจริง
"พวกนายรู้จักก็อดกริดกันรึยังงงงงงงงงง~~~~!!"
เสียงกู่ร้องของพีคซอร์ดดังกึงก้องไปทั่วท้องฟ้า
กริดพลันขมวดคิ้ว
"หมอนั่นคิดจะเอะอะเสียงดังตลอดเวลาเลยรึไงนะ..."
เสียงของพีคซอร์ดดังจนรบกวนสมาธิกริด ชายหนุ่มชอบการต่อสู้อย่างเงียบงันเพื่อฟังเสียงศัตรูมากกว่า เฉกเช่นในยามที่สู้กับเฮล-กาโอ
'คงต้องรีบสร้างจอบสองหัวให้เขาโดยเร็ว'
ช่วงเวลาว่างๆ แบบนี้จะได้ก้มหน้าก้มตาขุดดินไป แทนที่จะโหวกแหวกโวยวายและทำลายสมาธิตน หากพีคซอร์ดรู้ความจริงข้อนี้เข้า เขาคงเสียใจมากแน่ ในขณะเดียวกัน กริดก็หันมาตรวจสอบพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของเดรก… 50% หลอดเลือดของเดรกตัวนี้ลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วหลังจากการดวลอย่างดุเดือดตลอดเจ็ดนาทีเต็ม แม้จะช้ากว่าทีมอย่างสหรัฐ ญี่ปุ่น รัสเซีย และสเปนมาก เพราะชาติเหล่านั้นตั้งใจล่าโดยประสานงานเป็นทีม จึงไม่แปลกที่ผลลัพธ์จะออกมาดีกว่ากริดที่ล่าคนเดียวตามลำพัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมสหรัฐ พวกเขาลดเลือดของเดรกไปได้ถึง 70% แล้ว
แต่กริดก็พอเดาได้ตั้งแต่แรก เขาจึงมิได้แสดงสีหน้ากังวล ดาบในมือยังคงกระหน่ำฟาดฟันเดรกอย่างไม่หยุดพัก
บึ้ม! บึ้ม!
เดรกเริ่มเปลี่ยนรูปแบบก่อนที่พลังชีวิตจะลดต่ำลงเกินกว่า 50%... มันเริ่มพ่นลมหายใจบ่อยขึ้น
'เราจะปล่อยให้ถูกโจมตีไม่ได้...'
ลมหายใจของเดรกแม้จะเบามาก แต่ก็ยังอยู่ในระดับ 3,000 ถึง 4,000 หน่วย ซึ่งหากโดนไปเข้ามากครั้งย่อมไม่ใช่เรื่องดี กริดรวบรวมสมาธิพร้อมกับหลบด้วยเวทย์บิน เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่กริดได้รับรองเท้าบราฮัมและเวทย์บินมาครอบครอง เขาจึงเคลื่อนไหวบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ
แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก็คือ เดรกเข้าสู่โหมดคลุ้มคลั่งจนมีระยะหน่วงของการพ่นลมหายใจเป็นศูนย์วินาที
ฟู่วววว! ฟู่วววว! ฟู่วววว!
เขาจะเอาแต่หลบตลอดไปก็ไม่ได้ มาถึงจุดที่กริดต้องยอมรับลมหายใจเข้าไปตรงๆ สักหนแล้วหาจังหวะตอบโต้ ทันทีที่เสาเปลวเพลิงอันร้องแรงกระทบร่าง กริดเกิดอาการชะงักไปเล็กน้อย แต่ด้วยช่วงเวลาเสี้ยวพริบตาก่อนที่สมญานามจะต้านทานบัฟให้ เดรกเจ้าปัญญาฉวยโอกาสฟาดหางซ้ำตามมาราวกับรออยู่นานแล้ว
เปรี้ยงงง!
ปลายหางแหลมเสียบเข้าใบหน้าของกริดอย่างรวดเร็วแม่นยำ แน่นอนว่าต้องเป็นการโจมตีที่หนักหนาและมาพร้อมกับคริติคอล นักกีฬาทีมเกาหลีใต้พลันหน้าซีด ส่วนผู้บรรยายและผู้ชมทางบ้านต่างก็เห็นเต็มสองตาเช่นกัน กริดกำลังตกอยู่ในอันตราย อันที่จริง กริดก็เสียวสันหลังกับการโจมตีนี้มาก หัวใจของเขาแทบหยุดเต้นไป... แต่ความเป็นจริงคือ ชายหนุ่มไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เลยจากการโจมตีนี้ เป็นผลมาจากออปชั่นพิเศษของเกราะไหล่ทีราเม็ท <มีโอกาสเล็กน้อยที่จะมองข้ามความเสียทางกายภาพ> การฟาดหางอันแม่นยำของเดรกจึงเป็นหมันไป
โฮกกกกก!
ไอเท็มบัดซบ...! หากเดรกพูดได้ มันคงสถบเช่นนี้ออกมา สมาชิกทีมเกาหลีต่างพากันคิดในใจ
'ถ้าฉันเป็นเดรกล่ะก็ ขอยอมตายดีกว่า'
'ฉันด้วย'
'ฉันคงกำลังสาปแช่งเขาอยู่ในใจ'
ในทางกลับกัน เมื่อเดรกเริ่มหดหางกลับ กริดก็ฉวยโอกาสนี้โจมตีสวนเข้าไป แม้หางของเดรกจะฟาดได้รวดเร็วเพียงใด แต่จุดอ่อนตอนดึงกลับนั้นชัดเจนมาก กริดอาศัยช่องว่างตรงนี้เพื่อชิงความได้เปรียบครั้งแล้วครั้งแล้ว
กรี๊!
มันส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อพลังชีวิตลดต่ำลงเกินกว่า 50% ทันใดนั้น เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแสดงให้เห็นบนหน้าจอทันที
[ สัญชาติญาณการเอาตัวรอดของเดรกทำงาน! ]
[ หัวใจของเดรกเต้นเร็วขึ้นกว่าปรกติ! ]
[ ร่างกายของเดรกกำลังลุกไหม้ ]
[ พลังป้องกันและค่าต้านทานของเดรกลดลง แต่ความเร็ว พลังโจมตี และพลังเวทย์จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า! ]
"ซวยละไง..."
ร่างของเดรกกำลังลุกไหม้อย่างร้อนแรงประหนึ่งภูเขาไฟ ภูเขาไฟขนาดมหึมาที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า! แรงกดดันมหาศาลได้ส่งผลให้แม้แต่กริดก็ยังใจเต้นโครมคราม
ฟุ่บ!
เดรกพุ่งตัวลดระยะห่างเข้าหากริดอย่างรวดเร็ว เป็นสปีดที่แม้แต่กริดผู้มีค่าความว่องไว 2,000 แต้มก็ยังมองตามไม่ทัน ชายหนุ่มหวังอาศัยผ้าปิดตาเพชฆาตเพื่อช่วยเดาทิศทางการโจมตี แต่เดรกในตอนนี้รวดเร็วเกินไป ทันทีที่มันกระพือปีก ขาหน้าของเดรกก็ฟาดเข้าใส่จมูกกริดเสียแล้ว สีหน้าชายหนุ่มพลันบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,300 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,710 หน่วย ]
รุนแรงมาก แม้จะสวมใส่สุดยอดชุดเกราะที่ลดทอนความเสียหายทางกายภาพไว้เต็มตัว แต่กริดก็ยังสูญเสียพลังชีวิตไปมากถึงหนึ่งในเจ็ดส่วนจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว แถมยังมีความเสียหายธาตุไฟแถมเพิ่มเข้ามาด้วย
'ส่วนต่างของเลเวลสินะ...'
ในสายตาของกริด การที่เดรกเก่งกาจได้ถึงเพียงนี้ เป็นเพราะมันมีเลเวลที่สูงกว่าเขาเท่านั้น ค่าสถานะของเดรกไม่ใช่สิ่งที่น่าหวั่นเกรงแต่อย่างใด… แต่หากนักกีฬาทีมอื่นได้ยินคำพูดนี้เข้า พวกเขาคงหันหน้ามามองกริดอย่างพร้อมเพียงแน่ ทำไมน่ะหรือ เพราะเดิมทีแล้ว มอนสเตอร์ชนิดบินจะมีความโกงเฉพาะตัวด้วยการบินอยู่แล้ว มันจึงควรมีค่าสถานะที่ต่ำมาก
แต่กับเดรกนั้นไม่เลย แม้จะเป็นมอนสเตอร์ชนิดบิน แต่ค่าสถานะทุกด้านล้วนอยู่ในระดับสูงสิบ ทั้งพลังโจมตี พลังเวทย์ พลังป้องกัน ค่าต้านทาน ในสายตาผู้เล่นคนอื่น เดรกมีค่าสถานะมหาศาลจนเรียกได้ว่าโกง แม้กระทั่งซีบาลที่เคยล่าบอสพิเศษมาแล้วกว่า 20 ตัว ก็ยังจัดให้เดรกตนนี้เป็นหนึ่งในบอสที่ล่ายากที่สุด บรรยาผู้เชี่ยวชาญต่างพากันวิจารย์ถึงความโกงของสิ่งมีชีวิตที่มีระดับสูงกว่ามนุษย์
ทว่า… กริดมิได้คิดเช่นนั้นเลย
ทั้งข้ารับใช้แห่งยาธาน มาลาคัสและเนบีเนียส ทั้งสันตะปาปาเดรวิโก้ ทั้งผู้ท้าชิงตำแหน่งสันตะปาปาอย่างปาสคาล จอมอสูรเฮล-กาโอ ศาสตราวุธบรรพกาลของบราฮัม แวมไพร์เอิร์ล เอลฟิน-สโตน แวมไพร์วิสเคาต์ ทีราเม็ท ปิอาโร่ และครอเกล...
ทั้งหมดที่กล่าวมา เดรกมิได้เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตสุดโกงพวกนั้นเลยสักนิด สิ่งมีชีวิตระดับสูงแล้วมันยังไงกัน ก็แค่รุ่นผลิตจำนวนมากที่ไม่มีชื่อเป็นของตนเอง ไม่มีทางเทียบได้กับเอ็นพีซีเนื้อเรื่องหลักของซาทิสฟายที่กริดฆ่ามาศพแล้วศพเล่า
และคนที่ขี้โกงที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวกริดนั่นเอง เขาคือบุตรของเทพแห่งความขี้โกงอย่างแท้จริง
"ร่างมืด"
พรึบ!
ผิวหนังกลายเป็นสีขาวซีด ตาขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ บรรยากาศรอบตัวกำลังอัดแน่นไปด้วยพลังอสูรที่ระเบิดออก
[ พลังเวทย์มืดของท่านเพิ่มขึ้น ]
[ ท่านไม่มีพลังเวทย์มืด จะถูกแทนที่ด้วยพลังอสูรแทน ]
[ ในสภาวะ <ร่างมืด> เผ่าพันธุ์ของท่านจะกลายเป็นครึ่งอสูร ]
[ ในฐานะครึ่งอสูร พลังชีวิตสูงสุดจะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่พลังโจมตี พลังเวทย์ และความว่องไวจะเพิ่ม 20% ]
[ การโจมตีทุกชนิดถูกเปลี่ยนให้เป็นธาตุมืด ]
ก่อนหน้านี้ กริดสูญเสียพลังชีวิตไปเกือบครึ่งจากการรัวโจมตีจากเดรก นี่จึงเป็นจังหวะเหมาะสมที่จะใช้ร่างมืด เพราะเขาเหลือพลังชีวิตเพียงครึ่งเดียวอยู่แล้ว การที่พลังชีวิตสูงสุดหายไปครึ่งหนึ่งจึงไม่ได้รับผลกระทบใดเลย
'แต่หลังจากนี้ไป คงปล่อยให้โดนโจมตีไม่ได้แล้ว'
เดรกทำการเหวี่ยงหางเข้าโจมตีกริดอย่างรวดเร็วแม่นยำอีกครั้ง ชายหนุ่มนำแหวนโดรันออกมาสวมเพื่อความไม่ประมาท หลังจากนั้นก็ใช้บัฟพลิ้วไหวเพื่อเพิ่มความเร็วหลบหลีก ในระหว่างที่เดรกกำลังดึงหางกลับนี้เอง กริดก็ฉวยโอกาสเดิมโจมตีเข้าไป แต่ว่า… เดรกเกิดการเรียนรู้ มันทำการพ่นไฟสวนกลับมาเพื่อกลบจุดอ่อนเดียวที่ตนมี แม้เดรกอาจสมองทึบยิ่งกว่าไวเวิร์น แต่มันก็ไม่ได้ไร้สมองโดยสิ้นเชิง
การฟาดหางไม่ใช่จุดอ่อนของเดรกอีกต่อไป
'เจ้านี่… เรียนรู้ไวกว่าเราอีกแฮะ...'
ไม่ใช่แค่ไวกว่าธรรมดา แต่ยังไวกว่าหลายเท่า กริดสมองทึบกว่ามอนสเตอร์อย่างเป็นทางการ ในการที่ชายหนุ่มกำลังผงะ เดรกได้เหวี่ยงขาหน้าเข้าโจมตีกริด หากเทียบกับร่างกายอันใหญ่โตแล้ว ขาหน้าของเดรกจะมีขนาดที่เล็กมาก แต่ก็ยังถือว่าใหญ่สำหรับกริดอยู่ดี แถมยังรวดเร็วประหนึ่งหมัดแย็บของนักมวยแชมป์โลก
ทว่า ยังเร็วไม่พอที่จะโจมตีให้โดนกริดในโหมดร่างมืดและพลิ้วไหว ชายหนุ่มหลบการโจมตีของเดรกอย่างง่ายดายด้วยการบอกใบ้จากผ้าปิดตาเพชฆาต เมื่อหลบพ้น กริดทำการใช้งานบัฟโทสะช่างตีเหล็กเพื่อรีดพลังโจมตีและความเร็วออกมาให้มากที่สุด หลังจากนั้นก็เปิดฉากโจมตีสวนกลับชุดใหญ่
กรี๊!
เดรกได้รับความรุนแรงยิ่งกว่าตอนแรกหลายเท่า เป็นเพราะในตอนที่พลังชีวิตต่ำกว่า 50% มันได้เปิดโหมดคลุ้มคลั่งซึ่งลดพลังป้องกันและค่าต้านทานตัวเองลง แต่ถึงกระนั้น เดรกก็มิได้แสดงท่าทีหวาดกลัว แม้บาดแผลตามร่างกายกำลังทวีคูณขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันกลับยิ่งคลุ้มคลั่งได้ใจ เดรกเริ่มพ่นไฟและกระพือปีกอย่างรุนแรงพร้อมกัน
"...!"
ภาพการของเห็นของกริดในตอนนี้ มีเพียงเปลวเพลิงขนาดมหึมาที่กำลังลุกท่วมจอ ชายหนุ่มไม่อาจต้านทานพลังลมหายใจจากปาก ซึ่งมาพร้อมกับแรงลมกระโชกจากปีก หนึ่งอัคคีหนึ่งวายุกระแทกร่างกริดจนร่วงหล่นลงพื้น เดรกในโหมดคลุ้มคลั่งได้บินโฉบตามลงมาหวังจะดับลมหายใจของเขา โดยมันกำลังเล็งโจมตีไปยังร่างกายท่อนบน
ประหนึ่งอุกกาบาตขนาดยักษ์กำลังพุ่งโหม่งโลก ผู้ชมทุกคนล้วนคาดว่า กริดคงล้มเหลวในการแข่งปราบบอสครั้งนี้แล้ว…
แต่ในอดีต ทุกครั้งที่ผู้คนพากันคิดเช่นนี้ กริดมักสร้างปาฏิหาริย์กลับมาได้สำเร็จเสมอ เขาคือคนที่ทำสิ่งซึ่งเป็นไม่ได้ ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteสนุกๆ มากๆครับ
ReplyDeleteสมาชิกทีมคนอื่นไปไหนกันหมดแล้ว หรือกำลังต้ังวงนั่งเล่นไพ่กัน
ReplyDeleteเค้าเรียกว่า..การทำให้ท่าไม้ตายไร้ผล บวกกับได้เด้งเลือดกลับมาด้วย 555+
ReplyDelete