จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 248



       หากจะให้สมาชิกทุกคนของโอเวอร์เลือกขึ้นมา 1 ชื่อ  ว่าเพื่อนคนใดที่พวกเขาไว้ใจมากที่สุด  คำตอบคงเป็นหนึ่งเดียวกันโดยไม่ต้องปรึกษาหรือลังเล 

       เฟคเกอร์

       ชายคนนี้จะคอยระแวดระวังศัตรูในความมืดที่พวกพ้องมองไม่เห็น  ด้วยปลายอาวุธอันแหลมคม  ใครก็ตามที่กล้าปองร้ายเพื่อนของเฟคเกอร์  มันจะต้องถูกบดขยี้  การที่เขาเงียบขรึมอยู่เสมอก็เพื่อคอยใช้หูฟังเสียงแปลกปลอม  

       ชื่อเสียงของเฟคเกอร์ไม่เคยเกินความจริง… มันน้อยเกินไปด้วยซ้ำ  
       
       ผู้เล่นนักลอบสังหารอันดับหนึ่งของโลกประกาศกร้าว

       "พวกแกต้องตายที่นี่...  และเดี๋ยวนี้"

       หลังจากศพแรกผ่านไปได้ 5 นาที  ในที่สุดเฟคเกอร์ก็ปรากฏตัว  สีหน้าของบองเดรกำลังโมโหอย่างสุดขีด  

       "เฟคเกอร์!  แกมัน...!"

       ผ่านไปเพียง 5 นาทีเท่านั้น  เป็นเวลาพอๆ กับที่มันใช้เพื่อเข้าห้องน้ำ  และเป็นระยะเวลาที่สมาชิกกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ 11 คนจบชีวิตลง  มีดสั้นในมือเฟคเกอร์มีคุณสมบัติสลายเวทย์มนต์  เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา  บาเรียเวทย์ทั้งหลายก็ไร้ผล

       "แกมาทำอะไรที่นี่?  หรือรู้อยู่แล้วว่าพวกเราจะลอบผ่านเส้นทางนี้?  ไม่สิ  แกรู้ได้ยังไงว่าพวกเรากำลังจะบุกเรย์ดัน?  มีสายสืบงั้นหรือ?"

       สายสืบ?  จำนวนคนของเรย์ดันไม่ว่างพอจะทำเรื่องแบบนั้นแน่  เหตุการณ์ครั้งนี้คือความบังเอิญอย่างแท้จริง  เฟคเกอร์จำเป็นต้องเลือกเส้นทางที่ลับตามากที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของจักรวรรดิ  เขาจึงเลือกให้ผู้อพยพเดินทางข้ามผ่านป่าเถาวัลย์หนามแห่งนี้  

       จนกระทั่งมาพับกับพวกบองเดรเข้า

       ทั้งหมดเป็นเรื่องของโชคชะตา  แต่เขาจำเป็นต้องเล่าความจริงให้บองเดรฟังไหมน่ะหรือ?  ไม่เลยสักนิด

       ยิ่งเฟคเกอร์นิ่งเงียบ  บองเดรก็ยิ่งโกรธจัด

       "ไอ้เวรเอ้ย!  คิดจะเมินกันรึไง?"

       ครืนนนน!

       เสาน้ำแข็ง 6 ต้นปรากฏขึ้นจากพื้นดิน  ก่อนหน้านี้  มันได้ใช้เวทย์เกรด S ไปแล้วชนิดหนึ่งเพื่อทำลายผืนป่าจนราบคาบ  และบีบให้เฟคเกอร์ต้องเผยตัว

       มาถึงตอนนี้  เวทย์ใหม่ที่กำลังจะใช้ออกมาก็มีเกรดเดียวกัน… เวทย์มนต์เกรด S ที่สอง   บองเดรยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นยะเยือกพร้อมกับแสยะยิ้ม

       "นี่คือหนึ่งในเวทย์ที่ฉันเตรียมไว้ฆ่ากริด  แกจะรับมือกับมันได้รึเปล่านะ?"

       มังกรน้ำแข็งพิโรธ :  เวทย์มนต์เกรด S

       เสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ 6 ต้นกำลังหมุนวนอยู่กลางอากาศราวกับมังกรโบยบิน

       "ฉันจะฆ่าแก  แล้วหลังจากนี้ก็จะไปบดขยี้เรย์ดัน!"

       ครืนนนน!
       
       เสาน้ำแข็ง 6 ต้นพุ่งโจมตีใส่เฟคเกอร์อย่างพร้อมเพรียงจากทุกทิศทาง  ทั้งความเร็ว  ความรุนแรง  และความกว้าง  ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง  ข้อเสียเดียวของเวทย์ชนิดนี้คือการสิ้นเปลืองมานา  แต่ด้วยความเป็นจอมเวทย์ระดับท็อปของซาทิสฟาย  มานาจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับบองเดร

       'ตราบใดที่มันไม่มีกำบังให้หลบซ่อน  เฟคเกอร์จะต้องตายแน่นอน!  หึหึ!  แกผิดเองที่แย่งอันดับ 11 ของโลกไปจากฉัน!'

       บองเดรมั่นใจมากว่าจะได้รับชัยชนะ  มันรู้ดีว่า  นักลอบสังหารผู้ว่องไวนั้นจะแพ้ทางเวทย์มนต์ที่โจมตีเป็นวงกว้าง  และด้วยความที่นักลอบสังหารเป็นคลาสพลังชีวิตต่ำเฉกเช่นจอมเวทย์  หากโดนเวทย์เข้าไปสักชนิดล่ะก็… 

       "หือ?"

       บองเดรผู้มั่นใจเริ่มออกอาการสั่นคลอน  นัยน์ตาไหววูวาบ  ไม่มีใครอยากจะเชื่อในฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้า

       ซ้าย

       ซู่วว!

       ขวา

       ซู่วว!

       ขวา

       ซู่วว!

       ซ้ายอีกครั้ง

       ซู่วว!

       ในขณะที่เสาน้ำแข็งทั้งหกกำลังหมุนรอบตัวเองอย่างบ้าคลั่งประหนึ่งใบมีดของเครื่องปั่น  การเคลื่อนไหวจากเฟคเกอร์ก็รวดเร็วจนทำให้เกิดภาพติดตาขึ้น  

       บรรยากาศอันเย็นยะเยือกไม่ได้ทำให้ความเร็วของเขาลดเลยงั้นหรือ?

       'เฟคเกอร์มีค่าว่องไวมากแค่ไหนกัน?'

       อันที่จริง  ของแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความว่องไวเท่านั้น  ความเร็วที่ไร้ฝีมือการควบคุมก็เปรียบดั่งคนหัวล้านได้หวี...  

       ไร้ประโยชน์หากไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  

       ฝีมือการควบคุมตัวละครของเฟคเกอร์นั้นอยู่เหนือคำบรรยาย  นี่ไม่ใช่ระดับที่มนุษย์จะไปถึงได้

       'กระควบคุมระดับพระเจ้--!'

       การควบคุมระดับพระเจ้า  นี่คือคำนำหน้าชื่อที่มีไว้มอบให้กับครอเกลเพียงผู้เดียวเท่านั้น!  ในขณะที่บองเดรกำลังตื่นตระหนก  เฟคเกอร์ก็กล่าวชื่นชมกริดอยู่ในใจ

       'ไอเท็มทุกชิ้นที่นายสร้าง…  มักทำให้ฉันอุ่นใจได้เสมอ'

       เกราะหนังเทพวายุ  มันคือชุดที่กริดสร้างให้ตามสูตรการผลิตที่เฟคเกอร์หามา  เดิมที  ออปชั่นของชุดเกราะจะอยู่ที่  เพิ่มค่าความว่องไว 6% และความเร็วทุกชนิด 12%  แต่เมื่อถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของกริด  ออปชั่นจึงเพิ่มเป็น  ความว่องไว 8% และความเร็วทุกชนิด 15%

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ

       ภาพติดตาจำนวนมากถูกสร้างขึ้น

       1 ใน 3 คลาสนักลอบสังหารระดับ 3 ที่เฟคเกอร์เลือกเล่น   <ราชันย์พริ้วไหว>   ถือเป็นคลาสที่ต้องใช้ฝีมือควบคุมตัวละครสูงที่สุดในซาทิสฟาย  เมื่อสองสิ่งที่สุดยอดผนึกกำลังกัน  หนึ่งคือไอเท็มจากกริด  ส่วนอีกหนึ่งคือฝีมือควบคุมของเฟคเกอร์  

       นักลอบสังหารอันดับ 1 ของโลกสามารถระเบิดพลังได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว  

       "ม--ไม่น่าเชื่อ!"

       เสาน้ำแข็งทั้งหกต้นเริ่มเสื่อมพลัง  ตรงกันข้าม  ความเร็วของเฟคเกอร์มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกชั่วขณะ  ใครก็ตามที่ได้เห็นคงพากันเวียนหัว  สมาชิกกิลด์ที่เหลือต่างพยายามตรึงการเคลื่อนที่ของเฟคเกอร์ด้วยเวทย์มนต์

       "ชิ!"

       และทุกครั้งที่พวกมันร่ายเวทย์  จะมีมีดสั้นถูกขว้างตรงมาอย่างแม่นยำเพื่อขัดจังหวะ  แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป  แต่เมื่อมีเวทย์ใดที่หลุดรอดไปได้  เฟคเกอร์ก็สามารถหลบพ้นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยนัก  ส่วนเวลาที่เหลือก็ใช้ในการขัดขวางการร่ายเวทย์ของคนอื่น

       'ก--เกินไปแล้ว!'  

       น่าแปลกมาก  เหตุไฉนเฟคเกอร์ถึงแข็งแกร่งกว่าที่ผู้คนร่ำลือกัน?   ข่าวลือจะต้องเกินความจริงไปมากเสมอ  แล้วทำไมคราวนี้ถึงได้ตรงกันข้าม?

       ในที่สุด  ระยะเวลาของมังกรน้ำแข็งพิโรธก็หมดลง  บองเดรรีบตะโกนสั่ง

       "ใช้เวทย์ในลูกแก้วออกมาซะ!"

       อันที่จริง  พวกมันสามารถใช้เวทย์ใหญ่ในลูกแก้วได้ทันทีโดยไม่ต้องร่าย  แต่คงไม่มีจอมเวทย์คนใดที่ผลีผลามใช้ออกมาโดยไม่ยั้งคิดแน่  เวทย์ใหญ่ที่กักเก็บในลูกแก้วจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวแล้วหายไป  มันคือไม้ตายสุดท้ายที่ใช้ในยามคับขันเท่านั้น

       ก็นี่ไง… ยามคับขัน 

       เวทย์มนต์ทุกชนิดถูกกระหน่ำยิ่งใส่เฟคเกอร์อย่างมืดฟ้ามัวดิน  ในขณะที่เขากำลังโลดแล่นไปมาระหว่างเสาน้ำแข็งที่กำลังสลายไป  ในที่สุด  เวทย์ชนิดหนึ่งได้กระแทกร่างเฟคเกอร์เข้าอย่างจัง

       "นั่นแหละ!  พวกเราทำได้!"

       เปล่าเลย  นั่นคือการคิดไปเอง  เวทย์ของพวกมันสัมผัสได้เพียงภาพติดตาเท่านั้น  ไม่ใช่ร่างจริง  

       เฟคเกอร์กำลังสบายดียิ่งกว่าใคร

       "ไอ้บัดซบ!"

       เมื่อเห็นเฟคเกอร์ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  บองเดรก็ร่ายเวทย์ไปพลาง  สาปแช่งไปพลาง  ตัวมันที่เปิดใช้งานทักษะ <ร่ายเวทย์สองชนิด>   ทำให้สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ 2 ชนิดในเวลาเดียวกัน 

       ซู่ววว!

       มันพยายามตรึงการเคลื่อนไหวของเฟคเกอร์ด้วยบาเรียน้ำแข็ง

       แกร๊ก  แกร๊ก  แกร๊ก!

       หลังจากนั้นก็สร้างใยแมงมุมน้ำแข็งขึ้นมากลางอากาศเพื่อบีบพื้นที่ให้แคบลง  สมาชิกกิลด์คนอื่นรีบร่ายเวทย์ออกมาสนับสนุน

       'เฟคเกอร์จะใช้ลูกไม้ใดหนีรอดไปได้อีก?'

       คลาสราชันย์พริ้วไหวย่อมมีจุดอ่อน  เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวระหว่างเงาได้เหมือนคลาสราชันย์แห่งเงา  แถมยังไร้ทักษะป้องกันตัว  ข้อดีข้อเดียวคือความเร็วมหาศาล  แต่มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ความเร็วหลบหนีออกจากกรงที่ถูกตรึงล้อมไว้

       พรึบ!

       เฟคเกอร์ใช้ระเบิดควัน

       ด้วยกลุ่มควันหนาที่คละคลุ้ง  ทั้งบองเดรและคนที่เหลือต่างไม่มีใครมองเห็นร่างเฟคเกอร์

       บองเดรพลันหัวเราะ

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!  ไอ้หมอนี่!  แกไม่มีทางหลบหนี้จากใยแมงมุมน้ำแข็งได้อยู่แล้ว!  พวกมันจะค่อยๆ บีบรัดเข้าไปเรื่อยๆ!"

       จอมเวทย์คนหนึ่งได้ร่ายเวทย์ลมเพื่อเป่าควันให้สลายไป  

       แต่เฟคเกอร์ซึ่งควรจะอยู่ ณ ใจกลางของใยแมงมุมน้ำแข็งกลับ...

       "...หมอนั่นหายไปไหน?"

       บองเดรและจอมเวทย์ที่เหลือต่างงุนงง  เฟคเกอร์หลบซ่อนตนเองในพื้นที่โล่งไร้กำบังได้อย่างไร?

       'ต้องมุดดินแน่!'  เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้  เฟคเกอร์ต้องกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน

       'วิธีการน่าสมเพช!'

       บองเดรรีบใช้เวทย์ตรวจจับ

       "...เอ๋?"

       เหงื่อเม็ดเป้งพลันผุดขึ้นที่สองข้างแก้ม  เวทย์ตรวจจับกำลังบอกอย่างชัดเจนว่า...

       เฟคเกอร์อยู่ที่ด้านหลังมันในตอนนี้

       ฉึก...

       มีดสั้นอันคมกริดเฉือนเข้าลำคอบองเดรอย่างโหดเหี้ยม  ในเวลาเดียวกัน  เฟคเกอร์ก็รูดซิปของเสื้อคลุมหัวลง

       "ผ้าคลุมล่องหน...!"

       และวินาทีนี้นี่เอง  ราวกับทุกคนเพิ่งจะนึกได้ว่าเฟคเกอร์เป็นหนึ่งในสมาชิกของกิลด์โอเวอร์เกียร์  

       ในอีกความหมายหนึ่ง  ไอเท็มที่เขาสวมย่อมไม่ใช่ไอเท็มธรรมดาทั่วไป

       "แม่งเอ้ย!"

       บองเดรสบถออกมาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อมีดสั้นอันเย็นยะเยือบสัมผัสกับผิวหนังลำคอ

       ท่ามกลางดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า  ดอกไม้โลหิตสีแดงฉานได้สาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนใยแมงมุมน้ำแข็งระยิบระยับ

       ***

       บันนี่บันนี่

       ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักจัดรายการเกมอันดับหนึ่งของโลก  ผู้ชมถ่ายทอดสดเคยมีตัวเลขเข้าใกล้หลัก 150,000 คนในเกือบทุกครั้ง  แต่ทั้งหมดนั่นคืออดีต  ปัจจุบัน  บันนี่บันนี่มียอดผู้ชมเพียง 30,000 คนเท่านั้น

       ในการจะกู้สถานการณ์กลับคืนมา  ประการแรกต้องทำให้ผู้ชมเก่ากลับมาดูเสียก่อน   เขาจำเป็นต้องถ่ายภาพเหตุการณ์ที่ดึงดูดใจคนดูมากที่สุด  ยิ่งตื่นเต้นเร้าอารมณ์ได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี

       บันนี่บันนี่ใช้เส้นสายทุกทางเพื่อค้นหาแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศ  จนกระทั่งไปสืบทราบมาว่า  เจ็ดกิลด์ใหญ่กำลังรวมตัวกันบุกโจมตีเรย์ดัน

       "ดีมาก  เยี่ยมยอด  วิดีโอคมชัด  มุมถ่ายสวย"

       ณ เมืองป้อมปราการแพเทรี่ยน  ประตูทางออกซึ่งติดกับดินแดนตะวันตก

       บันนี่บันนี่ทำการกดปุ่มเริ่มบันทึกวิดีโอถ่ายภาพสมาชิกกิลด์ยัคและกิลด์เซราฟ   สองกิลด์นี้รวมกันจะมีสมาชิกประมาณ 200 คน  เมื่อบันนี่บันนี่มั่นใจแล้วไม่มีใครรู้ถึงตัวตนเขา  นักจัดการรายผู้นี้ก็หันไปกระซิบกระซาบกับกล้องถ่ายภาพด้วยเสียงที่เบาที่สุด

       "เห็นกันไหมครับ?  แม้ว่าชื่อตัวละครของทุกคนจะไม่ปรากฏเพราะกำลังสวมหน้ากาก  แต่ดู้จากลักษณะภายนอก  คนเหล่านี้จะต้องเป็นมาจากกิลด์ยัคและเซราฟแน่นอน  ข้อมูลที่ผมได้มานั้นถูกต้องทีเดียว"

       บันนี่บันนี่เริ่มเร้าอารมณ์เหตุการณ์

       "โอ้!  พวกเราเริ่มขยับตัวแล้ว  เดี๋ยวผมจะตามถ่ายไปเรื่อยๆ จากระยะไกลนะครับ  จะได้ไม่ถูกจับได้"

       หากถูกพบเข้าคงไม่ดีแน่  ทั้ง 7 กิลด์ใหญ่ต่างไม่ต้องการให้คนนอกรับรู้ว่าพวกมันแอบร่วมมือกันรุกรานเรย์ดัน   ทำไมน่ะหรือ?  ก็สิ่งนี้น่าอับอายเกินไป...  เป็นถึง 7 กิลด์ที่ยิ่งใหญ่ของซาทิสฟายแท้ๆ  แต่กลับต้องร่วมมือกันเพื่อถล่มเมืองๆ เดียว

       "นั่นคือหัวหน้ากิลด์ยัคนะครับ  บูบัต  แม้ว่าเขาจะปกปิดใบหน้า  แต่ตัวตนก็ถูกมองออกได้ง่ายมาก  เป็นเพราะขนาดของร่างกายอันใหญ่โตเหมือนกับวัวกระทิงนั่นเอง...  หือ?  ข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น?"

       บันนี่บันนี่ได้ตามหลังกิลด์ทั้งสองไปในระยะที่ปลอดภัย  แต่จู่ๆ พวกมันก็หยุดการเคลื่อนพล  

       อัศวินหลายสิบคนกำลังขวางทางสมาชิกกิลด์ทั้งสองไว้

       "ว้าว… เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?  เหตุใดอัศวินถึงมาหยุดกิลด์ยัคและเซราฟไว้?  มันน่าแปลกมากทีเดียว     จะดีไหมถ้าผมเข้าไปถ่ายใกล้ๆ กว่านี้อีกสักหน่อย?   ดีล่ะ  ตกลง  ผมจะยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อคลายข้อสงสัยให้พวกคุณทุกคน"

       บันนี่บันนี่คือนักลอบสังหารเลเวล 209  เขาใช้ทักษะพรางตัวและยังหลบซ่อนอยู่หลังที่กำบังอีกชั้นหนึ่ง  ทั้งสองกิลด์จึงยังไม่มีใครสัมผัสตัวตนได้  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสนใจถูกดึงไปอยู่กับอัศวินตรงหน้าจนหมด

       "พวกนายเป็นใครกัน?  ทำไมถึงมาขวางทางเราไว้?"

       "นี่มันเรื่องอะไร?  หือ?"

       สมาชิกกิลด์ยิงคำถามใส่กลุ่มอัศวิน  แต่อัศวินทุกคนกลับนิ่งเงียบและยืนขวางทางดุจดั่งกำแพงเหล็กโดยไม่ยอมให้ใครผ่านไปได้  ลงเอยด้วย  บูบัตอดรนทนไม่ไหว  มันจำเป็นต้องเดินไปด้านหน้าด้วยตนเอง

       "ทำไมพวกนายถึงไม่ยอมให้เราใช้ทางออกประตูนี้?  ถ้าหากไม่มีเหตุผลที่น่าฟังรองรับ  พวกฉันคงต้องใช้กำลังผ่าออกไป"

       ทันใดนั้น

       "พวกแกไม่มีสิทธิตั้งคำถามใดๆ ทั้งสิ้น!"

       ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีขาวได้ปรากฏตัวขึ้น  ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า...  อัชเชอร์  

       ผู้ปกครองสูงสุดแห่งป้อมปราการแพเทรี่ยน

       'เอิร์ลอัชเชอร์...!'

       เอิร์ลอัชเชอร์คือ 1 ใน 10 จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทวีป  เหตุใดชายคนนั้นถึงกำลังขวางทางพวกเขาไว้?

       เอิร์ลอัชเชอร์เป็นฝ่ายเริ่มไต่สวนสมาชิกกิลด์ทั้งสองซึ่งกำลังสับสน

       "พวกแกคิดจะไปทำสิ่งใดที่ดินแดนตะวันตก?"

       "มีเหตุผลอะไรที่เราต้องตอบแกด้วย?"

       "เหตุผล?"  อัชเชอร์พ่นลมหายใจเบาๆ

       หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมเวทย์มนต์ปริมาณมหาศาลไว้ในมือทั้งสองข้าง

       "อ--อึ๋ย...!"

       สีหน้าทั้งสองกิลด์พลันขาวซีด  พลังกดดันที่แผ่ออกมาจากเวทย์มนต์เป็นราวกับเหล็กกล้าที่สามารถป่นกระดูกให้แหลกละเอียดได้ง่ายดาย  

       ดวงตาสีทองของอัชเชอร์หรี่ลงเล็กน้อย

       "พวกแกต้องตอบคำถามของฉัน  ส่วนเหตุผล  ของแบบนั้นไม่จำเป็น  เข้าใจรึเปล่า?"

       "อึก...!  เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?  เป็นแบบนี้ได้ยังไง?"

       เหตุการณ์ไม่เป็นไปดั่งที่คิด  บูบัตยังคงสับสนในสิ่งที่เกิดขึ้น  ทันใดนั้น  เอิร์ลอัชเชอร์ได้เพิ่มระดับโทนเสียงพร้อมกับเอ่ยปากถามอีกครั้ง

       ไม่สิ  เรียกว่าออกคำสั่งคงจะเหมาะกว่า

       "จงบอกมา… ว่าพวกแกคิดจะไปทำสิ่งใดที่ดินแดนตะวันตก"

       เอิร์ลอัชเชอร์มีลูกบอลเวทย์ติดตั้งเอาไว้อยู่ทั่วเมืองแพเทรี่ยนเพื่อเป็นหูเป็นตา  ด้วยสิ่งนั้น  เขาจึงได้ยินบทสนทนาของพวกมันจนหมดสิ้น  อัชเชอร์รู้ดีกว่าคนพวกนี้กำลังจะไปรุกรานเรย์ดัน  แต่ถึงกระนั้น  เขาก็อยากลองใจด้วยการถามซึ่งหน้า

       บูบัตโกหกออกไป

       "พวกเราแค่จะไปล่ามอนสเตอร์..."

       "ล่ามอนสเตอร์?  หึหึหึ  พวกแกกำลังโกหกสินะ  ทำเอานึกถึงไอ้คนสับปรับในสมัยอดีตเข้าจนได้"
       
       บุตรชายคนสำคัญของเอิร์ลอัชเชอร์กำลังเป็นตัวประกันอยู่ในเรย์ดัน  เขาไม่มีทางปล่อยให้คนเหล่านี้รุกรานเรย์ดันได้แน่  เพราะนั่นอาจหมายถึงอันตรายของบลันด์ด้วย

       "ฉันมีทางเลือกให้พวกแก 2 ทาง  หนึ่งคือ  มาทางไหนกลับไปทางนั้น  ส่วนทางเลือกที่สอง  กลายเป็นกระดูกถูกฝังอยู่ใต้เมืองของฉัน!"

       ชิ้งงงง!

       อัศวินนับสิบชักดาบออกมาถือเตรียมในท่าต่อสู้  พลธนูบนกำแพงเมืองดึงสายง้างไปด้านหลัง  เอิร์ลอันเชอร์กำลังยืนอยู่ท่ามกลางทหารเหล่านี้ด้วยท่าทางองอาจ  

       บันนี่บันนี่พลันขนลุกซู่ในขณะที่กำลังถ่ายทอดไปพลาง  ซ่อนตัวไปพลาง

       'หรือว่า...  เอิร์ลอัชเชอร์จะเป็นพันธมิตรกับดยุคกริด?'

       หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ให้การช่วยเหลือผู้เล่น!  นี่คือสกู๊ปข่าวที่เด็ดยิ่งกว่าเด็ด!  เขามั่นใจมากว่า  ถ้าหากเผยแพร่ฉากเด็ดนี้ออกไปเมื่อใด  ผู้ชมจำนวนมหาศาลจะหลั่งไหลเข้ามาดูช่องของเขาแน่นอน

Comments

  1. ตั้งใจไปยำเขา 7 กิลด์ แต่ผ่านมา 2 ตอน น่าจะไปไม่ถึงเกือบครึ่งละ

    ReplyDelete
  2. ถ้ามีโอกาสได้ถ่ายชาวนารุมอัดกิลด์ใหญ่คงเป็นข่าวดังกว่านี้

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ๆ คนรอบตัักริดมีแต่ตำนาน และคนเก่งๆ

      Delete
  3. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. ถ้าไปเจอกับสองชาวนาในตำนานไม่เป็นข่าวระดับโลกเลยรึ555

    ReplyDelete
  5. ตอนหน้าเปิดตัวชาวนาคนที่3มั่งนิ

    ReplyDelete
  6. เปิดตัวชาวนาคนที่3

    ReplyDelete
  7. 3ใน7กิลโดนเก็บตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นเมืองเลย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00