จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 237



       กริดมีประสบการณ์มากมายในการเสริมแกร่งไอเท็ม  ชายหนุ่มมีจำนวนครั้งของการเสริมแกร่งมากกว่าผู้เล่นคนใดในซาทิสฟายทั้งหมด  เขาใช้ความได้เปรียบของทักษะติดตัว <เพิ่มโอกาสเสริมแกร่งสำเร็จ> เพื่อเสริมแกร่งไอเท็มให้สมาชิกในกิลด์ทุกคน

       'ไม่มีสูตรสำเร็จในการเสริมแกร่ง'

       การเสริมแกร่งจะไม่นำค่าสถานะอื่นเช่นความชำนาญมาเกี่ยวข้อง  ความเชื่อทางโชคลางอย่างการเสริมแกร่งในเวลาเท่านั้นเท่านี้  หรือไม่ก็การซ่อมแซมไอเท็มก่อนการเสริมแกร่งจะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จ  ทั้งหมดเป็นเพียงมโนภาพ  โอกาสสำเร็จขึ้นอยู่กับดวงเพียงอย่างเดียว  สัจธรรมนี้เขาได้เรียนรู้มาจากการเสริมแกร่งนับครั้งไม่ถ้วน

       "อืมม"

       กริดจ้องมองหินเสริมแกร่งในกระเป๋าสัมภาระที่มีอยู่หลายสิบก้อน  เขารู้สึกเป็นกังวลและประหม่ามากกว่าทุกครั้ง  มากยิ่งกว่าเมื่อคราวที่ออกไปหาอาฮยองรักแรกเสียอีก

       'เราอยากให้อย่างน้อย  ทั้งดาบใหญ่เลียนแบบและรองเท้ากริดมีระดับเสริมแกร่งอยู่ที่ +7 ขึ้นไป...'

       เขาจะทำสำเร็จหรือไม่?  หรือจะล้มเหลวจนผมร่วงอีกครั้งกันนะ?  ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง  แต่นั่นจะเกี่ยวพันกับชะตากรรมทางการเงินหลังจากนี้แน่นอน  กริดตั้งสมาธิยิ่งกว่าครั้งไหน  พระเยซู  พระพุทธเจ้า  เทพธิดารีเบคก้า  และอื่นๆ อีกมากมาย  กริดสวดภาวนาให้กับทวยเทพทุกองค์ทั้งในและนอกเกม  หลังจากนั้นก็เริ่มการเสริมแกร่งด้วยฝ่ามือที่สั่นระริก

       ***

       การประชุมหารือเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองและลงทุนในโรงแปรธาตุจบลงแล้ว  ผลของมันออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ  เพราะทั้งแร็บบิทและลอเอลมีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้  ทว่า  เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือกลับเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าไม่ยิ้มแย้มเท่าใดนัก

       "พวกเราคงต้องทรมานไปอีกหลายเดือน"  แวนเนอร์บ่นอุบอิบ

       เขาได้รับภารกิจให้ปราบมอนสเตอร์บนเส้นทางระหว่างเรย์ดันและภูเขาอัลซาร์  ไม่ใช่ว่ามอนสเตอร์มันจะเกิดใหม่อยู่ดีหลังจากที่ฆ่าไปแล้วงั้นหรือ?  แวนเนอร์ต้องตามหาและทำลายรังหนอนยักษ์อย่างต่ำ 10 รังเพื่อให้ภารกิจนี้ลุล่วง

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์อีก 17 คนที่ได้รับภารกิจเดียวกับแวนเนอร์ได้แต่ถอนหายใจ

       ทว่า  ป็อนกับรู้สึกอิจฉาพวกเขา

       'นั่นยังดีกว่าเรานะ...'

       ป็อนถูกมอบหมายหน้าที่พิเศษให้ออกไประบุตำแหน่งของดันเจี้ยนและบอสทุกแห่งในดินแดนตะวันตก  โดยเขาต้องสืบหามาว่า  ดันเจี้ยนใดหรือบอสตัวใดที่มอบความร่ำรวยให้มากที่สุด  การที่ป็อนถูกเลือกให้ทำงานนี้  เป็นเพราะมันคือภารกิจที่มีความยากที่สุดนั่นเอง

       เรกัส  ชายผู้ที่ได้รับภารกิจให้ร่วมทางไปกันป็อน  เขาอมยิ้มและหันไปบอกป็อนว่า

       "น่าสนุกสุดๆ ไปเลย...  ถือเป็นการฝึกล่าบอสแค่ 2 คนไปในตัว"  เป็นความใฝฝันของเรกัสอยู่เสมอ  การได้แข็งแกร่งขึ้นท่ามกลางอุปสรรคอันหนักหน่วงถาโถม  ป็อนระอาใจที่ต้องอาศัยอยู่กับชายซึ่งสมองทำมาจากกล้ามเนื้อคนนี้ไปอีกพักใหญ่

       หนทางข้างหน้าของป็อน… จะต้องไม่ราบรื่นแน่นอน

       ลอเอลให้กำลังใจทุกคน

       "หน้าที่ของพวกเราสำคัญมากในยามที่กริดไม่อยู่  มาใช้โอกาสนี้เพิ่มเลเวลและพัฒนาเมืองกันเถอะ"
     
       "กริดจะไปจักรวรรดิซาฮารันแล้วหรือ?"

       "ใช่  เขาบอกว่าต้องไปทำภารกิจให้ปิอาโร่"

       "จักรวรรดิ… หวังว่ากริดจะไม่พบเจออุปสรรคร้ายแรงนะ"

       โลกใบนี้กว้างใหญ่  แถมเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ดุร้าย  โดยพวกที่ดุร้ายที่สุดก็อยู่ในจักรวรรดิเสียด้วย

       ***

       ณ ฟาร์มอันกว้างใหญ่ของเรย์ดัน

       ปิอาโร่ยืนอยู่บนจุดที่ข้าวสาลีเริ่มงอกเงย  หากดูจากร่างกายที่เปี่ยมไปด้วยเหงื่อไคลในตอนนี้  เขาเป็นราวกับชาวนาตัวจริงเสียงจริง

       หลังจากนั้นไม่นาน  ทั้งบลันด์และคนงานที่เหลือต่างได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเดินเข้ามาหา

       "ดยุคกริดมาถึงแล้ว"

       "...!"

       สายตาของคนงานทั้งหมดพลันหันมองเป็นทางเดียว  ลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขามาถึงแล้วนั่นเอง

       ชาวเมืองสงเสียงต้อนรับอย่างดีใจ

       "ฮูเร่! ดยุดกริด!  ฮูเร่!"

       ชาวเมืองเรย์ดันมีความคิดเพียงยามเดียวในยามที่ได้พบกริด  พวกเขาจะส่งเสียเชียร์อย่างยินดี  ไม่ได้เป็นเพราะมีใครฝืนบังคับให้ทำ  แต่มาจากการที่พวกเขาทุกคนล้วนให้ความจงรักภักดีต่อกริดจากใจจริง

       "การเสริมแกร่งเป็นไปด้วยดีสินะ"

       ออร่าสีน้่ำเงินแผ่ออกมาจากรองเท้ากริดอย่างเด่นชัด  กริดได้แต่อมยิ้ม  ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ปิอาโร่สังเกตุเห็นรองเท้าอย่างรวดเร็ว  แต่เป็นเพราะการที่เขาสามารถเสริมแกร่งทั้งดาบใหญ่เลียนแบบและรองเท้ากริดได้ถึงระดับ +8 ทั้งคู่

       โชคเริ่มเข้าข้างกริดบ้างแล้ว  ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นาน  วิชาดาบแพ็กม่าถูกปรับให้พัฒนาได้เร็วขึ้น  เขาได้แรนดี้มาเป็นเพื่อน  ได้พบเหมืองแร่มิธริลสีเหลือง  ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

       กริดอยากให้บรรยากาศแบบนี้คงอยู่ต่อไปอีกสักพัก

       "ฉันคิดว่า  คงถึงเวลาที่ต้องไปแก้แค้นให้นายแล้ว  ฉันจะเดินไปยังจักรวรรดิ"

       แววตาของกริดเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น  ปิอาโร่เชื่อมั่นใจตัวกริดอย่างสุดหัวใจ

       "ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นนาย  จะต้องทำสำเร็จได้แน่"

[ ภารกิจถูกสร้างขึ้น ]

[ คนทรยศที่แท้จริงแห่งกองอัศวินสีชาด ]
ระดับความยาก : SS
_______
       อัสโมเฟลกล้ามีสัมพันธ์เกินเลยกับจักรพรรดินี  และสิ่งนี้ถูกปิอาโร่ล่วงรู้เข้า  ทำให้ปิอาโร่และคนสนิทของเขาถูกป้ายสีว่าเป็นกบฏ
       ด้วยเหตุนี้  ปิอาโร่สูญเสียคนในบังคับบัญชาและสหายร่วมรบทั้งหมดไป  เขาจำต้องหนีไปให้ไกลที่สุด  ปิอาโร่ไม่เคยมีความคิดที่จะยกโทษให้อัสโมเฟลเลยแม้สักนิดเดียว     
       ทว่า  มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแก้แค้นด้วยลำพังตนเอง
       ปิอาโร่จึงฝากฝังความแค้นหนนี้ไว้กับท่าน
_______
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :
- สังหารอัสโมเฟล  อดีตรองกัปตันกองอัศวินสีชาด
รางวัลภารกิจ : ค่าความสัมพันธ์กับปิอาโร่เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : เลเวลลดลง 6 ระดับ

[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่? ]

       'เนื้อหาภารกิจเปลี่ยนไปมากเลยแฮะ'

       เมื่อครั้งแรกที่กริดยังเป็นตัวตนเล็กๆ ในหุบเขาเคซาน  ระดับความยากของภารกิจนี้อยู่เพียงแค่ S เท่านั้น  และของรางวัลในคราวก่อนคือสมญานาม <ตัวแทนล้างแค้น> กับ <ดาบปิอาโร่>  ทว่า  ภารกิจในปัจจุบันกลับมีระดับความยากอยู่ที่ SS และของรางวัลก็เปลี่ยนแปลงไป

       เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเขาผ่านช่วงเวลาดีๆ ร่วมกับปิอาโร่  ใจจิตของปิอาโร่ไม่ได้ฝักใฝ่อยู่กับการแก้แค้นเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว
     
       'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากความสัมพันธ์ของเรากับปิอาโร่ถึงขีดจำกัด?'

       เขาจะสอนวิชาดาบไร้ก้นบึ้งให้เรารึเปล่านะ?

       'นั่นไม่ได้แน่'

       วิชาดาบของปิอาโร่ตกทอดภายในตระกูลเท่านั้น  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเผยแผร่ให้คนนอก  กริดลองคิดในอีกมุมหนึ่ง

       'หรือเขาจะกลายมาเป็นลูกน้องเรา?'

       พลังที่แท้จริงของปิอาโร่นั้นยากจะหยั่งถึง  หากกริดสามารถทำให้ปิอาโร่กลายมาเป็นลูกน้องได้  นั่นจะเปรียบดั่งการได้กองทัพนับร้อยคนมาเป็นแขนขาให้เลยทีเดียว  กริดกดรับภารกิจโดยเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง

       "เชื่อมือฉัน"

       ปิอาโร่มองดูกริดที่กำลังมีสีหน้ามั่นใจ  เขาจึงออกปากเตือนเล็กน้อย

       "อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว  จักรวรรดิมีคนแข็งแกร่งอยู่เต็มไปหมด  การเข้าถึงตัวอัสโมเฟลไม่ใช่เรื่องง่ายแน่  ดังนั้น  ระวังตัวให้มากด้วย"

       "เข้าใจแล้ว"

       กริดตอบได้ดี  สีหน้าเขายังคงไม่แสดงออกถึงความกังวล

       ปิอาโร่เน้นย้ำอีกครั้ง

       "อย่าเชื่อมั่นใจตนเองมากจนเกินไป  วิชาดาบคู่ไม่ใช่สิ่งที่จะชำนาญกันได้ในระยะเวลาอันสั้น"

       กริดฝึกฝนดาบคู่มาตลอดทางที่กลับจากภูเขาอัลซาร์  ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ

       "ไม่ต้องห่วง  ฉันรู้ดี"

       แม้จะตอบไปเช่นนี้  แต่ภายในใจกำลังรู้สึกต่างออกไป

       'แม้ตอนนี้เราจะยังห่างชั้นอยู่มาก  ทว่า  อีกไม่นานมันจะไม่เหมือนเดิมแน่'

       เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่เมืองหลวงของจักรวรรดิซาฮารันที่มีชื่อว่า <ไททัน> คงใช้เวลานานราว 20 วันกว่าจะไปถึง  ระหว่างทางเขาจะต้องหมั่นฝึกซ้อมอย่างแข็งขัน  กริดจะต้องใช้วิชาดาบคู่ให้เกิดประสิทธิภาพโดยเร็ว  เรื่องนั้นเป็นไปได้แน่  เพราะปิอาโร่ได้ทำการสอนพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมมาให้แล้ว

       ***

       จักรวรรดิตั้งอยู่ ณ ใจกลางของทวีป  จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสามารถยึดครองผืนแผ่นดินส่วนใหญ่ไว้ได้  และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาณาจักรโดยรอบจะให้ความยำเกรง

       แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัวสักหน่อยก็ตาม

       แต่ก็ไม่มีอาณาจักรใดที่กล้าแข็งข้อ  พลังอำนาจของจักรวรรดิซาฮันนั้นยิ่งใหญ่เกินไป

       "นี่คือหมู่บ้านของชนเผ่าอัล"

       หัวหน้ากิลด์ไวท์วูล์ฟ  เวอราดิน  มันคือบารอนแห่งจักรวรรดิ  มันได้รับคำสั่งมาจากเอิร์ลซีบร้าให้เข้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยอพยพ  และในที่สุด  มันก็หาฐานที่มั่นของเป้าหมายพบ  ถือเป็นความสำเร็จหลังจากการเดินทางอันยาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์

       เวอราดินมีคำถาม

       "ศัตรูมีจำนวนเท่าไร?"

       กีกี้  พลซุ่มยิง  ได้ใช้ทักษะ <นัยน์ตาเหยี่ยว> สำรวจและรายงานข้อมูล

       "1,050 คน  แต่เกินกว่าครึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก"

       นั่นหมายความว่า  จำนวนกองกำลังของศัตรูที่สามารถต่อสู้ได้มีไม่เกิน 500 คน

       เวอราดินพลันโล่งใจ

       "งั้นกลยุทธก็ไม่จำเป็น  บุกตะลุยเข้าไปตรงๆ แล้วกวาดพวกมันให้สิ้นซาก"

       สีหน้าของกีกี้เกิดความลังเล

       "ไม่ว่าจะคิดทบทวนสักกี่รอบ  แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ควรจะทำ"

       ชนเผ่าอัลเองก็เป็นมนุษย์  พวกเขาคือชนเผ่าที่ยากจนเพราะจักรวรรดิไม่ยอมรับให้เป็นพลเมือง  ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้า  ก่อนหน้านี้ชนเผ่าอัลเคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองจนกระทั่งถูกจักรวรรดิฮุบกลืนไป  ประชากรที่เหลืออยู่จึงหลบหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ตามชายแดน

       กีกี้ไม่ต้องการดับชีวิตพวกเขา

       เวอราดินทำการพูดเตือนความจำกีกี้

       "พวกนั้นก็แค่เอ็นพีซี  อย่าให้เรื่องไร้สาระมากวนใจได้"

       หากพวกมันสังหารชนเผ่าอัล  ค่าคุณงามความต่อต่อจักรวรรดิก็จะเพิ่มขึ้นศพละ 12 แต้ม  เวอราดินหวังจะใช้โอกาสนี้  ไต่เต้าตนเองขึ้นไปเป็นวิสเคาท์ให้จงได้

       กีกี้ได้แต่ถอนหายใจ

       "เฮ่อ… ฉันอยากให้โกเล็มมาบุกมากกว่า"

       ข่าวการรุกรานของโกเล็มที่อาณาจักรอีเทอนัลได้โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อหลายเดือนก่อน  ไม่มีใครไม่รู้จักกริด

       "เจ้ากริดนั่นโชคดีชะมัด"

       "ถูกต้อง  มันได้เป็นดยุคเพียงเพราะโชคดีที่โกเล็มบังเอิญไปบุกอาณาจักรอีเทอนัลเท่านั้นหรอกน่า!"
     
       "ชิ!  ฉันล่ะอิจฉาจริง!  ถ้าฉันอยู่ในอาณาจักรอีเทอนัลล่ะก็  ป่านนี้คงได้เป็นดยุคไปแล้ว!"

       ในขณะที่สมาชิกกิลด์กำลังออกนอกเรื่อง  เวอราดินจึงต้องห้ามปราม

       "สนใจภารกิจตรงหน้าก่อน"

       "อืม!"

       สมาชิกกิลด์ทุกคนมีสมาธิกลับมาอยู่กับภารกิจอีกครั้ง  แตกต่างจากกีกี้  ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครลังเลที่จะต้องสังหารชนเผ่าอัล  ไม่ใช่ว่าเอ็นพีซีเป็นแค่ภาพเสมือนกับปัญญาประดิษฐ์หรอกหรือ?  แม้จะเหมือนคนมากเพียงใด  แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คน

       การฆ่าเป็นเรื่องง่ายมาก  ไม่มีสิ่งใดให้ค้างคาใจ  เมื่อเวอราดินรับรู้ถึงจิตใจฮึกเหิมในการต่อสู้ของสมาชิก  มันจึงออกคำสั่ง

       "กวาดล้างให้สิ้นซากซะ!"

       "เฮ้~~~!"

       นอกจากกีกี้ที่เป็นพลซุ่มยิ่ง  สมาชิกกิลด์ที่เหลือทั้ง 24 คนได้กรูกันลงภูเขาไป

       เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ  พวกมันไม่มีใครถูกทำให้ช้าลงโดยเศษก้อนหินที่ระเกะระกะ  เมื่อชนเผ่าอัลตรวจพบผู้บุกรุก  พวกเขาจึงรีบตอบโต้ด้วยการยิงธนูและเวทย์มนต์สวนกลับมาจากหอเฝ้าระวัง  ทว่า  ทั้งหมดล้วนไร้ค่า  สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟสามารถหลบได้ทุกนัดและพุ่งเข้าประจัญบานทันที

       "ตายไปซะ!"

       "ขอบคุณสำหรับคะแนนคุณงามความดีน้า~"

       "อ๊าาาาก!"

       เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อสายตาเท่าใดนัก  ผู้เล่นเพียง 24 คนกำลังไล่ฆ่าฟันเอ็นพีซีกว่า 1,000 คน  หมู่บ้านเล็กๆ แปรเปลี่ยนเป็นดั่งขุมนรก  มันคือการฆ่าล้างเผ่าพันธ์อยู่ฝ่ายเดียวอย่างชัดเจน

       "ด--ได้โปรด  ลูกสาวคนเดียวของฉัน..."

       "ตายไปเงียบๆ ซะ!"

       ชาวบ้านส่งเสียงร้องขอชีวิต  แต่สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟหาได้มีความปราณี  ทั้งผู้หญิง  เด็กเล็ก  และคนชราล้วนถูกสังหารอย่างไม่มีความลังเล

       ทว่า  การไล่ฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวเกิดขึ้นได้ไม่นาน

       "ฉันไม่ใช่เจ้าหนูนักสืบสักหน่อย  ทำไมต้องมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นในทุกที่ๆ ไปด้วยฟะ?  เฮ่อ… แต่อย่างน้อยก็มีภารกิจให้ทำ  ไม่เลว..."

       สมาชิกไวท์วูล์ฟต่างงุนงง  เป็นเพราะมีผู้เล่นคนหนึ่ง  ไม่ใช่เอ็นพีซี  ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกหมู่บ้าน

       'หมอนั่นเป็นใครกัน?'

       ชายลึกลับกำลังสวมหมวกปีกกว้าง  ใบหน้าและชื่อตัวละครจึงถูกบดบัง  สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟพลันเอ่ยปากถามขึ้น

       "แกเป็นใคร?"

       "ฉันหรือ?"  ชายลึกลับที่กำลังถือดาบใหญ่สีเขียวหยกในมือ  เขาตอบกลับมาว่า

       "ในหนนี้  ฉันคือสาวกแห่งความเที่ยงธรรมก็แล้วกัน"

       ฉึก!

       "อะไรกัน?!"

       ดวงตาเวอราดินพลันเบิกโพลง  ชายอีกคนที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับผู้เล่นลึกลับทุกประการ  ได้โผล่ขึ้นที่ด้านหลังของสมาชิกไวท์วูล์ฟคนหนึ่งและใช้ดาบสีเขียวหยกเสียบเข้า

       "ร่างโคลน...!"

       นี่ไม่ใช่ร่างโคลนธรรมดา  เวอราดินไม่เคยเห็นร่างโคลนที่ดึงประสิทธิภาพออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน

       'ผู้เล่นระดับสูง!'

Comments

  1. เปิดมาอย่างหล่อ

    ReplyDelete
  2. สรุปแล้วร่างโคลน...หรือ.....กริดกันเอ่ย ...กริดแน่เลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. กริดยืนบ่นว่าทำไมซวยเหมือนโคนัน ส่วนร่างโคลนโผล่มาแทงข้างหลัง

      Delete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00