จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 230
"นายท่าน! มีกระบองเพชรกระจุกตัวเป็นกลุ่มห่างออกไป 400 เมตรทางด้านหน้า! น่าจะเป็นกระบองเพชรเหมืองแร่ปลอมตัวมา ได้โปรดระวังตัวด้วย..."
"มุ่งหน้าไปทำลายพวกมัน!"
"นายท่าน! คางคกสีทองสองตัวกำลังผสมพันธุ์กันในโอเอซิส! คงเป็นการดีกว่าหากจะเลี่ยงไปทางอื่น..."
"บอสแม็บสองตัวเกิดพร้อมกับเชียวรึ? ถูกหวยแล้ว! ลุย!"
"นายท่าน! คางคกทะเลทรายกำลังไล่ตามพวกเรามาจากด้านหลังห่างออกไป 800 เมตร! พวกเราต้องเร่งฝีเท้าแล้ว ไม่อย่างนั้นจะถูกไล่ตามทันได้...!"
"พวกมันมาแก้แค้นให้กับคางคกสีทองงั้นหรือ? เยี่ยม! ทุกคนหยุด! พวกเราจะรอเชือดเหยื่อที่อุตส่าห์วิ่งมาประเคนให้ถึงที่!"
"นายท่าน… มีรังขนาดเล็กของหนอนยักษ์อยู่ใต้ภูเขา..."
"ลุยเข้าไปกวาดล้างกันเลย!"
"..."
จากด้านบนท้องฟ้า ฮิวรอยสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้จากระยะไกล หากผสานทักษะในการตรวจตาและความเป็นเจ้านายของมังกรเดรกเข้าด้วยกัน ฮิวรอยจะสามารถทำให้สามาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนไปถึงที่หมายโดยเลี่ยงการปะทะให้น้อยที่สุด
แต่กริดเป็นใคร? เขามีความกระสันมากเป็นพิเศษหลังจากที่ไม่ได้ออกล่ามานานแสนนาน ในเมื่อมอนสเตอร์ดินแดนตะวันตกต้องถูกปราบปรามให้หมดอยู่แล้ว ทันทีที่ฮิวรอยพบศัตรู แทนที่จะเลี่ยง กริดกลับพุ่งเข้าประจัญบาน ด้วยเหตุนี้ สมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์จึงเริ่มหมดแรงทีละน้อย
"แฮ่ก… แฮ่ก! บ้าจริง นี่กริดไม่เหนื่อยเลยรึไง? "
"ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ค่าเรี่ยวแรงของกริดมีสูงกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้มาก"
"อึก… ร้อนจริงโว้ย"
เป็นการยากที่จะเคลื่อนพลข้ามผืนทะเลทรายอย่างราบรื่น แม้บรรดาผู้เล่นโอเวอร์เกียร์จะเป็นแร้งเกอร์หัวแถวของโลก แต่พวกเขาก็เป็นเพียงผู้เล่น การต่อสู้ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าผนวกกับไอความร้อนที่แผดเผา ค่าเรี่ยวแรงจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว แต่ในทางตรงกันข้าม กริดยังคงสบายดีอยู่ เขามีค่าเรี่ยวแรงที่สูงกว่าสมาชิกคนอื่นราวสองเท่า ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะค่าความพากเพียรที่สูง ซึ่งนั่นเกิดจากการอุสาหะทำงานในโรงตีเหล็กอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
'ไม่ว่ามอนสเตอร์ดินแดนตะวันตกจะดุร้ายขนาดไหน แต่บอสแม็ปก็มีขีดจำกัดของมันอยู่สินะ'
ธรรมชาติของบอสแม็ปจะไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับบอสภารกิจหรือบอสดันเจี้ยน และไอเท็มดรอปก็จัดว่าแย่มาก กริดกับสมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้ล่ากระบองเพชรยักษ์ไปแล้วหนึ่งตัวและคางคกสีทองอีกสองตัว ทว่า ไอเท็มที่ดรอปมากลับมีเพียงเกรดอีปิก 2 ชิ้น และหินเสริมแกร่ง 5 ก้อนเท่านั้น
ในขณะที่กริดกำลังผิดหวัง
"แม่น้ำ!"
"พวกเรามาถึงแล้ว!"
ปาร์ตี้ทั้งหมดเดินทางมาถึงแม่น้ำเฮอเบ็นด์ พวกเขาออกเดินทางจากเรย์ดันโดยใช้เวลาราว 10 ชั่วโมงในการมาถึงที่นี่ อันที่จริง ถ้าหากใช้ความสามารถของฮิวรอยเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้มากที่สุด พวกเขาจะมาถึงโดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่กริดกลับทำให้มันนานขึ้นเป็นสามเท่า
"กริด ทุกคนเหนื่อยกันแล้ว แถมยังดึกมากด้วย พักผ่อนก่อนดีกว่าไหม?" ป็อนเสนอแนะ
กริดตรวจสอบค่าสถานะของสมาชิกในปาร์ตี้
"เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ เตรียมตัวตั้งแคมป์"
เมื่ออยู่นอกเมือง ค่าเรี่ยงแรงจะพื้นฟูได้ช้าลง เพียงแค่มื้ออาหารและการพักผ่อนเล็กน้อยนั้นยังไม่เพียงพอ ขั้นต่ำที่สุดคือการงีบหลับไปสักพัก สมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้รวมตัวกันริมแม่น้ำและหยิบเต็นท์ออกมากาง ทุกคนพลันประหลาดใจในยามที่เห็นกริดตั้งเต็นท์ของตนเอง
เป็นเพราะความเร็วและความคล่องแคล่วที่เขาแสดงออกมานั้น อยู่ในระดับที่น่าตื่นตะลึง
"โว้ว… ยอดไปเลย ฉันไม่เคยเห็นใครกางเต็นท์ได้เร็วเท่ากริดมาก่อน"
"เขาตั้งเต็นท์ในชีวิตจริงบ่อยสินะ? ออกไปแคมป์ปิ้งบ่อยๆ งั้นหรือ?"
'แคมป์ปิ้งบ้าบออะไรกัน...'
กริดย่อมไม่มีเพื่อนให้ออกแคมป์ปิ้งด้วยกันแน่นอน เหตุผลที่เขาสามารถกางเต็นท์ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งได้ นั่นเป็นเพราะว่า กริดถูกฝึกเรื่องนี้อย่างหนักระหว่างการเป็นทหารเกณฑ์ แถมเมื่อยิ่งมีค่าความชำนาญกว่า 3,000 แต้มในเกม ทำให้เขาสามารถตั้งเต็นท์ได้รวดเร็วกว่าผู้เล่นทั่วไปหลายเท่าตัว
มีประโยชน์อะไรบ้างกับการตั้งเต็นท์ได้ไวกว่าชาวบ้านเขา? ไม่มีเลย มันจะเกิดประโยชน์ก็ต่อเมื่อกริดมีเพื่อนในชีวิตจริงและชวนกันออกไปแคมป์ปิ้ง
"กินอาหารกันเถอะ"
เมื่อตั้งเต็นท์สำเร็จ สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนก็มานั่งรวมกันอยู่รอบกองไฟ อาหารที่เตรียมมากินกันนั้นไม่มีสิ่งใดพิเศษ มันคือมันฝรั่งสีรุ้ง อาหารเพียงชนิดเดียวที่เรย์ดันผลิตได้
"ฉันเริ่มจะเอียนกับมันแล้วสิ"
"เห็นด้วย"
มันฝรั่งสีรุ้งนั้นมี 7 รสชาติ ส่วนที่มีสีแดงจะให้รสเนื้อ ส่วนสีเหลืองเป็นรสกุ้งทอด ส่วนสีส้มเป็นกลิ่นแยมส้ม โดยที่รสทั้งหมดล้วนมีความอร่อยและเข้มข้น ทว่า ท้ายที่สุด มันฝรั่งก็ยังเป็นมันฝรั่งอยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางที่ใครจะทนกินมันได้ทุกมื้อ
"ถ้ามีพ่อครัวเจ๋งๆ สักคนก็คงดี"
ในกรณีของพ่อครัวที่มีทักษะทำอาหารระดับสูง คนเหล่านั้นสามารถปรุงอาหารรสเลิศได้จากหญ้าป่าและมอนสเตอร์ แถมอาหารที่ปรุงขึ้นจะมีผลเสริมพลังให้อีกเล็กน้อย ทักษะการครัวจึงถือว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมากทีเดียว
'ยูเฟอมิน่าสามารถคัดลอกทักษะทำอาหารได้สินะ...'
ยูเฟอมิน่าไม่ได้เข้าร่วมการเดินทางในคราวนี้ ณ ปัจจุบัน เธอกำลังอุทิศตนให้กับการพัฒนาเรย์ดันทั้งในด้านรักความปลอดภัยและเศรษฐกิจภายในเมือง ยูเฟอมิน่าสามารถคัดลอกทักษะฝึกสัตว์ ตีเหล็ก แปรธาตุ ก่อสร้าง และอื่นๆ อีกมากมาย ครั้นจะหวังพึ่งให้เธอช่วยทำอาหารอีก นั่นดูจะเป็นการรบกวนมากเกินไปหน่อย กริดจึงได้แต่ส่ายหัว
'พวกเราจะพึ่งแต่ยูเฟอมิน่าไม่ได้'
ไม่อย่างนั้น เธออาจคิดหนีออกจากกิลด์ อันที่จริง มันมีขีดจำกัดอยู่ในการจะพึ่งพาใครสักคน และในอนาคต กริดจึงมีแผนจะรับสมัครผู้เล่นที่มีคลาสรองเป็นพ่อครัวเข้ากิลด์
"ตาเริ่มล้าแล้วสิ"
"พวกเราจะทำยังไงกันดี?"
เมื่อทุกคนกินเสร็จ กริดลุกขึ้นยืนพร้อมกับประกาศกร้าว
"ปล่อยให้หน้าที่เฝ้ายามเป็นของฉัน ทุกคนไปนอนพักผ่อนกันเถอะ"
กริดเติบโตจนสามารถเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นได้แล้ว ทว่า สมาชิกโอเวอร์เกียร์กลับปฏิเสธ
"กริด นายคือขุมกำลังหลักของพวกเรา ดังนั้นอย่าทำเกินตัวเด็ดขาด"
"ไม่ต้องห่วง ฉันพอไหว ตัวฉันมีค่าเรี่ยวแรงสูงกว่าใคร"
"แค่พอไหวมันไม่ได้หรอกนะ! นายจะต้องสมบูรณ์พร้อมที่สุด ศัตรูตัวนั้นแข็งแกร่งมาก"
ลงเอยด้วย กริดถูกกีดกันออกจากภาระหน้าที่เวรยาม สมาชิกที่เหลือต่างตกลงหน้าที่กัน พวกเขาแผนจะพักผ่อนราว 4 ชั่วโมง ดันนั้น การเฝ้ายามจะใช้ทั้งหมด 8 คนโดยแบ่งเป็นคนละ 30 นาที
"8 คนที่มีค่าเรี่ยวแรงมากที่สุดจะต้องเสียสละเวลานอน 30 นาที"
โดยปรกติแล้ว ยิ่งผู้เล่นมีค่าเรี่ยวแรงสูงสุดมาก ความเร็วในการฟื้นฟูก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้น หน้าที่เวรยามจึงตกเป็นของตัวแทงค์ไปโดยปริยาย แวนเนอร์และโทบันได้แต่โอดครวญ
"ฉันแทงค์จนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว..."
"เกิดเป็นแทงค์นี่มันลำบากจริงๆ"
ถือเป็นการตัดสินใจที่มีเหตุมีผล จึงช่วยไม่ได้ที่บรรดาตัวแทงค์จะบ่นอุบอิบ
แต่ลอเอลได้เสนอแนะทางออกที่แสนชาญฉลาดออกมา
"ทำไมไม่ให้ปิอาโร่เฝ้ายามล่ะ?"
ตลอดทางมาที่นี่ ปิอาโร่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ใดเลยสักครั้งเดียว เขามีเพียงเดินแล้วก็เดิน ลอเอลคาดว่า ปิอาโร่จะต้องมีค่าเรี่ยวแรงเหลืออยู่มากแน่นอน
'ชาวนาในตำนานน่าจะมีค่าสถานะพื้นฐานที่สูง… การเฝ้ายามตลอด 4 ชั่วโมงไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่กับเขา'
ปิอาโร่รีบพยักหน้าให้กับคำแนะนำของลอเอล
"เข้าใจแล้ว ฉันจะเฝ้ายามให้เอง ทุกคนนอนพักผ่อนให้เพียงพอเถอะ"
"โอ้ว!"
สีหน้าของชาวโอเวอร์เกียร์พลันเปล่งประกาย แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่า เหตุใดปิอาโร่ถึงร่วมเดินทางมาด้วย แต่ยามนี้ หลายคนล้วนดีใจที่มีมีปิอาโร่อยู่ ทว่า กลับยังมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย
"ที่นี่เป็นเขตอันตราย พวกเราไม่ควรปล่อยให้หน้าที่เฝ้าระวังเป็นของชาวนา"
"ถูกต้อง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในหมอกยามเช้าทำการจู่โจม? พวกเราอาจเป็นอันตรายได้นะ"
'คนพวกนี้… ไม่ได้สำนึกบุญคุญที่นักดาบผู้ยิ่งใหญ่ช่วยเฝ้ายามให้เลยสักนิด...'
กริดมองว่า สถานการณ์เช่นนี้น่าสนุกไม่น้อย พวกเขาจะคิดว่าปิอาโร่เป็นชาวนาไปอีกนานแค่ไหนกันนะ? กริดอยากจะเห็นวินาทีที่ทุกคนรู้ความจริงเข้า ชายหนุ่มพลันอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดตามน้ำไป
"พวกนายอย่าได้ดูแคลนฝีมือการเฝ้ายามของปิอาโร่เชียว เขาเป็นถึงชาวนาในตำนาน ไม่ใช่ชาวนาดาษดื่นทั่วไป"
"...?"
สมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันงุนงง
"ทำไมนายถึงพูดว่า ชาวนาในตำนานจะเฝ้าระวัยภัยได้เก่งกาจ?"
"อธิบายให้พวกเราเข้าใจด้วย"
"..."
กริดพลันตึงเครียดไปครู่ใหญ่ เขาคาดไม่ถึงว่าสมาชิกกิลด์จะเค้นหาเหตุผล เป็นไปไม่ได้เลยที่คนสมองทึบอย่างกริดจะหาคำอธิบายมารองรับได้ เพราะเมื่อครู่ได้พูดออกไปเล่นๆ เท่านั้น
ทว่า ลอเอลกลับวิเคราะห์ออกมา
"ชาวนาจะต้องปกป้องฟาร์มของตนจากน้ำแข็ง สัตว์ป่า และมอนสเตอร์ดุร้าย ชาวนาในตำนานย่อมมีทักษะปกป้องฟาร์มในระดับสูง หมายความว่า เขาน่าจะมีทักษะตรวจจับมอนสเตอร์และหยั่งรู้ถึงอันตรายได้ดีเป็นพิเศษ นี่คงเป็นเหตุผลที่กริดบอกให้มั่นใจในตัวชาวนาในตำนาน"
"ถูกต้อง"
กริดรีบยันยืนการสันนิษฐานของลอเอล สมาชิกโอเวอร์เกียร์ส่วนที่ไม่เห็นด้วยจึงเริ่มเข้าใจมากขึ้น
"นั่นสินะ… ชาวนาก็ต้องมีทักษะแบบนั้นอยู่..."
"ดีล่ะ งั้นตกลงตามนี้ ปิอาโร่ ได้โปรดทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดตลอด 4 ชั่วโมงด้วย ถือซะว่าพวกเราขอร้องก็แล้วกัน"
สมาชิกโอเวอร์เกียร์พูดฝากฝังพร้อมกับเข้าไปนอนในเต็นท์ ป็อนคือคนสุดท้ายที่ยังไม่เข้าไป เขาหันไปพูดกับปิอาโร่ว่า
"ในแม่น้ำเฮอบันด์มีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่อาศัยอยู่ มันแข็งแกร่งมาก ไม่เหมือนกับคางคกสีทองที่พวกเราพบเมื่อตอนกลางวัน ถ้าหากมันปรากฏตัวล่ะก็ นายต้องรีบแจ้งให้พวกเรารู้ทันที"
"เข้าใจแล้ว"
ป็อน สมาชิกคนสุดท้ายได้เข้าเต็นท์ไปนอน ปิอาโร่นั่งลงหน้ากองไฟตามลำพังและหวนนึกถึงอดีต
'ทำเอาคิดถึงสมัยที่เป็นอัศวินเลยแฮะ'
ช่วงเวลาที่ประจำการอยู่ในกองอัศวินสีชาด ปิอาโร่ได้ออกเดินทางไปทั่วทั้งทวีปและตั้งแคมป์อยู่บ่อยครั้ง ถือเป็นเวลาที่น่าจดจำซึ่งเขาได้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสหายร่วมรบผู้ซื่อสัตย์
ทว่า ทั้งหมดได้ตายไปแล้ว เป็นเพราะการใส่ร้ายป้ายสีของอัสโมเฟล
ซู่ววว
"..."
ในขณะที่ปิอาโร่กำลังจะเติมฟืนกองไฟ จู่ๆ สายตาของเขาก็พลันหันควับไปมองที่แม่น้ำ ยามนี้เป็นเวลารุ่งอรุณ มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวในหมอกหนาอย่างเงียบงัน แม้จะเป็นผู้ที่มีฝีมือสูงส่ง แต่คงเป็นการยากที่จะสัมผัสถึงการมีตัวตนของมันได้ ทว่า ปิอาโร่เป็นใครกัน? ไม่มีสิ่งใดสามารถรอดพ้นสายตาของนักดาบอันดับหนึ่งในทวีปไป
"แกคือมอนสเตอร์ประจำแม่น้ำเฮอบันด์สินะ"
ปิอาโร่ทำการขว้างกิ่งไม้ที่ถืออยู่ในมือลงไปยังแม่น้ำ หลังจากนั้นเพียงไม่นาน มีบางสิ่งได้กรีดร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมลึกอย่างเจ็บปวดทรมาน
ท้ายที่สุด ผู้ล่าอันดับหนึ่งของแม่น้ำเฮอบันด์ที่มีชีวิตอยู่อย่างยิ่งใหญ่มาตลอดหลายสิบปี
ยามนี้ได้ถึงจุดจบเสียแล้ว
***
"เอาล่ะ เยี่ยมเลย"
กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มนานถึงสี่ชั่วโมงเต็ม ค่าเรี่ยวแรงของทุกคนฟื้นฟูกลับมาจนเต็มหลอดอีกครั้ง พวกเขาทานมันฝรั่งสีรุ้งและเริ่มออกเดินทางไปยังเป้าหมาย
เพียงไม่นาน ทุกคนก็เดินทางมาถึงเขตภูเขา หลังจากที่ต้องผ่านหมู่บ้านและเมืองร้างมากมายระหว่างทาง
กริดและชาวโอเวอร์เกียร์ไม่ได้ปะทะกับมอนสเตอร์ใดอีก กริดเกิดความไม่เข้าใจกับภาพของผืนป่าไผ่อันกว้างใหญ่ด้านหน้าซึ่งทอดยาวขึ้นไปบนภูเขา
"ทำไมป่าแห่งนี้ถึงยังคงสภาพอยู่ได้? ที่นี่ไม่ได้ถูกหนอนยักษ์เข้าโจมตีรึไง?"
ลอเอลอธิบาย
"ร่างโคลนที่อยู่ในป่าแห่งได้ขัดขวางทั้งมอนสเตอร์และมนุษย์ทุกคนที่คิดย่างกรายเข้าไป ด้วยเหตุนี้ ทั้งป่าไผ่และเหมืองแร่ภายในภูเขาจึงยังปลอดภัยดี"
"หืมม..."
ถือเป็นเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่ค่อยได้พบเห็นนัก การที่มอนสเตอร์ตัวหนึ่งทำการปกป้องดินแดนของตนจากมอนสเตอร์อื่นที่มารุกราน กริดเริ่มสนใจใคร่รู้ เขาย่างกรายเข้าไปในป่าไผ่ทันที
และทันใดนั้นเอง
[ ท่านเข้าสู่เขตแดน <ป่าลี้ลับ> ]
[ สตินึกคิดของท่านจะเข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง ]
[ ในความเงียบงันไร้ก้นบึ้ง ท่านจะไม่อาจช่วยเหลือตนเองได้ ]
[ ท่านต่อต้านอาการผิดปรกติ ]
"อึก...! ความรู้สึกนี้มัน... น่าขยะแขยงชะมัด"
"ฉันชักจะง่วงแล้วสิ"
นอกจากกริด สมาชิกโอเวอร์เกียร์ล้วนเข้าสู่ภาวะไร้เรี่ยวแรง แขนขาพลันอ่อนเปลี้ย บนใบหน้าปรากฏความเจ็บปวด
แต่ในทางกลับกัน กริดกลับเดินดุ่มเข้าไปด้วยสีหน้าตกตะลึงสุดขีด
"...แพ็กม่า?"
ณ ใจกลางป่าไผ่ที่ลำต้นสูงเสียดฟ้า ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนก้อนหินอันราบเรียบ ใบหน้าของเขาเรียวยาวประหนึ่งไข่ไก่ ร่างกายผอมเพรียว ผิวพรรณขาวนวล ริมฝีปากสีแดงเด่นชัด ดวงตาอันเรียวยาวที่ราวกับกำลังยิ้มเยาะ เป็นรูปลักษณ์ที่ดูงดงามและสะอาดสะอ้านหมดจด คงเป็นการยากที่จะให้เชื่อลงว่าคนๆ นี้คือผู้ชาย เขามีลักษณะเหมือนกับแพ็กม่าทุกประการ กริดยังคงจำได้ไม่ลืม เพราะชายหนุ่มเคยเห็นภาพสลักที่ดูคล้ายกับชายคนนี้ภายในถ้ำใต้น้ำตกโลรัน
สวบ...
แพ็กม่าที่นั่งอยู่บนก้อนหินเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็เริ่มขยับตัว ชุดผ้าไหมที่ราวกับหลุดมาจากยุคสมัยโชซอนได้พริ้วปลิวสไหวตามท่าทาง
ดวงตาของแพ็กม่าจ้องมองมาทางกริดด้วยความมุ่งร้ายเป็นที่สุด
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteเจอบรรพระบุรุตแล้วววว แต่เป็นร่างโคลนนี้สิแย่ ตำนานกับตำนานเจอกันอะไรจะเกิดขึ้น ขอบคุณฮะ สนุกมาก
ReplyDelete