จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 228



       ทุกสิ่งที่ถูกวาดในแผนที่ดูจะมีขนาดเพียงน้อยนิด  เรย์ดัน  เมืองอันกว้างใหญ่ไปศาล  แต่เมื่ออยู่บนแผนที่กลับมีขนาดเพียงเหรียญ 500 วอนเท่านั้น 

       '500 วอน… เมืองที่สามารถจุคนได้ 430,000 มีขนาดเพียงเหรียญเล็กๆ แบบนี้... '

       นั่นแสดงให้เห็นว่า  ดินแดนตะวันตกนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด

       อาณาจักรอีเทอนัลแบ่งออกเป็น 4 ดินแดนใหญ่ :  ตะวันออก  ตะวันตก  เหนือ  ใต้  ทว่า  ขนาดของทั้ง 4 ดินแดนไม่ได้หารเฉลี่ยเท่ากัน  ดินแดนตะวันตกนั้นกว้างใหญ่ที่สุด  รองมาคือดินแดนตอนเหนือ  ดินแดนตะวันออก  และดินแดนตอนใต้

       แต่ดินแดนที่กว้างใหญ่เป็นอันดับหนึ่งกลับต้องกลายเป็นทะเลทรายอย่างฉับพลัน  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาเก็บกวาดหนอนยักษ์และฟื้นฟูดินแดนตะวันตกให้กลับมาได้?  ในปัจจุบัน  กริดคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของขุมพลังอำนาจอันดับหนึ่งของดินแดนตอนเหนือ   เขาคือตัวตนที่พิเศษและยิ่งใหญ่กว่าใคร

       "ตรงนี้"  แร็บบิทชี้นิ้วไปยังมุมหนึ่งของแผนที่  มันคือแม่น้ำเฮอเบ็นด์ที่ไหลผ่านเรย์ดัน 

       "อย่างที่ท่านเห็น  หมู่บ้านและเมืองน้อยใหญ่มากมายได้ตั้งรกรากอยู่ใกล้กับช่วงที่เป็นแอ่งทางตอนใต้ของแม่น้ำเฮอเบ็นด์"

       จะบอกว่ามีผู้คนเหลือรอดอยู่งั้นหรือ?  แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญเสียหน่อย

       "ความหมายของกระผมสิ่งใด  ท่านรู้หรือไม่?"

       "...?"

       กริดพลันงุนงงกับคำถามที่ไม่ทันตั้งตัวจากแร็บบิท
     
       'ทำไมถึงมีเมืองและหมู่บ้านกระจุกกันอยู่แถวนั้นงั้นหรือ?  เขามาถามเราเรื่องนี้ทำไม?  แล้วฉันจะไปรู้ได้อย่างไร?'

       หากเป็นกริดในอดีต  ถ้อยคำไม่น่าอภิรมย์พวกนี้คงถูกพ่นใส่หน้าแร็บบิทไปแล้ว  ทว่า  กริดปัจจุบันกลับพยายามพัฒนาระบบการคิดของตนอย่างเต็มที่

       "อืม..."

       เขาพยายามเค้นสมองอันน้อยนิดอีกครั้ง  และผลก็คือ  ชายหนุ่มสามารถค้นพบคำตอบด้วยตนเองอย่างยากลำบาก

       "เป็นเพราะมีแหล่งน้ำล่ะมั้ง?"

       ผู้คนต้องการแหล่งน้ำเพื่อมีชีวิตรอด  นั่นคือเหตุผลที่ง่ายและแสนธรรมดาทั่วไป

       ทว่า...  มันผิด

       "ยังไม่ถูก  มันไม่ง่ายกว่าหรือ  ถ้าหากจะยึดแหล่งน้ำที่อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำแทน?  เหตุผลที่บริเวณนี้มีจำนวนประชากรกระจุกอยู่มากมาย  เพราะมันมีบางสิ่งดึงดูดพวกเขา  สิ่งอื่นที่ไม่ใช่แหล่งน้ำ"

       "นายหมายถึง?"

       "เหมืองแร่… อย่างที่ท่านเห็น  ตรงบริเวณนี้มีเทือกเขาเล็กๆ ตั้งอยู่  ในทางภูมิศาสตร์  มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเหมืองแร่อยู่แถวนี้"

       "เหมืองแร่?"

       นั่นคือข่าวดี  ไม่สนว่าจะเป็นแร่เหล็ก  เงิน  หรือทอง  การได้ผูกขาดแร่โลหะ  ไม่ว่าจะเหล็กหรือใหญ่  ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์  นี่ถือเป็นข่าวดีใหม่ของเรย์ดัน 

       ทว่า...

       "ฉันดีใจที่ได้ยินเรื่องนี้  แต่นายทำไมถึงมาพูดเรื่องเหมืองแร่กับฉัน?  มันก็แค่เหมืองแร่  นายเอาไปปรึกษากับลอเอลก็ได้นี่?  ตอนนี้ฉันต้องการหินเสริมแกร่ง  ทำไมหัวข้อสนทนาถึงมาไกลขนาดนี้ได้?"

       'นั่นสินะ… นี่คือการตอบรับตามปรกติเมื่อผู้คนได้ยินข่าวการพบเหมืองแร่'

       ในที่สุดแร็บบิทก็เข้าใจ  กริดไม่เหมือนกับลอร์ดทั่วไป  อันที่จริง  เขาไม่มีความสนใจในงานบริหารบ้านเมืองเลยสักนิด

       'เขาอุทิศเวลาทั้งหมดอยู่ในโรงตีเหล็กตลอดสี่เดือนที่ผ่านมา'  บางคนอาจกล่าวหาว่ากริดไร้ความรับผิดชอบ  แต่แร็บบิทนั้นกลับมองในแง่บวก

       'ดยุคคนนี้ทำถูกต้องแล้ว  เขาอาจเป็นช่างตีเหล็กและนักรบที่ยอดเยี่ยม  แต่ด้วยความที่ขาดประสบการณ์ความรู้  คงเป็นการดีกว่า  ที่จะให้อยู่ห่างๆ การบริหารบ้านเมืองไว้'

       แม้ว่าจะอ่อนประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมือง  แต่ก็ยังมีลอร์ดประเภทนี้บางคนที่คิดแทรกแซงเพื่อประโยชน์ส่วนตน  ทว่า  ในทางตรงกันข้าม  กริดกับเลือกที่จะฝากฝังหน้าที่เอาไว้กับผู้ใต้บังคับบัญชา  เพราะเขารู้จักตนเองเป็นอย่างดี  กริดคือลอร์ดในอุดมคติของแร็บบิทที่รู้ว่าอะไรควรและไม่ควรทำ

       'เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและยอดเยี่ยมาก'

       กริดแตกต่างจากผู้นำที่โง่เขลาของบริษัทเมโร่ที่แร็บบิทเคยทำงานด้วยในอดีต

       แร็บบิทยังคงอธิบายต่อไป

       "สมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้สำรวจจนพบว่า  ทางบริเวณตอนใต้ของแม่น้ำเฮอเบ็นด์มีเหมืองแร่อยู่จริง  แต่ภายในนั้นมีมอนสเตอร์ระดับบอสที่แข็งแกร่งมาก  ทำให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์จัดอันดับให้เหมืองแร่แห่งนั้นคือสถานที่อันตรายและรีบล่าถอยกลับมา"

       "สมาชิกของโอเวอร์เกียร์คนใดบ้างที่ไปสำรวจเหมืองแน่แห่งนั้น?"

       "ทุกคน"

       "อะไรนะ?"

       กิลด์โอเวอร์เกียร์นั้นแข็งแกร่ง  พวกเขาทุกคนล้วนอยู่ในอันดับท็อป 40 ของโลก  ทว่า  แม้จะร่วมมือกันก็ยังต้องถอยหนีมาจากบอสในเหมืองงั้นหรือ?

       'หรือว่าจะระดับเดียวกับเฮลกาโอ?'  แม้แต่กริดก็ไม่อาจสู้กับเฮลกาโอที่มีพลังเต็ม 100% ได้  เขาเอาชนะมันได้อย่างยากลำบากโดยการขุดศิลาอัคคีออกมาแล้วถึงสองก้อน 

       'สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมากแล้ว...'

       เรกัสคือสมาชิกคนแรกที่กลายเป็นคลาสระดับ 3  เขาเลือกเล่นคลาส <อาชูร่า>  ซึ่งมุ่งเน้นในการปราบปีศาจ  นั่นถือว่าเหมาะกับลักษณะนิสัยส่วนตัวอย่างมาก  หลังจากที่ทำภารกิจเลื่อนระดับสำเร็จ  เรกัสก็ท้ากริดดวลตัวต่อตัวเพื่อแก้มือในนัดชิงชนะเลิศงานแข่งนานาชาติ 

       และผลคือ  กริดชนะ

       'เราเกือบต้องใช้ประกันชีวิตด้วยซ้ำ'

       สิ่งนี้ค่อนข้างน่าอับอาย  เป็นเพราะกริดได้ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจากปิอาโร่ในพื้นฐานวิชาดาบมามากแล้ว  แต่เรกัสที่กลายเป็นคลาสระดับ 3 นั้นแข็งแกร่งขึ้นราวกับเป็นคนละคน  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือเองก็เช่นกัน  ทว่า  มอนสเตอร์บอสภายในนั้นกลับแข็งแกร่งจนพวกเขาต้องหนีกลับมาเชียวหรือ?

       'จะต้องเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมากแน่'

       กริดส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะถามต่อไป

       "แล้วยังล่ะ?  เรื่องนั้นเกี่ยวพันอะไรกับหินเสริมแกร่งของฉัน?"

       "ท่านได้ฟังคำอธิบายของกระผมไปแล้วหรือยัง  ว่าเหตุใดถึงทุ่มเงินกิลด์เกินกว่าครึ่งไปกับโรงแปรธาตุ?"

       "ฉันได้ยินมาจากลอเอลแล้ว  นั่นไม่ใช่เพราะว่าผลของการแปรธาตุมันน่าสนใจหรอกหรือ?  การแปรธาตุสามารถสร้างโพชั่นเสริมพลังได้หลากหลาย  แถมยังเพิ่มออปชั่นให้ไอเท็มได้ด้วย"

       "ยังมีเรื่องอีกมากมายที่โรงแปรธาตุสามารถทำได้  แต่ถึงกระนั้น  แทบทุกเมืองก็เลี่ยงที่จะลงทุนในโรงแปรธาตุ  ถึงขนาดที่ว่า  เมืองที่มั่งคั่งอันดับหนึ่งในอาณาจักรยังหลีกเลี่ยงที่จะลงทุนในโรงแปรธาตุ"

       "ทำไมกัน?"

       "ก็เพราะมันเอาแน่เอานอนไม่ได้"

       เอฟเฟคของไอเท็มที่ผลิตจากโรงแปรธาตุนั้นไม่คงที่  ส่วนมากจะเป็นแบบสุ่ม  แถมโอกาสสำเร็จก็ยังมีต่ำเกินไป  ตัวอย่างเช่น  ต่อให้โรงแปรธาตุกลายเป็นระดับสูงสุด  แต่โอกาสผลิตโพชั่นเสริมพลังนั้นก็ยังมีต่ำกว่า 70%  และโอกาสที่จะเพิ่มออปชั่นให้ไอเท็มสำเร็จนั้นมีต่ำกว่า 30% เสียอีก

       ยิ่งไปกว่านั้น  ค่าวัสดุที่ใช้สำหรับการแปรธาตุแต่ละหนก็มีมูลค่าสูง  โดยรวมแล้ว  โรงแปรธาตุจึงถือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

       กริดขมวดคิ้วให้กับคำอธิบาย

       "แล้วนี่หมายความว่ายังไง?  มันไม่ได้แปลว่านายกำลังลงทุนทำเรื่องไร้สาระอยู่งั้นหรือ?"

       เงินจำนวน 2,937,000 เหรียญทองจาก 5 ล้านได้ถูกนำไปลงทุนกับโรงแปรธาตุ  กริดรู้สึกเหมือนถูกกระแทกเข้าที่ศีรษะด้านหลังอย่างแรง

       'หมอนี่มันคิดจะทำให้เราล่มจมรึไง?'

       แร็บบิทมองเห็นถึงสิ่งที่กริดคิด  เขาจึงอธิบายต่อไป

       "กระผมจะพัฒนาให้เรย์ดันกลายเป็นเมืองทาลิม่าแห่งที่สอง"

       "ทาลิม่า?  เมืองคนแคระงั้นหรือ?"

       "ถูกต้อง"

       เมืองคนแคระ  ทาลิม่า  ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสรวงสวรรค์  ไม่ว่าจะเป็นเกรดใด  แต่ไอเท็มที่ผลิตจากทาลิม่านั้นมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่น  แม้กระทั่งร้านค้าเล็กๆ ก็ยังขายไอเท็มที่เทียบกับได้กับเกรดยูนีค  ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมากคิดเดินทางไปที่นั้นเพื่อจะซื้อไอเท็ม  ทว่า  เรื่องนั้นกลับเป็นไปไม่ได้  เมืองทาลิม่าตั้งอยู่ในเขตแดนของมังกรทราวก้า  มันจึงกลายเป็นเมืองที่มนุษย์ไม่อาจย่างกรายเข้าไป

       "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเรย์ดันมีไอเท็มระดับเดียวกับทาลิม่าวางขาย?"

       แน่นอน  เรย์ดันจะกลายเป็นสถานที่พิเศษของทวีปทันที  ผู้คนจากทั่วทั้งทวีปจะหลั่งไหลมาเยือนเรย์ดันอย่างไม่ขาดสาย  แร็บบิทหวังว่าสักวันจะมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น  เขาจึงกล้าเสี่ยงลงทุนในโรงตีเหล็กและโรงแปรธาตุด้วยเม็ดเงินมหาศาล

       "โรงแปรธาตุจะทำให้ไอเท็มที่ท่านและช่างตีเหล็กของท่านผลิตขึ้น  มีความเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า  กระผมมั่นใจมากว่า  เมืองแห่งเดียวในทวีปนี้ที่เหมาะสมจะลงทุนในด้านแปรธาตุ  คือเรย์ดัน"

       "หืมม..."

       ถ้าหากเมืองเติบโตขึ้นตามที่แร็บบิทหวังไว้  รายได้จำนวนมหาศาลก็จะไหลมาเทมาอย่างไม่ต้องสงสัย  กริดเองก็หวังจะให้มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น 

       ทว่า

       "นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่รึ  ว่าโอกาสสำเร็จของการแปรธาตุมีต่ำมาก?  พวกเราจะคุ้มทุนงั้นหรือ?  ถ้าหากดวงไม่ดีจนทำให้ล้มละลายไปเสียก่อนที่จะกลายเป็นทาลิม่าแห่งที่สองล่ะ?"

       "ท่านยังจำเทศมนตรีอาริกได้หรือไม่?"

       "อาริก?  อ้อ… คนที่ปกครองเมืองนี้ก่อนที่ฉันจะมาถึงใช่ไหม?"  อาริกเป็นเหมือนกับตัวตลก  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับมันล้วนเป็นเรื่องน่าขบขัน

       "หมอนั่นถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินรึเปล่า?  อาริกมันทำไมหรือ?"

       "เหตุผลที่ลอเอลไม่ฆ่าเขา  เป็นเพราะลอเอลต้องการรีดข้อมูลของดินแดนตะวันตกมาให้ได้มากที่สุด  กระผมเองก็ได้ข้อมูลสำคัญมาไม่น้อย"

       "อย่างเช่น?"

       "มีเหมืองมิธริลสีเหลืองแอบซ่อนอยู่สักแห่งภายในดินแดนตะวันตก"

       "มิธริลสีเหลือง?"

       นั่นคือเหตุผลหลักที่แร็บบิทตัดสินใจลงทุนในโรงแปรธาตุ

       "มิธริลสีเหลืองคือวัสดุหลักในการสร้างผงนางฟ้า  และผงนางฟ้าก็จะช่วยทำให้การแปรธาตุมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นหลายส่วน  หากจะให้กระผมคาดเดา  เหมืองมิธริลสีเหลืองจะต้องตั้งอยู่บริเวณแอ่งน้ำทางตอนใต้ของแม่น้ำเฮอเบ็นด์แน่นอน"

       "โอ้..."

       มันคือแร่ที่จะช่วยกลบจุดอ่อนของอัตราความสำเร็จที่ต่ำของการแปรธาตุ  กริดพลันขนลุกซู่  อนาคตอันสดใสของเรย์ดันกำลังถูกจินตนาการเป็นวิมานอยู่ภายในหัว

       "...จะว่าไป  แล้วมันเกี่ยวกับหินเสริมแกร่งยังไง?"

       เขายังคงไม่เข้าใจว่า  ทำไมหัวข้อการสนทนาถึงออกทะเลอีกแล้ว  กริดเริ่มแสดงความไม่พอใจ  แร็บบิทจึงรีบตัดบทเข้าเรื่อง

       "หินเสริมแกร่งสามารถสร้างขึ้นได้จากการแปรธาตุ"

       "...!"

       ดวงตาของกริดเบิกโพลง  เขาเคยคิดแต่เพียงว่า  หินเสริมแกร่งจะต้องดรอปจากมอนสเตอร์ประเภทบอสเท่านั้น  จึงช่วยไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะรู้สึกประหลาดใจ

       "เดิมที  คงเป็นการฉลาดกว่าหากเลี่ยงสร้างหินเสริมแกร่งด้วยการแปรธาตุ  เพราะโอกาสสำเร็จของมันมีต่ำมากจนแทบเป็นไปไม่ได้   ทว่า  เรื่องราวจะกลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อพวกเรามีผงนางฟ้าอยู่ในมือ"

       และนี่คือวินาทีที่การอธิบายอันยืดยาวของแร็บบิทเข้าสู่ความต้องการที่แท้จริง

       "ดังนั้น  ท่านช่วยไปสำเร็จและยึดเหมืองมิธริลสีเหลืองให้ตกเป็นของพวกเราด้วย"

       "ตกลง"

       กริดตอบกลับโดยไม่คิด  ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องปฏิเสธ  มอนสเตอร์ระดับบอสอาจยากเกินไปสำหรับสมาชิกโอเวอร์เกียร์  ทว่า  สิ่งนั้นจะตรงกันข้ามเมื่อมีกริดและโนเอะ

       "งั้นฉันออกเดินทางเลยก็แล้วกัน"

       เมื่อกริดตัดสินใจไปแล้ว  ไม่ว่าใครก็ห้ามไม่อยู่  กริดเรียกประชุมสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคน  พวกเขาล้วนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ออกเดินทางกับกริดอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน

       "ตั้งแต่สงครามกับโกเล็มแล้วสินะ"

       "ถ้ามีกริดล่ะก็  มอนสเตอร์บอสตัวนั้นถูกโค่นได้แน่"

       กริดกวาดสายตาไปยังสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนและถามว่า

       "เป็นบอสชนิดไหนกัน?  พวกครึ่งอสูรงั้นหรือ?"

       "เปล่าเลย  เป็นร่างโคลน"

       "ร่างโคลน?"

       ร่างโคลนคือมอนสเตอร์ที่จะคัดลอกรูปลักษณ์และทักษะทั้งหมดของเป้าหมายมา  เดิมที่มันคือพวกที่จัดการได้ยากมาก  ทว่า...

       "แม้ว่ามันจะทำการก็อบปี้ใครคนหนึ่งไป  แต่พวกเราก็ยังได้เปรียบในด้านจำนวนไม่ใช่รึไง?  ก็น่าจะจัดการได้ง่ายไม่ใช่หรือ?"

       ป็อนเป็นคนอธิบาย

       "ก็อย่างที่นายบอก  ร่างโคลนจะจัดการได้ง่ายมากถ้าหากมันก็อบปี้ใครคนหนึ่งในบรรดาพวกเรา  แต่กลับกลายเป็นว่า  มันได้คัดลอกใครบางคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามากอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว"

       แวนเนอร์เสริม

       "มันเก่งกาจมากจริงๆ… ร่างกายผอมเพรียว  ใบหน้าหล่อเหลา  การเคลื่อนไหวร่างกายมีความพริ้วไหว  ดาบใหญ่ในมือดูคคล้ายกับดาอินสเลฟ "

       เรกัสเองก็ช่วยพูด

       "ท่าทางการเคลื่อนไหวดาบทำให้ฉันนึกถึงนาย  กริด"

       เฟคเกอร์ก็ด้วย

       "การเคลื่อนไหวพื้นฐานดูคล้ายกับกริด  แต่เทคนิคการใช้ดาบนั้นสูงกว่ากริดหลายเท่า"

       "หืมม..."

       คู่ต่อสู้เก่งกาจขนาดนั้นเชียว?  กริดพลันนึกสงสัยในฝีมือของร่างโคลนที่สมาชิกแถวหน้าของกิลด์ต่างยกย่องกันนักหนา

       'เดี๋ยวไปเจอก็คงรู้เอง'

       เมื่อสมาชิกโอเวอร์เกียร์เตรียมตัวเสร็จสรรพ  กริดจึงออกคำสั่ง

       "ออกเดินทางได้... จู๊ด  นายกับกองทหารต้องปกป้องเรย์ดันไว้ให้ได้นะ"

       "ขอรับ..."

       จู๊ดรู้สึกผิดหวังที่ไม่อาจไปร่วมด้วยได้  เขาก้าวถอยหลังกลับไปเล็กน้อย

       "ฉันจะไปกับนายด้วย"

       นักดาบอันดับหนึ่งของทวีป  ปิอาโร่  ในยามนี้เขาแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง  ผมเผ้าหนวดเคราถูกตัดเรียบร้อย  เสื้อผ้าสะอาดสะอ้านกลิ่นหอม  มันคงเป็นการยากที่จะให้เชื่อว่า  ขอทานเมื่อหลายเดือนก่อนกับเขาคนนี้จะเป็นคนเดียวกัน  ภาพที่เห็นทำให้ผู้คนต่างประทับใจมาก

       "ได้โปรดให้ฉันหยิบยืมพลังของนายด้วย"

       กริดยินดีต้อนรับปิอาโร่เข้าสู่คณะเดินทาง  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สมาชิกโอเวอร์เกียร์พลันงุนงง

       'เขาพาชาวนาไปด้วยทำไม?'

       ในการล่าบอส  ชาวนาย่อมไร้ประโยชน์  ชาวนามีหน้าที่ในการล่าบอสอย่างไรบ้างน่ะหรือ?  ไม่มี  พวกเขาเป็นเพียงปัจจัยสำคัญในการทำฟาร์ม 

       ลอเอลคิดจะพูดบางสิ่งขึ้น  แต่เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

       'เดี๋ยวนะ  ปิอาโร่เป็นผู้เชี่ยวชายฮวงจุ้ยด้วยนี่นา...'

       หรือกริดคิดจะใช้เขาสำรวจดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรอันมีค่า?

       'คาดไม่ถึงเลยว่า  กริดจะอัจฉริยะขนาดนี้... '

       ลอเอลเป็นปลื้มกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกริด  ในสายตาของเขา  กริดกลายเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิงไปแล้ว

Comments

  1. ร่างโคลน แพกม่า?

    ReplyDelete
    Replies
    1. คิดเช่นกัน ร่างโคลนแพ็คม่า

      Delete
  2. ลอเอลเอ่ยย ปวดจิตกับนายจริงๆ

    ReplyDelete
  3. 555555 กูฮ่ากับความเข้าใขผิด ถ้าทุกคนรู้ว่าปิอาโรคือใครคง อึ้ง ทึ้ง เสียว กันเลยที่เดว

    ReplyDelete
  4. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  5. ยังคงคิดว่าปิอาโร่ คือชาวนาในจำนาน อยู่ 555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00