จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 239
'ภารกิจเกรด A ยากกว่าที่คิดแฮะ'
พลังในการต่อสู้ของกริดนั้นโดดเด่นเป็นพิเศษ ตั้งแต่เขาได้รับมันมา ชายหนุ่มก็เคลียร์ภารกิจเกรด A ทั้งหมดอย่างง่ายดาย แต่คราวนี้กลับหนักหนาเอาการ เขาสูญเสียค่าเรี่ยวแรงและค่าพลังชีวิตไปมากถึง 1 ใน 6 ส่วนเพื่อสังหารผู้เล่นเพียง 25 คน
"คนพวกนั้น… ตึงมือเอาเรื่องเหมือนกัน"
ใครก็ตามที่ได้ยินคงร้องไห้ เพราะความจริงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบบนั้นเลย จะกล่าวให้ถูกก็คือ ศัตรูทั้ง 25 คนถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี ทว่า กริดกลับคิดแตกต่าง การต่อสู้ในคราวนี้ผิดจากที่คาดไปมาก
เขาเป็นถึงชายผู้ที่สั่นคลอนงานแข่งนานาชาติระดับโลกเชียวนะ!
'เลเวลของศัตรูอยู่ที่ราว 200 เท่านั้น แต่เรากลับไม่สามารถปิดฉากได้ในพริบงั้นหรือ...'
ทั้งหมดเป็นเพราะเวอราดิน ผู้ซึงมีคลาสหมอผี
'เจ้าบ้านั่นเก่งฉิบ'
หมอผีจัดเป็นคลาสที่น่ารำคาญและรับมือได้ยาก ไม่สนว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู แต่ซากศพที่ถูกปลุกขึ้นจะกลายเป็นทหารของเวอราดินและโจมตีใส่อีกฝั่งอย่างไร้เหตุผล ถือเป็นคลาสที่ทำให้ศัตรูต้องสิ้นเปลืองพลังงาน (มานา, เรี่ยวแรง, พลังชีวิต) อย่างสูง เพราะการปลุกซากศพนั้นทำได้ง่ายและมีจำนวนมาก
ในกรณีของเวอราดิน เลเวลของเขาอยู่ในระดับสูงและรู้จักกลยุทธในการสู้เป็นอย่างดี กองทัพอันเดดเชี่ยวชาญทั้งการบุกและตั้งรับ สิ่งนี้คอยพัวพันกริดจนน่ารำคาญ ความสามารถในการต่อสู้ของเวอราดินไม่ด้อยไปกว่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์เลยสักนิด
'คงจะดีไม่น้อย ถ้าในอนาคตเราสร้างไอเท็มไว้สำหรับปราบอันเดดโดยเฉพาะ'
แต่ก็ยังดี ประสบการณ์ทุกรูปแบบล้วนมีค่า และกริดก็ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการต่อสู้อีกมิติหนึ่ง เขาสามารถหาทางรับมือกับอันเดดได้ด้วยไอเท็มที่จะสร้างขึ้นหลังจากนี้
กริดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มลูบไล้กำไลผู้พิทักษ์ตรงข้อมืออย่างทะนุถนอม
'ยิ่งใช้มัน เราก็ยิ่งชอบ'
เดิมที กริดมีค่าความทรหดราว 900 แต้ม แต่หลังจากที่สวมเครื่องประดับเซ็ตผู้พิทักษ์เข้าไป ค่าความทรหดของก็เขาสูงกว่า 1,000 แต้มไปแล้ว ส่งผลให้เอฟเฟคลับของความทรหดปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง ในยามที่ศัตรูที่มีเลเวลต่ำกว่า กริดจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ กับร่างกายเลย
เป็นผลมาจากพลังป้องกันและค่าความทรหดที่สูงลิบ
'แต่เหนือสิ่งอื่นใด… แรนดี้เก่งกาจผิดคาดมาก'
อันที่จริง กริดก็ไม่เคยเคลือบแคลงสงสัยในฝีมือต่อสู้ของแรนดี้ เธอคัดลอกค่าสถานะ 30% ของกริดและไอเท็มไป ทำให้ฝีมือที่แท้จริงของแรนดี้น่าจะอยู่ที่ราวนักดาบเลเวล 180
ทว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้แรนดี้โบยบินก็คือ...
วิชาดาบแพ็กม่า
หนนี้ แรนดี้สามารถคัดลอกได้ถึง 3 ทักษะ ประกอบด้วย ทำลายล้าง ร่ายรำ และวังวน โดยจังหวะการใช้วังวนของเธอช่างไร้ที่ติ แรนดี้สามารถจัดการกับผู้เล่นเลเวล 200 ได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นสหายร่วมรบที่มีค่ามากทีเดียว
กริดกล่าวชมเชยแรนดี้ในขณะที่เธอกำลังเปลี่ยนร่างกลับเป็นไปเด็กสาว
"สู้ได้ดีมาก"
แววตาของแรนดี้พลันเปล่งประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
"แรนดี้ได้รับคำชม! แรนดี้มีความสุขมาก!"
เป็นรอยยิ้มอันแสนน่ารักซึ่งมาพร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อ
'เซฮีเองก็เคยน่ารักแบบนี้'
กริดตบบ่าของเธอเบาๆ
ก่อนที่จะมีเสียงพูดแทรกขึ้นว่า
"โนเอะเองก็อยากสู้พร้อมกับเจ้านาย! เมี๊ยว! ทำไมเจ้านายไม่ให้โนเอะร่วมสู้? เมี๊ยว! ทำไมสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกถึงถูกปฏิบัติตัวเช่นนี้? เมี๊ยว!"
โนเอะออกล่าคนเดียวในเรย์ดันจนมีเลเวล 143 ตัวเขาเองก็หวังจะได้เลเวลอัพไปพร้อมกับผู้เป็นนายในการผจญภัยครั้งนี้ ทว่า เจ้านายกลับเอาแต่สนใจร่างโคลนและไม่เอาใจใส่โนเอะ สิ่งนั้นทำให้โนเอะไม่ชอบใจอย่างมาก
กริดปลอบใจโนเอะที่กำลังอารมณ์บูด
"แกคือสุดยอดอาวุธลับของฉัน ฉันไม่ต้องการใช้พลังอันล้ำค่ากับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้"
"โอ้...! โอ้ววว!"
โนเอะชื่นชอบคำว่า <อาวุธลับ> <ล้ำค่า> และ <สุดยอด> อย่างมาก เขาเต้นรำไปมากลางอากาศด้วยแขนและขาที่สั้นป้อม แถมยิ่งน่ารักขึ้นไปอีกเมื่อร่างกายอันอวบอ้วนกำลังดุกดิกไปมา กริดเพ่งพิจารณารูปลักษณ์ของโนเอะอย่างถี่ถ้วน ในยามนี้ เขาแหลมกลางศีรษะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และดูเหมือนเขี้ยวก็จะมีความแหลมคมมากขึ้นด้วยเช่นกัน
'ชักเริ่มเหมือนสัตว์อสูรเข้าไปทุกที'
พลังอสูรของกริดเองก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เขาสังหารผู้เล่น
'เราจะไม่กลายเป็นอสูรเข้าสักวันใช่ไหม? ถ้าพลังอสูรยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้'
ดูเหมือน ยิ่งพลังอสูรมาก ตัวเขาก็ยิ่งเข้าใกล้กับขุมนรกมากขึ้น แต่ในปัจจุบัน ยังไม่เคยมีข้อมูลของการเข้าออกนรกในหมู่ผู้เล่น กริดจึงคิดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
หลังจากนั้น ชนเผ่าอัลที่เหลือรอดได้วิ่งมาหากริด
"ท่านวีรบุรุษ!"
เทศมนตรีหมู่บ้าน บูด้า เขากล่าวขอบคุณกริดแทนส่วนของทุกคน
"ถ้าไม่มีท่าน พวกเราคงถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องตอบแทนอย่างไรดีถึงจะคู่ควร"
[ ภารกิจ <ช่วยเหลือชนเผ่าอัล> สำเร็จ ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับชนเผ่าอัลเพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ถ้าท่านต้องการ ชนเผ่าอัลสามารถกระโดดหน้าผาเพื่อท่านได้ ]
บรรดาชนเผ่าอัลต่างโค้งคำนับให้กริดอย่างนอบน้อม ชายหนุ่มหยิบดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ออกมาส่องดูรายละเอียดของแต่ละคน
'พวกเขามีค่าสติปัญญาสูงมาก...'
โดยทั่วไป เอ็นพีซีชาวบ้านจะมีค่าสติปัญญาอยู่ที่ราว 100 แต้ม แต่ค่าเฉลี่ยของชนเผ่าอัลกลับสูงถึง 300 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กสาวที่ชื่อฮวาริน เธอโดดเด่นกว่าใครเป็นพิเศษ
ชื่อ : ฮวาริน
อายุ : 11
เพศ : หญิง
ตำแหน่ง : ผู้อพยพ
สมญานาม : ผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของราชวงศ์อัล
เลเวล : 7
พละกำลัง : 3/70
ความอดทน : 12/249
ความว่องไว : 14/398
สติปัญญา : 120/1,890
ความน่าหลงไหล : 155/1,503
ความน่าเกรงขาม : 30/550
_______
รายการทักษะ : ไม่ปรากฏ
_______
ผู้เหลือรอดของอาณาจักรอัลที่ถูกจักรวรรดิทำลายลงไป แม้จะไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริง แต่เธอคือขุนนางชั้นสูงซึ่งมีสายเลือดโดยตรงของราชวงศ์อัล
'ไม่เลว'
ชนเผ่าอัลค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ในภายหลัง คงมีประโยชน์อีกหลายด้านแน่นอน บรรดาพวกเขา อาจเป็นไปได้ที่จะมีใครสักคนสามารถกลายเป็นจอมเวทย์
กริดเอ่ยปากถามขึ้น
"จักรวรรดิไม่ใช่สถานที่ซึ่งพวกคุณจะอาศัยอยู่ได้อีกแล้ว อยากย้ายมาอยู่ที่อาณาจักรอีเทอนัลไหม?"
"อาณาจักรอีเทอนัล...?" อีเทอนัลคือหนึ่งในอาณาจักรที่ทรงอำนาจจากทั้ง 17 อาณาจักรในทวีป ทว่า นั่นก็ยังห่างไกลกลับจักรวรรดิอยู่มาก
"อาณาจักรอีเทอนัลจะต้อนรับพวกเราจริงหรือ? พวกเรากำลังถูกจักรวรรดิตามล่าตัวอยู่ บางที นั่นอาจทำให้จักรวรรดิมีข้ออ้างในการ..."
"ถ้าพวกคุณเคลื่อนไหวอย่างลับๆ รับรองว่าจักรวรรดิไม่มีทางรู้"
"แต่ราชวงศ์อีเทอนัลจะต้องไม่พอใจแน่"
"ไม่ต้องห่วง เดินทางไปยังเรย์ดันซะ แม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่มีสิทธิยื่นมือเข้าแทรกแทรงเมืองที่ปกครองโดยดยุค"
"ท่านเป็นใครกัน?"
"ฉันคือลอร์ดแห่งเรย์ดัน ขอสัญญาว่า ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม"
"...! ท่านคือดยุคงั้นหรือ?"
สีหน้าของชนเผ่าอัลพลันเปลี่ยนสี เหตุใดดยุคของอาณาจักรอื่นถึงลอบเข้ามาในจักรวรรดิ? พวกเขาไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้ได้เลย
กริดส่งข้อความไปหาลอเอล
>> ฉันต้องการใครสักคน มาช่วยนำทางชาวเมืองจำนวน 930 คน ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่ดินแดนของเอิร์ลซีบร้าแห่งจักรวรรดิ ฉันอยากให้พวกเขากลับไปยังเรย์ดันอย่างปลอดภัย
>> อะไรนะ?
ลอเอลพลันสับสน กริดอธิบายสถานการณ์อย่างละเอียด เมื่อลอเอลได้ยินดังนั้นก็ดีอกดีใจ
ผู้ที่จะรับหน้าที่นี้ ลอเอลแนะนำให้เป็นเฟคเกอร์
กริดประหลาดใจเล็กน้อย
>> เฟคเกอร์? จะดีหรือ?
เฟคเกอร์คือเงาที่เคลื่อนไหวในความมืด เขาจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน และนั่นยิ่งไม่เหมาะในการนำขบวนชาวเมืองเข้าไปใหญ่
แต่ลอเอลกลับเห็นต่าง
>> ทักษะในการวางกับดัก การรับรู้สิ่งผิดปรกติ และการตัดสินใจของเฟคเกอร์อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ถ้าหากมีคนไล่ตามมา เขาสามารถใช้กับดักสลัดพวกมันให้หลุดได้ การนำขบวนของชนเผ่าอัลคงไม่ใช่ปัญหา
>> ฉันรู้ว่าเขาเก่งกาจ แต่ว่า… ไม่มีใครที่เหมาะสมกว่าเฟคเกอร์แล้วจริงหรือ?
>> ที่เรย์ดันมีงานกองเป็นภูเขา ไม่มีทางที่จะส่งคนไปให้นายได้เกิน 2 คนแน่ ดังนั้น เชื่อมือเฟคเกอร์เถอะ
ในเมื่อได้ข้อสรุป กริดจึงใช้ทักษะ
"อัญเชิญอัศวิน"
[ อัศวินของท่านมีดังนี้ : ฮิวรอย, ลอเอล, จู๊ด, จิสึกะ, ยูเฟอมิน่า, เฟคเกอร์, ป็อน, เรกัส ท่านต้องการจะอัญเชิญอัศวินคนใด? ]
"เฟคเกอร์"
[ เป้าหมายตอบรับการอัญเชิญ ]
ซู่ววว
ชายในผ้าคลุมสีดำได้โผล่ขึ้นมาจากเงาของกริด เขาพูดกับกริดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"ทำได้ไม่เลว"
"ขอบคุณ"
ชิ้ง...
เฟคเกอร์กวาดสายตามองไปยังชนเผ่าอัลด้วยแววตาที่ดุดัน เหล่าชาวบ้านแทบจะร้องไห้ทันทีที่ได้สบตากับเฟคเกอร์เข้า
'ดวงตานั่น… ราวกับทะลวงลึกเข้าไปถึงกระดูก'
'ฉ--ฉันกลัว'
ทุกคนล้วนรู้สึกหวาดกลัว นั่นเป็นผลมาจากค่าสถานะ <จิตสังหาร> ของเฟคเกอร์ และเป็นเหตุผลหลักที่เฟคเกอร์มักจะซ่อนอยู่ในเงามืดเป็นส่วนใหญ่ การกลบจิตสังหารจำเป็นต้องใช้พลังจิตใจที่สูงมาก สำหรับนักลอบสังหารแล้ว ค่าสถานะจิตสังหารเป็นเหมือนบทลงโทษมากกว่า
"ไปได้กันแล้ว"
เฟคเกอร์ไม่รีรอ เขาออกคำสั่งกับชนเผ่าอัลที่กำลังหวาดกลัวให้เก็บข้าวของเตรียมเดินทาง
***
หลังจากต้องอยู่กับเฟคเกอร์หลายวัน ชนเผ่าอัลต่างรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนเบาะหนาม การที่เฟคเกอร์ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ ยิ่งทำให้พวกเขาหวั่นวิตกมากกว่าเดิม ทุกคนกลัวว่าอาจถูกฆ่าเอาได้ ถ้าหากเผลอไปยุ่งเกี่ยวเข้า บางคงถึงกับไม่กล้าหายใจเสียงดัง
ในทางกลับกัน กริดเปลี่ยนแผนเล็กน้อย เขาออกล่ามอนสเตอร์อย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะการสังหารผู้เล่นไปมากมายย่อมทำให้ <ค่ากรรม> อยู่ในระดับสูง ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะเดินเข้าเมืองหรือหมู่บ้านได้เลย เพราะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่า เขตที่พักอาศัยจะไม่ต้อนรับให้ <หัวแดง> เข้าเมือง สำหรับกริด เขาอาจจะเคยไปไหนมากไหนได้ทุกที่ในอาณาจักรอีเทอนัล แต่กับจักรวรรดิแล้วไม่ใช่ การลดค่ากรรมเพื่อลบหัวแดงมีทางเดียวคือการฆ่ามอนสเตอร์ไปเรื่อยๆ
ทว่า มอนสเตอร์ในซีบร้ามีเลเวลต่ำมาก อยู่เพียงแค่ราว 180 ถึง 220 เท่านั้น ด้วยค่าประสบการณ์ที่น้อย จึงทำให้ค่ากรรมลดลงช้าตามไปด้วย กริดเริ่มเป็นกังวล เพราะเขาเสียเวลาไปมากแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังคงความเยือกเย็นไว้ได้อยู่ นี่เองก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกฝนวิชาดาบคู่ไปพร้อมกับการอัพเลเวลแรนดี้และโนเอะ
หลังจากนั้นไม่นาน พิราบสื่อสารส่วนตัวก็บินมาส่งจดหมาย
มันคือจดหมายจากไอรีนที่จะเขียนถึงเขาในทุกสัปดาห์ โดยส่วนมากจะเป็นการบรรยายความรู้สึกถวิลหาที่มีต่อกริด
ทว่า จดหมายในวันนี้ค่อนข้างต่างจากปรกติ
"จดหมายฉบับนี้… หมายความว่ายังไง?"
กริดพลันยืนตกตะลึง
ไอรีนพร่ำบอกอยู่เสมอว่าเธอต้องการตั้งครรภ์ แต่กริดก็ไม่คิดว่า ผู้เล่นกับเอ็นพีซีจะสามารถมีลูกด้วยกันได้
[ ประมาณหนึ่งเดือนก่อน ฉันเริ่มเจ็บท้อง แต่ก็ไม่ได้กังวลกับมันมากนัก ทว่า ในพักหลังมานี้ ฉันเริ่มมีอาการคล้ายกับหญิงตั้งครรภ์ บางครั้ง ภายในท้องก็รู้สึกเหมือนว่ามี… น้ำตาแห่งความยินดีไหลออกมาไม่หยุด ฉันอยากได้ลูกชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับคุณ ]
"ช--เชี่ย..."
ลูก?
มากกว่าความดีใจ กริดกำลังตกใจ ไม่แปลกที่เขาจะสับสน เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ของกริดอย่างแท้จริง
หน้าต่างข้อความระบบได้แสดงขึ้น
[ ท่านจะยอมรับข่าวการตั้งครรภ์ของภรรยาหรือไม่?]
[ ชีวิตใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น นับเป็นเรื่องที่สมควรจะแสดงยินดี แต่จงจำให้ขึ้นใจ ผู้ที่ไร้ความรับผิดชอบ ไม่สมควรที่จะได้เป็นพ่อคนแม่คน ขอให้ท่านตัดสินใจให้ละเอียดถี่ถ้วน ]
ขนาดมีโอกาสเดือนละครั้ง ไอรีนป่องเสียแล้ว กริดจะเป็นพ่อคนได้ไหมเนี่ย
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteซันก็มา
ReplyDeleteขออย่าเซ่อเหมือนพ่อ.....ไม่ไช่โง่นะเซ่อ
ReplyDeleteจัดเดือนละครั้งยังติดแต่ไม่ได้จัด3-4เดือนละดูดีๆนะกริดใช่ลูกมึงเปล่าวอาจจะเป็นลูกยามเฝ้าประตูก็ได้ 555555
ReplyDelete