จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 247
สิ่งที่ดาเมี่ยนทำ มีเพียงแค่เดินผ่านข้างฟาร์มไปเฉยๆ อย่างไม่มีพิษมีภัย เขาไม่คิดว่าการกระทำของตนจะก่อให้เกิดพิรุธใดขึ้น
แต่เหตุไฉนคนเหล่านี้ถึงได้มาขวางทางเขาไว้?
ท่าทีของชาวนาทั้งสองช่างไม่ปรกติเอาเสียเลย
ดาเมี่ยนเกิดความสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะได้ข้อสรุปในใจที่สมเหตุสมผล
'คนพวกนี้คงไม่ชอบที่เราเป็นโอตาคุ'
อุปกรณ์สวมใส่ของดาเมี่ยนถูกสลักไว้ด้วยข้อความสีทองมากมาย มันดูเข้ากับชุดเกราะสีขาวอย่างไร้ที่ติ แต่หากลองมองเนื้อหาดูให้ดี สีหน้าทุกคนจะเปลี่ยนไป
ฉันรักเธอรินจัง อิสซาเบลจังสุดสวย ลูน่าจังน่ารัก แด่บุตรีแห่งรีเบคก้าตลอดไป และอีกมากมาย
ช่างเป็นข้อความที่เรียกสีหน้าเหยียดหยันได้ดีกว่าสิ่งใด เคยมีใครบางคนถึงกับขอท้าสู้เพียงเพราะไม่อยากเห็นข้อความเหล่านี้อยู่ในสายตา ทั้งในเกมและชีวิตจริง โอตาคุมักถูกเกลียดชังและดูถูกอย่างไร้เหตุผลเสมอ
แต่ดาเมี่ยนก็หาได้ใส่ใจ ก็เขาอยากจะแสดงความรักกับบุตรีแห่งรีเบคก้าด้วยวิธีนี้ ใครจะทำไมกัน? เหตุไฉนผู้อื่นต้องวิพากวิจารณ์สิ่งที่ใครบางคนทุ่มเทความรักด้วย?
"ฉันคือพาลาดินของโบสถ์รีเบคก้า ทำไมพวกนายถึงต้องถามว่าฉันเป็นใคร?"
สีหน้าของดาเมี่ยนแสดงออกเย็นชา
ชาวนาคนหนึ่งได้พูดขึ้น
"นายดูไม่เหมือนกับพาลาดินทั่วไป"
ดาเมี่ยนโพล่งอย่างหัวเสีย
"เออ! ใช่แล้ว ฉันไม่ใช่พาลาดินธรรมดา ฉันคือพาลาดินโอตาคุ! แล้วไง? พอใจรึยัง? พวกนายจะเข้ามาอัดฉันงั้นหรือ?"
"โอตาคุ? นั่นคืออะไร? ช่างเถอะ เอาเป็นว่า นายมาสู้กับฉันสักหน่อยไหม? พลังเทวะที่เปล่งออกมาจากนายช่างแตกต่างกับพาลาดินหรือนักบวชคนใดที่ฉันเคยพบมาทั้งหมด"
"นี่มัน..."
ในที่สุดดาเมี่ยนก็เข้าใจ ชาวนาพวกนี้ไม่ได้รังเกียจที่ตนเป็นโอตาดุ พวกเขาแค่สติไม่สมประกอบเท่านั้น ชาวนาที่สัมผัสได้ถึงพลังเทวะจากตนแล้วยังกล้าท้าดวล?
คนสติดีที่ไหนเขาจะทำกัน?
'คงเป็นบ้าไปแล้วกระมัง...'
ดาเมี่ยนพลันรู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวนาขึ้นมาทันที หลังจากนั้น เขาก็ทำการสวดภาวนะด้วยใจบริสุทธิ์
"เทพธิดาแห่งแสง ได้โปรดอวยพรเหล่าคนที่น่าสงสารพวกนี้ด้วย..."
หลังจากนั้น เมื่อดาเมี่ยนสวดเสร็จ เขาก็กล่าวคำอำลากับชาวนาทั้งสอง
"ฉันหวังว่าพลังเทวะของเทพธิดารีเบคก้าจะช่วยฟื้นฟูสติของพวกนายให้กลับมาใช้การได้ตามเดิม ตอนนี้คงต้องขอตัวก่อนล่ะ"
ดาเมี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมามอง เขาไม่อยากอยู่คุยกับคนบ้านานนัก จึงรีบเดินไปยังทางเข้าเรย์ดัน
'เราต้องพบกริดให้เร็วที่สุด'
เขาเพียงต้องการให้กริดผนึกหอกไลฟาเอล แต่ดาเมี่ยนก็สงสัย ว่าคนละโมภแบบกริดจะคิดค่าผนึกหอกเป็นมูลค่าสูงแค่ไหนกัน?
'เราต้องช่วยอิสซาเบลจังให้ได้ แม้จะต้องจ่ายกริดด้วยทุกสิ่งที่มีก็ตาม'
หากขายวิญญานแล้วอิสซาเบลหายดี เขาก็ยินดีทำ เป็นอีกครั้งที่ดาเมี่ยนลั่นวาจาในใจ
ฟ้าวววว!
เสียงของวัตถุบางชนิดกำลังพุ่งแหวกอากาศดังสนั่น เมื่อดาเมี่ยนหันกลับไปมอง มันคือจอบที่พุ่งเข้ามาหาพร้อมพลังทำลายล้างอันชวนขนหัวลุก
"เชี่ย?"
จอบปริศนาแฝงไว้ด้วยจิตสังหารรุนแรง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังห่อหุ้มมาด้วยพลังคีจำนวนมหาศาล หากไม่ปัดป้อง บางทีอาจถึงชีวิต สัญชาติญานการเอาตัวรอดได้ช่วยให้ดาเมี่ยนยกโล่ขึ้นมาบล็อคทัน
เคร้งงง!
เกิดแรงกระแทกกระจายเป็นวงกว้างหลังจากที่จอบและโล่สีขาวปะทะกันดังกังวาล ข้าวสาลีในทุ่งพลันล้มเอนด้วยแรงลม ดาเมี่ยนพลันเกิดอาการตื่นตระหนก
'รุนแรงมาก!'
เป็นพลังทำลายที่เหนือจินตนาการ มันมากพอที่จะทำให้ดาเมี่ยนขนลุกไปทั้งร่าง เขาเป็นถึงพาลาดินอันดับหนึ่งของโบสถ์รีเบคก้าเชียวนะ! ในระหว่างที่กำลังสับสน ชาวนาก็หยิบจอบกลับไปและถอดหมวกฟางโยนลงบนพื้น
ชื่อเหนือศีรษะเขียนได้ว่า ปิอาโร่ เขาดูน่าขบขันไม่น้อยเมื่อมือข้างหนึ่งถือจอบยาว ส่วนมืออีกข้างกำลังถือคราดเล็ก
"พลังป้องกันเยี่ยมยอด เห็นทีคงต้องเอาจริงด้วยวิชาดาบไร้ก้นบึ้ง"
ปิอาโร่พลันตื่นเต้น เริ่มจากดยุคกริด ต่อด้วยสมาชิกโอเวอร์เกียร์ ครอเกล จนมาถึงดาเมี่ยน ปิอาโร่ตื่นเต้นในเรื่องที่ว่า เขาได้พบพานกับคนแข็งแกร่งมากมายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยลำพังวิชาดาบจักรวรรดิ
'เราต้องแสดงฝีมือที่แท้จริง เหมือนกับตอนที่ดวลครอเกล'
เมื่อครั้งที่สู้กับดยุคกริดใต้น้ำตกโลรัน คราวนั้น ปิอาโร่ไม่ได้อยู่ในสภาพจิตใจที่พร้อมสู้ ทักษะและพลังจึงสำแดงออกมาไม่เต็มที่ แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับดยุคกริดมาหลายเดือน อารมณ์ของปิอาโร่ก็กลับเป็นเหมือนคนปรกติอีกครั้ง
และพลังที่แท้จริงก็กลับคืนมาแล้วหลายส่วน
"มาเริ่มกันเลย"
"ฉันไม่ต้องการ!"
ดาเมี่ยนรีบปฏิเสธ มีเหตุผลใดให้ต้องสู้กัน? แต่ความดื้นรั้นของปิอาโร่นั้นอยู่ในระดับที่หาตัวจับยาก
"นายยังเข้าเรย์ดันไม่ได้ นอกจากจะล้มฉันให้ได้เสียก่อน"
"นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?"
ดาเมี่ยนคิดว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ปรกติเลยสักนิด ทำไมเรย์ดันถึงมีชาวนาเป็นคนเฝ้าประตู?
ทันใดนั้น ชาวนาอีกคนหนึ่งได้กระซิบกระซาบกับปิอาโร่
"นายเบามือหน่อย ฉันเองก็อยากสู้กับเขา"
ชาวนาคนนั้นคือครอเกล เขาทำงานและฝึกฝีมือกับปิอาโร่มาสองสัปดาห์แล้ว ด้วยเหตุนี้ ครอเกลจึงแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้เมื่อครู่เพิ่งจะสู้กับปิอาโร่มาจนมีพลังชีวิตเหลือเพียงครึ่งเดียว แต่ปีศาจตนนี้กลับยังคิดจะสู้กับดาเมี่ยนต่อทันที
ด้วยคลาสที่เล่นยากอย่างพาลาดินของโบสถ์รีเบคก้า เขากลับก้าวไปเป็นพาลาดินอันดับ 2 ของโลกได้อย่างน่าตกตะลึงและค้านสายตาคนทั้งโลก ชายคนนี้เป็นรองเพียงโทบันเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่ง รายชื่อของเขาก็หายไปจากทำเนียบผู้เล่นพาลาดินตลอดกาล จึงมีข่าวลือออกมาไม่น้อยว่า เขาได้กลายเป็นคลาสลับไปแล้ว
คนผู้นั้นคือดาเมี่ยน ความโด่งดังของเขาอยู่ในระดับหัวแถวของโลก ทำให้ข่าวคราวย่อมเคยผ่านหูครอเกลมาไม่น้อย แต่ตัวดาเมี่ยนกลับไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนดัง โดยสิ่งเดียวที่สนใจ บุตรีแห่งรีเบคก้า
ดูเหมือน คนดังผู้นี้กำลังตกที่นั่งลำบากอย่างสุดขีด
นักดาบอันดับหนึ่งของทวีป ปิอาโร่
ผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกจากบรรดาสองล้านคน ครอเกล
ดาเมี่ยนจะต้องสู้กับปีศาจสองตนนี้... คนละยก
***
กิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์คือหนึ่งในแกนหลักสำคัญของ 7 กิลด์ใหญ่ โดยแม้พวกเขามีกันเพียง 30 คน อาจฟังดูเป็นจำนวนที่น้อย แต่ทุกคนล้วนติดท็อป 100 ของคลาสจอมเวทย์ทั้งสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวหน้ากิลด์ของพวกมัน บองเดร ชายคนนี้มีพรสวรรค์สุดหยั่ง มันเคยเป็นอันดับ 1 ของจอมเวทย์และอันดับ 11 ของโลกเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ด้วยการยึดครองทำเนียบแร้งเกอร์ของสมาชิกโอเวอร์เกียร์ ทำให้บองเดรถูกเขี่ยตกลงไปเป็นอันดับ 17 ทว่า ฝีมือการต่อสู้ของมันคือสิ่งที่มิอาจดูแคลนได้เช่นเดิม
อ้อ… มีคนหนึ่งที่สามารถทำได้
กริด ชายผู้ทำการล็อกเอาต์บองเดรได้ใน 4 วินาที
แต่นั่นเป็นเรื่องสมัยก่อน หลังจากอับอายขายขี้หน้าอย่างรุนแรงในงานแข่งนานาชาติ บองเดรได้ดิ้นรนทุกทางเพื่อให้ได้มาซึ่งเวทย์มนต์เกรด S ไว้ครอบครอง มันทุ่มเทเงินจำนวนมากศาลและเวลาเกือบทั้งหมดที่มี ส่งผลให้บองเดรแข็งแกร่งกว่าในสมัยก่อนมาก
มันมีเวทย์เกรด S ทั้งหมด 3 ชนิด โดย 9 เดือนถัดจากนี้ งานแข่งนานาชาติปีที่ 2 จะถูกจัดขึ้นที่ฝรั่งเศส ถิ่นของมัน โดยบองเดรมีแผนจะใช้เวทีแห่งนั้นเพื่อล้างแค้นกริดอย่างสาสม
"ฉันจะล็อกเอาต์นายใน 3 วินาที"
แต่ก่อนอื่น
"วันนี้ ฉันจะทำลายดินแดนของนายให้สิ้นซาก!"
ไอ้ระยำกริดคือลอร์ดของเรย์ดัน บองเดรมีแผนจะขุดรากถอนโคนสิ่งก่อสร้างทุกชนิดในเมืองออกให้หมด การพัฒนาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจะต้องกลายเป็นหมัน! เป็นแผนการอันโหดเหี้ยมและสมบูรณ์แบบที่สุด!
"ฉันจะทำให้แกพังพินาศ! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
"อาการนี้กลับมาอีกแล้ว"
บรรดาสมาชิกกิลด์หันมาคุยกันเองเมื่อเห็นหัวหน้าของพวกตนหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง บองเดรทำตัวแบบนี้อยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่พ่ายแพ้กริดในงานแข่งนานาชาติ พวกเขาอยากได้บองเดรคนเก่ากลับมามากกว่า
"หือ? นั่นอะไร?"
ผืนป่าประหลาดที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์หนาม เมื่อออกจากป่านี้แห่งไป สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็จะเป็นทะเลทรายอันแห้งแล้งของดินแดนตะวันตก แต่ก่อนหน้านั้น เหล่าสมาชิกของกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์พลันต้องหยุดเดิน
เป็นเพราะผู้คนจำนวนกว่าหลายร้อยกำลังขวางทางออกจากป่าอันคับแคบที่อยู่ด้านหน้า
"พวกผู้อพยพใช่ไหม?"
"ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยฟะ?"
กิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ใกล้จะถึงเรย์ดันในอีกไม่กี่อึดใจ แต่กลับมีผู้อพยพกว่า 900 กำลังขวางทางด้วยความเชื่องช้าเป็นที่สุด
พวกมันเริ่มออกอาการหงุดหงิด
"ฆ่าทิ้งให้หมด"
บองเดรที่ยืนมองอยู่นานได้พ่นถ้อยคำอันแสนชั่วร้ายออกมา สมาชิกในกิลด์ต่างพากันสะดุ้งและรีบห้ามปรามทันที
"ค่ากรรมของพวกเราคงพุ่งขึ้นถึงเพดานแน่ถ้าหากสังหารผู้คนมากมายขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะได้เล่นเกมอย่างปรกติไปอีกพักใหญ่"
"ใช่แล้ว หัวหน้า ใจเย็นก่อน"
"ชิ! ชิ! ชิ! ฉันอยากบดขยี้เรย์ดันใจจะขาดแล้ว!"
"ใจเย็น! พวกเรายังมีเวทย์บินอยู่!"
บองเดรออกอาการหงุดหงิดเพราะเมืองร้างของศัตรูกำลังอยู่ตรงหน้า สมาชิกในกิลด์ต่างพยายามทำให้มันใจเย็นลงด้วยการบอกว่ายังเหลือวิธีเดินทางโดยการบินอยู่
"บินไปบนท้องฟ้าจนกว่าจะพ้น ตกลงไหม?"
บองเดรที่เริ่มได้สติกลับมาทีละนิด มันพยักหน้าเล็กน้อย
"เฮ่อ… ตกลง แม้จะไม่ค่อยดีที่ต้องสูญมานาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ก็คงดีกว่าการฆ่าคน"
ซู่วว
ในขณะที่บองเดรและคนอื่นใช้เวทย์บินและกำลังจะลอยขึ้น ได้มีมือปริศนายื่นออกมาจากเถาวัลย์หนามและกระชากสมาชิกคนหนึ่งหายไป
"...เอ๋?"
พวกมันยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มีเพียงข้อความระบบอันแปลกตาซึ่งไม่น่าจะปรากฏขึ้นตอนนี้ได้
[ สมาชิกปาร์ตี้ <เร็น> เสียชีวิต ]
"เกิดอะไรขึ้น?"
"เป็นไปได้ยังไง!"
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันแน่? บองเดรเล็งยิงเวทย์มนต์เข้าไปในจุดที่เคยมีมือลึกลับยื่นออกมา
"ไอ้ระยำ!"
เปรี้ยะเปรี้ยะ!
ระเบิดน้ำแข็งได้แช่เถาวัลย์จนแตกละเอียด หลังจากนั้น ร่างอันไร้วิญญานของเร็นก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน
'มันอยู่ไหน?'
พวกมันต้องหาตัวคนฆ่าเร็นให้จงได้ บองเดรและสมาชิกที่เหลือทำการค้นหาโดยรอบ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน
ฉึก...
"อ๊ากกก!"
[ สมาชิกปาร์ตี้ <ซิลเวอร์> เสียชีวิต ]
บองเดรและทุกคนพลันหน้าถอดสี เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับถูกฆ่าโดยที่ยังหาศัตรูไม่พบ ราวกับมีภูติผีกำลังคอยรังควานพวกมันอยู่
'นักลอบสังหาร!'
นักลอบสังหารที่เก่งกาจจนแม้แต่ผู้เล่นเลเวล 303 อย่างบองเดรก็ไม่อาจตรวจหาพบ แถมยังฆ่าจอมเวทย์เลเวล 280 ตอนปลายได้ในพริบตา
ทั่วทั้งโลกใบนี้ ผู้ที่สามารถทำได้...
เห็นทีจะมีเพียงคนเดียว… เฟคเกอร์
'เฟคเกอร์?' บองเดรพลันเย็นสันหลังวาบ
'เป็นไปไม่ได้!'
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเป็นเฟคเกอร์ตัวจริง?
ถ้าใช่ล่ะก็...
บองเดรรีบตะโกนขึ้น
"พวกเราอยู่ในนี้ไม่ได้! รีบออกจากป่าเร็วเข้า!"
นักลอบสังหารคือศัตรูตัวฉกาจของจอมเวทย์ จอมเวทย์นั้นมีค่าพลังชีวิต ค่าพลังป้องกัน และค่าความว่องไวที่ต่ำมาก การต่อสู้กับนักลอบสังหารจึงถือเป็นสิ่งที่แพ้ทางมากที่สุด นั่นจะยิ่งแย่ลงเมื่อสังเวียนคือผืนป่าอันมืดทึบและเปี่ยมไปด้วยสิ่งกีดขวางเช่นนี้ พวกมันจำเป็นต้องเปลี่ยนไปสู้ในที่โล่งกว้าง สมาชิกไอซ์ฟลาเวอร์ทุกคนรู้กฏข้อนี้ดี จึงต่างพากันใช้ทักษะ <เร่งความเร็ว> เพื่อช่วยให้ออกจากป่านี้ให้เร็วที่สุด
แต่คนในความมืดย่อมไม่ปล่อยมีให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น มีดสั้นถูกบรรจงขว้างใส่บรรดาจอมเวทย์อย่างแม่นยำ
มันจิงเว้ย
ReplyDeleteสงสารดาเมี่ยน 555+
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteยังไม่ทันได้เข้าเขตทะเลทรายเลยก็โดนลอบฆ่าก่อนละขายหน้าไหมนี้7กิลมาตายถึงทีนี้อายเขาตาย
ReplyDeleteบุกมาตอนมือสังหารกลับกับชาวนาในตำนาน2คนอยู่พอดี555
ReplyDeleteเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มาทำนาแล้วจะแกร่งกว่านักดาบ
ReplyDeleteเจ็ดกิลด์ใหญ่จะดวงซวยอะไรขนาดนั้น แต่ก็นะคิดจะเล่นงาน "โอเวอร์เกียร์" ยังเร็วไปถ้าเลเวลไม่ต่างกันสัก100คงทำไม่ได่
ReplyDelete