จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 242



       "วันนี้รุนแรงเป็นพิเศษเลยนะ"

       "คู่ต่อสู้แข็งแกร่งยังไงล่ะ  นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นใครบางคนรับมือกับปิอาโร่ได้ขนาดนี้"

       "ว่าแต่  ชายคนนั้นคือใครกัน?  ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน"

       "ไม่รู้สิ  ลูกน้องคนใหม่ของดยุคกริดล่ะมั้ง?"

       ฟาร์มข้าวสาลีถูกทำลายมากขึ้น  เป็นผลมาจากการดวลกันระหว่างปิอาโร่และเด็กหนุ่มผมดำ  ความเสียหายกินวงกว้างกว่า 50 เมตรไปแล้ว  ฟาร์มในบริเวณนั้นได้กลับไปเป็นเหมือนสมัยที่ยังเป็นดินแดนรกร้าง

       แต่ถึงจะเกิดความวุ่นวายขนาดนี้  กลับไม่มีความประหลาดใจปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของผู้ชมเลยสักนิด  พวกเขาล้วนชินชากันแล้ว  ปิอาโร่มักท้าดวลกับสมาชิกโอเวอร์เกียร์อยู่เสมอ  ดังนั้น  จึงไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้งที่ฟาร์มถูกทำลายจนพินาศ   แร็บบิทเคยตำหนิและบอกให้เขาย้ายที่ต่อสู้

       ทว่า  ปิอาโร่ยังคงยืนกราน

       เหตุผลง่ายๆ  ยิ่งตัวเขาทำลายฟาร์มมากเท่าไร  ปิอาโร่ก็จะได้ฝึกฝนเพิ่มขึ้นจากการซ่อมแซมฟาร์มมากเท่านั้น  แม้จะเป็นตรรกะที่แปลกประหลาด  แต่ผืนฟาร์มก็ถูกเปลี่ยนเป็นสังเวียนการดวลอย่างเป็นทางการมานานแล้ว  ปิอาโร่คลั่งไคล้ในการออกแรงมากกว่าใครทั้งหมด  

       "บลันด์  นั่นมันส่วนของปิอาโร่ไม่ใช่รึ?"

       ในบรรดาชาวนาด้วยกัน  ไม่มีการแบ่งศักดินาขุนนาง  บลันด์ถูกจับได้ว่าแอบกินอาหารในส่วนปิอาโร่  

       บลันด์จึงรีบโพล่งขึ้นแก้ตัว

       "มันจะเป็นส่วนของปิอาโร่ได้ยังไง?  ในเมื่อเขาพูดเองว่าจะไม่กินข้าว!"

       "ฉันก็ไม่รู้..."

       "อ้อ… จริงสิ!  ปิอาโร่เคยพูดไว้  ใครกินก่อนก็จะได้เป็นเจ้าของ!"

       "..."

       บลันด์เริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตชาวนาได้แล้ว  คงเป็นการยากที่จะทำใจเชื่อลง  ว่าเขาเคยเป็นขุนนางระดับสูงมาก่อน  ในยามนี้  บลันด์กำลังเคี้ยวมันฝรั่งด้วยร่างกายที่้เต็มไปด้วยผุ่นคละคลุ้ง  บรรดาชาวเมืองต่างก็รู้ดีว่า  ความจริงแล้ว  บลันด์คือขุนนางที่ถูกนำมาเป็นตัวประกันของดยุคกริด  พวกเขารู้สึกสงสารเด็กหนุ่มคนนี้ไม่น้อย

       แต่ถึงกระนั้น  บลันด์ก็ยังมีความสุขได้  เขารู้สึกว่า  ช่วงเวลาเหล่านี้มีความอิ่มเอมใจยิ่งกว่าสมัยเป็นขุนนางที่ต้องอยู่ในกรอบต่อหน้าผู้คนมากมายเสียอีก

       แอ๊ก~!

       นกยักษ์กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า  ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่และกินข้าวสาลีเป็นอาหาร  เมื่อหลายวันก่อน  นกยักษ์ได้พยายามมาขโมยกินอาหารในฟาร์มข้าวสาลี  แต่ก่อนที่พวกมันจะร่อนลงมาถึง  ร่างกายอันใหญ่โตได้ถูกยิงจนพรุนโดยเวทย์ของบลันด์เสียก่อน  หลายวันมานี้  บลันด์ได้ฝึกฝนฝีมือในการใช้เวทย์มนต์จนเฉียบแหลมระหว่างที่ดวลกับปิอาโร่  

       นกยักษ์พลันกระอักเลือดออกจากปากและหล่นลงสู่ฟาร์มข้าวสาลีจนเกิดเสียงดัง

       เรย์ดันกลายเป็นเมืองที่สงบสุขอย่างมาก  ว่ากันตามตรง  ทั่วทั้งทวีป  จะหาเมืองที่จะสงบสุขไปกว่านี้แทบไม่มีอีกแล้ว

       ***

       พลังอำนาจของทักษะความชำนาญดาบขั้นสูง  เลเวล 7  ผสานกับทักษะติดตัว <เสริมอำนาจดาบ> และสมญานามอีกหลายชนิด  หนึ่งในนั้นคือสมญานามผู้ท้าชิงตำแหน่งอริยะดาบ   ทั้งหมดทั้งมวลประกอบกันจนทำให้พายุดาบมีอานุภาพเทียบเคียงกับวิชาดาบไร้ก้นบึ้ง

       ปิอาโร่ได้แต่อมยิ้มเมื่อวิชาดาบไร้ก้นบึ้งถูกพายุดาบสลายไปจนหมด

       'หืม... หักล้างกันพอดีเลยสินะ'       

       ในทวีปนี้  มีเพียงน้อยคนที่จะมีชีวิตรอดไปจากวิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่หนึ่งได้  แต่ครอเกลกลับสลายมันทิ้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ปิอาโร่จึงได้แต่ผิดหวัง  เพราะเขาคาดไว้ว่า  อย่างน้อย  ครอเกลควรจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

       'เราไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์'

       ในฐานะนักดาบผู้ยิ่งใหญ่  ปิอาโร่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาวุธหรือชุดเกราะ  อย่างที่เขาเคยพูดอยู่เสมอมา  เครื่องมือเป็นเพียงสิ่งปรุงแต่ง  แต่ในยามนี้  เขากลับกำลังสำนึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง  หากดาบในมือมีคุณภาพดีกว่านี้  วิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่หนึ่งจะถูกสลายได้ง่ายดายขนาดนี้เชียวหรือ?

       แต่เพียงไม่นาน  ปิอาโร่ก็ส่ายศีรษะและสลัดความคิดไร้สาระออกไป

       'มุลเลอร์ไม่มีวันกล่าวโทษอาวุธของตนแน่'

       มันคงน่าขันไม่น้อย  หากใครรู้เข้า  ชายผู้ที่มีเป้าหมายคืออริยะดาบกำลังคิดว่าอาวุธของตนอ่อนแอเกินไป  ปิอาโร่ก็กลับมาอยู่กับความจริงอีกครั้ง  การดวลในหนนี้เขาไม่ได้ต้องการชัยชนะ  เพียงแต่แสวงหาความหมายของการพัฒนาตนเองเท่านั้น  

       ยิ่งได้สู้นานเท่าไรก็ยิ่งดี

       'วิชานี้เอาเรื่องเหมือนกัน'

       เศษเสี้ยวของวิชาพายุดาบยังคงหลงเหลืออยู่  พวกมันพุ่งเข้าโจมตีใส่ปิอาโร่พร้อมกัน  นักดาบอันดับหนึ่งต้องเสียเวลาในการสลายพลังของพวกมันไม่น้อย  และช่องว่างนี้  ครอเกลไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไป  เขารีบใช้ทักษะ <ดาบทะลวงพสุธา>

       ฉึก!

       เขี้ยวขาวเสียบลงพื้นดินอย่างรวดเร็ว  ปิอาโร่เองก็ไม่อยู่เฉย  เขาตอบรับด้วยการใช้วิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่ห้า

       เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!

       ขอบข่ายปราณดาบไร้สีได้พุ่งออกจากร่างกายทุกทิศทางประหนึ่งใยแมงมุม  เศษเสี้ยวของพายุดาบที่เหลือถูกทำลายหมดสิ้น  ในขณะเดียวกัน  คลื่นดาบทะลวงพสุธาของครอเกลที่พุ่งออกมาจากใต้ดินก็ถูกสลายไป  ปราณดาบไร้สีที่เหลือได้พุ่งเข้าใส่ครอเกลด้วยความเร็วสูง

       '9 เส้น'

       ครอเกลพยายามคาดเดาจำนวนของพลังลึกลับที่มองไม่เห็น  นี่เป็นผลมาจากทักษะหยั่งรู้

       'เราปัดป้องทั้งหมดไม่ได้แน่'

       สมองของครอเกลประมวลผลได้รวดเร็วจนยากจะหาใครเทียบ  เขารับรู้สถานการณ์และตัดสินใจกระทำสิ่งที่ดีที่สุดในเวลานี้  จุดสำคัญตามร่างกายถูกปกป้องไว้ก่อนส่วนอื่น

[ ท่านได้รับความเสียหาย 8,830 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,200 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,050 หน่วย ]

       'รุนแรงชะมัด!'

       ดูเหมือนว่า  ชุดเกราะเกรดเลเจนดารีและของวิเศษอีกมากมายที่เขาหามาได้จากบอสจะไม่ช่วยอะไรมากนัก  ปิอาโร่มีพลังรุนแรงมากพอจะทำให้ให้พลังป้องกันของศัตรูเป็นหมัน  ครอเกลกัดฟันทนความเจ็บปวดก่อนจะตอบโต้กลับไปทันที  

       ถึงคราวที่ต้องทำให้ปิอาโร่หลั่งเลือดบ้างแล้ว

       "ดาบจันทร์ผงาด"

       อันที่จริง  ทักษะนี้จะสำแดงพลังได้สูงสุดภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน  แต่มาถึงจุดนี้  เขาเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ใช้มันออกมา  

       สวบ  สวบ

       ครอเกลเร่งความเร็วตนเองจนอยู่ในสถานะล่องหนภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง  เป็นผลพวงมาจากก้าวย่างแสงขาวที่ฉกฉวยโอกาสกลืนไปกับแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์  ครอเกลผู้ซึ่งมีฝีมือการควบคุมตัวละครสุดหยั่ง  ทักษะนี้เมื่ออยู่ในมือของเขา  มันจึงกลายเป็นการล่องหนอย่างสมบูรณ์แบบ

       'หืม'

       ปิอาโร่เพ่งสมาธิถึงขีดสุดเพื่อตามหาร่องรอยครอเกลที่หายไป  ทว่า  เด็กอัจฉริยะคนนี้กลับไม่แผ่สิ่งใดออกมาให้สัมผัสได้เลย  ทันทีที่ครอเกลหายตัว  ปิอาโร่ก็หาเขาไม่พบอีก

       เป็นวินาทีที่ผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกจากบรรดากว่าสองพันล้านคน  ได้เผชิญหน้ากับนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของทวีป

       ความตึงเครียดบนใบหน้าปิอาโร่เป็นของจริง  นี่นับเป็นหนแรกที่เขาต้องเหงื่อตกในการต่อสู้  สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว  

       ฉั่วะ...

       คมเขี้ยวขาวเชือดเฉือนทะลุผ่านเกราะพลังคีอย่างรุนแรง

[ ท่านสร้างความเสียหาย 12,400 ต่อเป้าหมาย ]

       การโจมตีโดนเป้าหมายเข้าอย่างจัง  แต่สีหน้าของครอเกลนั้นไม่สู้ดีนัก

       'สร้างความเสียหายได้เท่านี้เองหรือ?  แม้ว่าชายคนนั้นจะไม่ได้สวมเกราะอยู่เนี่ยนะ...?  น่าเสียดาย  พลังของดาบจันทร์ผงาดสำแดงออกมาได้เพียง 30% เท่านั้น'

       ครอเกลนึกเสียดายกับการโจมตี  แต่อย่างน้อย  เขาก็เชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้  เด็กหนุ่มอัจฉริยะโหมกระหน่ำโจมตีเข้าใส่ปิอาโร่ทันที  

       ทว่า  เขายังไม่รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของวิชาดาบไร้ก้นบึ้งดีพอ

       ดาบของปิอาโร่เคลื่อนไหวสอดประสานกับเขี้ยวขาวที่โจมตีเข้ามาได้อย่างไร้ที่ติ  ครอเกลตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเมื่ออยู่ต่อหน้าจังหวะดาบของปิอาโร่  ความรู้สึกที่ได้รับในตอนนี้  เป็นราวกับใยแมงมุมพันธนาการที่แสนน่ารำคาญ  เขาไม่อาจสำแดงวิชาดาบของตนออกมาได้ถนัดนัก

       'ตั้งสติเข้าไว้  มันไม่เกี่ยวว่าวิชาดาบของเขาจะยอดเยี่ยมกว่าเรา'

       ตึกตัก...!

       ครอเกลนั้นตระหนักรู้เป็นอย่างดี  ว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่และยังมีมอนสเตอร์อีกมากมายให้ค้นหา  เขาอาจอยู่บนจุดสูงสุดของผู้เล่นในตอนนี้  แต่ในใจครอเกลเตรียมพร้อมอยู่เสมอว่า  สักวันหนึ่ง  เขาอาจถูกเอ็นพีซีหรือบอสที่แข็งแกร่งบดขยี้เข้า  

       ครอเกลเตรียมใจไว้สำหรับความพ่ายแพ้ในทุกการต่อสู้  

       แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน… ว่าจะต้องพ่ายแพ้ให้กับชาวนา 

       'ไม่สิ  ผลการต่อสู้ยังไม่ถูกตัดสิน'

       ครอเกลไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้  เป็นเวลาเดียวกับที่ปิอาโร่ใช้วิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่สาม  

       ทันใดนั้น  ดาบของปิอาโร่พลันหายไปจากการมองเห็น  เป็นความเร็วที่อาจเหนือระดับพระเจ้าขึ้นไปอีกขั้น  คนทั่วไปคงมีหนทางเดียว  คือการรอรับดาบที่จะพุ่งเสียบหัวใจแต่โดยดี

       ทว่า  ปฏิกิริยาตอบสนองของครอเกลเองก็อยู่เหนือมนุษย์  เขี้ยวขาวในมือถูกบิดเพื่อใช้ปัดป้องในพริบตา

       เคร้งงงง!

       ในวินาทีที่ครอเกลสลายการโจมตีสำเร็จ...

       เขาก็รู้ทันที… ว่าได้กระทำสิ่งที่พลาดมหันต์ลงไป

       'บ้าน่า… ฝ่ามือพลังคี?'

       เปรี้ยงงง!

       พลังคีจำนวนมหาศาลไหลผ่านเข้ามาในเขี้ยวขาวอย่างรวดเร็ว  ครอเกลกระอักเลือดคำโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

[ ท่านได้รับความเสียหาย 18,900 หน่วย ]

       พลังชีวิตเกือบครึ่งต้องสูญหายไป  แต่โชคยังดี  ปิอาโร่ตัดสินใจเก็บดาบและใช้ฝ่ามือแทน  ไม่อย่างนั้น  ชะตากรรมของครอเกลคงจบลงไม่สวยแน่

       'มานาของเราเหลือเพียงครึ่งเดียว'

       หลังจากนี้  คงต้องใช้ทักษะอย่างระมัดระวัง  ครอเกลมีทักษะดาบอันรุนแรงแต่กินมานามากมาย  เช่นดาบอุกกาบาต  พายุดาบ  และดาบจัทร์ผงาด

       ชิ้ง!

       หนึ่งในทักษะท่าไม้ตายของนักดาบสีขาว  ดาบแสงขาว  ส่งผลให้เขี้ยวขาวส่องประกายออกมาอย่างสุกสว่าง  ปิอาโร่หงุดหงิดอีกครั้งที่ครอเกลหายตัวไปอีกแล้ว  ทันใดนั้น  เกิดพลังงานสีขาวจำนวนมากห้อหุ้มร่างปิอาโร่ไว้  เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างสุดขีด

       "วิชาดาบไร้ก้นบึ้ง… รูปแบบที่สี่!"

       เกิดบางสิ่งที่น่าตกตะลึงขึ้น  เขี้ยวขาว  ดาบที่ควรจะแทงฝังอยู่ในร่างปิอาโร่เรียบร้อยแล้ว  ยามนี้กลับถูกดูดกลืนโดยบางสิ่งประหนึ่งคลื่นแม่เหล็ก  อานุภาพทำลายล้างของวิชาดาบแสงขาวถูกสลายจนหมดสิ้นในพริบตา

       ซู่ววว!

       ปิอาโร่จำกัดการเคลื่อนไหวของเขี้ยวขาวด้วยมิติแม่เหล็กดึงดูด

       'เราขัดขืนไม่ได้เลย...!'

       เป็นแรงดูดที่ทรงพลังเกินไป  ฝีมือการควบคุมตัวละครไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้  ครอเกลเหลือทางเลือกไม่มาก  และเขาก็ไม่ชอบใจที่ต้องปล่อยมือจากอาวุธ  ดังนั้น  หนทางเดียวที่เหลืออยู่  

       ครอเกลฝืนใช้ <ดาบกรีดนภา>    

       ดาบกรีดนภาเองถือเป็นหนึ่งในทักษะท่าไม้ตายของนักดาบสีขาว  แต่ด้วยความสิ้นเปลืองมานาสูงมาก  คอเกลจึงเลี่ยงที่จะใช้มันเสมอมา

       ครืนนนน!  ซู่ววว!  ฉั่วะ!

       เขี้ยวขาวพลันรายล้อมไปด้วยกรงเล็บสัตว์นานาชนิด  มันเริ่มขัดขืนและฉีกกระชากห้วงมิติแม่เหล็กของปิอาโร่อย่างช้าๆ  

       นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม  มันจึงถูกเรียกว่าดาบกรีดนภา

[ ค่าความคงทนของ <เขี้ยวขาว> ลดลง 213 หน่วย ]

       'เรื่องบ้าบออะไรกัน...'

       อาวุธของเขาสูญเสียค่าคงทนไป 2 ใน 3 ส่วนเพียงพริบตา  สิ่งนี้เข้าขั้นวิกฤติเสียแล้ว  ครอเกลไม่ได้ซ่อมเขี้ยวขาวเกินกว่า 10 วันแล้ว  ทำให้ในยามที่อาวุธมีความคงทนต่ำ  มันจะส่องแสงสีแดงออกมาเป็นการเตือน  

       หากครอเกลฝืนสู้ต่อไป  เขี้ยวขาวอาจหายไปตลอดกาล

       'มานาเราก็ใกล้จะหมดลงเต็มที  แต่อีกฝ่ายกลับไม่เป็นอะไรเลย'

       ปิอาโร่สูญเสียพลังชีวิตราว 1 ใน 5 จากการโจมตีทั้งหมดของครอเกล  แถมที่แย่ไปกว่านั้น  เขายังคงมีไพ่ตายซุกซ่อนอยู่อีกมาก

       'ฝืนต่อไปมันจะดีจริงหรือ?'

       หากครอเกลใช้ <ลูกกวาด> ในร้านค้าชื่อเสียง  ค่าสถานะทุกชนิดของเขาจะเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 10 นาที  แม้จะดูเหมือนแค่เพียง 30%  แต่พลังที่แท้จริงของครอเกลจะระเบิดเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าเลยทีเดียว  และเขายังมีทักษะที่เป็นท่าไม้ตายอย่าง <อ่านใจ> ซึ่งจะทำให้ตนเองอยู่ในระดับเดียวกับปิอาโร่ได้ไม่ยาก

       'ไม่สิ  เราชนะได้แน่'

       แต่ว่า...  ไม่มีเหตุจำเป็นใดเลยที่ต้องทุ่มเทมากขนาดนั้น

       'การต่อสู้ที่แม้จะชนะไปก็ไม่ได้อะไร  เราไม่ควรสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์'

       ลูกกวาดคือไอเท็มสำคัญที่ครอเกลเคยใช้เมื่อครั้งเอาชนะดราเซี่ยนมาได้

       มุลเลอร์ปราบจอมอสูรมาแล้ว 4 ตน  ประกอบด้วยดราเซี่ยน  เฮลกาโอ  เลอเปียร์  และเคอร์ซัน  ตอนนี้จึงยังเหลือจอมอสูรอีก 29 ตนซึ่งยังไม่ถูกปราบ  ครอเกลจึงไม่ต้องการใช้ลูกกวาดในตอนนี้  เขาอยากเก็บมันไว้ในยามที่ได้เผชิญหน้าจอมอสูรทั้ง 29 ตนในอนาคต

       ลงเอยด้วย  ครอเกลเลือกตัดสินใจอย่างชาญฉลาด  เขายอมรับความพ่ายแพ้

       "ฉันแพ้แล้ว"

       เป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่คาดคิด  เขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า  จะต้องพ่ายแพ้ให้ใครบางคนในเมืองที่หวังเพียงเข้าไปขายของ

       ปิอาโร่เดินเข้าไปจับมือกับครอเกลพร้อมกับพูดว่า

       "เป็นการต่อสู้ที่ดีมาก"

       "นายไม่ฆ่าฉันหรือ?"

       ครอเกลถาม  ส่วนปิอาโร่เพียงส่ายศีรษะ

       "ฉันไม่ใช่พวกบ้าที่ฆ่าคนส่งเดช  พวกเราไม่เคยบาดหมางกัน  ทำไมต้องฆ่าแกงกันด้วย?  แล้วอีกอย่าง  หากฉันต้องการจะฆ่านายจริง  นายคงตายไปนานแล้ว"

       ปิอาโร่ไม่ได้โกหก  เขายังมี <ความตายที่ถูกกำหนด> อยู่  ครอเกลไม่รู้เรื่องนี้  เขาจึงไม่เชื่อหูตนเอง

       "นายยังไม่ได้เอาจริงงั้นหรือ?"

       ปิอาโร่หยิบดาบของตนขึ้นมาและโยนไปไว้ที่มุมฟาร์มตามเดิม  เขาหันมาขอโทษครอเกลเล็กน้อย

       "ฉันอยากให้การต่อสู้เป็นไปอย่างสมศักดิ์ศรี  ขอโทษด้วยนะ"

       ครอเกลเอ่ยปากถามอีกครั้ง

       "ดยุคกริดเป็นคนยังไงกันแน่?  ทำไมคนที่แข็งแกร่งแบบนายถึงเป็นเพียงชาวนาในเรย์ดัน"

       เขายอมรับได้ในเรื่องที่ปิอาโร่แข็งแกร่งกว่า  สิ่งนั้นคือความจริง  ทว่า  ครอเกลไม่อาจยอมรับได้ที่คนเก่งเช่นนี้เป็นเพียงลูกน้องของใครสักคน  หากไม่นับเรื่องศักดิ์ศรี  กริดดูจะเป็นตัวอันตรายเกินไปสักหน่อย

       เมื่อเห็นครอเกลมีสีหน้าตึงเครียด  ปิอาโร่จึงตอบกลับไปตามความจริง  

       "ฉันไม่ใช่ลูกน้องของดยุคกริด  การทำฟาร์มก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน  และทุกครั้งที่ฉันพบแหล่งน้ำ  เทศมนตรีก็จะมอบรางวัลเป็นพิเศษให้"

       "ฝึกฝนด้วยการทำฟาร์ม?"

       ปิอาโร่พลันยืนข้อเสนอให้ครอเกลที่กำลังสับสน

       "ไม่ลองมาทำด้วยกันดูล่ะ?  พวกเราจะได้พัฒนาไปพร้อมกัน"

       "ทำด้วยกัน...?"

       เขาวางแผนจะทำอะไรกันแน่?

       'อย่าบอกนะว่า'

       ครอเกลแสดงสีหน้าบูดเบี้ยว  ส่วนปิอาโร่ได้ชี้นิ้วไปยังฟาร์มอันกว้างใหญ่

       "ทำฟาร์มตอนเช้า  สู้กันตอนบ่าย"

       "..."

       "นายจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่นอน  ไม่ลองทำดูสักเดือนล่ะ?"

       'มีบางอย่างแปลกๆ'

       ทันใดนั้น  หน้าต่างข้อความระบบได้แสดงขึ้นต่อหน้าครอเกล  ผู้ที่กำลังจะเมินเฉยเพราะคิดว่าคำชวนของปิอาโร่ไร้สาระ

[ ภารกิจลับถูกสร้างขึ้น ]

       'นี่มัน...'

       ถือเป็นภารกิจที่น่าสนใจมาก  ถ้าหากได้ฝึกฝนพร้อมกับปิอาโร่  เขาจะต้องเข้าใกล้ความเป็นอริยะดาบอีกก้าวหนึ่งแน่

       'หนึ่งเดือน… แม้จะไม่ใช่เวลาที่สั้น  แต่ว่า...'

       นี่คือโอกาสที่จะได้ข้ามกำแพงซึ่งขวางกั้นเขาไว้เป็นเวลานาน  หลักการของมันคล้ายคลึงกับการเก็บเลเวล  จึงถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย  ไม่สิ  เขาจะพลาดมันไม่ได้เด็ดขาด  มันคือโอกาสอันหายากที่อาจมีครั้งเดียวในชีวิต

       "เข้าใจแล้ว  ฉันจะอยู่กับนายอีกสักพัก"

[ ท่านรับทำภารกิจ ]

       และนับตั้งแต่วันนี้ต้นไป

       เรย์ดันมีชาวนาที่ยอดเยี่ยมเพิ่มมาอีกหนึ่งคน  แต่สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องไม่สำคัญ  มันจึงไม่ถูกรายงานให้กับคนที่มีตำแหน่งสูงได้รับทราบ  กริดกำลังอยู่ที่จักรวรรดิ  ส่วนสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นก็ไม่มีใครอยู่  เพราะทั้งหมดออกไปทำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับเหมืองแร่

       ทั้งกริดและชาวโอเวอร์เกียร์คงไม่มีใครคาดคิดว่า  ผู้เล่นอันดับ 1 ของโลกจะเป็นคนเพาะปลูกอาหารที่พวกเขาจะได้กินในอนาคต

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00