จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 232
ร่างโคลนไม่อาจคัดลอกพลังทั้งหมดของแพ็กม่ามาได้ แต่ถึงกระนั้น ค่าสถานะของมันก็ยังเทียบเท่ากับเฮลกาโอ ในเมื่อกริดคือชายที่พึ่งพาแต่ทักษะมาโดยตลอด ในยกแรกของการต่อสู้ เขาได้พ่ายแพ้ไปแล้วเพราะทักษะทั้งหมดถูกสลายและสะท้อนกลับมา
ปีศาจที่น่าหวั่นเกรงตนนี้...
'สู้ใหม่ตั้งแต่ต้น?'
กริดไม่ต้องการทำเช่นนั้นสักเท่าใด ไม่ว่าจะสู้อีกสักกี่ครั้งก็ตาม ไม่ใช่ว่าผลมันจะออกมาเหมือนเดิมอยู่ดีงั้นหรือ? กริดคงจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าหากปิอาโร่ก้าวเท้าออกมาและจัดการหมอนี่ให้สินซากซะ
ทว่า เมื่อกริดลองทบทวนตนเองดูใหม่
'ปิอาโร่บอกให้ซึมซับวิชาดาบแพ็กม่าสินะ ใช่แล้ว นี่คือโอกาสพัฒนาตัวเอง'
เก่งกาจยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ...
ชายหนุ่มต้องการพลังมหาศาลเพื่อทำในสิ่งที่เขาต้องการ
"ฟู่ว..."
กริดที่ลังเลอยู่เล็กน้อยได้สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
ฟุ่บ!
ร่างโคลนแทงดาบมาด้านหน้า เป็นการโจมตีที่เปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้าง แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปไกลถึง 5 เมตร แต่เขากลับรู้สึกราวกับช่องท้องของตนกำลังจะถูกเสียบเข้า
ปิอาโร่ตะโกนขึ้นจากด้านหลัง
"ดาบใหญ่มีขีดจำกัดอยู่ ด้วยขนาดที่ใหญ่และเชื่องช้า ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวกลางอากาศได้ดีนัก ทิศทางการโจมตีของดาบใหญ่จึงถูกคาดเดาได้ง่ายมาก ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกโจมตีพลิกแพลงมาจากทิศทางอื่น สิ่งเดียวที่ต้องทำคือการหลบมันให้ได้ซะ"
เป็นคำแนะนำที่เห็นภาพชัดเจน ความมั่นใจของกริดเพิ่มพูน เขาขยับร่างกายด้วยจิตที่มั่นคง กริดอาศัยจังหวะเท้าของร่ายรำเพื่อขยับซ้ายขวาและหลบการแทงจากร่างโคลนไปได้
เคร้งงงง!
ดาบใหญ่สีเขียวหยกได้แทงเฉียดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ออกไป ประกายไฟจากโลหะเสียดสีพลันลุกพรึบ ภาพของร่างโคลนในความมืดได้ฉายออกมาต่อหน้าทุกคน
"เมื่อศัตรูแทงพลาด จะมีช่องว่างเกิดขึ้น นี่คือโอกาสตอบโต้กลับ"
ดาบใหญ่นั้นมีขนาดที่เทอะทะและน้ำหนักมาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากดาบใหญ่แทงพลาด? ผู้ที่ทำการแทงจะเสียสมดุลร่างกายไปทันที
"ตกลง!"
กริดแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจและเริ่มการโต้กลับ กริดวาดดาบขึ้นมาจากด้านล่างโดยหมายจะแทงให้โดนหัวใจของร่างโคลน
ฉัวะ!
มันหลบได้ ด้วยความที่มีค่าว่องไวสูงมาก มันสามารถบิดลำตัวส่วนบนเพื่อหลบดาบของกริด ทว่า คมดาบได้เฉือนเข้ากับเสื้อผ้าด้านหน้าจนขาดออก ร่างกายอันกำยำส่วนบนของแพ็กม่าจึงเผยออกมาให้ทุกคนได้เห็น
"หวาาา!"
ลาเอลล่า หนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ เธอส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร ร่างโคลนตนนี้คัดลอกรูปลักษณ์ของแพ็กม่ามาทั้งดุ้น ภาพของนักดาบหนุ่มผู้หล่อเหลาจึงสามารถกุมหัวใจของเธอไว้ได้ทันที มันไม่เกินจริงไปเลยที่จะกล่าวว่า กล้ามเนื้ออันไร้ไขมันส่วนเกินของแพ็กม่า ช่างงดงามและได้สันส่วนราวกับเป็นการสรรค์สร้างจากพระเจ้า
แต่ร่างกายก็ส่วนหนึ่ง มันไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะบ่งชี้ผลแพ้ชนะ มีเพียงความแข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้น
"โอ้!"
<ความผิดพลาด> ซึ่งแทงเลยผ่านศีรษะร่างโคลนไป บัดนี้ได้ถูกฟาดฟันย้ำลงมาอีกครั้ง
ฉั่วะ!!
หนักหน่วง… ชายหนุ่มใช้ประโยชน์จากรองเท้ากริดอย่างสูงสุด น้ำหนักดาบในแต่ละครั้งของเขาจึงเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนอย่างเทียบไม่ติด กริดสามารถผ่าหินแข็งออกเป็นสองซีกได้อย่างง่ายดาย แล้วร่างโคลนจะทนการโจมตีอันดุดันเช่นนี้ได้หรือไม่?
แน่นอน มันเป็นไปได้ ร่างโคลนคือบอสอันโด่งดังของป่าลึกลับมาเป็นเวลากว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว ด้วยค่าสถานะที่สูงส่ง พลังชีวิตของมันจึงมีเป็นหลักล้าน
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหาย 17,790 หน่วยต่อเป้าหมาย ]
'อย่างที่คิด มันคงไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด'
กริดเสียสมาธิไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่า หลอดพลังชีวิตของร่างโคลนแทบไม่กระดิกเลยแม้แต่นิดเดียว ทันใดนั้น ดาบใหญ่สีเขียวหยกพลันฟันเข้ามาจากด้านข้าง
'ซวยล่ะสิ!'
กริดเย็นสันหลังวาบ
เคร้งง!
มีดสีทองทั้งเจ็ดเล่มพุ่งออกไปปกป้องกริด ทุกเล่มก่อตัวกับเป็นบาเรียสีทองที่บล็อคดาบใหญ่หยกเขียวเอาไว้ แต่อานุภาพของการโจมตีนั้นรุนแรงจนทำให้พวกมันต้องชะงักไปครู่ใหญ่
ปิอาโร่พูดขึ้นอีกครั้ง
"ข้อเสียอันใหญ่หลวงของดาบใหญ่ คือการที่มันต้องใช้เวลานานกว่าจะดึงอาวุธกลับหลังการโจมตีแต่ละครั้ง นายลืมเรื่องนี้และปล่อยให้มีการโต้กลับเกิดขึ้น"
แล้วเขาต้องทำอย่างไรล่ะ?
เคร้ง! เคร้งเคร้ง!
ในขณะที่กริดกำลังสับสน ร่างโคลนก็เริ่มโหมบุกอีกครั้ง มันกระหน่ำโจมตีใส่กริดโดยไม่ปล่อยโอกาสให้พักหายใจ แม้จะมีพาเฟรเนี่ยมคอยช่วยป้องกัน แต่มันก็ไม่อาจทำได้ทุกครั้งไป เพราะเมื่อถูกโจมตีเข้าหนึ่งหน พาเฟรเนี่ยมพลันต้องชะงักไปครู่ใหญ่เสมอ
"การเคลื่อนไหวของศัตรูถูกต้องทุกประการ นายเองก็ควรจะทำแบบนั้นด้วย หากใช้ประโยชน์จากแรงปะทะที่เกิดขึ้นในขณะโจมตี นายสามารถอาศัยพลังที่สะท้อนกลับมา เป็นแรงส่งในการหมุนควงดาบเพื่อโจมตีในครั้งถัดไป"
"อึก...!"
กริดรับรู้ได้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการหยุดการบุกกระหน่ำของร่างโคลนให้ได้เสียก่อน ถ้าเป็นไปได้ เขาต้องการหลบหลีกมากกว่าปัดป้อง อันที่จริง ปิอาโร่เคยสั่งสอนมาแล้วหลายหนว่า
'เวลาถือดาบอยู่ในมือ อย่ากวัดแกว่งมั่นซั่ว' แต่ความเร็วโจมตีของคู่ต่อสู้นั้นมีมากกว่ากริดราวสองเท่า นั่นจึงไม่ใช่งานง่ายของเขาเลยสักนิด
แล้วเขาต้องทำอย่างไรล่ะ? ในที่สุด กริดก็เผยช่องว่าง เขาถูกร่างโคลนโจมตีเข้าอย่างจัง เท่านั้นยังไม่พอ การโจมตีต่อเนื่องครั้งถัดไปของมัน ได้เล็งมายังต้นคอของกริดด้วยความแม่นยำสูงสุด
หลังจากนั้น
เคร้ง!
ปิอาโร่ยื่นมือเข้าช่วยอีกครั้ง เขาปัดป้องดาบของร่างโคลนและรักษาชีวิตกริดไว้ได้
"ทำไมนายถึงหวังพึ่งมีดสีทองในการป้องกันนัก? นายควรขัดเกลาฝีมือการควบคุมและใช้มันต่อสู้ให้ได้มากที่สุด เอาล่ะ สู้อีกครั้ง"
"..."
หลังจากนั้น
ภาพซ้ำๆ ถูกฉายหนแล้วหนเล่า กริดรับฟังคำแนะนำของปิอาโร่และเผชิญหน้ากับร่างโคลน ในยามที่กริดทำพลาดจนตกที่นั่งลำบาก ปิอาโร่ก็จะโผล่ออกมาช่วยชีวิตไว้ได้เสมอ
กริดรู้สึกราวกับตนเองกำลังอยู่ในร้านเครื่องเล่นเกม
'ทุกครั้งที่เราเกมโอเวอร์ เด็กใจดีแถวบ้านก็จะช่วยหยอดเหรียญต่อชีวิตให้'
อันที่จริง เขาไม่เคยได้พบเพื่อนดีๆ ก่อนเริ่มเล่นซาทิสฟายเลยสักครั้ง
"หากศัตรูมีพลังชีวิตสูงกว่ามาก นายจะต้องโหมกระหน่ำโจมตีอย่างได้หยุดพัก ไม่ใช่เอาแต่ตั้งรับป้องกัน เอาล่ะ สู้อีกครั้ง"
"เทคนิคการตวัดดาบจากล่างขึ้นบนนั้นจะสูญเสียความรุนแรงไปมาก เป็นเพราะความเสียหายส่วนใหญ่ถูกสลายไปกับแรงโน้มถ่วง นายอาจเคยใช้มันสำเร็จมาแล้วหลายครั้งในอดีต แต่ครั้งนี้มันกลับให้ผลตรงกันข้าม ลองคิดดูให้ดีสิ อาวุธที่ใหญ่และหนักขนาดนี้มันจะไม่ถูกลดทอนประสิทธิภาพเชียวหรือ? สู้อีกครั้ง!"
"อย่าคิดว่ามีดสีทองไม่มีประโยชน์ในการโจมตีเพียงเพราะพวกมันสร้างความเสียหายไม่ได้ หากนายใช้มันคอยบดบังสายตาศัตรู มีดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่าการมีสหายร่วมรบจำนวนมากเสียอีก สู้อีกครั้ง"
"ฉันเคยพูดไปแล้วว่าท่าแทงของดาบใหญ่จะถูกมองออกได้ง่าย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายถึงชอบใช้มันนัก ท่าแทงควรนำออกมาใช้ในสถานการณ์ที่มั่นใจว่าศัตรูไม่มีทางหลบได้ ดาบใหญ่สามารถโจมตีได้ทั้งการฟันและแทง อย่างลืมใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ เอาล่ะ สู้อีกครั้ง"
"อีกครั้ง"
"สู้อีก!"
"อีกครั้ง! อีกครั้ง! อีกครั้ง!"
"...แฮ่ก แฮ่ก"
การต่อสู้บ้าๆ นี่ต้องวนซ้ำอีกกี่รอบกันนะ? ในตอนที่พวกเขามาถึงป่าไผ่ ยามนั้นยังไม่ถึงเวลารุ่งเช้าเลยด้วยซ้ำ ทว่า เวลาในปัจจุบันกลับล่วงเลยมาจนกระทั่งดวงอาทิตย์เจิดจ้าอยู่กึ่งกลางศีรษะ
กริดเกิดอาการเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
แต่ตรงกันข้าม เหล่าชาวโอเวอร์เกียร์นั้น...
"งั่มงั่ม... กริดคงทรมานไม่น้อยเลยสินะ"
"เอ็นพีซีที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังสั่งสอนวิชาดาบ แถมเขายังคอยช่วยชีวิตในตอนที่ทำพลาด ดูยังไงก็ไม่ใช่การทรมานหรอกนะ หากเปลี่ยนเป็นฉัน ป่านนี้คงกำลังตื่นเต้นยินดีมากอยู่แน่"
"มันน่าตื่นเต้นก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นงานที่สาหัส"
"ไม่ง่ายเลยนะ ที่จะสู้ติดต่อกันนานถึงครึ่งวัน ว่าไหม?"
"แน่ล่ะ… หากฉันต้องสู้กับศัตรูอย่างต่อเนื่องเหมือนกริดตอนนี้ ค่าเรี่ยวแรงคงถึงขีดจำกัดไปนานแล้ว"
สมาชิกโอเวอร์เกียร์สามารถหลุดพ้นจากอาการไร้เรี่ยวแรงมาได้สักพักใหญ่ พวกเขากำลังก่อกองไฟและนั่งกินอาหารอย่างเฮฮา มีทั้งมันฝรั่งสีรุ้งอบ และมันฝรั่งสีรุ้งต้ม ทุกคนกำลังผ่อนคล้ายพร้อมกับเฝ้ามองการต่อสู้ของกริดด้วยความตั้งใจ
ไม่ใช่เพราะพวกเขาขี้เกียจ อันที่จริง ทุกคนอยากเข้าไปร่วมสู้ บรรดาแร้งเกอร์แถวหน้าย่อมกระหายที่จะพัฒนาตนเองอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่มีใครคิดขยับตัว ปิอาโร่กำลังเคี่ยวกรำกริดด้วยร่างโคลนแพ็กม่า การต่อสู้นี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเข้าไปสอดแทรกได้
"การพัฒนาของกริดอยู่ในระดับที่น่าตกใจ" ลอเอลพูดขึ้น
ทุกคนล้วนเห็นด้วย
"ใช่แล้ว ในระดับที่พวกเราคาดไม่ถึงเลยล่ะ"
ในการต่อสู้หนแรก ร่างโคลนกำราบกริดจนไม่ได้ตอบโต้เลยสักครั้งเดียว เขาเกือบต้องตายด้วยวิชาดาบของตัวเอง ในการต่อสู้ที่สอง กริดสามารถตอบโต้กลับไปได้หนึ่งครั้ง การต่อสู้ที่สาม สองครั้ง การต่อสู้ที่สี่ สามครั้ง และเพิ่มขึ้นในอีกทุกๆ ครั้งหลังจากนั้น จนกระทั่งถึงรอบที่ 51 กริดสามารถตอบโต้ร่างโคลนได้ในระดับสูสี
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการที่เขารอดชีวิตมาได้ทุกครั้งที่ทำพลาด
"กริดเปรียบดั่งผ้าขาว จึงไม่แปลกที่จะมีช่องว่างให้เติบโตได้มาก"
ความเข้ากันได้อย่างลงตัวของสุดยอดครูและสุดยอดคู่ฝึกซ้อม (?) ทั้งหมดหล่อหลอมให้กริดพัฒนาฝีมือการควบคุมอย่างรุดหน้า มีผู้เล่นคนใดบ้างที่ไม่ต้องการเข้าคอร์สฝึกอันล้ำค่าเช่นนี้? ชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคนล้วนอิจฉา
"อยากมีครูฝึกแบบนี้บ้าง..."
"กริดไปหาเอ็นพีซีที่สุดยอดแบบนี้มาจากไหน?"
"มันน่าขนลุกไม่น้อยที่ปิอาโร่แกล้งคอสเพลย์เป็นชาวนาอยู่พักใหญ่"
ตัวจริงของปิอาโร่คือใครกัน? และด้วยเหตุผลใด เขาถึงมาช่วยฝึกฝนกริดเช่นนี้? เป็นคำถามที่ทุกคนต่างพากันสงสัยและคาใจ
ตุ้บ...!
ในที่สุด กริดก็สลบไป ค่าเรี่ยวแรงของเขาหมดหลอดอย่างแท้จริง แต่ตรงกันข้าม ร่างโคลนกลับยังสบายดีอยู่ แม้กริดจะต่อสู้มาครึ่งวันแล้ว แต่พลังชีวิตของร่างโคลนยังมีสูงถึง 9 ใน 10 ส่วน
ปิอาโร่หยุดพักการฝึกสอนกริดไว้เพียงเท่านี้ เขารีบชำเลืองสายตาหันมามองทางกลุ่มของสมาชิกโอเวอร์เกียร์
หลังจากนั้นก็ชี้มาที่เรกัส
"นายคนนั้น"
"หือ? ฉันหรือ?"
เรกัสไม่ค่อยชอบใจที่กริดถูกสอนสั่งอยู่คนเดียว กริดนั้นแข็งแกร่งขึ้นในทุกขณะ เรกัสจึงพยายามจำลองภาพของร่างโคลนแพ็กม่าในหัวและเริ่มฝึกซ้อมกับศัตรูในจินตนาการที่สร้างขึ้น
จนกระทั่ง ปิอาโร่หยุดฝึกฝนกริดและเรียกเขา เรกัสจึงงุนงง
ปิอาโร่ได้พูดขึ้น
"นายจะต้องรับมือกับศัตรูในระหว่างที่ดยุคกริดพักผ่อน"
ดวงตาของเรกัสพลันส่องประกายราวกับอัญมณี
"นายจะช่วยชี้แนะให้ฉันหรือ?"
ปิอาโร่ไม่ปฏิเสธ
"ฉันจับตามองศักยภาพของนายมาพักใหญ่แล้ว"
"โอ้ว...!"
เรกัสเป็นปลื้มถึงขีดสุด โอกาสอันล้ำค่าที่จะได้ฝึกฝนตนเองกับปิอาโร่ ชายผู้ที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่เรกัสเคยพบมา
ทันทีที่เรกัสลงสนาม ปิอาโร่ก็เริ่มให้บทเรียนแรก
"โว้ว..."
"เขาคิดจะทำอะไร...? เอ็นพีซีคนนี้จะให้คำชี้แนะกับพวกเราทุกคนงั้นหรือ?"
"ยอดมาก! พวกเราจะได้รับการฝึกสอนจากเขาใช่ไหม?"
ทุกคนล้วนตื่นเต้นยินดี ไม่มีใครที่ไม่ต้องการพัฒนาตนเอง การฝึกสอนของปิอาโร่จะช่วยยกระดับฝีมือของสมาชิกทั้งหมดในปาร์ตี้
ความหวังลึกๆ ที่มีมานานได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว
"คนถัดไป"
ปิอาโร่เปลี่ยนคนลงสนามไปเรื่อยๆ เขาค่อยๆ ชี้แนะอย่างละเอียด ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของสมาชิกแต่ละคนที่คอยเฝ้ามองมาตลอดตั้งแต่อยู่ที่เรย์ดัน
ปิอาโร่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังที่ว่า คนพวกนี้จะแข็งแกร่งขึ้นและคอยมาเป็นคู่ซ้อมให้ตนในอนาคต
นักดาบผู้ยิ่งใหญ่ ปิอาโร่ การปรากฏตัวของเขาคือวาสนาอย่างใหญ่หลวงของกริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคน
โอ้ว เลเวลอัพยกกิลด์
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteขุนให้เก่งๆ แล้วมาเป็นคู่ซ้อมให้ ปิอาโร่ซะ
ReplyDelete