จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 234
หลังจากที่ฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรงกลับมาได้ส่วนหนึ่ง กริดฝืนลุกยืนขึ้นและนั่งลงบนหินเรียบ เขาพลันสัมผัสได้ถึงสายตาของชาวโอเวอร์เกียร์ที่กำลังจับจ้องเข้ามา
'บรรยากาศเปลี่ยนไป'
เป็นเพราะเขาสามารถเอาชนะบททดสอบโดยการข้ามขีดจำกัดตนเองได้ครั้งแล้วครั้งเล่างั้นหรือ? ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่า ตนพัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนมาก กริดเริ่มทำการแบ่งปันรายละเอียดไอเท็มให้กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์
[ สร้อยคอผู้พิทักษ์ ]
เกรด : ยูนีค (เซ็ต)
ความคงทน : 23/23
พลังป้องกัน : 35
_______
* ความทรหด +30
* เมื่อสวมใส่ครบเซ็ต : พลังป้องกัน +100
* เมื่อสวมใส่ครบเซ็ต : ความทรหด +50
_______
สร้อยคอที่ใช้งานโดยร่างโคลนแห่งป่าลึกลับ
ผู้สวมใส่จะมีพลังใจและพลังป้องกันที่สูงขึ้น
_______
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 300 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 15
[ กำไลข้อมือผู้พิทักษ์ ]
เกรด : ยูนีค (เซ็ต)
ความคงทน : 21/21
พลังป้องกัน : 37
_______
* ความทรหด +30
* เมื่อสวมใส่ครบเซ็ต : พลังป้องกัน +100
* เมื่อสวมใส่ครบเซ็ต : ความทรหด +50
_______
กำไลข้อมือที่ใช้งานโดยร่างโคลนแห่งป่าลึกลับ
ผู้สวมใส่จะมีพลังใจและพลังป้องกันที่สูงขึ้น
_______
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 300 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 11
"หืม? เป็นเครื่องประดับเวทย์เวทย์มนต์สินะ?"
"นั่นสิ มีพลังป้องกันติดมากับเครื่องประดับได้ยังไง?"
เครื่องประดับทั่วไปจะมีพลังป้องกันที่ไม่สูงมาก ตัวอย่างเช่น แหวนโดรันที่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้เทียบเท่าไอเท็มเกรดเลเจนดารี แต่กลับไม่มีค่าพลังป้องกันเลยแม้แต่แต้มเดียว ในทางกลับกัน ทั้งสร้อยคอและกำไลข้อมือผู้พิทักษ์ต่างก็มีพลังป้องกันในระดับน่าเหลือเชื่อ
"หากสวมครบเซ็ต พลังป้องกันโดยรวมจะเพิ่มขึ้นมาถึง 172 หน่วย..."
เทียบได้กับถุงมือหรือรองเท้าเลเวล 300 เกรดทั่วไป จึงค่อนข้างน่าประหลาดใจที่เครื่องประดับเหล่านี้มีพลังป้องกันสูงมาก ทว่า บรรดาสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างไม่ได้เป็นปลื้มอะไรเป็นพิเศษ
"มีดีแค่พลังป้องกันสูงงั้นหรือ? ไม่มีออปชั่นอื่นอีกแล้วสินะ?"
"นั่นสิ อย่างน้อยเครื่องประดับก็ควรมีค่าต้านทานธาตุต่างๆ มาให้สักหน่อย"
"ฉันอยากได้เครื่องประดับที่ลดระยะหน่วงทักษะมากกว่า"
"มันยังช่วยเพิ่มค่าสถานะ <ความทรหด> แต่ตัวค่าสถานะเองก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น"
[ ความทรหด ]
มีโอกาสปานกลางที่จะลดความเสียหายที่ได้รับบางส่วน ยิ่งมีพลังชีวิตเหลือน้อย โอกาสแสดงผลยิ่งเพิ่มขึ้น
_______
* ยิ่งมีค่านี้สูง เอฟเฟคก็ยิ่งแสดงผลมากขึ้น
* แต้มสถานะคงเหลือไม่สามารถนำมาเพิ่มให้กับค่าสถานะนี้ได้
หากดูจากคำอธิบาย ค่าความทรหดจะเป็นค่าสถานะพิเศษที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับบรรดาตัวแทงค์ทั้งหลาย ทว่า โอกาสแสดงผลของมันกลับมีต่ำมาก จึงถูกจัดให้เป็นเพียงค่าสถานะขยะที่ไม่มีใครต้องการ
กริดรู้เรื่องนี้ดียิ่งกว่าใคร
'ค่าความทรหดคือขยะของแท้'
กริดมีค่าความทรหดที่สูงถึงเกือบ 900 แต้ม แต่แม้จะมีมากมายขนาดนี้ เขาก็ไม่เคยได้สัมผัสกับเอฟเฟคของค่าความทรหดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
มอนสเตอร์บอสที่แข็งแกร่งดรอปไอเท็มเพียงเท่านี้เองหรือ? สีหน้าของทุกคนผิดหวังอย่างชัดเจน
แต่กริดนั้นต่างออกไป
"ถ้าหากพวกนายไม่ว่าอะไร เครื่องประดับพวกนี้ ฉันขอใช้เองจะได้ไหม"
หลังจากการเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า กริดมีโอกาสสวมใส่ไอเท็มดีๆ มากมายจากทั้งที่ผลิตเองและดรอปจากบอส ทว่า เครื่องประดับไม่ใช่สิ่งที่ช่างตีเหล็กจะสร้างขึ้นเองได้ แถมบอสก็ยังดรอปสิ่งเหล่านี้ไม่บ่อยครั้งนัก กริดจึงมีไม่ค่อยเครื่องประดับสวมใส่
'เรายังหาคนที่สามารถรับมือกับโอริชาลคั่มสีม่วงไม่ได้...'
ในมุมมองของกริด เขารู้สึกพึงพอใจกับเซ็ตผู้พิทักษ์สองชิ้นนี้มากทีเดียว บรรดาชาวโอเวอร์เกียร์พลันตอบรับคำขอของกริดโดยไม่ลังเล
"กริด ทำตามที่นายต้องการเถอะ"
"นายได้สิทธิเลือกก่อนอยู่แล้ว ดังนั้น อยากได้อะไรก็หยิบไปเลย"
"ขอบคุณมาก"
กริดรู้สึกขอบคุณ หลังจากนั้นก็ทำการแบ่งปันรายละเอียดของดาบใหญ่
[ ดาบใหญ่เลียนแบบ ]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 731/731
พลังโจมตี : 780~1,516
ความเร็วโจมตี : -6%
_______
* มองข้ามพลังป้องกันของศัตรู 20%
* เพิ่มความรุนแรงให้กับทุกทักษะ 20%
_______
ดาบใหญ่ที่ร่างโคลนแห่งป่าลึกลับทำการเลียนแบบมา
ผลงานดั้งเดิมเป็นของช่างตีเหล็กในตำนาน แพ็กม่า แต่การเลียนแบบของร่างโคลนทำได้เพียงรูปลักษณ์เท่านั้น พลังที่แท้จริงไม่อาจเทียบกับงานของแพ็กม่าได้
_______
เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล 320 หรือสูงกว่า
- ค่าพละกำลัง 2,010 หรือสูงกว่า
- ทักษะชำนาญดาบขั้นสูง เลเวล 2 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 3,955
"โว้ว...!"
"ไม่เบาทีเดียว"
ถือเป็นดาบที่มีคุณภาพสูง เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างส่งเสียงชื่นชมยินดี แม้แต่กริดเองก็อดประทับใจไม่ได้
'แม้จะยอดเยี่ยมขนาดนี้ แต่ก็ยังเทียบกับงานของแพ็กม่าไม่ติดงั้นหรือ?'
พลังโจมตีต่ำกว่า <ความผิดพลาด> เกรดยูนีคเล็กน้อย แต่ออปชั่นของมันกลับมีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะความรุนแรงของทุกทักษะที่เพิ่มขึ้น 20% เพียงออปชั่นเดียวก็มากพอจะทำให้กริดละสายตาไปไหนไม่ได้
'ถ้าเราใช้ดาบใหญ่เล่มนี้ วิชาดาบแพ็กม่าจะรุนแรงขึ้นไปอีกหลายส่วน...'
แม้จะไม่อาจแทนที่ <ความผิดพลาด> ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า กริดจะไม่ควรใช้งานมัน
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างก็คิดแบบเดียวกัน
"น่าเสียดายที่เป็นดาบใหญ่"
"ถ้าเป็นดาบมือเดียวล่ะก็..."
ไม่มีใครในกิลด์โอเวอร์เกียร์ที่ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ แม้ว่าราชันย์นักล่าอย่างทูนจะถือมันได้ก็จริง แต่อาวุธหลักของเขายังคงเป็นกรงเล็บมากกว่า ทั้งกริดและสมาชิกในกิลด์ต่างรู้สึกเสียดาย
"ทำไมนายไม่ลองฝึกดาบคู่ดูล่ะ?" ลอเอลเสนอแนะ
"ดาบคู่? วิชาดาบคู่น่ะหรือ?"
"ถูกต้อง"
ในบางสายอาชีพของนักดาบ พวกเขาจะมีทักษะติดตัวที่ชื่อ <ถือดาบสองเล่ม> อยู่ ทำให้สามารถถือดาบได้สองข้างแทนโล่ในมือ พลังโจมตีของมันถือว่าอยู่ในระดับสุดยอด แถมวีถีของดาบก็ยังยากที่จะคาดเดาได้
"นายไม่มีทักษะดาบคู่ก็จริง… แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ ฉันพูดถูกไหม?"
ในฐานะผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า กริดสามารถถืออาวุธได้ทุกชนิดโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะความชำนาญอาวุธ สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
แต่กริดกลับมองในแง่ลบ
"ฉันจะใช้ดาบใหญ่ทำเป็นดาบคู่ได้ยังไง..."
น้ำหนักไม่ใช่ปัญหา ค่าพละกำลังของกริดไม่เคยเป็นรองใคร เดิมที <ความผิดพลาด> ก็มีน้ำหนักเบาอยู่แล้ว แถมกริดยังสามารถเหวี่ยงดาบใหญ่เลียนแบบได้ด้วยมือเดียวอย่างสบาย ทว่า ปัญหาอยู่ที่ ดาบทั้งคู่มีความยาวกว่า 2 เมตร มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะกวัดแกว่งอาวุธที่ยาวเท่าความสูงของเขา 2 เล่มในเวลาเดียวกัน
ลอเอลพยายามโน้มน้าว
"ในการล่าบอสตัวนี้ ฝีมือการควบคุมของนายเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนมาก มากเกินกว่าที่นายคิดไว้เสียอีก ฉันมั่นใจว่า ถ้าหากยังคงไม่ยอมแพ้และหมั่นฝึกฝน สักวันหนึ่ง นายจะเป็นจ้าวแห่งดาบคู่ได้แน่นอน ไม่ใช่ว่านายมีอาจารย์ที่สุดยอดอยู่ด้วยงั้นหรือ?"
ลอเอลชี้ไปทางปิอาโร่และพูดว่า
"ทูนเองก็ใช้กรงเล็บสองอัน ส่วนปิอาโร่คือนักดาบอันดับหนึ่ง ถ้าหากนายเรียกรู้จากพวกเขา วิชาดาบคู่ของนายจะต้องไม่แพ้ใครเข้าสักวันแน่นอน"
"นั่นสินะ..."
ถือเป็นคำแนะนำที่น่าสนใจ ดาบใหญ่เลียนแบบนั้นมีทั้งพลังโจมตีและออปชั่นที่ยอดเยี่ยม หากใช้ความได้เปรียบของดาบใหญ่สองเล่มมารวมกัน วิชาดาบของเขาจะต้องรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
'ลองดูสักตั้งเป็นไง'
เขากำลังเลือดร้อน แต่ยังติดปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง ดาบใหญ่เลียนแบบคือไอเท็มที่ได้จากการล่าร่วมกันในปาร์ตี้ เขาไม่ควรนำไอเท็มดรอปทุกชิ้นมาเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว
กริดลังเลใจ
"ทำตามที่ลอเอลบอกเถอะ"
"ใช่แล้ว นั่นคือความคิดที่เข้าท่า กริด นายใช้อาวุธทุกชนิดได้โดยไม่มีขีดจำกัดไม่ใช่หรือ? ความได้เปรียบที่คนอื่นไม่มีเช่นนี้ นายควรคว้ามันไว้"
"พลังป้องกันของนายเพิ่มขึ้นมากจากเครื่องประดับ ดังนั้นก็เหมาะเลย มุ่งเน้นไปที่การโจมตีด้วยดาบใหญ่สองเล่มซะ"
"ทุกคน..."
พวกเขาล้วนทำดีกับกริดมาก ไอเท็มทุกชิ้นถูกมอบให้อย่างเต็มใจ คนพวกนี้เคยติดหนี้กริดมาก่อนหรืออย่างไร? หากเป็นกริดในอดีตคงหัวเราะอยู่ในใจและรับไว้ทั้งหมด ทว่า กริดในปัจจุบันนั้นรู้จักผิดชอบชั่วดี
ในขณะที่กริดยังตัดสินใจไม่ได้ สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างให้กำลังใจ
"อันที่จริง นายก็เป็นคนเดียวที่ใช้ดาบใหญ่ได้อยู่แล้ว จะให้พวกเรานำมันไปขายเพื่อเงินงั้นหรือ? ทำไม่ได้แน่นอน ฉันไม่ต้องการให้แร้งเกอร์คนใดครอบครองดาบใหญ่ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้"
"ใช่แล้ว พวกเราจะเสริมเขี้ยวเล็บให้ศัตรูทางอ้อมไม่ได้"
"ยิ่งไปกว่านั้น เราติดหนี้นายไว้มาก"
หลังจากกลายเป็นหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์ กริดสร้างไอเท็มให้สมาชิกทุกคนโดยไม่คิดเงิน เพียงแต่ต้องนำวัสดุมาให้เท่านั้น เขาพยายามทำตัวเป็นผู้นำที่ดี และเขาก็สำนึกในความสำคัญของพวกพ้องอยู่เสมอ
ความใจกว้างในคราวนั้น ถึงเวลาได้รับการตอบแทนแล้ว
"ขอบคุณมาก...!"
ดาบใหญ่เลียนแบบ อาวุธอันทรงพลังเช่นนี้จะต้องมีราคาอย่างต่ำ 3 ล้านเหรียญทอง กริดรู้สึกตื้นตันใจกับการกระทำของทุกคน
***
"ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก หากจะให้เชี่ยวชาญวิชาดาบคู่ในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยกับดาบใหญ่สองเล่ม"
"นายหมายความว่า ฉันควรยอมแพ้งั้นหรือ?"
"ไม่ใช่ ไม่เลย หากเป็นพลังของแพ็กม่าล่ะก็ เรื่องนี้เป็นไปได้แน่ แต่คงใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ ประการแรก ห้ามรู้สึกหงุดหงิดเด็ดขาด ในยามที่ฉันจะสอนนายใช้วิชาดาบของแพ็กม่าด้วยดาบคู่"
กริดและปาร์ตี้เดินผ่านป่าลึกลับและขึ้นภูเขาไป เหตุผลหลักคือการค้นหาเหมืองแร่ ในระหว่างทาง กริดก็ขอความเห็นเรื่องดาบคู่จากปิอาโร่
ฮิวรอยที่เดินอยู่หน้าสุดพลันตะโกนขึ้น
"มีกระท่อมหลังเล็กๆ ตั้งอยู่บนไหล่เขา!"
"กระท่อม?"
มีคนอาศัยอยู่ในสถานที่ซึ่งร่างโคลนอันดุร้ายไม่ยอมให้ใครผ่านไปมาด้วยหรือ? ทุกคนเกิดคำถามขึ้นในหัว แต่พวกเขาก็ยังไม่ลืมเรื่องของมารยาท
ประตูทางเข้ากระท่อมถูกเคาะเบาๆ
"มีใครอยู่ไหม?"
"..."
ไม่มีการตอบรับ ไม่มีสุ้มเสียงใดทั้งสิ้น
"พวกเราเข้าไปดีไหม?"
แวนเนอร์ไม่มั่นใจว่าเจ้าของกระท่อมอยู่รึไม่ แต่เขาก็ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป หลังจากนั้น กลิ่นเหม็นอับของราก็คละคลุ้งออกมาเตะจมูกทุกคนทันที
"อย่างน้อยสิบปี ที่กระท่อมหลังนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่"
ปาร์ตี้ของกริดเริ่มทำการสำรวจภายใน แต่กลับกลายเป็นว่า ไม่มีสิ่งของใดอยู่เลยนอกจากเตียงเล็กๆ และโต๊ะหนึ่งตัว
"หือ? หมายความว่ายังไง"
แวนเนอร์พบกล่องเก็บของเก่าๆ วางอยู่ มันทำมาจากไม้เบิร์ชและถูกล็อคด้วยกุญแจอย่างแน่นหนา
ข้างในมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่? แวนเนอร์เกิดความสงสัย เขาพยายามจะพังมันด้วยการใช้กำลัง แต่ระบบของเกมกลับไม่อนุญาต
[ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ]
"นี่มัน… ดูเหมือนต้องใช้กุญแจอย่างเดียวสินะ"
"ฉันเอง"
กริดเดินเข้ามาและควัก <มาสเตอร์คีย์> ออกจากกระเป๋า
กริ๊ก!
รูกุญแจที่ขึ้นสนิมพลันถูกไขออกในพริบตา
"นี่มัน...?"
ภายในกล่อง ยังมีกล่องใบเล็กซ่อนอยู่อีกชั้น
กริดทำแบบเดิม
สนุกมากมายครัย
ReplyDeleteมาสเตอร์คีย์สุดยอด
ReplyDelete