จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 238
ร่างโคลนส่วนมากจะคล้ายคลึงกับร่างแยก คือนอกจากจะไว้หลอกตาแล้ว มันไม่มีประโยชน์อื่นใดในการต่อสู้ ทว่า ร่างโคลนของชายลึกลับกลับมีพลังการโจมตีที่เอาเรื่อง หนึ่งในสมาชิกกิลด์ เอลโว่ มันกรีดร้องทันทีที่ถูกดาบเสียบเข้า
ชาวไวท์วูล์ฟทุกคนเริ่มหวาดผวา
'เราเคยได้ยินมาว่า นักลอบสังหารระดับ 3 สามารถมีร่างโคลนที่สมบูรณ์แบบ'
'อะไรนะ? หมายความว่า หมอนี่คือนักลอบสังหารเลเวล 300 ขึ้นไปงั้นหรือ?'
'นายกำลังหมายถึงเฟคเกอร์รึไง...?'
เฟคเกอร์คือนักลอบสังหารอันดับหนึ่ง และยังเป็นผู้เล่นอันดับ 14 ของโลก เขาแทบไม่เคยปรากฏตัวออกมาให้ใครเห็นเลยสักครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็มีข่าวลือมากมาย ผู้เล่นที่เคยถูกเฟคเกอร์สังหารมีเกิน 10,000 คนไปแล้ว แถมเขายังเคยลอบสังหารบรรดาแร้งเกอร์ด้วยกันเองอีกหลายหน
ยังมีข่าวลืออีกว่า เฟคเกอร์ได้จบชีวิตของครอเกลจนทำให้เขาเลเวลลด แน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ เฟคเกอร์ไม่ใช่ผู้เล่นพีเค เขาเหมือนกับเรกัส ผู้เล่นที่ถวิลหาความแข็งแกร่งอย่างไร้สิ้นสุดด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก
แต่ข่าวลือมักบิดเบี้ยวและเกินจริง สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟต่างเข้าใจผิดว่าเฟคเกอร์เป็นฆาตกร
แล้วชายคนหน้าคนนี้ใช่เฟคเกอร์จริงหรือ?
'พวกเราตกเป็นรอง'
'วันนี้เป็นวันตายของเรารึไงนะ?'
ผู้เล่นกิลด์ไวท์วูล์ฟเริ่มขวัญผวา บ้างกลืนน้ำลาย บ้างสั่นระริก เวอราดินได้พูดบางสิ่งที่ทำให้พวกมันใจเย็นลง
"นักลอบสังหารไม่มีทางใช้ดาบใหญ่ได้ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่แน่ชัด ถ้าหากหมอนี่คือเฟคเกอร์จริง พวกเราทั้งหมดคงตายไปนานแล้ว"
"อา...!"
พวกมันล้วนสับสนจนมองข้ามความจริงข้อนี้ไป สมาชิกกิลด์ได้สติกลับคืนมาจากคำพูดของเวอราดิน
"ดูเหมือนมันคงเป็นคลาสลับ"
เป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผล คลาสลับมีอยู่มากมายในซาทิสฟาย จึงไม่แปลกที่จะมีสักคลาสหนึ่งที่เชี่ยวชาญในการสร้างร่างโคลน สมาชิกไวท์วูล์ฟทุกคนพลันอุ่นใจ
"ฟู่ว… รอดตัวไป คิดว่าต้องเจอกับเฟคเกอร์ซะแล้ว"
"รับมือกับคลาสลับ ย่อมง่ายกว่าการรับมือกับแร้งเกอร์ที่มีคลาสระดับ 3"
"คนพวกนั้นน่ากลัวเกินไป"
สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า คลาสลับได้สูญเสียมนต์ขลังไปนับตั้งแต่การมาถึงของคลาสระดับ 3
เวอราดินรีบกล่าวตักเตือนเหล่าสมาชิกกิลด์ที่โล่งใจเกินเหตุ
"เรายังไม่รู้ฝีมือที่แท้จริงของศัตรู อย่าบุ่มบาม รีบถอยกลับมาก่อน"
สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟมีระเบียบวินัยที่เคร่งครัด พวกมันถอยกลับทันทีโดยไม่ลังเลเมื่อได้ยินคำสั่งจากเวอราดิน
ตึก... ตึก...
ชายปริศนาย่างกรายเข้าไปอย่างองอาจกลางถนน
"ไม่สู้งั้นหรือ? กลัวสินะ?"
ในฐานะหัวหน้ากิลด์ เวอราดินย่อมมีสติมั่นคง คำยั่วยุพื้นฐานเหล่านี้ไม่มีทางทำอะไรมันได้ เวอราดินเพ่งพิจารณาชายแปลกหน้าคนนี้อย่างละเอียดและเอ่ยปากถาม
"แกเกี่ยวข้องอะไรกับชนเผ่าอัล? ทำไมถึงต้องยื่นมือเข้าช่วยพวกมัน?"
ส่วนคำตอบนั้นแสนเรียบง่าย
"ฉันกำลังทำภารกิจ"
ชายคนดังกล่าวคือกริด ระหว่างการเดินทาง เขาได้เข้ามาในหมู่บ้านของชนเผ่าอัลโดยบังเอิญ และเมื่อมีผู้รุกรานจากภายนอก ภารกิจจึงปรากฏขึ้นตรงหน้า กริดจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นอุบอิบเมื่อมักจะเกิดเรื่องในทุกทีที่เขาย่างกรายเข้าไป
[ ช่วยเหลือชนเผ่าอัล ]
ระดับความยาก : A
_______
อาณาจักรของชนเผ่าอัลถูกจักรวรรดิซาฮารันฮุบกลืน ผู้ที่เหลือรอดต่างหลบหนีอยู่ตามชายแดนอันห่างไกล ทว่า ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจหลบเลี่ยงหูตาของจักรวรรดิได้ การรุกรานจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
ปลดปล่อยพวกเขาจากความโหดร้ายของจักรวรรดิ
แล้วท่านจะได้เป็นดั่งดวงอาทิตย์ของพวกเขา
_______
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ขับไล่ผู้บุกรุก
รางวัลสำเร็จภารกิจ : ค่าความสัมพันธ์กับชนเผ่าอัลจะเพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ชนเผ่าอัลจะถูกสังหารจนหมด
***
4 วันก่อนหน้า
ก่อนจะออกจากเรย์ดัน กริดได้ศึกษาความเป็นมาของจักรวรรดิ จึงพบว่า จักรวรรดิซาฮารันยังคงมีนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อยู่ ชนกลุ่มน้อยที่ไม่คิดทำงานรับใช้จักรวรรดิจะถูกไล่กวาดล้างในทุกที่
แน่ล่ะ มันคือการกระทำอันป่าเถื่อนโหดเหี้ยม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคนเหล่านี้คิดต่อต้าน?
ไร้ประโยชน์...
อันที่จริง กริดไม่ได้รับภารกิจนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาเพียงต้องการของรางวัลเท่านั้น
'คนพวกนี้ไม่มีที่ให้ไป... แถมค่าความสัมพันธ์ยังอยู่ในระดับสูงสุด...'
กริดก็แค่รับพวกเขามาเป็นพลเมืองของเรย์ดันเท่านั้นเอง ภารกิจครั้งนี้ กริดมีเจตนาที่จะเพิ่มจำนวนประชากรให้เรย์ดัน มันคงเป็นการดีที่สุดถ้าหากกริดสามารถชักชวนให้ชนกลุ่มน้อยทั้งหมดในจักรวรรดิมาเป็นพลเมืองของตนได้
กริดเริ่มทำตัวสมกับเป็นลอร์ดมากขึ้น หากลอเอลรู้เรื่องนี้ เขาคงได้ดีใจจนน้ำตาไหล
"พวกนายมีแค่สองทางเลือก"
ดวงตาของกริดพลันอัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร ตัวเขาเองก็ไม่ชอบใจในความโหดเหี้ยมของกิลด์ไวท์วูล์ฟนัก กริดให้ราคากับเอ็นพีซีมากกว่าผู้เล่นคนใด ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะข่านและไอรีน
"อยากจะตายแบบสบาย หรืออยากถูกอัดให้น่วมก่อนตาย… เลือกมา"
"แกบ้าไปแล้วรึไง!"
สมาชิกกิลด์ไวท์วูล์ฟพลันเกรี้ยวกราด หมอนี่เป็นใครกัน ถึงกล้าพูดจาจองหองถึงเพียงนี้
"เวอราดิน! นายจะปล่อยให้มันพล่ามไร้สาระไปอีกนานแค่ไหน? พวกเราต้องอัดมัน ที่นี่! เดี๋ยวนี้! มันมีแค่คนเดียวเองนะ!"
เอลโว่นั้นโมโหมากเป็นพิเศษ มันถูกร่างโคลนลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ เวอรินดินชำเลืองสายตาไปตรวจสอบค่าพลังของเอลโว่เล็กน้อย
'ไม่เท่าไร'
เอลโว่เป็นนักรบคลั่ง ค่าพลังป้องกันจึงจัดว่าต่ำกว่าปรกติ แต่การลอบโจมตีของร่างโคลนเมื่อครู่กลับทำให้พลังชีวิตลดลงไปแค่ 1 ใน 5 ส่วนเท่านั้น
'ร่างโคลนข้างอ่อนแอทีเดียว'
ร่างโคลนของชายปริศนาอ่อนแอกว่ามันมาก การโจมตีเมื่อครู่ไม่ได้รุนแรงอะไร เวอราดินคิดเช่นนี้
'บางที หมอนั่นอาจสร้างร่างโคลนได้หลายตัว แต่การควบคุมแบบนี้คงง่ายกว่า'
หลังจากเวอราดินประเมินสถานการณ์เสร็จ มันก็เริ่มออกคำสั่ง
"พวกเราเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น จัดการมันซะ"
"ดี!"
เอลโว่ลงมือเป็นคนแรก ในฐานะผู้เล่นเลเวล 179 แม้จะมีเลเวลต่ำที่สุดในบรรดาสมาชิกไวท์วูล์ฟ แต่มันก็ชอบการประจัญบานอย่างมาก ถือเป็นผู้เล่นที่กล้าหาญและไม่เกรงกลัวใคร
"ฉันจะฆ่าแกเอง!"
เอลโว่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร มันต้องการซัดกริดให้แหลกคามือในการโจมตีเดียว
"พุ่ง!"
ฟุ่บ
ระยะห่าง 3 เมตรถูกย่นลงในพริบตา เอลโว่ยิ้มอย่างพึงพอใจกับทักษะการพุ่งของตน หลังจากนั้น มันก็สำแดงทักษะ <วังวนความบ้าคลั่ง> เข้าใส่กริด มันคือทักษะที่จะทำการกระหน่ำโจมตีศัตรูอย่างดุดันจำนวน 5 ครั้ง แม้กระทั่งพวกยักษ์ก็ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อยจากการโจมตีชนิดนี้
ทว่า กริดไม่ใช่ยักษ์
[ เป้าหมายต้านทานความเสียหาย ]
"เอ๋?"
ไม่ใช่การปัดป้อง บล็อค หลบ หรืออะไรแบบนั้น การโจมตีนี้โดนเข้าอย่างจัง แต่แล้วทำไมถึงขึ้นว่าต้านทานความเสียหาย? กริดหันไปจ้องมองใบหน้าอันแสนสับสนของเอลโว่
"แกอยากให้ฉันตายสินะ?"
"เชี่ย?"
เอลโว่ผู้องอาจ ยามนี้มันกำลังสั่นระริกเป็นหนูที่ถูกต้อนจนมุม นั่นเป็นผลมาจากค่าความเกรงขามของกริด ซึ่งมีโอกาสเล็กน้อยที่จะทำให้ศัตรูยอมจำนน กริดที่มีค่าความเกรงขามสูงกว่า 1,500 แต้มแล้ว จึงเป็นการยากที่ผู้เล่นระดับกลางถึงล่างจะต้านทานได้
[ ท่านยอมจำนนเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนอันยิ่งใหญ่ ศีรษะของท่านจะต้องโค้งคำนับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างกายสั่นระริก และหัวเริ่มขยับไปเอง ]
'อ--อะไรกัน...!'
มันต้องตกอยู่ในอาการเช่นนี้เพียงเพราะถูกเป้าหมายจ้องมองงั้นหรือ? ชายคนนี้เป็นใครกัน? เมดูซ่าหรืออย่างไร? เอลโว่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น มันต้องกำลังฝันอยู่แน่
ส่วนสมาชิกกิลด์คนอื่นไม่ได้รู้เรื่องนี้ พวกมันกำลังกรูเข้ามาประหนึ่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
"ถ่ายพลังเวทย์!"
"พิษแห่งอาตร้า!"
"หอกอัคคี!"
"ฟันล่าง!"
"ลูกเตะ! อะฮู้วว~!"
ทักษะสร้างอาการผิดปรกติถูกประเคนเข้าใส่ มีทั้งรูปแบบกายภาพและเวทย์มนต์ ศัตรูกว่า 20 คนใช้ทักษะออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนกริดกำลังอยู่ในอันตรายมากทีเดียว
ดูเหมือน… ล่ะนะ
เป็นจังหวะที่ร่างโคลนอันเงียบงันปรากฏตัว ถึงเวลาที่แรนดี้แสดงฝีมือแล้ว
"วังวน!"
ซู่ววววววววว!
ทักษะทั้งหมดถูกสะท้อนกลับไปด้วยจังหวะพอดิบพอดี บรรดาสมาชิกไวท์วูล์ฟต่างถูกทักษะของตนเองโจมตีเข้าจนบอบช้ำ
"อ๊ากกกก!"
"เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?"
ทุกคนพลันผงะไปทันที ทักษะที่ร่างโคลนใช้ออกมาคืออะไรกันแน่? ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นทักษะการโต้กลับที่แม้แต่ผู้เล่นยังใช้งานให้ถูกจังหวะได้ยาก คนที่ตกใจมากที่สุดคงไม่พ้นเวอราดิน
'ในการลอบโจมตีครั้งแรก ร่างโคลนตัวนี้ไม่ได้ใช้ทักษะทั้งหมดออกมา!'
เป็นการคาดเดาที่ถูกต้อง แรนดี้คัดลอกแต้มสถานะของกริดไปได้มากถึง 30% รวมถึงทักษะวังวน ด้วยความสัตย์จริง แรนดี้ในตอนนี้เก่งกาจเทียบเท่าผู้เล่นเลเวล 200 หากเขาต้องการ การสับผู้เล่นระดับล่างให้เป็นชิ้นๆ ในการโจมตีครั้งแรกย่อมไม่ใช่เรื่องยากเลย
แต่แรนดี้ได้เลือกเก็บงำฝีมือไว้ เธอแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อทำให้ศัตรูตายใจ นี่คือการตัดสินใจที่เกิดขึ้นจากสัญชาติในตัวเธอ ไม่ใช่คำสั่งจากกริด แม้จะสูญเสียความทรงจำในอดีตไปเกือบทั้งหมด แต่ประสบการณ์ต่อสู้กว่าหนึ่งร้อยปีได้ถูกสลักลงในแก่นพลังชีวิตอย่างเหนียวแน่นจนยากจะลบออก
กริดพลันชื่นชมในกลยุทธของแรนดี้
"ดูจากสีหน้าอันแสนตกใจของพวกแก… ไม่ต้องห่วง ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เพื่อนของฉันยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหม?"
'เพื่อน?'
นั่นไม่ใช่ร่างโคลนหรอกหรือ? แล้วมันคืออะไรกันแน่? สมาชิกไวท์วูล์ฟยิ่งสับสนไปมากกว่าเดิม
ฉึก!
ดาบใหญ่สีเขียวหยกได้เสียบเข้าไปที่หน้าอกของเอลโว่โดยที่มันไม่ทันรู้สึกตัว
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง! ]
[ ศัตรูโจมตีแรงขึ้นเป็น 5 เท่าจากทักษะที่ไม่ทราบแน่ชัด ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 103,900 หน่วย ]
'ส--แสน? ไม่ใช่หมื่นงั้นหรือ? ตูมีพลังชีวิตแค่ 20,000 เองนะโว้ย!'
การมองเห็นของเอลโว่พลันกลายเป็นสีเทา
'นี่เรา… กำลังฝันไปใช่ไหม?'
[ สมาชิกปาร์ตี้ <เอลโว่> เสียชีวิต ]
ความเงียบงันเข้าปกคลุมบรรยากาศ ปีศาจที่เหนือล้ำจินตนาการได้ปรากฏตัวต่อหน้าสมาชิกไวท์วูล์ฟอย่างไม่คาดฝัน
แต่เวอราดินยังคงใจเย็นได้อยู่ ตัวมันเองก็เป็นหนึ่ง 1 ใน 10 รุคกี้ของโลกรุ่นเดียวกับลอเอลและไอเบลลิน เลเวลของมันในตอนนี้คือ 281 การเผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งไม่ทำให้มันสูญเสียตัวตนไป แถมยิ่งไปกว่านั้น มันยังคงมีไพ่ตายซ่อนอยู่
พลซุ่มยิ่งที่อยู่ห่างออกไปบนยอดภูเขา กีกี้
>> ตอนนี้แหละ
เวอราดินส่งข้อความไปบอกกีกี้ ทันใดนั้น ได้เกิดแสงสว่างเล็กๆ ขึ้นบนยอดเขาที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งห่างออกไปราว 300 เมตรจากด้านหลังของกริด
เป็นลูกธนู
เปรี้ยงงง!
กีกี้เองก็เป็นหนึ่งในสิบรุคกี้ สมาชิกหมายเลขสองของกิลด์ไวท์วูล์ฟ ทักษะการซุ่มยิงของเธออยู่ในระดับเดียวกับจิสึกะ เทพีแห่งคันศร กีกี้เล็งยิงตรงมายังศีรษะของกริดอย่างแม่นยำ เวอราดินมั่นใจมากว่า ชายปริศนาผู้นี้จะต้องได้รับความเสียหายร้ายแรงและตกอยู่ในอาการมึนงงแน่นอน มันรีบควักคทาออกมาอย่างรวดเร็ว เวอราดินมีแผนจะใช้เวทย์ปลุกโครงกระดูกกับซากศพของชนเผ่าอัลและเอลโว่ที่ตายไป
ทว่า ร่างกายของมันก็พลันแข็งทื่อ
"น--นี่มัน...?"
เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นจากทุกทิศ ทุกคนได้เห็นมันกับตา
ใบมีดสีทองอันแสนโด่งดัง
"คาดไม่ถึงเหมือนกันนะเนี่ย..."
เสียงของชายลึกลับดังขึ้นด้านหลังมีดสีทองที่บินมาปกป้องผู้เป็นนายเอาไว้ น้ำเสียงนั้นเย็นยะเยียบแฝงไว้ด้วยจิตสังหารอันรุนแรงที่ไม่ว่าใครก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยิน
พรึบ...
เป็นแรงกระแทกจากลูกธนูงั้นหรือ? หมวกปีกกว้างที่ชายลึกลับสวมอยู่พลันปลิวกระเด็นไปด้านหลัง
และชื่อตัวละครเหนือศีรษะที่เขียนเอาไว้ก็คือ...
"กริด...!"
คลาสเลเจนดารีคนแรกของโลก ชายเพียงคนเดียวที่สามารถคว้า 3 เหรียญทองได้ในงานแข่งนานาชาติ วีรบุรุษแห่งสงครามไรน์ฮาร์ท ผู้กอบกู้อาณาจักรอีเทอนัลจากกองทัพโกเล็ม ผู้เล่นคนแรกที่กลายเป็นดยุค ก็อด และอีกหลายฉายาที่คนทั้งโลกมอบให้
กริดทำการหยิบดาบใหญ่สีน้ำเงินที่ใช้กำราบฮูเร็นใน 5 วินาทีออกมา สมาชิกไวท์วูล์ฟทุกคนต่างตกตะลึงในยามที่กริดสามารถถือดาบใหญ่ได้สองเล่มพร้อมกัน
"แกกล้าลอบโจมตีฉันคนนี้เชียวรึ!"
'แกเป็นคนเริ่มทำก่อนไม่ใช่รึไงฟะ?'
ชาวไวท์วูล์ฟอยากร้องไห้ แต่พวกมันจะปริปากไม่ได้เด็ดขาด ดวงตาของกริดจ้องเขม็งไปยังยอดเขาที่ห่างออกไป 300 เมตร
"งั้นเริ่มจากแกก่อนก็แล้วกัน… มายาร่ายรำ!"
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ...
รัศมีดาบสีน้ำเงิน-ขาวและเขียวหยกจำนวนมาก ได้พุ่งตรงไปยังยอดเขาด้วยความเร็วสูงสุด
และนี่ก็เป็นวินาทีที่ยอดเขาเล็กๆ ได้ถูกลบออกจากแผนที่จักรวรรดิซาฮารันเป็นการถาวร
[ สมาชิกปาร์ตี้ <กีกี้> เสียชีวิต ]
"...ฉันขอสู้กับเฟคเกอร์ยังทันไหม?"
พวกมันเริ่มบ่นอุบอิบ เวอราดินไม่สามารถคงความเยือกเย็นไว้ได้อีก นี่นับเป็นหายนะครั้งใหญ่นับตั้งแต่ก่อตั้งกิลด์ขึ้นมา
ผลของการต่อสู้คือการถูกถล่มอย่างราบคาบฝ่ายเดียว
***
"หืม? ขนาดของทะเลทรายลดลงไปมากทีเดียว"
ชายผมดำคนหนึ่งซึ่งกำลังสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ทั้งตัว ได้ย่างกรายเข้ามาในเขตแดนตะวันตกของอาณาจักรอีเทอนัลเรียบร้อยแล้ว
ขนาดของทะเลทรายลงลงไปมากทีเดว......เพราะทรายทำเงินไง ยาอายุวัฒน....ก็อดกริดๆ
ReplyDeleteไม่ใช่เพราะเอาไปขาย แต่รังมอสเตอร์ถูกทำลายต่างหาก
Deleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteมาทุกอัน
Delete555 เลื่อนหาอยู่ ครั้งนี้จะมาไหม
Deleteรายรำระยะ300เมตร.... บ้าไปแล้ว
ReplyDelete