จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 225

       "ในที่สุด...!  ในที่สุดฉันก็เลเวล 300!"

       เวลาได้ผ่านไป 4 เดือนหลังจากที่กิลด์โอเวอร์เกียร์ย้ายฐานที่มั่นมายังเรย์ดัน  โทบันคือสมาชิกคนสุดท้ายของอดีตเซดาก้าห์ที่เอื้อมแตะเลเวล 300   มอนสเตอร์ที่ดุร้ายในดินแดนตะวันตกเป็นปัจจัยหลักของความเร็วอันน่าทึ่งนี้

       "สิ่งนี้จะต้องสั่นคลอนตารางอันดับโลกแน่นอน"

       "สั่นคลอน?"

       "ผู้เล่นท็อป 7 ของโลกอาจมีอันดับไม่เปลี่ยนแปลง  ทว่า… ฉันกล้าพูดได้เต็มปาก  ท็อป 40 ของโลกจะต้องถูกบรรดาสมาชิกโอเวอร์เกียร์เข้ายึดครอง"

       "แล้วนั่นมันคือการสั่นคลอนยังไง?  เรื่องนี้มันแสนธรรมดาอยู่แล้วมิใช่หรือ?"

       เดิมที  สมาชิกเซดาก้าห์ทุกคนก็อยู่ในอันดับท็อป 50 อยู่แล้ว  การที่อันดับเฉลี่ยรวมเพิ่มมาเพียงแค่ 10  กริดจึงไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่อะไร

       'ฉันแปลกใจมากกว่า  ที่ไม่ใครสามารถก้าวขึ้นไปถึงท็อป 7 ได้เลย  แม้ว่าจะสวมไอเท็มที่ฉันสร้างขึ้นแล้วก็ตาม'

       กริดมีสิทธิที่จะผิดหวัง  แต่โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก  อันที่จริง  ท็อป 100 ก็ไม่ใช่จุดจะก้าวเข้ามายืนกันได้ง่ายแล้ว  ดังนั้น  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนจึงถึงว่าแสดงความสามารถได้เป็นที่โดดเด่น  สื่อทั่วโลกต่างพากันสงสัยว่า  เรย์ดันมีความลับใดซ่อนอยู่กันแน่?  เหตุไฉนพวกเขาจึงโตเร็วขนาดนี้?

       『ผู้รายงายข่าวไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังดินแดนตะวันตกได้ครับ』

       『ภายในดินแดนตะวันตกของอาณาจักรอีเทอนัล  สถานที่แห่งนั้นมีมอนสเตอร์ดุร้ายซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน  ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า  มีเพียงผู้เล่นและแร้งเกอร์ที่มีเลเวล 280 ขึ้นไปเท่านั้นจะสามารถเข้าไปได้...』

       『ดูเหมือนสมาชิกโอเวอร์เกียร์จะเติบโตได้รวดเร็วจากการล่ามอนสเตอร์ดุร้ายเหล่านี้』

       『อืม… มอนสเตอร์ดุร้ายนั้นจะกลายเป็นดาบสองคมให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์   แม้ว่าจะข้อดีจะช่วยให้เลเวลอัพไว  แต่ข้อเสียก็คือการที่ไม่มีผู้เล่นสามารถย้ายไปอยู่อาศัยในเรย์ดันได้เนื่องมาจากอุปสรรค์อันใหญ่หลวง』

       『ถูกต้อง  การพัฒนาของเรย์ดันย่อมช้าลงแน่  ดยุคกริดคงเจ็บปวดไม่น้อย』

       เคร้ง! เคร้ง!

       ภายในโรงตีเหล็กอันกว้างขวางของเรย์ดัน  เกิดเสียงทุบค้อนดังขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก  ช่างตีเหล็กรุ่นใหม่ไฟแรงกว่า 30 คนที่ถูกฝึกโดยข่าน  พวกเขากำลังเร่งมือผลิตในสิ่งที่เรย์ดันต้องการ

       'เหนื่อยแฮะ'

       แม้กำลังคนจะเพิ่มขึ้น  แต่กริดก็ยังมีภาระมากมายไม่เปลี่ยนแปลง  หลังจากที่พวกเขากลายเป็นคลาสระดับ 3 จนหมด  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ก็ร้องขอไอเท็มที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม  กริดยังคงต้องทำหน้าที่ช่างตีเหล็กต่อไป

       'แต่การทุบค้อนอันน่าเหนื่อยหน่ายนี้กำลังจะจบลงในไม่ช้า'

       เหลือเพียงอีก 5 ชิ้น  กริดจะเป็นอิสระทันทีเมื่อทำการสร้างไอเท็มทั้ง 5 เรียบร้อย

       'วางแผนเรื่องอนาคตไว้ก่อนดีกว่า'

       กริดเองก็มีความท้าทายส่วนตัว  อันดับแรกคือการทำภารกิจประจำคลาส  อันดับสองคือการค้าหาพาเฟรเนี่ยมให้ครบ  และอันดับที่สามคือการทำภารกิจให้ปิอาโร่  แล้วงานในฐานะลอร์ดล่ะ?  เขามีอัจฉริยะที่ยากจะหาใครเทียบอย่างลอเอลและแร็บบิทคอยดูแลส่วนนั้น  นั่นจึงไม่ใช่ปัญหา

       "นายคนนั้นน่ะ"

       กริดหยุคพักการทุบค้อนและหันไปเรียกทหารที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าทางเข้าโรงตีเหล็ก

       "ท่านดยุคเรียกกระผมหรือ?"

       ทหารคนดังกล่าวรีบวิ่งมาหาด้วยระเบียบวินัยอันเคร่งครัด

       'ดยุคผู้ยิ่งใหญ่เรียกหาเรา!'

       ดวงตาของทหารพลันเปล่งประกายราวกับโคมไฟ  กริดได้ออกคำสั่ง
     
       "พาตัวไมเนอร์มาที่นี่"

       "ขอรับ!"

       หลังจากนั้น 30 นาที

       "ว่าไง?  นายต้องการอะไรอีก?"

       เด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงตีเหล็กด้วยสีหน้าหงุดหงิด  แม้ว่าจะมีสุดยอดพรสวรรค์ในฐานะคนงานเหมือง  แต่เขากลับถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาฐานะ <เครื่องมือค้นหาแร่> เพียงเพราะมีทักษะติดตัวที่ชื่อว่า <จ้าวแห่งแร่(S+)>
       
       "ฉันจะมอบคนจำนวนหนึ่งเพื่อไปคุ้มกันนายในภารกิจออกค้นหาวงกตโกเล็มในดินแดนตะวันตก"

       "นั่นไม่ใช่การคุ้มกัน  แต่เป็นการจับตามองไม่ให้ฉันหนีไปไหน"

       "เชื่อเถอะ  สักวันหนึ่ง  ฉันจะมอบอิสระให้นาย  หากนายสาบานกับฉันว่าจะจงรักภักดีจากใจจริง"

       "...นั่นสินะ  อันที่จริงฉันก็เริ่มยอมรับในตัวนายขึ้นมาบ้าง  สามัญชนธรรมดาที่ไต่เต้าได้เป็นถึงดยุค  แต่ฉันเองก็ยังนึกสงสัย  ว่าอัจฉริยะอย่างฉันควรอุทิศตนให้นายไปตลอดชีวิตเลยจริงหรือ?"

       ไมเนอร์เกิดมาพร้อมกับทักษะ <พรสวรรค์อันโดดเด่น (SS)>   พรสวรรค์ของเขาจะเป็นที่ประจักษ์ของผู้อื่นอยู่เสมอ  ไมเนอร์มีโชคชะตาที่จะกลายเป็นคนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่  เขาเป็นคนโอหังที่สามารถทรยผู้คนได้โดยง่าย  ดังนั้น  ความจงรักภักดีของไมเนอร์จึงไม่ใช่สิ่งที่รับประกันได้

       "การเป็นลูกน้องของดยุคมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือ?"

       "แน่นอน  ไม่ใช่ว่าอย่างน้อยต้องเป็นกษัตริย์รึไง?"

       "โฮ่… งั้นนายจงจำคำพูดนั้นไว้ให้ดีก็แล้วกัน"

       กริดจะเป็นกษัตริย์  และไมเนอร์จะต้องเป็นลูกน้องของเขาตลอดไป  กริดสาบานกับตนเองและโบกมือเบาๆ
     
       "ไปได้แล้ว"

       "จ้า จ้า"

       ไมเนอร์ตอบโดยไม่ใส่ใจ  แต่กริดรู้ดีกว่าใคร  ว่าไมเนอร์จะทำงานอย่างเต็มที่

       'ปัญหาเรื่องพาเฟรเนี่ยมในดินแดนตะวันตกจบลงแล้ว...'

       สิ่งที่เหลือมีเพียงภารกิจประจำคลาสและการแก้แค้นให้ปิอาโร่  ทว่า  เขายังไม่สามารถทำภารกิจประจำคลาสได้ในตอนนี้  ไม่มีหนทางใดเลยที่กริดจะให้เทพยาธานอวยพรพาเฟรเนี่ยมได้
     
       'แม้กระทั่งยูร่ายังไม่รู้ว่าข้ารับใช้ลำดับที่ 1 อยู่ไหน… ถ้าอย่างนั้น  เราคงต้องทำภารกิจของปิอาโร่ก่อน'

       สาเหตุที่ปิอาโร่มีสภาพจิตใจย่ำแย่  อัสโมเฟล  หากกริดจัดการกับอดีตรองกัปตันกองอัศวินสีชาดคนนี้ลงได้  ปิอาโร่น่าจะถูกปลดปล่อยจากพันธนาการเสียที

       'เมื่อเขากลับมามีสภาพร่างกายสมบูรณ์พร้อม  บางที  ปิอาโร่คงตัดสินใจเป็นลูกน้องของเรา...'

       กริดผู้เปี่ยมไปด้วยความหวังได้เริ่มลงค้อนต่อไป

       หลังจากที่เสร็จไอเท็มทั้ง 5 ชิ้น

       ในที่สุด  กริดก็จัดการคำร้องของสมาชิกกิลด์จนหมด  ถึงเวลาที่เขาจะได้ใช้ทักษะ <การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน> แล้ว

[ การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
       ท่านสามารถออกแบบสูตรการผลิตไอเท็มได้ 3 ชิ้นในทุกๆ การเลเวลอัพของทักษะ <การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน>
_______
จำนวนไอเท็มที่สามารถออกแบบได้ : 12/15
* ไอเท็มใดก็ตามที่ถูกออกแบบด้วยทักษะนี้  ชื่อของผู้ออกแบบจะถูกสลักไว้ที่ตัวไอเท็มโดยอัตโนมัติ

        หลังจากนั้นก็เป็นข้อความระบบที่คุ้นเคย

[ ท่านต้องการสร้างไอเท็มชนิดใด? ]

       "รองเท้าหนัก"

[ กรุณายืนยัน <รองเท้าหนัก> ]

       "ยืนยัน"

[ ท่านต้องการจะใช้วัสดุใดในการสร้าง? ]

       "อืม..."

       เขาไม่ควรใช้เพียงแค่โลหะเกรดสูงอย่างเหล็กนิล  มิธริล  และโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน  เหตุผลหลักที่กริดคิดสร้างร้องเท้าหนักขึ้นก็เพื่อ <น้ำหนัก>   จากคำชี้แนะของปิอาโร่  ยิ่งรองเท้ามีน้ำหนักมากเท่าไร  พลังโจมตีของดาบใหญ่ก็จะยิ่งมีมากเท่านั้น

       "วัสดุหลักคือเหล็กกล้า  แต่ฉันจะเสริมด้วยโอริชาลคั่มสีน้ำเงินเพื่อเพิ่มความแข็ง  และเพิ่มคุณสมบัติในที่มืด  อ้อ… แล้วฉันก็จะทำให้สีของมันมืดลงโดยการผสมเข้ากับเหล็กนิล  นั่นจะได้ดูเข้ากับกันชุดเกราะที่สวมอยู่"

[ กรุณายืนยัน ]

       "ยืนยัน"

[ กรุณาวาดแบบ ]

       กริดมีประสบการณ์และความชำนาญเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่ออกแบ <ความผิดพลาด> หลายขุม  เขาวาดรูปทรงรองเท้าตามที่ต้องการลงบนแผ่นพิมพ์เขียวด้านหน้าได้อย่างไร้ที่ติ 

       "เสร็จ"

       ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา  เขาสร้างไอเท็มขึ้นมากกว่า 600 ชิ้น  ส่งผลให้ค่าความชำนาญสูงกว่า 3,000 แต้มไปแล้ว  ด้วยเหตุนั้น  กริดจึงสามารถวาดรูปทรงของรองเท้าออกมาได้อย่างดีเยี่ยม  มันคือรองเท้าสีดำขนาดใหญ่ที่ยาวครอบขึ้นไปถึงใต้เข่า  ให้ความรู้สึกน่าหลงไหลในสไตล์สมบุกสมบัน

[ กรุณายืนยัน  หลังจากเสร็จการออกแบบพิมพ์เขียว  จำนวนไอเท็มที่ท่านออกแบบได้จะลดลง 1 ชิ้นเป็นการถาวร ]

       กริดรีบกดปุ่มตกลงโดยไม่ลังเล  หลังจากนั้นก็เป็นระบบช่วยเหลือของเกมที่ทำให้มันยิ่งดูสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก

[ กรุณาบรรยายคุณลักษณะไอเท็ม ]

       "เป็นรองเท้าที่หนักและแข็ง  ด้วยธรรมชาติของโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน  พลังป้องกันของมันจะเพิ่มขึ้นในที่มืด"

       มันคือคำอธิบายที่ง่ายและตรงประเด็นที่สุด  ด้วยคำพูดของกริด  ระบบเริ่มจัดแจงออกแบบค่าสถานะและประสิทธิภาพต่างๆ ของไอเท็ม

[ ขั้นตอนสุดท้าย  กรุณาตั้งชื่อไอเท็ม ]

       นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  ไอเท็มทั้งหมดที่เขาสร้างจะถูกโอ้อวดว่าเป็นไอเท็มจากช่างตีเหล็กในตำนาน  กริดรีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันภาคภูมิใจ

       "รองเท้ากริด"

[ กรุณายืนยัน <รองเท้ากริด> ] 

       "ยืนยัน"

       กริดมีแผนที่จะตั้งชื่อไอเท็มตามชื่อตนเองหลังจากนี้ในอนาคต

       'ฉันจะสร้างไอเท็มเซ็ตโดยเริ่มจากรองเท้าคู่นี้'

[ ไอเท็มใหม่ <รองเท้ากริด> ถูกสร้างขึ้น ]

[ รองเท้ากริด ]
เกรด : อีปิก~เลเจนดารี
_______
       ไอเท็มที่ออกแบบโดยช่างตีเหล็กในตำนาน  เป็นการผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างเหล็กกล้า  เหล็กนิล  และโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน  มันขึ้นชื่อในด้านพลังป้องกันที่สูงส่ง  แต่ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่มากเนื่องจากผู้สร้างมุ่งเน้นไปที่พลังป้องกันเพียงอย่างเดียว
       โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ความหนักเป็นพิเศษนั่น  ส่งผลให้การเคลื่อนไหวถูกจำกัดลง
_______
เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล 320 หรือสูงกว่า
- พละกำลัง 1,450 หรือสูงกว่า
- ความอดทน 1,200 หรือสูงกว่า
- ทักษะความชำนาญเกราะหนัก  เลเวล 5 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 2,930 หน่วย

[ คุณสมบัติเกรดอีปิก ]
ความคงทน : 335
พลังป้องกัน : 324
ความเร็วเคลื่อนที่ : -12%
อัตราหลกหลีก : -14%
_______
* เพิ่มพลังป้องกัน 10% ต่อการถูกโจมตีด้านล่าง
* เมื่อใช้ทักษะประเภทพุ่งตัว  มีโอกาส 30% ที่จะทำไม่สำเร็จ
* พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 10% ในที่มืด

[ คุณสมบัติเกรดยูนีค ]
ความคงทน : 401
พลังป้องกัน : 388
ความเร็วเคลื่อนที่ : -10%
อัตราหลกหลีก : -12%
_______
* เพิ่มพลังป้องกัน 12% ต่อการถูกโจมตีด้านล่าง
* เมื่อใช้ทักษะประเภทพุ่งตัว  มีโอกาส 25% ที่จะทำไม่สำเร็จ
* พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 15% ในที่มืด

[ คุณสมบัติเกรดเลเจนดารี ]
ความคงทน : 496
พลังป้องกัน : 470
ความเร็วเคลื่อนที่ : -8%
อัตราหลกหลีก : -10%
_______
* เพิ่มพลังป้องกัน 15% ต่อการถูกโจมตีด้านล่าง
* เมื่อใช้ทักษะประเภทพุ่งตัว  มีโอกาส 20% ที่จะทำไม่สำเร็จ
* พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 20% ในที่มืด

       แม้ประสิทธิภาพจะดูต่ำกว่าหากเทียบกับรองเท้าบราฮัม  มันไม่ผิดนักที่จะบอกว่ารองเท้าคู่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อคลาสสายแทงค์โดยเฉพาะ  มากกว่าจะเป็นคลาสสายโจมตีที่ต้องพุ่งเข้าประชิดตัว  ทว่า  พลังป้องกันของมันกลับสูงกว่าไอเท็มในระดับใกล้เคียงมากถึงสองเท่า  เป็นพลังป้องกันที่ไม่น่าจะพบได้ในอุปกรณ์สวมใส่ประเภทรองเท้า  เพราะโดยส่วนใหญ่  พลังป้องกันของรองเท้าจะมีเพียงหนึ่งในสี่ของชุดเกราะ

       'เหมาะกับเรามาก'

       เดิมที  กริดก็ไม่ใช่ผู้เล่นสายหลบพริ้วไหวอยู่แล้ว  เขาชอบจะกวัดแกว่งดาบไปมามากกว่า  ไม่เกี่ยวกับฝีมือในการควบคุมตัวละคร  แต่เป็นสไตล์การเล่นที่เหมาะกับดาบใหญ่  แถมตัวกริดก็ไม่มีทักษะประเภทพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย

       'นอกจากการลดความเร็วเคลื่อนที่  ข้อเสียด้านลบไม่ส่งผลกับเราเลยสักนิด  ร้องเท้าคู่นี้ยังเหมาะกับแวนเนอร์และโทบันมาก'

       กริดพึงพอใจเมื่อได้อ่านรายละเอียดไอเท็มหลังจากที่ออกแบบเสร็จ  เขาเคยฝันว่าสักวันหนึ่ง  ทั้งตัวเขาและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะสวมใส่ยุทธภัณฑ์สงครามที่ชื่อ <เซ็ตกริด> สร้างชื่อไปทั่วโลก

       ชายหนุ่มเริ่มสร้างมันให้ตนเองเป็นชิ้นแรก
     
       แคร้ง! แคร้ง!

       "โอ้...!"

       ทักษะของช่างตีเหล็กในตำนานกำลังถูกศึกษาโดยช่างตีเหล็กวัยเยาว์ทั้ง 30 คนและข่าน  อนาคตของพวกเขาจะต้องสดใสแน่นอน

       ***

       ผ่านไปหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่การตายของสันตะปาปาเดรวิโก้  ใครกันที่จะได้เป็นสันตะปาปาคนใหม่ถัดจากเดรวิโก้?  บรรดานักบวชอาวุโสหลายคนต่างลงสมัครท้าชิงตำแหน่ง  เกือบทั้งหมดคือนักบวชฝ่ายดีซึ่งมุ่งหวังจะนำพาผู้คนทั้ง 70 ล้านคนไปบนเส้นทางแห่งแสงสว่าง

       ทว่า  ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการเป็นสันตะปาปาเพื่อสนองความต้องการส่วนตน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ปาสคาล  หลวงพ่อแห่งโบสถ์ยูดาห์ผู้นี้มีความทะเยอะทยานยิ่งกว่าใคร

       "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันได้เป็นผู้นำของประชาชนกว่า 70 ล้านน่ะหรือ?  ครอบครัวของพวกเราจะกลายเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่  และท่านพ่อก็จะกลายเป็นดยุค"

       บิดาของปาสคาลมีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางชั้นเอิร์ลอยู่ที่จักรวรรดิซาฮารัน  เดิมที  ตัวปาสคาลเองก็เป็นวิสเคาท์  แต่มันเลือกทางเดินของผู้ออกบวชและกลายเป็นหลวงพ่อแห่งโบสถ์ยูดาห์  และตอนนี้มันก็กำลังมองไปยังเป้าหมายที่สูงกว่า

       "เข้าใจแล้ว  ปาสคาล  พ่อจะช่วยให้แกได้เป็นสันตะปาปาเอง"
     
       ศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปกำลังจะตกอยู่ในมือจักรวรรดิ  และหากเป็นเช่นนั้น  ผู้คนกว่า 70 ล้านที่ติดตามคำสอนของเทพธิดารีเบคก้าอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของจักรรวดิในที่สุด

       "อิสซาเบลจัง!"

       คลาสเกรดยูนีคคนแรกของโลก  ดาเมี่ยน  เขากำลังสั่นระริกอย่างเศร้าหมอง  เป็นเพราะอายุขัยของอิสซาเบลกำลังลดลงอย่างฮวบฮาบเพราะการที่หอกไลฟาเอลถูกปลดผนึก

• Next
• Previous