จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 224
ยองวูไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับผู้คนมากนัก เดิมที โทรศัพท์ก็มีไว้สำหรับสั่งอาหารเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว เขาคิดว่าโทรศัพท์เป็นเพียงเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง และไม่ค่อยใส่ใจกับแบตเตอรี่สักเท่าใด สถานการณ์ตรงหน้าจึงเกิดขึ้นจากความประมาทนั้น
'ซวยแล้ว'
ยองวูต้องการจะโทรรายงานพฤติกรรมของนักศึกษาทั้ง 4 คนกับตำรวจ ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังลนลานกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน กลุ่มเด็กทั้ง 4 ก็ตอบโต้กริดกลับไปอย่างก้าวร้าว
"กริด คงลำบากแย่เลยสินะที่ต้องบริหารเมืองน่ะ?"
"ไม่ใช่ว่านายวุ่นอยู่กับยูร่าและจิสึกะรึไง ทำไมตอนนี้ถึงดูว่างนักล่ะ?"
"ฉันตรวจสอบอายุของน้องสาวสองคนตรงนี้มาแล้ว ทำไมนายถึงพยายามผูกขาดพวกเธอให้เป็นของนายคนเดียวด้วย? อยากถูกใส่กุญแจมือมากนักรึไง? หืม? หรือว่านายไม่รู้เรื่องนี้?"
แม้จะรู้ว่ายองวูอายุเยอะกว่ามาก แต่กลุ่มนักศึกษาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเยริมและเซฮี
'ไอ้พวกบัดซบ'
ยองวูโกรธจัดที่ได้ยินกลุ่มเด็กพวกนี้พูดด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว แถมยังมีเสียงของน้องสาวที่ร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดนั่นอีก เขาอยากจะเดินเข้าไปตะบันหน้าเจ้าพวกนี้ให้ล้มลงไปกองทีละคน
ทว่า ที่นี่คือความจริง ไม่ใช่ซาทิสฟาย
ในโลกความจริง ยองวูนั้นไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก เดิมทีก็ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวด้วยฝีมือของผู้ที่แข็งแรงกว่าอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นฝ่ายถูกกระทำมาทั้งชีวิต แต่ยามนี้เขาคิดจะใช้ความรุนแรงกับเด็กมหาวิทยาลัยที่แข็งแรงทั้ง 4 คนตรงนี้งั้นหรือ?
นั่นเป็นไปไม่ได้เลย
เริ่มด้วย ยองวูมองไปรอบๆ นั่นก็เพื่อมองหาความช่วยเหลือจากใครสักคน แต่โชคไม่ดีนัก ไม่มีใครอยู่บนถนนเส้นนี้อีกแล้ว มันเป็นเวลาที่ดึกมากถึง 4 ทุ่ม จึงไม่แปลกที่จะเงียบเชียบ นี่คือผลพวงจากการที่ทั้งเซฮีและเยริมเลือกร้านแคปซูลซึ่งเปลี่ยวและห่างไกลตัวเมืองเพื่อหลบเลี่ยงการพบปะผู้คน
'อะไรก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง...'
ยองวูสูดลมหายใจเข้าลึก เขาพยายามระงับความโกรธให้ได้มากที่สุด สีหน้ายิ้มแย้มถูกแสดงออกไป
"ปล่อยเด็กไปเถอะน่า ได้ไหม? พวกเราไม่ได้ถ่ายละครกันอยู่นะ เรื่องแบบนี้ไม่สนุกนักหรอก"
ยองวูพยายามโน้มน้าวกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ ทว่า ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้ใส่ใจสักนิดเดียว
"ถ้าพวกเราไม่ต้องการล่ะ?"
พวกนักศึกษาทนไม่ได้อีกต่อไปที่ยองวูจะครอบครองสาวสวยทุกคนเอาไว้ตามลำพัง เขามีทั้งยูร่าและจิสึกะอยู่แล้ว แต่กลับยังมาพราก <ว่าที่สาวงามในอนาคต> ของทุกคนไปอีกงั้นหรือ? กลุ่มนักศึกษาที่กำลังโกรธจัดได้บีบแขนสองสาวแรงขึ้นกว่าเดิม พวกมันฝืนลากเยริมและเซฮีไปด้วยกำลังเพื่อยั่วยุยองวู
"ทั้งคู่จะต้องมาเล่นกับพวกเราคืนนี้ จะเป็นใครแล้วมันยังไงล่ะ? พวกเราต่างก็ทำเงินจากเกมเหมือนกัน มันคงไม่เกี่ยวว่าเธอจะไปเที่ยวสนุกกับใคร ขอแค่มีเงินเป็นพอใช่ไหม?"
"ปล่อยนะ!"
เซฮีพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของนักศึกษาเหล่านี้ ทว่า แรงเด็กสาวมัธยมปลายมีหรือจะสู้แรงของชายวัย 20 ต้นๆ ได้
"อยู่นิ่งๆ!"
นักศักษากลับยิ่งบีบแรงขึ้นแทนที่จะปล่อย หลังจากนั้น พวกมันคนหนึ่งก็ยกแขนขึ้นราวกับจะทุบตี
"ทำตัวดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง?"
ในเวลานั้น เยริมที่นิ่งเงียบมานานได้ขมวดคิ้ว
"พวกไอ้พวกสวะ… อยากตายนักรึไง?" สติของยองวูพลันขาดผึ่ง
มันไม่เกี่ยวแล้วว่าเขาจะต่อสู้ได้เก่งกาจรึไม่ แต่เขาจะไม่มีวันยืนมองน้องสาวสุดที่รักถูกกระทำเช่นนี้แน่
'แม้เราจะเป็นไอ้ขี้แพ้มาทั้งชีวิต'
ในยามที่ยังเป็นเด็กมัธยมปลาย ยองวูถูกลีจุนโฮอัดอย่างไร้เหตุผลอยู่เป็นประจำ แต่เขาก็ไม่ยอมตอบโต้ เพราะไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายและต้องถูกกระทำรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะเยาะตนเองในใจเบาๆ ถึงแม้จะไม่ชอบใจเท่าไรก็ตาม หลังจากนั้น ยองวูเริ่มถูกเพื่อนคนอื่นดูแคลน และนั่นได้พัฒนากลายเป็นความฝังใจเมื่อโตขึ้น
'เราลืมเรื่องแบบนั้นไปนานแล้ว'
ยองวูไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้อีก เขาจะไม่นิ่งดูดายสวะพวกนี้เพียงเพราะความขี้ขลาดอีกแล้ว
"หืม? นายจะทำอะไร? จะฆ่าพวกเราหรือ?"
"วะฮ่าฮ่าฮ่า!"
กลุ่มนักศึกษาได้แต่หัวเราะอย่างขบขัน อันที่จริง อดีตอันข่มขื่นในวัยเด็กของยองวูนั้นเป็นที่โด่งดั่งในอินเทอเน็ต เพื่อนสมัยนั้นบางคนตัดสินใจปล่อยข่าวความเป็นขี้แพ้ของยองวูหลังจากที่เขาเริ่มมีชื่อเสียง
"ไอ้หมอนี่แยกแยะไม่ออกระหว่างความเป็นจริงกับเกม"
"เฮ้ กริด ที่นี่คือโลกความเป็นจริงนะ ไม่ใช่ซาทิสฟาย นายคิดจะใช้วิชาดาบแพ็กม่าที่นี่งั้นหรือ? ย่าห์ สังหาร! แบบนี้รึไง? นายไปเอาความกล้าผิดๆ แบบนี้มาจากไหน? หืม?"
พวกนักศึกษามองยองวูเป็นเพียงเหยื่อที่แสนอ่อนแอ แม้แต่ตัวยองวูเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะเด็กหนุ่มทั้งสี่คนนี้ได้
ทว่า เขาก็ไม่เลือกถอย กำปั้นทั้งสองถูกกำแน่น
'เรากำลังโกรธจัด'
นักศึกษาคนหนึ่งได้พ่นเสมหะลงพื้นพร้อมกับปรี่เข้ามา ยองวูเกิดความอยากรู้ว่า เขาจะล้มเด็กพวกนี้ได้อย่างน้อยสักคนไหมนะ หากเป็นในอดีต ชายหนุ่มคงถูกความสั่นกลัวเข้าครอบงำและวิ่งหนีไปแล้ว
ทว่า ยองวูผู้พัฒนาจิตใจจนถึงระดับที่รู้จักการทระนงตนนั้น
ความรู้สึก <กล้าหาญ> ยอมบังเกิดขึ้นได้เฉกเช่นเดียวกับผู้อื่น
'ถ้าต้องสู้ เราก็จะสู้'
เกิดเป็นไฟฮึดสู้ขึ้นภายในแววตายองวู ในความเป็นจริง เขาไม่ใช่กริดผู้ยิ่งใหญ่เหมือนกับซาทิสฟาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความภาคภูมิใจในตนเอง
"ไอ้สวะ!"
นักศึกษาที่พุ่งเข้ามาได้โพล่งขึ้นอย่างเดือดดาลก่อนจะประเคนหมัดใส่ยองวู หมัดของมันจัดว่าเร็วพอสมควร หมอนี่ไม่มีความลังเลในการตะบันหน้าผู้คนเลยสักนิด
ทว่า ยองวูกลับประหลาดใจในหมัดที่กำลังพุ่งเข้ามา
'ทำไมช้าจัง?'
ยองวูผ่านประสบการณ์ต่อสู้อย่างโชกโชนกับศัตรูแข็งแกร่งนับไม่ถ้วนในซาทิสฟาย เฉกเช่นเดียวกับความชำนาญ สายตาในชีวิตจริงก็ดูเหมือนจะดีขึ้นจากภาพความทรงจำผ่านตาซ้ำๆ ในหัวสมอง นักศึกษาคนนี้ไม่ได้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง สำหรับของยองวูแล้ว ของแค่นี้จึงถือว่าหลบได้ง่ายมาก
ฟุ่บ
ยองวูหลบหมัดของเด็กคนดังกล่าวได้ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเพียงเล็กน้อย
"อะไรกัน? มันหลบได้?"
นักศึกษาคนเดิมแสดงได้สีหน้าประหลาดใจ มันพ่นบุหรี่ที่คาบไว้และจู่โจมด้วยการเตะแทน ในฐานะพลเมืองเกาหลีใต้ มันจึงมีโอกาสเรียนร่ำพื้นฐานเทควอนโดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ยังเล็ก ลูกเตะของมันจึงมีทั้งความเร็วและความรุนแรงมากกว่าหมัด
'ถ้าหากนายถ่ายพละกำลังไปยังต้นขาและกล้ามเนื้อช่วงก้น ร่างกายท่อนบนจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากขึ้น'
คำชี้แนะเป็นร้อยๆ รอบของปิอาโร่ดังก้องอยู่ในหัว ในเวลาเดียวกัน ลำตัวท่อนบนของยองวูก็ก้มโยกหลบมาด้านหน้า ทำให้ลูกเตะของนักศึกษาตัดผ่านอากาศเหนือศีรษะยองวูไปโดยที่ไม่โดนอะไร ยองวูนึกขอบคุณปิอาโร่ไปพลาง สัมผัสได้ถึงลูกเตะที่น่ากลัวผ่านหัวไปพลาง
'ไม่ใช่แค่แขนกับขา แต่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต้นคอเพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังปลายดาบ'
ดาบ? เขาเคยเหวี่ยงมาเป็นพันเป็นหมื่นครั้งแล้ว ควบคุมมัดกล้ามเนื้อ? เขาได้รับการถ่ายทอดเทคนิคมาจากนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างปิอาโร่ ยองวูพลันจินตนาการว่าปลายนิ้วของตนคือปลายดาบ เขาเหวี่ยงมันออกไปอย่างสุดแรง
ผลั่ก!
"...!"
นักศึกษาคนดังกล่าวไม่ทันตั้งตัวรับฝ่ามือที่พุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง คางของมันถูกกระแทกอย่างแรงจนสลบเหมือดไปโดยที่ไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องออกมา
"...เอ๋?"
"ก--เกิดอะไรขึ้น?"
พวกมันไม่คาดคิดว่าเพื่อนจะพ่ายแพ้ ทั้งหมดกำลังตกตะลึงอ้าปากค้าง และเป็นยองวูที่ตกใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด
'เราชนะแล้วหรือ?'
นับตั้งแต่เกิดมา นี่คือครั้งแรกที่เขาได้จู่โจมใครบางคนในชีวิตจริง แถมยังทำให้หมดสติไปในทันดีด้วย ตรงกันข้ามกับทุกครั้งที่เขาจะทำเพียงวิ่งหนีไปอย่างหวาดกลัว หรือไม่ก็ถูกซ้อมอยู่ฝ่ายเดียว
ตึกตัก! ตึกตัก!
หัวใจของยองวูพลันเต้นระรัวให้กับความรู้สึกใหม่อันน่าตื่นเต้น เป็นเวลาเดียวกับที่นักศึกษาที่เหลือกรูกันเข้ามาหวังจะทำร้ายเขา
"ไอ้บัดซบนี่!"
พวกมันทั้งสามพุ่งใส่ยองวูด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ยองวูยังคงตั้งสติสงบนิ่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
'กระจอกชะมัด'
วิถีของลูกเตะนั้นแสนธรรมดา ยองวูถอยหลังกลับไปสองก้าวและทำการเหวี่ยงแขนอีกครั้ง
ป้าบ!
ฝ่ามือของยองวูซัดเข้าใส่ข้อเท้าของนักศึกษาคนหนึ่งอย่างแม่นยำ
"โอ้ย...!"
ในระหว่างที่เดินทางไปยังเกาะคอร์กครั้งแรก ยองวูต้องบินไปโดยแทบไม่หยุดพักเลย ทำให้เขาเกิดความพึงพอใจกับสัมผัสที่ร่างกายถูกรีดเร้นพลังถึงขีดสุด นั่นทำให้ยองวูต้องการเกิดความรู้สึกเช่นนี้ในชีวิตจริงบ้าง เขาเริ่มจ็อกกิงกับเซฮีในยามเช้าทุกวัน และออกไปปีนเขาเป็นบางครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ แถมยังมีออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักอีกเล็กน้อย
ทั้งหมดถูกกระทำซ้ำๆ มาตลอดสามเดือนเต็ม ผลของมันก็คือ ร่างกายยองวูได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ร่างกายขี้โรคของพวกนักศึกษาที่มีแต่แอลกอฮอและยาสูบนั้นเทียบไม่ติด
"จ--เจ็บ..."
นักศึกษาคนที่ถูกซัดข้อเท้าพลันยืนตัวสั่นอย่างเจ็บปวด เป็นความรู้สึกราวกับถูกโลหะแข็งๆ กระแทกเข้าอย่างแรง ยองวูอาศัยเทคนิคที่่ร่ำเรียนมาจากนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ เขาสำแดงพลังซึ่งคนทั่วไปไม่อาจรับมือไหว
"น--นี่มัน...!"
จากข่าวลือในอินเทอเน็ต ยองวูควรจะเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวสิ แต่เหตุไฉนถึงเก่งกาจขนาดนี้ได้? บรรดานักศึกษที่เหลือต่างยืนสั่นกลัว
อีกด้านหนึ่ง ยองวูกำลังชื่นชมฝีมือในการต่อสู้ของตน เขาอยากสู้มากกว่านี้ อยากดื่มด่ำกับความแข็งแกร่งให้นานกว่านี้
"อะไร? ไม่เข้ามาเหรอ?"
ยองวุกระดิกนิ้วเป็นการยั่วยุ นักศึกษาอีกสองคนที่เหลือพลันโกรธจัดและพุ่งเข้าใส่ทันที
"ท่าทีอันแสนมั่นใจนั่นมันอะไรกัน!?"
ผลั่ก! ผัวะ!
การต่อสู้ตะลุมบอนเริ่มต้นขึ้น นักศึกษาทั้งสองคนเหวี่ยงหมัดเท้าอย่างมั่วซั่วเข้าใส่ยองวู เมื่อถูกสองคนรุมเช่นนี้ เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะถูกอัดเข้าไปบ้าง เขาไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้สักหน่อย
ยองวูตอบโต้การโจมตีเหล่านั้นด้วยฟุตเวิร์คของวิชาดาบแพ็กม่า เขากำลังเคลื่อนไหวฝ่าเท้าได้เหมือนกับบรูซลี ปลายเท้าทั้งสองข้างพริ้วไหวดุจดั่งสายน้ำและโยกตัวหลบจากโจมตีมาได้
ทว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ร่างกายของยองวูไม่อาจทนรับภาระการเคลื่อนไหวที่ยากเช่นนี้ได้นาน ระดับสุขภาพของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปเพียงเล็กน้อย วิชาดาบแพ็กม่าคงไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดรอดฝั่ง
จนกระทั่งความผิดพลาดแรกได้เกิดขึ้น ยองวูสะดุดขาตัวเองจนล้มหัวคะมำ
"ฮ่าฮ่า! หมอนี่มันบ้าชัดๆ!"
ยองวูถูกรุมกระทืบโดยนักศึกษาสองคนพร้อมกับเสียงหัวเราะจากพวกมัน
"อั่ก! โอ้ย!"
ผั่วะ ผั่วะ ผั่วะ!
ยองวูรู้สึกราวกับได้เห็นดวงดาวหมุนรอบศีรษะของตน แต่ในเวลาเดียวกัน ทั้งเซฮีกับเยริมก็ได้เป็นอิสระ
"รีบหนีไป!"
ยองวูตัดสินใจกลืนคำพูดที่คิดบอกให้แจ้งตำรวจลงคอไป แม้เขาจะไม่พูด แต่สองสาวก็ไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร เขาเชื่อว่าทั้งเซฮีและเยริมจะวิ่งไปแจ้งตำรวจที่สถานีให้
แต่ทันใดนั้น
"พอแค่นี้ดีกว่า"
แตกต่างจากเซฮีที่เอาแต่ลนลานโดยไม่รู้จะทำสิ่งใด เยริมเพียงกระโดดเทคตัวขึ้นเบาๆ ราวกับหงส์สยายปีก ยองวูพลันถูกเรียวขาอันขาวเนียนสะกดจนแทบลืมหายใจ
เยริมประเคนหน้าแข้งเข้าใส่นักศึกษาอย่างจัง
ป้าบป้าบ!
แม้ว่าจะสวมกระโปรงสั้นอยู่ก็ตามที แต่ลูกเตะของเยริมนั้นปะทะกับแผ่นหลังของพวกมันทั้งคู่อย่างรุนแรงและแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ
"แค่ก...!"
"อ๊าก!"
ยองวูได้แต่สงสัยว่า พวกมันจะตายรึเปล่านะ? นักศึกษาทั้งสองดวงตาเหลือกถลนจนเหลือแต่ตาขาวพร้อมกับสลบไป
'อะไรกัน? เธอแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?'
เยริมยื่นมือออกมาหายองวูผู้กำลังประหลาดใจ
"ลุกขึ้นไหวไหมคะ? เจ้าชายของฉัน"
ท่ามกลางแสงไฟริมถนนที่สาดส่อง เยริมดูดีกว่าทุกครั้งอย่างบอกไม่ถูก ภายนอกของเธอดูโตเป็นสาวจนยากจะเชื่อว่านี่คือเด็กมัธยมปลาย ดวงตาจันทร์เสี้ยวอันทรงเสน่ห์คู่นั้นสามารถกุมหัวใจผู้ชายได้ทุกคนบนโลก
แต่เธอยังเป็นเยาวชน ยองวูยังไม่อาจมองเยริมในแง่นั้นได้
หลังจากนั้นไม่นาน
'อะไรนะ? เทควอนโด 3 ดั้ง? เฮ้... น้องสาว แล้วทำไมเธอถึงยืนมองฉันถูกอัดอยู่ตั้งนาน? นั่นไม่มากไปหน่อยรึไง?'
ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
ทั้งเซฮีและเยริมต่างกำลังเอาไข่ถูใบหน้าของยองวูในจุดที่บวม ในยามนี้ ยองวูกำลังถูกรายล้อมปรนนิบัติจากสองสาว จึงดูเหมือนเขาเป็นราชาฮาเร็มอย่างมาก ทว่าชายหนุ่มก็หาได้สนใจกับสายตาคนรอบข้าง
เขากำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการบ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย
"เยริม ถ้าเธอยื่นมือเข้าไปช่วยตั้งแต่แรก พี่ก็คงไม่ต้องมีสภาพเป็นแบบนี้"
"มันเสียมารยาทนะ ที่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ของลูกผู้ชายน่ะ ฉันก็เลยรอดูไปก่อน"
"มันไม่ใช่การต่อสู้ของลูกผู้ชาย… แต่เป็นหมาหมู่สี่ต่อหนึ่ง!"
"ฮิฮิ ช่างมันเถอะน่า พี่ยองวูเยี่ยมไปเลยนะ"
ยองวูแข็งแกร่งเหนือกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แม้จะไม่ได้เก่งกาจอะไรมาก แต่ความกล้าหาญที่เอาตัวเข้าปกป้องน้องสาวนั้นสมควรได้รับการยกย่อง และในวันนี้ ความชื่นชอบที่เยริมมีต่อยองวูจึงยิ่งพุ่งทะยานจนฉุดไม่อยู่ เธอต้องการจะเป็นเจ้าสาวของยองวูจากก้นบึ้งของหัวใจ
"เฮ่อ… กลับกันเถอะ และนับแต่นี้เป็นต้นไป ฉันไม่อนุญาตให้พวกเธอไปร้านแคปซูลอีก ฉันจะซื้อแคปซูลให้ทั้งสองคนเอง เข้าใจรึเปล่า-- เอ๋? "
หลังจากที่นั่งมานาน ยองวูพยายามฝืนตัวลุกขึ้น แต่ด้วยความที่กล้ามเนื้อยังบอบช้ำอยู่จากเหตุการณ์เมื่อครู่ เยริมจึงช่วยคว้าแขนพยุงยองวูที่กำลังโซเซเอาไว้
"อ๊า~!" เยริมพลันร้องเสียงหลง เป็นเพราะปลายนิ้วของยองวูได้ลื่นไถลจากใต้รักแร้ของเยริมลงไปสัมผัสกับส่วนสะโพกอย่างแนบแน่น
"ม--มีอะไร?"
ยองวูตกใจเสียงร้องของเยริมจึงถามขึ้น ในยามนี้เขาพบว่า เยริมกำลังหน้าแดงก่ำและดวงตาพร่ามัว
"...พี่ยองวูสุดยอด"
เธอหมายความว่ายังไงกัน? เซฮีไม่เข้าใจเรื่องนั้น แต่ยองวูรู้ได้ทันที เขาจึงรีบกระแอมออกมาเบาๆ อย่างเขินอาย
ผู้เชี่ยวชาญการเล้าโลมสินะ
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteเทพแห่งการเล้าโลมแสดงผล
ReplyDeleteวิชาเล้าโลมแมมได้ 555
ReplyDelete