จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 224



       ยองวูไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับผู้คนมากนัก  เดิมที  โทรศัพท์ก็มีไว้สำหรับสั่งอาหารเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว  เขาคิดว่าโทรศัพท์เป็นเพียงเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง  และไม่ค่อยใส่ใจกับแบตเตอรี่สักเท่าใด  สถานการณ์ตรงหน้าจึงเกิดขึ้นจากความประมาทนั้น

       'ซวยแล้ว'

       ยองวูต้องการจะโทรรายงานพฤติกรรมของนักศึกษาทั้ง 4 คนกับตำรวจ  ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังลนลานกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน  กลุ่มเด็กทั้ง 4 ก็ตอบโต้กริดกลับไปอย่างก้าวร้าว

       "กริด  คงลำบากแย่เลยสินะที่ต้องบริหารเมืองน่ะ?"

       "ไม่ใช่ว่านายวุ่นอยู่กับยูร่าและจิสึกะรึไง  ทำไมตอนนี้ถึงดูว่างนักล่ะ?"

       "ฉันตรวจสอบอายุของน้องสาวสองคนตรงนี้มาแล้ว  ทำไมนายถึงพยายามผูกขาดพวกเธอให้เป็นของนายคนเดียวด้วย?  อยากถูกใส่กุญแจมือมากนักรึไง?  หืม?  หรือว่านายไม่รู้เรื่องนี้?"

       แม้จะรู้ว่ายองวูอายุเยอะกว่ามาก  แต่กลุ่มนักศึกษาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเยริมและเซฮี

       'ไอ้พวกบัดซบ'

       ยองวูโกรธจัดที่ได้ยินกลุ่มเด็กพวกนี้พูดด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว  แถมยังมีเสียงของน้องสาวที่ร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดนั่นอีก  เขาอยากจะเดินเข้าไปตะบันหน้าเจ้าพวกนี้ให้ล้มลงไปกองทีละคน  

       ทว่า  ที่นี่คือความจริง  ไม่ใช่ซาทิสฟาย

       ในโลกความจริง  ยองวูนั้นไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก  เดิมทีก็ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวด้วยฝีมือของผู้ที่แข็งแรงกว่าอยู่แล้ว  ในเมื่อเป็นฝ่ายถูกกระทำมาทั้งชีวิต  แต่ยามนี้เขาคิดจะใช้ความรุนแรงกับเด็กมหาวิทยาลัยที่แข็งแรงทั้ง 4 คนตรงนี้งั้นหรือ?

       นั่นเป็นไปไม่ได้เลย

       เริ่มด้วย  ยองวูมองไปรอบๆ   นั่นก็เพื่อมองหาความช่วยเหลือจากใครสักคน  แต่โชคไม่ดีนัก  ไม่มีใครอยู่บนถนนเส้นนี้อีกแล้ว  มันเป็นเวลาที่ดึกมากถึง 4 ทุ่ม  จึงไม่แปลกที่จะเงียบเชียบ  นี่คือผลพวงจากการที่ทั้งเซฮีและเยริมเลือกร้านแคปซูลซึ่งเปลี่ยวและห่างไกลตัวเมืองเพื่อหลบเลี่ยงการพบปะผู้คน

       'อะไรก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง...'

       ยองวูสูดลมหายใจเข้าลึก  เขาพยายามระงับความโกรธให้ได้มากที่สุด  สีหน้ายิ้มแย้มถูกแสดงออกไป

       "ปล่อยเด็กไปเถอะน่า  ได้ไหม?  พวกเราไม่ได้ถ่ายละครกันอยู่นะ  เรื่องแบบนี้ไม่สนุกนักหรอก"

       ยองวูพยายามโน้มน้าวกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้  ทว่า  ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้ใส่ใจสักนิดเดียว       

       "ถ้าพวกเราไม่ต้องการล่ะ?"

       พวกนักศึกษาทนไม่ได้อีกต่อไปที่ยองวูจะครอบครองสาวสวยทุกคนเอาไว้ตามลำพัง  เขามีทั้งยูร่าและจิสึกะอยู่แล้ว  แต่กลับยังมาพราก <ว่าที่สาวงามในอนาคต> ของทุกคนไปอีกงั้นหรือ?  กลุ่มนักศึกษาที่กำลังโกรธจัดได้บีบแขนสองสาวแรงขึ้นกว่าเดิม  พวกมันฝืนลากเยริมและเซฮีไปด้วยกำลังเพื่อยั่วยุยองวู

       "ทั้งคู่จะต้องมาเล่นกับพวกเราคืนนี้  จะเป็นใครแล้วมันยังไงล่ะ?  พวกเราต่างก็ทำเงินจากเกมเหมือนกัน  มันคงไม่เกี่ยวว่าเธอจะไปเที่ยวสนุกกับใคร  ขอแค่มีเงินเป็นพอใช่ไหม?"

       "ปล่อยนะ!"

       เซฮีพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของนักศึกษาเหล่านี้  ทว่า  แรงเด็กสาวมัธยมปลายมีหรือจะสู้แรงของชายวัย 20 ต้นๆ ได้

       "อยู่นิ่งๆ!"

       นักศักษากลับยิ่งบีบแรงขึ้นแทนที่จะปล่อย  หลังจากนั้น  พวกมันคนหนึ่งก็ยกแขนขึ้นราวกับจะทุบตี

       "ทำตัวดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง?"

       ในเวลานั้น  เยริมที่นิ่งเงียบมานานได้ขมวดคิ้ว

       "พวกไอ้พวกสวะ… อยากตายนักรึไง?"  สติของยองวูพลันขาดผึ่ง

       มันไม่เกี่ยวแล้วว่าเขาจะต่อสู้ได้เก่งกาจรึไม่  แต่เขาจะไม่มีวันยืนมองน้องสาวสุดที่รักถูกกระทำเช่นนี้แน่

       'แม้เราจะเป็นไอ้ขี้แพ้มาทั้งชีวิต'

       ในยามที่ยังเป็นเด็กมัธยมปลาย  ยองวูถูกลีจุนโฮอัดอย่างไร้เหตุผลอยู่เป็นประจำ  แต่เขาก็ไม่ยอมตอบโต้  เพราะไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายและต้องถูกกระทำรุนแรงขึ้นกว่าเดิม  ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะเยาะตนเองในใจเบาๆ  ถึงแม้จะไม่ชอบใจเท่าไรก็ตาม  หลังจากนั้น  ยองวูเริ่มถูกเพื่อนคนอื่นดูแคลน  และนั่นได้พัฒนากลายเป็นความฝังใจเมื่อโตขึ้น

       'เราลืมเรื่องแบบนั้นไปนานแล้ว'

       ยองวูไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้อีก  เขาจะไม่นิ่งดูดายสวะพวกนี้เพียงเพราะความขี้ขลาดอีกแล้ว

       "หืม?  นายจะทำอะไร?  จะฆ่าพวกเราหรือ?"

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       กลุ่มนักศึกษาได้แต่หัวเราะอย่างขบขัน  อันที่จริง  อดีตอันข่มขื่นในวัยเด็กของยองวูนั้นเป็นที่โด่งดั่งในอินเทอเน็ต  เพื่อนสมัยนั้นบางคนตัดสินใจปล่อยข่าวความเป็นขี้แพ้ของยองวูหลังจากที่เขาเริ่มมีชื่อเสียง

       "ไอ้หมอนี่แยกแยะไม่ออกระหว่างความเป็นจริงกับเกม"

       "เฮ้  กริด  ที่นี่คือโลกความเป็นจริงนะ  ไม่ใช่ซาทิสฟาย  นายคิดจะใช้วิชาดาบแพ็กม่าที่นี่งั้นหรือ?  ย่าห์  สังหาร!  แบบนี้รึไง?  นายไปเอาความกล้าผิดๆ แบบนี้มาจากไหน?  หืม?"

       พวกนักศึกษามองยองวูเป็นเพียงเหยื่อที่แสนอ่อนแอ  แม้แต่ตัวยองวูเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะเด็กหนุ่มทั้งสี่คนนี้ได้  

       ทว่า  เขาก็ไม่เลือกถอย  กำปั้นทั้งสองถูกกำแน่น

       'เรากำลังโกรธจัด'

       นักศึกษาคนหนึ่งได้พ่นเสมหะลงพื้นพร้อมกับปรี่เข้ามา  ยองวูเกิดความอยากรู้ว่า  เขาจะล้มเด็กพวกนี้ได้อย่างน้อยสักคนไหมนะ  หากเป็นในอดีต  ชายหนุ่มคงถูกความสั่นกลัวเข้าครอบงำและวิ่งหนีไปแล้ว  

       ทว่า  ยองวูผู้พัฒนาจิตใจจนถึงระดับที่รู้จักการทระนงตนนั้น

       ความรู้สึก <กล้าหาญ> ยอมบังเกิดขึ้นได้เฉกเช่นเดียวกับผู้อื่น

       'ถ้าต้องสู้  เราก็จะสู้'

       เกิดเป็นไฟฮึดสู้ขึ้นภายในแววตายองวู  ในความเป็นจริง  เขาไม่ใช่กริดผู้ยิ่งใหญ่เหมือนกับซาทิสฟาย  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความภาคภูมิใจในตนเอง

       "ไอ้สวะ!"

       นักศึกษาที่พุ่งเข้ามาได้โพล่งขึ้นอย่างเดือดดาลก่อนจะประเคนหมัดใส่ยองวู  หมัดของมันจัดว่าเร็วพอสมควร  หมอนี่ไม่มีความลังเลในการตะบันหน้าผู้คนเลยสักนิด  

       ทว่า  ยองวูกลับประหลาดใจในหมัดที่กำลังพุ่งเข้ามา

       'ทำไมช้าจัง?'

       ยองวูผ่านประสบการณ์ต่อสู้อย่างโชกโชนกับศัตรูแข็งแกร่งนับไม่ถ้วนในซาทิสฟาย  เฉกเช่นเดียวกับความชำนาญ  สายตาในชีวิตจริงก็ดูเหมือนจะดีขึ้นจากภาพความทรงจำผ่านตาซ้ำๆ ในหัวสมอง  นักศึกษาคนนี้ไม่ได้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง  สำหรับของยองวูแล้ว  ของแค่นี้จึงถือว่าหลบได้ง่ายมาก

       ฟุ่บ

       ยองวูหลบหมัดของเด็กคนดังกล่าวได้ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเพียงเล็กน้อย

       "อะไรกัน?  มันหลบได้?"

       นักศึกษาคนเดิมแสดงได้สีหน้าประหลาดใจ  มันพ่นบุหรี่ที่คาบไว้และจู่โจมด้วยการเตะแทน  ในฐานะพลเมืองเกาหลีใต้  มันจึงมีโอกาสเรียนร่ำพื้นฐานเทควอนโดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ยังเล็ก  ลูกเตะของมันจึงมีทั้งความเร็วและความรุนแรงมากกว่าหมัด

       'ถ้าหากนายถ่ายพละกำลังไปยังต้นขาและกล้ามเนื้อช่วงก้น  ร่างกายท่อนบนจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากขึ้น'

       คำชี้แนะเป็นร้อยๆ รอบของปิอาโร่ดังก้องอยู่ในหัว  ในเวลาเดียวกัน  ลำตัวท่อนบนของยองวูก็ก้มโยกหลบมาด้านหน้า  ทำให้ลูกเตะของนักศึกษาตัดผ่านอากาศเหนือศีรษะยองวูไปโดยที่ไม่โดนอะไร  ยองวูนึกขอบคุณปิอาโร่ไปพลาง  สัมผัสได้ถึงลูกเตะที่น่ากลัวผ่านหัวไปพลาง

       'ไม่ใช่แค่แขนกับขา  แต่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต้นคอเพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังปลายดาบ'

       ดาบ?  เขาเคยเหวี่ยงมาเป็นพันเป็นหมื่นครั้งแล้ว  ควบคุมมัดกล้ามเนื้อ?  เขาได้รับการถ่ายทอดเทคนิคมาจากนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างปิอาโร่  ยองวูพลันจินตนาการว่าปลายนิ้วของตนคือปลายดาบ   เขาเหวี่ยงมันออกไปอย่างสุดแรง

       ผลั่ก!

       "...!"

       นักศึกษาคนดังกล่าวไม่ทันตั้งตัวรับฝ่ามือที่พุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง  คางของมันถูกกระแทกอย่างแรงจนสลบเหมือดไปโดยที่ไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องออกมา

       "...เอ๋?"

       "ก--เกิดอะไรขึ้น?"

       พวกมันไม่คาดคิดว่าเพื่อนจะพ่ายแพ้  ทั้งหมดกำลังตกตะลึงอ้าปากค้าง  และเป็นยองวูที่ตกใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด

       'เราชนะแล้วหรือ?'

       นับตั้งแต่เกิดมา  นี่คือครั้งแรกที่เขาได้จู่โจมใครบางคนในชีวิตจริง  แถมยังทำให้หมดสติไปในทันดีด้วย  ตรงกันข้ามกับทุกครั้งที่เขาจะทำเพียงวิ่งหนีไปอย่างหวาดกลัว  หรือไม่ก็ถูกซ้อมอยู่ฝ่ายเดียว

       ตึกตัก!  ตึกตัก!

       หัวใจของยองวูพลันเต้นระรัวให้กับความรู้สึกใหม่อันน่าตื่นเต้น  เป็นเวลาเดียวกับที่นักศึกษาที่เหลือกรูกันเข้ามาหวังจะทำร้ายเขา

       "ไอ้บัดซบนี่!"

       พวกมันทั้งสามพุ่งใส่ยองวูด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี  แต่ยองวูยังคงตั้งสติสงบนิ่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

       'กระจอกชะมัด'

       วิถีของลูกเตะนั้นแสนธรรมดา  ยองวูถอยหลังกลับไปสองก้าวและทำการเหวี่ยงแขนอีกครั้ง

       ป้าบ!

       ฝ่ามือของยองวูซัดเข้าใส่ข้อเท้าของนักศึกษาคนหนึ่งอย่างแม่นยำ

       "โอ้ย...!"

       ในระหว่างที่เดินทางไปยังเกาะคอร์กครั้งแรก  ยองวูต้องบินไปโดยแทบไม่หยุดพักเลย  ทำให้เขาเกิดความพึงพอใจกับสัมผัสที่ร่างกายถูกรีดเร้นพลังถึงขีดสุด  นั่นทำให้ยองวูต้องการเกิดความรู้สึกเช่นนี้ในชีวิตจริงบ้าง  เขาเริ่มจ็อกกิงกับเซฮีในยามเช้าทุกวัน  และออกไปปีนเขาเป็นบางครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์  แถมยังมีออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักอีกเล็กน้อย

       ทั้งหมดถูกกระทำซ้ำๆ มาตลอดสามเดือนเต็ม  ผลของมันก็คือ  ร่างกายยองวูได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี  ร่างกายขี้โรคของพวกนักศึกษาที่มีแต่แอลกอฮอและยาสูบนั้นเทียบไม่ติด

       "จ--เจ็บ..."

       นักศึกษาคนที่ถูกซัดข้อเท้าพลันยืนตัวสั่นอย่างเจ็บปวด  เป็นความรู้สึกราวกับถูกโลหะแข็งๆ กระแทกเข้าอย่างแรง  ยองวูอาศัยเทคนิคที่่ร่ำเรียนมาจากนักดาบผู้ยิ่งใหญ่  เขาสำแดงพลังซึ่งคนทั่วไปไม่อาจรับมือไหว

       "น--นี่มัน...!"

       จากข่าวลือในอินเทอเน็ต  ยองวูควรจะเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวสิ  แต่เหตุไฉนถึงเก่งกาจขนาดนี้ได้?  บรรดานักศึกษที่เหลือต่างยืนสั่นกลัว

       อีกด้านหนึ่ง  ยองวูกำลังชื่นชมฝีมือในการต่อสู้ของตน  เขาอยากสู้มากกว่านี้  อยากดื่มด่ำกับความแข็งแกร่งให้นานกว่านี้

       "อะไร?  ไม่เข้ามาเหรอ?"

       ยองวุกระดิกนิ้วเป็นการยั่วยุ  นักศึกษาอีกสองคนที่เหลือพลันโกรธจัดและพุ่งเข้าใส่ทันที

       "ท่าทีอันแสนมั่นใจนั่นมันอะไรกัน!?"

       ผลั่ก! ผัวะ!

       การต่อสู้ตะลุมบอนเริ่มต้นขึ้น  นักศึกษาทั้งสองคนเหวี่ยงหมัดเท้าอย่างมั่วซั่วเข้าใส่ยองวู  เมื่อถูกสองคนรุมเช่นนี้  เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะถูกอัดเข้าไปบ้าง  เขาไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้สักหน่อย

       ยองวูตอบโต้การโจมตีเหล่านั้นด้วยฟุตเวิร์คของวิชาดาบแพ็กม่า  เขากำลังเคลื่อนไหวฝ่าเท้าได้เหมือนกับบรูซลี  ปลายเท้าทั้งสองข้างพริ้วไหวดุจดั่งสายน้ำและโยกตัวหลบจากโจมตีมาได้

       ทว่า  สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น  ร่างกายของยองวูไม่อาจทนรับภาระการเคลื่อนไหวที่ยากเช่นนี้ได้นาน  ระดับสุขภาพของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปเพียงเล็กน้อย  วิชาดาบแพ็กม่าคงไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดรอดฝั่ง 

       จนกระทั่งความผิดพลาดแรกได้เกิดขึ้น  ยองวูสะดุดขาตัวเองจนล้มหัวคะมำ

       "ฮ่าฮ่า!  หมอนี่มันบ้าชัดๆ!"

       ยองวูถูกรุมกระทืบโดยนักศึกษาสองคนพร้อมกับเสียงหัวเราะจากพวกมัน

       "อั่ก!  โอ้ย!"

       ผั่วะ ผั่วะ ผั่วะ!

       ยองวูรู้สึกราวกับได้เห็นดวงดาวหมุนรอบศีรษะของตน  แต่ในเวลาเดียวกัน  ทั้งเซฮีกับเยริมก็ได้เป็นอิสระ

       "รีบหนีไป!"

       ยองวูตัดสินใจกลืนคำพูดที่คิดบอกให้แจ้งตำรวจลงคอไป  แม้เขาจะไม่พูด  แต่สองสาวก็ไม่ใช่คนโง่  ย่อมรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร  เขาเชื่อว่าทั้งเซฮีและเยริมจะวิ่งไปแจ้งตำรวจที่สถานีให้

       แต่ทันใดนั้น

       "พอแค่นี้ดีกว่า"

       แตกต่างจากเซฮีที่เอาแต่ลนลานโดยไม่รู้จะทำสิ่งใด  เยริมเพียงกระโดดเทคตัวขึ้นเบาๆ ราวกับหงส์สยายปีก  ยองวูพลันถูกเรียวขาอันขาวเนียนสะกดจนแทบลืมหายใจ  

       เยริมประเคนหน้าแข้งเข้าใส่นักศึกษาอย่างจัง

       ป้าบป้าบ!

       แม้ว่าจะสวมกระโปรงสั้นอยู่ก็ตามที  แต่ลูกเตะของเยริมนั้นปะทะกับแผ่นหลังของพวกมันทั้งคู่อย่างรุนแรงและแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ
       
       "แค่ก...!"

       "อ๊าก!"

       ยองวูได้แต่สงสัยว่า  พวกมันจะตายรึเปล่านะ?  นักศึกษาทั้งสองดวงตาเหลือกถลนจนเหลือแต่ตาขาวพร้อมกับสลบไป

       'อะไรกัน?  เธอแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?'

       เยริมยื่นมือออกมาหายองวูผู้กำลังประหลาดใจ

       "ลุกขึ้นไหวไหมคะ?  เจ้าชายของฉัน"

       ท่ามกลางแสงไฟริมถนนที่สาดส่อง  เยริมดูดีกว่าทุกครั้งอย่างบอกไม่ถูก  ภายนอกของเธอดูโตเป็นสาวจนยากจะเชื่อว่านี่คือเด็กมัธยมปลาย  ดวงตาจันทร์เสี้ยวอันทรงเสน่ห์คู่นั้นสามารถกุมหัวใจผู้ชายได้ทุกคนบนโลก

       แต่เธอยังเป็นเยาวชน  ยองวูยังไม่อาจมองเยริมในแง่นั้นได้

       หลังจากนั้นไม่นาน

       'อะไรนะ?  เทควอนโด 3 ดั้ง?  เฮ้...  น้องสาว  แล้วทำไมเธอถึงยืนมองฉันถูกอัดอยู่ตั้งนาน?  นั่นไม่มากไปหน่อยรึไง?'

       ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ

       ทั้งเซฮีและเยริมต่างกำลังเอาไข่ถูใบหน้าของยองวูในจุดที่บวม  ในยามนี้  ยองวูกำลังถูกรายล้อมปรนนิบัติจากสองสาว  จึงดูเหมือนเขาเป็นราชาฮาเร็มอย่างมาก  ทว่าชายหนุ่มก็หาได้สนใจกับสายตาคนรอบข้าง

       เขากำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการบ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย

       "เยริม  ถ้าเธอยื่นมือเข้าไปช่วยตั้งแต่แรก  พี่ก็คงไม่ต้องมีสภาพเป็นแบบนี้"

       "มันเสียมารยาทนะ  ที่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ของลูกผู้ชายน่ะ  ฉันก็เลยรอดูไปก่อน"

       "มันไม่ใช่การต่อสู้ของลูกผู้ชาย… แต่เป็นหมาหมู่สี่ต่อหนึ่ง!"

       "ฮิฮิ  ช่างมันเถอะน่า  พี่ยองวูเยี่ยมไปเลยนะ"

       ยองวูแข็งแกร่งเหนือกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย  แม้จะไม่ได้เก่งกาจอะไรมาก  แต่ความกล้าหาญที่เอาตัวเข้าปกป้องน้องสาวนั้นสมควรได้รับการยกย่อง  และในวันนี้  ความชื่นชอบที่เยริมมีต่อยองวูจึงยิ่งพุ่งทะยานจนฉุดไม่อยู่  เธอต้องการจะเป็นเจ้าสาวของยองวูจากก้นบึ้งของหัวใจ

       "เฮ่อ… กลับกันเถอะ  และนับแต่นี้เป็นต้นไป  ฉันไม่อนุญาตให้พวกเธอไปร้านแคปซูลอีก  ฉันจะซื้อแคปซูลให้ทั้งสองคนเอง  เข้าใจรึเปล่า--  เอ๋? "

       หลังจากที่นั่งมานาน  ยองวูพยายามฝืนตัวลุกขึ้น  แต่ด้วยความที่กล้ามเนื้อยังบอบช้ำอยู่จากเหตุการณ์เมื่อครู่  เยริมจึงช่วยคว้าแขนพยุงยองวูที่กำลังโซเซเอาไว้

       "อ๊า~!"  เยริมพลันร้องเสียงหลง  เป็นเพราะปลายนิ้วของยองวูได้ลื่นไถลจากใต้รักแร้ของเยริมลงไปสัมผัสกับส่วนสะโพกอย่างแนบแน่น

       "ม--มีอะไร?"

       ยองวูตกใจเสียงร้องของเยริมจึงถามขึ้น  ในยามนี้เขาพบว่า  เยริมกำลังหน้าแดงก่ำและดวงตาพร่ามัว

       "...พี่ยองวูสุดยอด"

       เธอหมายความว่ายังไงกัน?  เซฮีไม่เข้าใจเรื่องนั้น  แต่ยองวูรู้ได้ทันที  เขาจึงรีบกระแอมออกมาเบาๆ อย่างเขินอาย

Comments

  1. ผู้เชี่ยวชาญการเล้าโลมสินะ

    ReplyDelete
  2. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. เทพแห่งการเล้าโลมแสดงผล

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00