จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 410
"คุณกริด คุณไม่ออกมาตอบโต้เลยในกรณีระบบการต่อสู้แบบใหม่ นั่นหมายความว่า คุณยอมรับแล้วสินะครับว่าคุณควรถูกปรับให้อ่อนลง"
ปีที่แล้ว กริดสามารถเฉิดฉายบนเวทีระดับโลกได้เพราะคลาสและไอเท็ม ผลการแข่งขันส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากทักษะของกริดเอง และระบบใหม่ก็ทำให้สิ่งนั้นลดคุณค่าลงไป ซึ่งกริดเองก็ไม่มีสิทธิโต้แย้งเลยหากเขายังละอายใจอยู่บ้าง
บรรดานักข่าวต่างชาติล้วนกำลังคิดเช่นนี้
ในสายตาของยองวูแล้ว คนเหล่านี้มีทัศนคติที่น่ารังเกียจมาก ตัวเขาเองก็มีฝีมือพอตัว หากเป็นสมัยปีก่อนล่ะก็ ป่านนี้คงฟิวส์ขาดและด่ากราดนักข่าวไปเรียบร้อยแล้ว
แต่เขาก็ไม่ได้ทำ ณ ตอนนี้ ยองวูรู้ดีว่าตนคือตัวแทนเกาหลีใต้และโอเวอร์เกียร์ การถ่ายทอดสดตรงนี้มีผู้คนทั่วโลกกำลังรับชม สิ่งที่ยองวูทำมีเพียงสูดลมหายใจเข้าลึก เขาหันไปจ้องมองนักข่าวผู้ที่ตั้งคำถามขึ้นมา แน่นอนว่าป้ายชื่อห้อยคอจะต้องมีระบุชื่อ ประเทศ และสำนักข่าวเอาไว้
'ฝรั่งเศส'
หนึ่งในเต็งแชมป์ปีที่แล้ว ชาวฝรั่งเศสต่างมั่นใจว่า บองเดรจะนำพาทีมชาติตนสู่ชัยชนะได้แน่ แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับกริดภายในเวลาเพียงสี่วินาที เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก และส่งผลต่อสภาพจิตใจบองเดรไม่น้อย ฝรั่งเศสจึงหมดโอกาสคว้าแชมป์ไปในที่สุด
ความอคติที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ย่อมทำให้ทุกคนเกิดความหวาดกลัว ว่าเหตุการณ์เดิมจะซ้ำรอยเกิดขึ้นอีก ยองวูที่สงบนิ่งพลันรู้สึกเห็นอกเห็นใจนักข่าวฝรั่งเศสที่ถูกอคติบังตา
'พวกเขาไม่มีความมั่นใจในชาติตัวเองเลยสินะ'
ตรงกันข้ามกับยองวูในวันเก่า ด้วยฐานะราชสีห์อันแข็งแกร่ง เขามีสติมากพอจะตอบโต้นักข่าวกลับไปอย่างสุขุม
"ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจผิดไปนะครับ ผมไม่ใช่เหยื่อของระบบใหม่แม้แต่นิดเดียว"
"หือ..."
นักข่าวฝรั่งเศสถึงกับนิ่งอึ้ง ผู้ชมเริ่มออกอาการกระสับกระส่าย
นักข่าวชาวจีนที่เกิดความสงสัยได้ยิงคำถามทันที
"คุณกริดครับ ไม่ใช่ว่าความเก่งกาจของคุณมาจากการโจมตีอันทรงพลังอย่างนั้นหรือ ด้วยระบบใหม่นี้ จุดเด่นของคุณจะสูญเสียไป ทำให้ตกเป็นรองนักกีฬาคนอื่นในการต่อสู้ และหากวัดฝีมือควบคุมตัวละครกับแร้งเกอร์คนอื่น ไม่ใช่ว่าคุณด้อยกว่าพวกเขาหรือครับ"
"ทำไมจุดเด่นของผมถึงกลายเป็นพลังโจมตีไปได้..."
"เพราะคุณคือคนที่ล็อกเอาต์ฮูเร็นในห้าวินาที และบองเดรในสี่วินาที ดังนั้น จุดแข็งของคุณย่อมต้องเป็นพลังโจมตีอยู่แล้ว"
"หืม..."
ยองวูแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย บรรดานักข่าวและผู้ชมทางบ้านต่างไม่เข้าใจรอยยิ้มนี้ แต่ยูร่า พีคซอร์ด และเรกัสต่างก็รู้แจ้งเป็นอย่างดี
'หมายความว่าไงกันแน่'
'เขาพล่ามไร้สาระอะไรอยู่'
'นิสัยแย่มาก'
ยองวูชอบบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่นักข่าวต่างถกเถียงกันไปเอง เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดชายหนุ่มก็เปิดปากพูด
"พวกคุณยังไร้เดียงสา"
"อะไรนะ..."
อยู่ดีๆ ก็เรียกพวกตนว่าไร้เดียงสางั้นหรือ แถมรอยยิ้มก็ยังดูเหมือนเยาะเย้ยกันอีก เมื่อเห็นนักข่าวชาวจีนเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ ยองวูจึงเปิดปากถาม
"คุณคิดว่าพลังโจมตีมหาศาลของผมมาจากสิ่งใด"
"ก็ต้องเป็นไอเท็มชั้นเลิศอยู่แล้ว"
"ในอีกความหมายหนึ่ง คุณหมายถึงพลังแห่งไอเท็มใช่ไหม... เป็นคำตอบที่ถูกต้อง"
"..."
ยองวูอธิบายต่อไปอย่างใจเย็น
"จุดเด่นของผมไม่ใช่พลังโจมตี แต่เป็นไอเท็ม และไอเท็มก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะอาวุธเท่านั้น"
"...!"
ดวงตานักข่าวชาวจีนพลันเบิกโพลง เขาเข้าใจคำตอบของยองวูได้ทันที ชายหนุ่มเบือนสายตาจากนักข่าวและหันไปมองกล้อง
"ถ้าหากผมไม่อาจมีพลังโจมตีที่รุนแรงได้เพราะระบบใหม่ เช่นนั้นผมก็จะสร้างชุดเกราะที่มีพลังป้องกันไร้เทียมทานขึ้นมาให้ดู! ผมมั่นใจว่า ด้วยระบบใหม่นี้ ผมจะเฉิดฉายยิ่งกว่าปีที่แล้วเสียอีก"
ระบบที่สร้างขึ้นเพื่อจงใจเนิร์ฟตนงั้นหรือ เขาจะเอาชนะมันให้ดู
"อุ๊ฟ~!"
บรรดานักข่าวต่างแสดงสีหน้าขบกัน คำพูดของยองวูนั้นหาได้มีมูลสาระเลยสักนิด
"คลาสช่างตีเหล็กนั้นมีพลังป้องกันต่ำมาก เพราะถือเป็นหนึ่งในคลาสสายการผลิต ผมไม่คิดว่าช่างตีเหล็กในตำนานจะต่างกันสักเท่าไรหรอกนะ"
"ผมไม่เคยเห็นคุณใช้ทักษะที่เกี่ยวกับการป้องกันเลยสักครั้ง"
"คุณไม่สามารถเป็นตัวแทงค์ได้โดยการพึ่งพาแค่ไอเท็ม... แต่คุณต้องมีทักษะป้องกันตัวด้วย"
"คุณอาจจะกลบจุดอ่อนของตัวเองด้วยไอเท็มได้ก็จริงในปีก่อน เพราะตอนนั้นยังไม่มีคลาสระดับสาม และค่าสถานะของผู้เล่นส่วนใหญ่ล้วนต่ำติดดิน ทำให้ไอเท็มส่งผลอย่างชัดเจน แต่ปีนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผู้เล่นคนอื่นพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก"
"คุณกริด ผมคิดว่าคุณฝากความหวังไว้กับไอเท็มมากไปหน่อยนะ"
ที่นักข่าวพูดก็ไม่ผิดนัก พวกเขาเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในซาทิสฟาย ทุกคำพูดจึงมีมูลและพื้นฐานความเป็นจริง แต่ปัญหาคือ ยองวูเป็นตัวตนพิเศษที่ไม่อาจถูกตัดสินได้ด้วยสามัญสำนึก
"แล้วพวกคุณจะได้เห็นเอง อ้อ... เกือบลืมบอกไป"
ยองวูกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องเพื่อมองหาบูบัตและซีบาล หลังจากนั้นจึงแสยะยิ้ม
"ผมคิดว่า นักกีฬาที่เข้าแข่งในปีนี้ล้วนสวมไอเท็มกันทุกคน... โดยเฉพาะแร้งเกอร์คนดังที่ได้รับเงินสปอนเซอร์มูลค่าสูง ผมต้องการให้พวกคุณสวมใส่ไอเท็มที่ดีที่สุดมาลงแข่ง จะได้ไม่มีข้ออ้างแก้ตัวเหมือนปีที่แล้วอีก"
เป็นคำยั่วยุที่รุนแรงมาก
บูบัตตอบโต้ทันควัน
"เป็นนายเองไม่ใช่หรือ ที่พึ่งพาไอเท็มมากกว่าใครทั้งหมด อย่าพูดจาไร้สาระหน่อยเลย ฉันกล้าพนันว่าปีนี้นายจะไม่ได้สักเหรียญทองเดียว!"
ซีบาลเองก็ไม่ต่างกัน
"หึหึ การถูกคนที่พึ่งพาแต่ไอเท็มปรามาสเช่นนี้... เกาหลีใต้ของนายปราศจากอัจฉริยะโดยสิ้นเชิง แถมก็ยังมีข่าวลือว่า ยูร่าที่เป็นคลาสลับก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นในปีนี้ เกาหลีใต้คงไม่แคล้วรั้งอันดับท้ายของตาราง"
หลังจากนั้น นักข่าวต่างชาติก็ไม่ถามสิ่งใดกับยองวูอีก ราวกับประเมินว่าเกาหลีใต้คงไม่มีผลงานใดเป็นชิ้นเป็นอันในปีนี้ แต่นักข่าวของเกาหลีใต้เองก็ยังให้ความสนใจอยู่
"กริดครับ คุณมีแผนจะลงแข่งในรายการตีเหล็กรึเปล่า ด้วยฐานะของช่างตีเหล็กในตำนาน ผมคิดว่าการคว้าเหรียญทองคงทำได้ไม่ยาก"
นักข่าวผู้นี้ต้องการให้ทั้งโลกรู้ว่า เกาหลีใต้เองก็มีสิทธิคว้าอย่างน้อยหนึ่งเหรียญทอง แต่นักข่าวชาติอื่นกลับส่งเสียงเย้ยหยันจนนักข่าวเกาหลีใต้ต้องหน้าชา
"เหรียญทองแต่ละเหรียญมีมูลค่าไม่เท่ากันหรอกนะ"
"การคว้าเหรียญทองในรายการไม่สำคัญ ไม่มีใครเชิดชู"
"แล้วมันยังไง... ไม่ว่าจะเป็นรายการสำคัญรึไม่ แต่เหรียญทองก็คือเหรียญทอง สามารถสร้างอันดับให้กับชาตินั้นได้เหมือนกัน เกาหลีใต้ไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่"
"นั่นก็ไม่ถูก คุณได้เห็นผลงานของช่างตีเหล็กระดับโลกคนอื่นรึยัง ไม่มีสิ่งใดการันตีได้เลยว่ากริดจะคว้าเหรียญทองหากลงแข่ง ถึงจะเป็นช่างตีเหล็กในตำนานก็เถอะ"
"..."
สีหน้าของนักข่าวเกาหลีใต้พลันบิดเบี้ยวอย่างอับอาย ผลตอบรับไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคิดสักเท่าใด แม้ทุกคนจะรู้ความจริงข้อนี้อยู่แล้ว แต่ชาวเกาหลีใต้ที่รับชมทางบ้านต่างก็อดโมโหไม่ได้
เมื่อรู้เช่นนี้ ยองวูเริ่มหมดความอดทน เขาตัดสินเผยนิสัยเก่าออกมาเล็กน้อย เพื่อให้ชาวเกาหลีใต้รู้สึกอุ่นใจ และเป็นการประกาศศักดิ์ดาให้กับกิลด์โอเวอร์เกียร์ไปในตัว
"หากผมลงแข่งตีเหล็ก นั่นจะไม่เป็นการรังแกผู้เล่นคนอื่นหรอกหรือ"
"..."
เป็นเรื่องธรรมดาที่ช่างตีเหล็กจะลงแข่งในรายการตีเหล็ก แต่เรื่องใครรังแกใครนั้น… กริดกำลังพูดอะไรออกมา เพียงเพราะเขาเป็นช่างตีเหล็กในตำนาน ก็เลยคิดว่าช่างตีเหล็กคนอื่นต่ำต้อยกว่าตนงั้นหรือ
ยกหางตนเองจนเกินพอดี...
ต่อหน้านักข่าวจำนวนมาก ยองวูยกมือขึ้นหนึ่งข้างและกางออกทั้งห้านิ้ว
"นี่คือจำนวนขั้นต่ำสุดของเหรียญทองที่เกาหลีใต้จะได้รับในปีนี้... โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องลงแข่งในรายการตีเหล็กด้วยซ้ำ รอชมได้เลย!"
"อะไรนะ...!"
ทุกคนต่างอึ้งกับคำประกาศกร้าวเกินตัวของกริด
***
[ กริดประกาศว่าจะคว้าอย่างน้อยห้าเหรียญทองให้กับเกาหลีใต้ ]
[ กริดตัดสินใจไม่ลงแข่งตีเหล็ก เช่นนั้นแล้ว ทีมเกาหลีใต้ยังเหลือโอกาสคว้าเหรียญทองอีกหรือ ]
[ การเลือกกัปตันทีมคือสิ่งสำคัญ... เกาหลีใต้จะต้องชอกช้ำและอับอายจากความโอหังของกริดแน่ ]
พาดหัวข่าวทั่งโลกต่างพูดถึงกริด ในทางกลับกัน มีการพูดถึงซีบาล ผู้เล่นอันดับสองของโลก เพียงน้อยนิดเท่านั้น
"กริด... ไอ้หมอนี่..."
เดิมทีแล้ว ซีบาลควรจะเป็นดาวเด่นของงานสัมภาษณ์ แต่ดูเหมือนข่าวทั้งหมดจะพูดถึงแต่กริดแทน ศักดิ์ศรีของมันถูกระคายเคืองทันที ใบหน้าซีบาลพลันแดงก่ำอย่างโมโห หลังจากนั้นก็หันไปถามชายหนุ่มผมสีเงิน ที่กำลังดื่มด่ำกับการจิบชารสเลิศ
"ห้ารายการที่กริดพูดถึง... มีอะไรบ้าง"
"ปราบบอส ทำลายวัตถุ ชิงปราสาท"
"อะไรนะ ประเภททีมงั้นหรือ..."
"แล้วก็รายการเดี่ยวที่เกี่ยวกับการต่อสู้ทั้งหมด"
"..."
ลอเอล เด็กหนุ่มผมสีเงินที่กำลังจิบชาราคาแพง ได้พูดจาเหลวไหลและไม่เข้าหูซีบาลออกมา เขาเป็นถึงรองหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์และมันสมองของกริด โดยยังมีอีกฐานะเป็นนักกีฬาทีมชาติสหรัฐ
"ฉันพอรู้มาว่ากริดโอหังมาก แต่นี่มัน... เจ้านั่นคิดจริงรึไงว่าตนเองแข็งแกร่งที่สุด"
ไม่เลย ตรงกันข้าม กริดคิดเสมอว่าตัวเขายังอ่อนแอ... และนั่นคือสิ่งที่ทำให้กริดน่ากลัวที่สุด
'แถมกริดคือชายที่สามารถโค่นฟ้าเหนือฟ้าลงได้'
ลอเอลส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะอธิบาย
"กริดพูดแบบนั้นโดยประเมินจากฝีมือของตน"
"งั้นหรอกหรือ"
ยิ่งได้ฟัง ซีบาลก็ยิ่งพบความเหลวไหล
"ทำไมนายถึงได้เยินยอกริดนัก ตอนนี้ค่าสถานะเฉลี่ยของผู้เล่นเพิ่มขึ้นจากเดิมมากแล้ว คุณค่าของไอเท็มจึงลดลงหลายระดับ เช่นนั้นทำไมนายถึงยึดติดกับกริดนัก คนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากไอเท็ม!"
"ฮะฮะ!"
ลอเอลระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมกับลูบไล้เส้นผมอย่างเบามือ เขาเลื่อนฝ่ามือมาปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ดวงตาสีฟ้าครามส่องประกายลอดผ่านช่องนิ้ว ลอเอลกล่าวต่อไปว่า
"นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่ชอบนายยังไงล่ะ ซีบาล นายเอาแต่ตัดสินผู้คนจากภาพนอกและสภาพแวดล้อม โดยมีบรรทัดฐานคือตนเองซึ่งก็ไม่ได้เก่งกาจสักเท่าไร ยุคสมัยรุ่งเรื่องของนายคือปัจจุบัน หาใช่อนาคต"
ซีบาลหน้าแดงก่ำอย่างสั่นระริก มันพยายามไม่บันดาลโทสะใส่ลอเอลที่เพิ่งเย้ยหยันตน หลังจากนั้น ลอเอลได้พูดในสิ่งที่น่าตกตะลึงออกมา
"วันพรุ่งนี้ การแข่งประเภททำลายวัตถุ ทีมสหรัฐของเราจะเล็งไปที่เหรียญเงิน"
"อะไรนะ"
เป็นของตายอยู่แล้วที่ทีมสหรัฐจะหวังเหรียญทอง นักกีฬาทุกคนล้วนมีฝีมือสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก รวมไปถึงเลเวลหรือไอเท็มสวมใส่ แต่ถึงกระนั้น ลอเอลกลับบอกให้หวังแค่เหรียญเงินเนี่ยนะ
ลอเอลยังคงพูดสิ่งที่ซีบาลไม่อยากฟังต่อไป
"เพราะเมื่อฉันลองใช้ดวงตาคู่นี้เพ่งพิจารณาอย่างถ้วนถี่ เหรียญทองจะต้องตกเป็นของเกาหลีใต้แน่นอน"
โครม!
ซีบาลทุบโต๊ะพร้อมกับลุกพรวดขึ้นอย่างฉุนเฉียว
"ฉันรู้ดีว่านายซื่อสัตย์ต่อกริด... แต่จงจำใส่ใจไว้ด้วยว่า ตอนนี้นายคือนักกีฬาของทีมสหรัฐ กริดคือศัตรู อย่าได้พูดจาให้พวกพ้องไขว้เขวและเสียกำลังใจอีกเด็ดขาด!"
"แล้วจะจำใส่ใจไว้ก็แล้วกัน..."
ลอเอลฉีกยิ้มกว้าง เขารู้สึกสะใจแปลกประหลาด ซีบาลรีบเดินออกจากห้องประชุมด้วยความเดือดดาล เพราะหากอยู่นานกว่านี้ บางทีอาจห้ามใจไม่อยู่ จนลงไม้ลงมือกับลอเอลเป็นการหนัก
ในวันถัดมา หลังจากพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่ ซึ่งอลังการกว่าปีที่แล้วเสียอีก งานแข่งรายการแรกก็ถึงเวลาเริ่มขึ้น
ทำลายวัตถุ... ซึ่งกฏกติกานั้นง่ายมาก
ทางเอส-เอ-กรุ๊ปได้ออกแบบเกาะร้างขึ้นมาทั้งหมด 21 แห่งสำหรับการแข่งนานาชาติโดยเฉพาะ ในการแข่งทำลายวัตถุ ผู้เข้าแข่งขันจากทั้ง 32 ประเทศจะถูกส่งตัวไปยังเกาะร้างที่มีนามว่า <ทีร่า> โดยนักกีฬาแต่ละคนต้องทำลายวัตถุที่มีขนาดเล็กเพียงห้าเซนติเมตร วัตถุดังกล่าวสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 40 เมตรต่อวินาที โดยแต่ละวัตถุจะมอบหนึ่งคะแนนให้กับทีมที่ทำลายมัน นักกีฬาผู้เข้าแข่งสามารถถูกโจมตีและเสียชีวิตได้ตามปรกติ
หนึ่งคะแนนต่อวัตถุหนึ่งชิ้น ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมสำหรับการสังหารผู้เล่นด้วยกัน ประเทศที่ได้รับคะแนนถึง 400 ก่อนจะเป็นทีมที่คว้าเหรียญทองไป
『 ทุกคนคิดว่าทีมไหนกันที่จะคว้า 400 แต้มได้ก่อนใครรร~!! 』
"เฮ้~~~!!"
ผู้ชมเรือนแสนบนอัฒจันทร์ของสนามกีฬาแห่งชาติสตัด-เดอ-ฟร็องซ์กำลังส่งเสียงเฮ บรรยากาศตื่นเต้นจนน่าขนลุก หัวใจทุกคนกำลังสูบฉีด ในบรรดาพวกเขา มีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ให้ความสนใจเกาหลีใต้
แม้ว่ากริดจะประกาศกร้าวในงานสัมภาษณ์ แต่ก็ไม่มีใครที่คิดว่าเกาหลีใต้จะคว้าเหรียญรางวัลประเภททีมได้สำเร็จ
ภาพตัดกลับมาบนเกาะทีร่าเมื่อเริ่มปล่อยตัวผู้เข้าแข่งกัน
บึ้ม!
บึ้มบึ้มบึ้ม!
ลำแสงสีขาวพุ่งออกจากปลายนิ้วของฝ่ามือสีทองทั้งสี่ ในขณะที่สัญญาณประกาศเริ่มแข่งกำลังดังระงมไปทั่วเกาะ วัตถุขนาดเล็กก็ถูกทำลายไปแล้วสี่ชิ้นเพียงพริบตา ด้วยความเร็วระดับนี้ ไม่ว่าชาติใดก็ยากจะไล่ตามทัน
"หยุดเขาไว้!"
นักกีฬาจากหลายประเทศต่างพุ่งเข้ามารุมล้อมกริดไว้ทุกทิศทาง
"คลื่นร่ายรำสังหาร!"
ชายหนุ่มปลดปล่อยทักษะไม้ตายทันทีที่เริ่มแข่ง และต้องขอบคุณศัตรูที่พุ่งเข้ามารนหาที่ตายอย่างพร้อมเพรียง
ผลลัพธ์น่ะหรือ...
สนามกีฬาสตัด-เดอ-ฟร็องซ์พลันเงียบเป็นเป่าสากไปพักใหญ่
ขอบคุณครับ
ReplyDelete55555 สะใจ ทำได้ดีมากๆ กริด เอาให้พวกมันหน้าแตกไปเลย
ReplyDeleteสะใจสุดๆเลย
ReplyDeleteสะใจโว้ยยยยย~~~
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteงานนี้มีเงิบ 55+
ReplyDelete