จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 427
『 กริดจับได้สลาก A ครับ』
『 คู่แรกของสงครามชิงปราสาท... เกาหลีใต้พบสหรัฐอเมริกา! 』
『 ดูสีหน้าของกริดสิครับ เขาไม่เคยเหงื่อตกขนาดนี้มาก่อน 』
『 หายากนะครับ ดูเหมือนแม้แต่กริดเองก็ยังไม่มั่นใจในการแข่งประเภทนี้ 』
เรทติ้งการถ่ายทอดสดสงครามชิงปราสาทเพิ่มขึ้นถนัดตา แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่า มีผู้ชมกำลังรอสมน้ำหน้ากริดมากมายขนาดไหน
=== เมื่อคืน ทั้งยูร่าและจิสึกะนอนที่ห้องกริดใช่ไหม
=== ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันคือความจริง... ปาปารัสซี่แอบถ่ายภาพพวกเธอออกมาจากห้องกริดในตอนเช้า...
=== อ๊ากกก... เขาควรได้รับการลงทัณฑ์จากพระเจ้า!
=== ทีมสหรัฐ พวกนายจงบดขยี้กริดให้ราบคาบซะ!!
=== ยิ่งกริดซวยเท่าไร ฉันก็ยิ่งสะใจมากเท่านั้น
ผู้ชายหลายร้อยล้านคนต่างพากันสะใจ พวกเขาล้วนดีใจที่ทีมเกาหลีใต้กำลังจะถูกถล่มเละเทะจนตกรอบแรก ส่วนชาวเกาหลีใต้ทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ อย่างสิ้นหวัง
=== ช่างเถอะ... การแข่งประเภทนี้ ทีมเราไม่มีหวังแต่แรกแล้ว ต่อให้ไม่เจอกับทีมสหรัฐในรอบแรกก็เถอะ
=== กลับกัน ตกรอบแรกก็ไม่เลวนะ นักกีฬาของเราจะได้มีเวลาพักผ่อนนานขึ้น
=== โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กริดคงเหนื่อยจากเมื่อคืนมากทีเดียว
=== กริดตั้งใจจับให้ได้ทีมสหรัฐต่างหากล่ะ เขากำลังมองการณ์ไกล... เพื่อที่นักกีฬาเกาหลีใต้จะมีเวลาพักผ่อน!
=== สมกับเป็นก็อดกริด!
ดูเหมือนทั่วโลกจะเห็นพ้องต้องกันว่า ทีมเกาหลีใต้คงต้องตกรอบแรกแน่นอนแล้ว ประชาชนชาวเกาหลีจึงพยายามมองในแง่บวกให้มากที่สุด สำหรับกริดก็ไม่ต่างกัน
'รีบจบแล้วรีบออกไปนอนเล่นในแคปซูลดีกว่า'
จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาใช้เวลาวันนี้ทั้งวันเพื่อเก็บเลเวล โดยที่แร้งเกอร์คนอื่นต้องมัวเสียเวลาอยู่กับการแข่งเพียงหนึ่งรายการ
'เรามีโอกาสแซงหน้าพวกเขา'
กริดคิดทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับซาทิสฟาย โดยไม่สนใจจะเที่ยวชมปารีสเลยสักนิด ในขณะเดียวกัน ลอเอลก็เดินเข้ามาหา
"คิดซะว่านี่คือการซ้อมทำสงครามก็แล้วกัน"
"ซ้อมทำสงคราม..."
ลอเอลอมยิ้มให้กริด
"เป้าหมายของนายคือความร่ำรวย เป็นที่หนึ่ง และได้รับการยอมรับจากผู้คนใช่ไหม ด้วยเหตุนั้น นายต้องก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ให้ได้"
แต่ปัจจัยสำคัญในการเป็นกษัตริย์ของแต่ละอาณาจักร... สายเลือดเชื้อพระวงศ์... ผู้เล่นทั่วไปไม่มีของแบบนั้นแน่ กริดจึงต้องเน้นหนักไปในการทำสงครามและแผ่ขยายดินแดนให้ได้มากที่สุด เพื่อเสริมสร้างบารมีและให้เป็นที่รู้จักของประชาชน
"เดิมที การซ้อมรบใหญ่นั้นทำได้ยากมาก เพราะต้องใช้กำลังคนและเงินจำนวนมหาศาล กิลด์โอเวอร์เกียร์ในปัจจุบันไม่มีศักยภาพจะซ้อมรบได้ตามลำพัง แต่ในวันนี้ โอกาสซ้อมรบโดยไม่ต้องเสียเงินมาถึงแล้ว"
"..."
"ทำให้ดีที่สุด ฉันจะแสดงให้นายเห็นถึงกลศึกที่แท้จริงเอง แต่เอาเถอะ ถ้าหากนายกลัวล่ะก็ จะรีบถอดใจยอมแพ้ไปก่อนก็ได้นะ ฉันไม่ว่าอะไร"
ลอเอลเป็นเพียงคนเดียวในโอเวอร์เกียร์ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์กริด เขากล้าเปิดปากชี้จุดบกพร่องของกริดซึ่งหน้าโดยไม่คิดลังเล จนบางครั้งกริดก็รู้สึกอับอายต่อหน้าผู้คน เหตุผลที่ลอเอลทำเช่นนี้น่ะหรือ ง่ายมาก เขาต้องการให้กริดพัฒนาขึ้นโดยเร็ว รีบปกปิดจุดอ่อนตนเองให้มากที่สุด และคำพูดกับโทนเสียงในคราวนี้ก็ไม่ต่างกัน ลอเอลมีเจตนายั่วยุกริดชัดเจน
เขารู้ดีว่า กริดสูญเสียแรงรูงใจที่จะสู้ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมคิดอยู่เฉยปล่อยผ่านไป
"..."
หากเป็นกริดในอดีตคงโมโหร้ายโดยไม่ทันรู้เจตนาที่แท้จริง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงข้อความที่ลอเอลต้องการจะสื่อ กริดตอบกลับไปว่า
"ก็ได้... มาลุยกันสักตั้ง"
กริดเงียบงันไปครู่ใหญ่... ยอมแพ้งั้นหรือ... ดูเหมือนตนจะหลงลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเป็นใครกันแน่
'ลืมตาขึ้นซะ'
ป้าป!
กริดใช้มือทั้งสองข้างตบหน้าตัวเองอย่างแรง นัยน์ตาสีดำคู่นั้นกลับมาดุดันองอาจอีกครั้ง
'ต้องหาทางเอาชนะให้ได้'
เหมือนกับทุกครั้ง...
***
"เป็นห่วงกริดเหลือเกินนะ"
"แล้วไง... พวกนายคิดว่าฉันจะแกล้งแพ้งั้นหรือ"
นักกีฬาทีมสหรัฐได้ยินบทสนทนาระหว่างลอเอลและกริด ลอเอลได้แต่ยักไหล่เบาๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันจะทำเต็มที่ ทั้งหมดก็เพื่อพัฒนาการของกริด"
เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ลอเอลต้องทำให้ทีมสหรัฐชนะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเผชิญหน้ากับรัสเซีย ดังนั้นเขาไม่มีทางยอมแพ้เกาหลีใต้ตั้งแต่รอบแรกแน่นอน
'ปัญจัยที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดของเกาหลีใต้... กริดมีผ้าคลุมผู้ปกครองและผ้าคลุมหัวแบบมีซิบ'
ลอเอลหมั่นสำรวจไอเท็มสวมใส่ของกริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์อยู่เสมอ โดยสิ่งแรกที่น่าหวั่นใจก็คือ ผ้าคลุมผู้ปกครอง ไอเท็มเกรดเลเจนดารีที่กริดได้รับมาในตอนก่อตั้งกองอัศวินโอเวอร์เกียร์ ผู้สวมใส่จะได้รับทักษะ <พุ่งประจัญบาน> <เคลื่อนทัพ> และ <เสียงของผู้ปกครอง> ทั้งหมดมีสิทธิภาพสูงมากในการจัดการกองทัพ หากกริดใช้มันสั่งการเอ็นพีซีทั้ง 50 คนล่ะก็ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้ามได้เลย
ถัดมาคือผ้าคลุมหัวแบบมีซิป ผ้าคลุมล่องหนที่กริดสร้างขึ้นจากเกร็ดซิลฟิด เป็นไอเท็มสุดโกงที่หรูหราหายาก แต่ทั้งกริด ยูร่า และพีคซอร์ดล้วนมีติดตัวคนละผืน ดังนั้นลอเอลจึงต้องระวังการลอบซุ่มโจมตี
'ที่เหลือก็คือ...'
เขาต้องระวังพลังทำลายล้างของกริดให้ดี ส่วนยูร่า เลเวลของเธอยังน้อยจนไม่อาจต่อกรกับนักกีฬาทีมสหรัฐบนเวทีภายนอกขุมนรกได้ ทางด้านพีคซอร์ด แม้พีคซอร์ดจะเก่งก็จริง แต่ระบบใหม่ได้เนิร์ฟเขารุนแรงมาก คงรับมือกับสมาชิกทีมสหรัฐได้แค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนนักกีฬาเกาหลีใต้คนอื่นไม่มีค่าพอให้กล่าวถึง
"ไปลุยกันเถอะ"
เกาหลีใต้ปะทะสหรัฐอเมริกา คู่เปิดสนามของทัวร์นาเม้นต์สงครามชิงปราสาท ผู้ชมบนอัฒจันทร์นับแสนต่างส่งเสียงเฮเมื่อนักกีฬาทั้ง 14 คนลงไปนอนในแคปซูล
***
[ ท่านเข้าสู้ผืนป่าอันเทอราว่า ]
[ ท่านมีเวลา 20 นาทีสำหรับเตรียมตัวก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้น ]
"เกาหลีใต้สินะ... เป็นนัดอุ่นเครื่องที่ดี"
"เครื่องยังไม่ทันร้อนเลยมั้ง"
"ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!"
อันที่จริง บรรยากาศนักกีฬาทีมสหรัฐเคยตึงเครียดหนักเมื่อซีบาลจับได้สลาก A เพราะนั่นหมายถึงคู่เปิดการแข่ง สงครามชิงปราสาทในปีนี้ระบุไว้เพียงกฏคร่าวๆ และแผนที่ แต่พวกเขาไม่มีข้อมูลของเอ็นพีซีทั้ง 50 คนเลยสักนิด ไม่มีใครอยากเป็นคู่เปิดงานแน่ และพวกเขากังวลว่าอาจต้องเจอกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นงานหินตั้งแต่นัดแรก
แต่กริดก็จับได้สลาก A ต่อจากซีบาลทันที ชาวอเมริกาไม่รู้จะต้องขอบคุณกริดอย่างไรดี บรรยากาศทีมสหรัฐพลันผ่อนคลายลงในพริบตา พวกเขากำลังสำรวจสนามรบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อกวาดสายตามองไปโดยรอบ ปราสาทของฝ่ายตนนั้นมีกำแพงชั้นนอกสุดเตี้ยเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น
"โฮ่... นั่นน่ะหรือเอ็นพีซีที่เขาร่ำลือกัน"
"ไปดูใกล้ๆ กันเถอะ"
ณ ลานกว้างภายในปราสาท
เอ็นพีซีทั้ง 50 คนกำลังยืนรออยู่ โดย 15 คนเป็นตัวแทงค์ที่ถือโล่ขนาดใหญ่ในมือ ส่วนอีก 20 คนเป็นนักรบสวมเกราะเบาและถืออาวุธแหลมคม ถัดมาคือนักธนูสิบคนและจอมเวทย์อีกห้าคน
"แพนเมียร์ ตรวจสอบสถานะอาวุธพวกเขาหน่อย หลังจากนั้น พวกเราจะได้วัดฝีมือเอ็นพีซีทุกคนด้วยการดวลเบาๆ"
หลังจากออกคำสั่งเสร็จ ซีบาลพลันตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่าเอ็นพีซีทุกคนกำลังจ้องมองมาเป็นตาเดียว
"มันจะไม่หยาบคายไปหน่อยหรือ ที่จู่ๆ ก็มาขอดูอุปกรณ์สวมใส่และทักษะของพวกเราด้วยวิธีต่ำช้าเช่นนี้"
"ดันมีพวกคนเถื่อนเป็นกำลังเสริมซะได้..."
"พวกนายเก่งรึเปล่า เราไม่เชื่อใจคนแปลกหน้าหรอกนะ"
เมื่อได้ยินคำพูดของเอ็นพีซี ทั้งซีบาลและทีมสหรัฐต่างนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่
'เอ็นพีซีเหล่านี้ไม่ใช่ลูกน้อง...'
'พวกเขามีสถานะเทียบเท่าเรางั้นหรือ...'
'พวกเรารับบทเป็นกำลังเสริมให้กับเอ็นพีซีสินะ...'
ทันใดนั้น ข้อความระบบได้แสดงขึ้นบนหน้าจอนักกีฬาทีมสหรัฐทุกคน
[ ภารกิจร่วมปรากฏขึ้น ]
[ สงครามชิงปราสาท ]
ระดับความยาก : วัดค่าไม่ได้
สองประเทศกำลังทำสงครามเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผืนป่าอันเทอราว่า
ท่านอยู่ในสังกัดกองทัพอาณาจักร A
จงร่วมมือกับอัศวินแห่งอาณาจักร A เพื่อยึดครองปราสาทของอาณาจักร B และเป็นเจ้าของป่าอันเทอราว่าให้ได้
* ภารกิจนี้ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติเท่านั้น จะไม่ส่งผลเกี่ยวข้องใดกับเกมซาทิสฟายทั้งสิ้น แต่เนื่องจากจำลองมาจากโลกในซาทิสฟาย เอ็นพีซีทุกคนจึงมีความคุ้นเคยกับเรื่องราวของซาทิสฟายเป็นอย่างดี
เงื่อนไขการชนะ : ยึดครองปราสาท B หรือไม่ก็กวาดล้างกองทัพอาณาจักร B ให้หมด
* เวลาจำกัดคือสองชั่วโมง หากยังไม่มีฝ่ายใดได้รับชัยชนะ ชัยชนะจะตกเป็นของฝั่งที่มีจำนวนผู้เหลือรอดมากกว่า
* หากท่านไม่โจมตีและเอาแต่ป้องกัน ค่าความสัมพันธ์กับเอ็นพีซีจะลดลง นั่นอาจเป็นประตูสู่ความพ่ายแพ้ได้
'นี่มัน...'
ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าเอ็นพีซีเป็นเพียงบริวารใต้บังคับคัญชา แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น เอ็นพีซีเหล่านี้คือพวกพ้อง ซึ่งแตกต่างจากที่จินตนาการไว้ตอนแรกมาก ด้วยเหตุนี้ การออกคำสั่งคงไม่ใช่เรื่องงายเสียแล้ว
"พวกเรารีบไปยึดปราสาทศัตรูกันเถอะ ปล่อยให้พวกมันทั้งเจ็ดคนคอยทำตามแผนของเรา"
เอ็นพีซีเริ่มทำตามอำเภอใจ หากทีมสหรัฐไม่สามารถออกคำสั่งได้ล่ะก็ แผนที่วางไว้เมื่อคืนก็จะสูญเปล่าทั้งหมด พวกเขาทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์เช่นนี้... นักกีฬาทีมสหรัฐตกอยู่ในอาการลนลานกันพักใหญ่ ก่อนที่ใครบางคนจะผุดไอเดียขึ้น
{ ลอเอล อธิบายแผนของนายให้เอ็นพีซีฟังสิ }
{ ใช่แล้ว ถ้าหากพวกเขาตระหนักได้ว่าเป็นแผนที่ดี มีโอกาสสูงที่นายจะได้เป็นผู้บังคับคัญชาสนามรบ }
นั่นก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดการันตีว่าแผนการที่ดีจะเปลี่ยนใจเอ็นพีซีได้ หากพวกนี้เกิดเป็นเอ็นพีซีสมองทึบที่ไม่เข้าใจแผนขึ้นมาล่ะ... ทันใดนั้น ลอเอลตัดสินใจหันไปถามสมาชิกในทีม
{ ใครมีค่าสถานะความน่าเกรงขาม ความเป็นผู้นำ หรือความน่าหลงไหลบ้าง }
'จริงด้วย!'
สมาชิกทีมสหรัฐต่างเข้าใจเจตนาของลอเอลทันที ในบรรดาพวกเขา ซีบาล สกัลล์ และเซเฟอร์ได้ก้าวเท้าออกมาด้านหน้า คนเหล่านี้แร้งเกอร์ระดับท็อปที่มีสมญานามมากมาย แถมบางคนยังมีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนาง ค่าความน่าเกรงขามขั้นต่ำคือ 300 หน่วย แถมซีบาลกับสกัลล์ก็ยังมีค่าสถานะความเป็นผู้นำและความน่าหลงไหลติดตัวด้วย
ลอเอลเดินนำทุกคนไปและเริ่มแนะนำตัวเองกับเอ็นพีซี
"ฉันคือลอร์ดลอเอล เป็นเอิร์ลและวีรบุรุษแห่งอาณาจักรอีเทอนัล พวกเราทำได้แน่ ถ้าหากพวกนายทุกคนยอมให้ฉันเป็นผู้ออกคำสั่งในสงครามนี้ ฉันขอรับรองชัยชนะอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด"
ที่ด้านหลังลอเอลยังมีซีบาล สกัลล์ เซเฟอร์เดินตามมาด้วย บรรดาเอ็นพีซีหันไปมองหน้ากันสักพัก หลังจากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ
"ก็ได้... พวกเราจะยอมเชื่อนายไปก่อน"
"แต่ถ้าเกิดเห็นว่าพวกนายไม่ได้เรื่องล่ะก็ พวกเราจะไม่ทำตามคำสั่งอีก และเมื่อถึงตอนนั้น พวกนายจะต้องทำตามคำสั่งของพวกเราแทน"
"...ตกลง"
ลอเอลและซีบาลพยักหน้าโดยไม่ลังเล ทันใดนั้น เอ็นพีซีจำนวน 31 คนเริ่มทำการโค้งคำนับ ในขณะที่อีก 19 คนยังคงนิ่งเฉย นี่คือขีดจำกัดของการออกคำสั่งในเวลานี้ ลอเอลมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เขาทำการอธิบายแผนการรบและกลศึกต่างๆ ที่จะใช้ เมื่อเอ็นพีซีได้ฟัง พวกเขาจึงเริ่มชื่นชมในตัวลอเอลมากขึ้น
ผู้ชมทั่วโลกต่างกำลังตื่นเต้นกับภาพที่เห็น
=== สุดยอด ฉันเคยคิดว่าทุกทีมคงแย่แน่ เมื่อได้เห็นสถานะที่แท้จริงของเอ็นพีซี
=== ทีมสหรัฐมีค่าความน่าเกรงขามสูงมาก เอ็นพีซีคงยินยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดีแล้ว
=== ลอเอลคือกุนซือระดับปีศาจ
=== ดูเหมือนลอเอลจะมีค่าความน่าเกรงขามสูงกว่า 500 หน่วยเสียอีก
=== ความน่าเกรงขามก็ส่วนหนึ่ง แต่เอ็นพีซีคงประทับใจในแผนการของลอเอลมากกว่า ดูท่าทีมสหรัฐจะซ่อนไม้เด็ดไว้มาก
ถ้าเช่นนั้น ทางเกาหลีใต้เป็นอย่างไรบ้าง ในขณะที่นักกีฬาทีมสหรัฐกำลังตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่ของเอ็นพีซี ภาพบนจอฉายขนาดยักษ์ก็ตัดไปทางฝั่งเกาหลีใต้
『 กริดคือผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นดยุค ดังนั้น ค่าความน่าเกรงขามและความน่าหลงไหลต้องสูงกว่าลอเอลแน่นอนครับ... 』
『 แต่พวกเราไม่รู้ว่านักกีฬาชาวเกาหลีใต้คนอื่นจะมีค่าสถานะเหล่านี้ด้วยไหม... 』
『 แถมทีมเกาหลีใต้ก็ไม่มีกุนซือจ้าวกลศึกเฉกเช่นลอเอล พวกเรามาดูกันครับว่ากริดจะโน้มน้าวเอ็นพีซีด้วยวิธีใดบ้าง... เอ่อ...! 』
『 น--นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ...!! 』
ผู้บรรยายต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ผู้ชมบนอัฒจันทร์และทางบ้านก็ไม่ต่าง ทำไมน่ะหรือ... เพราะตอนนี้กริดกำลังสวมมงกุฏอันเล็กและเดินเข้าไปหาเอ็นพีซีอย่างองอาจ...
"พวกเราขอน้อมรับใช้ท่าน!!"
"ขอเพียงท่านเอ่ยปาก! พวกเราพร้อมทำทุกสิ่ง!"
เอ็นพีซีผู้หยิ่งทระนงทั้ง 50 คนที่ทีมสหรัฐจัดการอย่างยากลำบาก ยามนี้ทุกคนกำลังคุกเข่าถวายความจงรักภักดีต่อกริด ในขณะที่ทั่วโลกกำลังตกตะลึง กริดก็อมยิ้มอย่างพึงพอใจ
'ลอเอล ฉันไม่สนหรอกนะว่านายจะมีกลยุทธ์ยอดเยี่ยมขนาดไหน'
กริดจะแสดงคุณค่าของตนเองด้วยการบดขยี้อีกฝ่ายด้วยพลังแห่งไอเท็ม ชายหนุ่มนำดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ออกมา หลังจากนั้นก็ออกคำสั่งสุดพิลึกพิลั่นให้กับเอ็นพีซีที่กำลังคุกเข่าอยู่
"ทุกคนจงถอดอุปกรณ์สวมใส่ออกให้หมด!"
55555 สนุกมากครับ ค้างงงง รอต่อไม่ไหวแล้ว มันนนนนน
ReplyDeleteอัพเกรดสินะ
ReplyDeleteสนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteเกรดยูนีคให้หมดเลย
ReplyDeleteเซตกริดแผงฤทธิ์
ReplyDelete