จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 424



       ณ โรงแรมทูเร่

       โรงแรมแห่งนี้คือที่พักของนักกีฬาทีมรัสเซีย  บราซิล  และญี่ปุ่น  ผู้เข้าแข่งทุกคนถูกจัดรับรองในสถานที่พิเศษ  และมีห้องแคปซูลเตรียมไว้ให้นักกีฬาโดยเฉพาะ  ผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นซาทิสฟายได้ตามใจชอบขณะอยู่ที่โรงแรม

       ครอเกลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น  ยังเหลือเวลาอีก 14 ชั่วโมง 23 นาทีกว่าจะถึงการแข่งในวันถัดไป  ระหว่างนี้  ครอเกลมีแผนจะอัพเลเวลของตนขึ้นอีกหนึ่งระดับ  ในขณะที่นักกีฬาส่วนมากตัดสินใจเดิมชมวิวทิวทัศน์รอบปารีสไปพร้อมกับการดื่มด่ำแอลกอฮอล์  แต่ครอเกลไม่มีกะใจจะทำเรื่องเช่นนั้นเลยสักนิด        

       เขาต้องนำพารัสเซียเป็นจ้าวเหรียญทองให้ได้  และต้องเก็บรายละเอียดที่อาจเป็นตัวแปรชัยชนะให้หมด  ในขณะที่ครอเกลเปิดแคปซูลเพื่อจะลงไปนั่ง  ใครบางคนได้ส่งเสียงเรียกจากด้านหลัง  เป็นอเล็กซานเดอร์  หนึ่งในนักกีฬาทีมรัสเซีย

       "เล่นเกมไปจนตายก็เท่านั้น... จะมีไปค่าอะไรเมื่อนายคว้าเหรียญทองไม่สำเร็จ"

       อเล็กซานเดอร์เดินมายืนหยุดอยู่ที่ด้านหน้าครอเกล  มันคือชายร่างใหญ่  ส่วนสูงกว่า 190 เซนติเมตร  กล้ามเป็นมัด  สามารถข่มขวัญผู้คนได้เพียงแค่ปรากฏกาย  อเล็กซานเดอร์ใช้นิ้วที่ทั้งใหญ่และหน้าทิ่มลงบนหน้าอกครอเกลพร้อมกับพูดว่า

       "หึ!  ฟ้าเหนือฟ้างั้นหรือ  อย่าทำให้ขำหน่อยเลย  เป็นเพราะแก  ทีมรัสเซียจึงพลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย  และแม่ของแกคงไม่มีทางรักษาให้หายอีกแล้ว!!"

       กลุ่มสกินเฮดของอเล็กซานเดอร์นั้นดูแคลนชาวเอเชียผิวเหลืองอย่างมาก  พวกมันมองเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับลิง  นักกีฬาทีมรัสเซียทั้งหกคนถูกกริดจัดการตามลำพังอย่างน่าขายหน้า  และอเล็กซานเดอร์ก็กล่าวโทษทั้งหมดว่าเป็นความผิดของครอเกลที่ไม่ยอมกลับมาช่วย  ครอเกลยังคงนิ่งเงียบ  แต่สายตาของเขากำลังอาฆาตรุนแรง

       หมับ!

       "อั่ก!"

       สีหน้าอเล็กซานเดอร์พลันบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด  เป็นเพราะในยามนี้  ครอเกลได้คว้าข้อมือของมันพร้อมกับออกแรงบีบอันน่าสะพรึงกลัว

       'ไอ้พวกลิงเหลืองมีกำลังแขนขนาดนี้ได้ยังไง'

       หากมองเพียงผิวเผินภายนอก  ครอเกลนั้นดูบอบบางเหมือนกับผู้หญิง  อเล็กซานเดอร์แทบไม่เชื่อเลยว่าครอเกลจะระเบิดพละกำลังที่เหนือกว่าตนออกมาได้  ด้วยแรงบีบที่สามารถหักข้อมือได้ทุกเมื่อ  ครอเกลกระซิบกระซาบข้างหูอเล็กซานเดอร์ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ
       
       "ในตอนแรก...  ฉันตัดสินใจปล่อยให้แกทำตามใจชอบโดยไม่ถือสา  แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว"

       ถูกต้อง  ในวันแรก  ครอเกลตัดสินใจรอดูท่าทีโดยรวมของสมาชิกทีมรัสเซียคนอื่นก่อน  จึงปล่อยให้อเล็กซานเดอร์เป็นคนบัญชาการทั้งหมด  แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นอีกแล้ว

       "อย่าคิดลองดีกับฉันอีก... หรือถ้าไม่เชื่อก็เชิญได้ทุกเมื่อ"
       
       สะดุ้ง...

       นัยน์สีดำของครอเกลลุ่มลึกประหนึ่งหุบเหวไร้ก้นบึ้ง  อเล็กซานเดอร์พลันรู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าประหลาด  มันคาดเดาความคิดชายคนนี้ไม่ออกเลยสักนิด  อเล็กซานเดอร์ไม่มีวันยอมรับตัวตนของลิงเหลืองที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน  มันพยายามเหวี่ยงกำปั้นชกใส่ครอเกลอย่างเต็มแรง

       "ไอ้ลิงบัดซบ!  แกไม่รู้สินะว่ากำลังเล่นกับใครอยู่...!"

       "..."

       ความแข็งแรงของร่างกายในชีวิตจริงมีผลต่อการฝีมือควบคุมในเกมไหมน่ะหรือ  คำตอบของผู้เชี่ยวชาญคือ <ไม่>  ร่างกายตัวละครในเกมแยกจากร่างกายชีวิตจริงโดยสิ้นเชิง  ในการจะควบคุมตัวละครในเกมให้ได้ดีนั้น  ปัจจัยหลักคือการสั่งการจากสมอง

       ด้วยเหตุนี้  ครอเกลจึงคิดว่า <ประสบการณ์ในสมอง> คือสิ่งสำคัญที่สุด  ตัวอย่างเช่นวิชาดาบ  หากฝึกฝนวิชาดาบในชีวิตจริงทุกวัน  ก็มีโอกาสที่สมองจะ <จดจำ> และสั่งการในเกมได้โดยที่ไม่ต้องมีทักษะความชำนาญดาบติดตัว  

       ก่อนที่ซาทิสฟายจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ  ตอนนั้นยังมีเพียงข่าวลือและรายละเอียดของเกมคร่าวๆ เท่านั้น  ครอเกลยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของตนมีอาการเบื้องต้นของโรคอัลไซเมอร์  เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และกีฬาหลากหลายชนิดอย่างเอาเป็นเอาตาย  โดยหวังว่า <ประสบการณ์สมอง> เหล่านั้นจะส่งผลให้เขากลายเป็นสุดยอดผู้เล่นในซาทิสฟายเข้าสักวัน

       ร่างกายผอมเพรียวงั้นหรือ... นั่นเพราะครอเกลสวมชุดปกปิดไว้  กล้ามเนื้อที่ลีนแต่แข็งแกร่งของครอเกลนั้นคล้ายคลึงกับนักสู้มืออาชีพมาก

       ผัวะ!

       "อ๊ากกก...!"

       ครอเกลโยกตัวหลบหมัดอเล็กซานเดอร์พร้อมกับชกสวนเข้าไปที่ใบหน้า  ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมาก  สิ่งเดียวที่อเล็กซานเดอร์เห็นคือดวงดาวที่หมุนติ้วและเพดานโรงแรม

       หมับ!

       ครอเกลใช้ฝ่าเท้าเหยียบลำคอของอเล็กซานเดอร์ไว้

       หมับ!!

       "แค่ก...!  อั่ก!"

       อเล็กซานเดอร์บาดเจ็บเจียนตายจากการที่ถูกครอเกลเหยียบหลอดลมไว้  ครอเกลก้มหน้าลงไปมองด้วยสายตาเย็นชา  ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอันน่าสะพรึงกลัว

       "ฉันรู้จักคนแบบแกดี  แกคือพวกนักเลงที่จะไม่มีวันเจียมตัวจนกว่าจะเจอของจริง  แกคงคิดสินะ  ว่าคนอย่างฉันต้องอ่อนแอในชีวิตจริงแน่...  แต่มันกลับตรงกันข้ามเลยล่ะ… ว่าไหม"

       หมับบบ!

       ครอเกลออกแรงเหยียบให้มากขึ้น  จนใบหน้าอเล็กซานเดอร์เริ่มขาวซีด  และเมื่อมันชำเลืองสายตาขึ้นมามอง  ใบหน้าครอเกลกลับไม่ปรากฏความลังเลเลยแม้แต่น้อย  มันจึงตระหนักได้ในทันทีว่า  ชายคนนี้เลือดเย็นมากแค่ไหน

       'หมอนี่... ข--ของจริง...'

       ครอเกลสามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา  เป็นคนประเภทที่ห้ามแตะต้องโดยเด็ดขาด

       อเล็กซานเดอร์พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง  ครอเกลได้กล่าวตักเตือนเป็นหนสุดท้าย

       "หากแกบังอาจใช้ปากโสโครกนั่นพูดถึงแม่ฉันอีก  รับรองได้เลยว่าฉันเชือดลิ้นแกทิ้งแน่  และยิ่งไปกว่านั้น  การแข่งรายการหน้า  อย่าได้คิดเป็นตัวถ่วงของฉันเด็ดขาด  หึ!  ยาตัวใหม่ล่าสุดงั้นหรือ... ไม่ใช่รัสเซียประเทศเดียวสักหน่อยที่มีมัน  ดังนั้นแกอย่าได้ใจไปนัก"

       "...!"

       ปึก! ปึก!
       
       อเล็กซาเดอร์ที่กำลังขาดอากาศหายใจ  ยามนี้มันพยายามทุบพื้นหลายครั้ง  เป็นสัญลักษณ์ของการยอมแพ้  แต่ครอเกลก็ยังไม่ยอมปล่อยโดยง่าย  เขาใช้ฝ่าเท้าเหยียบลำคออเล็กซานเดอร์และจ้องมองอยู่เช่นนั้นอีกพักใหญ่

       อเล็กซานเดอร์เริ่มเวียนหัวเนื่องจากออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ  สายตาของมันพร่ามัวจนมองครอเกลได้ไม่ชัด  ดูเหมือนตำแหน่งของจ่าฝูงทีมรัสเซียจะสลับที่กันแล้วในตอนนี้

       'ตาต่อตา  ฟันต่อฟัน...'

       ครอเกลต้องถูกกีดกันให้เป็นคนนอกของทีมรัสเซีย  โดยที่ขยะอย่างอเล็กซานเดอร์สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายใจ  ความอำมหิตของครอเกลพัฒนาขึ้นในตอนที่เขาได้พบปิอาโร่ครั้งแรก...  ท้ายที่สุด  ครอเกลชักเท้ากลับมาและปล่อยอเล็กซานเดอร์ไป  มันรีบวิ่งหนีหายไปจากสายตาทันที

       ครอเกลทิ้งตัวลงนอนบนแคปซูลด้วยสีหน้าตึงเครียด

       'รัสเซียคือประเทศเดียวที่มีตัวยาชนิดใหม่...'

       ซาทิสฟายคือแหล่งทำเงินขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานี้  ทำให้มูลค่าของครอเกลมิอาจวัดเป็นตัวเลขได้  หลากหลายประเทศต้องการเชื้อเชิญให้ครอเกลย้ายถิ่นฐานไปเป็นพลเมือง  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีประเทศใดเลยกำลังพัฒนายารักษาอัลไซเมอร์ตัวใหม่

       ใช่แล้ว  ครอเกลมีแต่ต้องนำพารัสเซียเป็นจ้าวเหรียญทองเท่านั้น

[ สแกนร่างกาย... ]
[ สแกนม่านตา... ]
[ ตรวจสอบรายละเอียดตัวละคร... ]
[ ระบบป้องกันภัยของแคปซูลทำงาน... ]
[ ทำการเชื่อมต่อซาทิสฟาย... ]

       ชิ้ง~

       ภาพการมองเห็นกลับมาชัดเจนอีกครั้ง  สัมผัสทั้งห้าของครอเกลถูกหลอมรวมเข้ากับซาทิสฟายโดยสมบูรณ์...  หลังจากนั้นไม่นาน  แคปซูลเครื่องหนึ่งที่มุมห้องได้เปิดแง้มออกอย่างเงียบเชียบ  โดยคนที่ลุกออกจากเครื่องคือจิสึกะ

       "ครอเกลมีเบื้องหลังแบบนี้เองหรือ..."

       จิสึกะนอนเล่นในแคปซูลอยู่พักหนึ่ง  ก่อนที่เธอจะล็อกอินเข้าเกม  ดันได้ยินบทสนทนาระหว่างครอเกลและอเล็กซานเดอร์โดยไม่ตั้งใจ  ข้อมูลนี้  ไม่ว่ายังไงก็ต้องบอกให้กริดและชาวโอเวอร์เกียร์ได้รับรู้  เธอรีบมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมแชง-X-ลีล่าทันที

       ***

       "ส่วนผสมระหว่างรสเค็มกับหวานของเมนูนี้ไม่เลวเลย"

       "ละลายในปากเลยล่ะ~"

       ณ ห้องอาหารโรงแรมแชง-X-ลีล่า

       นักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้กำลังดื่มด่ำกับอาหารค่ำที่นี่  ห้องอาหารโรงแรมนี้ได้รับดาวมิชลินมากถึงสามดวง  ทำให้อาหารมีรสชาติละมุนเหนือคำบรรยาย  แม้กระทั่งพีคซอร์ดที่คลั่งไคล้ในอาหารเกาหลีก็ยังต้องออกปากชม

       "เชฟที่นี่มีฝีมือดีมาก  ฉันอยากลองกินซุปกิมจิที่เชฟคนนี้ทำดู..."

       "..."

       คงเป็นการยากที่จะให้คนทั่วไปเข้าใจได้ว่า  เหตุใดพีคซอร์ดถึงอยากกินซุปกิมจิจากฝีมือของเชฟภัตตาคารฝรั่งเศสกันนะ...  แต่ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเอร็ดอร่อยของทุกคน  กริดกลับมีสีหน้าไม่พึงพอใจ

       "ทำไมอาหารถึงได้เสริฟช้านัก  แถมยังมาทีละนิดอีก  เจ้าของร้านไม่ขี้เกียจไปหน่อยรึไง"

       กริดคือชาวเกาหลีทั่วไปที่ชาชินกับอาหารเดลิเวอรี่  โดยระยะเวลาการจัดส่งเฉลี่ยอยู่ที่ 15 นาทีเท่านั้น  การที่อาหารฝรั่งเศสคอร์สใหญ่ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมง  ทำให้เขาเริ่มออกอาการหงุดหงิด

       "ถ้ารู้แบบนี้  ฉันต้มราเมียนกินอยู่ที่ห้องดีกว่า  มิชลินบ้าบอนี่เสียเวลาฉิบ"

       "อืม... ฉันอยากให้เชฟร้านนี้ลองทำเต้าเจี้ยวเกาหลีดูบ้าง..."

       "..."

       กริดและพีคซอร์ดเริ่มพูดจาไร้สาระขึ้นเรื่อยๆ   คนพวกนี้ไม่รู้จักความสุนทรีย์ของอาหารรสเลิศเลยสักนิด  สมาชิกที่เหลือต่างสาบานว่าจะไม่มากินข้าวกับกริดและพีคซอร์ดอีกเป็นอันขาด  

       ในทางกลับกัน  ยูร่ากำลังดีใจ  เธอมีความสุขมากที่ได้ร่วมโต๊ะกับกริด  ขอเพียงมีกริดอยู่ด้วยล่ะก็  จะให้กินบะหมี่ถ้วยวันละสามมื้อตลอดชีวิตเลยก็ยังได้

       "พวกนายต้องจากบ้านมาไกลเลยสินะ...  ลองชิมไวน์ดูสักแก้วไหม"

       ท่ามกลางร้านอาหารที่เงียบสงบ  มีเพียงเสียงเปียโนเล่นคลอเป็นพื้นหลัง  เด็กหนุ่มผมสีเงินผู้หนึ่งเดินเข้ามาใกล้กับโต๊ะที่นักกีฬาทีมเกาหลีกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่  นัยน์ตาสีฟ้าส่องประกายวิบวับ  เขาคือลอเอล  แม้จะแต่งกายด้วยชุดตามสบาย  แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับดูเหมือนขุนนางชั้นสูงเมื่อถือแก้วไวน์อยู่ในมือ

       ไวน์ที่ลอเอลนำมา  คือไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง <โรมาเน่-X>  ซึ่งผลิตขึ้นเพียงปีละ 6,000 ขวดเท่านั้น  หนึ่งในไวน์ที่มีคุณภาพสูงสุดของโลกใบนี้  ลอเอลเตรียมไวน์ชั้นเลิศมาเป็นบรรณาการให้กริด  นี่คือการแสดงความจงรักภักดีในแบบของเขา

       "รสสัมผัสของไวน์ชนิดนี้  ยอดเยี่ยมประหนึ่งโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในกายฉันมานานกว่าพันปีแล้ว  ทั้งหรูหราและสง่างาม  ไวน์แดงเปรียบดั่งสัญลักษณ์ของตัวแทนของฉันผู้นี้  ลอเอล... เป็นการแสดงให้เห็นว่า  เจตจำนงของฉันจะไหลเวียนในร่างกายของนายตลอดไป"

       สีหน้าของทีมเกาหลีใต้พลันซีดเผือด  มือไม้สั่นระริกอย่างไร้เรี่ยวแรง  ทั้งหมดเกิดจากคำพูดชวนขนลุกของลอเอลเมื่อครู่  แต่ทั้งกริด  พีคซอร์ด  และยูร่าต่างก็ยังปรกติดี  เพราะยูร่านั้นชาชินและเป็นคนใจเย็นอยู่แล้ว  ส่วนกริดกับพีคซอร์ดนั้น... พวกเขาฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก

       "โอเค โอเค"

       "นายรู้จักก็อดกริดรึเปล่า"

       กริดและพีคซอร์ดรับแก้วไวน์จากลอเอล  พวกเขาซดมันเข้าไปอึกแล้วอึกเล่าอย่างไม่บันยะบันยัง  ขาดสุนทรียศาสตร์โดยสิ้นเชิง  แถมที่แย่ไปกว่านั้น  ทั้งคู่มิได้ประทับใจในรสชาติมากนัก  ดูเหมือนโซจูเกาหลีจะถูกปากคนทั้งสองมากกว่า

       "..."

       ลอเอลหมดคำพูดทันทีเมื่อเห็นไวน์มูลค่ากว่าหมื่นดอลล่าส์หายวับไปกับตา  แต่ท่ามกลางบรรยากาศอันวุ่นวายสับสนนี้เอง...

       "ทุกคนฟังฉัน!"

       จิสึกะวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกับเล่าเรื่องราวของครอเกลให้ฟัง  แต่เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ  จิสึกะไม่ได้นำเครื่องแปลงภาษามาด้วย  ทำให้คนที่เข้าใจมีเพียงยูร่า  ลอเอล  และทีมเกาหลีทุกคนนอกจากกริดและพีคซอร์ด...

       ลอเอลครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะชำเลืองสายตามองตากริด  หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับยูร่าและจึสึกะว่า  

       "อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับกริดเด็ดขาด..."

       ลอเอลรู้ดีว่ากริดกับครอเกลมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขนาดไหน  หากกริดรู้ความจริงเข้าล่ะก็  เขาไม่มีทางแสดงฝีมือได้เต็มที่ในตอนที่ต้องสู้กับครอเกลแน่นอน

       "ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง"

       ในที่สุด  ลอเอลก็พบหนทางชักชวนให้ครอเกลเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์แล้ว  เด็กหนุ่มอมยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมกับรีบเดินกลับห้องพักทันที

       หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง  งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติในวันที่สองก็เริ่มต้นขึ้น

Comments

  1. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. จบไว้แท้ กำลังอ่านเพลิน 😂😂😂ค้างงงงงงง

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00