จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 411



       หนึ่งชั่วโมงก่อนพิธีเปิดเริ่มขึ้น

       ณ ห้องเตรียมตัวนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้

       พีคซอร์ดกำลังชี้ไปยังทั้ง 11 จุดบนแผ่นที่ของเกาะทีร่า

       "การแข่งทำลายวัตถุในปีนี้จะมีจำนวนนักกีฬาลงแข่งสูงมาก  เพราะทุกคนจากทั้ง 32 ประเทศล้วนเข้าร่วมทั้งหมด"

       ผู้เล่น 244 คน  แบ่งเป็น 32 ทีม  ศัตรูจะต้องมาจากทุกทิศทางแน่นอน

       "ทีมที่โดดเด่นเกินไปจะตกเป็นเป้าโจมตี  พวกเราควรลอบยึดฐานที่มั่นบนเกาะ  เพื่อสร้างจุดทำคะแนนที่มั่นคงขึ้นมา"

       ทักษะนักแม่นปืนของยูร่ามีประโยชน์ในการทำคะแนนมาก  แต่หากมุ่งมั่นเอาแต่ทำคะแนน  ย่อมมีโอกาสสูงที่จะถูกชาติอื่นเข้าสกัด  พีคซอร์ดมั่นใจว่า  มันคงไม่สายเกินไป  หากในตอนต้นจะอพยพออกจากใจกลางเกาะ  เพื่อหาทำเลที่เหมาะสมสำหรับทำคะแนนในภายหลัง

       พัคจองฮวาสำรวจแผนที่ครู่หนึ่งก่อนจะเกิดคำถาม

       "ทำไมต้องเป็นเนินเขาหรือไม่ก็แม่น้ำ"
       
       พัคจองฮวาคือนักธนูเลเวล 235  แม้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยผู้เข้าแข่งถึง 39 ระดับ  แต่พัคจองฮวาคือแร้งเกอร์ชาวเกาหลีใต้ที่มีอันดับถัดจากพีคซอร์ด  ยูร่า  และกริด

       เขามีชื่อเสียงโด่งดังในทางไม่ดีนัก  เช่นเป็นสิงห์นักสูบที่ชอบแกล้งลืมกระเป๋าเงินไว้บ้านเมื่อออกมาทานข้าวกับเพื่อน  แต่พัคจองฮวาก็เป็นนักธนูฝีมือเยี่ยม  ในสายตาของเขา  จุดที่พีคซอร์ดทำสัญลักษณ์ไว้  ไม่ค่อยน่าพึงพอใจสักเท่าไร

       "ทำไมไม่หาที่ราบสูงขึ้นไปตั้งค่ายกันล่ะ  การลอบสังหารศัตรูจะทำได้ง่ายกว่ามาก"

       "ยิ่งอยู่สูง  ศัตรูก็ยิ่งมองเห็นได้ง่าย  พวกเรายึดครองได้ไม่นานแน่"

       พีคซอร์ดประเมินสถานการณ์จากขุมกำลังที่มี  ทีมเกาหลีใต้ตอนนี้  นอกจากกริดและยูร่า  นักกีฬาคนอื่นล้วนเรียกได้ว่าต่ำกว่ามาตรฐาน  แผนที่วางไว้จึงต้องรัดกุมกว่าปรกติ

       "..."

       พัคจองฮวาไม่กล่าวสิ่งใดอีก  เขามีความทรนงในตนเองพอสมควร  ดังนั้นเมื่อความเห็นถูกเพิกเฉย  เขาจึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจ

       "พวกเราจะสร้างที่กำบังได้ง่ายขึ้นเมื่อตั้งถิ่นฐานใกล้กับเนินเขาหรือแม่น้ำ  หากเทียบกับที่ราบสูง  โอกาสยึดครองสำเร็จมีน้อย  ฉันคิดว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุดแล้ว"

       ตัวแทงค์เลเวล 233  คยังฮุน  กล่าวเสริมอย่างเห็นด้วยกับพีคซอร์ด  ทางด้านจอมเวทย์เลเวล 220  ซูมิน  และช่างตัดเย็บเลเวล 191 จินฮี  ต่างก็เห็นพ้องต้องกัน

       ในมือกริดและยูร่าไม่ออกความเห็นใด  พวกเขามีแต่ต้องทำตามแผนของพีคซอร์ด

       พีคซอร์ดชี้ไปยังจุด B จากทั้ง 11 จุดบนแผ่นที่

       "จุดนี้นับว่าค่อนข้างดี  เป็นโซนลึกอยู่ในป่า  นักกีฬาสามารถลอบเก็บคะแนนอย่างลับตาผู้คนได้  ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น  พวกเราจะอพยพเข้าไปในป่าทิศเหนือ  หลบเลี่ยงสายตาของศัตรูและยึดจุด B เป็นฐานที่มั่น  หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของจินเฮในการตั้งเต้นท์สร้างแนวป้องกัน"

       "หยุดก่อน..."

       กริดที่นิ่งเงียบมาตลอด  ยามนี้เปิดปากพูดขึ้น  สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องมายังเขา

       "นายมีความเห็นยังไงบ้าง"

       พีคซอร์ดชำเลืองมองกริด  ทั้งกริดและยูร่าต่างมอบหมายให้พีคซอร์ดเป็นคนวางแผนทั้งหมด  แต่ผู้ตัดสินคำขาดคนสุดท้ายคือกัปตันทีมอย่างกริด  นี่คือสิทธิขาดและหน้าที่ของกัปตันทีม

       "ตอนแรกก็ฟังดูดี... แต่ยิ่งได้ฟัง  ฉันก็ยิ่งคิดว่ามันแปลก"       

       "แปลกตรงไหน"

       พีคซอร์ดยังคงไม่เข้าใจคำพูดของกริด

       ชายหนุ่มอธิบายต่อไป

       "หลบเลี่ยงการปะทะแล้วลอบตั้งฐานที่มั่น  หลังจากนั้นค่อยเริ่มเก็บคะแนนงั้นหรือ... พวกเราจะคว้าเหรียญทองด้วยแผนเอ้อระเหยเช่นนี้ได้ยังไง"

       "เหรียญทอง...!"

       ทั้งจองฮวา  คยังฮุน  ซูมิน  และจินเฮ  ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินกริดพูดถึงเหรียญทอง  ด้วยฐานะของเกาหลีใต้  ทีมที่มีเลเวลเฉลี่ยต่ำสุดในการแข่ง  พวกเขาสามารถหวังเหรียญทองได้ด้วยหรือ  ไม่เลย  มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น  กริดจะต้องล้อกันเล่นแน่

       แต่กริดเอาจริง

       "พวกเราต้องการ 400 คะแนนก่อนใครสำหรับคว้าเหรียญทอง  ทำไมถึงต้องเสียเวลาในการหลบเลี่ยงสายตา  เดินทาง  และตั้งฐานด้วย  ในระหว่างนั้นทีมอื่นไม่ทำคะแนนแซงหน้าไปไกลแล้วหรือ  หากมีทีมใดที่เร่งสปีดทำคะแนนตั้งแต่ต้น"

       พัคจองฮวาขมวดคิ้ว

       "หรือนายคิดว่าพวกเราควรเปิดศึกเต็มรูปแบบกับทีมอื่นตั้งแต่ต้นกันล่ะ  นั่นไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายเลยนะ  กริด  นายอาจเก่งกาจมากก็จริง  แต่พวกเราสี่คนไม่ใช่  ทั้งเลเวลและไอเท็มที่มี  พวกเราไม่สามารถเอาชนะนักกีฬาชาติอื่นในการดวลตัวต่อตัวได้เลย  นี่เป็นการแข่งประเภททีม  นายต้องคำนึงถึงภาพรวมทีมด้วย"

       พัคจองฮวาเชื่อมั่นว่า  คำพูดของตนมีเหตุและผลมากพอ  เขาจะไม่มองข้ามในสิ่งที่ตนเองคิดว่าผิด
       
       "พวกเราจะถูกบดขยี้ในพริบตา  ไม่ต้องพูดถึงการถูกรุม  แค่เผชิญหน้ากับทีมสหรัฐ  ทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว"

       กริดแสยะยิ้มทันที

       "ฆ่าตัวตาย... ถูกบดขยี้ในพริบตา... นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่"

       เฮือก...

       แววตาของกริดพลันดุร้ายก้าวร้าวในพริบตา  ใครก็ตามที่ได้เห็นต่างต้องสะดุ้ง  ชายหนุ่มพูดเข้าประเด็นทันที
       
       "ฉันไม่สนว่านายจะดูแคลนฝีมือตนเองขนาดไหน  แต่อย่าได้ดึงผู้อื่นให้ตกต่ำลงไปด้วย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉัน  นายไม่มีวันจินตนาการความแข็งแกร่งของฉันออก"

       กริดหันไปมองพีคซอร์ด

       "ตอบฉันมา  ด้วยแผนของนาย  เกาหลีใต้จะจบอันดับที่เท่าไรในการแข่งทำลายวัตถุ"

       "ที่สามเป็นอย่างมาก"

       พีคซอร์ดมั่นใจในแผนของตน  แม้ค่าเฉลี่ยพลังต่อสู้ของทีมจะต่ำ  แต่ถ้าหากสร้างฐานที่มั่นได้สำเร็จและมีกริดกับยูร่าอยู่  เขามั่นใจมาก  ว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองแดงได้แน่นอน

       เหรียญทองแดง  อันดับสามจากทั้งหมด 32 ประเทศ  ไม่ใช่สิ่งที่น่าเกลียดเลยสักนิด  บางทีชาวเกาหลีใต้อาจไม่มีใครคาดหวังขนาดนี้ด้วยซ้ำ  แต่กริดนั้นต่างออกไป  เขาต้องการเหรียญทอง  ไม่ใช่เพื่อใคร  แต่เพื่อตนเอง  ชายหนุ่มต้องการโลหะแห่งเทพ... อดามันเที่ยม

       "ที่สามงั้นหรือ  ไม่เอาน่า  พวกเราบินได้สูงกว่านั้น  ยูร่าต้องมุ่งเน้นทำลายวัตถุตั้งแต่ต้น  ส่วนพวกนายที่เหลือคอยปกป้องเธอไว้ก็พอ"
       
       "แต่พวกเราจะตกเป็นเป้า..."

       "พวกเราสี่คนจะโดนแร้งเกอร์ระดับสูงจัดการในพริบตา!"

       แร้งเกอร์ระดับสูงที่ทุกคนพูดถึง  พวกเขาหมายถึงผู้เล่นท็อป 80 ของโลก  นักกีฬาที่กลายเป็นคลาสระดับสามเรียบร้อยแล้ว  กริดหันไปพูดกับเหล่าสมาชิกที่เริ่มเสียขวัญ

       "ไม่ต้องห่วง  ฉันจะบดขยี้พวกมันให้สิ้นซากเอง"

       ด้วยประการฉะนี้...

       ***

       "เกาหลีใต้!  สกัดเกาหลีใต้เร็วเข้า!"

       "หมอนั่นเสียสติไปแล้วรึไงนะ..."

       หลังจากสัญญาณการแข่งดังขึ้นไม่นาน  ทีมนักกีฬาจากหลายประเทศต่างพุ่งเข้ารุมล้อมเกาหลีใต้ทันที  ปรากฏการณ์เช่นนี้ย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก  เพราะมีเพียงเกาหลีใต้ประเทศเดียวเท่านั้นที่เริ่มทำคะแนนตั้งแต่ต้น  ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน

       พวกเขากลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของนักกีฬาทุกชาติในพริบตา  โดยทุกคนต่างก็มุ่งหวังจะลดจำนวนคู่แข่งอยู่แล้ว

       "พวกเราก็จะไปด้วย"

       ซีบาลแสยะยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าชาติอื่นต่างมุ่งหน้าไปรุมเกาหลีใต้  มันอยากจะบดขยี้กริดใจจะขาด  เขาคือเสี้ยนหนามที่ทิ่มตำใจซีบาลมาตลอด

       ลอเอลสาดน้ำให้หัวซีบาลเย็นลง

       "ทำไมนายถึงหมกมุ่นกับทีมเกาหลีใต้นัก  ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  ทีมอื่นเข้าไปทำหน้าที่แทนพวกเราตั้งมากมายแล้ว  ใช้จังหวะนี้ยึดครองพื้นที่สูงและเร่งทำคะแนนดีกว่า"

       "อืม..."

       นั่นสินะ...  ทำไมตนต้องยึดติดกับคนๆ เดียวมากขนาดนี้  ตนไม่ควรถูกอารมณ์ครอบงำ  ซีบาลพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนำทีมมุ่งหน้าทำตามแผนเดิม  โดยทั้งสหราชอาณาจักร  รัสเซีย  แคนาดา  อิตาลี  บราซิล  ซี่ปุ่น  และทีมอื่นต่างก็ทำแบบเดียวกัน

       ส่วนทีมที่มุ่งหน้ามาบดขยี้เกาหลีใต้นั้นมีทั้งหมด 11 ประเทศ  ประกอบไปด้วยตุรกีนำโดยบูบัต  และฝรั่งเศสนำโดยบองเดร  เกาหลีใต้กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมหาศาลตามลำพัง

       7 ต่อ 77...

       บูบัตและบองเดรแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

       'ความเสียหายต่อผู้เล่นลดลง 50%'

       'มายาร่ายรำของกริดไม่เป็นอันตรายกับพวกเราแน่'

       'เกาหลีใต้ผู้โง่เขลา... พวกแกต้องถูกส่งออกไปเป็นชาติแรกอย่างน่าอับอาย!'

       ศัตรูทั้ง 77 คนพุ่งเข้าใส่ด้วยสีหน้ายินดีปรีดา  ประหนึ่งแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ  กริดจ้องมองพวกมันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเริ่มรำดาบ  

       บรรยากาศโดยรอบพลันสยดสยองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

       "คลื่นรายรำสังหาร"

[ คลื่นรายรำสังหาร ]
       ทำการรำดาบสามชนิดติดต่อกัน
       สร้างคลื่นดาบ <สังหาร> จำนวนแปดเส้น  โดยทุกเส้นมีความรุนแรง 1,500% พลังโจมตีกายภาพ  พุ่งเข้าใส่ทุกเป้าหมายที่อยู่ในระยะสองเมตร
       เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะมีความเร็วทุกชนิดลดลง 50%
* ทักษะนี้ไม่ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <ร่ายรำ> <สังหาร> และ <คลื่น>
มานาที่ใช้ : 2,000
ระยะหน่วงหลังใช้ : 20 นาที

       ซ่าาาา~!

       ในมือของชายหนุ่มกำลังถือดาบใหญ่กริด  พลังโจมตีอาวุธชนิดนี้สูงกว่ายารุกต์  แถมยังเพิ่มความรุนแรงให้กับทักษะอีก 20%   ก่อเกิดเป็นคลื่น <สังหาร> อันทรงพลังที่สร้างความหวาดกลัวต่อผู้พบเห็น

       'คลื่นร่ายรำสังหารงั้นหรือ'

       'ไม่ใช่มายาร่ายรำสินะ!'

       'ดูทรงพลังกว่ามาก...!'

       ฟุ่บ!

       ฟุ่บฟุ่บ!

       นักกีฬาทุกคนล้วนกระจายตัวออกพร้อมกัน  นี่คือสัญชาติญาณการเอาตัวรอด  แต่นั่นก็สายไปเสียแล้ว  มีทั้งหมดแปดคนที่ตกเป็นเหยื่อของคลื่นร่ายรำสังหาร

       ซู่วววว!

       คลื่น <สังหาร> กำลังพุ่งติดตามพวกมันทั้งแปดประหนึ่งจรวดนำวิถี  

[ ท่านได้รับความเสียหาย 31,300 หน่วย ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการ <ชะงัก> จากการถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]

[ ท่านได้รับความเสียหาย 34,100 หน่วย ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

[ บาเรียอัคคีจะช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้ท่าน 30% เป็นเวลาสิบวินาที ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 19,500 หน่วย ]

[ ท่านใช้งานทักษะ <หมุนตัวสามตลบ> ]
[ การหลบหลีกล้มเหลว ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 37,500 หน่วย ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

...
...

       ซ่าาาา!
       
       ฉากตรงหน้าช่างยิ่งใหญ่อลังการ  อัฒจันทร์สนามกีฬาแห่งชาติสตัด-เดอ-ฟร็องซ์พลันเงียบสงัด  ผู้เล่นแร้งเกอร์แถวหน้าของโลกกลายเป็นแสงสีเทาและถูกล็อกเอาต์ทีละคนสองคน

       "ป--เป็นไปไม่ได้..."

       ในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ  ความเสียหายระหว่างผู้เล่นจะลดลง 50%

       การจะสังหารแร้งเกอร์แถวหน้าของโลกในการโจมตีเดียว...

       'ทำไมถึงได้รุนแรงนัก!'

       พลังโจมตีของกริดได้ก้าวข้ามสามัญสำนึกไปเสียแล้ว

       'ระบบใหม่ไม่มีความหมายเลยรึไง!'

       ไม่ใช่ว่าระบบนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อเนิร์ฟกริดโดยเฉพาะงั้นหรือ  เหตุใดเขายังแสดงพลังทำลายได้รุนแรงเหมือนกับปีที่แล้วอยู่  ในขณะที่บูบัตกำลังตกตะลึงพร้อมอ้าปากค้าง  บองเดรรีบส่งเสียงกระซิบ

       "ใจเย็นก่อน  คนที่ตายไปมีแต่พวกแร้งเกอร์เลเวลต่ำ  หาใช่คลาสระดับสามเช่นพวกเรา  แถมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นคลาสสายทำดาเมจ  กริดเล็งโจมตีเฉพาะศัตรูที่อ่อนแอเท่านั้น"

       ฟังดูสมเหตุสมผลทีเดียว  บูบัตกลับมาเยือกเย็นอีกครั้งพร้อมกับแสยะยิ้ม

       "กริด  ฉันคิดว่านายเพิ่งจะใช้ท่าไม้ตายไปนะ  แต่ดูเหมือนจะมีแค่แมลงเม่าที่เสียชีวิต"

       กริดฉีกยิ้มกว้าง

       "นายเองก็เป็นแมลงเม่าในสายตาฉันเหมือนกัน"

       กริดมุ่งหวังจะเอาคืนหัวหน้าของทั้งเจ็ดกิลด์ใหญ่ที่บังอาจคิดรุกรานเรย์ดันอยู่แล้ว  ไอ้พวกบัดซบที่กล้าลอบโจมตีเมืองแสนรักในตอนที่ตนไม่อยู่

       "วิชาดาบแพ็กม่า"

       ฟุ่บ!

       กริดพุ่งทะยานไปด้านหน้าพร้อมกับรำดาบ  บูบัตรีบตั้งแนวป้องกันด้วยทักษะของตน  แต่กริดกลับไม่ได้ใช้ทักษะใดออกไป

       "หลอกน่ะ... เจ้างั่ง"

       "อะไรนะ...!"

       กริดพุ่งผ่านบูบัตเข้าไปประชิดตัวบองเดร  บองเดรพลันตื่นเต้นดีใจเมื่อได้เผชิญหน้ากริดอีกครั้ง  ความอับอายสี่วินาทีในอดีต  จะมีใครบ้างที่เข้าใจหัวอกอันบอบช้ำของตนเมื่อปีที่แล้ว  ตอนนี้คือโอกาสทองในการเอาคืนให้สาสม  บองเดรใช้เวลาหนึ่งปีเต็มฝึกฝนอย่างหนัก  เพื่อรอคอยจังหวะนี้มาโดยตลอด

       "หอกน้ำแข็งร่ำไห้!"

       แกร๊ก!

       แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก!

       "...!"

       ผู้ชมเรือนแสนต่างตกตะลึงกับฉากตรงหน้า  บองเดรพุ่งตัวลอยขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับปล่อยสายฝนหอกน้ำแข็งอันแหลมคมใส่กริดในเวลาเดียวกัน  

       "ไอ้บัดซบบองเดร!"

       นักกีฬาจากชาติอื่นส่งเสียงสาปแช่งบองเดรอย่างเดือดดาล  พวกเขาล้วนกำลังรวมหัวโจมตีใส่ทีมเกาหลีใต้  แต่เวทย์มนต์วงกว้างของบองเดรกำลังสร้างความเสียหายต่อทุกคนไม่น้อย  แม้จะเป็นพัฒมิตรชั่วคราว  บองเดรก็ไม่ละเว้น

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 8,900 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,500 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความ... ]
...
...

       "วะฮ่าฮ่า!  หึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"

       บองเดรปลามปลื้มกับข้อความระบบจำนวนมากที่แสดงขึ้น  มันภาคภูมิใจในสุดยอดเวทย์มนต์ของตนมาก  บองเดรมั่นใจว่า  อีกไม่นานกริดจะต้องตายด้วยเวทย์มนต์ชนิดนี้

       <หอกน้ำแข็งร่ำไห้> คือเวทย์ที่สามารถใช้งานได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่มีมานามากพอ  สิ่งนี้ส่งผลให้บองเดรสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างยิ่งเวลาผ่านไป  แต่กลับมีข้อความอยู่ชุดหนึ่งบนหน้าต่างข้อความระบบที่รบกวนจิตใจมันมาก

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 3,100 หน่วย ]
[ เป้าหมายลดทอนความเสียหาย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,900 หน่วย ]

       "หมายความว่ายังไง..."

       แต่เพียงไม่นาน  บองเดรก็ตระหนักได้ว่า  มีใครบางคนได้รับความเสียหายจากเวทย์มนต์น้อยกว่าที่ควร...  และคนผู้นั้นจะต้องเป็น...  

       "กริดดดดด!!"

       "บิน...  สังหาร!"

       เปรี้ยง!

       เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกจากหน้าอกบองเดรอย่างสยดสยอง  ห่าฝนหอกน้ำแข็งถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน  คมหอกปะทะกับเข้าเซ็ตไอเท็มที่มีค่าต้านทานเวทย์มนต์สูงที่สุดในเกม...

       เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. เอ้อ...........ค้างงงงงงงงงงง

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00