จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 426
『 งานแข่งในปีนี้ได้ลดจำนวนของผู้เข้าแข่งแต่ละประเทศลงให้เหลือเพียงเจ็ดคน 』
『 ดังนั้น การแข่งชิงปราสาทจึงมีการปรับเปลี่ยนกฏกติกาบางส่วน 』
『 เอาล่ะครับ ในเมื่อการแข่งชิงปราสาทจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ พวกเรามาทราบรายละเอียดของกติกาใหม่กันดีกว่า 』
ชิงปราสาทคือการแข่งประเภททีม นักกีฬาทั้ง 224 คนจาก 32 ประเทศล้วนถูกบังคับให้ลงแข่ง รูปแบบการแข่งจะเป็นแบบทัวร์นาเม้นต์ จับคู่ทีมดวลกัน ใครแพ้ตกรอบทันที การประกบคู่จะใช้วิธีจับสลาก
『 กติกาส่วนใหญ่จะเหมือนกับปีที่แล้ว แต่มีเพิ่มเติมเข้ามาอีกหนึ่งปัจจัยก็คือ ทุกทีมจะได้รับเอ็นพีซีเลเวล 300 จำนวน 50 คน ผู้จัดการแข่งต้องการให้สงครามชิงปราสาทมีความยิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยยุทธวิธีอันหลากหลายมากยิ่งขึ้น 』
『 เอ็นพีซีเลเวล 300 หมายถึงการที่พวกเขาทุกคนล้วนเป็นคลาสระดับสาม ตัวตนของคลาสระดับสามนั้นสำคัญมาก เพราะจากผู้เข้าแข่งทั้ง 224 คน มีเพียง 47 คนเท่านั้นที่เป็นคลาสระดับสาม 』
『 ถูกต้องครับ หัวใจสำคัญของสงครามชิงปราสาท อยู่ที่ว่าแต่ละทีมจะจัดสรรให้เอ็นพีซีมีบทบาทอย่างไรบ้าง โดยความสำคัญของฝีมือต่อสู้นักกีฬาจะลดบทบาทลงไปหลายระดับ 』
『 คุณสามารถเป็นได้ทั้งจอมบงการที่คอยลอบทำลายฐานที่มั่น หรือเป็นจอมบดขยี้ที่สังหารทีมศัตรูจนราบคาบ... ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้าแล้วครับ และสองทีมเต็งในสายตาของผมก็คือ... 』
『 ทีมสหรัฐและญี่ปุ่นครับ ทีมสหรัฐมีสุดยอดมันสมองด้านกลยุทธอย่างลอเอล ส่วนทีมญี่ปุ่นมีสุดยอดบัฟและฮีลจากดาเมี่ยน 』
『 กลยุทธของลอเอลและบัฟของดาเมี่ยน... ใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไป... ผมคิดว่าดาเมี่ยนมีภาษีดีกว่านะครับ เพราะถึงแผนของทีมสหรัฐจะดีแค่ไหน แต่กองทัพที่มีบัฟของดาเมี่ยนนั้นไม่มีทางถูกโค่นลงได้ง่ายนัก 』
『 พวกเราไม่ควรมองข้ามบูบัตแห่งตุรกี แม้บูบัตจะพ่ายกริดครั้งแล้วครั้งเล่าในการดวล แต่หากเป็นสงครามเต็มรูปแบบล่ะก็ คอมโบกระหน่ำอาการผิดปรกติเป็นวงกว้างจะต้องเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแน่นอนครับ 』
『 แคนาดาเองก็เป็นตัวเต็งที่มองข้ามไม่ได้เลยครับ ด้วยความเป็นสุดยอดตัวแทงค์ของแวนเนอร์ เขามีทักษะยั่วยุหมู่ และทนรับการโจมตีจากศัตรูได้นาน หากมีพลังทำลายของคริสเสริมเข้าไป แคนาดาสามารถกวาดเอ็นพีซีจำนวนมากได้ในคราวเดียว 』
『 ชาติที่เป็นตัวเต็งเหรียญทองมีทั้งหมดห้าทีมสินะครับ... 』
『 แล้วรัสเซียกับเกาหลีใต้ล่ะครับ พวกเขามีครอเกลและกริด 』
『 ฮะฮะ... นั่นเป็นไปไม่ได้เลย แม้พวกเราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งครอเกลและกริดแข็งแกร่งมากก็ตาม 』
『 แต่ในการประจัญบานระดับกองทัพ บัฟและกลยุทธคือสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศยังขาดไป 』
『 หากเอ็นพีซีระดับสามคอยรุมล้อมกริดและครอเกลไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งเกาหลีใต้และรัสเซียก็จะพ่ายแพ้ในพริบตา 』
『 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักกีฬาทีมเกาหลีใต้ที่เหลือนั้นค่อนข้างอ่อนแอ... บางทีอาจไปไม่ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ 』
การแข่งวันที่สองจบลง ยูร่าและจิสึกะได้มายังห้องกริดตามที่ประกาศไว้ โดยทั้งคู่มาด้วยจิตใจอันแสนบริสุทธิ์ พวกเธอคว้าเหรียญทองได้ จึงอยากให้คนที่ตนเองชอบกล่าวคำชมเชย และใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพื่อคุยเล่นอย่างมีความสุข ตรงกันข้ามกับจิตใจอกุศลของผู้ชายทั่วโลกโดยสิ้นเชิง
ใช่แล้ว พวกเธอทั้งสองไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน ทำให้ทุกสิ่งกระทำลงไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่โชคดีที่กริดเข้าใจเจตนาของหญิงสาวทั้งคู่เป็นอย่างดี เขาไม่เคยคิดว่าสาวงามของโลกจะมาหลงรักตนอยู่แล้ว บาดแผลทางจิตใจจากรักแรกอย่างอาอยางนั้นรุนแรงมาก เขาไม่เหลือความมั่นใจด้านความรักอีก คิดว่าทั้งจิสึกะและยูร่าเพียงต้องการมาอยู่เป็นเพื่อนและคอยฉลองเหรียญทองอย่างมีความสุขร่วมกันเท่านั้น เพราะทุกคนคือชาวโอเวอร์เกียร์ คือสหายร่วมรบที่มีค่าต่อเขามาก
กริดไม่กล้าคิดไปไกลกว่านี้...
ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาและดูทีวีร่วมกับสองสาวสวยโดยไม่รู้สึกประหม่า ถึงขนาดเคี้ยวปลาหมึกแห้งอย่างสบายใจเฉิบ
"..."
พวกเธอทำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เกิดอารมณ์อีกงั้นหรือ... ยูร่าสวมเดรสบางสีขาว ชายกระโปรงยาวถึงข้อเท้า ออร่าความงดงามอันแสนใสซื่อบริสุทธิ์กำลังเฉิดฉายอย่างแรงกล้า ส่วนจิสึกะมาในชุดเดรสสุดเซ็กซี่ที่เธอชื่นชอบ เรื่องความเย้ายวนไม่ต้องพูดถึง ตรงตามสเป็คที่กริดชอบแน่นอน ทั้งคู่พยายามอย่างหนักเพื่อดึงดูดสายตากริด แต่ชายหนุ่มกลับกำลังเกาพุงดูทีวีด้วยเสื้อยืดกางเกงขาสั้น หาได้แยแสเลยสักนิด
ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม กริดได้เปิดปากพูดขึ้นเมื่อข่าวในทีวีกำลังวิเคราะห์เจาะลึก
"ไม่ว่าจะพยายามหาทางออกยังไง... แต่การคว้าเหรียญทองในสงครามชิงปราสาทก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด"
กริดรู้จักจุดแข็งของดาเมี่ยนและลอเอลดีกว่าใครในโลก เขารู้ดียิ่งกว่าผู้บรรยาเสียอีก ลอเอลทำงานกับตนมานานแรมปี หากเป็นการแข่งชิงปราสาทล่ะก็ เขาไม่พบหนทางที่จะเอาชนะทีมสหรัฐและญี่ปุ่นได้เลย จิสึกะเอนศีรษะของตนมาพิงแขนกริดและตอบกลับไปว่า
"ทำไมถึงรีบถอดใจนักล่ะ"
กริดคือผู้ที่เล็งจุดสูงสุดของซาทิสฟายเอาไว้ ในอนาคต เขาจะเป็นตัวตนที่ได้ครอบครองทุกสิ่ง จิสึกะคิดว่าชายที่ยิ่งใหญ่ไม่ควรรีบถอดใจตั้งแต่ต้น ควรลองพยายามอย่างเต็มที่ดูเสียก่อน แต่ในขณะเดียวกัน หน้าอกอันใหญ่สะบึมและนุ่มนิ่มของจิสึกะได้ไหลมาชนต้นแขน กริดพลันหน้าแดงอย่าเขินอายและหันไปกระแอมใส่ยูร่าที่กำลังมองจิกด้วยสายตาเย็นชา หลังจากนั้นเขาก็หยิบปลาหมึกแห้งใส่ปากเคี้ยวอย่างหน้ามึนและพูดต่อไปว่า
"ฉันรู้จักบัฟของดาเมี่ยนดี... เราเคยปาร์ตี้กันมาก่อน และความโกงนั่นเป็นของจริง ถ้าหากมันถูกมอบให้กับเอ็นพีซีระดับสามทั้ง 50 ตัวล่ะก็..."
เป็นราวกับพยาเสือติดปีกก็มิปาน กองทัพปีศาจจะถือกำเนิดขึ้น ไม่ว่าคิดจนหัวระเบิดสักเพียงใด กริดไม่อาจก็หาวิธีเอาชนะบัฟนั่นได้
"ยองวู ถ้าอย่างนั้น นายคิดว่าญี่ปุ่นจะชนะสงครามชิงปราสาทงั้นหรือ"
กริดพยักหน้าให้กับคำถามของยูร่า
"ถ้าไม่ใช่ญี่ปุ่นก็คงเป็นสหรัฐ"
สนามแข่งสงครามชิงปราสาทในปีนี้คือแม็ปผืนป่าอันเทอราว่า ปราสาทขนาดยักษ์สองหลังประจัญหน้ากันอยู่ในแต่ละฝั่ง กึ่งกลางมีผืนป่าขนาดใหญ่และหนาทึบคั่นอยู่ อุปสรรคบนถนนมีหลากหลายชนิด ทั้งถนนที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์หนามแหลมยากจะตัดออก ถนนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนายากจะมองเห็น และถนนที่เต็มไปด้วยบึงหนองน้ำซึ่งลดความเร็วลง นอกเหนือจากถนนแล้ว ผืนป่าทึบคือจุดที่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ ดังนั้นการเดินทางไปมาระหว่างสองปราสาทจึงมีเพียงถนนแปดเส้น
หรือกล่าวโดยสั้น มีถนนแปดเส้นสำหรับไปมาหาสู่กันระหว่างปราสาทสองหลัง นั่นยิ่งทำให้ฝีมือด้านกลยุทธ์ของลอเอลเจิดจ้าเต็มพิกัด
'ผลน่าจะเป็นเช่นนั้น... นอกเสียจากทีมสหรัฐและญี่ปุ่นเจอกันเองในรอบแรกๆ'
แต่ถ้าไม่ล่ะก็ กริดสันนิษฐานให้ทั้งสองทีมเป็นคู่ชิงของปีนี้
"แล้วเกาหลีใต้ล่ะ"
จิสึกะเอ่ยปากถามในขณะที่กริดกำลังครุ่นคิดด้วยสีหน้าตึงเครียด...
"ก็ตามที่ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์... เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ก็หรูแล้ว"
ยูร่าเองก็ไม่ปฏิเสธ ทีมเกาหลีใต้ในปัจจุบัน หากต้องการชนะการแข็งประเภททีมล่ะก็ มีแต่ต้องให้กริดแบกทีมจนหลังหักเท่านั้น ทว่าเอ็นพีซีคลาสระดับสามที่มากถึง 50 คน ออกจะเกินกำลังกริดไปสักหน่อย
"นั่นสินะ... บราซิลก็คงไม่ต่างกัน"
บราซิลถูกจัดให้เป็นทีมรองบ่อนในซาทิสฟายเสมอ แถมจิสึกะก็ยังเป็นผู้เล่นคลาสทั่วไป และไม่ได้มีศักยภาพในการแบกทีมสูงเท่ากริด
สวบ...
จิสึกะลุกขึ้นยืนจากโซฟาพร้อมกับรอยยิ้มขมขื่น เธอมองไปรอบๆ ห้องของกริดอย่างถี่ถ้วน โดยหวังว่าจะมีเบาะแสในสิ่งที่กริดสนใจอยู่บ้าง
"ฮิฮิ... เตียงใหญ่เหมือนกันนะว่าไหม ไม่ใช่เตียงที่เหมาะจะนอนคนเดียวเลยสักนิด"
วันนี้เป็นวันที่หนักหนาสำหรับจิสึกะ การแข่งจับหมูนั้นใช้พลังทางสมาธิสูงมาก เธอต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศบราซิลและโอเวอร์เกียร์ จิสึกะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่อย่างหมดเรี่ยวแรงโดยปราศจากความคิดเชิงชู้สาว เพียงไม่นานเธอก็หมดแรงหลับไป
"...เอาจริงดิ"
"..."
กริดพลันทำตัวไม่ถูก ส่วนยูร่าก็กำลังประหม่าสุดขีด เธอกังวลว่า ถ้ากลับห้องไปตอนนี้อาจแพ้จิสึกะเอาได้ ยูร่าจึงขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับจิสึกะและหลับไป ทำให้กริดต้องนอนบนโซฟาโดยปริยาย ด้วยความสัตย์จริง ชายหนุ่มต้องการเสพสุขกับบรรยากาศหรูหราที่ได้นอนเคียงข้างสองสาวงามในอ้อมกอด แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ต้องการเสี่ยงตกเป็นผู้ต้องหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศ
***
ณ โถงทางเดินยาวบนชั้นสามของโรงแรงแชง-X-ลีล่า
ชายคนหนึ่งกำลังซ่อนตัวและด้อมๆ มองๆ ไปยังประตูห้องของกริด มันคือกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา ซีบาล ผู้เล่นอันดับสองของโลก
"ชิ...! กริดได้นอนกับสองคนนั้นจริงหรือเนี่ย..."
ซีบาลเองก็เป็นผู้ชาย การชื่นชอบสาวงามมิใช่สิ่งผิดปรกติ เฉกเช่นชายหนุ่มทั่วโลก ซีบาลก็แอบปลื้มทั้งจิสึกะและยูร่าอยู่ไม่น้อย แต่การจีบพวกเธอให้สำเร็จนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย และอันที่จริง แม้จะไม่เคยบอกใครมาก่อน แต่ซีบาลเคยถูกสองสาวปฏิเสธมาแล้ว
แล้วกริดเป็นใครกัน...! ชายที่ดูแย่กว่ามันในทุกด้าน กลับกำลังมีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับสองสาวงาม! จิสึกะและยูร่าเข้าไปในห้องกริดนานเกินกว่าสามชั่วโมงแล้ว และยังไม่มีใครออกมาเลย ซีบาลจับตามองประตูห้องอยู่ตลอด มันจึงไม่อาจเข้าใจได้เลย ว่าทำไมหญิงงามทั้งคู่ถึงตกหลุมรักกริดได้
'นายมัน... จะมากเกินไปแล้ว!'
มีสุดยอดไอเท็มในเกมไม่พอ ในชีวิตจริงยังมีเรี่ยวแรงมหาศาลหลายยกด้วยงั้นหรือ... ในขณะที่ซีบาลรู้สึกอิจฉาสุดขีด มีมือปริศนาได้สัมผัสเข้ากับหัวไหลของมันอย่างน่าขนลุก เมื่อซีบาลหันไปมอง ก็พบว่าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลอเอล
"ฉันจับตาดูนายมาสักพักแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นพวกถ้ำมอง"
"ฉันไม่ใช่ถ้ำมอง! คิดอะไรของนายอยู่เนี่ย..."
"ช่างเถอะ ใจเย็นก่อน ฉันไม่สนหรอกนะว่านายป่วยเป็นโรคอะไร แต่ช่วยมาที่ห้องฉันด้วย"
"ทำไมกัน"
"ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ หรือนายคิดจะแอบดูกริดไปทั้งคืนแบบนี้รึไง... ขอเพียงได้เห็นขาอ่อนที่เปลือยเปล่าของจิสึกะกับยูร่าแค่เพียงครู่เดียวก็ยังดีงั้นหรือ... คุคุคุ!"
"ไม่ใช่สักหน่อย! ทำไมฉันถึงต้องไปที่ห้องนายด้วย"
"ฉันกำลังจัดประชุมสงครามชิงปราสาทในวันพรุ่งนี้ที่ห้อง"
"อ้อ...!"
ซีบาลถูกความริษยาบังตาจนมองเรื่องง่ายๆ ไม่ออก ลอเอลเดินตามมันเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับขบคิดเรื่องสงครามชิงปราสาท
'มีหลายร้อยยุทธวิธีในการรบวันพรุ่งนี้...'
รวมไปถึงวิธีกำราบญี่ปุ่นและแสร้งทำเป็นต่อสู้อย่างสูสีกับรัสเซียด้วย ลอเอลต้องการให้ทุกอย่างราบรื่นโดยเผชิญหน้ากับรัสเซียในรอบชิง และเป็นฝ่ายรัสเซียที่คว้าเหรียญทองไป เหตุผลนั้นง่ายมาก เขาต้องการใช้เหรียญทองซื้อใจครอเกลให้เข้าร่วมโอเวอร์เกียร์
แต่ลอเอลก็ยังคาใจว่า ทีมรัสเซียแข็งแกร่งพอที่จะไต่เต้ามาถึงรอบชิงได้รึเปล่า แม้ขุมกำลังทีมโดยรวมจะเก่งกาจกว่าที่ลอเอลประเมินไว้ตอนแรกมาก แต่กับด้านกลยุทธนั้นเป็นคนละเรื่องกัน
'ถ้ารัสเซียต้องพบกับญี่ปุ่นหรือตุรกีจนตกรอบไปก่อน คงน่าเสียดายไม่น้อย'
แม้กระทั่งลอเอลผู้เทิดทูนบูชากริดเฉกเช่นฮิวรอยและดาเมี่ยน ในยามนี้ เขาก็ไม่มั่นใจในศักยภาพของทีมเกาหลีใต้เลยสักนิด สงครามขนาดใหญ่ที่กลยุทธ์คือสิ่งจำเป็น เกาหลีใต้คงทำอะไรไม่ได้มากนัก
***
『 งานแข่งซาทิสฟายที่ผู้คนทั่วโลกตั้งตารอคอย... บัดนี้ย่างเข้าสู่วันที่สามอย่างเป็นทางการแล้วครับ! 』
『 วันที่สามจะมีการแข่งเพียงประเภทเดียวเองสินะครับ... สงครามชิงปราสาท 』
『 ถูกต้องครับ ด้วยความที่เป็นทัวร์นาเม้นต์ประเภททีม ระยะเวลาการแข่งจึงนานกว่าปรกติมาก 』
『 กัปตันทีมของทุกชาติเริ่มขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วครับ 』
『 ทุกคนต้องจับสลากเพื่อระบุคู่แข่งของตนเอง 』
『 กัปตันทีมที่จับได้สหรัฐหรือญี่ปุ่น... เพื่อนร่วมทีมคงโกรธเคืองกันไปอีกนานเลยล่ะครับ ฮะฮะ! 』
ใครจะมือทอง ใครจะมือเน่า ทั่วโลกต่างกำลังรับชมอย่างลุ้นระทึก หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว สุดยอดมือเน่าของโลกก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ ชายผู้มากับความซวยอย่างหาที่สุดมิได้ แน่นอนว่าต้องเป็น...
"...ฉันขอโทษ"
เป็นกริด
กริดจับสลากได้ทีมสหรัฐ ชาวเกาหลีใต้พลันผงะไปพักใหญ่ กริดผู้เคยองอาจและปราศจากความกลัว แต่ยามนี้กำลังคอตกสุดขีด เหงื่อไคลไหลแตกพลั่กเป็นสายน้ำ เขาอยากหันไปขอโทษทุกคนจากใจจริง
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteไม่ได้อ่านละจะนอนไม่หลับ ขอบใจนะ
ReplyDeleteเบื่อตัวเอกซื่อบื่อ เซ่อด้วย
ReplyDeleteเบื่อก็ไม่ต้องอ่านไม่ได้แต่งมาเพื่อมึง
Deleteใจเย็นๆค้าบบ แค่นี้ก็ถือว่าพัฒนามาเนอะแล้วนาา
Deleteสรุปตอนนี้อ่าน จบยังรู้สึกไงบ้าง ส่วนตัวผมชอบแนวนี้ฮาดี กลับมาอ่านรอบ 2 ทำให้เปิด มุมมองฉากในนิยายเพิ่มมาก จุดที่ขาดหายก็หายไปเลย แต่บ้างส่วนก็้เอามาเติมตอนท้าย
Delete