จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 216


       9 วันก่อนหน้านี้

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้หาวิธีเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดเพื่อรุดหน้ามาเรย์ดันก่อนกริด  แต่สิ่งที่พวกเขาพบเจอคือความผิดหวังอย่างใหญ่หลวง

       เมืองใหญ่อันดับหนึ่งในดินแดนตะวันตก  เรย์ดัน  หากดูจากแผนที่  ขนาดของมันจะใหญ่เป็นอันดับสองของอาณาจักร  เป็นรองเพียงไรน์ฮาร์ทเท่านั้น  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันคาดหวัง  แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบพาน  มันกลับดูคล้ายกับซากปรักหักพังมากกว่า

       "เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

       "เมืองใหญ่ขนาดนี้  แต่กลับไม่มีอะไรเลยได้ยังไง?"

       "ร้านค้าปิดหมด  ประตูผุพัง  และขอทานเต็มถนน..."

       "ฟาร์มไม่ต่างอะไรกับผืนดินแห้งกรัง"

       "หากมองดูให้ดี  จำนวนประชากรไม่น้อยไปหน่อยหรือ?"

       ฮิวรอย  ลอเอล  และเฟคเกอร์  มีเพียงสามคนนี้เท่านั้นที่ยังสุขุมเยือกเย็นอยู่ได้  ส่วนสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือต่างพากันบ่นอุบอิบ  พวกเขากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเปิดหน้าต่างรายละเอียดขึ้นมาอ่าน

ชื่อ : เรย์ดัน
ขนาด : เมืองใหญ่
ผู้ปกครอง : กริด ( ดยุคแห่งอีเทอนัลและหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์)
เทศมนตรี : อาริก ( ทักษะบริหารเกรด C )
* ยิ่งเทศมนตรีมีระดับทักษะบริหารสูง  เมืองก็จะยิ่งพัฒนาได้รวดเร็วขึ้น
ขึ้นตรงต่อ : อาณาจักรอีเทอนัล
ประชากร :
- เอ็นพีซี 20,551
- ผู้เล่น 0
กองกำลังประจำการ :
- อัศวิน 2 (ฮิวรอย, ลอเอล)
- ทหาร 141
ระดับความปลอดภัย : 5/100
_______
* ค่าความปลอดภัยของดินแดนอยู่ในระดับต่ำมาก  คงไม่แปลกเลยหากประชาชนจะออกมาต่อต้าน  กลุ่มนักเลงและมอนสเตอร์จะปรากฏตัวบ่อยครั้งใกล้กับเขตเมือง
* ค่าความปลอดภัยจะเปลี่ยนแปลงทุกชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกองกำลังประจำการ
* ไม่มีการจัดสรรอาชีพและอาหารให้ชาวบ้าน  นโยบายทางการเมืองก็ไม่มี  แม้กระทั่งตำรวจในเมืองก็ยังไม่มี
_______
กิจการภายใน : 169/4,500
* การเพิ่มจำนวนห้างสรรพสินค้า  สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ  และตึกใหญ่ต่างๆ จะช่วยเพิ่มค่ากิจการภายใน
กิจการภายนอก : ค้าขายกับเมือง <บูติน บาโรนี่> ของจักรวรรดิซาฮารัน
_______
ปรปักษ์โดยบังคับ : วิหารยาธาน
ปรปักษ์ร่วม :
- อาณาจักรเก๊าส์
- รัฐลูเวีย
ผลผลิตพิเศษ : ไม่มี
เอ็นพีซีพรสวรรค์ : ไม่มี

       "แย่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ"

       "ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น" 

       ในขณะเดินทางจากวินสตันมายังเรย์ดัน  สมาชิกกิลด์ได้ปะทะกับมอนสเตอร์ตะวันตกมากมาย  พวกเขาหมายจะล่าให้สาแก่ใจโดยใช้รถม้าเป็นเหยื่อล่อ  การล่าเป็นไปอย่างราบรื่น  ค่าประสบการณ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย  พวกเขาจึงคิดว่า  เรย์ดันคือเมืองสวรรค์ที่ควรค่าแก่การอยู่อาศัย

       ทว่า  ฮิวรอย  ลอเอล  และเฟคเกอร์  สามคนนี้ไม่คิดเช่นนั้น  การที่มอนสเตอร์ระหว่างทางแข็งแกร่งย่อมเป็นปัญหาหลัก  ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางมาถึงที่นี่ได้แน่  ดินแดนแห่งนี้จะต้องมีอัตราเติบโตที่ต่ำ  

       แต่ความจริงกลับโหดร้ายยิ่งกว่านั้น

       "เมืองใหญ่ที่สามารถจุคนได้ 5 แสน… แต่กลับมีประชากรอาศัยแค่ 2 หมื่นเท่านั้นเองหรือ?"

       "ที่แย่ยิ่งกว่า  ไม่มีผู้เล่นเลยสักคน"

       "ความสำคัญอันดับหนึ่งคือการจ้างทหารเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย"

       ในปัจจุบัน  กิลด์โอเวอร์เกียร์มีเงินในคลังอยู่ 5 ล้านเหรียญทอง  เงินจำนวนนี้  หากตกอยู่ในมือคนใดคนหนึ่งอาจดูมีมูลค่ามหาศาล  แต่พอเป็นเงินกิลด์  มันไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น  เมืองใหญ่อย่างเรย์ดัน  ด้วยจำนวนเงินแค่ 5 ล้าน  ย่อมไม่มีทางพัฒนาความแห้งแล้งและรกร้างนี้ได้แน่

       แล้วพวกเขายังต้องลงทุนเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกงั้นหรือ?  ดินแดนเช่นนี้จะสามารถผลิตอาหารขึ้นเองได้รึเปล่านะ?  ดูเหมือน  แม้แต่ขนมปังบาร์เล่ย์ง่ายๆ ก็ยังไม่อาจทำได้ด้วยซ้ำ  ทางเดียวคือการนำเข้าวัตถุดิบมาจากเมืองอื่น  แต่หากพ่อค้าคนใดรู้สถานการณ์เมืองนี้ดี  คงไม่มีใครกล้านำสินค้าเข้ามาขายในเรย์ดันแน่

       'แถมค่าขนส่งที่น่าจะมีมูลค่ามหาศาลนั่นอีก...'

       ลอเอลคำนวนขั้นต่ำไปว่า  อาหาร 1 มื้อของ 1 คนจะมีราคา 3 เหรียญเงิน  หมายความว่าประชากร 2 หมื่นในตอนนี้  ทุกมื้อจะต้องใช้เงิน 600 เหรียญทองในการเลี้ยงดู  นี่เป็นเพียงมื้อเดียวเท่านั้น  จะต้องหมดกับค่าอาหารไปกี่แสนเหรียญทองกัน  จนกว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์จะแก้ไขปัญหาปากท้องนี้ได้

       แต่ลอเอลก็ไม่มีความคิดที่จะขับไล่คนเหล่านี้ออกไป  เขารู้สึกสงสารชาวบ้านที่ผอมแห้งงั้นหรือ?  เปล่าเลย  ลอเอลมองว่า  กำลังคนคือสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง  ก่อนอื่นก็ต้องทำให้มีคุณภาพเสียก่อน  หลังจากนั้นพวกเขาก็จะช่วยแบ่งเบาเรื่องแรงงานก่อสร้างและรักษาความปลอดภัยได้  

       ไม่มีทางเลือกอื่นให้ตัดสินใจอีกแล้ว

       "เมื่อทำให้ชาวบ้านพร้อมใช้งานได้เมื่อไร  สั่งให้พวกเขาเคลียฟาร์มซะ"

       "แต่นายท่านยังไม่ได้สั่งให้ทำอะไรเลยนะ?"

       ฮิวรอยเป็นกังวล  เขาเองก็คิดเช่นกันว่า  ประชากรคือสิ่งสำคัญที่สุดของเมือง  แต่ฮิวรอยก็อดสงสัยไม่ได้ว่า  คนอย่างกริดจะเข้าใจเรื่องแบบนี้รึเปล่า?  กริดอาจสงสัยว่า  ทำไมเราต้องสูญเงินไปกับค่าอาหารของผู้อื่นมากมายด้วย

       ลอเอลหันไปกล่าวกับฮิวรอยที่กำลังเป็นกังวล

       "เกาหลีใต้มีภาษิตอยู่ว่า  คนเกาหลีใต้จะไม่เลิกทำโคชูจังเพียงเพราะมีหนอนขึ้น"

(ผู้แปล : โคชูจัง - ซอสเผ็ดเกาหลี  ใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด)

(ผู้แปล : ส่วนเรื่องสำนวนว่ามีจริงไหม  อันนี้ลองค้นคว้าข้อมูลดูก็ไม่พบ   แต่ทางผู้แปลอังกฤษแปลมาตามนี้  จึงต้องใส่ลงไป
       โดยส่วนตัวคิดว่า  โคชูจังนั้นเกิดจากการหมัก  ขั้นตอนนี้อาจมีหนอนขึ้น  แต่อย่าได้ไปสนใจ  การจะทำอะไรย่อมต้องมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง  อย่าได้เก็บมาใส่ใจทั้งหมด
       ผมตีความได้แบบนี้นะครับ  อันนี้แปลจากบริบทที่ลอเอลทำสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์โดยไม่ยอมบอกกริดล่วงหน้า
โดยเปรียบดังนี้
- การหมักโคชูจัง หมายถึงผลลัพธ์  นั่นคือการพัฒนากิลด์โอเวอร์เกียร์
- ส่วนหนอน หมายถึงสิ่งที่ขัดขวางความสำเร็จ  ลอเอลหมายถึงตัวกริด
       หรือใครมีข้อมูลยังไงก็แบ่งปันได้ครับ)       

       ลอเอลเชื่อมั่นว่า  นี่คือทางเดินที่ถูกต้องที่สุดแล้ว  แม้อาจจะขัดกับความพอใจของกริดก็ตาม  แต่ในฐานะรองหัวหน้ากิลด์  ลอเอลมุ่งหวังจะพัฒนาโอเวอร์เกียร์จากใจจริง  ทว่า  คำพูดเมื่อครู่ออกจะเป็นการเปรียบเปรยที่ไม่เข้าหูฮิวรอยสักเท่าไร

       เมื่อฮิวรอยได้ยินดังนั้น  เขาจึงโกรธเป็นฟืนไฟทันที

       "นายอย่านำนายท่านไปเปรียบกับหนอน!"
       
       "เปล่า!  ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น"

       ลอเอลพลันเหงื่อแตกทันที  เขาพยายามทำให้ฮิวรอยใจเย็นลง  ส่วนอีกด้านหนึ่ง  เฟคเกอร์ที่เมื่อครู่ยังยืนอยู่ข้างคนทั้งสอง  ยามนี้ได้พุ่งตัวผ่านเศษละอองฝุ่นสีเหลืองในอากาศและมุ่งหน้าไปยังปราสาท

       ***

       "ทำไมพวกแกถึงไม่รีบออกไปต้อนรับทันทีที่ทราบข่าวว่าคนของลอร์ดใหม่เดินทางมาถึงแล้ว?  มันไม่ช้าไปหน่อยรึไง?"

       "ร--เรื่องนั้น… ผมกลัวว่าจะถูกชาวบ้านปาหินใส่หากออกจากปราสาทไป  ก็เลย..."

       "น่าสมเพช  สวมทั้งเกราะและดาบ  แต่กลับหวาดกลัวก้อนหินงั้นรึ?  พวกแกใช้การไม่ได้เอาซะเลย  ชิ!"

       ชายวัยกลางคนร่างท้วมกำลังรีบเดินออกมาจากทางเข้าปราสาทพร้อมกับทหาร  หมูมันเมือกตัวนี้มีชื่อว่า <อาริก>  เทศมนตรีคนปัจจุบันของเรย์ดัน  มันมียศเป็นขุนนางชั้นบาโรเน็ต (Baronet - ต่ำกว่า บารอน แต่คนละอันกับ บาโรเนส - Baroness ซึ่งเป็นบารอนหญิง  ยศเก่าของจิสึกะ)  

       เมื่อสบโอกาส  เฟคเกอร์รีบใช้มีดสั้นจี้เข้าไปยังคอหอยของอาริกทันที

       "อึ๋ย!"

       อาริกร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นเงาลางของใครบางคนท่ามกลางฝุ่นสีเหลือง

       "ก--แกเป็นใครกัน!?"

       เฟคเกอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยียบ

       "คนที่มีคำถามกับแกมากมายยังไงล่ะ"

       "อะไรนะ...?  หยาา~!"

       เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา  เฟอเกอร์และอาริกหายไปจากความว่างเปล่าท่ามกลางเศษฝุ่นละอองสีเหลือง  ราวกับทั้งสองไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน  

       "ท--เทศมนตรีอาริก?"

       ทหารที่กำลังยืนสับสนได้แต่เหลียวซ้ายแลขวา  แต่พวกเขาก็ไม่เห็นร่องรอยใดให้ตามต่อได้เลย

       ***
       
       'ระดับขนาดนี้ยังแค่คนธรรมดา?'

       บลันด์กำลังยืนมองกริดที่ถูกสอนสั่งโดยปิอาโร่มาตลอดสามวัน  สิ่งที่บลันด์เห็นก็คือ  กริดแข็งแกร่งมาก  และเขาจะยิ่งเก่งกว่านี้หากยังมีปิอาโร่คอยให้คำแนะนำอยู่เรื่อยๆ

       ทว่า  ปิอาโร่กลับมองกริดเป็นเพียงคนธรรมดา  แต่ถึงกระนั้น  อย่างน้อยกริดก็พึงพอใจที่เขาไม่ได้อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในสายตาปิอาโร่

       บลันด์ทำใจเชื่อไม่ลง  

       'ทำไมปิอาโร่ถึงพูดว่าทักษะของเขาแย่และทื่อ  ทั้งๆ ที่มันก็สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรือ?'

       เป็นมุมมองที่แตกต่างกัน  สำหรับบลันด์ที่เติบโตมากับดินแดนตอนเหนือ  นักดาบที่เก่งกาจที่สุดคือเอิร์ลสไตมและฟินิกซ์  จนกระทั่งเขาได้พบกับปิอาโร่  ดังนั้น  กริดก็นับว่าเก่งมากแล้วในสายตาบลันด์  

       แต่ฝั่งปิอาโร่และกริดไม่ได้คิดเช่นนั้น  กริดเทียบฝีมือการควบคุมของตนกับแร้งเกอร์ระดับสูงและมอนสเตอร์บอส  เขาจึงพึงพอใจแล้วที่ถูกเรียกว่า <คนธรรมดา> 

       ส่วนปีอาโร่ล่ะ?  ปิอาโร่รู้ว่ากริดคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  ดังนั้น  ด้วยพลังกระจอกงอกง่อยแค่นี้  ในสายตาปิอาโร่  <มันยังไม่พอ>

       บทสรุปก็คือ
       
       "วะฮ่าฮ่า!  ตอนนี้ฉันพร้อมล่าพวกแกโดยไม่ต้องหวังพึ่งทักษะแล้ว!"

       "นี่แค่พื้นฐานเท่านั้น  มีแต่พวกอ่อนหัดที่หวังเอาชีวิตรอดจากทักษะเหล่านี้  หนทางของนายยังอีกยาวไกลนัก"

       "ฉันจะเก่งกว่านี้ถ้าหมั่นฝึกฝนใช่ไหมล่ะ?  นายช่วยชี้แนะฉันต่อไปอีกจะได้ไหม?"

       "ขอปฏิเสธ  ทักษะของนายไม่พัฒนาไปมากกว่านี้แล้ว  ถึงฉันจะเป็นคนสอนให้ด้วยตนเองก็ตาม"

       "อย่ายอมแพ้ง่ายๆ แบบนั้นสิ  ยากขนาดนั้นเลยรึไง?  ไม่หรอกมั้ง?"

       "ฉันวิเคราะห์จากความเป็นจริง  ไม่ได้ลำเอียงหรือใช้อารมณ์"

       กริดแข็งแกร่งมาก  ถึงจะเป็นความจริงที่ฝีมือควบคุมของเขาด้อยกว่าแร้งเกอร์แถวหน้า  แต่ในสายตาคนทั่วไป  กริดอยู่เหนือกว่าคนธรรมดามากแล้ว  ทว่า  มอนสเตอร์ในดินแดนตะวันตกนั้นเก่งกาจ  ขีดจำกัดของกริดในปัจจุบันจะค่อยๆ เผยออกมาให้เห็นในภายหลัง

       "ฮ่าห์!"

       ปัจจุบัน  กริดสามารถคุ้นชินกับสนามรบผืนทะเลทราย  เขาเคลื่อนที่ไปมาบนทรายด้วยย่างก้าวอันพริ้วไหว   +9 ความผิดพลาดในมือกวัดแกว่งอย่างอิสระ  ส่งผลให้เลเวลอัพถึง 275 ก่อนถึงเรย์ดันตามที่ตั้งใจไว้

       "นี่คือเมืองของนายหรือ?"

       หากดูจากภายนอก  เรย์ดันคือเมืองขนาดใหญ่มหึมา  ทว่า  สิ่งก่อสร้างกลับดูเสื่อมโทรมและล้าหลัง  แต่ความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาผ่านเส้นขอบฟ้าคือของจริง

       "เมืองใหญ่ขนาดนี้  เทียบได้กับเมืองหลวงของอาณาจักรเลยนะ"

       กริดอมยิ้มให้กับคำชมของปิอาโร่

       "นี่คือเมืองใหญ่อันดับสองของอาณาจักรอีเทอนัลรองจากไรน์ฮาร์ท"

       กริดเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง  เขาหวังว่าจะมีประชากรนับแสนรอต้อนรับพร้อมกับโปรยกระดาษสีเฉลิมฉลองไปทั่วเมือง

       "รีบไปกันเถอะ"

       กริดกระตุ้นให้บลันด์และปิอาโร่เร่งฝีเท้า  ทว่า  ก่อนที่จะถึงทางเข้า  กลับมีผู้คนจำนวนมากกำลังทำการเคลียฟาร์มด้านนอกอยู่

       'พวกอพยพเข้ามางั้นหรือ?'

       กลุ่มคนเหล่านี้มีร่างกายผอมแห้งอย่างมาก  ชุดเก่าขาดรุ่งริ่งประหนึ่งขอทาน  ดูเหมือนกับผู้ที่อพยพเข้าเมืองมาในเมือง  กริดได้แต่สงสัย  ว่าทำไมคนไร้เรี่ยวแรงเหล่านี้ถึงมาทำงานใช้แรงงานในเรย์ดัน

       'หรือจะเป็นพวกทาส?'

       บางที  ชาวเมืองเรย์ดันอาจจ้างทาสส่วนตัวและใช้ให้ทำงานในฟาร์ม  กริดส่ายศีรษะเบาๆ  

       'ถึงคนเหล่านี้จะเป็นทาสจริง  แต่นายจ้างควรเลี้ยงดูให้ดีกว่านี้หน่อยสิ  ไอ้พวกใจดำเอ้ย'

       ดูเหมือนประชากรของเรย์ดันคงเป็นพวกวิปริต  แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกริด

       'พวกนั้นก็แค่เครื่องผลิตภาษี'

       ลัลล้า~

       กริดเดินตรงไปยังประตูเมืองที่ใกล้ที่สุด  ยามนี้  เขากำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีสุดขีด  ชายหนุ่มจินตนาการภาพของชาวเมืองนับแสนกำลังรอต้อนรับ

       ทว่า...

       "...เอ๋?"

       ภาพอันแปลกตาด้านข้างทำให้กริดต้องชะงัก  ทำไมสมาชิกโอเวอร์เกียร์ถึงกำลังทำงานกรรมกรร่วมกับทาสนับหมื่นคนได้ล่ะ?

       'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?'

       ภาพสมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังเหงื่อชุมกายได้ทำให้กริดหยุดฮัมเพลง  ลางร้ายพลันเกิดขึ้นใจในทันที

       และเป็นเรกัสที่หันมาเห็นเข้า  เขารีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส

       "นายมาถึงแล้วเหรอ?"

       ร่างกายท่อนบนอันบึกบึนของเรกัสกำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อและเศษฝุ่นละออง  สภาพของเขาในตอนนี้  ดูไม่ต่างอะไรกับคนงานที่อยู่ในเหมืองเลยสักนิด  กริดจึงถามขึ้น

       "นายกำลังทำอะไรอยู่?"

       "ก็อย่างที่นายเห็น  พวกเรากำลังช่วยชาวเมืองเตรียมที่ดินสำหรับเพาะปลูก"

       "...ชาวเมือง?"

       ชาวเมืองไหนกัน?  สิ่งที่กริดเห็น  มีเพียงสมาชิกโอเวอร์เกียร์กับบรรดาทาสเท่านั้น

       "คารวะนายท่าน"

       ฮิวรอยรีบวิ่งมาหา  เขาเองก็เหงื่อชุ่มกายเช่นกัน  เมื่อกริดเห็นคราดในมือขวา  เขาจึงถามด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง

       "นายกำลังทำอะไรอยู่?" 

       คำตอบของฮิวรอยเหมือนกับเรกัสทุกประการ

       "พวกเรากำลังช่วยชาวเมืองเตรียมที่ดินสำหรับเพาะปลูก"

       "ไม่… เป็นไปไม่ได้  นายพูดว่าชาวเมืองงั้นหรือ..."

       เป็นเวลาเดียวกันที่ลอเอลรีบวิ่งเข้ามาหา

       "ทำไมนายถึงมาช้านัก?"

       สภาพของลอเอลเองก็ไม่ต่างกับคนอื่น  ในมือกำลังถืออุปกรณ์ทำฟาร์ม

       "นายไม่ยอมตอบข้อความฉัน  ฉันก็เลยให้สมาชิกกิลด์ทำเรื่องสำคัญไปก่อน  ประการแรก  พวกเราต้องเชื่อมต่อแหล่งน้ำเข้ากับฟาร์มให้ได้  หลังจากนี้อีกสักสองถึงสามเดือน  ชาวเมืองก็จะได้มีอาหารง่ายๆ กินประทังชีวิต"

       กริดจำเป็นต้องอยู่กับความจริงให้ได้  เขาฝืนใจถามออกไปอย่างสิ้นหวัง

       "ไหนชาวเมือง?"

       "นายมองไม่เห็นหรอกเหรอ?"  ลอเอลหันกลับไปมองทางลานกว้างเล็กน้อยและชี้นิ้วตรงไปยังชายร่างผอมแห้งที่กริดเคยคิดว่าเป็นพวกทาส

       "นี่ไง  ชาวเมืองของนาย"

       "...ทำไมฉันต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้ด้วย?"

       เป็นวินาทีที่วิมานอันยิ่งใหญ่ของกริดพังทลายลง

Comments

  1. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากนะคับ

    ReplyDelete
  3. เดียวก็ได้แรบบิทมาช่วยแล้วน่าจะมีเส่นสายการตลาดเยอะ

    ReplyDelete
  4. รอดูว่าที่อริยะดาบตีกับคัดลอกอีปิค

    ReplyDelete
  5. วิมานทองทราย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00