จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 216
9 วันก่อนหน้านี้
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้หาวิธีเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดเพื่อรุดหน้ามาเรย์ดันก่อนกริด แต่สิ่งที่พวกเขาพบเจอคือความผิดหวังอย่างใหญ่หลวง
เมืองใหญ่อันดับหนึ่งในดินแดนตะวันตก เรย์ดัน หากดูจากแผนที่ ขนาดของมันจะใหญ่เป็นอันดับสองของอาณาจักร เป็นรองเพียงไรน์ฮาร์ทเท่านั้น สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันคาดหวัง แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบพาน มันกลับดูคล้ายกับซากปรักหักพังมากกว่า
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
"เมืองใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับไม่มีอะไรเลยได้ยังไง?"
"ร้านค้าปิดหมด ประตูผุพัง และขอทานเต็มถนน..."
"ฟาร์มไม่ต่างอะไรกับผืนดินแห้งกรัง"
"หากมองดูให้ดี จำนวนประชากรไม่น้อยไปหน่อยหรือ?"
ฮิวรอย ลอเอล และเฟคเกอร์ มีเพียงสามคนนี้เท่านั้นที่ยังสุขุมเยือกเย็นอยู่ได้ ส่วนสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือต่างพากันบ่นอุบอิบ พวกเขากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเปิดหน้าต่างรายละเอียดขึ้นมาอ่าน
ชื่อ : เรย์ดัน
ขนาด : เมืองใหญ่
ผู้ปกครอง : กริด ( ดยุคแห่งอีเทอนัลและหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์)
เทศมนตรี : อาริก ( ทักษะบริหารเกรด C )
* ยิ่งเทศมนตรีมีระดับทักษะบริหารสูง เมืองก็จะยิ่งพัฒนาได้รวดเร็วขึ้น
ขึ้นตรงต่อ : อาณาจักรอีเทอนัล
ประชากร :
- เอ็นพีซี 20,551
- ผู้เล่น 0
กองกำลังประจำการ :
- อัศวิน 2 (ฮิวรอย, ลอเอล)
- ทหาร 141
ระดับความปลอดภัย : 5/100
_______
* ค่าความปลอดภัยของดินแดนอยู่ในระดับต่ำมาก คงไม่แปลกเลยหากประชาชนจะออกมาต่อต้าน กลุ่มนักเลงและมอนสเตอร์จะปรากฏตัวบ่อยครั้งใกล้กับเขตเมือง
* ค่าความปลอดภัยจะเปลี่ยนแปลงทุกชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกองกำลังประจำการ
* ไม่มีการจัดสรรอาชีพและอาหารให้ชาวบ้าน นโยบายทางการเมืองก็ไม่มี แม้กระทั่งตำรวจในเมืองก็ยังไม่มี
_______
กิจการภายใน : 169/4,500
* การเพิ่มจำนวนห้างสรรพสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ และตึกใหญ่ต่างๆ จะช่วยเพิ่มค่ากิจการภายใน
กิจการภายนอก : ค้าขายกับเมือง <บูติน บาโรนี่> ของจักรวรรดิซาฮารัน
_______
ปรปักษ์โดยบังคับ : วิหารยาธาน
ปรปักษ์ร่วม :
- อาณาจักรเก๊าส์
- รัฐลูเวีย
ผลผลิตพิเศษ : ไม่มี
เอ็นพีซีพรสวรรค์ : ไม่มี
"แย่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ"
"ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น"
ในขณะเดินทางจากวินสตันมายังเรย์ดัน สมาชิกกิลด์ได้ปะทะกับมอนสเตอร์ตะวันตกมากมาย พวกเขาหมายจะล่าให้สาแก่ใจโดยใช้รถม้าเป็นเหยื่อล่อ การล่าเป็นไปอย่างราบรื่น ค่าประสบการณ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย พวกเขาจึงคิดว่า เรย์ดันคือเมืองสวรรค์ที่ควรค่าแก่การอยู่อาศัย
ทว่า ฮิวรอย ลอเอล และเฟคเกอร์ สามคนนี้ไม่คิดเช่นนั้น การที่มอนสเตอร์ระหว่างทางแข็งแกร่งย่อมเป็นปัญหาหลัก ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางมาถึงที่นี่ได้แน่ ดินแดนแห่งนี้จะต้องมีอัตราเติบโตที่ต่ำ
แต่ความจริงกลับโหดร้ายยิ่งกว่านั้น
"เมืองใหญ่ที่สามารถจุคนได้ 5 แสน… แต่กลับมีประชากรอาศัยแค่ 2 หมื่นเท่านั้นเองหรือ?"
"ที่แย่ยิ่งกว่า ไม่มีผู้เล่นเลยสักคน"
"ความสำคัญอันดับหนึ่งคือการจ้างทหารเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย"
ในปัจจุบัน กิลด์โอเวอร์เกียร์มีเงินในคลังอยู่ 5 ล้านเหรียญทอง เงินจำนวนนี้ หากตกอยู่ในมือคนใดคนหนึ่งอาจดูมีมูลค่ามหาศาล แต่พอเป็นเงินกิลด์ มันไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น เมืองใหญ่อย่างเรย์ดัน ด้วยจำนวนเงินแค่ 5 ล้าน ย่อมไม่มีทางพัฒนาความแห้งแล้งและรกร้างนี้ได้แน่
แล้วพวกเขายังต้องลงทุนเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกงั้นหรือ? ดินแดนเช่นนี้จะสามารถผลิตอาหารขึ้นเองได้รึเปล่านะ? ดูเหมือน แม้แต่ขนมปังบาร์เล่ย์ง่ายๆ ก็ยังไม่อาจทำได้ด้วยซ้ำ ทางเดียวคือการนำเข้าวัตถุดิบมาจากเมืองอื่น แต่หากพ่อค้าคนใดรู้สถานการณ์เมืองนี้ดี คงไม่มีใครกล้านำสินค้าเข้ามาขายในเรย์ดันแน่
'แถมค่าขนส่งที่น่าจะมีมูลค่ามหาศาลนั่นอีก...'
ลอเอลคำนวนขั้นต่ำไปว่า อาหาร 1 มื้อของ 1 คนจะมีราคา 3 เหรียญเงิน หมายความว่าประชากร 2 หมื่นในตอนนี้ ทุกมื้อจะต้องใช้เงิน 600 เหรียญทองในการเลี้ยงดู นี่เป็นเพียงมื้อเดียวเท่านั้น จะต้องหมดกับค่าอาหารไปกี่แสนเหรียญทองกัน จนกว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์จะแก้ไขปัญหาปากท้องนี้ได้
แต่ลอเอลก็ไม่มีความคิดที่จะขับไล่คนเหล่านี้ออกไป เขารู้สึกสงสารชาวบ้านที่ผอมแห้งงั้นหรือ? เปล่าเลย ลอเอลมองว่า กำลังคนคือสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ก่อนอื่นก็ต้องทำให้มีคุณภาพเสียก่อน หลังจากนั้นพวกเขาก็จะช่วยแบ่งเบาเรื่องแรงงานก่อสร้างและรักษาความปลอดภัยได้
ไม่มีทางเลือกอื่นให้ตัดสินใจอีกแล้ว
"เมื่อทำให้ชาวบ้านพร้อมใช้งานได้เมื่อไร สั่งให้พวกเขาเคลียฟาร์มซะ"
"แต่นายท่านยังไม่ได้สั่งให้ทำอะไรเลยนะ?"
ฮิวรอยเป็นกังวล เขาเองก็คิดเช่นกันว่า ประชากรคือสิ่งสำคัญที่สุดของเมือง แต่ฮิวรอยก็อดสงสัยไม่ได้ว่า คนอย่างกริดจะเข้าใจเรื่องแบบนี้รึเปล่า? กริดอาจสงสัยว่า ทำไมเราต้องสูญเงินไปกับค่าอาหารของผู้อื่นมากมายด้วย
ลอเอลหันไปกล่าวกับฮิวรอยที่กำลังเป็นกังวล
"เกาหลีใต้มีภาษิตอยู่ว่า คนเกาหลีใต้จะไม่เลิกทำโคชูจังเพียงเพราะมีหนอนขึ้น"
(ผู้แปล : โคชูจัง - ซอสเผ็ดเกาหลี ใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด)
(ผู้แปล : ส่วนเรื่องสำนวนว่ามีจริงไหม อันนี้ลองค้นคว้าข้อมูลดูก็ไม่พบ แต่ทางผู้แปลอังกฤษแปลมาตามนี้ จึงต้องใส่ลงไป
โดยส่วนตัวคิดว่า โคชูจังนั้นเกิดจากการหมัก ขั้นตอนนี้อาจมีหนอนขึ้น แต่อย่าได้ไปสนใจ การจะทำอะไรย่อมต้องมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง อย่าได้เก็บมาใส่ใจทั้งหมด
ผมตีความได้แบบนี้นะครับ อันนี้แปลจากบริบทที่ลอเอลทำสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์โดยไม่ยอมบอกกริดล่วงหน้า
โดยเปรียบดังนี้
- การหมักโคชูจัง หมายถึงผลลัพธ์ นั่นคือการพัฒนากิลด์โอเวอร์เกียร์
- ส่วนหนอน หมายถึงสิ่งที่ขัดขวางความสำเร็จ ลอเอลหมายถึงตัวกริด
หรือใครมีข้อมูลยังไงก็แบ่งปันได้ครับ)
ลอเอลเชื่อมั่นว่า นี่คือทางเดินที่ถูกต้องที่สุดแล้ว แม้อาจจะขัดกับความพอใจของกริดก็ตาม แต่ในฐานะรองหัวหน้ากิลด์ ลอเอลมุ่งหวังจะพัฒนาโอเวอร์เกียร์จากใจจริง ทว่า คำพูดเมื่อครู่ออกจะเป็นการเปรียบเปรยที่ไม่เข้าหูฮิวรอยสักเท่าไร
เมื่อฮิวรอยได้ยินดังนั้น เขาจึงโกรธเป็นฟืนไฟทันที
"นายอย่านำนายท่านไปเปรียบกับหนอน!"
"เปล่า! ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น"
ลอเอลพลันเหงื่อแตกทันที เขาพยายามทำให้ฮิวรอยใจเย็นลง ส่วนอีกด้านหนึ่ง เฟคเกอร์ที่เมื่อครู่ยังยืนอยู่ข้างคนทั้งสอง ยามนี้ได้พุ่งตัวผ่านเศษละอองฝุ่นสีเหลืองในอากาศและมุ่งหน้าไปยังปราสาท
***
"ทำไมพวกแกถึงไม่รีบออกไปต้อนรับทันทีที่ทราบข่าวว่าคนของลอร์ดใหม่เดินทางมาถึงแล้ว? มันไม่ช้าไปหน่อยรึไง?"
"ร--เรื่องนั้น… ผมกลัวว่าจะถูกชาวบ้านปาหินใส่หากออกจากปราสาทไป ก็เลย..."
"น่าสมเพช สวมทั้งเกราะและดาบ แต่กลับหวาดกลัวก้อนหินงั้นรึ? พวกแกใช้การไม่ได้เอาซะเลย ชิ!"
ชายวัยกลางคนร่างท้วมกำลังรีบเดินออกมาจากทางเข้าปราสาทพร้อมกับทหาร หมูมันเมือกตัวนี้มีชื่อว่า <อาริก> เทศมนตรีคนปัจจุบันของเรย์ดัน มันมียศเป็นขุนนางชั้นบาโรเน็ต (Baronet - ต่ำกว่า บารอน แต่คนละอันกับ บาโรเนส - Baroness ซึ่งเป็นบารอนหญิง ยศเก่าของจิสึกะ)
เมื่อสบโอกาส เฟคเกอร์รีบใช้มีดสั้นจี้เข้าไปยังคอหอยของอาริกทันที
"อึ๋ย!"
อาริกร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นเงาลางของใครบางคนท่ามกลางฝุ่นสีเหลือง
"ก--แกเป็นใครกัน!?"
เฟคเกอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยียบ
"คนที่มีคำถามกับแกมากมายยังไงล่ะ"
"อะไรนะ...? หยาา~!"
เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา เฟอเกอร์และอาริกหายไปจากความว่างเปล่าท่ามกลางเศษฝุ่นละอองสีเหลือง ราวกับทั้งสองไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
"ท--เทศมนตรีอาริก?"
ทหารที่กำลังยืนสับสนได้แต่เหลียวซ้ายแลขวา แต่พวกเขาก็ไม่เห็นร่องรอยใดให้ตามต่อได้เลย
***
'ระดับขนาดนี้ยังแค่คนธรรมดา?'
บลันด์กำลังยืนมองกริดที่ถูกสอนสั่งโดยปิอาโร่มาตลอดสามวัน สิ่งที่บลันด์เห็นก็คือ กริดแข็งแกร่งมาก และเขาจะยิ่งเก่งกว่านี้หากยังมีปิอาโร่คอยให้คำแนะนำอยู่เรื่อยๆ
ทว่า ปิอาโร่กลับมองกริดเป็นเพียงคนธรรมดา แต่ถึงกระนั้น อย่างน้อยกริดก็พึงพอใจที่เขาไม่ได้อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในสายตาปิอาโร่
บลันด์ทำใจเชื่อไม่ลง
'ทำไมปิอาโร่ถึงพูดว่าทักษะของเขาแย่และทื่อ ทั้งๆ ที่มันก็สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรือ?'
เป็นมุมมองที่แตกต่างกัน สำหรับบลันด์ที่เติบโตมากับดินแดนตอนเหนือ นักดาบที่เก่งกาจที่สุดคือเอิร์ลสไตมและฟินิกซ์ จนกระทั่งเขาได้พบกับปิอาโร่ ดังนั้น กริดก็นับว่าเก่งมากแล้วในสายตาบลันด์
แต่ฝั่งปิอาโร่และกริดไม่ได้คิดเช่นนั้น กริดเทียบฝีมือการควบคุมของตนกับแร้งเกอร์ระดับสูงและมอนสเตอร์บอส เขาจึงพึงพอใจแล้วที่ถูกเรียกว่า <คนธรรมดา>
ส่วนปีอาโร่ล่ะ? ปิอาโร่รู้ว่ากริดคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ดังนั้น ด้วยพลังกระจอกงอกง่อยแค่นี้ ในสายตาปิอาโร่ <มันยังไม่พอ>
บทสรุปก็คือ
"วะฮ่าฮ่า! ตอนนี้ฉันพร้อมล่าพวกแกโดยไม่ต้องหวังพึ่งทักษะแล้ว!"
"นี่แค่พื้นฐานเท่านั้น มีแต่พวกอ่อนหัดที่หวังเอาชีวิตรอดจากทักษะเหล่านี้ หนทางของนายยังอีกยาวไกลนัก"
"ฉันจะเก่งกว่านี้ถ้าหมั่นฝึกฝนใช่ไหมล่ะ? นายช่วยชี้แนะฉันต่อไปอีกจะได้ไหม?"
"ขอปฏิเสธ ทักษะของนายไม่พัฒนาไปมากกว่านี้แล้ว ถึงฉันจะเป็นคนสอนให้ด้วยตนเองก็ตาม"
"อย่ายอมแพ้ง่ายๆ แบบนั้นสิ ยากขนาดนั้นเลยรึไง? ไม่หรอกมั้ง?"
"ฉันวิเคราะห์จากความเป็นจริง ไม่ได้ลำเอียงหรือใช้อารมณ์"
กริดแข็งแกร่งมาก ถึงจะเป็นความจริงที่ฝีมือควบคุมของเขาด้อยกว่าแร้งเกอร์แถวหน้า แต่ในสายตาคนทั่วไป กริดอยู่เหนือกว่าคนธรรมดามากแล้ว ทว่า มอนสเตอร์ในดินแดนตะวันตกนั้นเก่งกาจ ขีดจำกัดของกริดในปัจจุบันจะค่อยๆ เผยออกมาให้เห็นในภายหลัง
"ฮ่าห์!"
ปัจจุบัน กริดสามารถคุ้นชินกับสนามรบผืนทะเลทราย เขาเคลื่อนที่ไปมาบนทรายด้วยย่างก้าวอันพริ้วไหว +9 ความผิดพลาดในมือกวัดแกว่งอย่างอิสระ ส่งผลให้เลเวลอัพถึง 275 ก่อนถึงเรย์ดันตามที่ตั้งใจไว้
"นี่คือเมืองของนายหรือ?"
หากดูจากภายนอก เรย์ดันคือเมืองขนาดใหญ่มหึมา ทว่า สิ่งก่อสร้างกลับดูเสื่อมโทรมและล้าหลัง แต่ความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาผ่านเส้นขอบฟ้าคือของจริง
"เมืองใหญ่ขนาดนี้ เทียบได้กับเมืองหลวงของอาณาจักรเลยนะ"
กริดอมยิ้มให้กับคำชมของปิอาโร่
"นี่คือเมืองใหญ่อันดับสองของอาณาจักรอีเทอนัลรองจากไรน์ฮาร์ท"
กริดเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง เขาหวังว่าจะมีประชากรนับแสนรอต้อนรับพร้อมกับโปรยกระดาษสีเฉลิมฉลองไปทั่วเมือง
"รีบไปกันเถอะ"
กริดกระตุ้นให้บลันด์และปิอาโร่เร่งฝีเท้า ทว่า ก่อนที่จะถึงทางเข้า กลับมีผู้คนจำนวนมากกำลังทำการเคลียฟาร์มด้านนอกอยู่
'พวกอพยพเข้ามางั้นหรือ?'
กลุ่มคนเหล่านี้มีร่างกายผอมแห้งอย่างมาก ชุดเก่าขาดรุ่งริ่งประหนึ่งขอทาน ดูเหมือนกับผู้ที่อพยพเข้าเมืองมาในเมือง กริดได้แต่สงสัย ว่าทำไมคนไร้เรี่ยวแรงเหล่านี้ถึงมาทำงานใช้แรงงานในเรย์ดัน
'หรือจะเป็นพวกทาส?'
บางที ชาวเมืองเรย์ดันอาจจ้างทาสส่วนตัวและใช้ให้ทำงานในฟาร์ม กริดส่ายศีรษะเบาๆ
'ถึงคนเหล่านี้จะเป็นทาสจริง แต่นายจ้างควรเลี้ยงดูให้ดีกว่านี้หน่อยสิ ไอ้พวกใจดำเอ้ย'
ดูเหมือนประชากรของเรย์ดันคงเป็นพวกวิปริต แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกริด
'พวกนั้นก็แค่เครื่องผลิตภาษี'
ลัลล้า~
กริดเดินตรงไปยังประตูเมืองที่ใกล้ที่สุด ยามนี้ เขากำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีสุดขีด ชายหนุ่มจินตนาการภาพของชาวเมืองนับแสนกำลังรอต้อนรับ
ทว่า...
"...เอ๋?"
ภาพอันแปลกตาด้านข้างทำให้กริดต้องชะงัก ทำไมสมาชิกโอเวอร์เกียร์ถึงกำลังทำงานกรรมกรร่วมกับทาสนับหมื่นคนได้ล่ะ?
'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?'
ภาพสมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังเหงื่อชุมกายได้ทำให้กริดหยุดฮัมเพลง ลางร้ายพลันเกิดขึ้นใจในทันที
และเป็นเรกัสที่หันมาเห็นเข้า เขารีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส
"นายมาถึงแล้วเหรอ?"
ร่างกายท่อนบนอันบึกบึนของเรกัสกำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อและเศษฝุ่นละออง สภาพของเขาในตอนนี้ ดูไม่ต่างอะไรกับคนงานที่อยู่ในเหมืองเลยสักนิด กริดจึงถามขึ้น
"นายกำลังทำอะไรอยู่?"
"ก็อย่างที่นายเห็น พวกเรากำลังช่วยชาวเมืองเตรียมที่ดินสำหรับเพาะปลูก"
"...ชาวเมือง?"
ชาวเมืองไหนกัน? สิ่งที่กริดเห็น มีเพียงสมาชิกโอเวอร์เกียร์กับบรรดาทาสเท่านั้น
"คารวะนายท่าน"
ฮิวรอยรีบวิ่งมาหา เขาเองก็เหงื่อชุ่มกายเช่นกัน เมื่อกริดเห็นคราดในมือขวา เขาจึงถามด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง
"นายกำลังทำอะไรอยู่?"
คำตอบของฮิวรอยเหมือนกับเรกัสทุกประการ
"พวกเรากำลังช่วยชาวเมืองเตรียมที่ดินสำหรับเพาะปลูก"
"ไม่… เป็นไปไม่ได้ นายพูดว่าชาวเมืองงั้นหรือ..."
เป็นเวลาเดียวกันที่ลอเอลรีบวิ่งเข้ามาหา
"ทำไมนายถึงมาช้านัก?"
สภาพของลอเอลเองก็ไม่ต่างกับคนอื่น ในมือกำลังถืออุปกรณ์ทำฟาร์ม
"นายไม่ยอมตอบข้อความฉัน ฉันก็เลยให้สมาชิกกิลด์ทำเรื่องสำคัญไปก่อน ประการแรก พวกเราต้องเชื่อมต่อแหล่งน้ำเข้ากับฟาร์มให้ได้ หลังจากนี้อีกสักสองถึงสามเดือน ชาวเมืองก็จะได้มีอาหารง่ายๆ กินประทังชีวิต"
กริดจำเป็นต้องอยู่กับความจริงให้ได้ เขาฝืนใจถามออกไปอย่างสิ้นหวัง
"ไหนชาวเมือง?"
"นายมองไม่เห็นหรอกเหรอ?" ลอเอลหันกลับไปมองทางลานกว้างเล็กน้อยและชี้นิ้วตรงไปยังชายร่างผอมแห้งที่กริดเคยคิดว่าเป็นพวกทาส
"นี่ไง ชาวเมืองของนาย"
"...ทำไมฉันต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้ด้วย?"
เป็นวินาทีที่วิมานอันยิ่งใหญ่ของกริดพังทลายลง
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากนะคับ
ReplyDeleteเดียวก็ได้แรบบิทมาช่วยแล้วน่าจะมีเส่นสายการตลาดเยอะ
ReplyDeleteจะสปอยทำไมอะ
Deleteรอดูว่าที่อริยะดาบตีกับคัดลอกอีปิค
ReplyDeleteวิมานทองทราย
ReplyDelete