จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 194
"จิสึกะ เธอกับพวกลูกน้องจงมารับใช้ฉันซะ"
ชั่ววินาทีที่กริดพูดคำนี้ออกมา คนที่สะดุ้งคนแรกไม่ใช่ใคร แต่เป็นลอเอล เขารีบส่งข้อความส่วนตัวไปหากริดอย่างตื่นตระหนก
>> กริด นายพูดอะไรออกไป?
กริดสับสนทันที
>> ฉันทำอะไรผิด?
ลอเอลอธิบายด้วยท่าทีกระวนกระวาย
>> คำพูดของนายมันไม่ถูกต้อง!
ลอเอลรู้ดีว่ากิลด์เซดาก้าห์เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีมากแค่ไหน ตั้งแต่สมัยแอล ที เอสแล้ว แม้จะเป็นกิลด์เล็ก แต่พวกเขาก็มีประวัติยาวนานอย่างน้อย 6 ปี ศักดิ์ศรีของผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดมิใช่สิ่งที่จะย่ำยีกันง่ายๆ
ทว่า แทนที่กริดจะให้เกียรติพวกเขา ชายหนุ่มกลับบอกให้มารับใช้เนี่ยนะ? มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มคนผู้แสนหยิ่งทระนงเหล่านี้ อาจผิดหวังและปฏิเสธกริด
>> นายควรประณีประนอม นายควรให้เกียรติพวกเขา ขอร้องให้เขาเป็นมิตรสหายคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ นายคิดว่าการพูดทำนอง <มารับใช้ฉัน> จะทำให้พวกเขายินดีตามนายมาหรือยังไง?
"..."
กริดทำพลาดไป เขาเพิ่งจะรู้ตัว
หากคิดในมุมของสมาชิกเซดาก้าห์แล้วล่ะก็ กริดรู้ทันทีว่า สิ่งที่เขาเพิ่งจะทำลงไปเมื่อครู่ มันต่ำทรามและไม่อาจให้อภัยมากขนาดไหน
'น่าขยะแขยง'
นี่คือสิ่งที่กริดคิด เมื่อลีจุนโฮใช้ความรุนแรงฝืนบังคับให้คนอื่นเป็นเบ๊ในสมัยเรียน
แล้วตอนนี้ สิ่งที่เขาทำอยู่ มันต่างอะไรกับลีจุนโฮเมื่อตอนนั้น? เป็นเพราะเขาแข็งแกร่งขึ้นมานิดหน่อย ก็เลยอวดเบ่งได้งั้นหรือ?
'เราใช้คำพูดไม่ดี'
ชีวิตของกริดเปลี่ยนไปได้ก็เพราะกิลด์เซดาก้าห์ ความทรงจำดีๆ กับพวกเขามีมากมาย กริดค่อยๆ สนิทกับทุกคนมากขึ้น ชายหนุ่มเริ่มมองคนเหล่านี้เป็นพวกพ้องที่ขาดไม่ได้
แต่เขากลับบอกให้ทุกคนมารับใช้ตนเยี่ยงทาส?
กริดพลันผิดหวังในตัวเองทันที
'ทำไมเราถึงพูดแบบนั้นออกไปได้?'
ก็จริงอยู่ที่ทุกคนต้องการไอเท็มจากกริด แต่นั่นทำให้เขามีสิทธิ์ยกตนเหนือกว่างั้นรึ?
'ฉันเจ๋งกว่าพวกนาย ฉันโด่งดังกว่าพวกนาย'
ทำไมเราถึงได้ดูแคลนพวกเขา? นี่มันต่างอะไรกับการถูกเพื่อนร่วมรุ่นดูแคลนในอดีต?
'บ้าจริง… ในตอนที่แข่งระดับนานาชาติ เรายังต่อสู้เพื่อพวกพ้องอยู่เลยไม่ใช่รึไง?'
อุปนิสัยของกริดเติบโตขึ้นจากแต่ก่อนก็จริง แต่นั่นเมื่อนำไปเทียบกับตัวตนอันแสนต่ำทรามในอดีต
แม้จะโตขึ้นมาก ทว่าจุดบกพร่องก็ยังคงมีให้เห็น ดูได้จากการที่กริดยังไปทำตัวเป็นนักรบคีย์บอร์ดใส่เว็บไซต์แฟนคลับของโนเอะ
กริดจะรู้สึกไม่ชอบใจและหวาดระแวงต่อสิ่งที่อาจเป็นภัยกับเขา และนั่นทำเขายังมีนิสัยด้านลบติดตัวอยู่ แน่ล่ะ คนเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ในเวลาอันสั้นแน่
"ฉันขอโทษ ฉันขอแก้ไขคำพูดเมื่อครู่"
แต่ไหนแต่ไร กริดคือคนที่พยายามหนักกว่าใครเสมอ โดยแม้จะไม่มีพรสวรรค์ แต่ความพากเพียรก็ส่งให้เขามีผลการเรียนระดับค่าเฉลี่ยของห้องได้
และความอดทนเหล่านั้นก็ทำให้เขากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าอย่างทุกวันนี้
เมื่อรู้ว่าตนทำผิด กริดต้องปรับปรุงแก้ไขมัน
"ขอพูดใหม่อีกครั้ง พวกนายทุกคน ได้โปรด… ได้โปรดเข้าร่วมกิลด์ที่ฉันกำลังจะสร้าง ฉันอยากอยู่กับพวกนายต่อไป ฉันต้องการพลังของทุกคน และจะมอบพลังให้ทุกคนด้วยเช่นกัน… มาช่วยฉันเถอะ… ช่วยฉันสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่มีกิลด์ใดทำได้ พวกนายทุกคนคือเพื่อนคนสำคัญที่ฉันขาดไม่ได้ ดังนั้น ได้โปรด..."
กริดพูดพร้อมกับโค้งคำนับอย่างนอบน้อม เป็นท่าทีแสดงความจริงใจและสำนึกผิด
สีหน้าของสมาชิกเซดาก้าห์รวมถึงจิสึกะที่เคยดำมืด บัดนี้พลันทุเลาลงหลายส่วน
จิสึกะพูดขึ้น
"ขอเวลาพวกเราประชุมตัดสินใจกันก่อน"
***
"จะทำยังไงกันดี?"
หลังจากกริดกลับวินสตัน สมาชิกเซดาก้าห์ต่างอยู่ในอารมณ์ที่หลากหลาย พวกเขาประชุมคุยกันด้วยบรรยากาศตึงเครียด
"กริดคือคนสำคัญของพวกเรา ไม่ใช่แค่ด้านตีเหล็ก แต่เขายังเป็นขุมกำลังรบ เขาเป็นศูนย์รวมของพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เราขาดกริดไม่ได้"
"เรื่องนั้นฉันก็เห็นด้วย แต่กริดเหมาะจะเป็นหัวหน้ากิลด์จริงหรือ?"
ผู้นำองค์กรณ์ขนาดใหญ่ สิ่งแรกที่ต้องมีคือภาวะผู้นำ ในการจะสำแดงภาวะผู้นำออกมาให้ได้ประจักษ์ชัด ส่วนที่ขาดไม่ได้คือเสน่ห์ดึงดูดที่หลอมรวมผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน ต้องมีอำนาจทำให้ผู้คนยอมเชื่อฟังและจงรักภักดี
สิ่งเหล่านั้นใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน
เหตุใดเซดาก้าห์ถึงเป็นกิลด์ขนาดเล็ก? แม้จะมีอยู่มากมายหลายเหตุผล แต่หนึ่งในนั้นคือ
ไม่มีคนใดในพวกเขาที่มีสภาวะผู้นำมากพอ
เหล่าหัวกะทิท็อป 100 ของโลกหลายสิบคน จะมีใครกันที่สามารถยืนหยัดปกครองเหนือคนเหล่านี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน? ในบรรดาพวกเขาตอนนี้ ไม่มีใครทำได้ แม้กระทั่งจิสึกะเองก็ตาม คำบัญชาการและมาดผู้นำของเธอมักถูกใช้ในยามรบจับศึกมากกว่า
กริดเป็นคนขี้เหนียว ขี้อิจฉา และทำทุกสิ่งเพื่อเงิน แล้วจะให้คนเช่นนี้มาปกครองงั้นหรือ?
แถมยังหวังถึงการเป็นกษัตริย์ เรื่องเช่นนั้นแทบเป็นไปไม่ได้
"แม้จะมีอัจฉริยะอย่างลอเอลมาเป็นมือขวา แต่คนที่ไม่ใช่หัวหน้าที่แท้จริง ย่อมไม่อาจบริหารองกรณ์หรือขยายความยิ่งใหญ่ออกไปได้สะดวกนัก"
"นั่นสิ ถ้ากริดเป็นหัวหน้ากิลด์ มันจะไม่พังเอาง่ายๆ รึไง?"
กิลด์เล็กที่มีผู้นำยอดเยี่ยม ย่อมดีกว่ากิลด์ใหญ่ที่มีผู้นำโง่เขลา สิ่งนี้คือสัจธรรม
ทุกคนต่างก็คิดแบบเดียวกัน ความฝันของกริดนั้นเกินตัวไปหน่อย
ทว่า กลับมีหนึ่งคนโพล่งขึ้น
"กริดเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำอยู่แล้ว"
ใครกันที่กล้าพ่นคำไร้สาระเช่นนี้ออกมา? ทุกคนรีบหันไปยังทิศทางต้นเสียง และคนๆ นั้น โทบัน รองหัวหน้ากิดล์เซดาก้าห์
ผู้ที่เคยเป็นทาส(ลับๆ)ของกริดมาแล้วเมื่อครั้งอดีต
ณ ตอนนั้น เขาเกลียดชังกริดสุดหัวใจ แต่ยามนี้ โทบันคือผู้ที่เห็นคุณค่าในตัวกริดยิ่งกว่าใคร
"สิ่งใดกันที่ผู้นำควรมี? การรวมใจทุกคนเป็นหนึ่งใช่ไหม? การพัฒนากิลด์อย่างก้าวกระโดดด้วยพลังของตนใช่ไหม? ลองคิดดูให้ดีสิ กริดมีสิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมจนสามารถทดแทนภาวะผู้นำที่ขาดไปได้"
เมื่อสิ้นเสียงโทบัน สมาชิกกิลด์ต่างส่งเสียฮือฮาออกมาเล็กน้อย
"สิ่งที่สามารถทดแทนภาวะผู้นำ?"
"มันคืออะไร? ฉันคิดไม่ออก"
โทบันบอกใบ้เล็กน้อยให้กับสมาชิกกิลด์ที่ยังคงคิดไม่ตก
"อย่าลืมว่าซาทิสฟายนั้นมีพื้นฐานคือเกม"
"อ๊า...!" จิสึกะและป็อนรู้ตัวก่อนใคร
ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน
"ไอเท็ม!"
โทบันฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ
"ถูกต้อง ทุกคนที่เล่มเกม สิ่งหนึ่งที่ล้วนต้องการเหมือนกันก็คือไอเท็มระดับสูง และกริดสามารถสนองความต้องการเหล่านั้นได้อย่างไร้ที่ติ ตราบใดที่กริดยังผลิตไอเท็มให้กิลด์อยู่ จะไม่มีใครที่คิดทรยศหักหลังเขา และตัวกริดเองก็จะพัฒนาไปพร้อมกับการทำให้กิลด์แข็งแกร่ง"
เหตุผลหลักที่สมาชิกเซดาก้าห์ทุกคนไม่อยากเสียกริดไป เพราะพวกเขาต้องการไอเท็มจากกริด
ใช่แล้ว แม้อุปนิสัยจะไม่ผ่าน แต่หากเป็นซาทิสฟาย กริดสามารถเป็นผู้นำได้แน่
"หากกริดผลิตไอเท็มระดับสูงให้สมาชิกกิลด์ จะไม่มีคนใดที่คิดออกกิลด์หรือทรยศหักหลังไปตลอดกาล โดยในเวลาเดียวกัน ผู้คนเหล่านั้นก็จะค่อยๆ กลายเป็นผู้เล่นระดับหัวกะทิชั้นยอดของโลก"
"เหมือนกับพวกเราสินะ..."
ไม่อย่างนั้น อัจฉริยะอย่างลอเอลไม่มีทางเลือกกริดให้เป็นกษัตริย์ของตนแน่
ลอเอลจะต้องคิดไว้แล้วว่า จะสร้างกิลด์ที่ทรงอำนาจที่สุดของโลกด้วยวิธีใด
ใช่แล้ว ด้วยไอเท็ม
"โชคดีที่กริดมีลอเอลเป็นมือขวา" จิสึกะพูดขึ้น
"เพราะลอเอล แผนการขึ้นเป็นกษัตริย์ของกริดจึงมีโอกาสสำเร็จสูง"
ณ ตอนนี้ ในบรรดาคลาสทั้งหมดที่ผู้เล่นมีอยู่ในครอบครอง ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าคือคลาสอันดับ 1 ของซาทิสฟายอย่างไร้ข้อโต้แยง
ทว่า ตำนานมีทั้งหมด 9 คน และในบรรดาทั้ง 9 คนนั้น เนื่องด้วยพื้นฐานที่เป็นช่างตีเหล็ก ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจึงนับว่าอ่อนแอที่สุดในด้านต่อสู้
หากกริดยังคงเล่นเกมในรูปแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเขาก็จะถึงทางตันและถูกผู้เล่นคนอื่นแซงหน้า
แต่เรื่องราวจะกลับตาลปัตร หากกริดกลายเป็นผู้ปกครองกิลด์ที่ทรงพลัง กิลด์แห่งไอเท็มซึ่งมีเพียงกริดเท่านั้นที่สร้างขึ้นมาได้
สิ่งนี้จะทำให้ชายหนุ่มก้าวขึ้นเป็นผู้ปกครองสูงสุดของผู้เล่นทั้งสองพันล้านคน!
"งั้นพวกเราก็ควรไปรวมกับกริดสินะ? ด้วยเหตุนั้น ปัญหาที่ค้างคามานาน อย่างเรื่องที่ไม่เซดาก้าห์สามารถขยายขนาดกิลด์ได้ จะได้จบลงเสียที"
"ฉันก็เห็นด้วย ฉันไม่ต้องการให้ซีบาลหรือคริสกลายเป็นผู้ปกครองทวีปนี้"
"นั่นสิ… ไม่เหมือนสมัยแอล ที เอส กิลด์เล็กๆ ไม่อาจทำทุกสิ่งในเกมได้อีกแล้ว มันคงดีกว่าในระยะยาวหากร่วมเข้ากับกิลด์ใหญ่"
"ฉันขาดไอเท็มจากกริดไม่ได้ ไม่สนว่าพวกนายจะมีเหตุผลอะไร แต่ฉันจะไปเป็นลูกน้องกริด"
สมาชิกทุกคนเห็นพ้องไปในแนวทางเดียวกัน
จิสึกะลุกขึ้นและประกาศ
"ณ บัดนี้ ฉันขอยุบกิลด์เซดาก้าห์ลง และสมาชิกทั้ง 21 คน รวมถึงฉัน ทั้งหมดจะไปอยู่กับกริดด้วยกัน"
พวกเขาทุกคนล้วนถวิลหาความแข็งแกร่ง เฉกเช่นเดียวกับสมัยแอล ที เอส
และเพื่อสานต่อความตั้งใจเดิม ทุกคนเลือกกริด
ด้วยเหตุนี้ กริดจึงกลายเป็นผู้นำของหัวกะทิหลายสิบคนโดยแทบไม่ต้องออกแรง ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของวงการเกมเลยทีเดียว
***
หากจะพูดถึงกิลด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของอาณาจักรอีเทอนัล ชื่อของกิลด์ไจแอนท์คืออันดับหนึ่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แม้เซดาก้าห์จะโด่งดังในด้านขุนพลหัวกะทิหลักสิบ แต่ก็ไม่อาจสู้กับความโด่งดังและยิ่งใหญ่ของไจแอนท์ได้
กิลด์ไจแอนมีสมาชิกทั้งหมด 700 คน จำนวนขนาดนี้สามารถเทียบได้กับกิลด์สเน็คที่กำลังแผ่ขยายอำนาจอยู่ในอาณาจักรฮาร์เค่นเลยทีเดียว
"กองทัพโกเล็ม?"
ณ เมืองเปรโด ดินแดนตอนใต้ของอาณาจักรอีเทอนัล
คริสถึงกับปวดหัว เพราะมีข่าวว่ากองทัพโกเล็มนับพันกำลังมุ่งหน้าตรงมายังอาณาจักร
"จอมเวทย์คนใดกันที่สามารถควบคุมโกเล็มทั้งพันตัวพร้อมกันได้? ถึงจะให้จอมเวทย์ทั้งทวีปร่วมมือกัน แต่ก็ยังไม่มากพอจะทำแบบนี้เลยไม่ใช่รึไง? บ้อบอสิ้นดี!"
กองทัพโกเล็มไม่ได้เดินไปมาอย่างมั่วซั่วไร้จุดหมาย แต่พวกมันกำลังเคลื่อนตัวโดยมีเป้าหมายชัดเจน จะต้องมีใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่
หนึ่งในเจ็ดกัปตันของกิลด์ไจแอนท์ เซอร์คาน พูดกับคริสด้วยสีหน้าหวั่นวิตก
"ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันแล้ว กองทัพโกเล็มกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่อาณาจักรอีเทอนัล โดยหากคำนึงถึงเส้นทาง จุดแรกที่ต้องเข้าปะทะคือฝั่งดินแเดนตอนใต้ของพวกเรา"
กัปตันอีกคนหนึ่ง อัสเซลาส พูดขึ้น
"ในอนาคต กษัตริย์คงมีภารกิจมอบหมายให้พวกเรากำจัดโกเล็มแน่"
คริสแสยะยิ้ม
"นั่นก็ดีเลย"
กองทัพโกเล็มหนึ่งพันตัวแล้วยังไงล่ะ? ก็แค่ก้อนแร่อันเชื่องช้าที่รวมตัวกัน คริสหมายมั่นจะปราบโกเล็มให้ได้เพื่อกู้ชื่อเสียงกิลด์ไจแอนท์กลับคืน และนั่นยังเป็นการสร้างคุณงามความดีต่ออาณาจักรไปในตัว
"โอกาสเลื่อนขั้นเป็นเอิร์ลมาถึงแล้ว"
นับตั้งแต่คริสพ่ายให้กับเรกัสในการแข่งนานาชาติ สมาชิกไจแอนท์ต่างตกอยู่ในอาการวิตกกังวล ตัวตนสูงสุดอย่างหัวหน้ากิลด์กลับต้องพ่ายแพ้ ขวัญกำลังใจทุกคนลดลงอย่างมาก ดูเหมือนกิลด์เริ่มจะเข้าสู่ทางตันทีละนิด
ทว่า ภาวะผู้นำของคริสนั้นสูงส่ง เขานำพากิลด์ไจแอนท์พร้อมกับกัปตันทั้ง 7 คนฝ่าวิกฤติศรัทธามาได้ แถมยังกิลด์ดูแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมอีกเล็กน้อย
คริสกำลังมั่นใจสุดขีด
"พวกเราจะเตรียมตัวก่อนที่กษัตริย์จะมีคำสั่งลงมา ก่อนอื่น จอมเวทย์ทุกคนรีบกักเก็บเวทย์มนต์ชั้นสูงไว้ในลูกแก้ว หลังจากนั้นก็แจกจ่ายอาวุธคุณภาพสูงให้กับผู้เล่นคลาสโจมตีทุกคน"
และเพียงไม่กี่วันต่อมา พระราชสาส์นจากในวังก็ถูกส่งถึงเมืองเปรโด
"ในนามกษัตริย์วิสบาเดนแห่งอาณาจักรอีเทอนัล ข้าขอสั่งให้วิสเคาท์คริสแห่งเปรโด จัดการกับกองทัพโกเล็มอันไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ที่บังอาจรุกรานเข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเรา!"
[ สงครามปกป้องอาณาจักร ]
ระดับความยาก : S
_______
กองทัพโกเล็มทั้งหมด 1,231 ตัวกำลังรุกรานผ่านชายแดนอาณาจักรอีเทอนัล
จงปกป้องอาณาจักรอีเทอนัล
_______
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : จัดการหรือขับไล่โกเล็มทั้งหมดไป
ความคืบหน้า : 0/1,231
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
- เมืองขนาดเล็ก จำนวน 1 เมือง
- ค่าคุณงามความดีต่ออาณาจักร 25,000 แต้ม
- เลเวลของกิลด์เพิ่มขึ้น 1 ระดับ
- เงินจำนวน 2 ล้านเหรียญทอง
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :
- โกเล็มจะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง
- อาณาจักรอีเทอนัลจะตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหล
ถือเป็นรางวัลตอบแทนจำนวนมหาศาล
โลหิตในร่างกายคริสพลันเดือดพล่าน
'ซีบาล เห็นทีนายจะไม่ใช่ผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นเอิร์ลซะแล้ว และกิลด์ของฉันก็จะเป็นกิลด์แรกที่มีสามาชิกมากกว่าหนึ่งพันคน!'
คริสไม่เกิดความรู้สึกหวาดหวั่นเลยสักนิดเดียว เขาสำเร็จภารกิจระดับ A จำนวนมากมายก่ายกอง ดังนั้น เมื่อมีภารกิจระดับ S อยู่ตรงหน้า ความกังวลใจจึงไม่ปรากฏให้เห็น
ก็แค่ภารกิจปราบโกเล็มธรรมดา ไม่มีผู้เล่นคนใดในกิลด์ไจแอนท์ที่คิดว่าภารกิจคราวนี้จะล้มเหลว
สามวันถัดมา
ข่าวอันน่าตื่นตะลึงถูกพาดหัวพร้อมกับทั่วโลก
『เมื่อไม่กี่วันก่อน กองทัพโกเล็มนับพันจากทั่วทั้งทวีป ได้รวมตัวกันบุกเข้าโจมตีอาณาจักรอีเทอนัลอย่างไม่ทราบสาเหตุ และเป็นกิลด์ไจแอนท์ของคริสที่รับหน้าที่เป็นด่านหน้าสกัดเอาไว้...』
เกินกว่าคำว่าหายนะ
สมาชิกกิลด์ไจแอนท์กว่า 700 คนสามารถปราบโกเล็มได้เพียง 300 ตัวเท่านั้น ดินแดนตอนใต้ของอีเทอนัลต้องพังพินาศไม่เหลือชิ้นดี
คริสยืนจ้องมองเปรโดด้วยใบหน้าสิ้นหวัง ในยามนี้ เมืองที่เคยรุ่งเรืองกลับเหลือเพียงซากปรักหักพัง
"เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง...?"
หนึ่งปีกับหกเดือนก่อน ตามเวลาซาทิสฟาย
คือช่วงที่คริสได้กลายเป็นวิสเคาท์และผู้ปกครองแห่งเปรโด ยามนั้น เปรโดยังเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ
ตลอดเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา คริสได้ทุ่มเม็ดเงินเพื่อพัฒนาเปรโดจนกลายเป็นเมืองใหญ่ ทว่า ทุกสิ่งพลันมลายหายไปในพริบตาเมื่อกองทัพโกเล็มเคลื่อนพลผ่าน ตึกรามบ้านช่องกลายเป็นซากปรักหักพัง เอ็นพีซีกลายเป็นแสงสีเทา
ความเสียหายเหลือคณานับ
คริสได้แต่คลุ้มคลั่ง เขาแก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
กองทัพโกเล็มกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงทีละนิด อันที่จริง เป้าหมายของพวกมันคือดินแดนตอนเหนือ ส่วนเมืองหลวงเป็นเพียงทางผ่าน
ทั้งหมดทั้งมวลคือฝีมือของบราฮัม
และมันทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากกริดเท่านั้น
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteมึงคนเดียวไรไอกริด55
ReplyDeleteสนุกมากก ขอบคุณค่ะ กริดต้องไปช่วยแล้วป่ะ5555
ReplyDelete