จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 211
โค้กได้แต่ยืนสับสน
'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?'
พลังชีวิตของตนหายไปหนึ่งส่วนสามเพียงเพราะถูกขอทานพ่นเศษกระดูกใส่?
'ต้องเป็นบั๊กของเกมแน่นอน'
ถือเป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว การที่ผู้เล่นอย่างเขาจะถูกเศษกระดูกทำร้ายได้รุนแรงขนาดนี้ หากไม่ใช่บั๊กแล้วจะเป็นอะไรได้อีก?
ขอทานคนนี้เป็นใครกันแน่?
โค้กเล่นซาทิสฟายมาเกือบครึ่งปีแล้ว เขามีเลเวลที่สูงถึง 109 และเป็นผู้เล่นโด่งดังในแพเทรี่ยน โค้กยังเคยออกล่ามอนสเตอร์วายร้ายในละแวกนี้ ออร์คจ่าฝูง ตามลำพังมาแล้ว
'ในอนาคต เราจะเป็นก็อด เศษกระดูกแค่นี้ทำอะไรไม่ได้หรอกน่า...!'
เป้าหมายของโค้กคือการเป็นอย่างกริด เขาฝันจะถูกผู้คนทั่วโลกเรียกว่า <ก็อดโค้ก> แบบเดียวกับกริด เมื่อนึกถึงเป้าหมายอันสูงส่งนั้น เศษกระดูกในคราวนี้ยิ่งทวีความอับอายมากขึ้นหลายเท่าตัว
"กล้าทำร้ายฉันรึ? เอานี่ไป!"
โค้กถกแขนเสื้อขึ้นและเหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของปิอาโร่
"โอ้ย!"
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,140 หน่วย ]
คราวนี้เป็นเมล็ดถั่ว ถั่วที่ไม่ได้ใหญ่ขนาดถั่วแดง แต่เป็นถั่วลันเตาเล็กๆ โค้กได้แต่ยืนอึ้งให้กับอาการบาดเจ็บที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้
'บ้าน่า! บั๊กอีกแล้วเหรอ?'
พรวด
โค้กกระอักเลือดคำโตออกมาจากปาก
ในที่สุดเขาก็รู้เสียที ปิอาโร่ไม่ใช่เอ็นพีซีขอทาน แต่จะต้องเป็นเอ็นพีซีระดับสูงแน่นอน
'เอ็นพีซีระดับสูงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...'
ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านการปลอดบั๊ก ไม่เคยมีข่าวตรวจพบบั๊กมาก่อนเลยสักครั้งนับตั้งแต่เปิดตัว มีบางข่าวลือที่กล่าวว่า ผู้สร้างมัน ลิมชอลโฮ คือพระเจ้า
โค้กพยายามเปลี่ยนท่าทีการแสดงออก เขาอยากทำให้สถานการณ์ดีขึ้นด้วยการขอโทษปิอาโร่ ทว่า มันถือเป็นการยากที่จะให้เพื่อนของตนเข้าใจสถานการณ์
"เจ้าบ้านี่มันกล้าขว้างอาหารเชียวรึ? โค้ก! อัดมันเลย!"
"สั่งสอนบทเรียนกับพวกมือใหม่และเอ็นพีซีขอทานซะ!"
ผู้เล่นคนอื่นคงไม่รู้ว่า ในยามนี้ โค้กกำลังใกล้ตายมากเพียงใด!
"โค้ก! โค้ก! โค้ก!"
"ซัดมันเลย!"
โค้กพลันหงุดหงิดเพราะคนพวกนี้มัวแต่ยุแยงให้สู้
'ช่วยดูสถานการณ์หน่อยสิฟะ!'
โค้กไม่อยากถูกฆ่าตายโดยเศษกระดูกและเมล็ดถั่ว แถมยิ่งต่อหน้าผู้เล่นเมืองแพเทรี่ยนที่ชื่นชมในตัวเขาด้วยแล้ว โค้กจ้องมองปิอาโร่ด้วยสายตากล้าๆ กลัวๆ ทว่า ปิอาโร่ก็ไม่ได้สนใจจะเงยหน้าขึ้นมามอง ระดับการเมินเฉยใกล้เคียงกับแมลงวันตัวหนึ่งเท่านั้น
กริดนึกชื่นชมอยู่ในใจ
"นายทำอะไรลงไปกันแน่? ดูเหมือนเศษกระดูกกับเมล็ดถั่วจะทำให้เจ้านั่นเจ็บหนักเลยนี่?"
ผู้เล่นที่มีชื่อตัวละครว่าโค้ก หากดูจากไอเท็มที่สวม เลเวลขั้นต่ำก็ต้องอยู่ในระดับ 100 แถมเกราะยังเป็นเกรดแรร์ จึงเป็นเรื่องน่าตกตะลึงไม่น้อยที่เศษกระดูกและเมล็ดถั่วสามารถทำให้ชายคนนี้กระอักเลือดได้
ปิอาโร่อธิบาย
"ฉันใช้พลังคี ฉันสามารถเสริมพลังของสิ่งต่างๆ ได้โดยการอัดพลังคีลงไปในวัตถุ หรือแม้กระทั่งฝ่ามือของตัวฉันเอง ขนนกสามารถแหลมคมดุจดั่งดาบได้ หากอยู่ในมือฉัน"
"ฟังดูเหมือนพวกปรมาจารย์กำลังภายในเลยนะ"
"กำลังภายใน? นายหมายถึงอะไร?"
"คนที่แข็งแกร่งแบบนายซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ไง"
กริดและปิอาโร่ไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้างเลยสักนิด เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในยามนี้ ผู้เล่นคนอื่นเริ่มโมโหกันบ้างแล้ว
"พวกขอทานบ้านี่กล้าเมินเฉยจนถึงหยดสุดท้ายเชียวรึ...!"
โค้กยังคงนิ่งเฉย ทำให้ผู้เล่นคลาสมั๊งก์เลเวล 78 พีทู และผู้เล่นคลาสนักรบคลั่งเลเวล 85 ดาอิส ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ในขณะที่ทั้งสองยามสามขุมเข้ามาหาปิอาโร่ ประตูร้านพลันถูกเปิดออก
"เซอร์ดีโอมาถึงแล้ว!"
ทหารนับสิบนายกรูกันเข้ามาภายในร้าน พวกมันล้วนตั้งแถวทำความเคารพรอใครบางคน เพียงไม่นาน อัศวินเกราะสีขาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มที่มีขนตาสีบลอนด์อันโดนเด่น มันหรี่ตาลงและมองไปรอบๆ ร้าน
"เหม็น! คนที่นี่กินอาหารแย่กว่าหมูอีกรึไง? เหม็นเกินไปแล้ว!" ดีโอหยิบกุหลาบสีน้ำเงินขึ้นมาดมพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า
"มีใครเห็นดยุคกริดบ้าง?"
"ดยุคกริด?"
"เขากำลังพูดถึงก็อดกริดหรือ?"
รอบๆ แพเทรี่ยนไม่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงเหลืออยู่ เป็นเพราะกองทหารของที่นี่ใช้พวกมันในการฝึกซ้อม
"ทำไมพวกเขาถึงมองหาผู้เล่นเลเวลสูงในแพเทรี่ยน?"
"ไม่สิ ทำไมคนอย่างก็อดกริดต้องมาเหยียบที่นี่ด้วย?"
"ไม่มีใครรู้จริงๆ สินะ" ลงท้ายด้วย ดีโอเดินสำรวจใบหน้าทีละคน
"นายไม่ใช่ นายก็ไม่ใช่ นายก็เหมือนกัน หืม...?"
สายตาของดีโอมาหยุดอยู่ที่มุมร้าน เป็นโต๊ะของผู้เล่นใหม่และขอทาน
"ถอดหมวกออกซะ-- เชี่ย!"
ดีโอที่เดินมาใกล้กริดได้พูดขึ้น ทว่า จู่ๆ สีหน้าของมันก็พลันบูดเบี้ยว เป็นเพราะกลิ่นเหม็นเปรี้ยวอันรุนแรงที่เกินจะทน
"สกปรก...!"
ดีโอคืออัศวินขุนนางชั้นสูง มันจึงพิถีพิถันในเรื่องความสะอาดมาก เมื่อได้กลิ่นเหม็นจากปิอาโร่ที่ไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน มันต่อมโทสะจึงระเบิดออก
"แกกล้าออกไปไหนมาไหนด้วยสารรูปแบบนี้ได้ยังไง? ไอ้คนไม่มีความละอาย! จมูกของฉันเกือบต้องพิการก็เพราะแก อย่าทำให้ฉันคลื่นไส้มากกว่านี้! ไสหัวออกไปซะ!"
"โอ้ว!"
บรรดาผู้เล่นที่รำคานปิอาโร่ต่างคิดว่า การกระทำของดีโอช่างสง่างามเหลือเกิน
"ไปกันเถอะ"
กริดลุกขึ้น เขาคิดว่าควรรีบออกจากเมืองให้เร็วที่สุด เพราะดูเหมือนเอิร์ลอัชเชอร์จะรู้สึกถึงตัวตนเขาแล้ว
'เราไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้'
เมืองใหญ่เรย์ดัน กริดมีความคาดหวังอย่างสูงลิบกับเมืองนี้ เขาอยากรีบไปให้ถึง และดูว่าจะได้รับภาษีต่อปีเป็นจำนวนมหาศาลขนาดไหนกันแน่
แต่ในขณะที่กริดกำลังจะออกไป ดีโอได้เข้ามาขวางไว้
"ฉันบอกให้แกถอดหมวกไม่ใช่รึไง?"
"...เรือกำลังจะออกจากท่าอยู่แล้วเชียว" กริดแสยะยิ้มเล็กน้อยให้กับดีโอ
เขาถามออกไปว่า
"นายคิดว่าฉันคือดยุคกริดงั้นหรือ?"
ดีโอตอบกลับอย่างโผงผาง
"ใช่แล้ว ฉันได้รับข้อมูลว่ามา ดยุคกริดอยู่ที่นี่"
สีหน้าของกริดพลันเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
"แล้วทำไมแกถึงกล้าพูดจาสามหาวเช่นนี้!!"
"ห--หือ?"
จิตสังหารพลันแผ่กระจายไปรอบห้อง ทั้งดีโอและทหารต่างถูกสะกดข่มด้วยแรงกดดันมหาศาล ค่าความเกรงขามของกริดอยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์แห่งอาณาจักร
กริดถอดหมวกออก
"ก--กริด...!"
"ก็อดกริด!"
ดีโอพลันหน้าถอดสี ส่วนผู้เล่นคนอื่นต่างโห่ร้อง กริดใช้ปลายนิ้วกดลงไปบนหน้าผากของดีโอและพูดว่า
"หากแกรู้ว่าฉันคือดยุคกริด แล้วคำแสดงความนอบน้อมมันหายไปไหนหมด!? หืม? เมื่อครู่แกพูดว่ายังไงนะ? ได้เรียกฉันว่าไอ้งั่งรึเปล่า? พวกเราสนิทกันมากขนาดนั้นเชียวหรือ?"
กริดมีความทรงจำที่ไม่ดีนักกับอัศวินประจำตัวเอิร์ลอัชเชอร์ เป็นเพราะในยามที่เขาได้ครอบครองหนังสือหายากของแพ็กม่า คนที่สังหารกริดไม่ใช่ตัวเอิร์ลอัชเชอร์เอง หากแต่เป็นอัศวินองครักษ์ และหนึ่งในนั้นก็คือดีโอ
"ฉันเองก็อยากจะอดทนเอาไว้หรอกนะ แต่สวะอย่างแกมันจองหองไม่รู้ที่ต่ำที่สูง"
กริดโกรธจัดจนตบหน้าดีโอไปหนึ่งที สำหรับดีโอ นี่คือประสบการณ์เลวร้ายที่ไม่เคยพบพาน มันซึ่งเคยถูกพ่อแม่ดุด่าสักครั้งเลยในชีวิต
"แกกล้าทำร้ายฉัน...!"
ดีโอกัดริมฝีปาก เป็นเวลาเดียวกันกับที่กริดชกเข้าไปที่แก้มของมัน
"ยังไม่ขอโทษด้วยการก้มลงกราบเท้าอีกรึไง! ไอ้สวะ!!"
แม้กริดจะเติบโตขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมในช่วงหลัง แต่สันดานคนย่อมฝังรากลึก นิสัยเดิมของกริดนั้นไม่ใช่คนดีเท่าไรนัก เขาตบดีโอต่อหน้าทุกคนโดยไม่คำนึงถึงต่ำแหน่งของมันเลยสักนิดเดียว
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
ใบหน้าอันหล่อเหล่าของดีโอบวดเฉ่งเป็นอึ่งอ่าง ลงท้ายด้วย ความอดทนของดีโอขาดผึ่ง มันใช้มือกำดาบแน่น ลืมคำสั่งของเอิร์ลอัชเชอร์ที่ให้นำตัวกริดกลับไป <อย่างสุภาพ> จนหมด
"โหดร้าย..." คนมุงดูต่างพากันส่งเสียงหวาดเสียว
"อะไรกัน? นี่แกยังกล้าจองหองกับดยุคอย่างฉันงั้นหรือ? อยากมีสภาพเช่นนี้ไปจนตายใช่ไหม?" ดวงตาของกริดแผ่จิงสังหารอันเย็นวาบออกมา เป็นดวงตาแบบเดียวกับตอนที่เขาถูกเรียกว่า <จอมเชือดโรคจิต>
"ฉันขอตัดสิน! โทษของแกคือความตาย!"
โครมมม!
กริดเหวี่ยง <ความผิดพลาด> ในมือ ดีโอไม่สามารถต้านรับไว้ได้แม้แต่ดาบเดียว มันกระเด็นจนแผ่นหลังกระแทกกำแพงเสียงดัง
"แค่ก!"
ทหารต่างพากันลนลานเมื่อเห็นดีโอกระอักเลือด พวกเขาควรปกป้องหัวหน้าของตนดีไหม? แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่เทียบเท่ากับการเป็นกบฏต่อดยุคงั้นหรือ? กลุ่มทหารกำลังเดือดร้อนสุดขีด
เป็นเวลาเดียวกับที่คมดาบสีน้ำเงินจ่ออยู่ใต้ขากรรไกรของดีโอ
"แกจำวันนั้นได้ไหม?"
"วันนั้น...?"
"วันที่ฉันได้พบหนังสือหายากของแพ็กม่า"
"จำได้… ไม่มีวันลืม"
ดีโอลืมไม่ลงแน่ เพราะมันไม่เคยเห็นเอิร์ลอัชเชอร์โกรธจัดขนาดนี้มาก่อน
กริดขบกรามแน่น
"ในวันนั้น ฉันถูกดาบของแกฆ่าตาย ไม่ต้องห่วง วันนี้ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสมันดูบ้าง"
แตกต่างจากผู้เล่น เอ็นพีซีนั้นมีชีวิตเดียว ความตายไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ ในซาทิสฟาย การฆ่าเอ็นพีซีนั้นไม่ต่างอะไรกับเป็นฆาตกรในชีวิตจริง กริดไม่อยากฆ่าเอ็นพีซีพร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาสนิทกับข่านมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ได้คิดฆ่าดีโอตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งใจเพียงทำให้กลัวเท่านั้น
ทว่า ดีโอกลับหวาดกลัวอย่างจริงจังจนฉี่ราด มันพลันน้ำลายฟูมปากและหมดสติไปในเวลาไม่นาน เหตุการณ์ในครั้งนี้คงจำฝังใจไปชั่วชีวิตแน่ สำหรับดีโอที่เป็นถึงหัวกะทิและตัวตนพิเศษมาตั้งแต่เด็ก
***
"นายเป็นดยุคที่แปลกดีนะ" ปิอาโร่พูดขึ้น
กริดยักไหล่
"กรณีนี้ค่อนข้างจะพิเศษ ฉันไม่ค่อยมีความทรงจำดีๆ กับที่แห่งนี้สักเท่าไร"
"ถึงต้องปิดบังตัวตนสินะ"
คนทั้งสองเดินออกจากร้านและเตรียมจะออกจากแพเทรี่ยน แต่เป็นโค้กที่วิ่งตามมาและตะโกนเรียก
"กริด! กริด!"
กริดขมวดคิ้ว
"นายไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังปกปิดตัวตนอยู่? ทำไมถึงตะโกนเรียกชื่อคนอื่นโดยไม่ใช้หัวคิดซะบ้าง?"
"ข--ขอโทษ ผมตื่นเต้นไปหน่อย..." โค้กหยิบกระดาบออกมาและยื่นให้กริด
"ขอลายเซ็นด้วยครับ!"
"...ลายเซ็น?" สีหน้าที่ตึงเครียดเมื่อครู่พลันจางหายไปทันที
"เป็นแฟนคลับฉันหรือ?"
"คุณคือไอดอลของผม! ผมอยากกลายเป็นแบบคุณ!"
"หืม..."
เขากลายเป็นไอดอลเสียแล้ว กริดผู้ที่ถูกคนอื่นดูแคลนมาทั้งชีวิต เขาอดสั่นสะท้านอย่างตื้นตันใจไม่ได้ ลายเซ็นถูกบรรจงเขียนให้โค้กอย่างตั้งใจ
"ขอบคุณมาก"
และเป็นวินาทีที่โค้ก ว่าที่สิบรุคกี้ของโลกคนต่อไป กลายเป็นแฟนคลับที่แท้จริงของกริด
ในขณะเดียวกัน เอิร์ลอัชเชอร์ก็ได้ทราบข่าวดีโอ
"ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้"
ความอับอายของลูกน้องก็คือความอับอายของหัวหน้า! เอิร์ลอัชเชอร์ทวีความโกรธขึ้น มันใช้ลูกแก้วเวทย์เพื่อสอดส่องดูตำแหน่งกริด หลังจากใช้ก็ใช้เวทย์เคลื่อนยายแบบกลุ่มไปดักหน้ากริดพร้อมกับอัศวินที่เหลือ
กริดพลันชะงักเมื่อเดินออกจากแพเทรี่ยนได้ไม่นาน เป็นเพราะบนท้องฟ้าเกิดลำแสงสว่างขึ้น และอัชเชอร์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
"แกมาที่นี่จนได้สินะ อยากตายนักรึไง? หรือว่าเสียสติไปแล้ว?" เอิร์ลอัชเชอร์ถามกริดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
"ฉันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องกลัวแก หึ! คนอย่างแกมีฝีมือพอจะทำอะไรฉันได้งั้นรึ?" กริดถามกลับอย่างเหยียดหยัน
เอิร์ลอัชเชอร์พ่นลมหายใจเบาๆ
"ฉันคือจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียวในอาณาจักรอีเทอนัล และเป็นถึงหนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีปนี้!"
นั่นไม่ใช่คำโอ้อวดเกินจริง เอิร์ลอัชเชอร์คือตัวตนที่ทรงพลังสูงสุดในอาณาจักรอีเทอนัล มันจึงถูกแต่งตั้งให้ดูแลรักษาจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างป้อมปราการแพเทรี่ยน
"ฉันไม่กลัวพลังแพ็กม่า แล้วแกก็ไม่ใช่แพ็กม่า! การจะจัดการกับแกมันก็แค่-- หืม?"
เอิร์ลอัชเชอร์พลันตกตะลึงอย่างไรสาเหตุ เพราะยามนี้ มันกำลังถูกสะกดข่มด้วยแรงกดดันมหาศาล
"ฉันอยากสู้กับหนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีป"
จิตวิญญานแห่งการดวลของปิอาโร่ได้ตื่นขึ้น
"ก--แกเป็นใคร?"
เอิร์ลอัชเชอร์ไม่สนใจกริดอีก ปีศาจตรงหน้าช่างน่ากลัวกว่าไม่รู้ตั้งกี่เท่า แผนที่วางเอาไว้พลันผิดขั้นตอนในทันที
หยาบ 5555
ReplyDeleteงานนี้ชนตอหม้อสะพานเต็มๆ
ReplyDeleteพลาดจุดเดียวคือการบอกว่าเก่งต่อหน้าปิอาโร่
ReplyDelete