จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 215
เรย์ดันห่างจากแพเทรี่ยนราวสามถึงสี่วันด้วยการเดินเท้า ทว่า ปาร์ตี้ของกริดถูกมอนสเตอร์ถ่วงแข้งขามาตลอดทาง พวกเขาไม่อาจหลบเลี่ยงมันได้ ทำให้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว
'ค่าประสบการณ์น่าสนใจทีเดียว'
เป็นเวลากว่า 6 วันแล้วที่ทั้งสามออกเดินทางจากแพเทรี่ยน
ในระหว่างนั้น กริดออกล่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งในดินแดนตะวันตกอย่างสนุกสนาน เลเวลของเขากลายเป็น 273 แถมตอนนี้ หลอดค่าประสบการณ์ก็สูงถึง 60% แล้ว ใกล้จะอัพเต็มที เป็นความเร็วในการอัพเลเวลที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางจินตนาการได้
แม้จะอยู่ในช่วงเลเวล 270 แล้ว แต่ทุกสองวัน กริดก็จะอัพหนึ่งเลเวล
ตัวกริดอาจไม่รู้ แม้แต่ครอเกลก็ยังไม่สามารถทำความเร็วในระดับนี้ได้เมื่อเขาเลเวล 270
'ก่อนถึงเรย์ดัน เลเวลของเราจะต้องเป็น 275 ให้ได้' กริดพูดกับตัวเองอย่างตื่นเต้น แม้แต่แร้งเกอร์หัวแถวก็ยังล่ามอนสเตอร์ในดินแดนตะวันตกได้ยากลำบาก เขาจึงรู้สึกภูมิใจในพลังแห่งไอเท็มและทักษะของตนมาก
'เกมนี้ขึ้นอยู่กับไอเท็มจริงๆ การควบคุมน่ะหรือ? ลืมมันไปซะ ของแบบนั้นเป็นแค่ข้ออ้างของพวกไม่มีไอเท็มดีๆ ใส่เท่านั้นแหละ วะฮ่าฮ่าฮ่า!'
แรกเริ่มเดิมที ทักษะการควบคุมก็มีไว้ให้คนอ่อนแอล้มผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว แต่ของแบบนั้นไม่จำเป็นกับกริด เขาคือผู้แข็งแกร่ง นับตั้งแต่สังหารมาลาคัสได้ มุมมองของกริดในด้านนี้ก็แคบลงมาก เขาไม่เคลือบแคลงเลยว่า ไอเท็มคือสิ่งสำคัญที่สุดในเกม
แต่ความเชื่อเหล่านั้นกำลังค่อยๆ ถูกสั่นคลอน
***
"แฮ่ก แฮ่ก… นี่คือของจริงสินะ หนอนยักษ์ก่อนหน้านี้กลายเป็นแค่การออกกำลังกายไปเลย"
กริดกำลังเหน็ดเหนื่อยสุดขีดท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งก่อนถึงเรย์ดัน ต้องขอบคุณทักษะท้านทานสถานะสุดโกง กริดจึงไม่เป็นลมแดดตายไปเสียก่อน แต่ความร้อนก็ยังมากพอจะทำให้ค่าเรี่ยวแรงของเขาลดลงเร็วกว่าปรกติ แถมสิ่งที่แย่ไปกว่านั้น กริดยังไม่ชินกับพื้นทราย
มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวออกมามีแต่จะเก่งขึ้นในทุกขณะ บาสิลิสก์จำนวน 4 ตัว มอนสเตอร์ที่หากอยู่ในดินแดนตอนเหนือจะถูกจัดให้เป็นระดับบอส กำลังปรากฏตัวต่อหน้ากริด ชายหนุ่มใช้ทุกทักษะที่มีโจมตีเข้าใส่มัน ทว่า สถานการณ์โดมรุมเช่นนี้ย่อมไม่สู้ดีนัก
"ชิ! ให้พักหน่อยไม่ได้รึไงฟะ!"
ชะตากรรมของเขากำลังย่ำแย่ การควบคุมอันแสนอ่อนหัดได้ทำให้ถูกมอนสเตอร์จู่โจมใส่โดยง่าย แม้แต่เกราะที่ดีที่สุดในโลกก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ พลังชีวิตลดลงเรื่อยๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ มันคงไม่แปลกเลยที่ประกันชีวิตจะถูกใช้ออกมา
'แม้แต่โกเล็มของบราฮัมก็ยังเทียบไม่ได้กับมอนสเตอร์ที่นี่'
มอนสเตอร์ดินแดนตะวันตกทั้งแข็งแกร่งและมีจำนวนมาก เป็นสาเหตุหลักที่อาณาจักรยอมปล่อยให้พวกมันเพ่นพ่านมากกว่าจะมากำจัดทิ้ง
'อาณาจักรไม่มีทางควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้เลย กษัตริย์จึงส่งเราให้มาทำหน้าที่นั้น'
เป็นการคาดเดาที่ถูกต้อง กษัตริย์วิสบาเดนต้องการให้กริดกวาดล้างมอนสเตอร์ดินแดนตะวันตกให้หมด เพราะสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ดุร้ายมากเกินไป การที่ยอมยกเรย์ดันให้ ถือเป็นการเชื่อใจอย่างมากว่ากริดจะทำสำเร็จ ทว่า ชายหนุ่มกลับคิดว่าตนกำลังถูกหลอกใช้ จึงอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
อ๊บ!
ในขณะที่กริดกำลังสาปแช่งกษัตริย์ในใจ คางคกทะเลทรายตัวใหญ่ได้ทำการแลบลิ้น น้ำเมือกเหนียวๆ ถูกพ่นใส่กริดจนเหนอะหนะเต็มตัว เดิมที เมือกเหล่านี้มีคุณสมบัติในการอัมพาตเป้าหมาย ทว่า...
[ ท่านต้านทานอาการผิดปรกติ ]
กริดต้านทานและตอบโต้กลับไป +9 ความผิดพลาดในมือฟาดฟันเข้าใส่ท้องอันอวบอ้วนของคางคก แต่มีหรือที่มอนสเตอร์ดินแดนตะวันตกจะอ่อนแอขนาดถูกกริดโจมตีครั้งเดียวตาย คางคกทำการตวัดลิ้นประหนึ่งแส้เพื่อตอบโต้กริด
'ชิ!'
กริดเชื่องช้าเกินกว่าจะหลบพ้น เขาถูกลิ้นกวาดกระแทกใส่ท้องคางคกอย่างรุนแรง
แปะ! พรืดด
แม้ร่างกายกริดจะแข็งแกร่งดุจดั่งเหล็กกล้าขนาดไหน แต่ยามนี้ ศีรษะของเขาถูกกระแทกอย่างจัง ร่างกายชายหนุ่มกำลังร่วงลงสู่พื้น มอนสเตอร์ตัวอื่นได้รีบกรูเข้ามาหวังทำร้าย
"โธ่เว่ย...! ทั้งมายาและมายาร่ายรำยังใช้ไม่ได้!" กริดที่เอาแต่พึงพาทักษะจนฝีมือควบคุมห่วยแตก ยามนี้เขากำลังเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายสุดขีด ถ้าไม่มีทักษะล่ะก็ เขามันก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง
"ปิอาโร่! ช่วยด้ว--… เอ๋?"
สุดท้าย กริดก็ต้องหวังพึ่งให้ปิอาโร่ช่วย ทว่า เขากลับต้องตกตะลึงในภาพที่เห็น เป็นเพราะบลันด์กำลังพุ่งตัวออกมาโจมตี ก่อนหน้านี้ ตลอดหกวันที่ผ่านมา กริดไม่เคยสนใจบลันด์เลยแม้แต่นิดเดียว
แล้วบลันด์แข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้ได้ยังไงในระยะเวลาสั้นๆ?
'เกิดอะไรขึ้นกันแน่?'
ราวหกวันก่อน ชายคนนี้ แค่มอนสเตอร์อ่อนหัดอย่างก็อบลินมีเขาก็ยังสู้ได้ยากลำบาก แต่ตอนนี้กลับสามารถดวลเดียวกับมอนสเตอร์ตะวันตกที่เลเวลสูงกว่าตนมากถึง 50 ระดับได้สบายมือ
พัฒนาการระดับนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
'เกมมีบั๊กหรอ...?'
มีเหตุผลอะไรที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตขนาดนี้กันนะ? กริดพลันเกิดความสงสัย เขาเดินถอยไปด้านหลังในระหว่างที่บลันด์กำลังดึงความสนใจ หลังจากนั้น ดาบของลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ก็ถูกนำมาถือในมือเพื่อตรวจสอบบลันด์
ชื่อ : บลันด์
อายุ : 25
เพศ : ชาย
คลาส : นักดาบเวทย์มนต์
_______
สมญานาม : บุตรชายของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
เขาได้รับสืบทอดพรสวรรค์เวทย์มนต์ที่ยิ่งใหญ่มาจากผู้เป็นบิดา เอิร์ลอัชเชอร์ บลันด์จะได้รับโบนัสพิเศษในด้านความเร็วร่ายเวทย์และความเร็วฟื้นฟูมานา และทุกครั้งที่เขาเลเวลอัพ ค่าสติปัญญาจะเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าปรกติ
_______
สมญานาม : ศิษย์ของมาร์ควิสสไตม
เขาเคยผ่านการศึกษาวิชาดาบจากมาร์ควิสสไตม หนึ่งในนักดาบผู้โด่งดังแห่งดินแดนตอนเหนือ เมื่อใช้อาวุธประเภทดาบ พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 20% และความเร็วโจมตีจะเพิ่มขึ้น 10%
_______
เลเวล : 255
พละกำลัง : 1,331/1,990
ความอดทน : 420/1,030
ความว่องไว : 519/1401
สติปัญญา : 2,540/4,550
ความน่าหลงไหล : 212/800
_______
รายการทักษะ :
- วิชาดาบแดนเหนือ (B)
- เร่งความเร็วร่ายเวทย์ (S)
- ควบแน่นพลังเวทย์ (S)
- เวทย์เกรด C จำนวน 9 ชนิด
- เวทย์เกรด B จำนวน 5 ชนิด
- เวทย์เกรด A จำนวน 2 ชนิด
* สามารถกดดูรายละเอียดแต่ละเวทย์มนต์ที่เป้าหมายครอบครองได้
_______
บลันด์ ในวัยเด็กและวันรุ่นของเขาใช้เวลาไปกับการศึกษาเวทย์มนต์จากผู้เป็นพ่อ และศึกษาวิชาดาบจากเอิร์ลสไตม เขาเติบโตมาอย่างที่เด็กหัวกะทิควรจะเป็น เด็กหนุ่มอัจฉริยะคนนี้ถูกคาดหวังให้เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอีเทอนัลในวันข้างหน้า
'ก็ไม่มีอะไรพิเศษนี่นา?'
กริดเคยตรวจสอบบลันด์มาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้รับมาเป็นเชลย สิ่งเดียวที่ต่างจากตอนนั้นคือเลเวลซึ่งเพิ่มขึ้นมา 5 ระดับ และค่าสถานะอีกเล็กน้อย
'แต่ทำไมถึงเก่งจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้?'
กริดได้แต่สงสัย
"แบบนั้นแหละ หัวไวดีนี่! เวลาถือดาบในมือจะทำเป็นเล่นไม่ได้ หากศัตรูโจมตีเข้ามา สิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่การหลบ แต่เป็นการปัดป้องหรือไม่ก็หาโอกาสโจมตีสวนกลับ แม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งกว่า แต่พวกมันก็จะถูกจัดการได้ง่ายถ้าหากนายใช้ดาบอย่างถูกวิธี"
ปิอาโร่กำลังแนะนำบลันด์
ในที่สุด กริดก็คิดได้
'เป็นเพราะคำแนะนำของปิอาโร่สินะ'
แม้จะเป็นนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ แต่คนๆ หนึ่งสามารถเติบโตได้เร็วถึงเพียงนี้ด้วยเพียงแค่คำแนะนำเชียวหรือ? กริดเริ่มจับตาดูปิอาโร่และบลันด์ ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เดินนำหน้าไปประจัญบานกับมอนสเตอร์ตามลำพังอีก เพียงแต่คอยต่อสู้อยู่ใกล้เคียงคนทั้งสอง
"นายกังวัลกับการเป็นนักดาบเวทย์มนต์มากเกินไป การร่ายเวทย์กับวิชาดาบไม่สามารถทำพร้อมกันได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดช่องว่างขึ้น แต่ฉันก็ไม่ได้บอกให้นายทิ้งเวทย์มนต์ไปเสียทีเดียว นายมีพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนต์มากกว่าวิชาดาบ ดังนั้น ถ้าหากพบพานศัตรูแข็งแกร่ง ให้เลือกใช้เวทย์มนต์โจมตีเป็นหลัก วิชาดาบของนายใช้เพียงป้องกันตัวก็พอแล้ว"
ปิอาโร่คอยให้คำแนะนำ และบลันด์ก็จะซึบซับไว้ได้ทั้งหมดอยู่เสมอ การเติบโตอย่างรวดเร็วของบลันด์ส่งผลต่อกริดมาก ในอีกความหมายหนึ่ง ฝีมือในการควบคุมได้เริ่มสั่นคลอนจิตใจของเขาบ้างแล้ว
'...ถ้ามีทั้งพลังของไอเท็มและฝีมือการควบคุม เราจะไปได้ไกลขนาดไหนกันนะ?'
ในที่สุดกริดก็รู้ตัว เขาเข้าใจสักทีว่า ถ้าหากไม่ปรับปรุงเรื่องการควบคุม ในอนาคตอันใกล้คงถึงขีดจำกัดของตนเองแน่ ลงท้ายด้วย ชายหนุ่มเอ่ยปากขอร้องปิอาโร่
"ได้โปรดชี้แนะฉันด้วย"
"นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือ? ว่านายไม่ต้องการมัน"
"เถอะน่า ความคิดคนเราเปลี่ยนกันได้ ตอนนี้ฉันอยากเรียนรู้จากนายแล้ว"
'เป็นเพราะเห็นบลันด์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วงั้นหรือ? ศักดิ์ศรีของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าที่ค้ำคอไว้หายไปไหนหมดแล้วนะ?'
ในที่สุดปิอาโร่ก็เข้าใจ ที่แท้กริดก็เป็นคนโลเลและไร้หลักการที่มั่นคง เป็นคนประเภทที่ปิอาโร่ไม่ชอบเอาเสียเลย แต่เขาก็ยอมรับคำขอของกริดแต่โดยดี เพราะในวันข้างหน้า กริดอาจเป็นคู่ฝึกซ้อมที่สมน้ำสมเนื้อให้ได้ ปิอาโร่จะได้พัฒนาตนเองไปด้วย
หัวใจที่เคยเย็นชาและเปี่ยมไปด้วยการแก้แค้น บัดนี้ น้ำแข็งที่ห่อหุ้มค่อยๆ ละลายเพราะกริดและบลันด์
เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่สำคัญอย่างยิ่งในอนาคต
หลังจากนั้น
"อย่าขยับศีรษะพร่ำเพรื่อสิ! จะต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งกัน?"
"เวลาขยับตัว ส่วนหัวมันก็ต้องขยับตามอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? จะให้ฉันทำแบบที่นายบอกด้วยวิธีไหน?"
"ลองพยายามดูหน่อย ใช้หัวคิดให้มาก แล้วก็ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้เวทย์บิน นักรบควรสู้ได้ทุกพื้นผิว ผืนทรายแห่งนี้จะช่วยเพิ่มพัฒนาการของนาย"
"ฉันจะเหวี่ยงดาบยังไงถ้าเท้าทั้งสองข้างจมอยู่ในทราย?"
"ถ่ายน้ำหนักไปที่ปลายดาบ ไม่ใช่ปลายเท้า"
"แล้วฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไง?"
"...จะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งว่านายต้องขยับกล้ามเนื้อไปพร้อมกันด้วย?"
"ไม่ใช่ ฉันหมายถึง ฉันจะขยับกล้ามเนื้อยังไง?"
"..."
เหตุผลที่บลันด์เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเขาคืออัจฉริยะเป็นทุนเดิม เมื่อสุดยอดครูพบพานสุดยอดศิษย์ พัฒนาการก้าวกระโดดจึงเกิดขึ้น แต่กริดเป็นเพียงไอ้งั่ง มันไม่ง่ายเลย แม้คนสอนจะเป็นถึงนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ก็ตาม
ปิอาโร่เริ่มรู้สึกว่าตนทำพลาดไปที่สัญญาว่าจะชี้แนะกริด ชายคนนี้ไร้ความสามารถในการตีความอย่างสิ้นเชิง แถมยังเรียนรู้ได้ช้า ปิอาโร่จึงทำได้เพียงผิดหวัง
'เราเคยคิดว่าเขาจะฉลาดเฉลียว แต่นั่นไม่ใช่เลย'
ทำไมคนโง่เขลาเช่นนี้ถึงมีโอกาสเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าได้? ปิอาโร่ได้แต่สงสัย จากใจจริง เขาอยากเลิกสอนกริดเสียเดี๋ยวนี้ ทว่า นักรบย่อมพูดแล้วไม่คืนคำ เขาจำใจต้องสอนกริดต่อไป
กริดบ่นอุบอิบไปพลาง พยายามทำความเข้าใจคำพูดปิอาโร่ไปพลาง สิ่งที่ปิอาโร่พูด ทั้งยากและซับซ้อน แต่กริดก็พยายามทำตามอย่างเต็มที่ เป็นอย่างนี้ไปตลอดสามวันเต็ม ก่อนที่จะถึงเรย์ดัน ดูเหมือนเขาจะพัฒนาตัวเองขึ้นอยู่บ้าง
"ค่อยเหมือนคนปรกติขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว"
กริดเริ่มมีพื้นฐานของนักดาบ นี่คือขีดจำกัดของเขาในตอนนี้ แม้นักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างปิอาโร่จะเป็นคนฝึกสอนก็ตาม
'กริดคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว'
ปิอาโร่จำใจยอมรับความพ่ายแพ้ต่อความโง่เขลาของกริด ในที่สุด ปาร์ตี้ทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงเรย์ดัน
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteสงสาร กริด หรือ ปิอาโร่ ดีเนี่ยตอนนี้
ReplyDeleteขอบคุณมากคับ
ReplyDeleteแม้งเอ้ย เจอตัวเอกแบบนี้อีกแล้ว ไม่เก่งไม่ว่า อย่าโง่ได้มั้ย ไอ้ฟัก
ReplyDeleteแต่มันดันเก่งไง555
Deleteเบื่อเว้ย มึงเจอคนอาวุธระดับเดียวกันมึงดับแน่
ReplyDeleteกุก็คิดว่าจะฉลาดขึ้นบ้างแต่ไม่เหมือนโง่กว่าเดิมอีก
ครอเกลคือพระเอก
ระดับเดียวกันมันชนะเเน่ครับสเตตัสสูงกว่าคนอื่นเกือบ100เลเวล
Deleteแต่มันเพิ่มเวลไม่ได้แล้วน่ะอย่าลืมดิทุกกสร้างไอเทมเลเจนดารีทุก5อันจะปรับให้อ่อนลงและแข็งแกร่งในด้านช่างเหล็กแทนถ้าเจอคนที่สูงกว่านี้ดับแน่นวล
Deleteขัดใจทันที ที่มึตัวเอกโง่แบบนี้ เศร้า ไม่งั้นความเป็นเทพทรูคงไปได้ไกลกว่านี้
ReplyDeleteโง่ชิบหาย
ReplyDeleteน่าจะให้ ไอกริด ตายสักรอบ โดนเรียกว่า ก็อดกริดได้ยังไงวะ
ReplyDeleteกริดเป็นพวกต้องทำซ้ำไปบ่อยๆถึงจะเป็นงานครับ อย่าหัวร้อนกะอิแค่เก่งช้าเลย เพราะนี้มันนิยายใช่ว่ามันจะสอนปุ๊บเก่งปั๊บเหมือนในเมะหรือมังงะ มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปอะดีแล้วครับเพราะคนเขียนเขาต้องการให้คนอ่านอินไปกับนิยายด้วยเขาก็เลยทำให้มันเก่งช้าครับ
ReplyDeleteไอ้งังของแท้แถมโง่ของจริง
ReplyDeleteนัันแหละ
ReplyDeleteตอนแรกไม่เก่งไม่ว่าแต่คนอะไรมันจะโง่ได้ขนาดนี้วะ
ReplyDelete