จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 200
ตู้มมมมม!
เกิดแสงสว่างวาบรอบศาสตราวุธบรรพกาล ตามมาด้วยแรงระเบิดที่ทรงอานุภาพ ทุกสิ่งในรัศมี 15 เมตรถูกป่นเป็นเถ้าธุลี
"พี่!"
เซฮีหน้าถอดสีเมื่อเห็นร่างของกริดถูกแรงระเบิดซัดกระเด็น หลอดพลังชีวิตของกริดในปาร์ตี้ก็ลดลงจนแทบมองไม่เห็น
"นายท่าน!"
"กริด!"
ฮิวรอยและลอเอลเคยเห็นแต่ฉากกริดไล่ถล่มศัตรูฝ่ายเดียวอยู่เสมอ เรื่องที่กริดจะตายจึงไม่เคยมีอยู่ในความนึกคิด ทว่า ในยามนี้ คนทั้งสองต่างกำลังลนลาน ในขณะที่ยูเฟอมิน่ารีบวิ่งเข้าไปหากริดด้วยใบหน้าหวั่นวิตก
แต่กริดยังคงมีลมหายใจอยู่
"โอ้ย… ทำไมอยู่ๆ ถึงระเบิดขึ้นมาได้? ปวดหัวชะมัด" กริดบ่นอุบอิบพร้อมกับพยุงตัวขึ้นด้วยสภาพร่อแร่
แค่ 1...
พลังชีวิตเพียง 1 หน่วยนี้ซึ่งทำให้ตัวละครของเขาไม่ถูกระบบเกมตัดสินว่าตาย เป็นการรอดอย่างหวุดหวิดราวกับปาฏหาริย์ในสายตาผู้อื่น
ฮิวรอยตะโกนอย่างตื่นเต้น
"สวรรค์ยังคอยช่วยเหลือนายท่านอยู่!"
ลอเอลกล่าวอย่างโล่งใจ
"ไม่อยากจะเชื่อว่านายรอดมาได้ นี่นายมีพลังป้องกันเท่าไรกันแน่?"
"ไม่สูงกว่าคนทั่วไปมากนักหรอก เป็นผลมาจากไอเท็มมากกว่า"
กริดพูดไปพลางอมยิ้ม แต่ในใจเขาไม่ได้มีความสุขนัก
'ประกันชีวิตบินไปแล้ว'
เหตุผลที่กริดกล้าสู้แบบเสี่ยงตายอยู่เสมอ เป็นเพราะเขามีประกันชีวิตสุดโกงอยู่ หากเทียบกับคนทั่วไป เขาจะได้เปรียบกว่าเพราะมีถึงสองชีวิต แต่ตอนนี้ต้องเสียความสามารถนั้นไป การต่อสู้หลังจากนี้คงต้องทำอย่างกล้าๆ กลัวๆ
'ประกันชีวิตมีระยะหน่วงหนึ่งวัน...'
กริดตัดสินใจจะสู้อย่างไม่ประมาท เขาหันไปถามลอเอล
"ตัวแรกไม่ระเบิด แล้วทำไมตัวสองถึงระเบิด? เงื่อนไขคืออะไร?"
"ตัวอย่างมีแค่ 2 ครั้ง คงเป็นการยากที่จะระบุให้แน่ชัด แต่หลังจากนี้ คงต้องสู้กับทั้ง 10 ตัวที่เหลือด้วยความคิดที่มันจะระเบิดทุกตัว"
"ฆ่าเสร็จแล้วรีบถอยสินะ..."
ในยามนี้ ตัวตนของกริดเริ่มเป็นปัญหาแล้ว ดูเหมือนการสังหารศาสตราวุธบรรพกาลไปสองตัวติดกันจะทำให้เขาตกเป็นเป้าของโกเล็มที่เหลือทั้ง 800 ตัว แม้ปาร์ตี้ของกริดจะจัดการไปมาก แต่จำนวนขนาดนี้ย่อมเกินความสามารถ
ในระหว่างช่วงความเป็นความตาย
"ดูเหมือนนายจะกลายเป็นเป้าหมายของทุกตัวแล้วนะ ยูเฟอมิน่า เธอได้คัดลอกเวทย์รักษาไว้รึเปล่า?"
"ไม่เลย นักบวชรีเบคก้าหายากมาก จึงไม่มีโอกาสคัดลอกฮีลไว้เลยสักครั้ง"
"ถอยก่อน"
กริดต้องการเวลาเพื่อฟื้นพลัง ฮิวรอยและลอเอลจึงพยายามสร้างโอกาสให้ ทว่าตุ๊กตาวิญญานกลับมีความเร็วน่าเหลือเชื่อ
อั่ก!
เคร้งเคร้ง! ฉึก!
"แค่ก...!"
ฮิวรอยพยายามปัดป้องการรุกหนักของตุ๊กตาวิญญานไว้อย่างเต็มกลืน จนในที่สุดเขาก็ถูกแทง เป็นการยากที่ฝีมือปัจจุบันของฮิวรอยจะขัดขวางตุ๊กตาวิญญานได้ การที่ยังไม่ตายก็เป็นเพราะมีเดรกคอยช่วยปกป้องอยู่
ส่วนลอเอล เมื่อเป็นการต่อสู้ระยะใกล้ ชี่กงมาสเตอร์ย่อมทำอะไรไม่ได้มาก
ยูเฟอมิน่าก็พยายามหาทางช่วย แต่ด้วยบาเรียต่อต้านเวทย์ที่กางคลุมอยู่ ทำให้ความสามารถของเธอต้องถูกสะกด
ลงท้ายด้วย กริดมีวิธีเดียว หากเป็นในอดีต เขาคงวิ่งหนีเตลิดไปคนเดียวโดยไม่เหลียวหลังแล้ว ทว่าบัดนี้ไม่ใช่ เขาไม่มีทางปล่อยให้พวกพ้องต้องบาดเจ็บล้มตาย
"คอยสนันสนุนฉันจากด้านหลัง!"
ในตอนแรก กริดนั่งลงเพื่อเร่งความเร็วฟื้นฟูพลังชีวิต ทว่าเขาจำต้องยืนขึ้น หลังจากนั้นก็ย่างกรายเข้าไปพร้อมกับดื่มโพชั่นระดับสูงสุดที่มีในเกม
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 7,500 หน่วย ]
"ชิ!"
ด้วยไอเท็มและสมญานามทั้งหมด กริดจึงมีพลังชีวิตที่สูงถึงเกือบ 60,000 ดังนั้นโพชั่นที่ฟื้นพลังแค่ 7,500 จึงไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
เคร้ง! เคร้ง!
กริดสู้ด้วยความกลัวที่จะต้องตาย เขาจึงตกเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่าปรกติ การได้เห็นโกเล็มเก่าแก่ 700 ตัวและตุ๊กตาวิญญาน 200 ตัวพุ่งเข้าใส่ เหงื่อไคลเม็ดเป้งพลันไหลออกมาจากทุกรูขุมขน เขาตั้งรับอย่างเชี่ยวชาญด้วยความช่วยเหลือของพาเฟรเนี่ยม ในหัวคิดแต่จะรอให้ระยะหน่วงจากโพชั่นวนมาถึง
ซู่ววว!
ลำแสงถูกยิงออกมาจากศาสตราวุธบรรพกาลทั้งสิบตัวที่ยังเหลือ กริดทำได้เพียงตั้งรับเท่านั้นจริงๆ
"ปกป้องท่านวิสเคาท์กริด!"
ทหารแดนเหนือรีบกรูเข้ามาช่วยปกป้อง ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก ความเสียหายทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
กริดรู้สึกเสียใจในความโง่เขลาของตน
'เราควรสวมแหวนโดรันไว้ตลอดเวลา'
ระยะหลังมานี้ กริดชำนาญการใช้แหวนโดรันมากขึ้น เขาจะสวมแหวนโดรันเฉพาะจังหวะที่จะถูกโจมตีด้วยท่าใหญ่ของศัตรูเท่านั้น กริดจึงไม่เคยสวมมันในยามปรกติ
เขามั่นใจเกินไป และผลคือ การโดนระเบิดจากศาสตราวุธบรรพกาลเข้าไปเต็มหน่วยจนไม่สามารถฟื้นพลังได้ ทำให้บัดนี้ต้องตกอยู่ในห้วงวิกฤติที่ยากจะแก้
"พี่...!"
กริดกำลังรับมือโกเล็มอย่างยากลำบากด้วยพลังชีวิตก้นหลอด ในสายตาเซฮี เขากำลังเดือดร้อนหนัก
'เราอยากช่วยพี่'
เธอไม่อยากเห็นพี่ชายถูกทำร้าย เธอไม่อยากให้ทหารต้องตายอย่างเปล่าประโยชน์เพราะช่วยปกป้องพี่ชายเธอ ไม่สมควรมีใครตายอีกแล้ว
เธออยากมีพลัง
"ฉันจะเป็นนักบุญหญิง"
นับตั้งแต่ที่ข้อความระบบแจ้งว่าเธอสามารถเปลี่ยนเป็นนักบุญหญิงได้ ไอค่อนเครื่องหมายตกใจ ( ! ) สีทองก็ปรากฏขึ้นทางซ้ายมือ
เธอไม่ใช่ไอ้งั่งเหมือนพี่ชาย ของแบบนี้เธอย่อมรู้ว่าหมายถึงสิ่งใด
'ถ้าเรากดมัน เราจะกลายเป็นนักบุญหญิงใช่ไหม?'
จึ๊ก
เธอกดมัน หลังจากนั้นก็มีเสียงของผู้หญิงที่ฟังดูอบอุ่นดังขึ้นในหัว
[ <นักบุญหญิง> จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคน หากท่านตัดสินใจจะเป็น <นักบุญหญิง> แล้วล่ะก็ ในทุกเดือน ท่านจะต้องทำความดีให้ครบ 50 แต้ม หากฝ่าฝืน ท่านจะถูกถอดถอนจากการเป็น <นักบุญหญิง> และไม่สามารถกลับมาเป็นได้อีก ]
[ นักบุญหญิงไม่สามารถเรียนรู้ทักษะชนิดอื่นได้นอกจากทักษะของคลาสตน ]
[ นักบุญหญิงสามารถใช้อาวุธได้ชนิดเดียวเท่านั้น ]
[ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ท่านยืนยันที่จะเปลี่ยนเป็น <นักบุญหญิง> รึไม่? ]
"ยืนยัน"
พรึบ!
หลังจากตกลง ร่างของเซฮีก็อาบด้วยลำแสงสีทองอันอบอุ่น ข้อความระบบแสดงขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง
[ ท่านกลายเป็นคลาสลับประเภทเติบโต : นักบุญหญิง ]
[ คลาส <นักบุญหญิง> จะเริ่มต้นที่เกรดอีปิก ในการจะเลื่อนเกรด ท่านต้องผ่านเงื่อนไขบางประการ ]
[ ท่านได้รับอาวุธประจำคลาส <คฑาไม้> ]
[ เมื่อเกรดของคลาสเพิ่มขึ้น ระดับของอาวุธก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ]
[ ค่าสถานะ <ความดี> ถูกเปิดใช้งาน ]
[ ค่าสถานะ <ความเยือกเย็น> ถูกเปิดใช้งาน ]
[ ท่านได้รับทักษะ <ความหวัง> ]
[ ท่านได้รับทักษะ <ฝึกตน> ]
[ ท่านได้รับทักษะ <แสงกรุณา> ]
[ ท่านได้รับทักษะ <หัวใจซื่อตรง> ]
[ ท่านได้รับสมญานาม <แบบอย่างของทุกคน> ]
[ ท่านได้รับทักษะ <เสียสละ> ]
[ ขอแสดงความยินดี! ท่านกลายเป็นตัวตนอันแสนพิเศษในซาทิสฟาย ท่านสามารถใช้ทักษะ <ฮีล> ได้โดยที่ไม่ต้องหยิบยืมพลังเทวะ โดยพลังของท่านจะมาจากคุณงามความดีและความรับผิดชอบที่กระทำลงไป ]
เซฮีไม่ใช่ไอ้งั่งเหมือนพี่ชาย เธอรีบสวมคฑาไม้และค้นหาทักษะเพื่อคอยสนับสนุนกริด
[ คฑาไม้ ]
เกรด : อีปิก
ความคงทน : 200/200
พลังโจมตี : 133
พลังป้องกัน : 133
_______
* ค่าสถานะทุกชนิด +50
_______
คฑาซึ่งสร้างขึ้นจากไม้ไม่ทราบที่มา มันมีความแข็งมากจนไม่อาจถูกตัดได้ด้วยดาบ
ในขณะนี้ยังไม่มีคุณสมบัติพิเศษ
_______
เงื่อนไขการสวมใส่ : นักบุญหญิง
น้ำหนัก : 180
[ ความหวัง ]
เกรดทักษะ : อีปิก
_______
* ทำการรักษาเป้าหมายแบบสุ่มความรุนแรง (10~30%) ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมาย
________
มานาที่ใช้ : 10% ของมานาสูงสุด
ระยะหน่วงหลังใช้ : 1 นาที 30 วินาที
* เกรดของทักษะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกรดของคลาสเพิ่มขึ้น
[ ฝึกตน ]
เกรดทักษะ : อีปิก
_______
* ขจัดอาการผิดปรกติของเป้าหมายทั้งหมด
* เป้าหมายจะต้านทานต่ออาการผิดปรกติทุกชนิดเป็นระยะเวลาหนึ่ง
_______
มานาที่ใช้ : 2,000
ระยะหน่วงหลังใช้ : 5 นาที
* เกรดของทักษะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกรดของคลาสเพิ่มขึ้น
[ แสงกรุณา เลเวล 1]
* ฟื้นฟูพลังชีวิตของสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนรวมถึงตัวท่าน
* ความรุงแรงของการฟื้นฟูเทากับ 3,500 + (ค่าความดี x 3 + ค่าสติปัญญา x 2)
_______
มานาที่ใช้ : 1,500
ระยะหน่วงหลังใช้ : 3 นาที
[ หัวใจซื่อตรง (ติดตัว) ]
เกรดทักษะ : อีปิก
_______
* ต้านทานต่ออาการผิดปรกติทุกชนิด
* ตัวตนของท่านจะสะกดข่มสิ่งมีชีวิตจำพวก <แวมไพร์> <ครึ่งอสูร> และสิ่งมีชีวิตผิดแผกชนิดอื่น
* เกรดของทักษะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกรดของคลาสเพิ่มขึ้น
[ เสียสละ ]
เกรดทักษะ : อีปิก
_______
* ชุบชีวิตเป้าหมายโดยแลกมากับการที่ทั้งพลังชีวิตและมานาเหลือ 1 หน่วย
* ทักษะนี้ไม่สามารถใช้กับเอ็นพีซีได้
* เมื่อเป้าหมายเป็นสิ่งมีชีวิตผิดแผก ทักษะนี้จะส่งผลเป็นความเสียหายรุนแรง
_______
ระยะหน่วงหลังใช้ : 12 ชั่วโมง
* เกรดของทักษะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกรดของคลาสเพิ่มขึ้น
เมื่ออ่านรายละเอียดจบ เซฮีคิดจะใช้ <ความหวัง> เข้าไปช่วยพี่ชายของตนทันที ด้วยเลเวลที่มีเพียงแค่ 1 ทักษะที่ใช้ได้จึงมีเพียง <ความหวัง> และ <เสียสละ> เท่านั้น เธอต้องการจะเข้าไปใกล้กริดโดยเร็ว ทว่ากลับถูกจู๊ดขวางไว้เสียก่อน
"รูบี้ เซ็กซี่สคูลเกิร์ล พวกคุณเข้าไปมากกว่านี้ไม่ได้ ข้างหน้าเป็นสนามรบ มันอันตรายมาก นี่คือคำสั่งของท่านวิสเคาท์กริด"
เซฮีเห็นว่าจู๊ดเป็นพวกซื่อตรง เธอจึงหาวิธีหลอกใช้เขาได้ง่าย
"นายคิดว่าชีวิตของพวกเราสำคัญกว่าวิสเคาท์กริดงั้นหรือ? คนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่เรา แต่เป็นวิสเคาท์ หากไม่รีบช่วยตอนนี้ เขาอาจต้องตายก็เป็นได้"
"...ชีวิตของวิสเคาท์กริดสำคัญกว่า"
จู๊ดกำดาบใหญ่สีดำในมือแน่น เขาวิ่งบุกตะลุยไปด้านหน้าเป็นระยะทาง 150 เมตรในจุดที่กริดยืนอยู่ ไม่ว่าจะโกเล็มเก่าแก่หรือตุ๊กตาวิญญาน ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดชายคนนี้ได้เลย
เปรี้ยง! โครมม!
หลังจากกริดปลุกปั้นอย่างหนัก ค่าพละกำลังของจู๊ดก็สูงถึง 2,080 แต้ม
"ย๊ากกก!"
ในบรรดาแร้งเกอร์ระดับท็อป ยังมีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่จะมีค่าพละกำลังเกิน 2,000 แต้ม แถมด้วย <+8 ดาอินสเลฟ> ที่ถืออยู่ในมือ การบุกตะลุยของจู๊ดมีพลังทำลายไม่ด้อยไปกว่ากริดเลย ไม่ว่าจะโกเล็มเก่าแก่หรือตุ๊กตาวิญญานก็ล้วนมิใช่คู่ต่อสู้
ในที่สุด เซฮีก็เข้ามาใกล้กริดได้เสียที ต้องขอบคุณจู๊ด
"เซฮี?"
"อย่ามาทำร้ายพี่ฉัน!!"
เซฮีใช้ <ความหวัง> ออกไป
ทันใดนั้น ลำแสงอันอบอุ่นก็ห่อหุ้มร่างกายกริดไว้จนทั่ว
[ ท่านฟื้นฟู 20% ของพลังชีวิตสูงสุด ]
[ เอฟเฟคของ <เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล เวทย์ฟื้นพลังทุกชนิดจะแสดงผลเพิ่มขึ้น 300% ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 35,580 หน่วย ]
เป็นวินาทีที่สุดยอดฮีลเลอร์ได้พบพานกับสุดยอดชุดเกราะที่ส่งเสริมการฮีล
"...ฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์?"
กริดอดเป็นอึ้งไปไม่ได้ น้องสาวของเขาเป็นเพียงมือใหม่ แต่กลับกลายเป็นนักบุญหญิงที่สามารถใช้ทักษะฮีลอันหายาก?
ในขณะที่กริดยืนตาค้าง เซฮีพลันตะโกนขึ้น
"พี่เก่งที่สุดอยู่แล้ว สับเจ้าโกเล็มชั่วพวกนี้ให้แหลกเป็นชิ้นๆ ไปเลย!"
เก่งที่สุด?
เขาเป็นคนไร้ความสามารถมาตลอด 28 ปี เป็นตัวถ่วงครอบครัว เป็นคนที่เซฮีกังวลจนเธอต้องตั้งใจเรียนและหวังประสบความสำเร็จแทน
กริดขนลุกซู่
'ขอบคุณมาก… ซาทิสฟาย'
เขากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าและพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เพราะซาทิสฟาย
จากสุดยอดขยะ กลายเป็นคนที่เก่งที่สุดในสายตาน้องสาว
'ถ้าไม่มีซาทิสฟายล่ะก็ ชะตากรรมของเราคงไม่มีอะไรเปลี่ยน...'
ในยามนี้ ภาพตัวตนอันน่าขยะแขยงของเขาสมัยอดีต กริดสามารถสลัดออกไปได้หมดสิ้นเพราะคำพูดน้องสาว เลือดในตัวกำลังเดือดพล่าน ออร่าแปลกประหลาดส่องประกายรอบตัว
คำพูดของน้องสาวที่ไม่เกิดผลอะไรในระบบเกม กลับมีประสิทธิภาพของกว่าคำพูดของฮิวรอยที่บังคับให้หัวใจฮึกเหิมเสียอีก
พลังชีวิตเกือบ 40,000 หน่วยถูกฟื้นฟูขึ้นในพริบตา ด้วยเหตุนี้ กริดจึงแสยะยิ้มอย่างมั่นใจและเริ่มรำดาบ
"วิถีดาบแพ็กม่า! คลื่น!"
ซู่วววว!
ปราณดาบสีน้ำเงิน-ขาวได้พุ่งกระจายออกไปทุกทิศทาง โกเล็มจำนวนมากหากไม่ตายก็ติดอาการเชื่องช้า
แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่ไม่ถูกโจมตี
โฮกกก!
ตุ๊กตาวิญญานโหมกระหน่ำโจมตีใส่ร่างกริด แต่ชายหนุ่มไม่มีถอยหนีหรือปัดป้องอีกแล้ว
เมื่อโดนอัด เขาอัดสวน นี่เป็นกฏ
ในยามที่มีสุดยอดฮีลเลอร์ชื่อเซฮียืนอยู่ด้านหลัง นี่คือสวรรค์ของนักบู๊ การต่อสู้ตาต่อตาฟันต่อฟันที่ไม่พึ่งพาการควบคุมได้นำออกมาใช้บดขยี้กองทัพโกเล็ม
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,300 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 20,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,930 หน่วย ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 44,200 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,080 หน่วย ]
[ เอฟเฟคของ <ความผิดพลาด> แสดงผล ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 101,500 หน่วย ]
[ ท่านสังหาร <ตุ๊กตาวิญญาน> ]
[ ท่านฟื้นฟู 15% ของพลังชีวิตสูงสุด ]
[ เอฟเฟคของ <เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล เวทย์ฟื้นพลังทุกชนิดจะแสดงผลเพิ่มขึ้น 300% ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 26,685 หน่วย ]
"ยอดมาก! เซฮี! เธอเจ๋งที่สุด! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
คอมโบประสานสองพี่น้องช่างไร้ที่ติ กริดอดหัวเราะอย่างสะใจไม่ได้ สนามรบพลิกผันมาอยู่ฝั่งพวกเขาแล้ว
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่ม...]
...
บัดนี้ เลเวลของเซฮีกลายเป็น 13 จากการช่วยฮีลให้กับพี่ชายที่มีเลเวล 270 ค่าประสบการณ์จำนวนมากถูกแบ่งมาตอบแทนที่เธอมีส่วนร่วมในการต่อสู้
"..."
ฮิวรอย ลอเอล และยูเฟอนิม่าต่างยืนอ้าปากค้าง พวกเขาไร้คำพูดใด ต้องเป็นคลาสที่โกงแค่ไหนกันถึงสามารถใช้ฮีลแบบเปอร์เซ็นต์ได้ตั้งแต่เลเวล 1? ปริมาณการฮีลเทียบได้กับคลาสนักบวชรีเบคก้าระดับสูงสุดเลยไม่ใช่หรือ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูเฟอมิน่า เธอตกใจยิ่งกว่าใคร
[ ท่านล้มเหลวในการจับตามองทักษะเป้าหมาย ]
[ ท่านล้มเหลวในการจับตามองทักษะเป้าหมาย ]
[ ท่านล้มเหลวในการจับตามองทักษะเป้าหมาย ]
[ ท่านล้มเหลวในการจับตามองทักษะเป้าหมาย ]
[ ท่านล้มเหลวในการ...]
...
ก่อนหน้านี้ สองคนบนโลกที่เธอไม่สามารถจับตามองทักษะได้
คือกริดและแอ็กนัส
11111
ReplyDeleteโกงได้ใจ สองพี่น้อง ที่เหลือยืนอึ้งอ้าปากค้าง ส่วนกูก็ค้าง ทำไมกูอ่านเร็วจัง ........แค่รายละเอุยดนักบุญญิงก็เกือบจบตอนแล้ว.......
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteชอบคำว่ร แต่เธอไมาได้งั่งเหมือนพี่ชายเธอ5555
ReplyDelete