จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 203



       "ชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคน!  จงแสดงให้คนทั้งโลกเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในนามแห่งลอร์ดของเรา!"

[ พลังใจของท่านเพิ่มขึ้น  ท่านรู้สึกฮึกเหิม ]
[ พลังโจมตีและพลังโจมตีเวทย์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในการโจมตีถัดไป ]
[ การโจมตีครั้งต่อไปจะเป็นแบบคริติคอล ]

       ทักษะเสริมพลังที่ดีที่สุดของนักพูดอันดับหนึ่ง  สมาชิกกิลด์ทุกคนต่างรู้สึกฮึกเหิมสุดขีด  ด้วยผลของทักษะอันอลังการ  สมาชิกเก่าเซดาก้าห์ล้วนพากันตื่นตะลึง

        "...เอฟเฟคยอดมาก"

       "ถ้ามีการเสริมพลังแบบนี้ล่ะก็  การสังหารในฮิตเดียวสามารถเกิดขึ้นได้แน่..."

       จิสึกะพลันยุแหย่โทบันทันที

       "ทำไมพาลาดินอันดับ 1 ถึงไม่แสดงฝีมือให้เห็นบ้างล่ะ?  ว่านายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน"

       หากเทียบกับสมาชิกกิลด์คนอื่นของเซดาก้าห์  แม้โทบันจะมีเลเวลน้อยที่สุด  แต่ระดับของเขาก็สูงถึง 280   อย่างน้อยก็มากกว่ากริดถึง 10 เลเวล  โทบันเองก็มีหนึ่งในทักษะเสริมพลังที่ดีที่สุดในซาทิสฟายเช่นกัน

       "เทพยูดาห์ประทานพร!"

[ ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 5 นาที ]
[ พลังชีวิตและพลังป้องกันจะเพิ่ม 30% เป็นเวลา 10 นาที ]

       "...!"

       ในที่สุด  ลอเอลก็ได้สติกลับคืนมาเมื่อสมาชิกกิลด์เริ่มฮึกเหิม
       
       'นี่คือสุดยอดทักษะเสริมพลังที่ร่ำรือกัน!  ทักษะที่จะมีเฉพาะพาลาดินอันดับหนึ่งแห่งโบสถ์ยูดาห์เท่านั้น!'
       
       เป็นการเสริมพลังในด้านที่แตกต่างจากฮิวรอย  ทักษะของโทบันมีผลในระยะยาว  ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว  

       สมาชิกเซดาก้าห์มีแต่พวกสัตว์ประหลาด...  

       ในขณะที่ลอเอลชื่นชมในใจ  จิสึกะก็ง้าง <ลูกธนูยัฟฟ่ารุ่นพิเศษสุด>  ไปด้านหลัง

       "งั้นมาเริ่มกันเลยไหม?"

       กริดได้สร้างคันธนูเกรดยูนีคที่ชื่อ <เขาซาลามันเดอร์> ให้เธอ   จะให้เรียกว่า  มันคือคันธนูที่ดีที่สุดในเกมตอนนี้ก็ไม่ผิดนัก  ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือความเร็วโจมตีที่ต่ำ  แต่ก็แลกมาด้วยพลังโจมตีมหาศาลป่าเถื่อน  แถมยังมีออปชั่นเสริมพลังโจมตีธาตุไฟเข้าไปอีก  นับว่าเป็นธนูที่เหมาะมือจิสึกะอย่างมาก

       "เทศกาลพลุไฟ"

       หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเทพีแห่งคันศร  ฝีมือธนูย่อมอยู่เทียบชั้นเทพเจ้า  ได้เวลาที่นักธนูอันดับหนึ่งของซาทิสฟายลงสู่สนามรบแล้ว

       ฟุ่บ!  ฟุ่บฟุุ่บฟุ่บฟุุ่บฟุ่บฟุุ่บ!

       ข้อเสียเดียวของเขาซาลามันเดอร์คือความเชื่องช้า  แต่นั่นก็สามารถชดเชยได้ด้วยทักษะการยิงที่ว่องไวของจิสึกะ  ศรจำนวน 7 ดอกพุ่งออกไปด้านหน้าแทบจะในเวลาเดียวกัน  ศาสตราวุธบรรพกาลตัวหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป 230 เมตรพลันเกิดระเบิดขึ้นตามลำตัว

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม...!

       ช่างเป็นภาพที่น่าทึ่ง  ลูกศรแต่ละดอก  เมื่อปะทะเข้ากับร่างโกเล็มจะเกิดระเบิดต่อเนื่องเป็นทางยาว  และเมื่อการระเบิดสิ้นสุดลง  เปลวเพลิงอันร้อนระอุก็จะลุกไหม้ตามลำตัวเป้าหมาย

       โฮกกกก!

       ศาตราวุธบรรพกาลรับรู้ได้ถึงอันตราย  ในการจะตอบโต้ลูกศรจากระยะไกลเช่นนี้  มีแต่ต้องยิงลำแสงสวนกลับมาเท่านั้น  ศาสตราวุธบรรพกาลอ้าปากออกกว้างเพื่อรวบรวมพลังเวทย์เตรียมยิง  แต่ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ศรดอกสุดท้ายของจิสึกะระเบิดเสร็จ

       บรึม...!

       ร่างกายอันใหญ่ยักษ์เกิดเสียงประหลาดดังขึ้นจากภายใน  ที่ด้านหน้าจิสึกะก็มีข้อความระบบแสดงขึ้น

[ แกนมานาของเป้าหมายได้รับแรงกระแทก ]
[ วงจรมานาของเป้าหมายถูกรบกวน ]
[ เป้าหมายไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้เป็นเวลา 3 วินาที ] 

       เอฟเฟคของ <เทศกาลพลุไฟ> แสดงผลเป็นที่น่าพึงพอใจ  บาเรียต่อต้านเวทย์มนต์ถูกปิดลงชั่วคราว  จอมเวทย์ธาตุผสมอันดับหนึ่ง  ลาเอลล่า  และจอมเวทย์ธาตุลมอันดับสอง  เซ็ดนอส  ต่างรีบชิงลงมือ

       "หางราชันย์อสูร!"

       "ค้อนทรราชย์!"

       ทางด้านจิสึกะเองก็รีบยิงท่าไม้ตายออกไป

       "ศรฟินิกซ์!"

       บึ้มบึ้ม!  ตู้มมม!  ครืนนน!

       ทุกสิ่งที่ขวางทางศรแห่งเทพีล้วนถูกเปลวเพลิงฟินิกซ์กลืนกิน  ศาสตราวุธบรรพกาลตัวที่ตกเป็นเป้าหมายของจิสึกะกำลังมีสภาพร่อแร่สุดขีด  เปลวเพลิงสีดำและเพลิงฟินิกซ์กำลังห่อหุ้มร่างของมัน  แถมยังมีค้อนยักษ์ทุบลงมาจากฟากฟ้าอย่างหนักหน่วง  ดวงตาพลันแดงก่ำ  มันเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อหวังให้เพื่อนตัวอื่นเข้ามาช่วย

       แต่ไม่มีตัวใดที่ยื่นมือเข้ามาช่วยได้ทั้งนั้น  เพราะศาสตราวุธบรรพกาลอีก 5 ตัวที่เหลือต่างก็ถูกสมาชิกโอเวอร์เกียร์แบ่งกำลังกันออกไปจัดการ  

       โดยเฉพาะตัวที่เป็นเป้าหมายของเรกัส  สภาพของมันดูน่าสมเพชที่สุดแล้ว
       
       โครม!

[ ท่านทำ 5 คอมโบสำเร็จ! ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  สร้างความเสียหายทางกายภาพเพิ่มเติมแก่เป้าหมาย ]

       เปรี้ยง!

[ ท่านทำ 6 คอมโบสำเร็จ! ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  สร้างความเสียหายธาตุสายฟ้าเพิ่มเติมแก่เป้าหมาย ]

        เปรี้ยง!  เปรี้ยงเปรี้ยง!

[ ท่านทำ 8 คอมโบสำเร็จ! ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  สร้างความเสียหายธาตุสายฟ้าและทางกายภาพเพิ่มเติมแก่เป้าหมาย ]

       ผัวะ! โครมมม! 

[ ท่านทำ 10 คอมโบสำเร็จ! ]
[ เอฟเฟคของ <สนับมือดยุคแห่งสายฟ้า> แสดงผล  ทักษะ <ราชรถสายฟ้า> ทำงาน ]

       ครืน! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

       ชายคนนี้คือผู้คนที่มาจากดินแดนแห่งเทพหรืออย่างไร?  พายุสายฟ้าฟาดกระหน่ำลงมาจากเบื้องบนจนส่งให้ศาสตราวุธบรรพกาลคุกเข่าทรุดลง

       หลังจากนั้น  นกอินทรีตัวหนึ่งได้บินโฉบเข้ามาพร้อมกับแปลงกายเป็นมนุษย์

       ราชันย์นักล่า  ทูน  ยามนี้ถูกเสริมความเก่งกาจด้วยกรงเล็บสีเงินในมือที่มีอักษร G สลัก  เขาตะโกนคำรามเสียงดังด้วยพลังแห่งราชสีห์
       
[ ศัตรูทั้งหมดที่อยู่โดยรอบจะอ่อนแอลง ]

       "ฮ่าฮ่าฮ่า!  ฉันจะเฉือนแกเป็นชิ้นๆ เอง!"

       ทูนแปลงกายเป็นมนุษย์หมาป่า  กรงเล็บในมือพลันส่องแสงสว่างวาบ  ศาสตราวุธบรรพกาลที่บาดเจ็บหนักจากสายฟ้า  ยามนี้ไม่เหลือพลังเพื่อป้องกันตนเองอีกแล้ว  

       ส่วนอีกด้านหนึ่ง ณ กำแพงทิศใต้  ศาสตราวุธบรรพกาลตรงนี้กำลังถูกป็อนและแวนเนอร์ผนึกกำลังกันรุมจัดการ

       "ฮ่าห์!"

       แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก!แกร่ก!

       "โอร่า!  โอร่า!  โอร๊าาา~!"

       ฉึก!  ฉึก! เคร้ง!

       โฮกกกก!

       ศาสตราวุธบรรพกาลไม่อาจทนความเจ็บปวดได้อีก  มันเริ่มแกว่งแขนโจมตีอย่างมั่วซั่ว  ผู้ใช้หอกอันว่องไวได้โยกตัวหลบอย่างปลอดภัย  ในขณะที่อัศวินผู้พิทักษ์ก็ใช้โล่บล็อคไว้

       "อั่ก..."

       ความเสียหายนับว่ารุนแรงเกินกว่าโล่จะดูดซับหมด  โกเล็มยักษ์ทำท่าจะยิงลำแสงใส่เขาต่อ  แวนเนอร์จึงรีบตะโกนขึ้น

       "เฮ้!  ช่วยฉันด้วย!  ป็อน!"

       "ตอนนี้นายก็ถึกขึ้นมาแล้วนี่?  ไม่ถึงตายหรอกน่า"

       แทนที่จะช่วย  ป็อนใช้หัวไหล่ของแวนเนอร์เป็นฐานกระโดด  ทักษะไม้ตายของคลาสผู้ใช้หอกถูกเล็งใส่ศีรษะของโกเล็มร่างยักษ์อย่างแม่นยำ

       "หอกคลื่นเสียง!"

       เปรี้ยงงงง!

       ความรุนแรงที่หาสิ่งใดเปรียบ  หอกอันสั่นไหวได้พุ่งทำลายศีรษะของศาสตราวุธบรรพกาลจนเหลือเพียงครึ่งเดียว

       "เจ๋ง!"

       เมื่อส่วนหัวเสียรูปทรง  ศาสตราวุธบรรพกาลเริ่มโงนเงน  ป็อนร่อนลงกับพื้นพร้อมส่งเสียงดีใจออกมา  ส่วนแวนเนอร์นั้นหันมามองค้อนอย่างอาฆาต

       "ไอ้บัดซบ...!  นี่นายกล้าใช้พวกพ้องเป็นเหยื่อล่อเชียวรึ?  หือ?  รู้สึกดีมากไหม?"

       แวนเนอร์ดำเป็นตอตะโกเมื่อถูกลำแสงเวทย์ยิงเข้าใส่  ความโกรธของเขาเป็นเรื่องจริง  ทว่าป็อนก็ทำเพียงยักไหล่เบาๆ

       "มันเรียกว่าทีมเวิร์ค"

       "เชี่ย!  ทีมเวิร์คบ้าบออะไรกัน?"

       ศีรษะของแวนเนอร์พลันแดงก่ำอย่างโมโห  หากดูเผินๆ ก็จะเหมือนปลาหมึกยักษ์ที่ถูกต้มจนแดง  ป็อนเห็นดังนั้นก็อดขำไม่ได้  ลงท้ายด้วย  แวนเนอร์โกรธจัดจนเหวี่ยงขวานใส่ปอน

       "ฉันจะฆ่านาย!"

       "ทำได้ก็ลองดูสิ...  ไอ้หัวล้าน"

       "..."

       ศาสตราวุธบรรพกาลเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ  มนุษย์ตรงหน้ากำลังทะเลาะกันเอง?  จังหวะนี้แหละ  มันรีบเหวี่ยงแขนทุบใส่ป็อนและแวนเนอร์อีกครั้ง  แต่ด้วยความที่ป็อนไวเกินไป  เป้าหมายของมันจึงกลายเป็นแวนเนอร์ผู้เดียว

       ฉากเดิมๆ หวนกลับมาอีกครั้ง  ศาสตราวุธบรรพกาลมีทางเลือกเดียว : เลิกสนใจป็อน  แล้วมุ่งจัดการแวนเนอร์ให้ได้

       แวนเนอร์ที่กำลังดำเมี่ยมตกเป็นเป้าลำแสงจากปากอีกครั้ง  คราวนี้เขารีบตะโกนออกมาอย่างเสียงหลง

       "เฮ้ย! ป็อน!  คราวนี้นายต้องช่วยฉันจริงๆ แล้วนะ!  ฉันตายจริงนะโว้ย!!"

       "ยังมีอมตะอยู่ไม่ใช่เหรอ~?"

       หลังจากการต่อสู้กับมาลาคัส  แวนเนอร์ก็นำแต้มทั้งหมดไปลงกับค่าความอดทน  ทำให้ตอนนี้เขาตายยากยิ่งกว่าแมลงสาปเสียอีก  ป็อนรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร  จึงหวังใช้แวนเนอร์เป็นเหยื่อล่อดึงความสนใจอีกครั้ง

       "มายาแห่งความจริง!"

       ซู่ววว!

       ลำแสงถูกพ่นออกมาจากปากศาสตราวุธบรรพกาลด้วยความเร็วสูง  เป็นเวลาเดียวกับที่หอกของป็อนก็โหมกระหน่ำทิ่มแทงใส่มันหลายสิบแผล  เมื่อเห็นผลลัพธ์การโจมตี  ป็อนก็ส่งเสียงโล่งใจออกมา  

       "ความแม่นยำของฉันช่างไร้ที่ติ"

       ขวานเล็กเล่มหนึ่งพลันลอยใส่ป็อนทันทีที่สิ้นเสียง

       "ยังทะเลาะกันเป็นเด็กไม่เลิก"

       ภายในเมือง  เฟคเกอร์ยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นป็อนกับแวนเนอร์เริ่มทะเลาะกัน  เฟคเกอร์รีบส่งเสียงไปบอกพวกเขา

       "อย่าประมาทศัตรูที่อยู่ตรงหน้า  ความผิดพลาดจะไม่ได้รับการอภัยหรอกนะ"

       เฟคเกอร์  นักลอบสังหารอันดับหนึ่งของโลก  ชายผู้นี้ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งนานาชาติ  เขาใช่เวลาเหล่านั้นเพื่อไต่อันดับและฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก  และผลก็คือ  เลเวลของเฟคเกอร์พุ่งขึ้นมาเป็น 293  ส่วนอันดับโลกก็กลายมาเป็น 17 อย่างรวดเร็ว

       ได้เวลาแสดงผลของการฝึกซ้อมแล้ว

       ฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       เฟคเกอร์สร้างร่างเงาจำนวน 20 ร่างพร้อมกับไต่ขึ้นไปตามลำตัวศาสตราวุธบรรพกาลจากทุกทิศทาง  

       โกเล็มยักษ์ตัวนี้กำลังอยู่ ณ ใจกลางเมืองไรน์ฮาร์ท  หมายความว่ามันได้สังหารผู้คนไปมากมายนับไม่ถ้วน  หยดเลือดของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสาดกระเซ็นเต็มร่างกาย  

       มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ  มันคิดเช่นนั้น

       ทว่า

       "...!"

       ถึงคราวที่มันต้องเกิดความตกตะลึงบ้างแล้ว  มีดสั้นจำนวน 20 เล่มถูกปักลงบนร่างกายอันแข็งแกร่งพร้อมกันจนเป็นเกิดรูโหว่  ความเสียหายในครั้งนี้รุนแรงจนมันไม่อาจมองข้าม

       โฮกกกก!

       มนุษย์คนนี้ไม่เหมือนกับใครที่มันเคยเจอมาทั้งหมด  ท่อนแขนอันใหญ่โตถูกแกว่งมั่วซั่วเป็นกังหนลมโดยหวังจะสลัดร่างทั้ง 20 ให้กระเด็นออก  เฟคเกอร์ก็ไม่ได้คิดปัดป้องแต่อย่างใด  เขาเร่งความเร็วขึ้นพร้อมกับโยกหลบการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาหาไปพลาง  ไต่ขึ้นศีรษะของมันไปพลาง     

       จนมาถึงส่วนลำคอ

       ซู่ววว!

       ศาสตราวุธบรรพกาลที่กำลังลนลานได้อ้าปากกว้างเพื่อรวบรวมลำแสงเวทย์

       "ขอบใจ"

       เฟคเกอร์ซัดมีดขว้างออกไปจำนวน 5 เล่มโดยเล็งเข้าไปในปาก  หลังจากนั้น  ทุกเล่มก็ระเบิดออก

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       เฟคเกอร์กระโดดถีบตัวเพื่อร่อนลงพื้น  ศาสตราวุธบรรพกาลได้คุกเข่าทรุดลงไปอีกตัวหนึ่ง  ทว่า  มันกลับมีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อมากเป็นพิเศษ  แม้จะร่อแร่  แต่ท่อนแขนอันใหญ่ยักษ์ก็ยังกวัดแกว่งใส่เฟคเกอร์ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ  

       ด้วยท่าร่อนลงเช่นนี้  แม้จะมีความว่องไวเพียงใด  แต่เมื่ออยู่กลางอากาศไร้ซึ่งจุดยึดเหนี่ยว  ทั้งหมดก็ล้วนไร้ค่า  เฟคเกอร์กำลังตกที่นั่งลำบากสุดขีด  พลังชีวิตของนักลอบสังหารนั้นน้อยนิด  พลังป้องกันก็แทบไม่มี  

       เขาอาจถึงตายเลยก็ได้

       'ดันมาทำพลาดในจังหวะสำคัญ...'

       ในขณะที่เฟคเกอร์ขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา  สายฟ้าอันทรงพลังเส้นหนึ่งได้พุ่งลงมาจากด้านบนและปะทะเข้ากับท่อนแขนของศาสตราวุธบรรพกาล  มันรุนแรงมากพอจะทำให้โกเล็มยักษ์เหวี่ยงแขนคลาดเคลื่อน  เฟคเกอร์รีบแหงนหน้าขึ้นไปมองผู้มีพระคุณในคราวนี้  

       เป็นหญิงสาวผมบลอนด์ตัวเล็กน่ารักคนหนึ่ง

       เฟคเกอร์ถึงกับอุทาน

       "เธอคือ...  ยูเฟอมิน่า!"

       ในอดีต  ยูเฟอมิน่าเคยบดขยี้มาปาร์ตี้ของเฟคเกอร์จนไม่เหลือชิ้นดี  ด้วยเหตุนั้น  เธอจึงกลายเป็นหนึ่งในบัญชีดำของกิลด์เซดาก้าห์ที่ต้องฆ่าให้ได้  

       ทว่า  นั่นเป็นเพียงอดีตไปแล้ว  กิลด์เซดาก้าห์ไม่มีอยู่อีก  และในอนาคต  เธอคนนี้จะต้องเป็นสหายร่วมเขาของเขา

       ความแค้นในอดีตถูกลืมเลือน  เฟคเกอร์กล่าวขอบคุณ

       "ฉันติดหนี้เธอแล้ว"

       ยูเฟอมิน่าพลันอมยิ้มอย่างน่าเอ็นดู

       ***

       ในบรรดาสมาชิกเซดาก้าห์ทั้งหมด  ไอเบลลินคือคนที่ฉายแววไม่ได้มากนัก

       "ลอเอล  นายช่วยตรึงศาสตราวุธบรรพกาลให้ฉันด้วย <ปีกมังกร> ได้ไหม?"

       "ได้แค่วินาทีเดียวเท่านั้น"

       "แค่นั้นก็เกินพอ"

       ลอเอลเป็นที่รู้จักในนาม  อันดับหนึ่งแห่งรุคกี้ทั้งสิบ  ส่วนไอเบลลินคืออันดับสอง  เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน  ผลลัพธ์ช่างน่าทึ่ง

       "ปีกมังกรวายุ!"

[ เป้าหมายถูกตรึงสำเร็จ ]

        "ฉีกกระชาก!"

[ ฉีกกระชาก ]
       ร่างกายเป้าหมายจะถูกฉีกกระชากจนแผลเหวอะหวะด้วยหนาม
_______
* เป้าหมายจะสูญเสียพลังชีวิต 60% ของพลังชีวิตปัจจุบัน
_______
มานาที่ใช้ : 500
เงื่อนไขการใช้ : เป้าหมายถูกตรึงการเคลื่อนไหว

       ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

       หนามแห่งความเคียดแค้นได้เฉือนร่างศาสตราวุธบรรพกาลจนเละเทะไม่มีชิ้นดี  โกเล็มยักษ์ตัวนี้ถูกทำให้เสียพลังชีวิตเกินกว่า 40% จนทำให้มันต้องตกอยู่ในอาการมึนงง

       "..."

       ภาพที่เห็นช่างน่าตกตะลึง  ศาสตราวุธบรรพกาลอันทรงพลังได้สูญพลังชีวิตไปถึง 60% ในการโจมตีเดียว?  การโจมตีเมื่อครู่ของไอเบลลินไม่ด้อยไปกว่าท่าใหญ่ของกริดเลยสักนิด  ลอเอลอดประหลาดใจไม่ได้  เขาเริ่มรู้สึกว่าเด็กคนนี้มีดีกว่าที่เห็น  

       ทว่า  ลอเอลก็ทำเป็นไม่ให้ความสนใจ

       "หึ!  แม้แต่ตัวทากก็ยังมีพรสวรรค์ในการกลิ้งไปมาบนพื้นสินะ"

       ไอเบลลินโพล่งขึ้นอย่างฉุนเฉียว

       "นายว่าใครเป็นทากกัน?  ชิ!  อีกไม่นานฉันก็จะแซงหน้านายแล้ว!"

       ลอเอลพ่นลมหายใจเบาๆ

       "เพราะพลังของไอเท็มหรอกน่า"

       เขาพูดไปเช่นนั้น  แต่ตัวลอเอลเองก็เป็นผู้เล่นที่พึ่งพาพลังไอเท็มไม่น้อยกว่าใคร  

       อีกฝั่งหนึ่ง  กริดกำลังรับมืออยู่กับศาสตราวุธบรรพกาลตัวที่หลุดเข้ามาถึงกำแพงชั้นในแล้ว
       
       "จัดการมันเลย!"

       กษัตริย์วิสบาเดนส่งเสียงให้กำลังใจกริดจากบนกำแพง  

       หลังจากนั้นไม่นาน  รอยยิ้มของกริดก็ถูกแสยะออกมาบนใบหน้า

       "มายาร่ายรำ!  ร่ายรำสังหาร!"

       สีหน้าอันแสนตกตะลึงได้ปรากฏใบหน้าของกษัตริย์วิสบาเดนและขุนนางทุกคน  รวมไปถึงผู้ชมหลายล้านทั่วโลกในตอนนี้  ทั้งหมดกำลังได้ประจักษ์สองสุดยอดทักษะของคลาสเกรดเลเจนดารีหนึ่งเดียวในซาทิสฟาย

       ว่าบ!

       ท้องฟ้าพลันสว่างเจิดจ้าไปด้วยแสงสีขาว  ภาพตรงหน้าทำให้เอิร์ลสไตมอดตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นยินดีไม่ได้

       "บุตรเขยของฉันคือตำนานตัวจริง!"

Comments

  1. พ่อตาดีใจจนเนื้อเต้น^^

    ReplyDelete
  2. ทูนนี่มันโลแกนชัดๆ กักขฬะ ป่าเถื่อน ฟื้นฟูไว สัญชาตญาณสัตว์ป่า แถมใช้กรงเล็บอีก

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. พึ่งรู้ว่าที่มาชื่อนิยายคือชื่อกิลด์5555555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00