จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 206



       หลังจากกริดมีศักดิ์เป็นขุนนางชั้นดยุค

       "ขอบคุณมาก  ขอบคุณจริงๆ   อาณาจักรแห่งนี้อยู่รอดปลอดภัย  แถมอำนาจบารมีของฉันยิ่งมีมากขึ้น  การได้นายมาเป็นลูกเขยคือวาสนาสูงสุดของชีวิตฉัน"

       เอิร์ลสไตมกลายเป็นมาร์ควิสสไตมด้วยความดีความชอบที่นำกองทัพถึง 60,000 นายเข้าร่วมสงคราม  ซึ่งถือว่าเยอะกว่าขุนนางคนใดทั้งหมด  แถมด้วยความที่เขาเป็นพ่อต่าของกริด

       ขุนนางชั้นมาร์ควิสที่มีบุตรเขยเป็นขุนนางชั้นดยุค  ขั้วอำนาจอันดับหนึ่งของอาณาจักรได้ตกเป็นของมาร์ควิสสไตมเป็นที่แน่นอนแล้ว  และในภายหลัง  อำนาจบารมีของเขาจะสืบทอดต่อไปยังไอรีน  ผู้สืบสกุลเพียงคนเดียว  สิ่งนี้เป็นผลดีต่อกริดอย่างมาก

       "ช่วยดูแลบุตรสาวของฉันต่อไปด้วย  ดยุคกริด"

       "เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว  มาร์ควิสสไตม"

       "ว่าแต่  เมื่อไรถึงจะมีหลานให้ฉันอุ้มล่ะ?  ดยุคกริด"

       "ผมกำลังพยายามอย่างเต็มที่  มาร์ควิสสไตม"

       "สงสัยต้องเตรียมยาโด๊ปให้แล้วกระมัง?  ฮ่าฮ่าฮ่า!"

       "ได้ทำแค่เดือนละครั้งเอง..."

       "หืม?  นายหมายถึงอะไรรึ?  เดือนละครั้ง?"

       "ไม่มีอะไร  ผมแค่พูดกับตัวเอง  ช่างมันเถอะ  ฮ่าฮ่าฮ่า!"

       ทั้งสองกำลังสนทนาอย่างออกรส  จึงไม่ทันรู้สึกตัวว่าสำนักข่าวต่างกำลังจับภาพอยู่

       『เอิร์ลสไตม… ไม่สิ  มาร์ควิสสไตม  ดูเหมือนกริดจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับขุนนางอันดับหนึ่งของแดนเหนือคนนี้มากทีเดียวนะครับ 』

       『นั่นสิครับ… หากฟังจากบทสนทนา  ดูเหมือนทั้งคู่จะมีฐานะเป็นพ่อตาและบุตรเขย』

       『มาร์ควิสสไตมมีบุตรสาวด้วยหรือ?』

       『มีอยู่หนึ่งคนครับ  เป็นเจ้าเมืองวินสตัน  ไอรีน วินสตัน ฟอนสไตม』

       『เห๋...?  สตรีเลอโฉมผู้นั้นเองหรือ?』

       『เพชรเม็ดงามในหมู่อัญมณีล้ำค่า… เธอมักได้ผลสำรวจเป็นอันดับต้นๆ เสมอในการจัดอันดับความนิยมเอ็นพีซีหญิง  แต่เมื่อราว 8 เดือนก่อน  มีข่าวว่าเธอแต่งงานกับชายปริศนา  เมื่อคิดว่าเธอได้แต่งกับผู้เล่นแทนที่จะเป็นเอ็นพีซี  แถมคนๆ นั้นยังเป็นกริดอีกด้วย... 』

       『 เฮ่อ...! 』

       ผู้บรรยายต่างพากันถอนหายใจ  พวกเขารู้สึกริษยาในตัวกริดจนท้องไส้ปั่นป่วน  ส่วนผู้ชมทางบ้าน  มีผู้ชายหลายคนที่ขว้างรีโมททิ้งทันทีที่ได้ยินข่าว  กระแสสังคมในอินเทอเน็ตพลันลุกฮือ 

===  เขาแต่งงานกับไอรีน  ทั้งที่มียูร่าและจิสึกะข้างกายงั้นหรือ?

=== ในซาทิสฟาย  คู่แต่งงานสามารถหลับนอนกันได้เดือนละครั้ง...

=== ไม่ใช่ว่า  เขาแต่งงานไปตั้งแต่ 8 เดือนก่อนแล้วรึเปล่า?  ก็หมายความว่า…  ทั้งหมด 8 ครั้งแล้วสินะ... 

===  เชี่ย!  ไอรีนของฉันต้องแปดเปื้อนเพราะมัน!

===  เหนือสิ่งอื่นใด  ไอรีนคือทายาทเพียงคนเดียวของมาร์ควิสสไตม  หากเขาตาย  พลังอำนาจทั้งหมดจะตกอยู่กับไอรีน  แล้วกริดก็จะได้มันไป

===  บ้าไปแล้ว  ㅋㅋㅋㅋ

===  เรื่องนั้นช่างเถอะ  มีใครคิดเหมือนฉันไหม?  ทั้งยูเฟอมิน่า  รูบี้  และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลต่างก็น่ารักมาก

=== ㅇㅇ ระดับเดียวกับยูร่าและจิสึกะเลยล่ะ

===  กริดรายล้อมไปด้วยสาวสวยมากเกินไปแล้ว… แถมในอนาคต  พลังอำนาจที่เขาสืบทอดต่อจากมาร์ควิสสไตมจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันนะ?  เฮ่อ… อิจฉาก็อดกริดชะมัด  

       ทั้งถ้อยคำสาปแช่งและสรรเสริญต่างผุดขึ้นเต็มอินเทอเน็ตไปหมด  

       เป็นเวลาเดียวกับที่กริดอ่านข้างความระบบซึ่งกำลังแสดงขึ้นตรงหน้า

[ ภารกิจ <ช่วยชีวิตเอิร์ลสไตม> สำเร็จ! ]
[ ความสัมพันธ์กับ <มาควิสสไตม> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด  นับแต่นี้ไป  แม้จะต้องกระโดดเข้าไปในกองเพลิง  หากเพื่อท่านแล้ว  <มาร์ควิสไสตม> ก็ยินดีทำ ] 

[ ภารกิจกิลด์ <สงครามปกป้อง II> สำเร็จ ]
[ กิลด์ <โอเวอร์เกียร์> ได้รับค่าคุณงามความดีต่ออาณาจักร 50,000 แต้ม ]
[ เลเวลของกิลด์ <โอเวอร์เกียร์> เพิ่มขึ้น 2 ระดับ ]
[ ท่านได้รับเงินจำนวน 5 ล้านเหรียญทอง ]
[ ท่านได้รับดินแดนเป็นเมืองใหญ่ <เรย์ดัน> ]

       แม้จะมีรางวัลส่วนตัว 500,000 เหรียญทองจากภารกิจ <สงครามกับโกเล็ม> แล้ว  กริดยังได้รับเงินอีก 5 ล้านเหรียญทองจากภารกิจในนามกิลด์อีกด้วย  รวมทั้งหมดเป็น 5.5 ล้านเหรียญทอง  หรือเทียบเท่า 6.6 พันล้านวอนเลยทีเดียว  

       กริดไม่เคยทำเงินมากขนาดนี้ในหนเดียวมาก่อน

       'รางวัลภารกิจมีมูลค่าสูงกว่าราคาไอเท็มเกรดเลเจนดารีเสียอีก...'

       หากดูจากเนื้้อหาภารกิจ  ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเงินรางวัลถึงสูงลิบ  

       แต่ก็เกิดคำถามเล็กๆ ขึ้นในใจกริดเหมือนกัน  เขาจะเลิกตีเหล็กแล้วออกตระเวนทำภารกิจให้หมดดีไหม?  

       'ปัญหาคือ  ภารกิจแบบนี้มันไม่ได้ออกมาให้ทำกันบ่อยๆ'

       แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง  โอกาสที่ภารกิจเกรด SS ปรากฏจะมีง่ายๆ ที่ไหนกัน?  กริดย้อนนึกไปถึงเศษเสี้ยวดวงวิญญานของบราฮัมที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป

       'ขอให้จอมเวทย์บัดซบนั่นโจมตีอาณาจักรบ่อยๆ ก็แล้วกัน'

       หากบราฮัมทำการโจมตีอาณาจักรบ่อยครั้ง  รับรองได้เลยว่ากริดต้องกลายเป็นอภิมหาเศษรฐีของโลกแน่  กริดยืนหัวเราะคิกคักคนเดียวในใจ

       เป็นจังหวะที่ลอเอลเดินเข้ามาใกล้และพูดขึ้น

       "ท่าทางของนายมีพิรุธ  คงไม่ได้คิดจะฮุบเงิน 5 ล้านเหรียญทองของภารกิจกิลด์ไว้ใช้คนเดียวหรอกนะ?"

       "ถ้ามันไม่ใช่สมบัติของฉัน… แล้วของใคร?"

       ลอเอลถอยหายใจพร้อมกับสีหน้าอันแสนผิดหวัง  เขาค่อยๆ อธิบายกริด

       "มันก็ต้องเป็นของกิลด์สิ!  รางวัลที่ได้จากภารกิจกิลด์  มันก็ต้องถูกใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนากิลด์"

       "อะไร?  ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?"

       "มันก็จริงที่นายจะเอาไปใช้คนเดียวก็ได้  แต่ปัญหาคือความน่าเชื่อถือ  นายอยากทำให้ทุกคนในกิลด์ผิดหวังรึเปล่า?"

       "..."

       สีหน้ากริดพลันขาวซีด  เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นทันใด  ทุกการกระทำของเขาล้วนมีเงินเป็นที่ตั้งมาโดยตลอด

       ลอเอลพยายามเกลี้ยกล่อม

       "มองให้กว้าง  หากนายนำเงิน 5 ล้านตรงนี้มาพัฒนากิลด์  ในอนาคตนายจะได้ตอบแทนกลับมาเกินกว่า 5 ล้านแน่นอน  สลัดเศษเงินเล็กน้อยตรงหน้าทิ้งไป  แล้วมองเป้าหมายที่ใหญ่กว่า"

       กริดยอมเชื่อฟังลอเอลอย่างว่าง่าย  แต่ไหนแต่ไร  เป้าหมายของเขาคือการขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่แล้ว  ไม่หยุดเพียงแค่ดยุคแน่นอน  กริดหวังจะให้ความเป็นกษัตริย์นำพาความมั่งคั่งสุดขีดมาให้  

       การลงทุนเพื่อสิ่งเหล่านั้นคงไม่ใช่เรื่องสูญเปล่าแน่

       หลังจากนั้น  กษัรติย์วิสบาเดนก็ตะโกนขึ้น

       "ฉันจะจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้กับดยุคกริดและกิดล์โอเวอร์เกียร์!"

       "กระหม่อมซาบซึ่งยิ่งนัก"

       ลอเอลแสดงการขอบคุณอย่างนอบน้อม  เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่ไหวพริบดีต่างก็แสดงออกด้วยท่าทีคล้ายกัน

       ทว่า  กริด  ผู้ที่มีความสำคัญสูงสุดของงาน  ยามนี้กลับกำลังยืนแข็งทื่อเป็นก้อนหินไม่ยอมขยับไปไหน

       "นายยืนทำบ้าอะไรอยู่?"  ลอเอลถามขึ้น

       กริดตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

       "ฉันต้องออกไปกินคันจาจังก่อน"

       ด้วยธรรมชาติของมัน  เส้นคันจาจังจะอืดช้ากว่าจาจังเมียนปรกติ  กริดหวังไว้ในใจว่า  ถ้าออกไปตอนนี้ยังพอมีโอกาสได้กินอยู่บ้าง

       ลอเอลขมวดคิ้ว

       "เลิกพูดอะไรแปลกๆ ได้แล้ว  รีบไปงานเลี้ยงเร็วเข้า"

       ลอเอลเคยกินจาจังเมียนมาบ้างตอนที่ไปแข่งซาทิสฟายนานาชาติ  ถือเป็นอาหารที่ไม่เลว  แม้จะออกเค็มไปนิด  ทว่านั่นก็ไม่สำคัญจนถึงกับต้องข้ามงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยกษัตริย์แน่

       ลงท้ายด้วย  กริดหน้าบางเกินกว่าที่จะล็อกเอาต์ออกจากเกม

       '7,000 วอนของเรา...'

       ในขณะที่ท้องไส้กำลังปั่นป่วนไปด้วยความผิดหวัง  กริดพยายามสงบใจไว้อย่างเต็มที่

       ***

       ราชวังไรน์ฮาร์ทคือที่อยู่ของกษัตริย์วิสบาเดน  แน่นอนว่ามันต้องเปี่ยมไปด้วยความหรูหราอลังการ  ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียว

       "สวนกว้างกว่าปราสาทวินสตันตั้ง 7 เท่า"

       "แถมยังมีลานฝึกทหาร 6 แห่งหลังค่ายทหาร  ถ้าเรามีดินแดนกว้างใหญ่แบบนี้บ้างล่ะก็  เราจะสร้างปราสาทให้มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่นี่"

       "ไม่ว่าจะเหลียวมองทางไหน  ทองคำและอัญมณีล้ำค่าก็ละลานตาไปหมด"

       ณ ตอนนี้  หมดหน้าที่ของช่องข่าวทุกสำนักทั่วโลกแล้ว  พวกเขาทยอยกลับไป  ส่วนกริดกับกิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังเดินทางไปยังห้องจัดงานเลี้ยง  ภาพสองข้างทางช่างงดงามอลังการจนทุกคนต่างชื่นชม  มีเพียงกริดเท่านั้นที่บ่นอุบอิบในลำคอ

       "คันจาจังของฉัน..."

       "ทำไมถึงเอาแต่พูดเรื่องนี้?  มันใกล้จะกินไม่ได้แล้วเหรอ?"

       "คันจาจังคืออะไร?  ชื่อของไอเท็มหรือ?"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันสงสัยในคำพูดของกริด  เป็นเวลาเดียวกันกับที่เซฮีและเยริมกำลังสติหลุดออกจากร่าง

       "500 ล้านวอน...?"

       "ห--หะ--ห้าร้อยล้าน!!??"

       ฮิวรอยที่กำลังถือเครื่องคิดเลขในมือได้พยักหน้า

       "ใช่แล้ว  เมื่อคำนวนกับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินวอนของเกาหลีใต้  ทั้งหมดจะมีค่าเท่ากับ 534.48 ล้านวอน"

       มันคือค่าของเงิน 442,900 เหรียญทองที่สองสาวได้รับมาจากภารกิจ  ทั้งเซฮีและเยริมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก  ปากที่อ้าค้างไว้ได้พูดบางสิ่งซึ่งฟังดูน่าตื่นเต้นออกมา

       "ปรกติมันหาเงินได้ง่ายๆ แบบนี้เลยรึเปล่า?"

       นั่นเป็นความเข้าใจผิด  เด็กสาวที่เพิ่งจะเล่นซาทิสฟายได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง  กำลังคิดว่าการทำเงินในซาทิสฟายนั้นง่ายแสนง่าย  แต่เปล่าเลย

       ลอเอลค่อยๆ อธิบายให้ทั้งคู่ฟัง

       "สำหรับผู้เล่นทั่วไปบางคน  แม้จะทุ่มเทเวลาให้ทั้งชีวิต  แต่ก็ไม่มีวันหาเงินในซาทิสฟายได้จำนวนมากเท่านี้  การที่พวกเธอทำได้  ทั้งหมดต้องขอบคุณกริด"

       ทั้งเซฮีและเยริมพลันดวงตาลุกวาว

       'พี่สุดยอดว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย'

       'พี่ยองวูสมกับเป็นสามีเกรดเอ'
       
       จิสึกะยืนจ้องมองสองสาวไปพลาง  ขมวดคิ้วอย่างตึงเครียดไปพลาง

       "เซ็กซี่สคูลเกิร์ล?  เด็กคนนี้ยังไงกัน?  เอาแต่จ้องกริดอยู่ได้"

       จิสึกะใช้เวลาหลายวันอยู่ในบ้านกริด  เธอจึงรู้จักเซฮีเป็นอย่างดี  ทว่ากับเยริมนั้นแปลกหน้าอย่างมาก  

       แวนเนอร์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจึงพูดขึ้น

       "เพื่อนของรูบี้สินะ  น่ารักไม่หยอกเหมือนกันนี่  ว่าไหม?  ในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า  คงโตมาเซ็กซี่เหมือนกับเธอแน่"

       สมาชิกคนอื่นเห็นต่าง

       "ฉันว่าตอนนี้กำลังดีแล้วนะ"

       "อืม… ทั้งรูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ล  ทั้งคู่สเป็กฉันเลย  ส่วนตัวแล้วฉันเฉยๆ กับทั้งยูร่าและจิสึกะ"

       "ฉันโหวตให้ยูเฟอมิน่าชนะเลิศ"

       "หุบปาก!  ไอ้โลลิค่อน!"

       และในขณะนั้นเอง  จิสึกะที่กำลังฉุนเฉียวได้สบตากับเซ็กซี่สคูลเกิร์ล

       เปรี้ยะ!  เปรี้ยะ!

       ทั้งสองต่างรู้แจ้ง  เซ็กซี่สคูลเกิร์ลพลันอมยิ้มเล็กน้อย

       'เด็กๆ ก็ต้องเจ๋งกว่าคุณป้าอยู่แล้ว'

       สีหน้าของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากำลังคิดสิ่งนี้อยู่ในหัว

       "นังเด็กชื่อวิปริตนี่...!"

       ลงท้ายด้วย  จิสึกะโกรธจัดเต็มที่  เธอเดินดุ่ยๆ เข้าไปหาเยริมด้วยท่าทีฉุนเฉียว  

       แต่เป็นจู๊ดที่มาขวางไว้

       "รูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ล  จู๊ดจะเป็นคนปกป้องเอง" (จู๊ด)

       "ไอ้งั่งอย่างนายมาทำอะไรที่นี่?" (จิสึกะ)

       "จู๊ดไม่ใช่ไอ้งั่งหรอกนะ  ฉันได้ยินมาว่า  กริดโง่กว่าเขาเสียอีก"  (เยริม)

       "เจ้าโง่กริดคนนั้นไม่นับ  เขาเกินเยียวยาไปแล้ว!  นังเด็กโง่!" (จิสึกะ)

       "ฉันไม่ใช่เด็กโง่  เธอต่างหากที่เป็นคุณป้าโง่!" (เยริม)

       "งานเลี้ยงเริ่มแล้วขอรับ"

       มาได้จังหวะพอดี

       สถานการณ์กำลังอลหม่าน  โชคดีที่มีขุนนางระดับล่างวิ่งเข้ามาเชื้อเชิญให้เข้าไปในห้องงานเลี้ยง  ภายในนี้ไม่ได้มีการตรวจอาวุธ  แต่บรรยากาศอันคุกรุ่นระหว่างเยริมและจิสึกะยังคงยืดเยื้อต่อไป

       "พี่ยองวู~  อ้ามมม~  กินด้วยน๊า~"  เยริมใช้วิชาออดอ้อนที่เธอแสนถนัด

       "ก--กินนี่ด้วยสิ"  จิสึกะพยายามทำบ้างด้วยท่าทีเคอะเขิน  

       สองสาวสวยกำลังนั่งขนาบซ้ายขวาเพื่อรุมป้อนอาหารกริด  ทั้งสองฝืนบังคับกริดให้กินเข้าไปมากมายจนเขาไม่รู้สึกถึงรสชาติอีกแล้ว

       "แค่ก!  แค่ก!"

       มาร์ควิสสไตมอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นกริดอาหารติดคอ
       
       "ฮ่า!  วีรบุรุษย่อมมีสาวงามรายล้อม!  ฮ่าฮ่า!  เหมือนกับฉันสมัยก่อนไม่มีผิด!  วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"

       ตลอดชีวิตของเขา  มาร์ควิสสไตมมีภรรยาเพียงคนเดียว  แต่เขาก็ไม่คิดฝืนใจให้บุตรเขยต้องปฏิบัติตาม

       ส่วนลอเอลได้แต่ส่ายศีรษะ

       'สงสารท่านหญิงไอรีน'

       สถานการณ์บ้าบอคอแตกอย่างมาก  มันแย่ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าที่ลอเอลเคยดูสมัยไปแข่งที่เกาหลีเสียอีก  

       ส่วนทางด้านหนึ่ง  ใบหน้าของเซฮีกำลังบูดบึ้งสุดขีด  เซฮีหันไปมองพี่ชายสุดที่รักถูกสองสาวรุมล้อม  เธอจึงใช้มีดในมือเฉือนเนื้อลงไปด้วยจิตสังหารอันคุกรุ่น 

       "ศัตรู!"

       จู๊ดสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้ายอย่างแรงกล้า  เขาจึงชักดาบออกมาตั้งท่าป้องกัน  เกิดเป็นความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย  ลงท้ายด้วย  งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปด้วยบรรยากาศแปลกประหลาด

       ***

       ณ ปราสาทยูบาดากัน  อาณาจักรฮาเค่น

       "นับว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง  ถึงบรรดาลูกน้องของเขาจะได้รับยศขุนนาง  แต่กริดก็ยังเป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ถือครองดินแดน  คนพวกนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นขุนนางแค่ในนาม"

       บ็อกซ์  หนึ่งใน 13 คณะผู้บริหารกิลด์สเน็คกล่าวขึ้น

       ซีบาลพลันขมวดคิ้ว

       "โชคดีกับผีน่ะสิ!  แกโง่รึเปล่า?  แค่พวกมันมียศก็เดือดร้อนกับเรามากพอแล้ว"

       การที่มียศขุนนาง  ย่อมหมายความว่า  ในอนาคตพวกเขาสามารถกลายเป็นลอร์ดของดินแดนได้

       "ในไม่ช้า  กริดจะขยายดินแดนได้อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยความเป็นดยุค  เมื่อถึงตอนนั้น  ดินแดนอันมากมายก็จะถูกยกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาบริหารจัดการ  พลังอำนาจของกริดไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่  ลองนึกดูสิ  หากพวกมันกว่าสิบคนกลายเป็นลอร์ดของดินแดนขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็..."

       "...นั่นมัน  เลวร้ายมาก"

       บ็อกซ์เพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองมองปัญหานี้ตื้นเขินเกินไป  

       หลังจากนั้น  ซีบาลได้ตัดสินใจบางสิ่งออกมา

       "พวกเราจะปล่อยให้กริดนำหน้าไปมากกว่านี้ไม่ได้  ฉันจะติดต่อกับหัวหน้าของทั้งเจ็ดกิลด์ใหญ่"

Comments

  1. อ่าวจะมีคนเอาไอเทมมาส่งให้ถึงที่เลยวุย

    ReplyDelete
  2. สู้1-1ไม่ได้ถึงกับหมาหมู่

    ReplyDelete
  3. อยู่ดีไม่ว่าดี ซีบาลเอย...

    ReplyDelete
  4. ผมว่าเป็น มือขวากริด(ชื่อไรแล้วไม่รู้)โชคดีสุดล่ะ
    ถ้ามันจะหักหลังง่ายเลย ได้ทุกอย่างเลยทีงี้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00