จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 204



       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ...

       รัศมีดาบสีขาว-น้ำเงินกว่า 20 เส้นได้ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า  เป้าหมายของการพุ่งทำลาย  คือร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของศาสตราวุธบรรพกาลที่กำแพงชั้นใน

       『มาแล้วครับ!  ท่าไม้ตายของกริด!』

       ผู้บรรยายตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  ผู้ชมทางบ้านพลันเหงื่อออกตามมือตามเท้าทันใด  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ผู้เล่นกว่าแสนคนที่มีโอกาสได้เห็นเต็มสองตาในไรน์ฮาร์ทตอนนี้  ทั้งหมดกำลังขนลุกซู่

       กริดแสยะยิ้มอย่างมีชัย

[ เลเวลของทักษะผสาน <มายาร่ายรำ> เพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]

[ มายาร่ายรำ  เลเวล 2 ]
       วิชาดาบที่งดงามดุจดั่งปีกฝีเสื้อและยอดเยี่ยมจนเหนือล้ำจินตนาการ
       ท่านจะตกอยู่ในสถานะของทั้ง <ร่ายรำ> และ <มายา> เป็นการชั่วคราว
_______
* ทำการโจมตีออกไปทั้งหมด 20 ครั้ง
* ทุกครั้งจะมีความรุนแรง 180% ของพลังโจมตี
* ทุกครั้งที่ถูกโจมตี เป้าหมายจะตกอยู่ในอาการ <ชะงัก> 0.1 วินาที
* ทักษะนี้ไม่ได้ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <มายา> และ <ร่ายรำ>
_______
มานาที่ใช้ : 1,600 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 15 นาที

       เป็นความรู้สึกพึงพอใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อทักษะอัพเลเวล  เหมือนกับการที่ท้องผูกมานานแล้วได้ปลดทุกข์  ชายหนุ่มรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นทันใด  พายุรัศมีดาบด้านหน้าพวยพุ่งเข้าโหมกระหน่ำร่างศาสตราวุธบรรพกาลอย่างไร้ความปราณี

       ยังไม่จบแค่นั้น  เมื่อศาสตราวุธบรรพกาลต้องคมดาบมายาร่ายรำจนชะงักงัน  กริดรีบใช้กระบวนท่า <ร่ายรำสังหาร> ต่อทันที

       เปรี้ยงง!

[ คริติคอล! ]
[ เอฟเฟคของ <ความผิดพลาด> แสดงผล  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ  ]
[ เอฟเฟคของ <ถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ  ]
[ ท่านสร้างความเสียหาย 12,140,700 ต่อเป้าหมาย ]

       กริดอาศัยแรงกระแทกจากดาบแรกเพื่อหมุนตัวกลับมาแทงต่อในดาบที่สอง

       เปรี้ยยงงง!

[ เอฟเฟคของ <ถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ  ]
[ ท่านสร้างความเสียหาย 2,612,000 ต่อเป้าหมาย ]

       ดาบที่สาม

       เปรี้ยง!

[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหาย 1,205,800 ต่อเป้าหมาย ]

       ดาบที่สี่

       เปรี้ยง!

[ ท่านสร้างความเสียหาย 500,300 ต่อเป้าหมาย ]

        ดาบที่ห้า

       เปรี้ยง!

[ เอฟเฟคของ <ความผิดพลาด> แสดงผล  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ  ]
[ เอฟเฟคของ <ถุงมือแสงศักดิ์สิทธิ์> แสดงผล  ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปรกติ  ]
[ ท่านสร้างความเสียหาย 5,579,000 ต่อเป้าหมาย ]

       ค่าสถานะของกริดมีสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เมื่อมีการเสริมพลังจากโทบันเข้าไป  กริดจึงกลายเป็นดั่งปีศาจ  ค่าพลังพุ่งสูงขึ้นในระดับเหนือจินตนาการผู้เล่นทั่วไป  เมื่อรวมเข้ากับสุดยอดทักษะและสุดยอดอาวุธ  สามเหลี่ยมทองคำแห่งเกมออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบจึงถือกำเนิดขึ้น  

       และหนึ่งในห้าดาบก็มีความรุนแรงเกินกว่า 10 ล้าน  กริดรู้สึกพึงพอใจจนหาคำบรรยายไม่ได้

       ตึก...

       กริดร่อนลงสัมผัสกับพื้นหลังจากที่ดาบสุดท้ายของร่ายรำสังหารจบลง

       ครืนนนน...

       ศาสตราวุธบรรพกาลตัวตรงหน้ามีสภาพร่อแร่  เศษหินตามตัวเริ่มถล่มลง

       ไรน์ฮาร์ทพลันดังกึกก้องไปด้วยเสียงเชียร์จากทุกผู้คน

       "เฮ้~~!!"

       "กริด! กริด! กริด!"

       เอ็นพีซีนับแสนต่างกู่ร้องชื่อกริด  ถ้าหากไม่มีกริดล่ะก็  กษัตริย์และราชวงศ์ทุกคนของอีเทอนัลคงถึงคราวล่มสลายไปแล้ว  สำหรับพวกเขา  กริดไม่ต่างอะไรกับผู้กอบกู้อาณาจักร

       กษัตริย์วิสบาเดนตื้นตันจนหลั่งน้ำตา

       "ขอบใจมาก  วีรบุรุษของพวกเรา  อาณาจักรอีเทอนัลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปีจึงรอดพ้นวิฤกติไปได้..."

       บรรดาขุนนางต่างวิตกกังวลภายในใจ

       'เอิร์ลสไตมอาจได้เป็นถึงดยุค'

       'บุตรเขยของเขาอย่างน้อยก็ต้องเป็นถึงเอิร์ล...'

       เอิร์ลสไตมจะกลายเป็นขั้วอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียวของอีเทอนัล  บรรดาขุนนางนักการเมืองต่างรู้สึกเจ็บแค้นในตัวกริด

       『สมกับเป็นก็อดกริด!  เขาอยู่คนละมิติกับพวกเราจริงๆ ครับ!』

       ผู้บรรยายเริ่มฝอยน้ำลายแตกฟองอีกครั้ง

       『ในวันนี้  พวกเราทุกคนได้รู้แน่ชัดในสิ่งหนึ่ง… กริดคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในซาทิสฟายอย่างไร้ข้อกังขาแล้วครับ!  ความองอาจที่แสดงให้เห็นในเวทีระดับนานาชาติมิได้เป็นเพียงสิ่งหลอกตา! 』

       『อันที่จริง  ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากพลังของกริดตามลำพัง  พลังของสมาชิกเซดาก้าห์ล้วนส่งผลอย่างมาก  ทุกคนเองก็คงได้เห็น  การที่กริดสามารถดึงดูดคนเหล่านี้มาอยู่ใต้อาณัติ  ขั้วอำนาจในซาทิสฟายหลังจากนี้จะต้องน่าจับตามองแน่นอนครับ』

       『นับตั้งแต่สงครามไบรันมาถึงสงครามไรน์ฮาร์ทในวันนี้… กริดค่อยๆ สมกับคำว่าตำนานมากขึ้นทีละนิด 』 

       『ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่า  กริดคือผู้เล่นคนแรกของโลกที่จะกลายเป็นเอิร์ล  ผมมีคำถามครับ  เอิร์ลมีพลังอำนาจขนาดไหนกันแน่?  ผมทั้งสงสัยทั้งตื่นเต้นจนขนลุกไปหมดแล้ว』

       『จะหยุดอยู่ที่เอิร์ลจริงน่ะหรือ?  ผมกลับไม่คิดอย่างนั้นนะครับ...』

       โกเล็มทั้งหกตัวอยู่ในสภาพร่อแร่เต็มที  อีกไม่นาน  สงครามครั้งนี้ก็จะจบลง  ทุกคนเชื่อเช่นนั้น

       ลอเอลพูดขึ้น  

       "กริด  ถ้าพร้อมแล้วก็ส่งสัญญานให้ทุกคนปิดบัญชีพวกมันทุกตัวพร้อมกัน"

       มีแต่ต้องฆ่าพร้อมกันเท่านั้น  หากไม่แล้ว  โกเล็มที่เหลืออาจวิพัฒนาการจนหมดหนทางปราบได้อีก  กริดพยักหน้าและตะโกนขึ้น

       "ฉันจะนับถึงสาม!  หนึ่ง…! สอง...!"

       "..."

       ทุกคนล้วนเกร็งตัวเตรียมใช้ท่าปิดฉากออกไป  ทันทีที่กริดนับสาม  โกเล็มทั้งหกตัวต้องตายลงพร้อมกันเท่านั้น  จะให้มีความผิดพลาดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

       "สาม!"

       เมื่อสิ้นเสียงนับสาม  สมาชิกแต่ละกลุ่มทำการปิดฉากศาสตราวุธบรรพกาลลง

       ทว่า  ทางด้านป็อนกับแวนเนอร์เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย

       "ฉันจะปิดฉากมันเอง!"

       "ไม่ได้!  ต้องฉัน!"

       การทะเลาะเป็นเด็กของทั้งคู่ได้ก่อปัญหาใหญ่หลวงขึ้นจนได้  ด้วยความทระนงในศักดิ์ศรีที่ต้องการจะเป็นคนปิดบัญชี  ทำให้มัวแต่แก่งแย่งกันจนไม่มีใครไปจัดการศาสตราวุธบรรพกาล

[ ต้องมีพลังป้องกันธาตุไฟและสายฟ้าที่สูงขึ้น ]
[ โลหะที่นำไฟฟ้าได้จะต้องถูกนำออกจากร่างกาย ]
[ ร่างกายจะมีขนาดเล็กลงเมื่อนำโลหะส่วนเกินออก  แถมความว่องไวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ]

[ ความเร็วในการยิงลำแสงเวทย์ควรจะเพิ่มขึ้น ]
[ แทนที่จะออกแบบให้ใช้มานาน้อย  เปลี่ยนโครงสร้างวงจรเวทย์ใหม่ให้มีความเร็วบีบอัดเพิ่มขึ้น ]

[ ความทนทานต่ออาวุธมีคมคือสิ่งจำเป็น ]
[ ความทนทานต่อระเบิดคือสิ่งจำเป็น ]
[ เวทย์บินคือสิ่งจำเป็น ]

       กึก!  กึกกึก! กึกกึกกึกกึก!

       ศาสตราวุธบรรพกาลที่เคยร่อแร่เพราะหอกคลื่นเสียง  บัดนี้มันได้รวบรวมข้อมูลจากผองเพื่อนที่ตายไปทั้ง 5 ตัวจนครบถ้วน  โกเล็มยักษ์สูง 8 เมตรกลายสภาพเป็นก้อนหินทรงลูกบาศก์ในพริบตา  

       หลังจากนั้นไม่นาน  เมื่อเกิดแสงสว่างวาบขึ้น  ลูกบาศก์หินได้คลายตัวออกเป็นร่างใหม่ 

       ร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของศาสตราวุธบรรพกาล

       ครืนนนน!

       รูปลักษณ์ใหม่มีความสูง 2 เมตรและคล้ายคลึงกับตุ๊กตาวิญญาน  หากดูจากภายนอก  โกเล็มร่างนี้น่าจะอ่อนแอลงจากเดิม  ทว่านั่นคือการตัดสินใจภายนอกเท่านั้น

       "พวกนายทำบ้าอะไรกัน?"

       "สมองยังปรกติดีกันอยู่ไหม?  พวกนายไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ!"

       สมาชิกกิลด์ต่างกล่าวตำหนิป็อนและแวนเนอร์  สถานการณ์ต้องยืดเยื้อเช่นนี้เพราะความทรนงไม่เข้าท่าของพวกเขา  บรรยากาศพลันตึงเครียดกดดัน  ทั้งสองคนต่างรู้สึกผิดในการกระทำเมื่อครู่ทันที

       "พวกเราจะจัดการมันเอง!"
       
       "ฉันต้องสะสางในสิ่งที่ฉันก่อขึ้น!"

       ทั้งคู่ยอมร่วมมือกันแต่โดยดีเป็นครั้งแรก  ท่วงท่าเอาจริงเอาจังถูกเผยให้เห็น  ไม่มีการหย่อนยานหรือประมาทศัตรู  เป้าหมายครั้งนี้คือร่างสุดยอดของศาสตราวุธบรรพกาล

       แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ค่า

       "เอ๋?"

       "แม้ขนาดจะเล็กลง  แต่ดูเหมือนพลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า!"

       หอกขวานของป็อนกับแวนเนอร์ทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนเล็กน้อยให้ผิวหนังโกเล็ม  ดูเหมือนศาสตราวุธบรรพกาลตัวนี้คงกำลังนึกหัวเราะอยู่ในใจ  

       ทันใดนั้น  มันก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาข้างหนึ่งและเล็งไปด้านหน้า

       "...?"

       ท่าทางแบบนี้หมายถึงอะไร?  ทั้งป็อนและแวนเนอร์ได้แต่ตั้งรับอย่างสับสน  

       เพียงอึดใจเดียว  ลำแสงเวทย์จำนวนสองเส้นได้พุ่งออกมาจากนิ้วชี้โดยเล็งตรงไปยังหัวใจของทั้งสอง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 18,010 หน่วย ]
[ ผลการรักษาที่เกิดขึ้นกับท่านจะลดลง ] 

       "แค่ก!"

       แม้จะสวมเกราะเกรดเลเจนดารีอยู่กับตัว  แต่แวนเนอร์ก็ยังสูญพลังชีวิตไปมากถึง 30% ของหลอด  แล้วป็อนล่ะ?  เขาเป็นคลาสสายโจมตีนะ

[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านติดอาการมึนงง ]
[ ผลการรักษาที่เกิดขึ้นกับท่านจะลดลง ] 

       ป็อนได้รับความเสียหายมากถึง 60% ของพลังชีวิต  เขาจำต้องตกอยู่ในอาการมึนงงอย่างช่วยไม่ได้  เมื่อศาสตราวุธบรรพกาลร่างสุดยอดเห็นดังนั้น  มันจึงรีบพุ่งเข้าใส่ป็อนโดยไม่รีรอ

       "แย่ล่ะสิ..."

       สีหน้าของป็อนซีดเผือด  โกเล็มตัวสุดท้ายหมายมั่นจะใช้ศีรษะพุ่งเข้าโขกใส่ป็อน

       "ความหวัง!"

       เซฮีรีบร้อนใช้ทักษะฮีลออกไป  ทว่าการรักษานั้นถูกลดทอนไปหลายส่วน  ป็อนยังคงไม่รอดพ้นจากอาการร่อแร่  สมาชิกกิลด์รีบกรูเข้ามาช่วยเหลือ  โทบันกระโดดมายืนหน้าสุดและกางบาเรียออก  ส่วนจิสึกะ  ลาเอลล่า  เซ็ดนอสต่างยิงสนับสนุนจากด้านหลัง  ตามมาด้วยคลาสทำดาเมจระยะประชิดนำโดยเรกัสและเฟคเกอร์  ทุกคนต่างใช้สุดยอดทักษะที่ยังเหลือ

       ทว่า

       บึ้มบึ้มบึ้ม

       ศาสตราวุธบรรพกาลร่างสุดยอดแสดงให้เห็นถึงพลังอันเหนือชั้น  บาเรียต่อต้านเวทย์ถูกกางออกทำให้การโจมตีของลาเอลล่าและเซ็ดนอสเป็นหมัน  และในเวลาเดียวกัน  มันก็โยกตัวเล็กน้อยเพราะหลบศรอันว่องไวจากจิสึกะ  

       หลังจากนั้น  ศาสตราวุธบรรพกาลก็ไล่บดขยี้เฟคเกอร์กับเรกัสด้วยความเร็วสูงสุด  พร้อมกับปิดฉากด้วยลำแสงที่ยิงกระจายออกไปทุกทิศทางในเวลาไล่เลี่ยกัน

       ปาร์ตี้รวมหัวกะทิของโลกพลันเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง

       "...จบสิ้นแล้ว"

       แวนเนอร์คิดว่าทุกคนคงไม่รอดแน่  เขายืนมองฉากสงครามต้องหน้าด้วยความสำนึกผิด  เป็นเพราะความดื้อรั้น  เป็นเพราะศักดิ์ศรีไม่เข้าท่า  เหล่ามิตรสหายจึงต้องมาเดือดร้อนแทนตน  

       แต่ทันใดนั้น  มีมือที่หยาบกร้านข้างหนึ่งได้เอื้อมมาสัมผัสกับบ่าของแวนเนอร์เบาๆ   เป็นฝ่ามือที่ใหญ่และเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น  เป็นฝ่ามืออันทรงพลังของนักรบหรือช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่  

       ฝ่ามือของกริด

       "ฉันขอโทษ...!"  แวนเนอร์รู้สึกผิดจนไม่กล้าเงยหน้า  หากกริดจะต่อว่าสิ่งใด  เขาก็จะรับมันไว้ทั้งหมด

       ทว่า  กริดเพียงอมยิ้ม

       "ฉันเคยบอกนายแล้วนี่?  ฉันจะเป็นพลังให้ทุกคนเอง"

       ในวันที่กริดขอร้องให้ทุกคนมาอยู่กับเขา  กริดร้องขอพลังจากทุกคน  และกริดก็สัญญาว่าจะเป็นพลังให้ทุกคนเช่นกัน  และวันนี้  ถึงเวลาที่กริดต้องปกป้องคำมั่นนั้นแล้ว

       'เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ'

       แวนเนอร์และสมาชิกกิลด์ต่างไม่เชื่อหู  กริดที่เคยเห็นแต่ตัวและสาปแช่งทุกสิ่ง  ยามนี้กลับเติบโตอย่างยิ่งใหญ่  

       ในขณะที่สายตาทุกคนจับจ้อง  สัตว์เลี้ยงที่ทรงพลังที่สุดของโลกก็ถูกอัญเชิญออกมา

       "เมี๊ยววว!"

       สัตว์อสูรอันดับหนึ่งในขุมนรก  เขาปรากฏกายพร้อมกับแววตาที่ลุกวาว

       "วันนี้จะให้โนเอะกินอะไรอร่อยๆ ใช่ไหม?  เมี๊ยววว!"
       
       "บางที  นี่อาจเป็นของอร่อยที่สุดที่แกเคยกินเลยก็ได้"

       เหตุผลเดียว  ที่กริดไม่อัญเชิญโนเอะออกมาสู้ก่อนหน้านี้ก็เพราะว่า...

       เขาอิจฉาแมว

       แฟนคลับของโนเอะเพิ่มจำนวนแซงหน้ากริดไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ   ยิ่งโนเอะปรากฏตัว  กริดก็ยิ่งดูจืดจางลงในสายตาคนทั้งโลก  ดังนั้น  เขาจึงคิดจบการต่อสู้ด้วยฝีมือตนเอง  

       ทว่า  ความแข็งแกร่งของศาสตราวุธบรรพกาลร่างสุดยอดไม่อาจวัดค่าได้  กริดคิดว่า  มันคงมีระดับใกล้เคียงกับจอมอสูรเฮลกาโอที่ถูกขุดศิลาอัคคีออกไปสองก้อน

       กริดเพิ่งจะใช้ <มายาร่ายรำ> กับ <ร่ายรำสังหาร> ออกไป  ศัตรูระดับตรงหน้าจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับมือตามลำพังไหว  มีเพียงแต่ต้องพึงพาโนเอะเท่านั้น

       "แฟนๆ ของแกคงเพิ่มขึ้นอีกแล้วสินะ..."

       กริดจำต้องกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บใจเอาไว้

       "เขมือบมันซะ"

       "เมี๊ยวววว!"

       โนเอะรีบพุ่งไปหาศาสตราวุธบรรพกาลร่างสุดยอดด้วยความเร็วสูงสุด  ปากทรง  'ㅅ'  ได้อ้ากว้างจนเขมือบร่างโกเล็ม 2 เมตรเข้าไปทั้งตัว

[ เมมฟิสของท่าน <โนเอะ> ทำการกลืนวิญญานเป้าหมาย]
[ ค่าสถานะสูงสุดของเป้าหมายจะลดลง 50% เป็นเวลา 3 วินาที ]
[ ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 2,133 หน่วย ]       

       "วิชาดาบแพ็กม่า... สังหาร!"

       นับว่าโชคดีมาก  กระบวนดาบสังหารในครั้งนี้ติดทุกออปชั่นตั้งแต่คริคิตอลรวมไปจนถึงเพิ่มความรุนแรง 10 เท่า  ด้วยความที่พลังป้องกันและพลังชีวิตของศาสตราวุธบรรพกาลหายไปครึ่งหนึ่ง  การโจมตีจากกริดจึงทำให้มันบาดเจ็บร้ายแรง  และเป็นเวลาเดียวกับที่สมาชิกกิลด์ที่เหลือโหมกระหน่ำทักษะเข้าใส่
        
       โดยเฉพาะยูเฟอมิน่า  เธอไม่หวงเวทย์มนต์เกรด S อันหายากเลยสักนิด

       โฮกกกกกกก!

       ศาสตราวุธบรรพกาลพยายามปัดป้องอย่างเต็มที่  ทว่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์นั้นไม่ใช่ผู้เล่นโนเนม  ทุกคนล้วนมีเลเวลขั้นต่ำอยู่ที่ 270  โดยคนที่น้อยที่สุดคือกริด   แถมโกเล็มร่างสุดยอดตัวนี้ยังคงถูกโนเอะกลืนวิญญานไปเรื่อยๆ 

       ชะตากรรมของมันจึงไม่ยืนยาวนัก

[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ]

       เลเวลเซฮีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยทักษะฮีลเป็นกลุ่ม  นี่คือข่าวดีสำหรับกริดอย่างแท้จริง

       หลังจากนั้น  เมื่อศาสตราวุธบรรพกาลตัวสุดท้ายล้มลง  ไอเท็มที่ชื่อ <ข้อความจากบราฮัม> ได้ดรอปเข้ามาในตัว

       'บราฮัม...!  เป็นเจ้าบ้านั่นเองหรือ?'

       ใจจริง  กริดอยากจะอ่านข้อความเสียเดี๋ยวนี้  ทว่าเรื่องนั้นคงต้องพับเก็บไปชั่วคราว  เพราะกษัตริย์วิสบาเดนกำลังวิ่งตรงมา

       "ขอบใจมาก!  ขอบใจมากจริงๆ!"

       กษัตริย์ได้จับมือกริดไปพลาง  ขอบคุณไปพลาง  ระหว่างนั้นก็ก้มศีรษะให้เล็กน้อย  

       วิสบาเดนถือเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรนับตั้งแต่เกิด  ดังนั้น  การที่เขาก้มศีรษะให้ใครสักคน  ภาพตรงหน้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีทางได้เห็นอีกแล้ว

       เหลือแต่เพียงพิธีมอบรางวัล  กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างเดินตรงไปยังราชวังหลวง  บรรดานักข่าวเองก็รีบตามมาติดๆ เพื่อรายงานสถานการณ์สด  แต่กลับต้องถูกทหารองครักษ์ห้ามไว้  

       ลอเอลรีบเสนอแนะทันที

       "กริด  นายควรขออนุญาตกษัตริย์ให้พานักข่าวเข้าไปด้วยได้  พวกเราต้องแสดงให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า  ความสำเร็จของนายและกิลด์โอเวอร์เกียร์ในวันนี้นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน  จะได้ไม่มีใครกล้าดูแคลนพวกเรา"       

       ลอเอลคือมือขวาของกริด  หากไม่นับเรื่องชื่อกิลด์แล้ว  ทุกคำแนะนำของลอเอล  ไม่มีครั้งใดเลยที่กริดรู้สึกผิดหวัง  ดังนั้น  เขาจึงทำตามที่ลอเอลบอก

       หลังจากนั้นไม่นาน

       พิธีมอบรางวัลของกษัตริย์วิสบาเดนถูกถ่ายทอดออกไปทั่วทั้งโลก  ชื่อเสียงของกริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังจะพุ่งทะยานจนฉุดไม่อยู่

       และเป็นครั้งแรกที่ผู้จัดการ ยุนซังมิน แห่งเอส เอ กรุ๊ป มองกริดในแง่บวก

       "ใช่แล้ว  คลาสเลเจนดารีมันต้องแบบนี้"

       ตัวตนพิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียวได้ทำให้คนทั้งโลกประจักษ์ในความน่าทึ่ง  ยุนซังมินรู้สึกโล่งใจ  ในที่สุด  กริดก็ทำให้ผู้เล่นซาทิสฟายทั่วโลกรู้สึกอิจฉาและอยากเอาเยี่ยงอย่างเสียที

       คนเหล่านั้นจะได้ทุ่มเวลาให้กับซาทิสฟายมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

Comments

  1. ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ



    ReplyDelete
  4. เป็น1ในตอนที่สุดยอดมากจริงๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00