จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 213



       'มันแข็งแกร่งขนาดนี้เชียวรึ?'

       เอิร์ลอัชเชอร์เองก็ได้ทราบข่าวของกริดในสงครามไรน์ฮาร์ทมาบ้าง  กองทัพโกเล็มสุดแกร่งที่แม้แต่กองทหารสองแสนนายยังไม่อาจทำอะไรได้  แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากริด  โกเล็มพวกนั้นกลับถูกหั่นเป็นแครอท  

       แต่ข่าวลือ  ก็มักเป็นสิ่งเกินจริงอยู่เสมอมิใช่หรือ?

       ในขณะที่กริดยังเป็นนักรบอ่อนหัด  เอิร์ลอัชเชอร์ยังจำได้ดีว่าเขาเป็นเพียงไอ้งั่งไร้พรสวรรค์  เมื่อได้ยินข่าวสงครามไรน์ฮาร์ท  มันจึงได้แต่หัวเราอยู่ในใจ  กริดอาจมีพลังของตำนานก็จริง  แต่ถ้าคนใช้พลังคือไอ้งั่ง  ความเป็นตำนานย่อมสำแดงออกมาได้ไม่เต็มที่  บรรดาขุนนางคงกุข่าวลือขึ้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน

       แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น  กริดในตอนนี้  เขาสมกับเป็นวีรบุรุษของอาณาจักรอย่างแท้จริง  กริดในความทรงจำเอิร์ลอัชเชอร์พลันเลือนหายไปจนหมด  อคติเดิมถูกลบล้าง  มันพยายามทำความเข้าใจในตัวกริดคนใหม่

       'สมกับเป็น...  ตัวตนอันยิ่งใหญ่'

       ดวงตาที่เคยไร้ชีวิตชีวาดั่งปลาตาย  บัดนี้กลายเป็นดวงตาอันแน่วแน่ที่จ้องมองผู้อ่อนแอลงมาจากที่สูง  ชายผู้หยิ่งทระนงและไร้ความเกรงกลัวต่อโลกใบนี้  ร่างกายที่เคยหดเกร็งและเอาแต่วิ่งหนี  ผิวหนังอันแสนบอบบางและน่าสมเพชที่เคยถูกออร์คจ่าฝูงไล่ฆ่า  บัดนี้บึกบันแข็งแกร่งดุจดั่งขุนเขา

       ใบหน้าที่เคยอัปลักษณ์  ใบหน้าที่ไม่แยแสว่าคนอื่นจะมองยังไง  ใบหน้าที่เอาแต่ริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น  ความเลวร้ายทั้งมวลในอดีต  บัดนี้  ใบหน้านั้นกลับแผ่ความเกรงขามออกมาถึงขีดสุด  

       เสน่ห์ที่สามารถดึงดูดใจผู้คนทั่วทั้งอาณาจักรได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

       'คนเรา… เปลี่ยนแปลงกันได้ขนาดนี้เชียวหรือ...? '

       "แกอยากให้ฉันร้องขอชีวิตสินะ?"

       เอิร์ลอัชเชอร์จ้องมองกริดและดาบสีน้ำเงินในมือ  ดาบเล่มนี้  นับว่าสวยสง่าและมาพร้อมประกายสีขาวเปล่งปลั่ง  ดูราวกับเป็นอาวุธจากตำนานอันยิ่งใหญ่  เอิร์ลอัชเชอร์กำลังหวาดกลัวต่อความตาย  สัญชาติญานบ่งบอกให้มันยอมจำนนต่อกริด

       ทั้งหมดล้วนเกิดจากค่าความเกรงขามของกริด  ทว่า  ศักดิ์ศรีของเอิร์ลอัชเชอร์กำลังค้ำคอ  มันถูกขนานนามให้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของอีเทอนัล  เป็นถึงจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่  มีหรือจะยอมอับอายที่นี่

       "ฉันขอยอมตายเสียดีกว่า"

       แต่เดิม  มันก็ไม่มั่นใจว่า  หนังสือหายากของแพ็กม่าคือสิ่งที่มีอยู่จริง

       เอิร์ลอัชเชอร์ตัดสินใจใช้กริด  ผู้ที่สามารถหลอกใช้ได้โดยง่าย  จะเรียกว่าหลอกใช้ก็ไม่ถูกนัก  เพราะผลตอบแทนของภารกิจก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อดีแล้ว  แถมมันยังไม่ได้ระบุเส้นตายของภารกิจไว้  เป็นภารกิจที่อัชเชอร์เชื่อใจกริดอย่างมาก  เพราะมันรู้ดีกว่ากริดนั้นอดทนยิ่งกว่าใคร  

       เอิร์ลอัชเชอร์หลอกใช้และเอาเปรียบผู้เล่นใหม่งั้นหรือ?

       เปล่าเลย  เป็นกริดเสียเองที่เริ่มทรยศก่อน  เขาถูกความโลภเข้าครอบงำในวินาทีที่ได้รับหนังสือหายากของแพ็กม่า  กริดตัดสินใจหักหลังภารกิจและนำหนังสือไปเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว

       'ยังไม่ใช่แค่นั้น'

       บลันด์  บุตรชายสุดที่รัก  เด็กคนนั้นหลงรักไอรีนมาหลายสิบปี  หญิงสาวที่ดูเหมือนกำลังจะได้แต่งงานกับบลันด์  แต่กลับลงเอยด้วยการไปเป็นภรรยาของกริด  

       ในตอนนี้  ความตายคือทางเลือกที่สมเกียรติกว่า  หากต้องยอมจำนนต่อกริด  ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นศัตรูของมัน  แต่ยังเป็นศัตรูของบุตรชายมันด้วย

       กริดพลันตื่นตระหนกเมื่อเอิร์ลอัชเชอร์หลับตาลงรอรับความตาย

       'มันอยากให้เราฆ่าทิ้งจริงๆ รึไงเนี่ย?'

       กริดเคยเกลียดชังเอิร์ลอัชเชอร์เข้ากระดูกดำก็จริง  แต่เรื่องในอดีตนั้น  หากลองมาคิดดูให้ดี  คนที่เลือกทางเดินผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าโดยไม่ศึกษารายละเอียดคือตัวกริดเอง  เขาไม่ได้ถูกบีบบังคับโดยเอิร์ลอัชเชอร์  

       แต่ถึงความจริงจะเป็นเช่นนั้น  ทุกครั้งที่กริดตกที่นั่งลำบาก  เขาก็มักจะกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของเอิร์ลอัชเชอร์เสมอ

       นิสัยเดิมที่ชอบโทษคนอื่นยกเว้นตัวเองคือปัญหา  หากจะพูดให้ชัด  กริดไม่มีความจำเป็นต้องโกรธแค้นเอิร์ลอัชเชอร์เลยสักนิดเดียว  เพราะถ้าหากหนังสือหายากของแพ็กม่าไม่มีอยู่จริง  กริดก็คงไม่มีโอกาสกลายเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าเหมือนทุกวันนี้

       ในท้ายที่สุด  บางที  เอิร์ลอัชเชอร์อาจนับว่าเป็นผู้มีพระคุณก็ได้  ถ้ามองเฉพาะผลลัพธ์ล่ะนะ  

       แต่ความจริงอีกส่วนหนึ่งก็คือ  กริดไม่มีความจำเป็นต้องซาบซึ้งในพระคุณของเอิร์ลอัชเชอร์  เพราะเขาสามารถพบหนังสือหายากของแพ็กม่าด้วยพลังใจที่อดทนของตนเองล้วนๆ   และเป็นเพราะพลังอันดื้อด้านนั้น  กริดจึงเติบโตมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอิร์ลอัชเชอร์สักเท่าไร

       ทำให้  ผลการตัดสินใจในครั้งนี้

       'เราแค่อยากจะเอาคืนสักหน่อย… แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้  เรากลับฆ่ามันไม่ลง'

       ไม่ว่ายังไง  กริดก็ทำใจชื่นชอบเอิร์ลอัชเชอร์ไม่ได้  เขาเคยมีประสบการณ์ถูกสังหารโดยอัศวินของมัน  คงเป็นการยากที่จะให้ลืมเรื่องนั้นไป

       แต่ความแค้นครั้งอดีต  มันก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงกับต้องฆ่าแกงกัน  ศีลธรรมอันน้อยนิดในใจพร่ำบอกว่า  เขาไม่จำเป็นต้องฆ่าเอิร์ลอัชเชอร์

       "เฮ่อ  ช่างเถอะ  ลืมมันไปซะ"

       "...?"  เอิร์ลอัชเชอร์พลันสับสน  เพราะกริดทำเพียงถอนหายใจและชักดาบกลับไปเท่านั้น

       มันจึงถามขึ้นอย่างสงสัย

       "เมื่อครู่  ฉันคิดจะฆ่าแก  แต่แกกลับไว้ชีวิตฉันงั้นรึ?"

       พลังอำนาจของเอิร์ลอัชเชอร์ก้าวเหนือขุนนางชั้นเอิร์ลไปไกลแล้ว  แต่ถึงกระนั้น  บรรดาศักดิ์ที่แท้จริงก็ยังเป็นเพียงแค่เอิร์ล  ส่วนกริดคือดยุค  เอิร์ลอัชเชอร์ทำกริยาล่วงเกินใส่  แถมถึงขึ้นคิดจะฆ่าแกงเพราะความแค้นส่วนตัวในอดีต  แต่บัดนี้มันได้รู้แล้วว่า  กริดคือชายที่เหมาะสมกับตำแหน่งดยุคอย่างแท้จริง  เป็นตัวมันเสียอีกที่กระทำผิดแผกจารีตอาณาจักร  ก่อการเลวร้ายที่ยากจะให้อภัยลงไป  บทลงโทษตามปรกติคือความตาย  

       เมื่อกริดคิดไว้ชีวิต  มันจึงไม่ยอมรับ

       "แกหวังอะไรจากการไว้ชีวิตฉัน?"

       เอิร์ลอัชเชอร์จ้องมองกริดอย่างเคลือบแคลง

       'เราปราณีกับมันขนาดนี้  แต่กลับยังสงสัยอยู่อีกงั้นรึ?'  หัวใจกริดพลันเต้นระรัว  หากเป็นในอดีต  เขาคงปล่อยให้อารมณ์ครอบงำและพูดจาไร้สาระออกไปแล้ว

       'เราต้องร้องขออะไรเป็นการแลกเปลี่ยนในฐานะที่ไว้ชีวิตสินะ'

       กริดเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์  เป็นเพราะตลอดสามเดือนที่ผ่านมา  เขาเผ้ามองการกระทำอันเฉลียวฉลาดของลอเอลอยู่เสมอ

       เราจะเรียกร้องอะไรจากเอิร์ลอัชเชอร์ได้บ้าง?

       กริดครุ่นคิด

       'เงินทอง?  อัญมณีล้ำค่า?  ดินแดน?  ไอเท็ม?'

       กริดละโมภ  ใจจริงเขาอยากได้ทุกสิ่ง  แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แน่  ชายหนุ่มขบคิดอยู่ในใจ

       ในขณะนั้นเอง  ลอเอลก็ส่งข้อความส่วนตัวมาหา

       >>  กริด  ทุกคนยกเว้นผู้เฟอมิน่ารออยู่ที่เรย์ดันแล้ว  นายจะมาถึงตอนไหน?

       >>  คิดว่าคงอีกสามวัน

       >>  สามวัน?  ทำไมถึงได้นานนัก?  ช่วยเร่งให้เร็วขึ้นด้วยเวทย์บินได้ไหม?  ได้โปรดรีบมาด้วย  มีงานกองเป็นภูเขาเลาการออยู่

       >>  ฉันมีคนร่วมทางไปด้วย  แต่สหายร่วมเดินทางคนนี้ไม่ชอบเดินทางด้วยยานพาหนะ  พวกเราจึงเดินไป  ช่วยเข้าใจด้วย  ฝากจัดการเรื่องต่างๆ แทนทีนะ

       >>  คนร่วมทาง...?  ใครกัน?

       >>  เดี๋ยวเห็นแล้วก็จะรู้เอง  นายทักมาก็ดีแล้ว  ฉันมีเรื่องจะถามสักหน่อย  คือว่า...

       กริดเล่าทุกสิ่งให้ลอเอลฟังอย่างสรุป  ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเอิร์ลอัชเชอร์  และสถานการณ์ตรงหน้า

       >> …เมื่อเป็นแบบนี้  ฉันควรเรียกร้องอะไรจากเอิร์ลอัชเชอร์? 

       >>  เอิร์ลอัชเชอร์งั้นหรือ...

       หนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีป  เอิร์ลอัชเชอร์คือตัวตนที่โด่งดังอย่างไร้ข้อกังขา  มีหรือที่จ้าวแห่งข้อมูลอย่างลอเอลจะไม่รู้จัก  เขาครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กริด

       >>  ฉันได้ยินมาจากแวนเนอร์  หากจำไม่ผิด  แวนเนอร์เล่าว่า  ตัวเขาและบุตรชายของเอิร์ลอัชเชอร์เคยก่อความวุ่นวายขึ้นในงานแต่งของนายกับไอรีน  เรื่องนั้นเป็นความจริงรึเปล่า?

       >>  หืม?  ไม่รู้สิ  ฉันจำอย่างอื่นไม่ค่อยได้นักหรอก  เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นน่ะ

       >>  งั้นก็  บอกเอิร์ลอัชเชอร์ให้มอบตัวบุตรชายมาเป็นการแลกเปลี่ยน

       >>  เอ๋?  ทำไมกัน?

       ลอเอลรู้อยู่แล้วว่ากริดจะต้องไม่เข้าใจ  คำอธิบายที่ละเอียดชัดเจนจึงถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า

       >>  เอิร์ลอัชเชอร์โด่งดังมากในด้านความรักที่มีต่อบุตรชาย  หากเด็กคนนั้นอยู่กับนาย  รับรองได้เลยว่าเอิร์ลอัชเชอร์จะต้องไม่กล้าลงมือทำอะไรอีกแน่  แถมในวันข้างหน้า  เขาอาจตกเป็นเบี้ยล่างของนายด้วย  เชื่อฉันเถอะ  พลังอำนาจเอิร์ลอัชเชอร์เป็นของจริง  สักวันเขาอาจมีประโยชน์กับนายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

       'ยอดเยี่ยมเหมือนเคย'

       ลอเอลคือคนที่มองผลประโยชน์อยู่เหนือเงินทองเสมอ  การได้เขามาเป็นมือขวา  นับว่ากริดตัดสินใจไม่ผิดพลาด  ชายหนุ่มรู้สึกดีใจที่สักวันตนอาจฉลาดเหมือนกับลอเอล  รอยยิ้มอันชั่วร้ายแสยะออกมาจากทางใบหน้า  นั่นยิ่งทำให้เอิร์ลอัชเชอร์หวาดผวามากขึ้น

       กริดเอ่ยปาก

       "จงมอบบุตรชายของแกมา"

       "อ--อะไรนะ...?"  ราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ   แน่นอนว่าเอิร์ลอัชเชอร์จะต้องไม่ยอมแน่

       "แกคิดจะใช้บุตรชายฉันไปเป็นตัวประกันสินะ!"

       อัชเชอร์ในวัน 48 ปีนั้นยังหนุ่มและสง่างาม  รูปลักษณ์ของมันหล่อเหล่าราวกับพระเอกจากหนังสือการ์ตูน  ในวัยเด็ก  เอิร์ชอัชเชอร์เป็นที่นิยมชมชอบอย่างมาก  ในวันรุ่น  มันกลายเป็นบุคคลที่โดดเด่นในสังคมขุนนาง  มีสาวงามมากมายต่างหมายปองในตัวมัน

       ทว่า  หัวใจของเอิร์ชอัชเชอร์กลับมีหญิงสาวเพียงคนเดียว  เธอมิใช่สตรีงามแห่งอาณาจักร  แต่เอิร์ลอัชเชอร์ก็ตกหลุมรักเธอที่ความอบอุ่นและจิตใจที่ดีงาม  ชีวิตคู่เป็นไปอย่างราบรื่น  ทั้งสองมีบุตรชายสองคนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

       แต่เป็นช่วงเวลาสงบสุขอันแสนสั้น

       โชคไม่ดีนัก  ภรรยาของเอิร์ลอัชเชอร์ป่วยเป็นโรคร้ายและด่วนจากไป  มันได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวดหัวใจอย่างแสนสาหัส  ทว่า  ไม่มีเวลาให้มันได้เศร้าสลดนานนัก  หน้าที่ปกป้องอาณาจักรและเลี้ยงดูบุตรชายสองคนยังคงต้องดำเนินต่อ

       เอิร์ลอัชเชอร์ทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องไปพร้อมกับการชุบเลี้ยงเด็กชายสองคนให้เติบโต  บุตรชายคนโตกลายเป็นจอมเวทย์ขั้นสูง  ส่วนบุตรชายคนรองกลายเป็นนักดาบเวทย์มนต์  เป็นเพราะเขาฉายแววทั้งวิชาดาบและวิชาเวทย์มนต์อันทรงพลังตั้งแต่เด็ก  บุตรชายทั้งสองทำให้เอิร์ลอัชเชอร์สามารถลืมเลือนความเสียใจที่ภรรยาจากไป

       แต่สวรรค์ก็ล่นตลกกับมันไม่หยุดหย่อน

       เมื่อราวสองปีก่อน  บุตรชายคนโตเสียชีวิตระหว่างทำภารกิจพิชิตมอนสเตอร์  หลังจากนั้น  อุปนิสัยของเอิร์ลอัชเชอร์ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน  ความอ่อนโยนพลันสลายไปจนหมดสิ้น  แต่ถึงกระนั้น  มันก็ยังรักและเอ็นดูบุตรชายคนที่เหลือ  

       บลันด์  สายเลือดเพียงคนเดียว  เอิร์ลอัชเชอร์รักบลันด์ยิ่งกว่าชีวิตของตน

       "ต่อให้เลือดเนื้อและวิญญานต้องถูกเผาเป็นจุล  แต่ฉันจะไม่มีวันยอมให้บุตรชายต้องลำบากเด็ดขาด!  ดยุคกริด  ปลิดชีพฉันซะเถอะ!"

       'หัวรั้นชะมัด...'

       เขาควรทำยังไงดี?  กริดไม่ใช่คนฉลาด  ในหัวจึงมีแต่วิธีใช้กำลังเท่านั้น  ทว่า  สถานการณ์ตรงหน้าไม่เหมาะที่จะใช้กำลังเลยสักนิด

       "ฉันจะตามนายไปเอง"

       ชายหนุ่มผลบลอนด์ปรากฏตัวขึ้นในขณะที่กริดกำลังครุ่นคิด  เป็นบลันด์

       "ทำไมลูกถึงได้...!?"

       บลันด์เมินเฉยต่อเอิร์ลอัชเชอร์ที่กำลังตกตะลึง  เขาโค้งคำนับให้กริดและพูดว่า

       "ข้าพเจ้า  บลันด์  เดอลัน  บุตรชายแห่งเอิร์ลอัชเชอร์  ขอทำการคารวะดยุคกริด  วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร"

       บลันด์กับกริดเคยปะทะฝีมือกันมาก่อน  สาเหตุในครั้งนั้นเป็นเพราะไอรีน  แน่นอนว่าบลันด์พ่ายแพ้ราบคาบ  แถมหลังจากนั้นยังถูกโยนออกจากงานแต่งอีก  เขาต้องเจ็บปวดหัวใจอยู่พักใหญ่  

       แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว

       "ผมจะไปเรย์ดันตามที่ดยุคกริดต้องการ"

       ทั้งหมดก็เพื่อชีวิตของผู้เป็นพ่อ  สีหน้าเอิร์ลอัชเชอร์พลันขาวซีด

       "บลันด์!  ลูกจะตัดสินใจตามลำพังไม่ได้!"

       กริดคือศัตรูคู่แค้นที่แย่งชิงคนที่บลันด์หลงรักไป  เอิร์ลอัชเชอร์ไม่มีทางทนเห็นบุตรชายของตนไปเป็นตัวประกันให้กริดแน่  ด้วยร่างกายที่ทรุดโทรมยามนี้  มันพยายามฝืนรีดเร้นพลังเวทย์ออกมา

       "ถ้าแกกล้าแตะต้องบลันด์ล่ะก็  ฉันจะฆ่าแกและบูชายันดวงวิญญานให้กับเทพยาธาน!"

       บลันด์รีบเดินเข้ามาหาก่อนที่กริดจะได้ทันขมวดคิ้ว  เด็กหนุ่มรีบคุกเข่าลง

       "ดยุคกริด  บิดาของผมควบคุมตัวเองไม่อยู่เพราะความรักที่ท่านมีต่อผม  ได้โปรดละเว้นชีวิตท่านสักครั้ง"

       "บ--บลันด์"

       เด็กหนุ่มผู้นี้ยอมคุกเข่าให้ศัตรูคู่อาฆาตเพื่อรักษาชีวิตของพ่องั้นหรือ?  เอิร์ลอัชเชอร์พลันตกตะลึงทันทีเมื่อนึกถึงความอับอายที่บลันด์กำลังได้รับ  มันได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา  บลันด์เป็นฝ่ายพูดขึ้นเพื่อให้อัชเชอร์สบายใจ

       "ท่านพ่อ  ผมจะไปเรียนรู้และเติบโตกับดยุคกริด  ได้โปรดเชื่อในตัวบุตรชายคนนี้  ได้โปรดรอผมกลับมาอย่างยิ่งใหญ่  แล้วก็อย่าลืมทานข้าวด้วยล่ะ"

       "อึก..."
       
       เอิร์ลอัชเชอร์กำลังสติแตกสุดขีด  ดวงตาของมันพร่ามัวอย่างเจ็บแค้น  บัดนี้  บุตรชายเพียงคนเดียวได้ถูกนำไปเป็นตัวประกัน  

       กริดเดินเข้ามาตบบ่าอัชเชอร์เบาๆ

       "เอิร์ลอัชเชอร์  ไม่ต้องห่วง  ฉันจะดูแลบุตรชายของแกเป็นอย่างดี"

       แสยะ

       ไอ้หมอนี่เป็นปีศาจหรืออย่างไร?  เหตุไฉนถึงกำลังอมยิ้มในความเดือดร้อนของผู้อื่นได้?  ในสายตาเอิร์ลอัชเชอร์  กริดไม่เหมือนกับมนุษย์เลยสักนิด

       แต่ต้องขอโทษด้วย  กริดเป็นมนุษย์จริงๆ

       'จะโมโหอะไรขนาดนั้น… ฉันไม่ได้จะกินลูกชายแกเสียหน่อย'

       กริดพูดเบาๆ ในใจก่อนจะหันไปมองปิอาโร่และบลันด์

       "ไปกันเถอะ"

       หลังจากนั้นไม่นาน  สถานที่แห่งนี้ก็เหลือทิ้งไว้เพียงเอิร์ลอัชเชอร์ที่กำลังคลุ้มคลั่งเสียสติ  และกองอัศวินที่ต้องรับเคราะห์

Comments

  1. โอ้...ได้คนร่วมทางเพิ่มอีกคนแล้ว อนาคตจะเป็นยังไงต่อไปรอติดตาม....ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. เข้าทางโจร....

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. เฝ้ารอเยี่ยงนี้เรื่อยปัยยยยยยย

    ReplyDelete
  5. ทพไทำไมมันจะบูชาให้เทพยาธาน

    ReplyDelete
    Replies
    1. เพราะเทพยาธานคือเทพเเห่งความตาย

      Delete
  6. เป็นพระเอกที่เหี้ยจริงๆ

    ReplyDelete
  7. อยากให้พระเอกฝึกฝนทักษะเว้ยยยย
    พึ่งไอเทมอย่างเดียวไม่สนุกเว้ยยย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00