จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 399



       "กริดน่ะหรือ  เขาเติบโตขึ้นมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นวิดีโอสงครามกับอาณาจักรอีเทอนัล"

       ชาติมหาอำนาจแห่งซาทิสฟาย  สหรัฐอเมริกา       

       ผู้คนนับพันต่างมารวมตัวกันในงานสัมภาษณ์ซีซาล  โดยหัวข้อหลักของการสัมภาษณ์ในคราวนี้คือการแข่งนานาชาติหนที่สอง  แต่ดูเหมือนคำถามส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับกริดเสียมากกว่า

       "ในอดีต  กริดเล่นซาทิสฟายโดยอาศัยเพียงไอเท็ม  ทักษะ  และค่าสถานะ  แต่ดูเหมือนตอนนี้จะมีฝีมือการควบคุมที่พอใช้เสริมเข้ามาด้วย  หากดูจากพรสวรรค์ที่มีแล้ว  เขาจะต้องพยายามอย่างมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้  ผมขอยกย่องในความเพียรพยายามของเขา"

       "คุณบรรยายว่า  ทักษะการควบคุมของกริดอยู่ในระดับ <พอใช้>  นั่นแปลว่ายังไม่ใช่ระดับที่น่าตกตะลึงใช่ไหมครับ"

       "เอ่อ... ผมคิดว่า  แค่นี้นับว่าสูงมากแล้วในมุมมองของสาธารณะชน"

       "ก็หมายความว่า  ฝีมือการควบคุมของกริดยังเทียบเท่ากับแร้งเกอร์แถวหน้าไม่ได้  แถมยังถูกทำให้อ่อนแอลงด้วยระบบการต่อสู้แบบใหม่  คุณมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง"

       "ผมคงขอพูดเหมือนเดิม  ถ้าหากกริดไม่มีไอเท็มและแต้มสถานะที่ดี... เขาจะเป็นเพียงผู้เล่นดาษดื่นทั่วไปเท่านั้น"

       "ผมมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น  กริดอ่อนแอลงจริงหรือ  ถ้าหากพลังโจมตีถูกหักไปครึ่งหนึ่งล่ะก็  กริดก็แค่โจมตีสองครั้งแทนที่จะเป็นครั้งเดียว  เช่นนี้เขาก็ยังล้มศัตรูได้เหมือนเดิมไม่ใช่หรือ"

       คำถามของนักข่าวคนนี้ได้ทำให้คนทั้งห้องสัมภาษณ์หัวเราะเยาะ  ไม่เว้นแม้แต่ตัวซีบาลเอง  คำถามเมื่อครู่นับเป็นเรื่องพื้นฐานของซาทิสฟายที่ทุกคนควรรู้อยู่แล้ว  ซีบาลหยุดหัวเราะและเริ่มเปิดปากขึ้น

       "ซาทิสฟายไม่ได้มีแค่ระบบพลังชีวิตและพลังโจมตีเท่านั้น  แต่ยังรวมไปถึงพลังป้องกันด้วย  ยกตัวอย่างเช่น  สมมติให้พลังป้องกันของผมมี 100 หน่วย  และพลังโจมตีของกริดมี 1,000 หน่วย  กริดจะโจมตีใส่ผมได้รุนแรงเท่าไร"

       "...900 รึเปล่า"

       นักข่าวเกษียณผู้นี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซาทิสฟายมากนัก  เขาตามเทคโนโลยีไม่ค่อยทันสักเท่าไร  และอันที่จริง  งานสัมภาษณ์ในคราวนี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของตน  แต่เป็นเพราะต้องมาทำแทนรุ่นน้องที่ประสบอุบัติเหตุมาไม่ได้  

       เมื่อซีบาลเห็นว่าชายคนนี้ไม่เข้าใจซาทิสฟาย  มันจึงอธิบายอย่างใจเย็น

       "ไม่เลย  พลังป้องกันไม่ได้ถูกคำนวนโดยตรงเช่นนั้น  และนอกเหนือจากค่าพลังป้องกันที่เห็นในหน้าต่างสถานะ  แต่ละคลาสยังมีค่าต้านทานพิเศษ  ซึ่งใช้สำหรับลดความหายที่ได้รับอยู่อีก"

       "ในอีกความหมายหนึ่ง  ระบบใหม่นี้จะลดพลังโจมตีของกริดลงมากเกินกว่า 50% งั้นหรือ"

       "ถูกต้อง"

       "ถ้าอย่างนั้น  ไม่ใช่ว่าระบบใหม่นี้ส่งผลเสียกับทุกคนรึไง  โดยเฉพาะผู้เล่นที่มีพลังโจมตีต่ำ  ไม่ใช่เฉพาะกับกริดเท่านั้น  แต่ผู้เล่นคลาสที่มีค่าพลังโจมตีน้อยจะสร้างความเสียหายต่อคนอื่นได้อย่างไรกัน"

       นักข่าวเกษียณยังคงยิงคำถามที่เป็นพื้นฐานซาทิสฟายอย่างต่อเนื่อง  ซีบาลส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะชี้นิ้วไปยังศีรษะและหัวใจของตน

       "โจมตีจุดอ่อนของศัตรู  ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ"

       แต่กริดย่อมทำเช่นนั้นไม่ได้แน่นอน  ในที่สุด  นักข่าวเกษียณก็เริ่มเข้าใจเหตุผลขึ้นมาบ้างแล้ว  เขาปิดปากลงและนั่งจดโน๊ตขยุกขยิก  เปิดโอกาสให้นักข่าวคนอื่นยิงคำถามต่อไป

       "ในเมื่อพลังของกริดบนสนามประลองถูกสะกดไว้แล้ว  คุณคิดว่าเกาหลีใต้มีเหรียญรางวัลรวมอยู่ในอันดับเท่าไร"

       "22 ล่ะมั้ง  ก็อย่างที่คุณรู้  เกาหลีใต้ไม่มีอัจฉริยะคนอื่นนอกจากยูร่าอีกแล้ว  เธอคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้มากแน่"

       "แล้วพีคซอร์ดล่ะ"

       "แน่นอนว่าพีคซอร์ดนั้นเก่งมาก  แต่ศาสตร์การชักดาบฟันของเขาสามารถโจมตีได้อย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว  หลังจากนั้นก็จะมีระยะหน่วงที่นาน  กว่าจะโจมตีซ้ำเข้าไปได้อีก  พีคซอร์ดเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับเคราะห์กรรมจากระบบนี้  เกาหลีใต้ช่างน่าเศร้านัก"

       "ถ้าอย่างนั้น  รัสเซียที่มีครอเกลล่ะครับ"

       "รัสเซียมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งจำนวนหนึ่ง  แถมยังมีครอเกลเป็นแกนหลัก  ซึ่งผมชื่นชมในตัวเขามาก... รัสเซียน่าจะติดท็อปสิบได้ไม่ยาก"

       "แล้วเจ้าภาพ  ฝรั่งเศสล่ะครับ"

       "น่าจะท็อปห้า"

       "สหรัฐอเมริกาล่ะครับ"

       "แน่นอน  พวกเราต้องเป็นที่หนึ่งเหมือนเคย  และในทุกประเภทการแข่งด้วย"

       ***

       กรุงปักกิ่ง  สาธารณะรัฐประชาชนจีน

       "เฮ่า  คุณไม่ได้เข้าร่วมในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่หนึ่งซึ่งจัดขึ้นในเกาหลีใต้  ด้วยเหตุนั้น  ทีมจีนจึงตกลงไปอยู่ถึงอันดับเจ็ด  เหตุผลที่คุณตัดสินใจลงแข่งในคราวนี้ก็เพื่อไม่ต้องการให้ชาวจีนรู้สึกผิดหวังอีกเป็นหนที่สอง  ผมพูดถูกไหมครับ"

       เฮ่ายังคงรักษาอันดับ 16 ของโลกไว้อย่างเหนียวแน่น  แม้ว่าตารางอันดับโลกจะถูกโอเวอร์เกียร์สั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา  ปาฏิหาริย์เพียงหนึ่งเดียวของชาวจีนผู้นี้ได้รับฉายาว่าเป็น <อัจฉริยะแห่งการต่อสู้>   ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบตะลุยเดี่ยวหรือเล่นเป็นทีม  เฮ่าล้วนทำได้ดีอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

       ในปีที่แล้ว  การขาดเฮ่าไปทำให้ทีมจีนหมดลุ้นในงานแข่งประเภทต่อสู้ทั้งหมด  เมื่อเฮ่าได้ยินคำถามดังกล่าวของนักข่าว  ใบหน้าของเขาพลันกระตุกไปเล็กน้อย

       'เราอยากจะตอบกลับไปว่า  หัวใจของผู้ชมไม่ได้มีผลอะไรกับเราเลยสักนิด'

       แต่ด้วยความที่เป็นชาวจีน  เฮ่าจึงรู้ดีว่า  ถ้าหากตนพูดจาไม่ดีออกไป  อาจถูกใครบางคนลักพาตัวเข้าได้สักวัน

       เฮ่าจึงสูดลมหายใจเข้าลึกและพยักหน้า

       "ใช่แล้ว  ในปีก่อน  ผมไม่ได้เข้าร่วมงานแข่งเนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย  แต่ปีนี้  ผมขอสาบานด้วยเกียรติแห่งเหมาเจ๋อตุงและชาวจีน  ผมจะนำพาชัยชนะกลับมาสู่ทีมจีนให้ได้"

       "กริดสามารถสร้างสุดยอดผลงานขึ้นได้ในปีที่แล้ว  ส่งผลให้เกาหลีใต้เป็นอันดับสามของจ้าวเหรียญทอง  แต่ตอนนี้กริดถูกเนิร์ฟหนักมาก  ไม่ทราบว่าคุณจะทวงคืนชัยชนะกลับมาให้ชาวจีนได้ไหมครับ"

       'กริดงั้นหรือ...'

       จากคำพูดของลอเอล  กริดคือคนที่สามารถก้าวข้ามครอเกลได้  เฮ่าอยากจะมองว่านั่นเป็นเพียงคำพูดไร้สาระ  แต่ลอเอลไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาใหญ่โตโดยไม่มีมูล  ดังนั่น  กริดน่าจะเก็บซ่อนบางสิ่งที่ตนไม่รู้เอาไว้

       'แต่ว่า... เราจะกล่าวชมหมอนั่นต่อหน้าคนเหล่านี้ไม่ได้เด็ดขาด'

       เมื่อเฮ่ากวาดสายตาไปรอบห้อง  นักข่าวทุกคนล้วนกำลังจ้องมองด้วยแววตาคาดหวัง  เฮ่าสูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งครั้งก่อนจะเปิดปากพูด

       "ไม่เกี่ยวกับว่ากริดจะถูกเนิร์ฟรึไม่  แต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว"

       "โฮ่!!"

       ในที่สุด  นักข่าวก็ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาต้องการ  ย่อมแน่นอนอยู่แล้วว่า  ประเทศที่มีขนาดใหญ่จะต้องบดขยี้ที่มีขนาดเล็กได้แน่
       
       แชะ!

       แชะ! แชะ!

       คำประกาศกร้าวของเฮ่าถูกเขียนขึ้นเป็นบทความบนอินเทอร์เน็ตพร้อมรูปถ่าย  ในขณะเดียวกัน  เฮ่าก็จิบน้ำเย็นด้วยท่าทีสุขุม

       'เราไม่ได้โกหก'

       คนเดียวที่เก่งกาจกว่าตนคือครอเกล  เฮ่าประเมินฝีมือตัวเองไว้สูงมาก  ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าเขาสามารถตรึงสมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์ไว้ได้หลายคน  เมื่อตอนที่เกิดเหตุการณ์รุกรานเรย์ดันในหลายเดือนก่อน

       ***

       กรุงปารีส  ฝรั่งเศส

       "บองเดร  คุณเคยได้รับความอับอายเมื่อครั้งพ่ายแพ้ต่อกริดในเวลาเพียงสี่วินาที  เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ทำให้คุณนอนฝันร้ายรึเปล่าครับ  หวังว่าฟอร์มในการแข่งปีนี้จะไม่ตกลงไปนะ"

       ฝรั่งเศสคือหนึ่งในตัวเต็งของงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนแรก  ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการว่า  ฝรั่งเศสจะคว้าเหรียญรางวัลรวมสูงกว่าสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ  แต่เมื่อดาวเด่นของฝรั่งเศสอย่างบองเดรถูกกริดบดขยี้อย่างราบคาบ  ทุกสิ่งก็ดูเหมือนจะผิดที่ผิดทางไปหมด  ลงเอยด้วยการที่ทีมชาติฝรั่งเศสจบลงเพียงอันดับสอง

       บองเดรส่งสายตาเหยียดหยันผู้สื่อข่าวเล็กน้อย  หลังจากนั้นก็ประกาศกร้าว

       "ฝันร้ายอะไรกัน...  ผมไม่ใช่ไฮยีน่าอย่างพวกคุณนะ  ผมคือนักล่า!  ผมไม่มีทางหวาดกลัวกับเรื่องแค่นี้แน่นอน!"

       "การมีความมั่นใจมันก็ดีครับ  แต่ไม่ใช่ว่าระบบใหม่ก็ทำคุณเดือนร้อนไปด้วยงั้นหรือ  ศูนย์องศาสัมบูรณ์ของคุณไม่อาจสังหารผู้เล่นได้ในการโจมตีเดียวอีกแล้ว"

       ฝรั่งเศสมีอดีตเป็นอันดับสองในงานแข่งปีแรก  แถมปีนี้ยังได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพ  จึงไม่แปลกที่หลายฝ่ายต่างคาดการว่าฝรั่งเศสจะเป็นจ้าวเหรียญทอง  ทว่าบรรดาสื่อหลักภายในประเทศกลับยังไม่เชื่อใจบองเดรมากนัก  เมื่อเห็นท่าทีของนักข่าว  บองเดรจึงตอบกลับด้วยสีหน้าฉุนเฉียว

       "พวกคุณคิดว่าทักษะโจมตีของผมมีแค่ศูนย์องศาสัมบูรณ์รึไง"

       "...!"

       "ผ่านมาแล้วหนึ่งปีเต็ม  ระหว่างนั้น  ผมได้เรียนรู้เวทย์มนต์โจมตีชนิดใหม่เพิ่มเติมอีกมากมาย  และอันที่จริง  จอมอาคมน้ำแข็งคือคลาสที่เน้นหนักไปในการป้องกันและเอาตัวรอด  หาใช่พลังโจมตีที่รุนแรง  ดังนั้น  ระบบใหม่จึงเอื้อประโยชน์กับผมมาก!"

       บองเดรที่เริ่มมีน้ำโหได้พูดจาดุดันก้าวร้าวมากขึ้น  มันประกาศกร้าวกับสื่อภายในประเทศจำนวนมากที่มารวมตัวกันในวันนี้ว่า
       "ไอ้พวกไร้อารยธรรมอย่างเกาหลีใต้ที่กินเนื้อสุนัข  จงฟังให้ดี  ฉันจะบดขยี้พวกแกให้ราบคาบ!  แล้วพวกแกจะได้เห็นพลังที่แท้จริงของฉัน!  พร้อมกับชัยชนะอันสวยหรูของทีมฝรั่งเศส!"

       ***

       กรุงออตตาว่า  แคนนาดา

       อันดับสามของโลกอย่างคริสก็ต้องให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเช่นกัน

       "ในปีก่อน  แคนาดาคือทีมตัวเต็งในการเป็นจ้าวเหรียญทอง  แต่ดูเหมือนพวกเราจะได้ผลลัพธ์ที่น่าใจหาย...  ไม่ติดแม้กระทั่งท็อปสาม"

       "ในปีนี้  ประเทศคานาคาของเราคาดหวังผลลัพธ์ที่ต่างออกไป  คริสครับ  คุณมีความมั่นใจรึเปล่า  ว่าจะสนองตอบความต้องการของผู้คนได้สำเร็จ"

       ได้โปรดมอบคำตอบที่พวกเราพึงพอใจด้วย  คริสอ่านสีหน้าของนักข่าวได้เช่นนี้  ทันใดนั้น  เขาก็ก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม

       "ผมไร้ความสามารถในปีที่แล้ว  ผมแพ้ซีบาลในการแข่งล่าบอส  แพ้บองเดรในการแข่งฝ่าวงกต  และแพ้เรกัสในลานประลอง  ผมขอหยิบยืมโอกาสนี้เพื่อขอโทษทุกคนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต"

       อันที่จริง  คริสไม่ต้องกล่าวขอโทษเลยก็ยังได้  ผลงานของเขาน่าตกตะลึงอย่างมากแล้ว  ว่ากันว่า  อาจเป็นรองเพียงแค่กริดเท่านั้น  คริสได้รับเหรียญเงินในสองรายการที่ลงแข็ง  และสามารถไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในลานประลอง  คงไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า  คริสได้แบกผลการแข่งของประเทศแคนาดาไว้แต่เพียงผู้เดียว

       "ได้โปรดอย่าก้มศีรษะเลย!"

       "คุณคือวีรบุรุษของพวกเรา!"

       บรรดานักข่าวต่างส่งเสียงห้ามปราม  คริสจึงค่อยๆ ยกศีรษะขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม

       "ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดในปีนี้  ผมมั่นใจว่า  ตนเองสามารถเอาชนะนักกีฬาของชาติอื่นได้ทุกคน  เว้นเสียแต่อีกฝ่ายจะเป็นครอเกลหรือกริด"

       "ก--กริดงั้นหรือ..."
       
       บรรดานักข่าวต่างตกตะลึง  ไม่ใช่ว่ากริดคือผู้โชคร้ายของระบบใหม่หรือไง  แร้งเกอร์ทั่วโลกต่างคาดการว่า  กริดจะหมดฤทธิ์อย่างสิ้นเชิงในงานแข่งที่กำลังจะมาถึง  แต่ทำไมคริสถึงได้กล่าวยกย่องกริดเช่นนี้

       'คริสเองก็เป็นเหยื่อของระบบใหม่เหมือนกัน  แต่ว่า...'

       'คริสมีพื้นฐานฝีมือดาบใหญ่ที่ยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิม  แตกต่างจากกริด'

       คริสอมยิ้มให้กับสีหน้าอันแสนตื่นตระหนกของนักข่าว

       'เราเอาชนะคนอย่างกริดไม่ได้หรอกนะ  ชายคนนั้นสามารถต่อกรกับชาวนาเสียสติได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าใครทั้งหมด...'

       ทั่วโลกยังไม่รู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของกริด  คริสเองก็ไม่เข้าใจว่า  เหตุใดคนทั่วโลกถึงเย้ยหยันกริดว่าไร้ความสามารถนัก  ทั้งๆ ที่กริดคือผู้เล่นที่มีผลงานประจักษ์ชัดมากที่สุดของโลกแล้ว  แม้ว่าจะยังมีฝีมือควบคุมไม่ถึงขั้นก็ตาม   

       แต่แน่นอนว่าคริสก็ไม่ได้ถอดใจยอมแพ้กริดเสียทีเดียว

       กริดและครอเกล  ทั้งคู่ไม่ใช่ตัวตนที่คริสจะเอาชนะได้โดยง่ายก็จริง  แต่ก็โอกาสชนะก็ไม่ใช่ศูนย์เปอร์เซ็นต์เช่นกัน  นี่คือความทรนงและศักดิ์ศรีของผู้เล่นอันดับสามของโลก

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00