จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 387
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 20 ]
กริดใช้เวลาผ่านบททดสอบของเกาะหมายเลขหนึ่งถึง 19 รวมทั้งสิ้น 45 ชั่วโมงกับอีก 19 นาที โดยที่ชายหนุ่มทุ่นเวลาไปมากแล้วจากการใช้มาสเตอร์คีย์ รวมถึงไปแท่งสายฟ้ายักษ์ที่ตนสร้างขึ้นมาใหม่ หากเป็นผู้ท้าทายทั่วไป เวลาโดยรวมจะต้องนานกว่านี้มากแน่
แต่สำหรับสมาชิกโอเวอร์เกียร์นั้นมีข้อยกเว้น พวกเขาทั้งหมดได้รับคำแนะนำจากกริดอย่างละเอียด และเตรียมการแก้ทางในแต่ละบททดสอบมาเป็นอย่างดี ทุกคนสามารถมาถึงเกาะหมายเลข 20 ได้ด้วยเวลาที่ไม่ต่างจากกริดมากนัก
'บททดสอบของเกาะหมายเลข 20... ต้องหลบดวงตาของจันทร์ขุมนรกสินะ'
และวิธีที่กริดเตรียมการไว้ให้ทุกคนผ่านด่านก็คือ...
พรึบ!
ชาวโอเวอร์เกียร์พากันสวมผ้าคลุมล่องหนและเดินผ่านเกาะหมายเลข 20 ไปอย่างง่ายดาย จันทร์ขุมนรกไม่สามารถเป็นอุปสรรคให้พวกเขาได้แม้แต่น้อย ทั้งหมดเป็นเพราะกริดคนเดียวแท้ๆ
***
เหลือเวลาอีก 39 วันก่อนจะถึงงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สอง
อันดับหนึ่งของโลก ครอเกล ยามนี้กำลังอยู่ระหว่างทางแยกที่ต้องตัดสินใจ ระหว่างกลับมาท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นอีกครั้ง หรือกลับไปท้าดวลกับปิอาโร่อีกครั้ง
'การท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นจะทำให้เราได้รับโอสถและทักษะใหม่'
แต่หากชนะปิอาโร่ได้ เขาก็จะได้รับคลาสเกรดเลเจนดารี ไม่ว่าจะทางใด ถ้าหากประสบความสำเร็จ ครอเกลก็จะพัฒนาตนเองอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นพระเอกในงานแข่งซาทิสฟายทันที
'แต่ก็อัตราความสำเร็จก็ต่ำมากทั้งคู่'
โอกาสที่ครอเกลจะเอาชนะปิอาโร่มีอยู่เท่าไรน่ะหรือ จากที่ตนคำนวนด้วยประสบการณ์ คงอยู่ที่ราว 30% เท่านั้น
แล้วหมู่เกาะเบเฮ็นล่ะ
'โอกาสผ่านบททดสอบของหมู่เกาะเบเฮ็นนั้นยิ่งต่ำกว่า 30% เสียอีก'
เหตุผลที่ครอเกลไม่คิดกลับไปท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นใหม่อีกครั้ง เพราะเขาติดแหง่กอยู่ที่เกาะหมายเลข 31 มานานแล้ว เกาะแห่งฝันร้ายที่จะจำลองความตายบ่อยครั้งที่สุดกลับมาอีกครั้ง
โดยบททดสอบที่ครอเกลพบพานก็คือ... เขาต้องสู้กับจอมอสูรเฟอร์ฟูด้วยเลเวลที่ไม่ถึง 180 ด้วยซ้ำ
'เฟอร์ฟู...'
หนึ่งในจอมอสูรที่พ่ายแพ้ต่ออริยะดาบมุลเลอร์จนถูกผนึกไว้ ในอดีต ครอเกลประมาทเฟอร์ฟูเกินไป คิดว่าตนเองสามารถล่าได้ตามลำพัง เพราะตอนนั้นเฟอร์ฟูหยิบยืมร่างเนื้อของอสูรระดับกลางมาใช้ต่อสู้
ผลการต่อสู้เป็นอย่างไรน่ะหรือ เรียกว่าเป็นนรกบนดินของครอเกลก็ไม่ผิดนัก เขาถูกเฟอร์ฟูตามล่าสุดขอบโลกและสังหารไปสามครั้งซ้อน หากไม่ได้รับความช่วยเหลือล่ะก็ เกรงว่าคงถูกฆ่าเพิ่มมากกว่านี้อีกหลายรอบแน่นอน
'ตัวเราในตอนนี้ยังเอาชนะหมู่เกาะเบเฮ็นไม่ได้'
สีหน้าของครอเกลขมขื่นในยามที่นึกถึงกริด ชายคนแรกที่สามารถแซงหน้าครอเกลได้ กริดบอกว่าตนไปถึงเกาะหมายเลข 40 แล้ว หมายความว่ากริดสามารถผ่านบททดสอบอันโหดหินหลัก 30 ได้ทุกเกาะเชียวหรือ ดูเหมือนกริดจะถนัดในการเอาชนะอดีตของตนมากทีเดียว
"...หืม"
ครอเกลครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเบนความสนใจไปยังทวีปตะวันออก ณ ที่นั่น ตนสามารถรวบรวมไอเท็มสำหรับนักดาบสีขาวเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถเร่งอัพเลเวลได้อีกสักหน่อยจนกว่าจะถึงงานแข่ง แม้ผลตอบแทนจะน้อยกว่าปิอาโร่และหมู่เกาะเบเฮ็น แต่ดูเหมือนโอกาสสำเร็จจะสูงกว่ามาก
'สงสัยต้องหมกตัวอยู่ในทวีปตะวันออกไปอีกพักใหญ่'
เมื่อตัดสินใจได้ ครอเกลจึงกดใช้ม้วนคาถาทวีปตะวันออกทันที
***
"ยากฉิบ..."
ณ เกาะหมายเลข 40
กริดพยายามใช้ทักษะผสาน <คลื่นร่ายรำสังหาร> และ <ทำลายล้างสังหาร> มาแล้วสามวันติดต่อกันในเกม แต่ผลลัพธ์ที่ต้องการก็ยังไม่ปรากฏออกมาเสียที ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจับจังหวะการเว้นระยะห่างของร่างโคลนได้
'บ้อบอสิ้นดี...'
เขาลองพยายามเว้นระยะตั้งแต่ 0.1 วินาทีไปจนถึงสามวินาที แต่ผลที่ได้กลับออกมาเป็นแค่ <ร่ายรำ> หรือไม่ก็ <ร่ายรำสังหาร>
ชายหนุ่มเริ่มออกอาการหงุดหงิด
'เราเสียเวลากับมันไปมากถึงสามวันเต็มแล้ว...'
การคว้าน้ำเหลวหลังจากความพยายามอย่างหนัก สิ่งนี้ทำให้กริดรู้สึกระคายเคืองใจมาก เป็นอีกครั้งที่เขาตัดพ้อในความด้อยพรสวรรค์ของตน แต่ถึงกระนั้นกริดก็ยังไม่สิ้นหวัง ชายหนุ่มยังมีไฟในการเอาชนะ
'บางทีอาจไม่ใช่การเว้นระยะ แต่เป็นเงื่อนไขอื่นที่ต้องเติมเต็มให้ครบ'
แล้วตนจะรู้ได้อย่างไรว่าเงื่อนไขนั้นคืออะไร...
"คงต้องเข้าไปเจ็บตัวอีกครั้งสินะ"
กริดรู้ดีกว่าใครทั้งหมด ว่าตนในตอนนี้ไม่อาจเอาชนะร่างโคลนได้แน่ การก้าวย่างข้ามประตูไปคงมีแต่ความพ่ายแพ้และความตายรออยู่ ถึงกระนั้นเขาก็หาได้หวาดกลัว เพราะหากชายหนุ่มกลัวความล้มเหลว เขาก็จะไม่มีวันได้พัฒนาตนเองไปข้างหน้าอีกเลย
"เอาล่ะ"
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินเข้าไปในประตูมิติของเกาะหมายเลข 41 เป็นอีกครั้งที่เขาจะได้เผชิญหน้ากับร่างโคลน การต่อสู้ที่มีเพียงความพ่ายแพ้รออยู่ กริดไม่คาดหวังสิ่งใดมาก ขอเพียงจดจำภาพการใช้งานทักษะผสานให้ขึ้นใจและกระจ่างชัดก็พอแล้ว
***
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 41 ]
[ บททดสอบถูกสร้างขึ้น ]
[ เกาะหมายเลข 41 ]
ต่อสู้กับตนเองและเอาชนะให้ได้
ของรางวัลผ่านบททดสอบครั้งแรก : เลือกอัพเลเวลของทักษะใดก็ได้ จำนวนหนึ่งทักษะ
เกาะอันแบนราบที่ไม่มีภูมิประเทศให้ฉกฉวยถือครองความได้เปรียบ ทันทีที่ภาพเบื้องหน้าชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นป่าไผ่ ร่างโคลนก็พุ่งเข้าใส่พร้อมกับการทักทาย
"วิชาดาบแพ็กม่า..."
เฉกเช่นสามวันก่อนทุกประการ ร่างโคลนบุกโจมตีทันทีเมื่อชายหนุ่มย่างกรายเข้าเกาะ
'จะเปิดด้วย <คลื่นร่ายรำสังหาร> อีกรึเปล่านะ'
กริดตั้งสมาธิ เขาจดจ้องการเคลี่ยนไหวของร่างโคลนอย่างไม่กระพริบตา รายละเอียดเล็กน้อยจะไม่มีการตกหล่นอีกแล้วในคราวนี้
ทันใดนั้น เมื่อทักษะถูกใช้ออกมา
"มายาร่ายรำ!"
"บัดซบ!"
กลับกลายเป็นทักษะที่เขาไม่ได้ต้องการจะเรียนรู้ ชายหนุ่มโต้กลับไปด้วยมายาร่ายรำเช่นเดียวกัน รัศมีดาบหลายสิบเส้นปะทะกันกลางอากาศจนสั่นสะเทือนไปทั้งเกาะ แรงปะทะของทักษะเกรดเลเจนดารีย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
ฟ้าววว!
"อั่ก...!"
แรงระเบิดก่อเกิดเป็นพายุทรายอันเกรี้ยวกราดพัดหมุนวนไปทั่วเกาะ ชายหนุ่มที่ถูกบดบังการมองเห็นได้รีบถอยร่นไปด้านหลังทันที แต่ร่างโคลนกลับคิดต่าง แม้จะต้องฝ่าดงพายุทรายที่อาจระคายเคืองใบหน้า ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีความลังเลเลยสักนิด ดาบใหญ่กริดในมือถูกเปลี่ยนเป็นยารุกต์และฟาดฟันเข้าโจมตีกริดโดยไม่ให้พักหายใจหายคอ ชายหนุ่มที่ยังคงถือดาบใหญ่กริดอยู่ในมือจึงไม่อาจอ่านทางดาบยารุกต์ของอีกฝ่ายได้
ฉัวะ!
ต้นขาของชายหนุ่มถูกฟันเป็นแผลลึกทันที เป็นจังหวะเดียวกับกริดสลับมาใช้ยารุกต์ได้บ้าง
ทว่า...
"คลื่น"
ตอนนี้ร่างโคลนสลับกลับไปถือดาบใหญ่กริดอีกครั้งอย่างน่าตกตะลึง แถมยังใช้ทักษะตามต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง คงเป็นการยากที่ชายหนุ่มจะหลบ <คลื่น> ในระยะประชิดแบบนี้พ้น
'ทำไมเจ้านี่ถึงสลับอาวุธได้ไวนัก...'
การสลับอาวุธแต่ละครั้งประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน หนึ่งคือเปิดประเป๋าสัมภาระ สองคือเก็บอาวุธเดิมกลับเข้าไป และสามคือนำอาวุธที่ต้องการออกมา สำหรับกริดแล้ว ความเร็วสูงสุดของเขาคือสองวินาที แต่ดูเหมือนร่างโคลนจะทำมันได้โดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที กริดพลันสับสนไปพักใหญ่
'ถ้าฝึกทำให้บ่อยขึ้น ตัวเราก็สามารถสลับอาวุธได้ในหนึ่งวินาทีเหมือนกันสินะ...'
ชายหนุ่มระงับความมึนงงไว้เพียงเท่านี้ ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังถือดาบใหญ่ที่มีความเร็วโจมตีต่ำ กริดจะต้องฉกฉวยโอกาสนี้ กอบโกยสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุดด้วยยารุกต์
ฉึก!
ยารุกต์แทงเข้าที่สีข้างของร่างโคลนจนเกิดเป็นแผลลึก เลือดไหลรินลงมาทางยาว
'ยังไม่พอ'
ชายหนุ่มโหมกระหน่ำโจมตีธรรมดาโดยไม่ใช้ทักษะ ทำให้ร่างโคลนเอาแต่ตั้งรับจนไม่อาจใช้ทักษะได้ นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากทีเดียว
เคร้ง! เคร้ง!
เสียงยารุกต์สองเล่มปะทะกันได้ดังกังวาลอย่างไพเราะไปทั่วเกาะ บรรยากาศสนามรบเปี่ยมไปด้วยภาพติดตาสีแดงของยารุกต์ ที่ถูกวาดฟันไว้มากมายบนอากาศ
'ใช้วิธีไหนดีนะ...'
การใช้ทักษะจะทำให้ตนกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบรึเปล่า ในขณะที่กริดกำลังครุ่นคิด ร่างโคลนก็ทำการเหยียดนิ้วชี้ออกมาด้านหน้า
"ศรเวทย์"
บึ้ม!
"แค่ก!"
ศรเวทย์ (พัฒนา) คือเวทย์มนต์ที่ใช้เวลาร่ายเพียงหนึ่งวินาที และสามารถใช้ออกมาได้ด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว การฟันดาบไปพลางใช้เวทย์ไปพลางจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ฝ่ายที่คิดวิธีนี้ออกก่อนคือร่างโคลน นั่นหมายความว่า มันมีระดับสติปัญญาที่สูงกว่ากริดนั่นเอง
"วิชาดาบแพ็กม่า"
ชายหนุ่มพลันชะงักไปทันทีเมื่อถูกศรเวทย์ระเบิดใส่ ด้วยช่องว่างนี้เอง ร่างโคลนทำการสลับอาวุธไปเป็นดาบใหญ่กริดอีกครั้ง มันเริ่มเต้นจังหวะเท้า <ร่ายรำ> ทันที กริดเองก็หวังจะใช้ <ร่ายรำ> เพื่อตอบโต้ แต่กลับติดปัญหาอยู่หนึ่งเรื่อง... เขาเปลี่ยนอาวุธได้ช้ากว่าร่างโคลนมาก
ทันทีที่ชายหนุ่มถือดาบใหญ่กริดในมือ ร่างโคลนก็เต้นจังหวะเท้า <ร่ายรำ> เสร็จเรียบร้อยแล้ว
'ชิ...!'
กริดกัดฟันกรอด เขาเตรียมใจรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเข้ามาปะทะร่าง ทว่าทุกสิ่งกลับเงียบสงัด เพราะร่างโคลนไม่ได้ปลดปล่อย <ร่ายรำ> ออกมาใส่เขา
แต่เป็นการเต้นจังหวะเท้าต่อเนื่อง
"สังหาร"
<ร่ายรำ> กับ <สังหาร> งั้นหรือ
'ร่ายรำสังหารสินะ!'
โชคดีมาก เพราะหากเป็น <ร่ายรำ> ที่เน้นหนักในความเร็ว คงไม่มีเวลาให้เขาตั้งรับได้ทันท่วงทีแน่ แต่ถ้าเป็น <ร่ายรำสังหาร> ที่ใช้เวลาปลดปล่อยนานล่ะก็...
หมับ!
ชายหนุ่มทำโล่เทวะออกมาถือ
"คลื่น"
"...!"
กลับกลายเป็นว่า ร่างโคลนใช้ทักษะผสาน <คลื่นร่ายรำสังหาร>
ซู่ว!
คลื่นสังหารกำลังรวบรวมควบแน่นรอบดาบใหญ่กริดในมือของร่างโคลน
'เข้าใจแล้ว!'
ชายหนุ่มพลันบรรลุสัจธรรมหนึ่งข้อ ในการจะใช้ทักษะผสาน <คลื่นร่ายรำสังหาร> ได้นั้น ผู้รำดาบจะต้องถอยหลังกลับหนึ่งก้าวในแต่ละรอยต่อ
'ในที่สุด! เราเองก็...'
กริดเฝ้ามองอย่างชัดเจนจนได้คำตอบ แต่นี่ก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่เขาจะดีใจจนกระโดดโลดเต้นได้
ซ่าาา!
คลื่นสังหารแปดเส้นกำลังพุ่งตรงมายังกริด ชายหนุ่มตัดสินใจเรียกแรนดี้ออกมา หลังจากนั้นก็สั่งให้แรนดี้ใช้วังวน
ซู่วว!
คลื่นสังหารแปดเส้นถูกดูดเข้าไปในวังวนและสะท้อนกลับหาร่างโคลน ร่างโคลนเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนก มันทำการเรียกแรนดี้ออกมาและใช้วังวนบ้าง ในระหว่างนี้ กริดฉวยโอกาสเต้นจังหวะเท้า <ร่ายรำ> และ <สังหาร> ไปในตัว
ชายหนุ่มคำนวนเวลาอย่างแม่นยำและไม่ลืมที่จะถอยหลังหนึ่งก้าวในทุกรอยต่อ สุดท้ายเป็นการปิดฉากด้วยจังหวะเท้าของ <คลื่น>
ซู่ววว!
คลื่นสังหารอันทรงพลังได้ถูกรวมรวบไว้รอบตัวกริดบ้าง นี่คือแสนยานุภาพอันดุดันของ <คลื่นร่ายรำสังหาร>
'ดีล่ะ!'
ชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากที่คลื่นสังหารแปดเส้นของร่างโคลนถูกสะท้อนในวังวนสองครั้ง คราวนี้มันพุ่งกลับมาปะทะร่างกายกริดจนเกิดการระเบิดรุนแรงไปทั่วเกาะ
ตู้มมมมมมมมมม!
เกาะทั้งเกาะสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว กริดกำลังจะตายงั้นหรือ... ชายหนุ่มผู้น่าสงสารที่อุตส่าห์บรรลุ <คลื่นร่ายรำสังหาร> ในที่สุด แต่เขากลับไม่ได้ใช้งั้นออกมางั้นหรือ...
เปล่าเลย กริดสบายดี
แถมสบายดีมากด้วย
"คลื่นร่ายรำสังหาร"
"...!"
ด้วยความช่วยเหลือจากทักษะสลับตำแหน่งของแรนดี้ กริดจึงโผล่มาประชิดร่างโคลนพร้อมกับปลดปล่อยทักษะอันสุดแสนทรงพลังออกไป
สนุกสรานมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ สนุกมาก
ReplyDelete