จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 389



       ระยะเวลาของบัฟอมตะคือห้าวินาที  กริดคำนวนไว้ว่า  ตนคงจะถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวแน่นอนในเวลาห้าวินาทีทองนี้  ชายหนุ่มจึงพยายามรักษาระยะห่างจากร่างโคลนไว้ให้มากที่สุดจนกว่าบัฟอมตะจะหมดลง

       'ทันทีที่หมดเวลา  เราจะดับลมหายใจของมัน  และปิดฉากบททดสอบนี้ซะ'

       ในที่สุด  เขาก็จะได้แก้แค้นเสียที

       'เป็นอย่างไงบ้างล่ะ  แกกำลังสิ้นหวังอยู่ใช่ไหม...'

       กริดฉีกยิ้มกว้างประหนึ่งเป็นวายร้ายในการ์ตูน  แต่ทันใดนั้น  ร่างโคลนกลับกระทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด

       มันนั่งลง...

       '...'

       ชายหนุ่มไม่อาจเข้าใจได้เลย  เหตุใดร่างโคลนถึงนั่งลงและหลับตา  มันคิดจะทำอะไรกันแน่       

       'หรือว่า...!'

       กริดพลันเย็นสันหลังวาบ  เป็นเพราะสีหน้าของร่างโคลนกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ   แตกต่างจากสภาพปางตายก่อนหน้านี้เล็กน้อย

       'ทำสมาธิ!'
       
       ใช่แล้ว  หลังจากที่กริดเป็นฝ่ายทิ้งระยะห่างออกมา  ร่างโคลนตัดสินใจใช้การทำสมาธิเพื่อเพิ่มพลังชีวิตและมานา

       'เจ้าบ้านั่น... ใช้ทักษะทำสมาธิได้ตามใจชอบเลยรึไง!'

       ทักษะการทำสมาธิจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเข้าสู่สภาวะจิตใจจดจ่อระดับสูงสุด  ในทางทฤษฏีจึงไม่ใช่ทักษะที่สามารถนึกจะใช้ก็ใช้ออกมาได้  แต่ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้นสำหรับร่างโคลน

       "ชิ!"

       เมื่อเห็นท่าไม่ดี  ชายหนุ่มรีบเปิดโหมด <มายา> เพื่อกระหน่ำโจมตีเข้าไปจากระยะไกล

       ฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บ! ฟุ่บฟุ่บ!

       กริดกวัดแกว่งอาวุธในมือเพื่อสร้างรัศมีดาบจำนวนมากเข้าใส่ร่างโคลนที่กำลังนั่งสมาธิ  แต่กระบวนการทั้งหมดก็กินเวลานานเกินกว่าสามวินาทีไปแล้ว  ถึงจุดนี้  ร่างโคลนสามารถพื้นฟูพลังชีวิตกลับมาได้บางส่วน  แถมมันยังดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตชั้นเลิศเข้าไปอีก  

       ในขณะที่รัศมีคมดาบพุ่งใกล้จะถึงตัว  ร่างโคลนก็เปิดโหมด <มายา> และโจมตีสลายรัศมีดาบของกริดจนหมด

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       "อั่ก!"

       เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มได้ตระหนักว่าฝีมือควบคุมของตนอ่อนหัดขนาดไหน  เพราะรัศมีดาบที่ร่างโคลนส่งกลับมานั้น  ทั้งมีจำนวนมากกว่า  และมีวิถีเฉียบคมกว่าของตนมากทีเดียว

       'เจ้าบ้านั่น...  ฟันไปพลางหลบไปพลางได้ยังไงกัน'

       เป็นขอบเขตฝีมือควบคุมที่กริดไม่อาจไปถึงได้ในเร็ววันแน่นอน  ชายหนุ่มพยายามทำใจให้สงบ  แม้ร่างกายจะกำลังเต็มไปด้วยบาดแผลก็ตาม

       'ใจร่มเข้าไว้...  ร่างโคลนมันเสียประกันชีวิตไปแล้ว'

       แต่กริดยังมีอยู่  เขาได้เปรียบกว่ามาก  ไม่มีเหตุให้ต้องสั่นกลัวเกินความจำเป็น  ชายหนุ่มทำการชักยารุกต์ออกมาและพุ่งเข้าประจัญบาน

       เคร้ง!  เคร้งเคร้ง!

       ยารุกต์คือดาบวิเศษที่สามารถบอกใบ้วิถีการฟาดฟันให้กับผู้เป็นนาย  แต่ในบางครั้งก็อาจผิดพลาดหรือมั่วนิ่มได้เช่นกัน  นั่นเป็นเพราะยารุกต์มิได้มีฝีมือดาบที่สมบูรณ์แบบ  การปะทะกันระหว่างกริดและร่างโคลนดำเนินไปอย่างตึงเครียดและสูสี  

       ทว่า… ความสูสีก็คงอยู่ได้ไม่นาน

       "วิชาดาบแพ็กม่า... ร่ายรำสังหาร"

       ร่างโคลนที่ผ่านการทำสมาธิมาแล้ว  ย่อมมีระยะหน่วงหลังใช้เร็วกว่ากริดอยู่ 10%  ทำให้มันสามารถใช้ทักษะสำคัญออกมาได้ก่อน  กระแสของสนามรบจึงเปลี่ยนทิศในทันที

       ฉึก!

       ฉึก! ฉึก! ฉึก!

       "อ๊ากกก!"

       หัตถ์เทวะพยายามบินเข้ามาช่วยปกป้องกริด  แต่หัตถ์เทวะของปลอมก็บินเข้ามาหยุดไว้เฉกเช่นทุกครั้ง  ชายหนุ่มถูก <ร่ายรำสังหาร> อันแม่นยำของร่างโคลนแทงเข้าอย่างจัง  แหวนโดรันทำเพียงฟื้นฟูดาบแรก  แต่เมื่อกริดถูกร่างโคลนแทงเข้าไปครบทุกดาบ  ประกันชีวิตและบัฟอมตะห้าวินาทีจึงถูกบังคับใช้ออกมา

       "ไอ้บัดซบ!"

       ชายหนุ่มกวัดแกว่งอาวุธในมือโจมตีใส่ร่างโคลนอย่างคลุ้มคลั่ง  เขาหมายมั่นจะดับลมหายใจของมันให้ได้ในห้าวินาทีนี้  แต่ดูเหมือนร่างโคลนจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นได้ง่ายนัก  มันสลับใช้รองเท้าบราฮัมและบินหนี  ซึ่งกริดก็สลับรองเท้าบราฮัมและบินไล่ตาม  แต่ในเมื่อความเร็วของทั้งสองคนเท่ากันทุกประการ  ชายหนุ่มจึงไม่อาจย่นระยะห่างลงได้เลย  

       "เจ้านาย  ให้โนเอะจัดการเอง!  เมี๊ยว!"

       โนเอะใช้สปีดระดับสูงสุดบินเข้าประชิดตัวร่างโคลนพร้อมกับข่วนด้วยเล็บ  แต่ดูเหมือนเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์จะเพิ่มโบนัสพลังป้องกันจนโนเอะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนัก

       และเมื่อระยะเวลาห้าวินาทีของบัฟอมตะหมดลง  ผลการต่อสู้ก็เข้าสู่ช่วงบทสรุป

       เป็นความพ่ายแพ้ของกริด...

[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านเสียชีวิตเนื่องจากพลังชีวิตกลายเป็นศูนย์ ]
[ ท่านสูญเสียค่าประสบการณ์ 30.6% ]
[ เลเวลของท่านลดลงเหลือ 305 ]
[ ท่านสูญเสียแต้มสถานะที่ใช้ไปล่าสุดจำนวนสิบแต้ม ]

[ บททดสอบล้มเหลว! ]
[ ท่านถูกขับออกจากเกาะหมายเลข 41 ]
[ ท่านถูกส่งไปยังจุดเซฟล่าสุด  เกาะหมายเลข 40 ]

       ***

       "บ้าจริง!"

       ชายหนุ่มสบถอย่างฉุนเฉียวทันทีที่ถูกส่งกลับมายังเกาะหมายเลข 40  แต่ต้นเหตุของความหัวเสียในคราวนี้ไม่ได้มาจากเลเวลที่ลดลงแต่อย่างใด

       'ทั้งที่เรามีโนเอะคอยช่วยแล้วแท้ๆ!'

       ร่างโคลนที่ไม่มีโนเอะกลับสามารถเอาชนะตนได้  เรื่องนี้ได้ทำลายศักดิ์ศรีและความมั่นใจของกริดมากทีเดียว

       "เข้มแข็งเข้าไว้เจ้านาย!  เมี๊ยว!"

       โนเอะกล่าวพร้อมกับใช้อุ้งเท้าตบบ่ากริดเบาๆ  เจ้าแมวอ้วนตัวนี้ใช้ชีวิตอยู่กับกริดมานานแล้ว  ค่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงอยู่ในระดับสูงสุด  โนเอะพยายามปลอบใจกริดอย่างเต็มที่

       "เจ้านายทั้งอ่อนแอและไร้ประโยชน์อยู่แล้วไม่ใช่หรือ  แค่การพ่ายแพ้สักครั้งสองครั้ง  ไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า  เมี๊ยว!"

       "..."

       โนเอะใช้บรรทัดฐานของจอมอสูรเป็นตัวตัดสินว่าใครแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ  สิ่งนี้จะไปโทษเขาก็ไม่ได้  เพราะเป็นสัญชาตญาณติดตัวมาตั้งแต่เกิดของสัตว์อสูรแห่งขุมนรกอย่างเม็มฟิสอยู่แล้ว  ในสายตาโนเอะ  กริดคือสิ่งมีชีวิตอยู่เสมอ

       "...นั่นไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด"

       ชายหนุ่มขุ่นเคืองโนเอะเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามสติกส์

       "สติกส์"

       "ว่าไงขอรับ"

       "นายแน่ใจนะ  ว่าเกาะหมายเลข 41 ไม่สามารถจำลองเม็มฟิสออกมาได้"

       จากคำบอกเล่าของสติกส์ก่อนหน้านี้  เม็มฟิสคือสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเป็นรองเพียงมังกรเท่านั้น  ทำให้หมู่เกาะเบเฮ็นไม่สามารถจำลองเม็มฟิสออกมาได้

       แต่มีบางสิ่งไม่ถูกต้องในประโยคดังกล่าว

       "ถ้าจำไม่ผิด  นายเคยบอกกับฉันตอนเดินทางไปยังเมืองแวมไพร์ว่า  หมู่เกาะเบเฮ็นสามารถจำลองสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่อย่างจอมอสูรและมังกรได้  แต่ทำไมถึงจำลองเม็มฟิสไม่ได้ล่ะ"

       "เป็นคำถามที่ดี"

       สติกส์อมยิ้มและอธิบาย

       "มังกรและจอมอสูรที่ถูกจำลองขึ้นมาในหมู่เกาะเบเฮ็นนั้นจะมีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน   คือร่างเนื้อของพวกมันล้วนไม่สมบูรณ์"

       "ร่างเนื้อไม่สมบูรณ์..."

       "ใช่แล้ว  จอมอสูรที่เคยถูกจำลองในหมู่เกาะเบเฮ็นทั้งหมด  ล้วนเป็นจอมอสูรที่ถูกผนึกร่างเนื้อไว้โดยอริยะดาบมุลเลอร์ทั้งสิ้น"

       ส่วนเรย์เดอร์ส  มังกรจอมเขมือบที่สติกส์ได้พบ  นั่นก็ไม่ใช่ร่างจริงของมันเช่นกัน  เดิมทีแล้ว  มังกรจะมีสะโพกที่ใหญ่และหนัก  การจะขยับสะโพกได้ต้องใช้เวทย์มนต์ปริมาณมหาศาล  ดังนั้น  มังกรจอมเขมือบที่สติกส์ได้พบจึงเป็นเพียงร่างปลอมที่เรย์เดอร์สสร้างขึ้นเพื่อลวงตา

       "ทั้งจอมอสูรและมังกรที่ถูกจำลองล้วนอยู่ในร่างที่ไม่สมบูรณ์  ทำให้หมู่เกาะเบเฮ็นสามารถสร้างตัวตนของพวกมันขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง"

       กริดยังคงมีคำถามถัดไป

       "หมายความว่า  จอมอสูรและมังกรที่อ่อนแอลงมีระดับต่ำกว่าเม็มฟิสงั้นสินะ..."

       "ถ้าเป็นเม็มฟิสโตเต็มวัยก็อาจจะใช่"

       "โตเต็มวัย..."

       กริดหันไปมองโนเอะ  เจ้าแมวอ้วนตัวนี้มีเขาอยู่กึ่งกลางหน้าผากและปีกอสูรอยู่กึ่งกลางแผ่นหลัง  แม้จะดูน่ารัก  แต่กริดก็บอกไม่ได้ว่าโนเอะคือเม็มฟิสที่โตเต็มวัยแล้วหรือยัง

       "หากเจ้านี่ตัวโตเต็มวัย  ขนาดของมันจะใหญ่เท่ากับมังกรรึเปล่า"

       สติกส์จ้องมองกริดพร้อมกับอมยิ้ม

       "ไม่เลย  เม็มฟิสจะมีรูปร่างเช่นนี้ไปจนตาย"

       "อา... งั้นก็ดี"

       กริดอยากให้โนเอะน่ารักแบบนี้ไปเรื่อยๆ   แฟนคลับโนเอะทั่วโลกจะได้ไม่ต้องพบกับความผิดหวังในภายหลัง

       'สักวันหนึ่ง  เราจะจัดงานมีตติ้งแฟนโนเอะขึ้นในเกม...'

       ชายหนุ่มมโนภาพแฟนคลับสาวสวยของโนเอะกำลังห้อมล้อมตนไว้  หลังจากนั้น  ตนก็จะมีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อในภายหลัง  ระหว่างที่กริดกำลังจมอยู่กับจินตนาการ  เขาก็ต้องกลับมามองยังโลกความจริงอีกครั้ง

       'ไม่ใช่เวลามัวคิดเรื่องไร้สาระ'

       ร่างโคลนบนเกาะหมายเลข 41 นั้นแข็งแกร่งเกินไป  ด้วยค่าสถานะ  ไอเท็ม  และทักษะที่มีอยู่  กริดสามารถรีดเร้นประสิทธิภาพของตนเองออกมาได้เพียง 50% เท่านั้น  แต่ร่างโคลนกลับสามารถดึงออกมาได้ทั้งหมด 100% เต็ม  เขาจึงมองไม่เห็นหนทางที่จะเอาชนะร่างโคลนได้เลยแม้ว่าจะมีโนเอะคอยช่วยเหลือแล้วก็ตาม

       'มันคงเป็นไปได้อยู่  ถ้าหากเรามีฝีมือควบคุมสูงกว่านี้'

       แน่นอนว่าการพัฒนาย่อมไม่มีที่สิ้นสุด  เมื่อใดก็ตามที่เขาแข็งแกร่งขึ้น  กริดก็จะได้พบกับศัตรูที่เก่งกาจขึ้นกว่าเดิม  จนฝีมือการควบคุมของตนต้องตกเป็นรองอีกครั้ง

       นี่คือวัฏจักรไม่รู้จบ

       'ถ้าหากเรามีพรสวรรค์เฉกเช่นสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นล่ะก็'

       ตนคงไม่ต้องคอยผ่านบททดสอบเดิมซ้ำๆ หลายหน  อัจฉริยะเหล่านั้นคงสามารถแก้ปัญหาของตนเองได้ด้วยความล้มเหลวเพียงครั้งเดียว  

       'แต่เรากลับ...'

       ชายหนุ่มได้รับการฝึกฝนจากปิอาโร่โดยตรง  แถมยังได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากเพื่อนร่วมกิลด์มากอีกมาก  ถึงกระนั้นกลับยังสมองทึบและไร้ฝีมืออยู่เช่นนี้  ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจเหลือเกิน  

       เหตุใด  การไร้พรสวรรค์ถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้       

       "...เดี๋ยวก่อน"

       ทำไมเราถึงได้ยึดติดอยู่กับฝีมือการควบคุมนัก...

       'ตั้งแต่ตอนที่ปิอาโร่สั่งสอนเราในคราวนั้นสินะ'

       คำพูดของปิอาโร่ทำให้กริดบรรลุว่า  ด้วยไอเท็มที่ทรงพลัง  หากมีฝีมือที่สุดยอดคอยควบคุมมันอีกที  กริดก็สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งได้สบาย  หลังจากนั้นเป็นต้นมา  ชายหนุ่มก็ฝึกฝนตนเองในด้านฝีมือควบคุมมาโดยตลอด

       แต่นั่นคือทางเดินที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ

       'เพราะไม่ว่าเราจะพยายามหนักแค่ไหน...'

       กริดก็จะได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับความพยายามเพียงแค่ 20%~30% ของเหล่าอัจฉริยะเท่านั้น  นั่นเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์มากเกินไป  

       ในที่สุดเขาก็ผุดไอเดียขึ้นมาใหม่

       'เราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับฝีมือควบคุม'

       การที่กริดตัดสินใจเช่นนี้  เป็นเพราะเขาถอดใจยอมแพ้ไปแล้วงั้นหรือ  เปล่าเลย  เป็นเพราะตนคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าต่างหาก

       'เราคือช่างตีเหล็กในตำนาน'

       ผู้ที่สามารถสร้างไอเท็มชนิดใดขึ้นมาก็ได้  และใช้มันได้โดยไม่มีเงื่อนไขจำกัด

       'ดีล่ะ...  กลับมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง'

       คำตอบของปัญหาในคราวนี้ก็คือ...  พลังแห่งไอเท็ม  ชายหนุ่มพลันดวงตาเปล่งประกายทันที  เขาทำการหยิบเครื่องมือตีเหล็กทั้งหมดออกมาวาง  รวมไปถึงเตาหลอมชนิดพกพาด้วย

       หัวสมองของกริดกำลังประมวลผลอย่างรอบด้าน

       'ในการจะผ่านบททดสอบหมายเลข 41 ให้ได้นั้น...'

       แค่สร้างไอเท็มที่ดีอย่างเดียวคงไม่พอ  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตนสร้างสุดยอดไอเท็มขึ้นมาใหม่อีกชิ้นงั้นหรือ  คำตอบนั้นง่ายมาก  ร่างโคลนก็จะมีไอเท็มชิ้นนั้นใช้ด้วยเช่นกัน  และกริดก็จะไม่ได้ถือครองความได้เปรียบแต่อย่างใด

       'ไอเท็มที่เราต้องการในตอนนี้...'

       เสี่ยงดวง...  ในการจะผ่านบททดสอบที่ไม่สามารถผ่านได้ด้วยฝีมือ  คงมีแต่ต้องหวังพึ่งให้สวรรค์บันดาลชัยชนะมาให้

       'เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า  ความโชคร้ายของเราจะถูกร่างโคลนคัดลอกไปด้วย'

       ชายหนุ่มยังคงจำทักษะของยูเฟอมิน่าได้ดี  <ทอยลูกเต๋า>  ทักษะที่สามารถพลิกสถานการณ์ตรงหน้าไปโดยสิ้นเชิง  แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปในทางที่ดีหรือร้ายกันแน่  หากเขานำความสามารถนั้นมาใส่ในไอเท็มได้ล่ะก็...

       'รอก่อนเถอะ  ไอ้ร่างโคลนบัดซบ!'

       ผลแพ้ชนะจะต้องขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ   และกริดขอแค่เพียงครั้งเดียวที่ดวงยอมเป็นใจให้กับตน

       ***

       บลัดคาร์นิวัล

       กิลด์ที่ก่อตั้งโดยมีแร้งเกอร์ปกปิดตัวตนเป็นแกนหลัก  ความชั่วร้ายของพวกมันมีมากมายเหลือคณานับ  ทั้งรับจ้างฆ่าคน  แจมบอส  ปล้นสะดมคารวานสินค้า  และอื่นๆ อีกมากมาย  บลัดคาร์นิวัลเคลื่อนไหวเพื่อเงินเท่านั้น  ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมากให้ความสนใจเข้าร่วม  และหลายคนในนั้นก็เป็นผู้เล่นเลเวลสูงแถวหน้าของโลก

       "มีงานจ้างวานใหม่เข้ามา"

       หัวหน้ากิลด์บลัดคาร์นิวัล  ตัวตนอันแสนลึกลับที่เป็นปริศนาในเงามืด  มันกำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่เบื้องหลังผ้าคลุมหน้า

       "งานที่ว่าก็คือ  สังหารครอเกลให้ได้ในงานแข่งซาทิสฟานนานาชาติที่กำลังจะมาถึง  โดยผู้ที่ลงมือสังหารจะต้องติดโลโก้ของผู้จ้างวานไว้บนอุปกรณ์สวมใส่"

       "งานช้างเลยแฮะ"

       "ถ้าทำไปเพื่อหวังการโฆษณาเช่นนี้  เงินค่าจ้างคงต้องสูงมากแน่"

       ครอเกลขึ้นชื่อในตำนานไร้พ่าย  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีใครบางคนสังหารครอเกลลงได้  แน่นอนว่าสื่อทั่วโลกจะต้องหันมาให้ความสนใจกับคนผู้นั้น  และกล้องทุกตัวก็จะจับภาพมา  ไม่มีช่วงเวลาใดที่เหมาะสมกับการโฆษณาไปมากกว่านี้อีกแล้ว

       "ให้ฆ่าในการแข่งประเภทไหน"

       "ประเภทใดก็ได้  หรือทุกประเภทเลยก็ดี  แต่พวกเขาจะจ่ายเพิ่มอีกสามเท่าถ้าหากล้มครอเกลได้ในสนามประลองดวลเดี่ยว"

       "ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลงมือในสนามประลอง"

       "แล้วในบรรดาพวกเรา  มีใครบ้างที่เข้าร่วมการแข่งซาทิสฟายนานาชาติบ้าง"
       
       "ฉัน"

       หนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของบลัดคาร์นิวัลทำการก้าวเท้าออกมาด้านหน้า  สีหน้าของมันกำลังเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจสุดขีด

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. เริ่มมันแล้ว

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  4. ทำไมต้องสร้างกริดมาให้โง่วะ ให้ฉลาดขึ้นกว่านี้ไม่ได้หรอ ให้มันมีฝีมือควบคุมให้ได้ครึ่งนึงของคลอเกลก็ดี

    ReplyDelete
    Replies
    1. เห็นด้วยเลยครับสักครึ่งนึงก็ยังดี

      Delete
    2. เอาจริงๆคือ เป็นกริดเองที่คิดว่าตัวเองโง่มากกว่า แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว แล้วคำอธิบายก็พยามดึงให้คนอ่านหงุดหงิด

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00