จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 397
'เราก็ไม่เสียหายมากเมื่อลองมาคิดดูให้ดี'
ผู้เล่นทั่วไปจะได้รับค่าสถานะสิบแต้มเมื่ออัพเลเวลหนึ่งครั้ง แต่กริดที่มีคลาสรองจะได้รับ 12 แต้ม แม้หกจาก 12 ถูกบังคับนำไปลงค่าสติปัญญา ทว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนัก
'ค่าสติปัญญาช่วยเพิ่มมานาสูงสุด ทำให้เราสามารถใช้ทักษะได้บ่อยครั้งขึ้น แถมยังเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ให้เราด้วย'
เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด กริดต้องการนำค่าสติปัญญาไปส่งเสริมทักษะ <ผสานดวงวิญญาณ> ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด แม้จะไม่ชอบใจที่ต้องยอมให้บราฮัมควบคุมร่าง แต่ทักษะ <ผสานดวงวิญญาน> นั้นยังมีเอฟเฟคเสริมที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยูา
และหนึ่งในเอฟเฟคที่ว่าก็กำลังปรากฏตรงหน้ากริด
-รายการเวทยมนต์ที่สามารถเรียนได้-
[ เวทย์มนต์ตรวจจับ (พัฒนา) เลเวลหนึ่ง ]
เวทย์มนต์ตรวจจับที่พัฒนาโดยมหาจอมเวทย์ในตำนาน ผู้ซึ่งปรับแต่งสูตรเวทย์มนต์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
ทำการแผ่ขยายมานาปริมาณมหาศาลออกไปโดยรอบ สามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่ในระยะสิบเมตร
ยิ่งเลเวลทักษะเพิ่มขึ้น ระยะการตรวจจับก็จะกว้างขึ้น และรายละเอียดของเป้าหมายก็จะชัดเจนขึ้นด้วย
มานาที่ใช้ : 3,000
ระยะเวลาร่าย : 6 วินาที
ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที
* หากใช้ทักษะนี้ครบสามครั้งในโหมดมหาจอมเวทย์ ท่านสามารถเรียนเวทย์มนต์ชนิดนี้ติดตัวได้เป็นการถาวร
นั่นหมายความว่า กริดสามารถเรียนเวทย์มนต์ทรงพลังทั้งหมดของบราฮัมได้ในโหมด <ผสานดวงวิญญาณ> นี้เอง ขอเพียงตนมีสติปัญญามากพอ เวทย์มนต์ของบราฮัมก็จะกลายมาเป็นของตนโดยไม่ต้องเสียเงิน สิ่งนี้สามารถเรียกว่าโกงได้อย่างเต็มปาก หากใครรู้เข้าคงต้องริษยาจนตาร้อนแน่นอน
'ในการจะเรียนเวทย์มนต์ของบราฮัมให้ได้มากกว่านี้ เราจำเป็นต้องเพิ่มค่าสติปัญญาให้มากขึ้น'
หน้าที่หลักของกริดคือช่างตีเหล็ก รองมาคือนักดาบ หากเขาถูกความโลภที่อยากเป็นจอมเวทย์เข้าครอบงำจนนำแต้มสถานะทั้งหมดไปลงกับสติปัญญา ในอนาคตคงเกิดปัญญาใหญ่หลวงตามมาแน่
'การเล่นไม่สุดสักทางคือสิ่งน่ากลัว อย่าวู่วามเด็ดขาด'
แน่นอนว่าการเพิ่มค่าสติปัญญาไม่ได้มีเพียงอัพเลเวลเท่านั้น ยังรวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่เฉกเช่นผ้าคลุมมาลาคัสและต่างหูควอทซ์สีดำ แต่การจะสร้างไอเท็มที่มีแต้มสถานะติดมาด้วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กริดยังไม่พบวิธีดังกล่าว ไม่อย่างนั้น ป่านนี้เขาคงสร้างไอเท็มที่เพิ่มค่าความว่องไวจนอัตราส่วนต่อพละกำลังเป็น 1:1 ไปนานแล้ว
"เรื่องนั้นไว้ค่อยลองทดสอบดูทีหลัง ตอนนี้คงต้องตั้งเป้าเคลียร์หมู่เกาะเบเฮ็นทั้งหมดเสียก่อน"
กริดตัดสินใจค้างค่าสถานะหกแต้มที่เหลือไว้ แม้ว่าภายในใจต้องการจะอัพสติปัญญาแทบแย่แล้วก็ตาม
***
『งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่หนึ่ง มีจำนวนรายการแข่งขันทั้งหมดแปดชนิด』
< ถ่ายทอดสดพิเศษหัวข้อ : งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สอง >
ผู้ดำเนินรายการถ่ายทอดสดซึ่งรู้ว่ามีผู้ชมหลายล้านคนกำลังเฝ้ามองอยู่ ได้ชี้ไปยังมอนิเตอร์ขนาดยักษ์บนเวที ซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า : ล่าบอส ลานประลองดวลเดี่ยว แข่งความเร็วสัตว์เลี้ยง ฝ่าวงกต ทำลายวัตถุ ชิงปราสาท และงานแข่งสายผลิตอื่นๆ
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือรายการแข่งของปีแรก
『 แตกต่างจากครั้งที่หนึ่งซึ่งมีประเทศเข้าร่วมเพียง 17 ประเทศเท่านั้น แต่ในปีนี้ พวกเราจะมีมากถึง 32 ประเทศเข้าร่วม ขนาดของงานและความสนใจจากผู้ชมจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก 』
『 ทางเอส-เอ-กรุ๊ปเล็งเห็นว่า การแข่งเพียงแปดรายการนั้นไม่อาจแสดงพรสวรรค์ที่แท้จริงของนักกีฬาออกมาได้ทั้งหมด แถมด้วยประเทศเข้าร่วมที่น้อยเกินไป จำนวนของผู้ชมจึงถูกจำกัดไว้ในวงแคบ』
『 รายการแข่งได้เพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 13 รายการ โดยรายการส่วนใหญ่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับคลาสสายต่อสู้มากนัก คลาสสายผลิตหรือคลาสทางวิชาการก็สามารถเข้าร่วมแข่งได้เช่นกัน 』
『 แต่รายการไฮไลท์ก็ยังคงเป็นลานประลองดวลเดี่ยวเฉกเช่นในปีแรก 』
『 ทางเอส-เอ-กรุ๊ปมีมติออกมาแล้วว่า ระบบต่อสู้ระหว่างผู้เล่นจะถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างกริดล้มฮูเร็นในห้าวินาที และกริดล้มบองเดรในสี่วินาทีเกิดขึ้นอีก 』
『 ความเสียหายระหว่างผู้เล่นด้วยกันเองจะถูกปรับลดลงจากเดิม 50% แต่ความเสียหายที่กระทำต่อมอนสเตอร์และสภาพแวดล้อมจะยังคงเดิม 』
『 ในอีกความหมายถึง หากผู้เล่นโจมตีใส่มอนสเตอร์ได้รุนแรง 100% เมื่อทำการโจมตีใส่ผู้เล่นจะมีความรุนแรงเพียง 50% เท่านั้น ระบบใหม่นี้จะทำให้กลยุทธของผู้เข้าแข่งกันแต่ละคนมีความสำคัญมากขึ้น การดวลกันระหว่างผู้เล่นจะซับซ้อนขึ้น และผู้ชมก็จะได้มีเวลารับชมความตื่นเต้นนานขึ้น 』
"โฮ่..."
"แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวพวกสายโจมตีทรงพลังอย่างกริดกับคริสแล้วสิ"
"ฝีมือควบคุมจะส่งผลต่อการแพ้ชนะมากขึ้น"
"ผู้เล่นสายแทงค์ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ"
สีหน้าของผู้เข้าแข่งคนอื่นต่างสดใสทันทีเมื่อได้ยินคำประกาศดังกล่าว แต่ในทางกลับกัน ฝั่งมวลชนของเกาหลีใต้นั้นไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
=== สงสัยหนึ่งเหรียญทองของกริดจะบินไปเสียแล้ว
=== ด้วยความสัตย์จริง จุดแข็งเดียวของกริดคือการพลังโจมตีที่ทรงพลัง ระบบใหม่เหมือนกับเป็นการผนึกเขาไว้ แย่มาก;;
=== ระบบนี้สร้างขึ้นเพื่อทำให้กริดอ่อนลง ไม่ยุติธรรมเลย
=== ในอดีตหลายสิบปีก่อน ยุคนั้นเกาหลีใต้เป็นจ้าวแห่งวงการเกมของโลก ช่วงนั้นก็มีระบบที่สร้างขึ้นเพื่อจำกัดฝีมือนักกีฬาเกาหลีใต้ไว้มากมาย ทำเอานึกถึงสมัยก่อนเลยแฮะ
=== แบบนี้เรียกว่า <เนิร์ฟ> สินะ
=== เป็นศัพท์เกมที่เก่ามาก! พ่อของฉันเคยพูดตอนเด็กๆ;;;; นานแค่ไหนแล้วนะ
=== ยังไงก็เถอะ ตอนนี้กริดคงหมดสิทธิคว้าเหรียญทองในลานประลองแล้ว เกาหลีใต้คงไม่มีทางถึงท็อปสิบจ้าวเหรียญทองแน่นอน
=== บ้าบอสิ้นดี… เอส-เอ-กรุ๊ปหักหลังพวกเรา… คิดยังไงถึงทำร้ายประเทศตัวเองแบบนี้...
=== นี่จะต้องเป็นแผนสมคบคิดของรัฐบาลโลกแน่ เพราะมีเพียงเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบ
ชาวต่างชาติล้วนนิยามระบบใหม่นี้ว่าเป็นระบบ <เนิร์ฟกริด>*
( *เนิร์ฟ / Nerf - ปรับให้อ่อนลง )
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศจีนและญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งเกาหลีใต้ เมื่อได้รับข่าวน่ายินดีดังกล่าว พวกเขาก็ตื่นเต้นดีใจประหนึ่งได้แชมป์เรียบร้อยแล้ว
=== ฮะฮะ ประเทศเล็กๆ อย่างเกาหลีใต้ กลับถูกคนทั้งโลกบดขยี้เสียได้
=== ชาวจีนจะแสดงให้เห็นเอง ว่าใครคืออันดับหนึ่งแห่งเอเชีย!
=== อันดับหนึ่งแห่งเอเชีย! ประเทศจีนคือศูนย์กลางของโลก! การที่เฮ่าเข้าร่วมในครั้งนี้ พวกเราต้องชนะแน่นอน!
=== อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย ญี่ปุ่นแข็งแกร่งกว่าจีนเยอะ
=== ประเทศจีนมีดีแค่กลยุทธเท่านั้น เพราะแต่ละประเทศสามารถส่งผู้เข้าแข่งขันได้เพียงเจ็ดคน
=== แต่ของญี่ปุ่นมีทั้งดาเมี่ยน แค็ทซ์ และโยชิมุระ พวกเขาคืออันดับหนึ่งของเอเชีย!
=== แล้วฉันจะคอยดู
ระบบใหม่ที่ปรับลดความเสียหายระหว่างผู้เล่นลง 50% แน่นอนว่าข่าวนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก...
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 56 ]
"แฮ่ก… แฮ่ก… นี่มันไม่มากไปหน่อยรึไง! ระดับความยากที่เพิ่มขึ้นทวีคูณพวกนี้มันอะไรกัน!"
ชายที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งโลก ณ เวลานี้ กริด เขากำลังอุทิศตนให้กับการเคลียร์หมู่เกาะเบเฮ็นอย่างยากลำบาก เหตุใดเขาถึงไม่แยแสกับข่าวที่เกิดขึ้นเลย... หรือกริดไม่สนใจที่คนทั้งโลกกำลังวิจารณ์ตน เปล่าเลย ชายหนุ่มไม่เคยอัพเดทข่าวสารเลยต่างหาก เพราะนอกเหนือจากเวลาเล่นเกม ก็จะเป็นเวลาอาบน้ำ กินข้าว และนอนทั้งหมด
กริดไม่รู้ว่าทั่วโลกกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาใช้เวลาไปกับการดูทีวีหรือเช็คอินเทอร์เน็ตบ้างไหมน่ะหรือ ไม่เลยสักนิด เวลาทุกนาทีมีค่ากับกริด หมู่เกาะเบเฮ็นทวีความยากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาไม่อาจสนใจสิ่งภายนอกได้อีก
ในอีกความหมายหนึ่ง กริดไม่รู้ว่าตนเองถูกเนิร์ฟในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติที่กำลังจะมาถึง แต่ด้วยความที่เขาไม่แสดงความเห็นใดออกมา ทั่วโลกจึงเริ่มเข้าใจในตัวกริดผิดไป
=== กริดเงียบมาก
=== แปลกมาก ทำไมเขาถึงไม่ออกมาด่ากราดเอส-เอ-กรุ๊ปอย่างที่ควรจะเป็น ㄷㄷ
=== หากแร้งเกอร์คนอื่นโดนแบบนี้บ้าง รับรองได้เลยว่าจะต้องมีบทสัมภาษณ์ที่กล่าวหาเอส-เอ-กรุ๊ปออกมาแน่
=== ถ้าเป็นคนทั่วไปคงเรียกร้องสิ่งชดเชยไปแล้ว
=== กริดเท่มาก… เขาเท่เกินไปแล้ว!
=== สมกับเป็นก็อดกริด!
เรื่องราวแย่ๆ ของกริดในสมัยก่อนจะต้องเป็นสิ่งที่ถูกกุขึ้นแน่นอน! พวกแอนตี้แฟนจะต้องแต่งขึ้นเองแน่!
=== สุดยอด… กริดวางตัวได้ดีจริงๆ
ข่าวลือนั้นน่ากลัวเสมอ เมื่อเสียงชื่นชมกริดแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ ทั้งชาวเกาหลีใต้และคนทั้งโลกต่างก็ยกย่องในทัศนคติอันเงียบขรึมของกริด
แม้กระทั่งคนเหยียดชาติพันธุ์หัวรุนแรงก็ยังออกปากกล่าวชมกริด รวมไปถึงกลุ่มก่อการร้ายที่ตะวันออกกลางด้วย นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่ามหัศจรรย์มาก
เหลือเวลาอีก 22 วันก่อนที่งานแข่งจะเริ่ม ภายในเกาหลีใต้ได้จัดรายการทอล์คโชว์ขึ้นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกริด
โดยแขกรับเชิญคือพีคซอร์ด
『 เหตุผลที่กริดไม่แยแสต่อระบบใหม่นี้น่ะหรือ ง่ายมาก สำหรับกริดแล้ว การปรับเปลี่ยนแค่นี้เล็กน้อยมากจนแทบไม่ส่งผลกระทบต่อเขา กริดก็มักเป็นแบบนี้เสมอ สุขุมเยือกเย็นและมาดนิ่ง! เนิร์ฟแล้วไง! ของแบบนี้ไม่มีทางหยุดฉันได้หรอกน่า! ฉันคือก็อดกริดเชียวนะ! พวกนายรู้จักรึเปล่า ก็อดกริด! ตัวแทนจากเกาหลีใต้! ฮูเร่! เกาหลีใต้จงเจริญ!』
"บัดซบ..."
กว่ากริดจะรู้เรื่องนี้ ข่าวคราวก็บานปลายใหญ่โตเกินกว่าจะแก้ไขแล้ว
ภายในใจกริด เขาต้องการจะยกหูโทรหาเอส-เอ-กรุ๊ปเสียประเดี๋ยวนี้ และตะเบ็งเสียงถามอย่างหัวเสียว่า
'พวกแกจะบ้ารึไงฟะ! ปรับระบบใหม่ทั้งหมดเพียงเพราะคนๆ เดียว ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน!'
แต่กริดก็อับอายเกินกว่าจะติดต่อไป
เป็นเพราะพีคซอร์ดได้พูดจาให้เขาดูดีไว้มากมายระหว่างทอล์คโชว์
"บ้าจริง..."
พีคซอร์ด... แม้คนทั้งสองจะรู้จักกันเกินกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่หมอนั่นกลับยังไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของกริดอีกงั้นหรือ พลังแห่งความลำเอียงช่างน่ากลัวยิ่งนัก
***
"คงต้องยอมถอดใจแค่นี้"
"นี่คือขีดจำกัดของฉันแล้ว"
"ทุกคนคงเหมือนกันสินะ"
ชาวโอเวอร์เกียร์ที่มาท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็น เกือบทั้งหมดต้องยอมยกธงขาวในเกาะหมายเลข 31 เกาะแห่งฝันร้ายที่จำลองความตายบ่อยครั้งสุด โดยยิ่งเป็นผู้เล่นอัจฉริยะตั้งแต่กำเนิดมากเท่าไร เกาะแห่งนี้ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้น
"กริดผ่านมันไปได้ยังไง..."
"กริดพัฒนาขึ้นมากแค่ไหนแล้วนะ..."
"แม้จะเป็นพวกเดียวกัน แต่ฉันก็อดหวาดกลัวเขาไม่ได้"
หากดูจากหลักการของเกาะหมายเลข 31 แล้ว เกาะนี้จะผ่านได้ยากมากสำหรับคนที่เป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่ต้น ทว่า… สำหรับกริดแล้วตรงกันข้าม ลอเอลรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร แต่เขาก็ไม่ต้องการเอาน้ำเย็นไปราดในขณะที่ทุกคนกำลังกล่าวสรรเสริญยกย่องกริด
'ยิ่งคนเหล่านี้ชื่นชมในตัวกริดมากเท่าไรก็ยิ่งดี'
ลอเอลคาดการณ์ว่า บนเกาะหมายเลข 31 แห่งนี้ กริดจะต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่ง่ายที่สุดอย่างออร์คแน่นอน
'ในอีกความหมายหนึ่ง เกาะหมายเลข 31 มีไว้สำหรับคนที่เคยห่วยแตกมาก่อน'
หากไม่นับกริด ชาวโอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่จึงจอดป้ายอยู่ตั้งแต่เกาะหมายเลข 31 แห่งนี้
แต่ว่า...
ทำไมทั้งยูร่า จิสึกะ และฮิวรอยถึงสามารถผ่านเกาะหมายเลข 31 ไปได้…
ลอเอลไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
หว่า กำลังสนุกเลย อ่านจบไว้จัง ???? 😆😆🙏🙏ขอบคุณที่แปลครับ🙏🙏
ReplyDeleteเพราะเขาบูชากริดจากใจจริงไงละ555
ReplyDeleteขํา ฮิวรอยอ่ะ 555+
ReplyDeleteยูร่ากับจิสึกะพอเข้าใจได้นะแต่ฮิวรอยเอาสมุดฟาดมอนเตอร์เรอะถามจริง?????
ReplyDeleteเห็นด่ามินอย่างเดียวเลยครับก่อนหน้านี้
Deleteสงสัยด่าจนมอนสเตอร์อกแตกตาย555
Delete