จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 380
"คนของฉันได้พบนายที่จุดเก็บเลเวลโดยบังเอิญ… อาวุธที่นายถือตอนนั้น เหมือนกับหนึ่งในอาวุธที่กริดใช้ทุกประการ"
ซีบาลจะต้องหมายถึงดาบใหญ่กริดแน่ ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียดเช่นนี้ คริสตอบกลับไปด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ
"นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร... อาวุธสองชิ้นมันจะดูคล้ายกันไม่ได้เลยรึไง"
คริสพยายามเดินจากไปตามความตั้งใจเดิม แต่ซีบาลก็คว้าไหล่เอาไว้
"ไม่สมกับเป็นนายเลยนะคริส ถ้ามีคนมากล่าวหาเรื่องไม่จริง นายคนเดิมจะต้องออกอาการโมโหร้ายไปแล้ว แต่นี่นายทำเพียงแค่อมยิ้มแล้วเดินจากไปเนี่ยนะ หรือกำลังจะบอกฉันว่าทั้งหมดคือความจริง"
"ฉันจะตอบเฉพาะคนที่มีมารยาทเท่านั้น"
ผัวะ!
คริสปัดมือซีบาลทิ้งอย่างหนักแน่นและไร้เยื่อใย ด้วยพละกำลังมหาศาลที่คริสมี ซีบาลจึงไม่มีทางฝืนต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
"อย่าได้เที่ยวป้ายสีผู้คนด้วยข่าวลือไร้สาระอีก"
คริสยังคงเย่อหยิ่งจนวินาทีสุดท้ายแม้ว่าจะไม่มีใครในห้องนี้ที่เข้าข้างตนเลยก็ตาม นี่คือความองอาจของผู้เล่นอันดับสามของโลก แต่อีกฝ่ายเองก็เป็นถึงอันดับสอง ถึงจะเคยถูกสังหารด้วยคราดเล็กของชาวนาในครั้งเดียวมาแล้ว ทว่าอิทธิพลที่ซีบาลมีต่อผู้เล่นจำนวนมากก็ยังไม่ใช่สิ่งที่คริสจะมองข้ามได้
ไม่ว่าคริสจะมีค่าความองอาจสูงขนาดไหน แต่ซีบาลก็ไม่สั่นไหวเลยสักนิด
"ถ้านายมั่นใจนักล่ะก็ ทำไมถึงไม่แสดงรายละเอียดของอาวุธให้พวกเราดูเพื่อเป็นการยืนยันล่ะ"
แสยะ...
ซีบาลชี้นำพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย ในสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ถ้าหากอาวุธของคริสออกมามีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกริด ซีบาลก็จะเป็นฝ่ายถูก หรือหากไม่ใช่ มันก็แค่เอ่ยปากขอโทษ
คริสชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจกระทำสิ่งที่ชาญฉลาดลงไป
"ซีบาล ให้มันน้อยๆ หน่อย มีแร้งเกอร์คนไหนกล้าเปิดเผยรายละเอียดไอเท็มตัวเองบ้าง"
ไอเท็มสามารถเป็นได้ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน การเปิดเผยรายละเอียดไอเท็มไม่ต่างกับการเปิดเผยความลับส่วนตัว หัวหน้าของเจ็ดกิลด์ใหญ่ทุกคนต่างรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
พวกเขาจึงพยายามห้ามปราบซีบาล
"ซีบาล นี่มันไม่มากไปหน่อยหรือ อย่าก่อเรื่องเพิ่มดีกว่าน่า เพราะตอนนี้นายมีศัตรูทั้งโอเวอร์เกียร์และบลัดคาร์นิวัลอยู่แล้ว"
"ใช่ ทำไมต้องเสียมารยาทกับคริสขนาดนี้ด้วย"
ดูเหมือนกระแสเริ่มเปลี่ยนทิศ ในขณะที่คริสกำลังโล่งใจอยู่นั้นเอง
"นายใช้อาวุธแบบเดียวกับกริดงั้นหรือ"
หัวหน้ากิลด์โกลเด้น ซิวรอน มันลุกยืนขึ้น ชายคนนี้คือเจ้าของคลาสลับเกรดยูนีคที่เน้นหนักในด้านการต่อสู้อย่างนักล่าวิญญาณ แม้จะเคยพ่ายแพ้ให้กับชาวนาชั่วคราวในเรย์ดันมาแล้ว แต่เป็นเพราะตอนนั้นมันยังไม่ชำนาญในคลาสของตนต่างหาก
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน ซิวรอนมั่นใจว่าตัวมันสามารถเอาชนะชาวนาชั่วคราวคนนั้นได้แน่ รวมไปถึงชาวนาเต็มเวลาที่เสียสตินั่นด้วย
"ฉันจะไม่ปล่อยคนที่อาจกลายเป็นศัตรูไปเฉยๆ"
ซิวรอนพูดพร้อมแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย มันก็ชักดาบหนักป่าเถื่อนออกมาถือไว้ในมือและตั้งท่าสู้ หลังจากที่พ่ายแพ้ชาวนาชั่วคราวในเรย์ดัน มันก็ทุ่มเงินมากกว่าสิบล้านเหรียญทองเพื่อทำการเสริมแกร่งอาวุธให้กลายเป็นระดับ +9 ส่งผลให้การสภาพคล่องทางการเงินของมันได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทว่าซิวรอนก็พึงพอใจกับผลลัพธ์มากทีเดียว เพราะอาวุธ +9 นั้นทรงพลังกว่า +8 หลายเท่านัก
"คริส… หยิบอาวุธออกมาซะ"
เป้าหมายของซิวรอนคือการเป็นที่หนึ่ง ตัวมันจึงมักแสดงท่าทีจองหองอยู่เสมอ และนี่คือโอกาสทองที่จะตัดกำลังคู่แข่งในอนาคต
"ถ้าไม่ยอมชักอาวุธออกมาดีๆ สงสัยว่าคงต้องใช้กำลังทำให้นายยอมชักออกมา"
ซู่วซู่วซู่วซู่ว!
หอกวิญญาณปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่ารอบกายซิวรอนจำนวนสี่เล่ม หอกวิญญาณเหล่านี้จะถูกอัญเชิญออกมาได้ด้วยดวงวิญญาณของมนุษย์หรือมอนสเตอร์ที่ซิวรอนล่ามาได้ ในช่วงที่ผ่านมา ซิวรอนออกล่ามอนสเตอร์อย่างต่อเนื่องจนสะสมวิญญาณไว้เต็มพิกัด ตอนนี้มันจึงอยู่ในสภาพพร้อมรบสุดขีด
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
หอกวิญญาณส่องประกายอย่างเจิดจ้าในยามที่พวกมันพุ่งโจมตี หอกทั้งสี่เล่มทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนยากที่คริสจะหลบพ้น ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะคริสนั้นแทบไม่ได้นำแต้มไปอัพค่าความว่องไวเลย มีเพียงพละกำลังล้วนๆ
ฉึกฉึก!
หอกจำนวนสองเล่มแทงทะลุร่างกายคริสอย่างจัง ซิวรอนฉวยโอกาสนี้เข้าประชิดตัวด้วยดาบหนักป่าเถื่อน ในขณะเดียวกันก็ร่ายทักษะดึงวิญญาณเพื่อหมายตรึงศัตรูไว้ ทำให้คริสต้องเลือกแล้ว ว่าเขาจะนำดาบใหญ่กริดออกมาสู้อย่างจริงจัง หรือว่านำอาวุธสำรองออกมาใช้บล็อคเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไปก่อน
'ไม่มีทางเลือก'
คริสไม่ต้องการให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าตนเข้าเป็นพวกกริด เพราะหากเป็นเช่นนั้น กิลด์ไจแอนท์จะต้องได้รับผลกระทบร้ายแรงตามมาในภายหลังแน่ คริสตัดสินใจชักอาวุธรองออกมา
เคร้ง!
"โฮ่..."
ดวงตาซิวรอนพลันลุกวาว มันชื่นชมคริสที่แม้จะตกอยู่ในสถานะดึงวิญญาณ แต่กลับบล็อคการโจมตีของมันได้ทันทีเมื่อทำการชักอาวุธออกมา
'ดูเหมือนฝีมือควบคุมของคริสจะเก่งกาจกว่าในข่าวลือ'
แม้จะเชื่องช้า แต่ก็ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นแม่นยำ คริสปัดป้องการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุด ฝีมือการใช้ดาบใหญ่ของเขาคืออันดับหนึ่งในซาทิสฟายอย่างไร้ข้อกังขา
"แต่ว่า"
คริสก็ยังไม่ใช่คู่มือของซิวรอน
ชิ้ง~
จู่ๆ ดาบของซิวรอนที่ปะทะอยู่กับดาบของคริสก็ส่องสว่างขึ้น เป็นผลพวงมาจากทักษะโอนถ่ายวิญญานซึ่งซิวรอนใช้ใส่อาวุธของตน ส่งผลให้...
เคร้ง!
"อั่ก...!"
ค่าพละกำลังของคริสต้องไร้ความหมายไปในทันทีเมื่ออาวุธของอีกฝ่ายมีพลังโจมตีสูงกว่ามาก คริสเริ่มถูกดันถอยหลัง เป็นอีกครั้งที่เขาตระหนักได้ว่า เกมซาทิสฟายต้องพึ่งพาพลังของไอเท็มเป็นหลัก
ในตอนนี้เอง มีศรวิญญานของซิวรอนดอกหนึ่งกำลังแอบลอบพุ่งใส่ศีรษะคริสจากทิศทางที่มองไม่เห็น แต่คริสก็สัมผัสถึงมันได้
'การโจมตีคอมโบสินะ...'
ถ้าหากถูกศรดอกนี้เข้าล่ะก็ ตนคงได้ตกอยู่ในอาการชะงักจากการเสียเลือดมากแน่ และคริสก็รู้ดีว่าแร้งเกอร์แนวหน้าของโลกไม่มีวันปล่อยให้อาการชะงักของศัตรูต้องสูญเปล่า ในขณะที่คริสอ้าแขนรอรับความเจ็บปวดแต่โดยดี
เพล้ง!
ศรวิญญานที่กำลังลอบพุ่งใส่คริส ถูกทำลายจนเป็นเพียงเศษแก้วแตกกระจายด้วยโซ่ปริศนา... เป็นเฮ่า เขาตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยในศึกนี้
"ซิวรอน นายอย่าคิดทำอะไรตามใจชอบ"
บนโลกนี้มีผู้คนสติไม่ดีอยู่มากมาย จึงไม่แปลกที่จะมีสักคนหรือสองคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้เฉกเช่นซิวรอนผู้นี้ แต่เส้นแบ่งของความเหมาะสมก็ควรมีบ้าง เฮ่าไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดทั้งซีบาสและซิวรอนถึงพยายามทำให้คริสเป็นศัตรูนัก เพราะถ้าหากคริสกลายเป็นศัตรูจริง ฝั่งที่แย่จะไม่ได้มีแต่คริสฝ่ายเดียวแน่นอน
"เฮ่า… นายไม่สงสัยในตัวคริสบ้างหรือ ดูอาวุธที่เขาหยิบออกมาใช้สิ กระจอกแบบนี้ยังเรียกว่าอาวุธได้อีกรึไง ขยะชัดๆ! หมอนี่กำลังปิดบังความจริงจากพวกเราอยู่!"
"ต่อให้อาวุธของคริสและกริดเหมือนกันจริง แต่นายมีหลักฐานรึไงว่าสองคนนั้นเป็นพวกเดียวกัน"
"..."
เมื่อเฮ่าตั้งคำถามเป็นการเป็นงาน ซิวรอนก็อ้ำอึ้ง ตอบกลับไม่ได้
บูบัตตัดสินใจเดินเข้ามาพูดกับเฮ่า พร้อมกับยื่นแขนออกไปจับมือกับซิวรอนและคริสเบาๆ
"เอาน่า สองคนนี้กำลังเล่นสนุกกันอยู่ ให้พวกเขาได้รู้จักฝีมือของกันและกันก่อนแข่งนานาชาติก็ไม่เสียหายนี่ วินวินทั้งคู่"
ซิวรอนส่ายศีรษะ มันมั่นใจมากว่าตนแข็งแกร่งกว่าคริส ไม่ใช่แค่ตัวมันเท่านั้น แต่ทุกคนในที่นี้ต่างก็คิดแบบเดียวกันว่า คริสตกเป็นรองซิวรอนมาก แม้จะเป็นการต่อสู้เพียงไม่กี่วินาที ทว่าฉากการรุกไล่อยู่ฝ่ายเดียวจากซิวรอนนั้นชัดเจนเกินไป
"...ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน"
คริสเดินจากไปอย่างเงียบงัน
ในสายตาหัวหน้ากิลด์ที่เหลือ ประหนึ่งคริสเป็นสุนัขกำลังหนีหางจุกก้นก็มิปาน
"เจ้านั่นเป็นอันดับสามของโลกจริงหรือ… น่าสมเพชฉิบ"
ซิวรอนแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันให้กับคริสที่เดินจากไป
แต่ไม่มีใครในที่นี้ที่ล่วงรู้เลยว่า… คริสได้ปิดบังฝีมือที่แท้จริงไว้
'แก้แค้นสิบปียังไม่สาย'
โดยเวทีการล้างแค้นที่คริสเล็งไว้ก็คือ อีก 40 วันข้างหน้า วันที่เขาจะได้ระเบิดพลังทรราชย์ออกมาอย่างเต็มพิกัด ดวงตาของคริสเปี่ยมไปด้วยไฟการต่อสู้ลุกโชน
***
ความชำนาญอาวุธทุกชนิด
สุดยอดทักษะติดตัวที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีและความแม่นยำให้กับอาวุธทุกชนิดที่สวมใส่ แต่มันก็ไม่ใช่ทักษะวิเศษสุดโกงแต่อย่างใด เพราะโบนัสที่เพิ่มขึ้นมานั้น น้อยกว่าความชำนาญอาวุธที่เจาะจงประเภทเดียวค่อนข้างมาก
ดังนั้น กริดจึงชื่นชอบทักษะความชำนาญธนูที่เพิ่งได้รับมาเป็นพิเศษ เพราะระบบเกมจะเลือกใช้ทักษะ <ความชำนาญ> ที่มอบโบนัสสูงที่สุดที่ผู้เล่นมีติดตัว ยกตัวอย่างเช่น หากทักษะชำนาญอาวุธทุกชนิดเพิ่มพลังโจมตี 10% และทักษะความชำนาญธนูเพิ่มพลังโจมตี 11% ระบบเกมจะเลือกใช้โบนัสจากทักษะความชำนาญธนูเมื่อกริดสวมใส่อาวุธประเภทคันศร
ในอีกความหมายหนึ่ง แม้หลังจากนี้ชายหนุ่มจะนำแต้มไปแลกซื้อทักษะความชำนาญอาวุธทุกชนิดมา แต่หากเป็นในยามที่ใช้ธนู ระบบก็จะเลือกใช้โบนัสจากทักษะความชำนาญธนูอยู่ดี
'ถ้าหากเราสร้างไอเท็มที่ช่วยเพิ่มเลเวลทักษะความชำนาญธนูได้เร็วๆ ล่ะก็...'
มันจะยอดเยี่ยมขนาดไหนกันนะ แต่กริดก็ไม่คิดหยิบยืมพลังของโรงแปรธาตุอีกแล้ว เพราะโอกาสสำเร็จนั้นต่ำ แถมออปชั่นก็ยังเป็นแบบสุ่ม พึ่งพาไม่ได้เลยสักนิด
"ข่าน"
ในสถานการณ์เช่นนี้ มีแต่ต้องพึ่งพาองค์ความรู้จากข่านเท่านั้น จะดีจะเลวยังไง ข่านก็เป็นถึงช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวลแปด ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นถึงช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ ภูมิปัญญาการตีเหล็กที่สั่งสมมาชั่วชีวิตย่อมพึ่งพาได้
"นายเคยได้ยินไอเท็มที่ช่วยทำให้ความชำนาญอาวุธพัฒนาเร็วขึ้นกว่าปรกติรึเปล่า"
"หืม..."
ตระกูลของข่านประกอบอาชีพช่างตีเหล็กมารุ่นสู่รุ่น แถมยังมีบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมอย่างอัลบาติโน่ซึ่งเคยสร้างแรงบันดาลใจให้กับแพ็กม่ามาแล้ว ข่านพยายามรีดเร้นความรู้หลายสิบปีของตนออกมาจนหมดสิ้น แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างเศร้าใจ
"ฉันขอโทษ… เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"
กริดเป็นที่พึ่งให้ข่านได้เสมอ ดังนั้น ข่านจึงตอนการตอบแทนกริดกลับไปบ้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหน แต่นี่กลับเป็นอีกครั้งที่เขาจนใจ ข่านรู้สึกเสียใจมาก ในขณะที่กำลังนั่งเศร้าหมอง ข่านก็เกิดไอเดียหนึ่งขึ้น
"ลองไปถามปิอาโร่ดูสิ"
"ปิอาโร่หรือ..."
"ใช่แล้ว เขาเก่งในการฝึกให้ทหารชำนาญอาวุธไม่ใช่หรือ บางที อาจได้รับคำแนะนำดีๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการสร้างไอเท็มก็ได้"
นี่คือประโยชน์ของเอ็นพีซีที่มีค่าความสัมพันธ์เต็มเปี่ยมเหนือขีดจำกัด ข่านจะมอบคำแนะนำทุกชนิดที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อกริดอยู่เสมอ ชายหนุ่มที่เห็นทางสว่างได้โผเข้ากอดข่านอย่างแนบแน่น
"ขอบคุณมาก!"
"ฮะฮ่า! ดีใจที่ฉันเป็นประโยชน์นะ"
ภาพการกอดอย่างกลมเกลียวของคนทั้งสอง เหล่าช่างตีเหล็กประจำเรย์ดันต่างชาชินมานานแล้ว ทุกคนทำเพียงมองไปทางอื่นโดยไม่พยายามขัดขวางมิตรภาพอันงดงามของข่านและกริด
ในทางกลับกัน ลอร์ดกลับจ้องมองอย่างฉงน...
"อาบูบู..."
ลอร์ดที่กำลังนั่งทุบค้อนอยู่ในมุมหนึ่งของโรงตีเหล็ก ในตอนแรกที่ได้ยินเสียงบิดาก็ออกอาการดีใจ แต่เมื่อกริดโผเข้ากอดข่าน ทารกตัวน้อยพลันเกิดเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะ เหตุใดบิดาของตนจึงกำลังกอดกลมอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่มารดา ลอร์ดไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ภายในความมืดมิดด้านหลัง เป็นคาซิมที่กระซิบกระซาบบอกใบ้เบาๆ
"นั่นเรียกว่ามิตรภาพระหว่างผู้ชายขอรับ"
"บู...!"
ลอร์ดชื่นชอบคำว่า <มิตรภาพ> ทันทีเมื่อได้ยินเป็นครั้งแรก มันทั้งฟังดูเท่และยิ่งใหญ่ ทารกตัวน้อยลั่นวาจากับตนเองอย่างหนักแน่นภายในใจ ว่าสักวันจะต้องมีมิตรภาพดีๆ เช่นนี้ให้ได้
โดยในอีกหลายปีหลังจากนี้ ลอร์ดจะมีพวกพ้องที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคอยรับใช้เคียงข้างกายเป็นจำนวนมาก
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณที่แปลคับ สนุกมาก
ReplyDeleteลอร์ดแกจะopเกินไปละนะเหมือนพ่อจริงๆ
ReplyDelete