จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 388

       "คลื่นร่ายรำสังหาร!"

       ครืนนนน!

       พลังที่ควบแน่นอยู่ภายในดาบใหญ่ของกริดเกิดระเบิดออกจนส่งเสียงดังกึกก้องประหนึ่งฟ้าร้อง  นี่คือพลังอำนาจของทักษะอันดับหนึ่งในซาทิสฟาย  คลื่นสังหารจำนวนแปดเส้นได้แผ่พุ่งออกไปรอบทิศทางพร้อมกับแฝงคุณสมบัติติดตามของ <คลื่น> ไว้ด้วย

       ความรุนแรงและความดุดันช่างสมกับเป็นทักษะเกรดเลเจนดารีเหลือเกิน

[ ท่านผสานทักษะใหม่สำเร็จ! ]
[ ค่าสติปัญญาของท่านเพิ่มขึ้นสิบแต้ม  เนื่องจากสามารถผสานทักษะใหม่สำเร็จ ]
[ <คลื่นร่ายรำสังหาร> ถูกเพิ่มเข้าไปในรายการทักษะของวิชาดาบแพ็กม่า ]

[ คลื่นร่ายรำสังหาร ]
       ผู้ใช้งานต้องทำการเต้นจังหวะเท้าของวิชาดาบสามชนิดต่อเนื่องกัน
       ทำการสร้างคลื่นของทักษะ <สังหาร> จำนวนแปดเส้น  โดยในแต่ละเส้นจะมีความรุนแรง 1500% ของพลังโจมตี  คลื่นชนิดนี้จะไล่ตามโจมตีทุกเป้าหมายในระยะสองเมตร
       เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะถูกลดความเร็วทุกชนิดลง 50%
* ทักษะนี้ไม่ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <ร่ายรำ> <สังหาร>  และ <คลื่น>
มานาที่ใช้ : 2,000
ระยะหน่วงหลังใช้ : 20 นาที

       นี่คือทักษะชนิดล็อคเป้าหมายที่จะสร้างความรุนแรงรวมสูงสุดได้มากถึง 12,000% ของพลังโจมตีกายภาพ  แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของเป้าหมายในระยะสองเมตรด้วย  ทักษะ <คลื่นร่ายรำสังหาร> สามารถใช้ได้ทั้งการปลิดชีพเป้าหมายเดียวและสังหารหมู่  ด้วยความที่เกิดจากการผสานวิชาดาบสามชนิด  ทำให้มันทั้งทรงพลังและใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่าทักษะผสานสองชนิดมาก  สมกับเป็นทักษะเกรดเลเจนดารีอย่างแท้จริง

       บึ้มมมมม!

       คลื่นสังหารแปดเส้นพุ่งบดขยี้ร่างโคลนจนแหลกเหลว  หากดูเผินๆ คงเป็นชัยชนะของกริดเรียบร้อยแล้ว  แต่อย่าลืมว่าร่างโคลนเป็นใครกัน  มันมีสติปัญญาที่ฉลาดล้ำยิ่งกว่ากริดเสียอีก  วิธีที่กริดคิดได้  มันจะคิดไม่ได้เชียวหรือ 

       "กรี๊ดดด!"

       แรนดี้ของร่างโคลนถูกดับลมหายใจไปด้วยคลื่นสังหารแปดเส้น

       ชายหนุ่มพลันกวาดสายตาไปรอบเกาะ

       'หลบอยู่ไหนนะ'

       ทักษะสลับตำแหน่งของแรนดี้จะให้ผลเดียวกับทักษะเคลื่อนย้ายมิติ  ขึ้นอยู่กับว่า  แรนดี้จะยืนอยู่ในจุดใดก่อนสลับตัว  ทักษะนี้สามารถใช้ลอบเข้าโจมตีจุดอับของศัตรูได้ไม่ยาก  ชายหนุ่มรีบกวาดสายตามองไปรอบเกาะอย่างกระวนกระวายใจด้วยผ้าปิดตาเพชฆาต

       ซู่ววว!

       จู่ๆ ออร่าจิตสังหารอันรุนแรงก็แผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ  ชายหนุ่มรีบหันไปยังต้นทางทันที  แล้วก็ต้องพบว่า  ร่างโคลนพุ่งตัวเข้ามาโดยหวังจะใช้ <สังหาร> ใส่ตนจากจุดอับสายตา  ซึ่งกริดคาดว่าตนคงหลบไม่พ้นแน่  และไม่น่าจะใช้ทักษะใดสลายได้ทันในเวลาสั้นๆ เช่นนี้  

       "เคลื่อนที่อิสระ"

       นี่คือทักษะที่ติดมากับสมญานาม <วีรบุรุษลับ>   ขอบเขตการเคลื่อนที่มีจำกัด  แถมระยะหน่วงก็ยังนานถึงหนึ่งชั่วโมง  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลลัพธ์ของมันยอดเยี่ยมมาก  สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นอันดับหนึ่งในทักษะชนิดพุ่งตัวของซาทิสฟาย  ใช้ในการหลบหลีกจากทักษะที่ไม่ล็อคเป้าหมายได้ทุกชนิด  

       ฟุ่บ!

       กริดทั้งหลบ <สังหาร> และเข้าประชิดตัวร่างโคลนได้ในเวลาเดียวกัน  ชายหนุ่มซัด <ทำลายล้าง> เข้าใส่หน้าอกศัตรูอย่างโหดเหี้ยม

       ฉัวะ!

       เกิดเป็นบาดแผลลึก  โลหิตไหลรินจากหน้าอกของร่างโคลน  แต่มันก็หาได้แสดงสีหน้าเจ็บปวดหรือสั่นกลัวออกมา  ทักษะ <ทำลายล้าง> นั้นแม้จะมีข้อได้เปรียบที่เป็นทักษะชนิดล็อคเป้าหมาย  ทว่าความรุนแรงก็ยังด้อยกว่า <สังหาร> อยู่มาก  ไม่มีทางที่ร่างโคลนซึ่งสวมใส่อุปกรณ์แบบเดียวกับกริดจะบาดเจ็บถึงตาย

       เคร้ง!

       ชายหนุ่มตั้งดาบรับการโจมตีสวนกลับจากร่างโคลน  เมื่อทั้งสองคนมีค่าสถานะเท่ากันทุกประการ  ทำให้การดวลพละกำลัง  ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ได้เปรียบ  ดาบสองเล่มผลักดันกันไปมาอยู่กลางอากาศ  ณ เวลานี้  คงเป็นการปะทะกันทางจิตใจเสียมากกว่า

       กึกกึกกึก! หงึกหงึก!

       ท่ามกลางดาบใหญ่กริดสองเล่มที่กำลังดวลพลังอย่างเท่าเทียม  ชายหนุ่มได้เปิดปากขึ้นเพื่อกล่าวยั่วยุร่างโคลน

       "ทำไมนายถึงไม่ใช้ <ทำลายล้างสังหาร> ออกมาล่ะ  ถ้าไม่ใช้เจ้านั่น  นายก็เอาชนะฉันไม่ง่ายหรอกนะ  คิดว่างั้นไหม"

       "..."

       ร่างโคลนไม่ได้กล่าวสิ่งใด  แม้จะมีต้นแบบจากกริด  แต่ก็ร่างโคลนไม่มีระบบไว้สำรับสื่อสารกับผู้เล่น  มันเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้จิตวิญญาน  มีเป้าหมายเดียวคือฆ่ากริดให้จงได้  

       ประหนึ่งหุ่นยนต์ที่ปราศจากความคิดและอารมณ์โดยสิ้นเชิง

       "ศรเวทย์"

       "ศรเวทย์"

       แทบจะพร้อมเพรียงกัน  กริดและร่างโคลนทำการยิงศรเวทย์อีกฝ่ายในขณะที่ดาบใหญ่ของทังคู่ยังคงดันพลังกันอยู่  แรงระเบิดของศรเวทย์ส่งผลให้คนทั้งสองกระเด็นถอยหลัง

       'คราวนี้...  พวกเราลงมือพร้อมกันแล้วสินะ'

       กริดพึงพอใจมาก  ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีความคิดตามทันร่างโคลนเลยสักครั้ง  ถูกลงมืออยู่ฝ่ายเดียวด้วยการโจมตีที่คาดไม่ถึงอยู่ตลอด

       ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

       หัตถ์เทวะสีทองจำนวนสี่ข้างปรากฏขึ้นด้านหลังร่างโคลน  พวกมันสามารถเลียนแบบหัตถ์เทวะของจริงได้สมบูรณ์แบบมาก  โดยทุกข้างกำลังถือสุดยอดอาวุธอย่างพร้อมสรรพ  ทั้งมีดสั้นอุดมคติ  ความผิดพลาด  ดาบใหญ่เลียนแบบ  และยารุกต์  ทางกริดเองก็ไม่รอช้า  ทำการเรียกหัตถ์เทวะออกมาบ้าง

       ฟุ่บ!

       ฉากการปะทะของทั้งคู่ช่างยิ่งใหญ่อลังการ  หัตถ์เทวะฝ่ายกริดก็ถืออาวุธแบบเดียวกับร่างโคลน  ผู้เล่นทั่วไปคงคาดไม่ถึงแน่  ว่าคนๆ นึงจะสามารถใช้อาวุธพร้อมกันได้มากถึงห้าชิ้น  

       'ในสถานการณ์แบบนี้  เราจะใช้หัตถ์เทวะถือครองความได้เปรียบด้วยวิธีไหนดี...'

       เหตุผลที่กริดไม่เรียกหัตถ์เทวะออกมาตั้งแต่แรกนั้น  เพราะเขารู้ดีกว่ามันเปล่าประโยชน์  อีกฝ่ายก็มีหัตถ์เทวะที่เหมือนกันทุกประการ  ไม่ว่ากริดจะสั่งให้หัตถ์เทวะทำสิ่งใด  ร่างโคลนก็จะสั่งให้หัตถ์เทวะของมันไปหยุดไว้  กลับมาสู่จุดเริ่มต้นของการดวลหนึ่งต่อหนึ่งอีกครั้งอยู่ดี

       เคร้ง!

       หรือร่างโคลนกำลังจะพิสูจน์ว่ากริดนั้นคิดผิด  มันเป็นฝ่ายเริ่มลงมือใช้หัตถ์เทวะกระทำบางสิ่งก่อน

       ซู่วววว!

       'หมุนวนเป็นกงล้อ...'

       หัตถ์เทวะของร่างโคลนลอยมารวมตัวกันและหมุนรอบตัวเองเป็นกงล้อ  ด้วยคมดาบของอาวุธที่พวกมันถือ  จึงกลายเป็นกงจักรสีทองอันแหลมคมที่หมุนโจมตีได้ไม่มีวันหยุด  หัตถ์เทวะของกริดเข้าปะทะจนต้องชะงักไปข้างแล้วข้างเล่า

       ชายหนุมตกเป็นรองอย่างฉับพลัน

       'ทำแบบนี้ก็ได้ด้วยแฮะ...'

       คำสั่งที่กริดเคยมอบให้หัตถ์เทวะนั้นไม่สิ่งใดซับซ้อน  เป็นคำสั่งพื้นฐานอย่างเช่นโจมตี  ป้องกัน  หรือให้รออยู่เฉยๆ   หากจะลงลึกในรายละเอียดบ้าง  ก็จะเป็นการออกคำสั่งให้หัตถ์เทวะออกไปจับแขนขาของศัตรูไว้  แต่เขาก็ใช้งานมันไม่บ่อยนัก  เพราะต้องคอยแบ่งสมาธิไปควบคุมหัตถ์เทวะในระหว่างต่อสู้ไปด้วย  ซึ่งไม่ใช่งานที่กริดถนัดสักเท่าไร  

       อันที่จริง  ไม่ใช่เฉพาะกับกริดเท่านั้น  ต่อให้เป็นผู้เล่นทั่วไป  การต่อสู้ไปพลาง  แล้วต้องแบ่งสมาธิออกไปควบคุมวัตถุอื่นในเวลาเดียวกัน  ไม่ว่าใครก็ต้องมองเป็นเรื่องยากทั้งนั้น

       ในทางกลับกัน  ร่างโคลนนั่นไม่ใช่ผู้เล่นทั่วไป  แม้จะมีค่าสถานะและไอเท็มที่เหมือนกับกริดทุกประการ  แต่สมาธิและสติปัญญาล้วนไม่เหมือน  ตัวตนของมันมีไว้เพื่อฆ่ากริดเท่านั้น  เป็นสมองกลที่มีระดับสมาธิสูงลิบ

       เคร้ง!

       หัตถ์เทวะของร่างโคลนหมุนเป็นกงจักรเข้ามาใกล้กริดทีละนิด  แม้หัตถ์เทวะกริดจะเข้าไปขวางไว้  แต่พวกมันก็ถูกโจมตีจนชะงักไปทีละอันสองอัน  ในที่สุดกงจักรสีทองก็หมุนเข้าประชิดตัวชายหนุ่ม  

       ทว่า... ของแบบนี้ย่อมไม่คณนามือกริดแน่นอน

       หัตถ์เทวะที่หมุนเป็นกงจักรงั้นหรือ...  ก็แค่ของวิเศษที่มีความชำนาญดาบขั้นกลางเลเวลสองเท่านั้น  ไม่มีทางเป็นอันตรายต่อกริดได้  แต่ปัญหาก็คือ  ชายหนุ่มต้องเสียเวลาหันไปรับมือกับมัน  ทำให้ร่างโคลนฉวยโอกาสในช่องว่างนี้ซัด <ร่ายรำ> เข้าใส่กริดทันที

       ฟุ่บ!

       ฟุ่บ!ฟุ่บ!ฟุ่บ!

       "อ--อั่ก...!"

       รัศมีดาบหลายสิบเส้นได้เชือดเฉือนร่างกริดจนเกิดบาดแผลเต็มตัว  เลือดไหลซิบไปทั่วร่าง  หากว่าไม่มีหัตถ์เทวะเข้ามาช่วยปกป้องล่ะก็  ป่านนี้คงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้วแน่นอน  ชายหนุ่มทำการยิงศรเวทย์ออกไปเพื่อเปิดทางหนีให้ตัวเอง  หลังจากนั้นก็รีบหยิบโพชั่นพลังชีวิตออกมาเตรียมซด  แต่ดูเหมือนหัตถ์เทวะของร่างโคลนจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นได้  พวกมันยกเลิกสถานะกงจักรและพุ่งเข้าฟาดฟันกริด

       เคร้ง! เคร้ง!

       กริดต้องเสียเวลาไปกับการปัดป้องหัตถ์เทวะ

       'แข็งแกร่ง'

       การตัดสินใจพื้นฐานและสติปัญญาของร่างโคลนสูงกว่ากริดมากทีเดียว  แม้ว่าจะมีค่าสถานะ  ไอเท็ม  และทักษะที่เหมือนกันทุกประการก็ตาม

       แสยะ!

       ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข  อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ว่า  ตนเองยังมีศักยภาพให้พัฒนาไปได้อีกมาก

       'หลังจากนี้คงต้องฝึกควบคุมหัตถ์เทวะให้เกิดประโยชน์กว่านี้'

       หลังจากบรรลุทักษะผสานชนิดใหม่  กริดก็ยังได้เห็นประโยชน์ของหัตถ์เทวะเป็นของแถม  ชายหนุ่มแสยะยิ้มพร้อมกับออกคำสั่งให้หัตถ์เทวะของตนไปหยุดหัตถ์เทวะศัตรู  

       ในขณะเดียวกันนั้นเอง  ร่างโคลนก็กำลังเตรียมโจมตีใส่กริดด้วย <ทำลายล้างสังหาร>   เป็นทักษะที่เขารอคอยให้อีกฝ่ายใช้ออกมาตั้งแต่ต้น

       'คราวนี้ต้องสังเกตให้ดี'

       สมาธิของชายหนุ่มกำลังจดจ่อถึงขีดสุด

       กึกกึกกึก!

       หัตถ์เทวะของกริดเริ่มพ่ายแพ้ต่อหัตถ์เทวะของปลอม  เป็นเพราะกริดไม่เหลือสมาธิแบ่งไปควบคุมพวกมันอีกแล้ว  

       "ทำลายล้าง"

       ร่างโคลนเริ่มรำดาบ

       "ทำลายล้าง"

       กริดเองก็ไม่รีรอ  เขารำดาบเลียนแบบร่างโคลนทันที

       "สังหาร"

       ดาบในมือร่างโคลนที่ทำการฟันโค้ง  จู่ๆ ก็แปรเปลี่ยนไปเป็นท่าแทงตรงกลางคัน  กริดเห็นดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนตาม

       "สังหาร"

[ ท่านผสานทักษะใหม่สำเร็จ ]
[ ค่าสติปัญญาของท่านเพิ่มขึ้นสิบแต้ม  เนื่องด้วยท่านสามารถผสานทักษะใหม่สำเร็จ ]
[ <ทำลายล้างสังหาร> ถูกเพิ่มลงในรายชื่อทักษะของวิชาดาบแพ็กม่า ]

[ ทำลายล้างสังหาร ]
       ทำการเต้นจังหวะเท้าของวิชาดาบสองชนิดต่อเนื่องกัน
       สร้างความเสียหาย 2,000% ของพลังโจมตีกายภาพใส่หนึ่งเป้าหมายโดยไม่สนใจพลังป้องกัน
       วิถีการโจมตีถูกเปลี่ยนกลางคัน  ทำให้เป็นการยากที่จะหลบพ้น
* ทักษะนี้ไม่ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <ทำลายล้าง> และ <สังหาร>
มานาที่ใช้ : 2,000
พลังชีวิตที่ใช้ : 4,500
ระยะหน่วงหลังใช้ : 5 นาที
       
       ฉึก!

       ฉึก!

       "อั่ก...!"

       เลือดพุ่งกระฉูดออกทางจมูกปากของทั้งกริดและร่างโคลนพร้อมกัน  พลังชีวิตทั้งคู่ลดลงครึ่งหนึ่งในพริบตา  หลังจากบาดเจ็บ  กริดและร่างโคลนต่างรีบขยับตัวทันทีโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายชิงลงมือก่อน  ทางร่างโคลนใช้ <ร่ายรำสังหาร>  ส่วนกริดเรียกโนเอะออกมาเพื่อคอยปั่นป่วนศัตรู

       "สัตว์อสูรอันดับหนึ่งของขุมนรกปรากฏตัวแล้ว!  เนี๊ยวฮ่าฮ่าฮ่าฮะ--!"

       โนเอะหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากไม่ได้ออกมาเสียนาน  แต่เสียงหัวเราะก็ดังอยู่ได้ชั่วครู่เท่านั้น  เพราะพลังงานอันรุนแรงของ <ร่ายรำสังหาร> จากร่างโคลนได้กระแทกเข้าใส่ร่างโนเอะอย่างจังหนึ่งครั้ง

       ฉึก!

       "แอ๊ก!"       

       เส้นขนบนตัวโนเอะพลันตั้งชันและพองขึ้น  เจ้าแมวอ้วนต้องตกที่นั่งลำบากทันทีหลังจากได้สูดอากาศบริสุทธิ์เพียงไม่นาน  แต่โอเนอะเป็นใครกัน  สัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกผู้นี้มีวิชาลับที่ช่วยให้ร่างกายรอดพ้นจากการโจมตีทางกายภาพทั้งมวลอยู่...  

       <กลายเป็นของเหลว>

       ฉึก!

       ฉึก! ฉึก!

       โนเอะหลบการแทงครั้งที่สองจาก <ร่ายรำสังหาร> ได้อย่างฉิวเฉียด  หลังจากนั้นเจ้าแมวอ้วนก็อ้าปากกว้างเพื่อเตรียมใช้ทักษะสุดโกงซึ่งเป็นฝันร้ายของศัตรู  

       <กลืนวิญญาณ>  ทักษะที่จะขโมยครึ่งหนึ่งของค่าสถานะสูงสุดเป้าหมายมาเป็นของตนและเจ้านาย  

       โนเอะเขมือบร่างโคลนเข้าไปอย่างเต็มปากเต็มคำ

[ ทักษะ <กลืนวิญญาณ> จะช่วยเพิ่มค่าพละกำลังให้ท่านจำนวน 1,408 แต้ม ]

       เลือดในกายชายหนุ่มพลันสูบฉีดอย่างเร่าร้อนทันที  แต่ในขณะที่กริดจะใช้ <ร่ายรำสังหาร> โจมตีกลับไปบ้าง  ฝ่าเท้ากลับหยุดกึกไปครู่หนึ่ง

       'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากร่างโคลนเรียกโนเอะออกมาบ้าง'

       ค่าพละกำลังของกริดในตอนนี้อยู่ที่ 4,224 แต้ม  ถ้าเกิดว่าโนเอะของร่างโคลนขโมยค่าพละกำลังกลับไป  แปลว่าอีกฝ่ายที่เก่งอยู่แล้ว  จะเก่งกาจขึ้นจนเขาอาจต้องพ่ายแพ้ในพริบตา  กริดเกิดการชะงักไปพักใหญ่เพราะคำนึงถึงผลร้ายที่อาจตามมา

       "เจ้านายซื้อบื้อรึไงเมี๊ยว!  โจมตีมันเร็วเข้า!  เมี๊ยว!"

       โนเอะตัดสินใจพุ่งตัวเข้าไปโจมตีใส่ร่างโคลนแทนเจ้านายสมองทึบ  แต่แม้จะอยู่ในสภาวะกลายเป็นของเหลว  โนเอะก็ยังไม่อาจปลิดชีพร่างโคลนได้ตามลำพัง  กริดเห็นดังนั้นจึงกัดฟันพุ่งตัวเข้าไปช่วย

       "ร่ายรำสังหาร"

       ฉึก!

       ฉึก! ฉึก! ฉึก!

       "..."

       ชายหนุ่มไม่เข้าใจเลยสักนิด  เหตุใดร่างโคลนถึงไม่ยอมปัดป้อง  ตรงกันข้าม  มันกลับปล่อยให้เขาแทงเข้าไปอย่างเต็มแรงจนประกันชีวิตทำงาน

       'ทำไมกัน...'       

       แต่สิ่งที่คาใจที่สุด  ทำไมมันถึงไม่ยอมเรียกโนเอะออกมา...  

       ราวกับสติกส์อ่านใจกริดออก  จอมปราชญ์ผู้นี้ส่งเสียงกระซิบเพื่ออธิบายสถานการณ์กับกริด

       "หากไม่นับนิสัยส่วนตัว  เม็มฟิสคือสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดโดยเป็นรองเพียงมังกรเท่านั้น  หมู่เกาะเบเฮ็นจึงไม่อาจจำลองเม็มฟิสออกมาได้"

       "...งั้นหรอกหรือ"

       หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่ต้น  กริดคงเรียกโนเอะออกมาสู้โดยไม่รีรอ  แต่หากเขาทำเช่นนั้นจริง  ชายหนุ่มจะไม่มีทางได้เรียนรู้ทักษะ <คลื่นร่ายรำสังหาร> และ <ทำลายล้างสังหาร> ได้เลย

       กริดแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัยพร้อมกับพุ่งตัวถอยหลัง  เพื่อรักษาระยะห่างจากร่างโคลนที่กำลังอยู่ในสภาวะอมตะห้าวินาที

• Next
• Previous