จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 381
ปิอาโร่เคยมีชีวิตที่ต้องจมอยู่กับความมืดมนมาแล้วหนหนึ่ง
เขาถูกป้ายสีให้มีความผิดในฐานะผู้ทรยศจักรวรรดิจนต้องสูญสิ้นทุกสิ่ง เหตุผลที่ปิอาโร่กลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งนั้นเป็นเพราะกริด ชายหนุ่มช่วยเหลือเยียวยาในช่วงที่จิตใจปิอาโร่เปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น และยังช่วยเป็นกาวใจแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างปิอาโร่และอัสโมเฟล
สำหรับปิอาโร่แล้ว กริดคือตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่ต้องรับใช้อย่างจงรักภักดีไปตลอดทั้งชีวิตเหลืออยู่ แต่เหตุใดปิอาโร่ถึงทำบางสิ่งที่ไม่สมควรลงไปล่ะ เฉกเช่นการสอนสั่งและมอบความแข็งแกร่งให้กับคริสและฮูเร็นที่อาจกลายเป็นศัตรูของกริดในวันข้างหน้า ผู้คนมีสิทธิ์สาปแช่งในการกระทำเหล่านี้ของปิอาโร่อย่างเต็มที่
แต่ปิอาโร่นั้นมั่นใจมาก เขาเคยลิ้มรสความขื่นขมของการถูกหักหลังมาแล้ว ดังนั้น ปิอาโร่จึงเรียนรู้จากความผิดพลาดใจอดีต จนสามารถมีสายตาที่มองผู้คนได้อย่างทะลุปรุโปร่งเฉกเช่นทุกวันนี้
'ยิ่งเราเฝ้ามอง การกระทำของชายคนนี้ก็ยิ่งเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ'
ณ ฟาร์มกว้างแห่งใหม่ใกล้กับภูเขาอัลเทส
ปิอาโร่ยืนมองฮูเร็นด้วยสีหน้าพึงพอใจ เขามั่นใจแล้วว่าฮูเร็นมีธรรมชาติของมนุษย์ที่ดีจิตใจดีงามคนหนึ่ง แม้ก่อนหน้าจะเคยเปี่ยมไปด้วยไฟแค้นสุมอก แต่บัดนี้ สิ่งที่ฮูเร็นทุ่มเทลงไปในฟาร์มคือความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความชื่นชอบ
หากปิอาโร่ให้คำแนะนำอีกสักหน่อย ฮูเร็นจะพัฒนากลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ และสามารถเป็นมือขวาที่ดีให้กริดในอนาคตได้แน่
'แม้แต่เรา ก็ยังไม่รู้ว่าออร่าของเขาจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน'
ออร่าของฮูเร็นแตกต่างจากที่ปิอาโร่เคยพบมาทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะพลังทำลายที่รุนแรง แต่ยังมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ประโยชน์ของฮูเร็นมีมากจนจินตนาการไม่หมด ชายคนนี้สามารถพัฒนาไปเป็นอะไรก็ได้ในอนาคต หากได้การสอนสั่งที่ดีจากปิอาโร่ ฮูเร็นจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารในสงครามได้อย่างไม่ยากเย็น
ใช่แล้ว รวมไปถึงเครื่องจักรในการทำฟาร์มด้วย
'เราต้องค่อยๆ หมั่นป้อนแคร็อตกับเขา'
ทุกสิ่งก็เพื่อนายท่าน ปิอาโร่สามารถพูดคำนี้ออกมาได้อย่างเต็มปาก
***
การเดินทางระหว่างเรย์ดันกับภูเขาอัลเทสต้องใช้เวลามากถึงหนึ่งวันเต็ม
แต่กริดกลับทำได้ภายในไม่ถึงครึ่งวัน เป็นเพราะการใช้งานจากทักษะบัฟชนิดต่างๆ เช่นเวทย์บินจากร้องเท้าบราฮัม และพลิ้วไหวจากมีดสั้นอุดมคติ
"ทะเลทรายสุดลูกหูลูกตากลายเป็นป่าไปได้ยังไง..."
แตกต่างจากฟาร์มที่อยู่รายรอบเรย์ดัน ฟาร์มในบริเวณภูเขาอัลเทสนั้นกลายเป็นสวนผลไม้นานาชนิด แม้จะยังเป็นต้นอ่อนที่ยังไม่ออกผล ทว่าในอนาคต สถานที่แห่งนี้ต้องกลายเป็นป่าเขียวชอุ่มแน่นอน
กริดถึงกับผงะในพลังของปิอาโร่
"ต่อให้เป็นชาวนาในตำนานก็เถอะ แต่การเปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นป่ามันก็..."
จากคำบอกเล่าของเทศมนตรีแร็บบิท ปิอาโร่มีชาวนาในสังกัดเพียงไม่ถึง 500 คน แต่ดูเหมือนเขาจะยอดเยี่ยมขนาดที่สามารถหาแรงงานมาเพิ่มได้ด้วยตนเอง การเกษตรจึงพัฒนาได้ก้าวไกลด้วยงบประมาณที่จำกัดจำเขี่ย
"หือ..."
ในขณะที่กำลังนึกกล่าวชมในใจ สีหน้ากริดพลันบิดเบี้ยวทันทีเมื่อได้เห็นเด็กสาวกว่า 200 คนกำลังทำฟาร์มหลังขดหลังแข็งภายใต้แสงอาทิตย์อันเจิดจ้า
"แม้แต่เด็กผู้หญิงก็ไม่เว้นงั้นหรือ..."
เด็กผู้หญิงเหล่านี้แม้จะมีใบหน้างดงาม แต่ดูเหมือนผิวจะกลายเป็นสีแทนไปเกือบหมดแล้ว แถมฝ่ามือยังด้านหนา ซึ่งแปลว่าพวกเธอไม่ได้เพิ่งจะทำฟาร์มแค่วันหรือสองวัน
กริดพลันผิดหวังในตัวปิอาโร่ทันที
"ถึงจะคลั่งไคล้การทำฟาร์มขนาดไหนก็เถอะ แต่การใช้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ มาเป็นแรงงานมันก็..."
เดิมที กริดเป็นคนเห็นแก่ตัวชนิดที่ไม่เคยแยแสความโชคร้ายของผู้อื่น แต่เขาก็เปลี่ยนไปเมื่อได้เป็นบิดาของลอร์ด ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดใจที่เห็นเด็กตัวเล็กถูกใช้แรงงานอย่างทุกข์ทรมาน
"ต้องพูดกับปิอาโร่ให้รู้เรื่อง"
ในขณะที่กริดย่างกรายเข้าไปในฟาร์ม
ชิ้ง~!
เด็กสาวทั้ง 200 คนที่กำลังก้มหน้าทำฟาร์ม ในวินาทีเมื่อกริดเหยียบย่ำเท้าลงไปบนฟาร์มของพวกเธอ สายตาทุกคนพลันแปรเปลี่ยน จากอุปกรณ์ทำฟาร์มในมือกลายเป็นศาสตราวุธนานาชนิด ทั้งดาบ หอก และโล่
ชายหนุ่มเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าทันที
'เด็กพวกนี้คือ <เด็กสาวผู้ถูกเลือก> ของโบสถ์รีเบคก้าเองสินะ...'
ลอเอลเคยส่งรายการมาแล้วก่อนหน้านี้ เด็กสาวผู้ถูกเลือกจำนวน 200 คนกำลังถูกปิอาโร่เคี่ยวกรำอย่างเข้มข้น นั่นย่อมหมายความว่า พวกเธอทั้งหมดตรงนี้ไม่ใช่แรงงานทาส แต่เป็นลูกศิษย์ของปิอาโร่นั่นเอง การทำฟาร์มก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกเพิ่มค่าสถานะ
'ฟู่ว... ดีใจจังที่ไม่ใช่เหล่าเด็กสาวผู้โชคร้าย'
ในขณะที่กริดกำลังโล่งใจอยู่นั่นเอง...
"ที่นี่คือเรย์ดัน! ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของดยุคกริดผู้ยิ่งใหญ่!"
"เทพธิดารีเบคก้าจะไม่ให้อภัยกับใครก็ตามที่กล้ารุกรานเรย์ดัน!"
"พวกเราในนามแห่งอาจารย์ปิอาโร่ จะขอขับไล่ผู้รุกรานด้วยพลังทั้งหมดที่มี!"
"เอ๋..."
แย่แล้ว... เด็กสาวจำนวน 200 คนกำลังพุ่งเข้าใส่ตนด้วยรังสีฆ่าฟันพร้อมกับตะโกนว่าเป็นผู้บุกรุก ชายหนุ่มสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่าต้องรับมืออย่างไรดี
ฟุ่บ!
ชิ้ง!
เคร้ง!
เด็กสาวทั้งหมดกวัดแกว่งศาสตราวุธในมือทั้งหอก ดาบ และโล่ด้วยความชำนิชำนาญ กริดรู้สึกพึงพอใจกับผลการฝึกมาก
'เอาเรื่องแฮะ...'
บุตรีแห่งรีเบคก้า
สัญลักษณ์สำคัญแห่งโบสถ์รีเบคก้า ศาสนาอันดับหนึ่งของทวีปตะวักตก แสนยานุภาพของพวกเธอเมื่อครอบครองศาสตราวุธเทพนั้นไร้เทียมทาน โดยถึงแม้จะยังเป็นแค่เด็กสาวที่ถูกเลือก แต่ด้วยจำนวนที่มากมายขนาดนี้ กริดไม่มีทางรับมือได้หมดแน่ ชายหนุ่มทั้งทึ่งในพลังและรู้สึกหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน พวกเธอแต่ละคนล้วนมีฝีมือเอกอุ บางรายอาจถึงขั้นกลายเป็นเอ็นพีซีพิเศษในอนาคต ชายหนุ่มอดปลาบปลื้มไม่ได้จริงๆ
"ฮึ! แข็งแกร่งเหมือนกันนี่! เจ้าผู้บุกรุก!"
"แต่แกจบสิ้นแค่นี้แหละ!"
เด็กสาวส่งเสียงตะโกนอย่างดุดันแม้ว่าการโจมตีทั้งหมดจะสูญเปล่า จะดีจะร้ายยังไง พวกเธอก็เป็นถึงสุดยอดอาวุธลับของโบสถ์รีเบคก้า ความทระนงตนย่อมมีอยู่ในระดับสูงสุด
หัวใจของกริดเริ่มเต้นโครมคราม
'จงแข็งแกร่งขึ้น...'
เขาไม่ได้พูดถึงตนเอง ในยามนี้ ทั้งชาวนาของเรย์ดัน ตัวเมืองเรย์ดันเอง และกิลด์โอเวอร์เกียร์ ทุกสิ่งกำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นได้เพราะกริดมีพวกพ้องที่ยอดเยี่ยม ชายหนุ่มรู้สึกยินดีเสมอที่ขุมพลังในมือของตนกำลังแผ่ขยาย
เขารู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่า ไม่ได้มีเพียงตนเองเท่านั้นที่เติบโต
"จะเป็นคู่มือให้ก็แล้วกัน"
กริดกำลังจินตนาการภาพของเด็กสาวที่ถูกเลือกทั้ง 200 คน เติบโตขึ้นมากลายเป็นกองทัพพาลาดินศักดิ์สิทธิ์อันเกรียงไกรให้กับโอเวอร์เกียร์ เพียงแค่คิด ร่างกายก็สั่นระริกไปทุกส่วน ชายหนุ่มชักยารุกต์ออกมาเตรียมตั้งท่าสู้
ทันใดนั้น สายตาของเด็กสาวทั้ง 200 ก็ลุกวาวเป็นประกาย
'สวยจัง'
ความเท่... ออปชั่นที่ดีที่สุดของเกรด B ในศาสตร์การแปรธาตุ ความยอดเยี่ยมของมันเริ่มเผยให้กริดอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ยารุกต์ถูกกวัดแกว่ง แสงสว่างที่แผ่ออกมาจะเกิดการสั่นไหววูบวาบ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นล้วนถูกสะกด เอฟเฟคนี้ไม่เหมือนกับอยู่ในอาการ <ต้องมนต์สะกด> แต่เป็นหลักการง่ายๆ เฉกเช่นความงามที่สามารถดึงดูดสายตาของผู้ที่พบเห็น
"วิชาดาบแพ็กม่า... หน่วง"
ชายหนุ่มเริ่มการรำดาบอันชดช้อยงดงาม เมื่อประกอบเข้ากับแสงประกายอัญมณีจากยารุกต์ ประหนึ่งดอกซากุระสีชมพูสดกำลังรบานสะพรั่งร่วงโรยเป็นฉากหลัง แถมด้วยค่าความองอาจและค่าความน่าหลงใหลจำนวนมหาศาลที่กริดครอบครองอยู่ ส่งผลให้เด็กสาวทั้ง 200 คนถูกสะกดให้คล้อยตามและใจอ่อนโดยง่าย
ปิอาโร่ซึ่งเดินมาดูหลังจากได้ยินเสียงดังเอะอะ เมื่อเห็นภาพดังกล่าว เขาก็ส่ายศีรษะเบาๆ และพูดว่า
"ดยุคกริด... นี่ท่านกำลังล่อลวงเด็กสาวเหล่านี้อยู่งั้นหรือ..."
"..."
เกิดเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญที่เกือบกลายเป็นปัญหาทางสังคมระดับชาติ
***
"นายใช้วิธีใดทำให้ความชำนาญอาวุธเพิ่มระดับได้รวดเร็ว"
ณ ใจกลางฟาร์มกว้าง กริดที่ถูกเด็กสาว 200 คนรายล้อมได้หันไปขอคำแนะนำจากปิอาโร่
"คงไม่มีวิธีใดดีไปกว่าการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ แล้วขอรับ"
"ฉันอยากได้ทางลัดกว่านั้น ฉันกำลังหาวิธีสร้างอาวุธที่ช่วยเพิ่มความชำนาญได้ไว"
"นายท่านกำลังหาวิธีสร้างอาวุธที่เพิ่มค่าความชำนาญได้รวดเร็วสินะ หืม..."
ปิอาโร่เริ่มครุ่นคิด ข่านที่ขาดความรู้ในด้านการใช้อาวุธฉันใด ปิอาโร่เองก็ขาดความรู้ในด้านการตีเหล็กฉันนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนทั้งสองจะบอกใบ้หรือให้คำตอบที่ดีกับกริด ในขณะที่ปิอาโร่กำลังใช้สมอง เด็กสาวรอบตัวกริดหันมาชวนพูดคุย
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบดยุคกริดเพคะ"
"เป็นเพราะท่านดยุค ท่านดาเมี่ยนจึงได้เป็นสันตะปาปาและนำพาความสงบสุขมาสู่โบสถ์"
"เทพธิดารีเบคก้าคงกำลังอวยพรท่านอยู่แน่"
แรกเริ่มเดิมที เด็กสาวที่ถูกเลือกของโบสถ์รีเบคก้าจะต้องถูกล้างสมองและฝึกฝนอย่างลับๆ เป็นเวลาห้าถึงสิบปีในโบสถ์ พวกเธอไม่ได้มีชีวิตในวัยเด็กที่สดใสเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น กระบวนการความคิดและการตั้งคำถามทั้งหมดถูกริดรอน ความศรัทธาและความเชื่อจะถูกฝังลงในหัวซ้ำๆ ทุกวัน
แต่เป็นเพราะดาเมี่ยนและกริด พวกเธอจึงมีชีวิตที่สดใสเหมือนกับเด็กสาวทั่วไปได้ เด็กสาวที่ถูกเลือกของโบสถ์ทั้ง 200 คนในตอนนี้ ไม่ใช่หุ่นกระบอกที่ถูกเชิดอีกต่อไปแล้ว
เป็นวัยที่ริเริ่มเรียนรู้ถึงความรัก โดยรักแรกของเด็กผู้หญิงก็มักเกิดในช่วงอายุประมาณนี้ แน่นอนว่าตัวตนอันยิ่งใหญ่และอบอุ่นของกริด ได้ประทับเข้าไปใจหัวใจของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว ทั้งวีรบุรุษผู้ช่วยเหลือพวกเธอจากความโหดร้าย ทั้งผู้ที่ได้รับการอวยพรจากองค์เทพธิดารีเบคก้าโดยตรง ทั้งเสน่ห์ของชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ
แต่กริดก็รู้ดียิ่งกว่าใครว่าหัวใจของเด็กผู้หญิงนั้นผันแปรได้ง่ายดาย ประหนึ่งสายลมพัดผ่านก็เกิดการหันเห
'พวกเธอคงเหมือนกับเด็กประถมทั่วไป...'
กริดอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับใช้ฝ่ามืออันอบอุ่นลูบหัวเด็กสาวอย่างนุ่มนวล
"พวกเธอตงเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและมีความสุข จงทำตัวน่ารักให้มาก และอย่าลืมคอยดูแลลอร์ดตัวน้อย บุตรชายของฉันด้วย"
"เพคะ...! ท่านดยุคกริด!"
กริดไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คำขอร้องที่เขาไม่ได้คิดอะไรมากในวันนี้ ในอนาคตจะสร้างภาระอันใหญ่หลวงจนทำให้ลอร์ดปวดหัวไม่น้อย เด็กสาวทั้ง 200 คนเมื่อได้ยินดังนั้นต่างก็อมยิ้มอย่างมีความสุข เป็นเวลาเดียวกับที่ปิอาโร่เปิดปากพูดขึ้น
"ถ้าหากคนเราต้องใช้อาวุธที่มีสภาพแย่ มนุษย์จะหาทางเอาชนะข้อจำกัดนั้นด้วยเทคนิคแทน กระผมคิดว่าสิ่งนี้อาจนำไปปรับใช้ในการสร้างอาวุธได้"
"โฮ่...!"
เมื่อชายหนุ่มลองครุ่นคิดในถ้อยคำของปิอาโร่อย่างถี่ถ้วน นั่นแปลว่าเขาต้องสร้างไอเท็มให้ยากต่อการใช้งานสินะ
'...นี่เราต้องสร้างไอเท็มคุณภาพต่ำงั้นออกมาหรือ'
ถึงเวลาที่ช่างตีเหล็กในตำนานต้องสร้างไอเท็มสุดเพี้ยนขึ้นแล้ว
***
ผู้เล่นระดับหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่เกาะเบเฮ็น มีตั้งแต่อดีตสมาชิกเซดาก้าห์ รวมไปถึงฮิวรอย ยูร่า ลอเอล และพีคซอร์ด
โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือ
"แข็งแกร่งขึ้น...!"
กริดได้อธิบายรายละเอียดของแต่ละด่านไว้แล้ว ทุกคนจึงเตรียมตัวมาอย่างดีและหวังกอบโกยคะแนนท้าทายให้ได้มากที่สุด ทั้งเพื่อไว้แลกซื้อโอสถ หนังสือทักษะ และม้วนคาถาทวีปตะวันออก
ซู่ว!
ซู่วซู่วซู่ว!
ชาวโอเวอร์เกียร์ค่อยๆ ถูกดูดเข้าประตูมิติของดันเจี้ยนลับหมู่เกาะเบเฮ็นคนแล้วคนเล่า สถานที่แห่งนี้คือดันเจี้ยนที่เข้าไปท้าทายได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันตรงนี้
"หืม..."
ลอเอลที่ยืนอยู่หลังสุด เมื่อได้เห็นว่าทุกคนเข้าไปกันหมดแล้ว เขาก็ส่งข้อความส่วนตัวไปถึงยูเฟอมิน่าเป็นครั้งสุดท้าย
>> เธอจะไม่ร่วมท้าทายดันเจี้ยนที่ชื่อว่าหมู่เกาะเบเฮ็นจริงหรือ
>> ใช่ ฉันคิดว่าภารกิจตรงหน้าสำคัญกว่า
>> ดูเหมือนจะเป็นภารกิจใหญ่พอดูนะ ขอถามถึงรายละเอียดได้ไหม
>> เรื่องนั้น...
เมื่อยูเฟอมิน่าเล่าความเป็นมาทั้งหมดให้ลอเอลฟัง รอยยิ้มแฝงเลศนัยก็ถูกเผยให้เห็นบนใบหน้าจูนิเบียวอัจฉริยะผู้นี้ทันที
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากๆครับ
ReplyDelete555+ ทำไมนึกภาพหลอดน้อย กับเด็กสาว200คนนี้ แล้วรุ้สึกปสดหัวแทนหลอดน้อยขึ้นมาละะะ
ReplyDeleteพ่อหาฮาเร็มไห้แต่เด็กเลยแถมตั่ง200คน
ReplyDelete