จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 383



       ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คันศรสามารถยิงได้ถี่และรัว  คงหนีไม่พ้นความยืดหยุ่น  และนั่นเป็นเหตุผลสำคัญ  ที่วัสดุหลักในการสร้างคันศรกระหน่ำยิงคือเส้นเอ็นของไวเวิร์น

       ไวเวิร์น  สัตว์เลี้ยงทรงพลังอันดับหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถนำมาฝึกให้เชื่องได้  แต่ด้วยพลังโจมตีที่เป็นเลิศและสติปัญญาที่สูง  ทำให้การล่าไวเวิร์นเป็นสิ่งที่กระทำได้ยากมาก  แถมทุกครั้งที่ผู้เล่นมีโอกาสได้พบไวเวิร์น  พวกเขามักจะพยายามจับมันมากกว่าเข่นฆ่ามัน

       ด้วยเหตุผลเหล่านี้  เส้นเอ็นของไวเวิร์นจึงมีมูลค่ามหาศาล  ผู้เล่นที่ถือครองไว้มีจำนวนเพียงน้อยนิดหยิบมือ  ราคาต่ำสุดที่ซื้อขายตามท้องตลาดคือ 10,000 เหรียญทอง  ดังนั้นแม้กริดจะร่ำรวยมาจากไหน  แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะใช้อย่างฟุ่มเฟือยได้แน่

       'เราคงต้องพอใจกับอันนี้สินะ...'

[ คันศรกระหน่ำยิงแบบเกลียว ]
เกรด : อีปิก
พลังโจมตี : 215~249 
ความเร็วในการยิง : +17%
ความแม่นยำ : -30%

* ทุกครั้งที่ทำการยิง  ความเร็วในการยิงจะเพิ่มขึ้น 1%  เอฟเฟคนี้ซ้อนทับได้สูงสุด 50 ครั้ง

* เป็นคันศรที่ควบคุมทิศทางการยิงของลูกธนูได้ยากลำบาก

* ถ้าหากยิงโดน <เป้าหมายที่เล็ง>  ท่านจะได้รับโบนัสค่าประสบการณ์ทักษะ <ความชำนาญธนู> 

...
...

       ด้วยความสัตย์จริง  กริดยังไม่พึงพอใจมากนัก  แต่นี้คือคันศรที่ดีที่สุดแล้วในบรรดาห้าอันที่เขาสร้างขึ้นล่าสุด

       'ถ้าแค่ไว้อัพเลเวลความชำนาญทักษะ  เท่านี้ก็คงพอ'

       เพราะไม่ว่ายังไง  ความตั้งใจของเขาก็บรรลุผลแล้ว  ชายหนุ่มสามารถสร้างคันศรที่เร่งสปีดการอัพเลเวลทักษะ  โดยเพียงแค่ตั้งใจยิงไปเรื่อยๆ ก็พอ

       'มีเรื่องให้ทำอีกมากก่อนจะถึงงานแข่ง'

       กริดต้องเร่งอัพเลเวลทักษะใหม่ที่ได้รับมาไปพร้อมกับการลุยหมู่เกาะเบเฮ็นต่อ  และเขายังต้องการไอเดียสำหรับออกแบบไอเท็มใหม่ด้วย  เหลือเวลาอีกเพียง 40 วันในชีวิตจริง  ชายหนุ่มมีแผนจะเล่นเกมให้หนักขึ้นด้วยการลดเวลานอนลง

       เวทีเดียวในโลกที่เขาสามารถเฉิดฉายได้คือซาทิสฟาย  ดังนั้น  กริดต้องทำมันให้ดีที่สุด

       ***

       『 พวกคุณคิดว่าประเทศใดจะเป็นจ้าวเหรียญทองในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สองครับ 』
       
       ข่าวต่างประเทศล่าสุด

       พิธีกรหลักตั้งคำถามขึ้น  ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างก็กระตืนรือร้นที่จะให้คำตอบ

       『 ต้องเป็นสหรัฐอเมริกาแน่นอนครับ  เพราะเลเวลเฉลี่ยของนักกีฬาเข้าแข่งสูงกว่าทุกชาติที่เข้าร่วม 』

       『 ทีมสหรัฐอเมริกามีผู้เล่นระดับท็อปอยู่มาก  ทั้งซีบาล  ลอเอล  อาสึกะ  บ็อกซ์  และแบล็คเท็ดดี้  แม้ปีนี้ฮูเร็นจะไม่ลงแข่ง  แต่สมดุลของทีมนี้ก็เรียกได้ว่าสูงกว่าประเทศอื่นมากครับ 』

       『 แต่ลอเอลก็ยังถูกวิจารณ์อยู่ไม่ใช่หรือ  เนื่องด้วยความที่เขาเป็นมือขวาที่ใกล้ชิดกับกริดมาก  มีบางข่าวลือกล่าวว่า  ลอเอลอาจคิดล้มมวยให้กริด  ในเวลาที่ตนต้องเผชิญหน้ากับเกาหลีใต้ 』

       『 ผู้เล่นสมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์ไม่ใช่เด็กสามขวบที่แยกแยะระหว่างความจริงกับในเกมไม่ออกนะครับ  พวกเขาย่อมรู้ดีว่างานแข่งซาทิสฟายนั้นสำคัญและยิ่งใหญ่ขนาดไหน 』

       『 อันที่จริง  เรื่องนี้ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจหรอก  หากมีเจตนาการล้มมวยจริงและถูกกล้องจับภาพไว้ได้  เมื่อทีมงานพิจาณาแล้วว่าเข้าข่าย  ตัวนักกีฬาจะถูกลงโทษสถานหนักครับ  ไม่ใช่เฉพาะลอเอล  รวมไปถึงสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนด้วยที่ต้องจำใส่ใจเอาไว้ 』

       เรื่องราวย่อมต้องดำเนินไปในเส้นทางดังกล่าว  เหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนต่างดีใจจนเนื้อเต้นที่กำลังจะได้ต่อสู้ห้ำหั่นกันเอง  ไม่เว้นแม้แต่กริด  เขาต้องการจะเอาชนะสติปัญญาของลอเอลให้ได้  รวมไปถึงเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่สุดยอดอย่างป็อน  เรกัส  และเฟคเกอร์

       『 แล้วประเทศใดที่เป็นตัวเต็งถัดมาจากสหรัฐครับ 』

       『 ทั้งแคนาดาและฝรั่งเศสต่างก็มีจำนวนของแร้งเกอร์สูงรองจากสหรัฐ 』

       『 แล้วเกาหลีใต้ที่มีกริด  ยูร่า  และพีคซอร์ดล่ะครับ  แถมรัสเซียก็ยังมีครอเกลด้วย 』

       『 งานแข่งนานาชาติหนที่สองแตกต่างจากหนแรกมาก  ชนิดของการแข่งมีเพิ่มมากขึ้น  กฏกติกาบางชนิดก็ถูกปรับเปลี่ยน  คงเป็นการยากที่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งจะยกระดับทั้งประเทศขั้นมาได้ตามลำพังครับ  เกาหลีใต้น่าจะอยู่ในท็อป 15  ส่วนรัสเซียน่าจะอยู่ในท็อป 18 』

       『 ไม่ใช่ว่าคุณประเมินเกาหลีใต้ไว้สูงเกินไปหรือครับ  ประเทศที่ไม่มีอะไรดีนอกจากกริด  ยูร่า  และพีคซอร์ดเนี่ยนะ 』

       『 แน่นอนครับว่าผิวเผินอาจเป็นเช่นนั้น  เกาหลีใต้ถูกปรามาสไว้ว่าอ่อนแอมากก็จริง  แต่อย่าลืมว่ายูร่าคือปัจจัยสำคัญในคราวนี้  มีข่าวลือว่าเธอกลายเป็นคลาสลับเกรดยูนีคไปเรียบร้อยแล้ว... 』

       เทียบกับงานแข่งปีแรก  ปีนี้เกาหลีใต้ถูกประเมินค่าไว้สูงกว่าคราวก่อนมากทีเดียว  เพราะในการแข่งหนที่หนึ่งยังไม่มีใครรู้จักกริด  พีคซอร์ดไม่ได้ลงแข่ง  และมีเพียงยูร่าคนเดียวเท่านั้นที่คอยแบกทีม  

       แต่ทางชาวเกาหลีใต้ก็ไม่ค่อยพึงพอใจกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเท่าใดนัก

       ===  ทำไมพวกเขาถึงดูแคลนเกาหลีใต้อีกแล้ว  ลืมไปแล้วรึไงว่าปีที่แล้วพวกเราได้อันดับที่สาม

       ===  เห็นด้วย  ปีที่แล้วพวกเราไม่มีพีคซอร์ดด้วยซ้ำ

       ===  และตอนนั้น  ยูร่าก็เป็นเพียงคลาสทั่วไป

       ===  แต่ปีนี้พวกเรามีทั้งพีคซอร์ด  และยูร่าที่เป็นคลาสลับ

       เกาหลีใต้จะต้องเป็นหนึ่งในตัวเต็งแน่นอน  แต่ก็ยังมีความเห็นอีกส่วนที่คิดต่าง

       ===  พวกเกาหลีใต้คลั่งชาติมาแสปมข้อความในบอร์ดอีกแล้วหรือ

       ===  เหตุผลที่คราวก่อนได้ถึงอันดับสาม  ไม่ใช่เพราะความเก่งกาจของเกาหลีใต้เลยสักนิด  แต่เป็นเพราะกริดล้วนๆ

       ===  ถูกต้อง  ไม่ว่ายังไง  เกาหลีใต้ก็ยังอ่อนแอในซาทิสฟายอยู่วันยังค่ำ  ปีที่แล้วได้กริดแบกทีมไว้  แต่ก็เปลี่ยนความจริงที่ว่า  พลังโดยรวมของเกาหลีใต้อ่อนแอไม่ได้หรอกนะ

       ===  พวกนายคิดว่ากริดจะคว้าสามเหรียญทองได้ด้วยตัวคนเดียวอีกรึไง  แม้ก็อดกริดจะทำได้สำเร็จก็จริง  แต่อย่าลืมว่ามูลค่าของแต่ละเหรียญลดลงไปมากแล้วในปีนี้  ปีที่แล้วมีเพียงเก้าเหรียญทองให้ท้าชิง  แต่มีนี้มีมากถึง 21 เหรียญทองเชียวนะ

       ===  พีคซอร์ดมาลงแข่งแล้วยังไง  ในสายตาของประเทศอื่น  พีคซอร์ดก็เป็นแค่แร้งเกอร์แถวหน้าทั่วไป  ไม่ได้พิเศษแต่อย่างใด

       ยังมีทฤษฏีและข้อความดูแคลนนักกีฬาทีมเกาหลีใต้อีกมาก  พีคซอร์ดอ่านแล้วหงุดหงิดใจทันที

       "ขำไม่ออกเลยแฮะ"

       ณ สำนักงานใหญ่สมาคมเกาหลีใต้จงเจริญในกรุงโซล  เกาหลีใต้  พีคซอร์ดเข้าอินเทอร์เน็ตทันทีเมื่อล็อคเอาต์จากซาทิสฟาย  แล้วก็ได้พบกับข้อความชวนให้ระคายเคืองจิตใจ

       "คนพวกนี้กล้าดูแคลนก็อดกริดและเกาหลีใต้เชียวหรือ  แถมตัวเรายังกลายเป็นนักกีฬาดาษดื่นไปอีก  พวกแกนี่...  ไม่รู้จักพีคซอร์ดรึไง"

       ไฟการต่อสู้ในตัวพีคซอร์ดพลันพลุ่งพล่าน  เขามุ่งหวังจะนำพาเกาหลีใต้เป็นจ้าวเหรียญทองในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สองให้จงได้...

       "...เราคงเพ้อฝันมากไปหน่อย"

       เมื่อลองหันมามองความเป็นจริง  การติดท็อปสิบด้วยขุมกำลังที่มีก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว  เขาต้องค่อยเป็นค่อยไป  จะเร่งรีบไม่ได้เด็ดขาด  แล้วสักวัน  เกาหลีใต้จะกลับมาเป็นมหาอำนาจของวงการเกมอีกครั้ง

       จนกระทั่งตอนนี้  ทั้งพีคซอร์ดและคนทั่วโลกต่างไม่มีทางรู้ได้เลยว่า  ตำนานบทใหม่อันยิ่งใหญ่อลังการของกริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์  กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในงานแข่งนานาชาติหนที่สองนี้เอง

       ***

       กริด กริด กริด กริด กริด กริด กริด!

       ขื่อดังกล่าวถูกพูดถึงทุกวันจากทั้งทีวี  วิทยุ  โทรศัพท์มือถือ  หนังสือพิมพ์  หรือแม้กระทั่งวงไพ่คุณป้าข้างบ้าน  ก็ยังมีการพูดถึงชื่อกริดและงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สอง  สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องปรกติไปแล้วในประเทศเกาหลีใต้

       โกจีเมียงแทบเป็นบ้า

       "ไอ้บัดซบกริด!"       

       โกจีเมียง

       อดีตนักกีฬาลีก KBO 

       มันเคยมีอดีตเป็นถึงมือตีอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้  แต่ชื่อเสียงก็ตกต่ำลงอย่างน่าใจหายตั้งแต่ครึ่งปีก่อน  ตั้งแต่เริ่มคบกับเรน่า  หัวหน้าวงเกิร์ลกรุ๊ปฟาริน่า  ฝีมือของโกจีเมียงก็เริ่มถดถอยประหนึ่งขาดซ้อม  แถมหลังจากนั้นก็ยังถูกจับว่าเป็นต้นตอของเหตุการณ์ร้ายแรงอีกหลายครั้ง

       ไม่ใช่แค่ถูกถอดถอนจากทีม  แม้แต่ลีกอาชีพก็ยังไม่เอาไว้

       "กริด...!"

       ในงานโรงเรียนมัธยมปลายยังก์เลดี้ส์  โกจีเมียงถูกแฟนสาวขอร้องให้สังหารรูบี้ในการแข่งประลองซาทิสฟาย  มันยอมฝ่าฝืนกฏของการแข่งโดยทำการพีเค  ไม่ใช่ท้าดวล  แต่แผนกลับต้องล้มเหลวเพราะถูกกริดเข้ามาขัดขวางไว้  หลังจากนั้น  โกจีเมียงจึงถูกลงโทษสถานหนักและรับผลกรรมที่ตามมา  สังคมประนามมันว่าเป็นเพียงเศษขยะ  ชีวิตพังทลาย  และแฟนสาวได้บอกเลิก

       โกจีเมียงกล่าวโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของกริด  มันคือคนประเภทนี้  ประเภทที่โยนความผิดให้กับคนอื่น  อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ตัวเอง

       "ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่"

       โกจีเมียงเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง   มันตัดสินใจโทรหาหัวหน้าแก็งอันธพาลที่ชื่อว่า <แก๊งค์คลื่นพิษ>   นับเป็นกลุ่มอิทธิพลที่โด่งดังมากในธุรกิจโลกใต้ดินของกรุงโซล       

       ***

       "พวกเราจะไปตรวจดูความคืบหน้าของตึก  หลังจากนั้นก็จะพักที่บ้านคุณปู่"

       พ่อและแม่ของยองวูออกไปเที่ยวตามประสาครอบครัวกับน้องสาว  พวกเขาไม่ได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกันนานแล้ว  และแน่นอนว่าคราวนี้ก็ไม่มียองวูเช่นเคย  ชายหนุ่มมีเรื่องให้ต้องเตรียมอีกมาก  กับงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติที่กำลังจะมาถึง

       "ดูแลสุขภาพด้วยนะลูก"

       ทันทีเมื่อครอบครัวออกเดินทาง  ยองวูก็กลับเข้าล็อคอินซาทิสฟายอีกครั้ง  โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังดักรออยู่นอกบ้าน

       ***

       ถนน 000-0  เขต XX  ย่านกึมชอน

       บ้านของกริดคือสถานที่โด่งดังในละแวกนี้  มีผู้คนจำนวนมากเดินทางผ่านไปมาเพื่อหวังพบกริด  แต่ด้วยความที่ทางสำนักงานเขตได้ตัดสินให้บ้านของกริดเป็นพื้นที่หวงห้าม  จำกัดการเข้าออก  ทำให้ความปลอดภัยของบริเวณนี้ถูกยกระดับขึ้นทันตา

       ผลก็คือ  ผู้คนของย่านนี้มีสุขภาพจิตดีขึ้น  ทุกคนชื่นชมว่าเป็นคุณงามความดีของกริด  ความนิยมในตัวชายหนุ่มยิ่งเพิ่มทวีคูณ

       "ทำไมเขตสลัมยากจนแบบนี้  ถึงมีระดับความปลอดภัยเทียบเท่าพระราชวังหลวงได้ฟะ"

       ชายคนนี้คือหัวหน้าแก๊งค์ค้ายาคลื่นพิษ  คังชอลกิว  มันถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในห้านิ้วมือแห่งโซล  ด้วยความสามารถในการชกต่อยที่เป็นเลิศ  โกจีเมียงเป็นรุ่นพี่ของมันตั้งแต่สมัยเรียน  คังชอลกิวจึงตอบรับทำงานนี้ให้ทันที
       
       ปัญหาก็คือ  ความยากลำบากในการเข้าถึงบ้านของเป้าหมาย  มันต้องใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะเข้ามาถึง

       "คงต้องขอเพิ่มค่าจ้างขึ้นอีกสัก 500 ล้านวอน"

       คังชอลกิวแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้เห็นรถยนต์ราคา 800 ล้านวอนที่จอดอยู่หน้าบ้านเป้าหมาย

       'กริดสินะ  กริด...'

       ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากยกย่องให้กริดเป็นวีรบุรุษ  แต่ในสายตาของคังชอลกิวแล้ว  เรื่องนี้ไร้สาระมาก  เหตุใดถึงต้องเทินทูนนักเล่นเกมมากมายขนาดนี้  มันไม่อาจเข้าใจผู้คนได้เลย

       "ดื่มเหล้าสนุกกว่าเล่นเกมตั้งเยอะ"

       คังชอลกิวรอคอยอย่างใจเย็นจนกว่าประตูบ้านกริดจะเปิดออก  มันรอแล้วรอเล่าอยู่เช่นนั้น  หนึ่งชั่วโมง  สองชั่วโมง  ห้าชั่วโมง...  ผ่านไปแล้วสิบชั่วโมง  แต่ประตูบ้านกริดก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก

       'เกิดอะไรขึ้น...'

       เหตุใดกริดถึงไม่ยอมก้าวเท้าออกจากบ้านเลย  ในเวลานี้เป็นค่ำคืนอันหนาวเหน็บของฤดูใบไม้ร่วง  คังชอลกิวเป็นพวกไม่ถูกกับอากาศหนาว  สีหน้าของมันจึงแย่ลงในทุกขณะ

Comments

  1. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  2. อยู่ดีๆไม่ว่าีหาเรื่องใส่ตัวมามีเรื่องกับกริดกี่คนชีวิตก็ต้องพังกันหมด

    ReplyDelete
    Replies
    1. แต่ประเด็นคือมันต้องรอแบบนั้นไปกี่วันก็ไม่รู้นะเพราะพ่อแม่และน้องสาวไปบ้านปู่ส่วนกริดก็ต้องเล่นเกมส์อยู่แต่ในบ้าน พอคิดแล้วมันก็น่าสงสารอยู่นะ

      Delete
    2. เจอยูร่าจัดการแน่

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00