จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 391



       พลองนวดข้าวคืออาวุธที่มีไว้สำหรับกวัดแกว่ง  จึงไม่มีทางสร้างความเสียหายชนิด <แทง> หรือ <สับ> ได้เลย  นั่นจึงเป็นเหตุผลที่กริดเลือกใช้ไม้เหล็กนิลเป็นวัสดุหลัก

       'อาวุธประเภทนี้  ความยืดหยุ่นสำคัญที่สุด'

       ไม้เหล็กนิล  หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ  <เหล็กงอได้>

       เป็นไม้ที่มีความแข็งมาก  แต่ก็ยืดหยุ่นมากในเวลาเดียวกัน  เดิมทีแล้ว  มันคือวัสดุสำคัญสำหรับสร้างด้ามหอกชั้นเลิศ  ทำให้มีสนนราคาที่สูงมาก  บรรดาแร้งเกอร์สายหอกและอัศวินแถวหน้าของอาณาจักร  ล้วนใช้หอกที่สร้างขึ้นจากไม้เหล็กนิลทั้งสิ้น

       'สรุปสั้นๆ ก็คือ  มันเป็นวัสดุที่ดีที่สุดแล้ว'

       ไม่มีทางที่จะใช้ไปโดยไม่รู้สึกเสียดายเงิน  แต่กริดก็เลือกที่จะใช้มัน  เพราะเขาคือช่างตีเหล็กในตำนาน  ไอเท็มที่สร้างขึ้นจะต้องยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้น  

       'เจ็บตัวเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ'       

       เคร้ง! เคร้ง!

       ชายหนุ่มกลั้นน้ำตาไว้และอุทิศเวลาที่เหลือให้กับการจัดการไม้เหล็กนิล  ก่อนอื่นเลย  กริดเริ่มเหล่าท่อนไม้ให้มีความยาว 1.3 เมตร  ซึ่งเป็นขนาดที่จับแล้วถนัดมือตนมาก  หลังจากนั้นก็เชื่อมกับส่วนห้อย  เขาพยายามเหลาให้สันคมของทั้งสี่ด้านมีความบางและเฉียบคมมากที่สุด  

       'มันต้องออกมาดีแน่'

       การเหลา  เชื่อม  รวมไปถึงขั้นตอนปลีกย่อย  เมื่อกริดกระทำซ้ำจนครบ  ชายหนุ่มจ้องมองทอนไม้ที่วางอยู่พร้อมกับหวังให้มันกลายเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารี  

       แต่ช่างขัดแย้งกับภายในใจที่คิดว่า  มันเป็นผลงานระดับ <พอใช้> เท่านั้น

[ ท่านสร้างไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> สำเร็จ ]

[ พลองมั่วซั่ว ]
เกรด : ยูนีค
ความคงทน : 259/259
พลังโจมตี : 143~191
* เกิดเอฟเฟคพิเศษแบบสุ่มขึ้นทุกครั้งที่เป้าหมายถูกโจมตี  
* ความเร็วในการนวดข้าวเพิ่มขึ้น 150%
* เมล็ดข้าวที่ถูกนวดจะเกิดเอฟเฟคแบบสุ่ม
       อุปกรณ์ทำฟาร์มที่ออกแบบโดยกริด  ผู้ซึ่งถือกำเนิดใหม่ในฐานะตำนาน
       สร้างขึ้นจากไม้เหล็กนิล  จึงทำให้มีความยืดหยุ่นและพลังโจมตีที่สูง  สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่านี่คืออาวุธ       
       แต่เอฟเฟคการโจมตีก็ไม่อาจคาดเดาได้  เนื่องด้วยหนึ่งในวัสดุคือโพชั่นสูตรลับของซิลเวอรัน  จงใช้งานอย่างระมัดระวัง  ไม่สิ  คงเป็นการดีกว่าหากท่านไม่คิดใช้งานมัน
เงื่อนไขการสวมใส่ : เลเวล 200 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 109

       "...ชิ!  ลองอีกสักอันก็แล้วกัน"

       มันคงดีกว่านี้ถ้าตนได้สิ่งที่ต้องการตั้งแต่หนแรก  แต่สติกส์ซึ่งมองความหงุดหงิดของกริดไม่ออกกลับกล่าวชมผลงานอย่างพึงพอใจ

       "เป็นพลองนวดข้าวที่ดีมากเลยนะ  เหมาะแก่การทำฟาร์มมากทีเดียว"

       เป็นวิธีถามแบบอ้อมๆ เชิงประชดประชันของสติกส์  เพราะเขาอยากรู้ถึงเหตุผลที่กริดจู่ๆ ก็สร้างอุปกรณ์ทำฟาร์มขึ้นมา  

       กริดหันมาตอบ

       "นี่ไม่ใช่อุปกรณ์ทำฟาร์มทั่วไป  แต่เป็นอาวุธ  ฉันจะใช้สิ่งนี้ผ่านบททดสอบของเกาะหมายเลข 41"

       "อาวุธ...!!"

       สีหน้าสติกส์พลันเปลี่ยนเป็นชื่นชมทันที  เขาชื่นชมในความกล้าบ้าบิ่นที่กริดพลิกแพลกใช้พลองนวดข้าวเป็นอาวุธ  สติกส์นั้นเป็นจอมปราชญ์ที่ฉลาดเฉลียว  เขาจึงพยายามทำความเข้าใจในการกระทำของกริด  มากกว่าจะดูแคลนอีกฝ่าย

       'จะต้องมีนัยยะซ่อนเร้นอยู่แน่'

       แต่ถึงกระนั้น  ก็ไม่ได้หมายความว่าสติกส์รู้สึกมั่นใจในตัวกริดขึ้นมาสักเท่าไร  เขายังคงเป็นกังวัลอยู่หลายส่วน  

       ในขณะเดียวกัน  กริดก็หยิบค้อนอีกครั้ง

       'เราจะนำพลองเกรดยูนีคอันนี้กลับไปเป็นของขวัญให้ปิอาโร่'

       กริดเตรียมสร้างอันต่อไปทันที

       'เราต้องสร้างเป็นเกรดเลเจนดารีออกมาให้ได้!'

       เคร้ง!  เคร้ง!

       ชายหนุ่มเริ่มลงมือกับไม้เหล็กนิลที่ยังเหลือ  เวลาผ่านไปนานจนกระทั่งล่วงเลยถึงขั้นตอนสุดท้าย  กริดเทโพชั่นสูตรลับของซิลเวอรันลงไปอย่างมีความหวัง  

       และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ… พลองมั่วซั่วเกรดยูนีคอีกครั้ง 

       "ไอ้...$%!#"

       กริดไม่ได้สถบด้วยโทสะเช่นนี้มานานมากแล้ว  แม้จะมีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้นและมีนิสัยที่ใจเย็นขึ้นแล้ว  แต่เนื้อแท้ของคนเราไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนกันได้ง่าย  

       ตลอดหนึ่งปีครึ่งในฐานะผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า…  กริดสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้เพียง 12 ชิ้นเท่านั้น  ต่อให้เป็นนักบุญหรือพ่อพระที่ไหน  ก็คงจะอดกลั้นความโมโหในคราวนี้ไว้ไม่อยู่เช่นกัน

       'ทำไมช่างตีเหล็กในตำนานถึงสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้ยากเย็นนักนะ'

       โอกาสสำเร็จมีต่ำมากจนน่าเกลียด...  

       แต่เมื่อเวลาผ่านไป  จิตใจของเขาก็เริ่มเย็นลง

       'ช่างเถอะ  ไม่จำเป็นสักหน่อยว่าต้องใช้พลองมั่วซั่วเกรดเลเจนดารีในการผ่านเกาะหมายเลข 41'

       ใช่แล้ว  เขาไม่ได้ต้องการพลังโจมตีที่รุนแรง  แต่เป็นเอฟเฟคแบบสุ่มที่สามารถพลิกโฉมการต่อสู้ได้  การที่ต้องการให้เป็นเกรดเลเจนดารี  เพียงเพราะกริดต้องการเพิ่มโบนัสค่าสถานะ  และเพื่อที่จะเข้าใกล้เหตุการณ์พิเศษมากขึ้นอีกก้าว

       "เอาล่ะ  ได้เวลาฝึกใช้ให้ชินมือ"

       ผ่านไปแล้ว 21 ชั่วโมงหลังจากที่เริ่มออกแบบและสร้างพลองนวดข้าว  ชายหนุ่มต้องทำความคุ้นเคยกับอาวุธชนิดนี้ในอีกสามชั่วโมงที่ยังเหลือ  ก่อนที่ประกันชีวิตและแรนดี้จะกลับมาพร้อมใช้งานอีกครั้ง

       ***

       ณ เกาะหมายเลข 41

       "แกเสร็จฉันแน่"

       "..."

       ร่างโคลนพลันฉงนทันทีเมื่อเห็นกริดปรากฏตัวพร้อมกับถือพลองนวดข้าว  ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่สามารถดึงพลังต่อสู้ของกริดออกมาได้ 100% เต็ม  มันจึงไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชายหนุ่มถึงต้องพึ่งพาสิ่งของพรรค์นี้

[ พลองมั่วซั่ว ]
...
...

       "..."

       ยิ่งอ่านรายละเอียดไอเท็ม  มันก็ยิ่งไม่เข้าใจ...

       'อาวุธไร้ประโยชน์'

       เหตุใดอีกฝ่ายถึงกำลังถือเจ้านี่อยู่ในมือ  ร่างโคลนไม่เข้าใจเลยสักนิด  แต่มันก็ไม่คิดอะไรมากมายอีกแล้ว  เป้าหมายเดียวของมันคือกำจัดกริดให้สิ้นซาก  การมัวเสียเวลาทำความเข้าใจกับคนที่กำลังจะตาย  ถือเป็นเรื่องไร้สาระอย่างมาก

       "วิชาดาบแพ็กม่า"

       ฟุ่บ!

       ร่างโคลนพุ่งทะยานมาข้างหน้าพร้อมกับรำดาบประหนึ่งผีเสื้อ  นี่คือสัญลักษณ์ของวิชาดาบ <ร่ายรำ>

       ฟุ่บ!
       
       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       ร่างโคลนเปิดการโจมตีในพริบตา  รัศมีดาบหลายสิบเส้นพุ่งออกจากดาบใหญ่กริดด้วยความเร็วสูง  หากเป็นชายหนุ่มเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อน  เขาจะต้องหาทางหลบหรือไม่ก็สลายการโจมตีนี้แน่นอน  แต่สิ่งที่กริดในปัจจุบันเลือกกระทำเมื่อมีรัศมีดาบพุ่งเข้าใส่...

       'ช่างแม่งสิ!'

       ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!

       ร่างกายกริดมีเลือดสาดพุ่งออกมาเป็นละอองฝอยประหนึ่งสายหมอก  เหตุใดชายหนุ่มถึงไม่ยอมป้องกันตนเองน่ะหรือ  คำตอบนั้นง่ายนิดเดียว  ก็เพื่อโจมตีสวนกลับไปให้รวดเร็วที่สุดยังไงล่ะ  เขาเหวี่ยงพลองเข้าใส่ร่างโคลนอย่างเต็มแรงทันทีโดยปราศจากความลังเล

       ฟ้าว!

       "...!"

       นัยน์ตาของร่างโคลนพลันสั่นระริก  ความเร็วสวนกลับของกริดมีสูงมากจนมันต้องตกตะลึง

       โผละ!

       ร่างโคลนถูกฟาดเข้าที่ใบหน้าด้วยส่วนห้อยของปลายโซ่         เกิดเสียงดังประหนึ่งลูกแตกโมแตกเป็นเอฟเฟคประกอบ  แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น  แม้สันแฉกของส่วนห้อยจะคมจนทำให้เลือดออก  แต่พลังโจมตีและความเสียหายที่เกิดขึ้นกลับมีเพียงน้อยนิด  

       ทว่า… สำหรับกริดแล้ว  พลังโจมตีจำเป็นด้วยหรือ 

       แสยะ!

       มุมปากของชายหนุ่มเชิดขึ้นในยามที่แสยะยิ้ม

       "ไหนดูซิว่าได้อะไร...!"

       พลองมั่วซั่วจะเกิดเอฟเฟคพิเศษทุกครั้งที่โจมตีโดนศัตรู  นั่นรวมไปถึงบัฟและอาการผิดปรกติชนิดต่างๆ ด้วย  และสถานการณ์คงเลวร้ายมากขึ้นถ้าหากร่างโคลนได้รับบัฟเพิ่มความสามารถเข้าไป

       'หรือต่อให้โชคดีสุ่มติดสถานะผิดปรกติ  สิ่งนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์กับเราเช่นกัน'

       กริดตระหนักดีว่าร่างโคลนก็มีสมญานามเหมือนตน  ดังนั้น  อาการผิดปรกติทำอะไรมันไม่ได้แน่  เหตุผลที่กริดยอมเสี่ยงดวงใช้พลองมั่วซั่วเข้าสู้  ก็เพราะเขามีความเชื่อลึกๆ อยู่ในใจว่า...

       'มันจะต้องเกิดเอฟเฟคพิสดารขึ้นได้แน่  ไม่ใช่เฉพาะอาการผิดปรกติ...!'
       
       ยกตัวอย่างเช่น  เอฟเฟคที่ทำให้พลังชีวิตของเป้าหมายกลายเป็นหนึ่งหน่วย  หรือเอฟเฟคที่ทำให้เป้าหมายมีน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระสูงถึงขีดจำกัดจนขยับตัวไม่ได้  สิ่งนี้เป็นเอฟเฟคทางกายภาพ  หาใช่อาการผิดปรกติ  สมญานามของตนจึงไม่อาจต้านทานได้

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]

       ทันทีที่ร่างโคลนถูกโจมตี  ร่างกายของมันก็สว่างวาบขึ้น

[ พลังโจมตีของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาสิบวินาที ]

       "..."

       แม้กริดจะรู้อยู่แก่ใจดีแล้ว  ว่าคนดวงซวยบัดซบอย่างตน  หากต้องใช้ไอเท็มที่พึ่งพาดวงเป็นหลักล่ะก็  โอกาสที่โชคจะเข้าข้างนั้นยากยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง เสียอีก

       แต่นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยรึไง...
       
       'ถ้าพลังโจมตีของเจ้าปีศาจนี่เพิ่มขึ้นสองเท่าล่ะก็...!'

       กริดเริ่มก้าวถอยหลัง  เป็นเวลาเดียวกับที่ดาบใหญ่ของศัตรูเริ่มกวัดแกว่งอีกครั้ง

       ฉัวะฉัวะ!

       "อ๊ากกกกก!"

       นี่เป็นเพียงการโจมตีธรรมดาจากร่างโคลนเท่านั้น  แต่ความรุนแรงเทียบเท่าได้กับการใช้ทักษะเลยทีเดียว  ทางด้านกริดเองก็ไม่ปล่อยให้ถูกโจมตีอย่างเปล่าประโยชน์  เขาพยายามสวนกลับไปอย่างสุดความสามารถ

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]
[ พลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นสามเท่าเป็นเวลาสิบวินาที ]

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]
[ ความรุนแรงทักษะของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลาสิบวินาที ]

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]
[ สร้างบาเรียเวทย์มนต์คุ้มกายเป้าหมาย ]

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]
[ เป้าหมายจะตกอยู่ในอาการ <ใบ้> เป็นเวลาสิบวินาที ]
[ เป้าหมายต้านทาน ]

       "..."

       ยิ่งการต่อสู้ผ่านไป  กริดก็ยิ่งโมโห

       แสยะ...

       เป็นฝ่ายร่างโคลนบ้างที่เริ่มแสดงสีหน้าเย้ยหยัน  นี่คือการแสดงอารมณ์ครั้งแรกของมันเลยก็ว่าได้

       "มีอะไรน่าขำ...!"

       ชายหนุ่มกัดฟันกรอด  หากดูเผินๆ เหมือนเขาจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว  แต่อันที่จริง  กริดเยือกเย็นกว่าที่เห็นมาก  เขาท้าทายเกาะหมายเลข 41 ด้วยความเตรียมใจที่จะแพ้ไว้แล้วสักสองหรือสามครั้ง  แต่ถึงรู้ว่าจะต้องแพ้  กริดก็ยังกระหน่ำฟาดพลองมั่วซั่วใส่ศัตรูไม่หยุดมือ

       ในทางกลับกัน  ร่างโคลนไม่แยแสพลองของกริดอีก  เพราะตนมีแต่จะได้รับผลดีเมื่อยิ่งถูกฟาดมากขึ้น  ในขณะที่กริดเหวี่ยงพลองโจมตี  มันก็พุ่งเข้าไปโจมตีแลกโดยไม่คิดหลบหลีก

[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ผู้เป็นตำนานจะไม่ตายโดยง่าย  ท่านจะได้รับบัฟอมตะเป็นระยะเวลาห้าวินาทีด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย ]

       ลงเอยด้วยกริดต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหนัก  และไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  ในการจะเพิ่มความเร็วโจมตีให้สูงขึ้น  ชายหนุ่มตัดสินใจใช้ <ร่างมืด> <โทสะช่างตีเหล็ก> และ <พลิ้วไหว>  เพื่อเร่งสปีดในการกระหน่ำฟาดพลองนวดข้าวในมือด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

       แต่ดูเหมือนผลดีจะเทไปอยู่ฝั่งร่างโคลนเสียหมด

       'ช่วยไม่ได้แฮะ… คงต้องลองดูใหม่รอบหน้า'

       กริดตัดใจยอมแพ้ในหนนี้  เขาเหวี่ยงพลองมั่วซั่วไปข้างหน้าโดยไม่คาดหวังสิ่งใดอีก  เฉกเช่นร่างโคลนที่อ้าแขนรับพลองอย่างเต็มใจ  เพราะจากสถิติที่ผ่านมา  เกือบทั้งหมดจะออกมาเป็นผลดีต่อตนเอง  สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าร่างโคลนมีสติปัญญาที่สูงขนาดไหน

       ดูเหมือนการเสี่ยงดวงจะไม่ถูกกับกริดเอาเสียเลย  ร่างโคลนยังคงแสดงสีหน้าเย้ยหยันเขาอย่างต่อเนื่อง

       ผัวะ!

       "...!"

       ในขณะที่บัฟอมตะของกริดกำลังจะหมดลง  พลองในมือชายหนุ่มได้ปะทะเข้าใส่ใบหน้าของร่างโคลนอย่างจัง  ทันใดนั้น  สีหน้าของร่างโคลนพลันตกตะลึงสุดขีด  

       แต่เป็นฝ่ายกริดเสียอีกที่ตกตะลึงยิ่งกว่า

[ เอฟเฟคของไอเท็ม <พลองมั่วซั่ว> ทำงาน ]
[ ทำการสลับพลังชีวิตของท่านและเป้าหมาย ]

       "...!"

       โคลนที่กำลังตื่นตระหนกได้รีบหยิบโพชั่นออกมา

       "แกอย่าคิดหนีไปไหนเชียว..."

       กริดฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ  เขาพุ่งตัวเข้าหาร่างโคลนและถีบใส่ท้องมันอย่างจัง  ด้วยพลังชีวิตที่มีอยู่เพียงหนึ่งหน่วย  ร่างโคลนจึงถูกบังคับใช้ประกันชีวิตและบัฟอมตะทันที

       "ฉันจะไม่ทำพลาดซ้ำสองอีกแล้ว!"

       ชายหนุ่มประกาศกร้าวพร้อมกับเรียกโนเอะและแรนดี้  ได้เวลาที่เขาต้องปิดฉากการต่อสู้อันยาวนานนี้ลงเสียที

Comments

  1. สนุกสนานมากมายครับ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  3. 5555+ ยูร่านางเอก

    ReplyDelete
  4. กริดก็คือกริด. ทุกครั้งที่มีความมั่นใจนั้นหมายถึง ความชิฟหายได้มาเยือนแล้ว. เชื่อมือฉันได้เลย

    ReplyDelete
  5. ตอนนี้ปั่นมาก

    ReplyDelete
  6. มั่วซั่วสมชื่อ55555

    ReplyDelete
  7. ขำตั้งแต่หน้าแรกจนจบตอน🤣🤣🤣 ฮาสนั่น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00