จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 377
ย้อนกลับไปในขณะถ่ายทำวิดีโอโปรโมตการแข่ง
ผู้เข้าแข่งทั้ง 224 คนจาก 32 ชาติต่างมารวมตัวกันอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราวที่ฝรั่งเศส ซึ่งทางเอส-เอ-กรุ๊ปได้สร้างขึ้นใหม่เป็นการชั่วคราวเพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ นักกีฬาทุกคนล้วนมีชื่อเสียงในวงการและโด่งดังมากภายในประเทศของตน แต่คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอันดับหนึ่งของโลกอย่างครอเกล
"ในที่สุดก็ได้พบครอเกลสักที ชีวิตการเป็นแร้งเกอร์ของฉันไม่สูญเปล่าแล้ว"
"เขายังหนุ่มอยู่มากเลยนะ อายุยังไม่ถึง 30 เลยกระมัง แต่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงของผู้เล่นกว่าสองพันล้านได้..."
"ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของครอเกลมานานแล้ว พวกเราติดสินบนให้เขามาเข้าร่วมกิลด์ได้ไหม"
"ถ้าหากครอเกลเป็นคนที่ติดสินบนได้ง่ายขนาดนั้น ป่านนี้คงเข้าร่วมสักกิลด์ไปนานแล้ว เพราะคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดน่าจะเป็นแฟนตัวยงของเขาเหมือนกัน"
ไม่มีใครรู้จักความสุดยอดของครอเกลดีกว่าไปบรรดาแร้งเกอร์หัวแถว เพราะยิ่งมีเลเวลสูง การอัพเลเวลแต่ละครั้งย่อมเหน็ดเหนื่อยเจียนตาย พวกเขาจึงสัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของครอเกลได้ดีกว่าและใกล้ชิดกว่าผู้เล่นทั่วไปมาก สำหรับแร้งเกอร์เหล่านี้ ครอเกลคือตัวตนที่ก้าวข้าวคำว่าอัจฉริยะไปนานแล้ว
ฮือ~ ฮา~
ประหนึ่งเด็กเล็กได้พบดาราในดวงใจ เหล่าแร้งเกอร์ต่างทำได้เพียงเฝ้ามองครอเกลจากระยะไกลและหันไปสนทนากันเอง แม้ทุกคนล้วนอยากเข้าไปทักทาย แต่สุดท้ายกลับต้องถอดใจ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ครอเกล ทำได้เพียงจ้องมองท้องฟ้าของพวกเขาจากจุดห่างไกล
ซีบาลเองก็เช่นกัน
'เรากำลังสั่น...'
ซีบาลเป็นถึงหัวหน้ากิลด์สเน็คที่ยิ่งใหญ่ แถมตัวมันก็รั้งอันดับสองของโลกในด้านเลเวล แม้ก่อนหน้านี้การรุกรานโอเวอร์เกียร์จะล้มเหลว แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ซีบาลยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวหน้าของแร้งเกอร์ทั่วทั้งโลก ถึงกระนั้น มันกลับยังออกอาการสั่นประหม่าเมื่อเห็นครอเกลยืนอยู่ตรงหน้า
และภายใต้บรรยากาศชวนอึดอัดนี้เอง
"สวัสดี"
ใครบางคนเดินเข้าไปหาครอเกลและกล่าวทักทาย เป็นกริด แร้งเกอร์ทุกคนพลันหัวเราะร่วนกับภาพที่เห็น
'โอเวอร์เกียร์คิดจะตีสนิทครอเกลรึไง'
'หมอนั่นต้องถูกครอเกลเมินแน่'
บรรดาแร้งเกอร์ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างกริดและครอเกล พวกเขาล้วนคาดว่ากริดจะต้องถูกครอเกลแสดงท่าทีรังเกียจจนทำให้ต้องอับอาย แต่ทั้งหมดก็คิดผิด ครอเกลกล่าวทักทายกริดประหนึ่งคนทั้งสองเป็นเพื่อนรักมานานแล้ว
"ไง… ไม่เจอกันนานเลยนะ"
"เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ฉันดูตารางอันดับแล้วล่ะ นายทิ้งระยะห่างจากที่สองเพิ่มขึ้นอีกแล้วใช่ไหม"
"ทั้งหมดต้องขอบใจนายนะ เขี้ยวขาวของฉันได้รับการยกระดับขึ้นมาก ทำให้ประสิทธิภาพในการล่ามอนสเตอร์สูงขึ้นหลายเท่า ขอขอบคุณอีกครั้ง"
"ฉันต่างหากที่ต้องขอบใจนาย หมู่เกาะเบเฮ็นมอบสิ่งล้ำค่าให้กับฉันมากมาย"
"นายไปถึงเกาะหมายเลข 30 รึเปล่า"
เกาะหมายเลข 30... เกาะแห่งฝันร้าย บททดสอบที่จะจำลองสถานที่ซึ่งผู้ท้าทายเสียชีวิตมากที่สุดในอดีต และยังเป็นเกาะที่ทำให้ครอเกลพบกับความสิ้นหวัง
แต่คำตอบจากกริดทำให้ครอเกลกับถึงชะงัก
"ฉันเพิ่งถึงเกาะหมายเลข 40 เมื่อไม่นานนี้"
"..."
ครอเกลผงะไปพักใหญ่ เขารู้ดีว่ากริดมีความสามารถมากพอที่จะไปได้ไกลกว่าตนในสักวัน แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ครอเกลมึนหัวอย่างหนักประหนึ่งถูกค้อนทุบ ทว่า...ภายในใจครอเกลก็ยังเกิดความรู้สึกท้าทายด้วยในเวลาเดียวกัน
"นี่เป็นหนแรกเลยที่ฉันด้อยกว่าใครบางคน"
น่าสนใจมาก บุคคลที่สามารถทำให้ตนตกเป็นรอง... บนโลกนี้จะมีสักกี่คนกันนะ
กริดอมยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมกับบอกความจริงต่อครอเกล
"ฉันไม่ได้สร้างสถิติใหม่เพราะเก่งกว่านาย เพียงแค่ หมู่เกาะเบเฮ็นเหมาะกับคนอย่างฉันมากกว่า"
"ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกน่า..."
กริดและครอเกลพลันหยุดบนสนทนาทันที เพราะทั้งคู่รู้สึกได้ว่าเริ่มมีผู้เล่นคนอื่นเดินเข้ามาใกล้แล้ว
"พูดคุยแถวนี้คงไม่เหมาะ ไว้เล่ารายละเอียดให้ฉันฟังคราวหน้าด้วยนะ"
"เดี๋ยวก่อน..."
ในขณะที่ครอเกลกำลังโบกมือลา กริดก็โพล่งขึ้นด้วยแววตาขึงขังเอาจริงเอาจัง
"ได้อ่านบทถ่ายทำรึยัง ฉากสุดท้ายฉันจะต้องโจมตีใส่นายอย่างสุดกำลัง ฉันไม่คิดออมมือให้หรอกนะ ดังนั้นนายก็ต้องหลบมันอย่างจริงจังด้วยเช่นกัน"
ชายหนุ่มกำลังสงสัยว่าฝีมือของตนพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ระยะห่างจากครอเกลยังเหลืออีกเท่าไรกันแน่ ดวงตาของกริดเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ครอเกลเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าเบาๆ
"แล้วฉันจะรอ"
***
ณ ช่วงสุดท้ายของการถ่ายทำ
"วิชาดาบแพ็กม่า… มายาร่ายรำ"
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
หนึ่งในสุดยอดทักษะไม้ตายของกริด รัศมีดาบมายาร่ายรำสีแดง-ดำอันทรงอานุภาพทั้ง 20 เส้น ครอเกลสามารถหลบได้อย่างหมดจดโดยใช้การขยับร่ายกายน้อยที่สุด แต่ถึงกระนั้นกริดก็ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังให้เห็น
'เรายังต้องพัฒนาอีกมาก...'
ตนต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพัก นี่คือแรงทะเยอทยานของกริด ในขณะเดียวกันครอเกลก็รู้สึกชื่นชมจากใจจริง
'วิถีของรัศมีดาบแหลมคมขึ้นมาก...'
ในการดวลกันระหว่างกริดและครอเกลเมื่อสองเดือนก่อนในซาทิสฟาย มายาร่ายรำที่กริดใช้นั้นไม่ได้ทำให้ครอเกลรู้สึกถึงอันตรายได้เลย รัศมีดาบพุ่งเข้าหาเป็นเส้นตรงและง่ายต่อการหลบ
แต่มายาร่ายรำในหนนี้ไม่ได้มีเพียงการพุ่งตรงอย่างทื่อๆ อีกแล้ว มันแฝงไว้ด้วยรัศมีดาบบางเส้นที่พุ่งวิถีโค้งอย่างซับซ้อน แถมแต่ละเส้นก็ยังคาดเดาทิศทางและจังหวะได้ยากขึ้นมาก...
'ต้องน่าสนุกมากแน่!'
ในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด ก่อนหน้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ครอเกลรับรู้ถึงภัยอันตรายคุกคาม หมาบ้าแอ็กนัส แต่การปรากฏตัวของกริดนั้นทำให้ครอเกลรู้สึกต่างออกไป เป็นภัยคุกคามเชิงบวก ยิ่งใช้เวลาอยู่กับกริด ครอเกลก็ยิ่งได้รับรู้ว่า ตัวตนของกันและกันจะช่วยส่งเสริมให้ทั้งคู่พัฒนาได้รวดเร็วขึ้น
'แถมยัง'
เรื่องที่กริดไปถึงเกาะหมายเลข 40 แล้ว สิ่งนี้ครอเกลไม่อาจสลัดออกจากความคิดได้เลย
เคร้ง!
ครอเกลวาดเขี้ยวขาวในอากาศจนเกิดเป็นภาพติดตาสีขาว ส่วนกริดก็บล็อคไว้อย่างง่ายดาย เป็นเวลาเดียวกับที่ครอเกลคิดในใจว่า
'เราเองก็มีความท้าทายใหม่เหมือนกันสินะ'
ตนจะต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกว่างานแข่งนานาชาติจะเริ่ม ครอเกลลั่นวาจากับตัวเองในขณะที่ได้รับสัญญาณสิ้นสุดการถ่ายทำ
"ครอเกล ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อซีบาล อันดับสองของโลก ผู้ที่มีอันดับโลกอยู่ถัดจากคุณ"
ซีบาลเดินเข้ามาหาครอเกลพร้อมกับยื่นมือออกมา มันคิดว่าครอเกลคงยอมจับมือตอบแน่ เพราะก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกับกริดอย่างเป็นมิตรอยู่เลย แต่ครอเกลกลับมีสีหน้าชะงักไปและกล่าวว่า
"ขอโทษนะ แม่เรียก"
"..."
ต่อหน้าแร้งเกอร์กว่า 200 คนและทีมงานกว่า 100 ชีวิตของเอส-เอ-กรุ๊ป
ซู่ว!
ครอเกลปฏิเสธจับมือและล็อคเอาต์ทันที
"อุฟ~!"
ซีบาลพลันหน้าแดงก่ำทันที่เมื่อได้ยินเสียงคริสหลุดขำออกมา
***
ณ หมู่บ้านทรุดโทรมที่ตั้งอยู่ชายขอบกรุงมอสโคส ประเทศรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือที่สถานที่พักพิงของครอเกล
ครอเกล...
เขาเป็นโครยออิน*ที่เติบโตมาในสลัมยากจน
( *โครยออิน/โครยอ-ซารัม - เป็นชื่อเรียกชาวเกาหลีอพยพที่อาศัยอยู่ในรัฐอดีตสหภาพโซเวียต อ่านว่า โค-รยอ-อิน koryoin เป็นที่มาของคำว่า korea ในภาษาอังกฤษ)
ด้วยเหตุนี้ ชีวิตในวัยเด็กของครอเกลจึงเลวร้ายมาก เขาเติบโตมาพร้อมการถูกเหยียดเชื้อชาติและถูกกลั่นแกล้ง แต่ด้วยความที่มีมารดาเฉลียวฉลาดและจิตใจดีงาม ครอเกลจึงอดทนเรื่อยมาโดยไม่กระทำสิ่งโง่เขลาลงไป เขาผ่านพ้นช่วงเวลาในวัยเด็กมาได้และเข้ารับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เมื่อเรียนจบก็ยังมีหน้าที่การงานที่ดีและมั่งคง
มารดาของครอเกลคือตัวตนอันยิ่งใหญ่สำหรับเขา และครอเกลมั่นใจมากว่า ทั้งชีวิตคงไม่มีทางชดใช้หนี้บุญคุณท่านได้หมดแน่ แต่พักหลังมานี้ มารดาของเขากลับผอมซูบลงเรื่อยๆ อย่าน่าใจหาย
ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด!
ไฟฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่ในแคปซูลของครอเกลได้ส่งเสียงเตือนและกระพริบวูบวาบ ทันทีที่ได้ยิน ครอเกลก็รีบล็อคเอาต์และถีบตัวเองออกจากแคปซูลทันที สถานที่ซึ่งแรกเขารีบมุ่งหน้าไปก็คือห้องนอนของผู้เป็นมารดา เธอกำลังประสบกับโรคร้ายที่ปัจจุบันยังไม่มียาใดรักษาได้หาย...
อัลไซเมอร์
ครอเกลพยายามใช้เงินที่หามาได้ไปกับการหาซื้อยาชั้นนำจากทั่วโลก แต่ก็ไม่มีตัวใดที่ทำให้อาการของมารดาตนดีขึ้น
"ลูกชายฉัน! ลูกชายฉันอยู่ที่ไหน!"
มารดาของครอเกลขว้างปาทำลายข้าวของอย่างโมโหร้าย เธอจ้องมองครอเกลด้วยสีหน้าฉุนเฉียว แต่ทุกสิ่งก็สงบลงเมื่อครอเกลเดินเข้าไปกอด
"ไม่ต้องห่วงครับ ใจเย็นก่อน อีกไม่นานคุณก็จะได้พบหน้าลูกชายแล้ว"
ครอเกลไม่เคยยิ้มอย่างมีความสุขได้ในโลกจริง แต่ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายอย่างไรก็ตาม เขาก็มุ่งหวังจะรักษาอาการป่วยของมารดาให้จงได้ ครอเกลถึงขั้นลาออกจากงานและทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อหาเงินจำนวนมากในซาทิสฟาย ความมั่งคั่งทั้งหมดที่สั่งสมมา ไม่เคยถูกนำไปลงกับสิ่งหรูหราหรือประโยชน์ส่วนตน เขาเชื่อว่าสักวัน รอยยิ้มอันอบอุ่นและใจดีของแม่จะหวนกลับมาบนใบหน้าอีกครั้ง
จนกว่าจะถึงตอนนั้น ครอเกลต้องอดทนทุกอุปสรรคที่เข้ามาโดยไม่ย่อท้อ ในยามที่ดูแลแม่อย่างเต็มที่ เขาก็เล่นซาทิสฟายอย่างมีความสุขไปด้วยในเวลาเดียวกัน อุทิศทุกสิ่งของตนให้กับเป้าหมายโดยไม่ปล่อยให้สิ่งแย่ๆ เข้ามาทำลายชีวิตได้
***
『 จากข้อมูลใหม่ที่ได้รับมา หลังจากที่โอเวอร์เกียร์ดูดกลืนกิลด์ซิลเวอร์ไนท์เข้าไปเป็นพวกแล้ว หมายความว่า โอเวอร์เกียร์จะมีดินแดนที่ครอบครองมากถึงสามแห่งแล้ว 』
『 ผมไม่เคยได้ยินว่ามีกิลด์ใดที่สามารถครอบครองดินแดนได้มากถึงสามแห่งมาก่อน นี่จะหมายความว่า กิลด์โอเวอร์เกียร์สามารถถือครองความมั่งคั่งเอาไว้ในมือได้เป็นจำนวนมหาศาล คุณมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ 』
『 เรื่องร่ำรวยนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ เรย์ดันคือเมืองใหญ่ ส่วนไบรันก็มีจุดล่ามอนสเตอร์มากมายสำหรับผู้เล่นหลายระดับ และเกาะคอร์กก็ขึ้นชื่อในด้านสถานที่ท่องเที่ยว ภาษีที่กิลด์โอเวอร์เกียร์ได้รับในแต่ละเดือนต้องเป็นเงินก้อนโตแน่นอนครับ』
『 โอเวอร์เกียร์มีทุนทรัพย์สำหรับการแผ่ขยายอำนาจอยู่ในมือแล้ว และตอนนี้ผมก็มั่นใจมากว่า มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยกำลังแห่ไปสมัครเข้าร่วมกิลด์พวกเขาแน่นอน 』
ผ่านไปพักใหญ่หลังจากวิดีโอโปรโมตการแข่งถูกปล่อยออกสู่สายตาคนทั่งโลก ประเด็นที่สื่อหยิบยกมาพูดคุยเริ่มเปลี่ยนจากกริดและครอเกล มาเป็นกริดและโอเวอร์เกียร์แทน นั่นก็เพราะสื่อยังไม่มีข้อมูลของครอเกลมากนัก ด้วยเหตุนี้ แผนของลอเอลจึงกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง ชื่อของกิลด์โอเวอร์ถูกพูดขึ้นอย่างกว้างขวางในทุกวัน
"แต่เรื่องเพ้อเจ้อก็มีมากไปหน่อย กิลด์โอเวอร์เกียร์ร่ำรวยบ้าบออะไรกัน พวกเราอดอยากไส้แห้งจะตายอยู่แล้ว"
แวนเนอร์บ่นอุบ ความมั่งคั่งทั้งหมดที่ได้รับนั้นถูกทุ่มลงไปในการพัฒนาเรย์ดัน จึงน่าตลกไม่น้อยที่สื่อทั่วโลกต่างคิดว่าผู้เล่นกิลด์โอเวอร์เกียร์นั้นร่ำรวยมาก โดยที่ความจริงแล้ว ทุกคนแทบไม่มีอันจะกิน
"เรย์ดันอยู่ห่างไกลจากเมืองใหญ่และยังมีม่านหมอกแห่งปริศนาปกคลุม จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะคาดเดาไปต่างๆ นาๆ โดยไม่มีมูลความจริง"
ลอเอลดีใจกับการไหลไปของกระแสนี้มาก ยิ่งชื่อเสียงของโอเวอร์เกียร์ยิ่งใหญ่มากเพียงใด กลุ่มผู้เล่นที่กล้าลองดีต่อโอเวอร์เกียร์ก็จะยิ่งลดลง แถมบรรดาอัจฉริยะก็จะยิ่งหลั่งไหลเข้ามาขอสมัครเป็นพรรคพวก
"ว่าแต่ พวกเรามีแผนจะเดินทางไปยังหมู่เกาะเบเฮ็นตอนไหน" เรกัสถามขึ้น
เรสกัสคือชายที่มุ่งหวังจะพัฒนาตนเองอยู่ตลอด เมื่อได้รู้ถึงความสุดยอดของหมู่เกาะเบเฮ็น เขาก็เฝ้ารอเวลาที่จะเดินทางไปอย่างใจจดใจจ่อ สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นก็ไม่ต่างกันมากนัก
ลอเอลลุกขึ้นจากเก้าอี้และพูดว่า
"พวกเราจะเริ่มออกเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมง สติกส์จะเป็นคนนำทางให้"
"แล้วกริดล่ะ"
"กริดจะอยู่ที่เรย์ดันต่อไปอีกสักพัก เขาต้องการจะลองผสานเทคโนโลยีของโรงตีเหล็กเข้ากับโรงแปรธาตุ"
"การผสานสองเทคโลโนยีเข้าด้วยกันจะทำให้พวกเราเข้าใกล้เผ่าคนแคระไปอีกขั้นใช่ไหม"
"หนทางยังอีกยาวไกลมาก ตอนนี้คงทำได้เพียงเพิ่มออปชั่นใหม่เข้าไปในไอเท็มเท่านั้น"
แต่ลอเอลก็มีหวังว่า ออปชั่นใหม่จะยิ่งใหญ่ขนาดที่สามารถพลิกโฉมสงครามในอนาคตได้เลย
***
=============================
[ ค้อนตีเหล็กสำหรับทารก ]
เกรด : อีปิก
ความคงทน : 28/28
พลังโจมตี : 10~12
* โอกาสสร้างไอเท็มเกรดแรร์เพิ่มขึ้น 2%
* โอกาสสร้างไอเท็มเกรดอีปิกเพิ่มขึ้น 1%
* ความชำนาญ +5
________________________________
ค้อนที่สร้างขึ้นจากศิลาทมิฬซึ่งมีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งมาก
ช่างตีเหล็กในตำนานนามว่ากริดได้สร้างค้อนให้บุตรชาย โดยมุ่งเน้นไปที่ความง่ายต่อการใช้งาน
________________________________
เงื่อนไขการสวมใส่ : ไม่มี
น้ำหนัก : 3
=============================
"ลอร์ด ลูกต้องอยู่ในที่ทำงานพ่อสักพักนะ"
น่าขันไม่น้อยที่บุตรชายของช่างตีเหล็กในตำนานกลับมีทักษะตีเหล็กอยู่เพียงขั้นต้นเท่านั้น ในระหว่างที่กริดยังอยู่ในเรย์ดัน เขาจึงเคี่ยวเข็ญบุตรชายของตนให้มีพื้นฐานการตีเหล็กที่มั่นคง
"บา! บาบาบา!"
ลอร์ดตื่นเต้นมาก เขาดีใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกับผู้เป็นบิดา
เคร้ง! เคร้ง!
ตุ้บ! ตุ้บ!
หนึ่งพ่อหนึ่งลูกกำลังกระทบค้อนใส่ทั่งเหล็ก ในระหว่างนี้เอง คาซิมก็จับตาดูทั้งสองคนไปพลาง ลับคมวิชาล่องหนของตนไปพลาง
พ่อลูกคู่นี้ช่างเหมือนกับราวกับแกะ
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDeleteสนุกมาก อยากอ่านเป็นเล่มจัง...ยังไม่มีใช่มั้ย
ReplyDeleteพูดได้อย่างเดียวหรอครับ
ReplyDeleteแล้วคุณยุ่งไรกับเขาเหรอครับ :)
ReplyDelete